The Red Eye Blood ดวงตาแดงเลือด
เขียนโดย Bloodlas
วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.
แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2561 00.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) สงคราม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนอาการฉันแย่ลงเรื่อยๆ ฉันเจ็บที่แผลมากขึ้นมากขึ้นตอนนี้ฉันมองไม่เห็นแผลตัวเองแล้ว แล้วซักพักคาสึเมะก็หยุดวิ่งแล้วเปลี่ยนเส้นทางแล้วฉันก็เห็นเพดาน ถ้ำ? แล้วเธอก็วางฉันลง เธอถอดเสื้อออกดูแผลฉัน
"แผลเธอเหมือนถูกพิษ มันลุกลามแต่มันแปลกๆ" อาการเหมือนถูกอาวุธต้องสาป
"เธอรักษาอาการได้ไหม
"ได้เดียวฉันจัดการให้" แล้วเธอก็ได้ใช่เวทย์รักษาที่แผลฉันแล้วก็สบทคำออกมาว่าบ้าเอ้ย
"มีอะไร คาสึเมะ
"อาการที่ลุกลามรักษาได้แต่ ต้นแผลที่ถูกลูกธนูไม่หาย" เหงือที่ออกสีหน้าที่เครียดของคาสึเมะ
"แล้วจะเอาไงต่อ ท่าฉันเป็นแบบนี้เราจะไปต่อไม่ได้
"งั้นฉันจะปิดปากแผลเธอด้วยไฟตกลงนะ" เธอหันมาถามฉัน
ฉันเอาผ้าขึ้นมาปั้นกัดปาก แล้วพยักหน้าคาสึเมะขึ้นนั่งค้อมตัวทับช้วงขาแล้วเอามือซ้ายกดที่อกฉัน เธอสร้างไฟขึ้นที่มือละกำเธอเอามือนั้นกดลงที่แผล ฉ่าาาาาาาาาา มันร้อน ร้อนและแสบต่อจากแสบก็เจ็บอย่างคาดไม่ถึง พอคาสึเมะดึงมือออก ฉันคายผ้าออก "เอาล่ะทีนี้ก็ด้านหลัง" เธอดึงฉันขึ้นมากอดด้วยแขนซ้าย ตอนนี้ฉันฉันแม่แค่ชั้นในฉันหลับตาปี้เพราะไม่รู้ว่าเธอจะเอาไฟกดที่แผลตอนไหน ฟุบ.......... ดวงตาลืมขึ้นเต็มที่แล้วด้วยเหตุผลกลไดฉันกัดเข้าที่ไหล่คาสึเมะ เธอไม่ร้องซักแอะ ตอนนั้นสุ่งรู้ได้อีกอย่าง เลือด! เลือดของคาสึเมะที่ฉันถูกฉันกัดแต่ตอนนั้นสติเริ่มเลือนหาย ........
เวลาผ่านไป........
ฉันลืมตาขึ้นขึ้นที่หลังฉันมีเสื้อคลุมปูอยู่ ส่วนเสื้อที่ถูกถอดก็ห่มฉันอยู่ แล้วก็ค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้นมานั่ง มองซ้ายมองขวาหาคาสึเมะแต่ไม่เห็นเธอเลย
"ฟื้นแล้วหลอ" คาสึเมะทักขึ้นจากด้านหลังทำเอาตกใจหมดเลย
"แผลที่ไหล่เป็นยังไงบ้าง
"ไม่เป็นอะไรแล้ว แต่เธอนี้ซ้อนรูปนะ อกเธอนี้ใหญ่กว่าเดิมเยอะเลย" เธอพูดแล้วมอง
"คนลามก มันธรรมดาของผู้หญิง เธอก็ด้วยและ" ฉันพูดแบบนั้นพร้อมหยิบเสื้อมาปิด
"ฉันในฐานะผู้หญิง ยังขาดอีกเยอะ" เธอพูดพร้อมดึงคอเสื้อดูของตัวเองแล้วทำมืออย่าสนใจ
"ฉันสลบไปนานแค่ไหน
"ประมานครึ่งชั่วโมง" คาสึเมะตอบ
"เราเดินทางต่อกันเลยก็ได้นะ อาการฉันดีขึ้นมากแล้วคาสึเมะ
"พักสักแปบกินอาหารก่อนก็ดี เราไกล้ถึงจุดหมายแล้วร่างกายต้องพร้อม" คาสึเมะเตือน
ฉันทำตามเธอบอกฉันล้วงมือไปมิติกระเป๋า มันดัดแปลงมาจากเวทมนต์ห้องฝึกแต่เล็กลงมากแทมใช้ปริมาณกระแสเวทย์น้อยมาและตรวจจับไม่ได้ ฉันดึงเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมากับอาหารกระป๋อง ฉันมองหน้าอาหารแล้วถอนหายใจแต่ก็ต้องกินอ้วนแน่ท่าขืนเป็นแบบนี้ต่อไป
"กินแล้วพักซะ พรุ้งนี้เราจะเดินทางลวดเดียวถึงปราสาท
ฉันหยิบยันต์เตือนภัยขึ้นมาแล้วโยนมันออกไป แล้วอัญเชิญ ภูกงล้อเพลิงมาเฝ้าใว้ที่ทางเข้าถ้ำ ที่นี้อากาศคอนข้างเย็นตกดึกเราสองคนตื่นขึ้น มีคนกำลังมา "คาสึเมะ ส่งสัญญาณเตรียมตัววิ่ง" ฉันร่ายเวทย์แคทอาย คาสึเมะส่งสัญญาณวิ่ง ฉันวิ่งตามเธอออกไปติดๆที่นี้ตอนกลางคืนกะสวยดีนะ สายลมที่พัดผ่านเสื้อคลุมปลิวสไว ฉันทำตามนิสัยเดิมเอามีดมาคาบ เสียงหวีดหวิวของที่รูดไร้ผ่านคมมีด
"เราหาที่พักแล้วเดินทางต่อตอนเช้าไหม" ฉันถามขนะวิ่งบนพืนทะเลทราย
"ตอนนี้ล่ะดีแล้ว เรามีความเร็วเราได้เปรียบ" เธอมาตอบ
"ทำไมถึงคิดว่าเราไดเปรียบล่ะ
"จากที่สังเกตุทหารที่นี้ใช่เวทย์เสริมความไม่ได้ ไม่งันคงตามทันแล้ว" เธออธิบาย
เราวิ่งกันมาเรื่อยจนเริ่มมีแสงสว่างที่ปรายขอบฟ้า เราเข้าใกล้เมืองหลวงและปราสาทมากแล้วตอนนี้เราเห็นปราสาทอยู่สุดสายตา ระยะห่างประมาน50กิโลเมตร แต่ยิ่งเข้าใกล้ก็เริ่มเห็นว่าที่ด้านนอกเมืองหลวงนั้นมี กองทัพทหารประมาน2000ไม่สิอาจมากกว่านั้นถึงเท่าตัว เราหยุดวิ่งแล้วหลบ
"เอาไงดีคาสึเมะ พวกมันมีเยอะเกินไป
"ยังไงก็ต้องมีการปะทะ
"คงต้องสู้สินะ เหนื่อยแน่
"ฉันขอบอกเธอก่อนนะมิซาเนะ ห้ามฆ่าท่าไม่จำเป็นอย่าคุ้นเคยกับการฆ่าอย่าเคยชินกับกลิ่นคาวเลือด" คาสึเมะพูดเตือนใจ
"เข้าใจแล้ว
"งั้นไปกันเลย
เราวิ่งเข้าไปหากองทัพ ฉันเปิดกระเป๋าชิดิงามิ ทั้ง99ตัวแล้ว ข้าขออัญเหล่าวิญญาณที่ทำสัญญา ออกรวมขบวน100อสูร เพื่อทำสงคราม ฉันวิ่งนำขบวนเข้าสู่สงครามข้อของชิกิงามิโชคหากเค้าถูกทำลายร่างที่ตายคือชิกิกระดาษแต่ตัววิญญาณจะกลับภพตัวเอง ฉันคอยบัญชาการเหล่าอสูรตอนนี้ฉันมองไม่เห็นคาสึเมะ แต่ศึกนี้ขาดผู้บัญชาการนั้นคือการาสุเท็นกุ ฉันเลยต้องสังการและกระจายคำสั่ง ฆ่าให้น้อยที่สุดตอนฉันปลดเวทมนต์ที่ดวงตา นี้หลอสีของสงคราม มันมีความหวาดกลัว ความตายและความอาคาต ตอนนี้ฉันเริ่มมีอาการหอบเหนื่อยจากการอัญเชิญ
"เหไหวป่าว อาการไม่ค่อยดีเลย" คาสึเมะโผล่มาจากไหนไม่รู้
"ยืดเยื้อไม่ดีแน่ เราต้องหาทางตีฝ่าไป
"เธอใช้มหาเวทย์ไหวไหม" คาสึเมะถามขึ้นขนะสู้
"ไม่แน่ใจแต่ท่าใช้ล้วงแน่ฉัน
"งั้นอย่าใช้ เดียวหาทางอีกที
ฉันประเมินเหตุการณ์โดยรวม ตอนสติฉันเริ่มน้อยลงมากแค่จะยืนยังทำไม่ไหวแล้วเลย และในตอนนั้น มีประตูมิติเปิดออกแล้วมีกำลังทหารออกมาตอนแรกก็ตกใจ แต่พอเห็นคนพามาขาก็หมดแรงเลย ฉันคุมเข่าลงกับพื้น
"องค์และท่านคาสึเมะ เชิญถอยก่อนเดียวพวกเราจัดการเอง" ทหารที่มาเป็นทหารของแม่และคนที่พาพวกเค้ามาคือแม่
"ขอบใจนะ คาสึเมะถอนกำลัง" ฉันหันไปขอบคุณเค้าและตะโกนบอกคาสึเมะ
ฉันมองดูเหล่าทหารของแม่วิ่งเข้าปะทะ ฉันคายคาถาอัญเชิญชิกิงามิ พอนับดูแล้วเหลือเพียงแค่50ตัว คาสึเมะวิ่งมาอุ้มฉันท่าเจ้าสาวอีกแล้ว เธอรู้ว่าฉันไม่มีแรงพอเดิน วิ่งแปบนึงก็เดินมาในโดมน้ำแข็ง
"เป็นยังไงบ้างลูก แม่มาช่วยแล้วพักก่อนน่ะ แม่ขอคุยกับคาสึเมะ" แล้วเธอก็เดินจากไป
"คุยกันในนี้และยังไงก็ต้องบอกมิซาเนะอยู่ดี" คาสึเมะบอกให้คุยกันในนี้
"สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง คาสึเมะ
"ลำบากเลยองค์ราชินี
"เรียกฉันว่าแม่จะดีกว่านะ
"ค่ะท่านแม่ ศัตรูของเราชื่อ ดรูนาฟอนท์
"มีข้อมูลอะไรของเธอบ้าง คาสึเมะ
"รู้แค่ว่าเธอต้องกลืนกิน ชีวิตเด็กเพื่ออะไรบางอย่าง
"จากเธอเล่ามาคาสึเมะ เธอคงเพราะเพื่อช่วยควบคุมพลัง
"นั้นเราก็คาดการณ์ใว้ ค่ะท่านแม่
"นี้ทั้ง2คน หนูหิวข้าว" แม่เอามือกุมหัวคาสึเมะเกายิ้มแหะ
ฉันลุกมานั่งกินอาหาร และตอนนั้นก็มีทหารมารายงานสถานการณ์สนามรบ ว่าทางเราชนะแล้ว แต่ตอนนั้นแม่กับคาสึเมะไม่อยู่ไปไหนไม่รู้ฉันเลยสังให้ทหาร ให้ล้อมรอบเมืองใว้แล้วกินต่อ ตอนนี้ต้องฟื้นฟูสภาพร่างกาย และต้องสร้างชิกิงามิใหม่เพื่อทดแทนที่ถูกทำลายไป
ติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ