ภารกิจป่วน ข้ามมิติพลิกชะตาโลก!
เขียนโดย MarkitJeff
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.57 น.
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) มุ่งสู่โลกมนุษย์!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความและแล้ววันที่ภารกิจจะเริ่มต้นก็ได้มาถึง ขั้นตอนการเปิดประตูวาปกำลังจะเริ่มขึ้น มีผู้คนมากมายต่างมาลุมล้อมรอดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
เดนนิสกับนินาเมะยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายและเหล่าอาจารย์ของสมาคมจอมเวทย์ทั้งหลาย
“เอาละพร้อมแล้วนะ!” เสียงตะโกนดังลั่นจากกอเจียส ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ ท่ามกลางบรรยากาศตอนเช้าอากาศสดใส
“พร้อม ครับ/ค่ะ!”
เดนนิสและนินาเมะมีอาการกดดันเล็กน้อยแต่ทั้งคู่ก็ได้ปลอบใจซึ่งกันและกันมาก่อนหน้านี้แล้ว
“ตามที่ทราบกันดีพวกเธอทั้ง2คนจะถูกส่งไปกันคนละที่ เพื่อตามหาคนที่ทางเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ ฉันขอให้พวกเธอพยายามให้เต็มที่ ฉันเชื่อว่าพวกเธอทำได้จงจำไว้ให้ดีว่า ห้ามแสดงเวทย์มนให้ผู้คนอีกโลกหนึ่งได้เห็น
ไม่งั้นพวกเธอจะได้รับบทลงโทษร้ายแรง เว้นแต่ว่ามีแต่คนที่ทางเราตั้งเป้าหมายไว้เท่านั้นที่พวกเธอจะสามารถแสดงเวทย์มนให้เขาเห็นได้ แต่ภายในบริเวณนั้นห้ามมีใครอื่นเห็นด้วย เข้าใจแล้วสินะ!”
ครับ/ค่ะ!”
“ทางเราจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือให้ หากต้องการใช้ให้หยิบสิ่งนี้ขึ้นมา”
กอเจียสเดินไปมอบแท่งรูปร่างปริซึมให้เดนนิสกับนินาเมะ
“รักษามันไว้ให้ดีๆด้วยละ”
“ขอบคุณ ครับ/ค่ะ”
กอเจียสกับเหล่าคณะอาจารย์จอมเวทย์ทั้งหลายสร้างวงเวทย์ขนาดใหญ่และถ่ายโอนพลังเวทย์ลงไป
“มิติคู่ขนานจงเปิดทางไหลเวียนเวทย์มนให้พวกเราด้วยเถิด!”
กอเจียสหยิงผงเวทย์มนมิติพิศวงแล้วโรยไว้โดยรอบวงเวทย์ที่เป็นสื่อกลางการเปิดวาป
เอาละเปิดประตูวาปได้!
ซู้ม!
ประตูมิติที่เชื่อมระหว่างโลกสองโลกได้เปิดออก สภาพแวดล้อมแถ่วนั้น
เปลี่ยนไป บรรยากาศค่อนข้างมือมน มีกลุ่มก้อนพลังเวทย์สีเหลืองจ๋า กระจัดกระตายเต็มไปหมดบนอากาศ ลมแรง ใบไม้ปลิวว่อน ต้นหญ้าสั่นไหวไปมา เสียงดังกระหึ่ม
“ทั้งคู่พยายามเข้า อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะเดนนิส” อาจารย์เรเฟียมาส่งลูกศิษย์ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
“ครับอาจารย์!” เดนนิสตะโกนสู้เสียงประตูวาปอันดังกระหึ่ม
เดนนิสกับนินาเมะกำลังจะวิ่งเข้าไปในประตูวาร์ป
“เดนนิส!” นินามะตะโกนเรียก
เดนนิสหันไปทางนินาเมะและพบมองมาและยิ้มอ่อนๆให้
“พยายามเข้านะ!” นินาเมะกล่าวไว้ก่อนจะวิ่งเข้าไป
“เธอก็ด้วยละ! พยายามเข้านะ!”เดนนิสตะโกนตอบกลับไป
“เร็วเข้าเดนนิส! ประตูนี้เปิดได้ไม่นานหรอกนะ!”กอเจียสตะโกนใส่
เดนนิสให้รีบๆออกตัวไปได้แล้ว
“ครับ!”
เดนนิสวิ่งเข้าไปในวาร์ปที่ภายในเต็มไปด้วยชั้นบรรยากาศหลากสี เต็มไปด้วยกลิ่นอายเวทย์มนอันน่าพิศวง เดนนิสถูกดูดเข้าไป เขาไม่สามารถขยับร่างกายตัวเองได้ เขาเพียงแค่ไหลไปตามทางไหลเวียนเวทย์ในประตูวาร์ปเพียงเท่านั้น และค่อยๆ เร็วขึ้น- เร็วขึ้นเรื่อยๆ-
“แว๊กกกกกกก!” เสียงตะโกนครั้งสุดท้ายของเดนนิสก่อนที่เสียงนั้นจะถูกตัดให้หายไป
ซู้มมมม!
เดนนิสลืมตาขึ้น สิ่งที่พบเห็นคือโลกที่เขาไม่คุ้นเคย โลกที่มียานพาหนะต่างๆ อากาศค่อนข้างร้อนถึงร้อนมาก
“เดนนิส—“
“เดนนิส!”
“หือ?!” เดนนิสมองไปรอบๆพยายามหาต้นเสียงแต่ก็ไม่พบ เป็นเสียงที่ค่อนข้างสูงและใส
“ใครกันนะ?!”เดนนิสถามหาด้วยความตกใจ
“ไม่ต้องกังวลไป ฉันคือพลังเวทย์ที่อยู่ในหัวของนายฉันสื่อสารกับนายด้วยพลังเวทย์ของที่ไหลนเวียนจากตัวนายเข้าไปในสมองของนาย”
“ฉันถูกปลุกขึ้นมาด้วยกระแสเวทย์จากวาปที่นายใช้เชื่อมมาที่โลกแห่งนี้ หรือรู้จักฉันอีกชื่อคือครูซ”
“ย..ยังงี้นี้เอง” เดนนิสพูดด้วยความโล่งอกและเริ่มหันมาสนใจสิ่งรอบตัวเขามองไปรอบๆมันเหมือนเป็นซอยตันลับตาคนเอาไว้ใช้สำหรับทิ้งขยะ คิดๆดูแล้วคงเอาไว้กันคนเห็นตอนข้ามมิติมาด้วยละมั้ง หรือว่าที่แบบนี้เหมาะสมที่จะอันเชิญคนระดับเขามา
“เฮ้ นายนะ!” อยู่ๆก็มีเสียงเข้มเรียกหาเดนนิส
“เอ๋ ฉันไม่รู้เลยน่าว่านายเปลี่ยนเสียงได้นะครูซ”
“ไม่ใช่ฉันซะหน่อย..”
“เอ๋...?” เดนนิสเลยมองไปที่ต้นเสียงอีกครั้งเพื่อดูว่าใครเรียกเขา
“แกนั้นแหละ! เป็นบ้ารึไงกัน พูดอยู่คนเดียว!”
“ฮ..เฮ้ย!” เดนนิสตกใจเมื่อได้เห็นเจ้าของเสียงเป็นเด็กวัยรุ่นดูท่าจะนักเลงไม่เบารูปร่างค่อนข้างใหญ่ยืนกันอยู่5คน กำลังเดินมาทางเขา
“ครูซ ฉันว่านั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีแน่”
“นี้ๆ เดนนิสอย่าลืมนะ ว่าห้ามใช้พลังเวทย์นะ เพราะฉะนั้นหาทางเอาตัวรอดจากพวกนั้นให้ได้นะ ฉันไปก่อนละ” และแล้วเสียงที่ดังในหัวของ
เดนนิสก็ดับไป
“ด..เดี๋ยวเซ่ เจ้าพลังเวทย์ฉันที่ทรยศ!!!!”
“มันต้องอนาถาขนาดไหนที่โดนพลังของตัวเองทิ้งไป..”
“เฮ้ยแกนะบ้าไปใหญ่แล้ว พูดอะไรอยู่คนเดียว” กลุ่มนักเลงเดินเข้ามาประชิดตัวเดนนิส นักเลงพวกนั้นตัวสูงพอๆเดนนิสแต่มีคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นตัวหัวโจกรูปร่างสูงใหญ่มาก
“ดูท่าแกน่าจะบ้านะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“แต่เอาเถอะๆ พวกฉันก็ไม่ได้เป็นพวกใจร้ายอะไร”
หลังจากพูดจบนักเลงก็แบมือยืนมาใกล้ๆเดนนิส
“แค่แกจ่ายมาให้ฉันเท่าที่แกมี แล้วพวกเราก็จะปล่อยแกไป”
เดนนิสรู้ว่าตัวเองตกอยู่ในวิกฤตอย่างมาก
“นี้มันอะไรกันเนี่ย มาถึงก็แจ็คพอตแตกเลย โดนหาเรื่องไถตังซะแล้ว
แล้วไอเราที่พึ่งทะลุมิติมาจะมีตังแบบโลกของพวกมันได้ยังไงฟร้ะ!”
เดนนิสคิดในใจ และพยายามคิดหาทางออกจากที่นี้ให้รอดไปได้ก่อน
“เอาละนะ พอดีตอนนี้ฉันไม่มีตังติดตัวเลยอยู่แม้แต่ นิดเดียว เพราะฉะนั้น
เรามาค่อยๆ คุย--...”
-นักเลงกำหมัดแล้วพุ่งเข้ามาต่อยอย่างเร่งรีบ-
เดนนิสหลบได้แบบฉิวเฉียด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อะไรกันไม่มีตังซักแดงเดียวเลยเหรอเนี่ย ถ้างั้นก็คงต้องโดนดีหน่อยแล้ว ที่หลบได้ตะกี้มันก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”
“แย่ละ.. อย่างน้อยถ้าใช้เวทย์ได้ละก็ฉันก็คงพอที่จะเอาตัวรอดได้อยู่แท้ๆเชียว” เดนนิสคิดขึ้นมาในใจ
“เฮ้อ น่าเบื่อๆ สงสัยคงต้องอัดให้เละหน่อยแล้วละ”
กลุ่มนักเลงกำหมัดแน่นกำลังจะเข้าไปรุมชกเดนนิส แบบเต็มยศ
“ซวยละเว้ยยย!”
แต่ก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังขึ้น
แกร๊งงง—
“ฮืมมม” เหล่านักเลงและเดนนิสหันไปมองแล้วพบกับเด็กชายคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนพึ่งเข้ามัธยมปลาย อายุราวๆ15ปี เดินพ่านมาทิ้งกระป๋องน้ำอัดลมโดยที่ไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้อยู่ จนเด็กคนนั้นสบตากลับ แววตาค่อนข้างดุดันมีทรงผมที่ค่อนข้างแหวกแนวเมื่อเทียบกับคนในยุคนี้
“เฮ้ยแกนะ มองมามีปัญหารึไงฟระ!”
ชายคนนั้นชี้ที่ตัวเองก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันรึ?”
“ป่าวหรอกฉันก็แค่มาทิ้งกระป๋องน้ำนะ ไม่ได้สนขี้หน้าพวกแกอยู่แล้ว”
นักเลงได้ยินถึงกับฉุนขาดรีบเดินไปทางชายคนนั้น
“เอ็งนี้ปากดีไม่เบานี้หว่า ถ้าจะอยากโดนดีสินะ แต่ไม่เป็นไรหรอก พวกเรานะไม่ได้ใจร้ายอะไรแค่จ่ายทั้งหมดที่แกมี พวกเราก็จะปล่อยแกไป”
เดนนิสเห็นชายคนนั้นตกอยู่ในท่าทีที่ไม่ดีเลยพยายามจะหาวิธีทำอะไรซักอย่าง ในขณะเดนนิสมัวแต่สนใจเด็กชายคนนั้นและกำลังพยายามจะเดินไปช่วย
“แกนะอยู่นิ่งๆไป” ลูกเตะของนักเลงรูปร่างสูงใหญ่กระแทกเข้าไปที่ตัวเดนนิสอย่างจัง ทำให้ล้มลงไปกับพื้น”
“อ...โอ้ยยย ” เดนนิสล้มลงอย่างแรงและกำหมัดแน่นไว้
“หน่อย เล่นทีเผลอรึ สกปรกไม่เบาเลยนะ!” เดนนิสพูดขึ้นทั้งๆทีส่วนใหญ่เวลาดวลเวทย์มนกับคนในโรงเรียนก็ชอบเล่นทีเผลอเหมือนกัน
ยังไงก็เถอะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วคงต้องทำสิ่งที่ต้องทำ ฉันคงต้องใช้เวทย์มนนิดๆหน่อยแล้วละ เดนนิสคิดขึ้นมา
แต่ทันใดนั้นเมื่อเด็กชายคนนั้นเห็นเดนนิสโดนเตะล้มลงไปกับพื้น เขาจึงเอามือล่วงกระเป๋ากางเกงและหยิบเงินที่เขามีออกมา
“เฮอะ! เป็นคนเข้าใจง่ายดีนี้หว่า หรือจะเรียกว่าน่าสมเพชดีน้า ฮ่าๆๆ”
กลุ่มนักเลงหัวเราะสะใจต่อการกระทำของชายคนนั้น
แต่สิ่งที่ชายคนนั้นหยิบมาคือเหรียญ5บาทเท่านั้น
กลุ่มนักเลงมองที่ชายคนนั้นด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“นี้คือทั้งหมดที่แกมีงั้นเรอะ! ฮ่าๆๆ! มันจะไปพออะไร!”
นักเลงรูปร่างสูงใหญ่ชักคอเสื้อชายคนนั้นะพรางจะทำท่าจะทำร้าย
“ใช่แล้วนี้แหละที่หมดที่ฉันมี...”
“งั้นก้โดนอัดให้เละไปเถอะแกนะ!”
เดนนิสรีบลุกขึ้นจากการรวบรวมเวทย์ไว้ในมือกำลังจะพุ่งเข้าไปช่วย
แต่ทันใดนั้น ด้วยความเร็วสูง เด็กชายคนนั้นได้พูดขึ้นว่า
“ฉันจะประเคนเงิน5บาทให้แกได้ใช้อย่างคุ้มค่าเอง!”
ชายคนนั้นกำเหรียญ5บาทไว้ในหมัดขวาแล้วชกไปที่นักเลงรูปร่างสูงใหญ่เข้าอย่างจัง ตู้ม! เสียงหมัดดังกึกก้องจนคนที่แค่มองดูนั้นก็แทบจะรู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างกับโดนเอง เป็นหมัดที่ออกไปด้วยความเร็วสูงแทบมองไม่ทันยังไงยังงั้น
นักเลงรูปร่างสูงใหญ่ล้มลงกระแทกกับพื้นจนน็อคไป
“ฮึเป็นไงละ นั้นคือท่าไม้ตายใหม่ของฉัน หมัด5บาทแห่งคุณธรรม!”
เดนนิสอึ้งไปชั่วครู่กับพลังหมัดนั้น แทบจะพอๆหรือไม่ก็สูงกว่าพลังเวทย์ระดับมาตรฐานของเขาด้วยซ้ำ แรงพอที่จะน็อคคนรูปร่างใหญ่ได้
“อย่าพึ่งได้ใจไปนะโว้ย!” กลุ่มนักเลง4คนที่เหลือพุ่งเข้าไปรุมเด็กชายคนนั้นและเลิกสนใจตัวประกอบฉากอย่างเดนนิส
“เข้ามาเลย! ไอพวกกุ๊ย มาชิมเหรียญ5นี้กันให้หมดซะ”
ตู้ม! ตู้ม! ผัวะ! ผลัก!
ชายคนนั้นหยุดนักเลงเหล่านี้ หนึ่งคนต่อหนึ่งหมัดเท่านั้น
เดนนิสรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่โลกนี้มีเด็กที่บ้าพลังได้ขนาดนี้
“น..นาย เป็นตัวอะไรแน่เนี่ย!” เดนนิสถามด้วยความร้อนรน
“หา? ถามฉันงั้นรึ ฉันก็คือคนปกตินั้นละนะ คนที่มีนามว่าริงโก้ยังไงละ!”
“ไม่ใช่แล้วเฟร้ย!”
ปิ๊งป่องงงงง นาฬิกาประจำเมืองดังขึ้นเตือนว่าโรงเรียนภายในบริเวณใกล้เข้าแล้ว
“แย่ละซิ! สายซะแล้ววว ฉันต้องไปก่อนละขอให้นายโชคดีละกัน ตะกี้โดนหนักใช้เล่นเลยนายนะ ทีหลังระวังด้วยละ” ริงโก้พูดกับเดนนิสก่อนจะรีบวิ่งไปโรงเรียน
แต่แล้วก็หันกลับมาพูดว่า “ทีหลังนายต้องหัดสู้คนบ้างนะ จะแพ้จะชนะมันไม่สำคัญหรอกน่า” แล้วก็วิ่งจากไปด้วยความเร็วสูง
“เฮ้ เดียวเซ่ ถึงจะเห็นฉันยังงี้ก็เถอะแต่ฉันน่าจะอายุมากกว่านายนะ!”
เดนนิสตะโกนใส่เด็กชายคนนั้น
หลังจากนั้นซอยนี้จากที่วุ่นวายก็กลับกลายเป็นบรรยากาศที่เงียบเหงา
และเหม็นขยะเน่าในเป็นอย่างมาก
“นี้ เดนนิส!”
“ว๊าก!” เดนนิสสะดุ้งกับเสียงเรียกชื่อภายในหัวของเขา
เสียงของครูซที่เรียกเดนนิสแบบไม่ทันตั้งตัว
“เจ้าครูซตะกี้แกชิ่งหนีไปเลยนะ เดียวแกโดนดีแน่”
“แล้วนายจะทำยังไงละเดนนิส ชกหัวตัวเองรึ?” ครูซตอบกลับไป
“น่าโมโหที่สุดเลยยยย!” เดนนิสโมโหกลิ้งไปกลิ้งมา โดยลืมไปว่ารอบตัวแทบจะมีแต่ขยะในตรอกโล่งๆที่ไร้ผู้คน ซักพักครูซก็พูดออกมา
“เดนนิสที่ฉันหายไปตะกี้เพราะพลังเวทย์ของนายมันไม่พอที่คงสภาพให้ฉันสื่อสารกับนายได้ยังไงละ เพราะมีพลังเวทย์ที่ไม่ค่อยมาก และรู้แค่เวทย์พื้นฐานเท่านั้น”
“ก็แล้วมันทำไมเล่า! ฉันก็ถูกคัดสรรมาเรื่องแบบนี้ทำไมก็ไม่รู้ จอมเวทย์ที่เก่งกว่าฉันมีอยู่ถมไป แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วยละ!”
“แต่ว่าตะกี้ตอนนายรวบรวมพลังเวทย์หวังจะช่วยเด็กคนนั้นนะ มันช่วยทำให้ฉันกลับมาคงสภาพพร้อมสื่อสารกันนายได้ ซึ่งมันยากมากที่จอมเวทย์จะรวบรวมพลังเวทย์ให้วงจรเวทย์ไหลเวียนให้พร้อมสื่อสารกับเวทย์ของตัวเองในอึดใจเดียวแบบนั้น อันที่จริงพลังเวทย์ของนายก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเท่าไรหรอกนะ” ครูซกล่าวขึ้นมาเพื่อชมเชยเดนนิส
“จ...จริงรึ งั้นก็ฉันก็ไม่ได้ไม่เก่งสินะ? ฮะ! คงมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ในตัวฉันสินะ!”
“เรื่องนั้นฉันไม่รู้หลอกนะ แต่นี้ก็เป็นตัวบอกว่านายเป็นพวกขี้เกียจไม่มีการมั่นซ้อมพลังเวทย์ให้วงจรเวทย์ในตัวนายไหลเวียนได้ดีพอ ฉันถึงได้หายไปเร็วแบบนั้นยังไงละ เข้าใจรึยัง”
“ร..รู้แล้วละน่า!” สักพักเดนนิสก็ตระนักได้ถึงภารกิจที่เขาถูกส่งให้มาทำ
ให้สำเร็จ
“นินาเมะ จะเป็นยังไงบ้างน้า” เดนนิสพูดออกมาด้วยความความเป็นห่วง ก่อนที่จะนึกได้ว่าสถานการณ์แบบนี้ คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือตัวของเขาเองนี้แหละ
“เฮ้ ครูซการที่นายถูกปลุกด้วยการไหลเวียนเวทย์ของประตูวาปที่ทำให้นายตื่นขึ้นมา มันต้องมีสาเหตุสินะจำเป็นที่เอาไว้ช่วยฉันสินะ”
“ใช่แล้วละ เดนนิส ฉันเป็นตัวที่สามารถบอกตัวเป้าหมายได้ ว่าคนที่นายตามหาอยู่ไหน ซึ่งการวาปมานี้ จุดหมายปลายทางของนายก็จะถูกส่งมาให้อยู่ใกล้เป้าหมายอยู่แล้วละ”
“ดีละ ครูซ! นั้นช่วยบอกตำแหน่งของคนที่ต้องตามหามาหน่อยสิ”
“ตอนนี้เป้าหมายกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก และกำลังจะมุ่งไปยังสถานที่ที่เรียกว่าโรงเรียนสุกี้น้ำ”
“มีชื่อสถานที่บ้าๆแบบนั้นอยู่ด้วยรึ!”
หลายความคิดพุดขึ้นมาในหัวเดนนิสทั้งเหตุการณ์เมื่อกี้ ทั้งชื่อของโรงเรียนและซักพักเดนนิสก็รีบวิ่งไปดูยูนิฟอร์มเหล่านักเลงที่นอนกองกันอยู่ เป็นยูนิฟอร์มของโรงเรียนสุกี้น้ำนั้นเอง
“เฮือก!”
“ต้องไปที่นั้นจริงๆรึ” เดนนิสรู้สึกหวาดหวั่นแปลกๆ ครูซจึงพูดขึ้นมา
“เดนนิส.. เด็กชายที่มาช่วยนายนะก็ใส่ยูนิฟอร์มโรงเรียนสุกี้น้ำเหมือนกันนะ... และแถมรีบวิ่งไปทางโรงเรียนสุกี้น้ำด้วย”
เดนนิสนิ่งไปช่วยขณะปล่อยให้เวลาสมองอันน้อยนิดของเขาได้ประมวลผลไปตามเวลา
“ร...หรือ ว่า!!!!!!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ