The sidekick : ขอโทษทีพอดีผมไม่ใช่ฮีโร่ ( yaoi )
-
เขียนโดย farm111
วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.40 น.
7 ตอน
1 วิจารณ์
8,757 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560 20.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) Mission 5 : ความวุ่นวายไม่ต่างอะไรจากปฏิกิริยาลูกโ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความMission 5 : ความวุ่นวายไม่ต่างอะไรจากปฏิกิริยาลูกโซ่
โรงเรียนฮีโร่ ถ้าไม่นับเรื่องที่นักเรียนแต่ละคนต่างก็มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์แล้วละก็ แทบจะไม่ต่างอะไรจากโรงเรียนมัธยมธรรมดาทั่วไปสักเท่าไหร่ นั่นรวมถึงคุณภาพของนักเรียนแต่ละคนด้วยละนะ ถึงจะขึ้นชื่อว่าโรงเรียนฮีโร่แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะบริสุทธิ์แสนดีกันซะเมื่อไหร่ ไม่งั้นคงไม่มีศิษย์เก่าที่จบออกไปเป็นวายร้ายหรอก และแน่นอนว่าเหมือนโรงเรียนทั่วไปโรงเรียนฮีโร่เองก็มีพวกอันธพาลที่คอยรังแกคนที่แปลกแยก หรืออ่อนแอกว่า
“หมอนี่ใช่ไหม ไอ้ผู้ช่วยที่ก่อเรื่องตั้งแต่พึ่งเปิดเทอมคนนั้น”
“มันนั้นแหละเวลาแบบนี้นอกจากพวกที่โดนกักบริเวณจะเป็นใครได้อีก”
ผมมองอันธพาลสองคนที่ยืนล้อมผมด้วยความสังเวช พวกเขามาจากแผนกฮีโร่แท้ๆแต่ทำตัวไม่ต่างอะไรกับพวกกุ๊ยข้างถนน เอาจริงๆการเข้าเรียนแผนกฮีโร่นอกจากพลังที่ถึงขั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย แนวความคิด หรือทัศนคติต่างก็ไม่สำคัญทั้งนั้น ไม่แปลกใจเลยที่พวกนี้หลายต่อหลายคนจบออกไปเป็นพวกอันตรายต่อสังคม
“แกมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นมันหมายความว่าไงหะ พวกสวะผู้ช่วยอย่างพวกแกกล้าดียังไงถึงมองฉันแบบนั้น”
ผมรู้สึกได้เมื่อแผ่นหลังกระทบเข้ากับกำแพงอย่างแรง ก่อนจะตามมาด้วยหมัดหนักๆที่ถูกชกเข้าที่ช่วงท้องความจริงคนที่ชกผมอยากจะชกหน้าผมอีกหมัดสองหมัด แต่ดูเหมือนนายอันธพาลอีกคนเอ่ยห้ามเอาไว้
“พอแล้วน่า ชกมันไปมากกว่านี้จะได้อะไร ชกหน้ามันไปเกิดพวกอาจารย์ดูออกว่ามันมีเรื่องเราจะซวยเอานะ”
“ชิ...ส่งกระเป๋าแกมาซะ”
กรรโชกทรัพย์?...ให้ตายเถอะระบบการคัดเลือกเข้าเรียนของโรงเรียนฮีโร่มีปัญหาจริงๆนั้นแหละ การกระทำแบบนี้ถ้าไม่จับไปดัดสันดานก่อนคิดว่าจะจบออกไปเป็นฮีโร่ได้หรือไงกัน...แต่ช่างเถอะนั่นไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย ปัญหาของผมคือควรจะรับมือพวกนี้ยังไงต่างหาก...สู้? เลือกทางนี้ก็เหมือนจะเห็นปัญหาตามมาอีกเยอะ ยอมๆไป? ปัญหาวันนี้คงจบแต่ดูรูปการแล้วพวกมันคงตามมารีดไถผมไปตลอดแน่ๆ...แต่ก็ใช่ว่าจะหนีไม่ได้นี่น่า
“มัวโอ้เอ้อะไร รีบๆส่งมาได้แล้ว อยากเจ็บตัวอีกรึไง”
ผมปลดกระเป๋าออกจากไหล่แล้วจะยื่นไปให้พวกนั้น แต่จังหวะเดียวกับที่ผมปล่อยมือออกจากกระเป๋า เจ้าอันธพาลคนนั้นก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แขนของเขาคล้ายกับถูกพลังที่มองไม่เห็นกระชากออกไปและบิดอยู่ในท่าทางที่ไม่น่าจะสบายนัก...ส่วนกระเป๋าของผมตกลงไปกองกับพื้น
“รังแกคนไม่มีทางสู้มันสนุกมากรึไง”
“วอคเกอร์...นี่ไม่ใช่เรื่องของนายอย่าเข้ามายุ่ง”
ผมมองนายคนประหลาดที่เข้ามาห้ามเหตุการณ์ไม่ให้ผมโดนรีดไถ...ผมควรจะดีใจรึเปล่าที่มีคนมาช่วย?...ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่าการที่นายคนประหลาดเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องมันจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิมกันนะ
“ไม่ใช่เรื่องของฉัน? คิดให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา พวกนายกำลังทำลายชื่อเสียงของแผนกฮีโร่ทั้งหมดอยู่ไม่รู้ตัวรึไง...ปล่อยเขาไปซะแล้วฉันจะทำเหมือนเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”
นายอันธพาลที่ไม่ได้ถูกพลังจิตตรึงตัวเอาไว้มองหน้าเพื่อนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดด้วยความลังเลก่อนจะลากตัวเพื่อนออกไปทิ้งให้ผมอยู่กับนายคนแปลกหน้าสองคนกับกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้น
“นายเป็นอะไรมากรึเปล่า หมอนั่นแรงมากกว่าคนธรรมดาหลายเท่า ถ้าไม่ไหวก็บอกนะจะได้รีบไปห้องพยาบาล”
เมื่อได้ยินนายคนประหลาดพูดแบบนั้นผมก็ลองขยับตัวดูเล็กน้อยว่าเจ็บตรงไหนรึเปล่า เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ได้เจ็บอะไรมากมายก็โล่งใจ
“ไม่เป็นไร...หมอนั่นคงไม่ได้ใช้พลัง”
“ดีแล้วล่ะ...อะ จริงสิ เราถูกกักบริเวณด้วยกันมาตั้งหลายวันแต่ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉัน วิลเลี่ยม วอคเกอร์”
ผมมองนายคนประหลาดแนะนำตัวตามด้วยฉีกยิ้ม...อ่า ถึงผมจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าเลือกได้การแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแบบนี้ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยงแฮะ
“...ฉัน คีธ...คีธ ฮอฟฟ์แมน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ คีธ นายจะเรียกฉันว่าวิลก็ได้นะ”
ผมมองนายคนประ...ไม่สิแนะนำแล้วก็ต้องเรียกว่าวิล...แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากย้อนกลับไปตอนที่ไม่ได้แนะนำตัวมากกว่า การทำความรู้จักกับนักเรียนฮีโร่ที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด
“นายไม่ควรยอมพวกนั้นง่ายๆแบบนั้นรู้ไหม”
นายคน...วิลพูดเตือนผมในขณะเดียวกันกับที่ใช้พลังของเขายกกระเป๋าของผมที่กองแน่นิ่งอยู่บนพื้นขึ้นมา ผมรับกระเป๋ามาตรวจดูความเรียบร้อย ของส่วนมากอยู่ในสภาพเรียบร้อยดียกเว้นก็แต่อุปกรณ์สร้างสนามพลังซึ่งพวกผมได้รับมาเป็นการบ้านในวิชาอุปกรณ์ช่วยเหลือในการต่อสู้ ผมใช้เวลาเกือบทั้งคาบในการประกอบมันขึ้นมาทั้งๆที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์อยู่แล้วแต่ตอนนี้มันกลับหลุดเป็นชิ้นๆเหมือนตอนแรกที่ได้รับแจกชิ้นส่วนมาไม่มีผิด
“นั่นงานของนาย?...ขอโทษทีฉันน่าจะรับเอาไว้ตอนที่หมอนั่นปล่อยมือ”
“ช่างเถอะ ไม่ใช่ของสำคัญอะไรหรอก”
เมื่อเช็คดูว่าไม่มีชิ้นส่วนที่เสียหายจนใช้การไม่ได้แล้วผมก็ปิดกระเป๋า เตรียมตัวที่จะกลับบ้านสักที แต่วิลกลับพูดขัดความคิดที่กำลังล่องลอยกลับไปที่บ้านของผมซะก่อน
“ฉันขอโทษที่ทำงานของนายพัง... เอาเป็นว่าให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นชดใช้นายดีไหม”
ฮืม?มันควรจะเป็นผมไม่ใช่เหรอที่ต้องเลี้ยงข้าวขอบคุณที่เขามาช่วย ถ้าไม่ได้เขาละก็ไม่ใช่แค่ต้องประกอบซากใหม่แต่จะไปตามเก็บงานมาจากถังขยะใบไหนผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ หมอนี่เป็นคนแปลกๆจริงๆด้วย...ถ้าให้เลือกผมก็ไม่อยากจะไปข้องเกี่ยวกับเขาให้มากกว่านี้หรอกนะ...แต่คนปกติก็ไม่ควรจะปฏิเสธคำขอที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงจากผู้มีพระคุณ...เฮ้อ ให้ตายเถอะ ผมคิดไว้แล้วไม่มีผิด วรอยู่ห่างๆพวกฮีโร่จริงๆด้วย
......................................................................................................................................................
ผมกับวิลเลี่ยม กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารเย็นสไตล์ครอบครัวแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากโรงเรียนมาพอสมควร วิลบอกว่าเขาผ่านร้านนี้บ่อยแต่ไม่เคยแวะสักทีเลยถือโอกาสนี้แวะมาซะเลย ในร้านตกแต่งสบายๆให้อารมณ์เหมือนกับกำลังกินข้าวอยู่ที่บ้าน ลูกค้าในร้านมีไม่เยอะ แต่ก็ไม่นับว่าเงียบเหงา ขณะที่เราเลือกโต๊ะและพึ่งนั่งลงได้ไม่นาน เมนูอาหารสองเล่มก็ถูกโยนลงกับโต๊ะ...ผมก็รู้อยู่หรอกนะว่าร้านนี้เป็นรานอาหารทั่วๆไปไม่ได้หรูหราอะไร แต่การบริการก็ไม่ควรจะถึงขั้น....
‘นายคนแปลกหน้า’
ผมมองหน้าของบริกรที่แม้จะบึ้งตึงแต่ดูไปแล้วแสนจะคุ้นตาก่อนจะหันกลับมามองวิลเลี่ยม ที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน...อ่า นายคนประหลาด นายเป็นตัวนำปัญหาจริงๆสินะ
TBC
โรงเรียนฮีโร่ ถ้าไม่นับเรื่องที่นักเรียนแต่ละคนต่างก็มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์แล้วละก็ แทบจะไม่ต่างอะไรจากโรงเรียนมัธยมธรรมดาทั่วไปสักเท่าไหร่ นั่นรวมถึงคุณภาพของนักเรียนแต่ละคนด้วยละนะ ถึงจะขึ้นชื่อว่าโรงเรียนฮีโร่แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะบริสุทธิ์แสนดีกันซะเมื่อไหร่ ไม่งั้นคงไม่มีศิษย์เก่าที่จบออกไปเป็นวายร้ายหรอก และแน่นอนว่าเหมือนโรงเรียนทั่วไปโรงเรียนฮีโร่เองก็มีพวกอันธพาลที่คอยรังแกคนที่แปลกแยก หรืออ่อนแอกว่า
“หมอนี่ใช่ไหม ไอ้ผู้ช่วยที่ก่อเรื่องตั้งแต่พึ่งเปิดเทอมคนนั้น”
“มันนั้นแหละเวลาแบบนี้นอกจากพวกที่โดนกักบริเวณจะเป็นใครได้อีก”
ผมมองอันธพาลสองคนที่ยืนล้อมผมด้วยความสังเวช พวกเขามาจากแผนกฮีโร่แท้ๆแต่ทำตัวไม่ต่างอะไรกับพวกกุ๊ยข้างถนน เอาจริงๆการเข้าเรียนแผนกฮีโร่นอกจากพลังที่ถึงขั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย แนวความคิด หรือทัศนคติต่างก็ไม่สำคัญทั้งนั้น ไม่แปลกใจเลยที่พวกนี้หลายต่อหลายคนจบออกไปเป็นพวกอันตรายต่อสังคม
“แกมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นมันหมายความว่าไงหะ พวกสวะผู้ช่วยอย่างพวกแกกล้าดียังไงถึงมองฉันแบบนั้น”
ผมรู้สึกได้เมื่อแผ่นหลังกระทบเข้ากับกำแพงอย่างแรง ก่อนจะตามมาด้วยหมัดหนักๆที่ถูกชกเข้าที่ช่วงท้องความจริงคนที่ชกผมอยากจะชกหน้าผมอีกหมัดสองหมัด แต่ดูเหมือนนายอันธพาลอีกคนเอ่ยห้ามเอาไว้
“พอแล้วน่า ชกมันไปมากกว่านี้จะได้อะไร ชกหน้ามันไปเกิดพวกอาจารย์ดูออกว่ามันมีเรื่องเราจะซวยเอานะ”
“ชิ...ส่งกระเป๋าแกมาซะ”
กรรโชกทรัพย์?...ให้ตายเถอะระบบการคัดเลือกเข้าเรียนของโรงเรียนฮีโร่มีปัญหาจริงๆนั้นแหละ การกระทำแบบนี้ถ้าไม่จับไปดัดสันดานก่อนคิดว่าจะจบออกไปเป็นฮีโร่ได้หรือไงกัน...แต่ช่างเถอะนั่นไม่ใช่เรื่องของผมสักหน่อย ปัญหาของผมคือควรจะรับมือพวกนี้ยังไงต่างหาก...สู้? เลือกทางนี้ก็เหมือนจะเห็นปัญหาตามมาอีกเยอะ ยอมๆไป? ปัญหาวันนี้คงจบแต่ดูรูปการแล้วพวกมันคงตามมารีดไถผมไปตลอดแน่ๆ...แต่ก็ใช่ว่าจะหนีไม่ได้นี่น่า
“มัวโอ้เอ้อะไร รีบๆส่งมาได้แล้ว อยากเจ็บตัวอีกรึไง”
ผมปลดกระเป๋าออกจากไหล่แล้วจะยื่นไปให้พวกนั้น แต่จังหวะเดียวกับที่ผมปล่อยมือออกจากกระเป๋า เจ้าอันธพาลคนนั้นก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แขนของเขาคล้ายกับถูกพลังที่มองไม่เห็นกระชากออกไปและบิดอยู่ในท่าทางที่ไม่น่าจะสบายนัก...ส่วนกระเป๋าของผมตกลงไปกองกับพื้น
“รังแกคนไม่มีทางสู้มันสนุกมากรึไง”
“วอคเกอร์...นี่ไม่ใช่เรื่องของนายอย่าเข้ามายุ่ง”
ผมมองนายคนประหลาดที่เข้ามาห้ามเหตุการณ์ไม่ให้ผมโดนรีดไถ...ผมควรจะดีใจรึเปล่าที่มีคนมาช่วย?...ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่าการที่นายคนประหลาดเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องมันจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิมกันนะ
“ไม่ใช่เรื่องของฉัน? คิดให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกมา พวกนายกำลังทำลายชื่อเสียงของแผนกฮีโร่ทั้งหมดอยู่ไม่รู้ตัวรึไง...ปล่อยเขาไปซะแล้วฉันจะทำเหมือนเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”
นายอันธพาลที่ไม่ได้ถูกพลังจิตตรึงตัวเอาไว้มองหน้าเพื่อนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดด้วยความลังเลก่อนจะลากตัวเพื่อนออกไปทิ้งให้ผมอยู่กับนายคนแปลกหน้าสองคนกับกระเป๋าที่ตกอยู่บนพื้น
“นายเป็นอะไรมากรึเปล่า หมอนั่นแรงมากกว่าคนธรรมดาหลายเท่า ถ้าไม่ไหวก็บอกนะจะได้รีบไปห้องพยาบาล”
เมื่อได้ยินนายคนประหลาดพูดแบบนั้นผมก็ลองขยับตัวดูเล็กน้อยว่าเจ็บตรงไหนรึเปล่า เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่ได้เจ็บอะไรมากมายก็โล่งใจ
“ไม่เป็นไร...หมอนั่นคงไม่ได้ใช้พลัง”
“ดีแล้วล่ะ...อะ จริงสิ เราถูกกักบริเวณด้วยกันมาตั้งหลายวันแต่ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉัน วิลเลี่ยม วอคเกอร์”
ผมมองนายคนประหลาดแนะนำตัวตามด้วยฉีกยิ้ม...อ่า ถึงผมจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเขาเป็นใคร แต่ถ้าเลือกได้การแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแบบนี้ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากเลี่ยงแฮะ
“...ฉัน คีธ...คีธ ฮอฟฟ์แมน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ คีธ นายจะเรียกฉันว่าวิลก็ได้นะ”
ผมมองนายคนประ...ไม่สิแนะนำแล้วก็ต้องเรียกว่าวิล...แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากย้อนกลับไปตอนที่ไม่ได้แนะนำตัวมากกว่า การทำความรู้จักกับนักเรียนฮีโร่ที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด
“นายไม่ควรยอมพวกนั้นง่ายๆแบบนั้นรู้ไหม”
นายคน...วิลพูดเตือนผมในขณะเดียวกันกับที่ใช้พลังของเขายกกระเป๋าของผมที่กองแน่นิ่งอยู่บนพื้นขึ้นมา ผมรับกระเป๋ามาตรวจดูความเรียบร้อย ของส่วนมากอยู่ในสภาพเรียบร้อยดียกเว้นก็แต่อุปกรณ์สร้างสนามพลังซึ่งพวกผมได้รับมาเป็นการบ้านในวิชาอุปกรณ์ช่วยเหลือในการต่อสู้ ผมใช้เวลาเกือบทั้งคาบในการประกอบมันขึ้นมาทั้งๆที่เกือบจะเสร็จสมบูรณ์อยู่แล้วแต่ตอนนี้มันกลับหลุดเป็นชิ้นๆเหมือนตอนแรกที่ได้รับแจกชิ้นส่วนมาไม่มีผิด
“นั่นงานของนาย?...ขอโทษทีฉันน่าจะรับเอาไว้ตอนที่หมอนั่นปล่อยมือ”
“ช่างเถอะ ไม่ใช่ของสำคัญอะไรหรอก”
เมื่อเช็คดูว่าไม่มีชิ้นส่วนที่เสียหายจนใช้การไม่ได้แล้วผมก็ปิดกระเป๋า เตรียมตัวที่จะกลับบ้านสักที แต่วิลกลับพูดขัดความคิดที่กำลังล่องลอยกลับไปที่บ้านของผมซะก่อน
“ฉันขอโทษที่ทำงานของนายพัง... เอาเป็นว่าให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นชดใช้นายดีไหม”
ฮืม?มันควรจะเป็นผมไม่ใช่เหรอที่ต้องเลี้ยงข้าวขอบคุณที่เขามาช่วย ถ้าไม่ได้เขาละก็ไม่ใช่แค่ต้องประกอบซากใหม่แต่จะไปตามเก็บงานมาจากถังขยะใบไหนผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ หมอนี่เป็นคนแปลกๆจริงๆด้วย...ถ้าให้เลือกผมก็ไม่อยากจะไปข้องเกี่ยวกับเขาให้มากกว่านี้หรอกนะ...แต่คนปกติก็ไม่ควรจะปฏิเสธคำขอที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงจากผู้มีพระคุณ...เฮ้อ ให้ตายเถอะ ผมคิดไว้แล้วไม่มีผิด วรอยู่ห่างๆพวกฮีโร่จริงๆด้วย
......................................................................................................................................................
ผมกับวิลเลี่ยม กำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารเย็นสไตล์ครอบครัวแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากโรงเรียนมาพอสมควร วิลบอกว่าเขาผ่านร้านนี้บ่อยแต่ไม่เคยแวะสักทีเลยถือโอกาสนี้แวะมาซะเลย ในร้านตกแต่งสบายๆให้อารมณ์เหมือนกับกำลังกินข้าวอยู่ที่บ้าน ลูกค้าในร้านมีไม่เยอะ แต่ก็ไม่นับว่าเงียบเหงา ขณะที่เราเลือกโต๊ะและพึ่งนั่งลงได้ไม่นาน เมนูอาหารสองเล่มก็ถูกโยนลงกับโต๊ะ...ผมก็รู้อยู่หรอกนะว่าร้านนี้เป็นรานอาหารทั่วๆไปไม่ได้หรูหราอะไร แต่การบริการก็ไม่ควรจะถึงขั้น....
‘นายคนแปลกหน้า’
ผมมองหน้าของบริกรที่แม้จะบึ้งตึงแต่ดูไปแล้วแสนจะคุ้นตาก่อนจะหันกลับมามองวิลเลี่ยม ที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหมือนกัน...อ่า นายคนประหลาด นายเป็นตัวนำปัญหาจริงๆสินะ
TBC
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ