ภารกิจป่วน ข้ามมิติพลิกชะตาโลก!

7.7

เขียนโดย MarkitJeff

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.57 น.

  15 ตอน
  3 วิจารณ์
  15.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2560 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ธุระส่วนตัว?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

พ่านมาสองวัน หลังจากวันที่สมาคมจอมเวทย์เรียกประชุมและในวันพรุ่งนี้คือวันที่ภารกิจจะเริ่มต้น เดนนิสรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มในทุกๆเช้าที่เขาตื่นมา 

“โอ้พระเจ้าจอร์จ ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้”

“เพชรคัดสรรบ้าบออะไรกันละเนี่ยยย” เดนนิสนอนกลิ้งไปมาบนเตียงด้วยความอมทุกข์กับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่เขาได้รับ

---ก๊อกๆๆๆ

เสียงเคาะประตูหน้าห้องพักของเดนนิสดังขึ้นมา ทั้งที่ในช่วงเวลาตั้งแต่มาอยู่ที่นี้ไม่เคยจะมีใครมาเคาะนอกจากแม่บ้าน ที่จะเข้ามาทำความสะอาดห้องเพียงเท่านั้น

“หือออ!?” 

“ใครกันละนั้น?”

เดนนิสสะดุ้งราวกับเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดที่10ปีจะมีสักครั้ง

“กำลังจะไปครับ รอเดียวนะครับ” เดนนิสรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้อง

ทันทีที่ประตูห้องเปิด คนที่เดนนิสเห็นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสาวผมสลวย สีออกน้ำตาล อ่อนๆ มีไฝอยู่ข้างล่างตาขวา

“น..นินาเมะ!”เดนนิส สะดุ้งกระโดดออกห่างจากประตูตามสัญชาตญาณของคนที่อาศัยด้วยวิถีสันโดษ

นินาเมะ มองมาที่เดนนิสด้วยความงุนงงและรู้สึกประหลาด

ทันใดนั้นเดนนิสรีบลุกขึ้นกล่าวคำทักทาย อย่างกะทันหัน

“ง..ไง นินาเมะ เอ้ย! ไม่สิ มันต้อง สวัสดี นินาเมะ” เดนนิสพูดอย่างติดๆขัดๆ จนกระทั่งนินาเมะก็ได้กล่าวทักทายเดนนิสกลับบ้าง

“สวัสดี เดนนิส..”

“ฉันมีเรื่องที่ต้องพูดกับนาย ช่วยมาด้วยกันหน่อยจะได้ไหม”

เดนนิสรู้สึกตกใจนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่มีคนมาชวนเขาออกไปทำกิจวัตรที่ต้องเข้าสังคมแบบนี้ เดนนิสรู้สึกมึนอยู่นาน จนกระทั่งนินาเมะได้พูดขึ้นว่า

“ธ..เธอ รู้ได้ไงว่าฉันพักอยู่ที่ห้องนี้ ปกติเธอนอนคนละหอนี้นา”

นินาเมะหันมาจ้องเดนนิสอีกครั้งก่อนจะตอบไปว่า

“ก็ไม่ยากอะไรนี้นาเมื่อวานฉันกับเพื่อน ก็เดินตามหานายจนมาเจอว่านายพักอยู่ห้องนี้ยังไงละ” นินาเมะพูดตอบไปแบบเรียบง่าย

“อ..อ่อ ยังงี้หรอกรึ” เดนนิสแบบส่งๆไปก่อนเพื่อพยายามให้บทสนทนามันเดินต่อไปได้

“ว่าแต่ทำไมเธอต้องตามหาฉันถึงขนาดตามมาขนาดนั้นละ”

นินาเมะได้ยินจึงรีบตอบออกไปทันที

“อย่าเข้าใจไปผิดไปนะ! ฉันมีธุระที่ต้องคุยกับนายเท่านั้นอยู่”

เดนนิสคิดไปว่ามีธุระสำคัญขนาดที่ต้องคุยกับเข้เป็ฯการส่วนตัวอยู่ด้วยเหรอ

“ถ้านายไม่อยากมา ก็ไม่ต้องก็ได้..” นินาเมะกำลังจะเดินจากไป

“ด..เดี๋ยว ฉันไปด้วยๆ!” เดนนิสรีบตอบกลับ แล้วรีบวิ่งกลับไปในห้องเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก

“เอาละฉันพร้อมแล้ว เราจะไปที่ไหนกันเหรอ”

“ตามฉันมาเลย”

นินาเมะเดินนำออกไปด้วยท่าทางจริงจังมาก

ทั้ง2เดินไปตามระเบียงของตัวอาคาร ที่มีแสงแดดของช่วงเวลาใกล้เที่ยงสอดส่องลงมาในอาคาร ตรงตัวสนามหญ้านั้นมีผู้เหล่าจอมเวทย์หน้าใหม่กำลังดวลพลังเวทย์กันอย่างเมามันและสนุกสนาน จนกระทั่งทั้ง2เดินไปถึงห้องสมุดของตัวอาคาร

“ท.. ที่นี้หรอกรึ” เดนนิสรู้สึกว่าได้มาในที่ๆทั้งชีวิตไม่คิดจะก้าวเข้าไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

“เข้ามาเถอะ เราจะคุยธุระกันในนี้” นินาเมะ เดินเข้าไปในห้องสมุดก่อนที่เดนนิสจะตามไป ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เดนนิสได้มาเหยียบที่นี้

ทั้งสองเลือกนั่งลงบนโต้ะสำหรับอ่านหนังสือ บรรยากาศรอบห้องเงียบเฉียบสมกับเป็นห้องสมุดที่ควรจะเป็น

“บรรยากาศอันน่ากดดันแบบนี้มันอะไรกันละเนี่ย” เดนนิสรู้สึกกระวนกระวายอยู่ในหัวของเขา

“เอาละนะ ฉันจะเข้าเรื่องเลยละกัน” จู่ๆนินาเมะก็พูดขึ้น

“หือ? เอาสิ ว่ามาเลย”

“สิ่งที่ฉันจะพูดก็คือเกี่ยวกับภารกิจของพวกเรานะ นายก็รู้ว่าพรุ่งนี้เดียวพวกเราก็ต้องข้ามไปโลกคู่ขนานกันแล้วใช่ไหม” นามเสียงที่นินาเมะดูมีความกังวลเล็กน้อย ถึงจะไม่เคยได้คุยกันมาก่อน แต่เพียงแค่เดนนิสฟังก็รู้สึกได้ถึงความกังวลใจ

 “อ.. อื้ม นั้นสินะ” เดนนิสตอบกลับได้ประโยคเรียบง่าย เหมือนในหัวของเขาไม่สามารถคิดถึงคำตอบที่สมควรออกไปได้ เขาควรจะบอกนินาเมะไปดีหรือไม่ว่ามันเหมือนความผิดพลาดที่เขาถูกเลือกทั้งๆที่ไม่ได้มีความสามารถอะไรโดดเด่นออกมาเลย และแล้วนินาเมะก็พูดต่อ

“ฉันนะน่ะ รู้สึกดีใจที่ได้คัดสรรก็จริงอยู่หรอก แต่พอมารู้ว่าได้แบกรับภาระที่หนักหน่วงแบบนี้ มันก็น่าหนักใจจริงๆ ฉันไม่รู้จะรับภาระครั้งนี้ได้ไหวรึ

“ที่พวกเราถูกคัดสรรมานะ มันดีแล้วจริงๆเหรอ”

นินาเมะดูวิตกมากจริงๆ เดนนิสไม่เคยคิดเลยว่าคนอื่นนากจากเค้าจะรู้สึกเป็นกังวลขนาดนี้ได้

เดนนิสอยากจะพูดปลอบใจ เขามีความรู้ว่านินาเมะต้องการที่พึ่งเป็นอย่างมากในภารกิจนี้ แต่ด้วยความสามารถที่เดนนิสมี คงไม่สามารถแบกความไว้วางใจของนินาเมะได้เลย เขาเคยเห็นนินาเมะแสดงการใช้พลังต่างๆในชั้นเรียน ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ มันเป็นพลังที่น่าทึ้ง

ขนาดคนระดับนี้ยังกังวล แล้วเขาจะไปเหลืออะไร

จริงอยู่ที่การคัดสรรนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกปีในวันประชุมนักเรียนที่เรียนจบแล้วพร้อมรับหน้าที่เป็นจอมเวทย์

แต่ภารกิจครั้งนี้หนักมากๆตั้งแต่มีการคัดสรรมา เพราะโดยปกติแล้วภารกิจแบบที่ฉันและนินาเมะได้รับนั้น100ปีจะมีซักครั้งที่จะมีการโอนคนไปที่โลกคู่ขนานแบบนี้ แต่รอบเหมือนจะมีเรื่องแย่ๆที่พวกเขาไม่รู้เกิดขึ้นกระทันหันเพราะพึ่งพ่านไปได้แค่8ปีจากรอบก่อนที่โอนคนไปแท้ๆ ส่วนเรื่องสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มันก็เป็นที่ของพวกเราที่ต้องไป ผมที่แทบจะช่วยอะไรนินาเมะไม่ได้คงจะเป็นที่พึ่งให้เธอไม่ได้เลย

“ขอโทษนะ เดนนิส ฉันคงทำนายคิดมากสินะ”

“ไม่ต้องใส่ใจกับมันก็ได้ แต่ก็ขอบคุณนายมากเลยนะ ที่ยอมรับฟัง”นินาเมะพยายามจะพูดให้เดนนิสรู้สึกดีขึ้นเช่นกัน เพราะอาการกังวลของ

เดนนิสมันฟ้องจนแค่ดูหน้าก็รับรู้ได้

“ไม่หรอก นินาเมะ” เดนนิสพูดขึ้นหลังจากรวบรวมความกล้าในตัวเขา เขาคิดว่าจะมานั่งวิตกในเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เขาควรจะสร้างกำลังใจให้กับ

นินาเมะในเวลาแบบนี้

“ฉันคิดว่าบางทีเพชรคัดสรรนะน่ะ เลือกเธอมาด้วยเหตุผลบางอย่าง และมันก็ไม่ได้ผิดพลาด” นินาเมะหันมามองที่เดนนิสหลังจากที่ได้ยินคำพูดเสริมกำลังใจ

“เธอนะน่ะ เป็นถึงอัจฉริยะในหลายๆด้าน ในชั้นปีที่พวกเราเรียนจบกันมา คงยังไม่มีใครเทียบเธอได้เลย ถ้ารุ่นก่อนเคยทำได้เธอก็ต้องทำมันได้อยู่แล้ว” เดนนิสพูดพร่างยิ้มไปซึ่งจริงๆแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกมาแต่ดูเหมือนว่าจะได้ผล

นินาเมะหน้าแดงนิดๆ ก่อนจะพูดกับเดนนิส

“ม.. ไม่ต้องชมฉันถึงขนาดนั้น หรอก” นินาเมะยิ้มอ่อนๆ

“เดนนิสก็คงมีความสามารถบางอย่างสินะ ถึงได้รับเลือกมานะ”

นินาเมะตอบกลับเดนนิส บุคลิกของนินาเมะดูจะเป็นกันเองมากขึ้น

ถึงจะอยู่ในหมาดที่ค่อนข้างจริงจังก็ตาม

“ก็ไม่หรอกนะ”

“ฉันคิดว่าที่ฉันถูกรับเลือกมานะ อาจจะเป็นความผิดพลาดบางอย่างก็ได้

เพราะฉันนะไม่ดีมีเด่นอะไรในด้านเวทย์มนเลย”  เดนนิสพูดความจริงออกไปให้กับนินาเมะได้รู้

“อ..เอ๋?” นินาเมะทำสีหน้าเหมือนแปลกใจมาก

“ต..แต่ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันนะจะไม่มีทางเป็นตัวถ่วงของเธอแน่นอน

ถึงตอนแรกฉันจะวิตกแต่ตอนนี้นะ ฉันจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด อย่าพึ่งท้อไปนะนินาเมะ” เดนนิสพูดปลุกกำลังใจให้นินาเมะอย่างเต็มกำลัง

“อ..อื้ม ขอบใจนายมากนะ ถึงนายจะเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้เลยแบบนั้น แต่ฉันว่านายยังคงมีดีอยู่ภายในแน่ๆ”

“อะ เอื้อกกก ฉันจะถือว่ามันเป็นคำชมละกันนะ”

นินาเมะหัวเราะและทั้ง2ก็สนทนากันต่อไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่สมควรแยกย้าย แสงแดดยามเที่ยงสอดส่องเล็ดลอดหน้าต่างเข้ามา

-ตู้ม!-

พลุเวทย์มนสีส้มกระจายเต็มฟ้า เป็นสัญญานเตือนสำหรับเวลาอาหารเที่ยง ทั้ง2เดินออกจากห้องสมุดและกำลังจะแยกย้ายกัน

“ขอบคุณนะ นายช่วยสร้างความมั่นใจให้ฉันได้เลยละ” นินาเมะพูดแล้วยิ้มอ่อนๆ ก่อนที่จะบอกลากับเดนนิส“ไว้เจอกันนะ”

“อ่า บายๆนะ” เดนนิสรู้สึกดีใจที่วันนี้รู้สึกว่าเราจะได้เพื่อนใหม่แล้วสินะ ถึงอย่างนั้นช่วงที่เรียนจะอยู่คนเดียวตลอด จะมีโอกาสได้คุยก็แค่ช่วงงานกลุ่มเท่านั้น แสดงว่าวันนี้คือความสำเร็จครั้งใหญ่เลยนะเนี่ย

“ต.. แต่ว่า”

“ตะกี้พูดจาให้ตัวเองดูเท่ไปหน่อย แล้วจริงๆฉันจะทำได้มั้ยละเนี่ย!”

จิตใต้สำนึกของเดนนิสตะโกนอยู่ในใจ

“ไม่สิๆ เราแค่ทำให้นินาเมะรู้สึกดีขึ้นก็ดีมากแล้ว! นั้นสินะๆ”

เดนนิสพยายามคิดเข้าข้างตัวเองเท่าที่จะเป็นไปได้

ซักพักหนึ่งมีมือมาแตะหลังเดนนิสแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

“ว๊าก!”

เดนนิสตะโกนด้วยความตกใจก่อนจะรวบรวมสติอันน้อยนิดและมองไปที่คนที่มาแตะหลังเมื่อตะกี้ พบนินาเมะที่แสดงสีหน้าอธิบายได้ยากอยู่

“นินาเมะ เองหรอกรึ ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”

“ยังไม่ไปกินข้าวอีกเหรอ?” เดินนิสถามไปตามน้ำเพื่อให้นินาเมะหยุดทำสีหน้าเมื่อตะกี้

“ก็กะว่า จะมาชวนไปกินข้าวด้วยกัน ถ้าไม่รังเกียจละนะ”

“ห.. หา!?” เดนนิสพอหลุดปากออกมาด้วยความตกใจ

“ไม่อยากมาเหรองั้นลืมที่ฉันพูดไปเถอะ” นินาเมะพูดพรางหลบหน้าเดนนิสแล้วกำลังจะเดินจากไป

นี้มันอะไรกันเนี่ย นี้เราถูกผู้หญิงชวนไปทานข้าวด้วยกันสินะ

หรือว่านี้คือเดทกันนะ ยังงี้มีแต่ต้องตกลงเท่านั้น!!

“เดี๋ยวก่อน นินาเมะ การปฏิเสธน้ำใจมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น

ฉันจะไม่ไปได้อย่างไร” เดนนิสพูดให้ตัวเองดูดีที่สุด

 

“ งั้นไปกันเถอะ”  นินาเมะหันกลับมาตอบด้วยเสียงนุ่มๆ

หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่โรงอาหาร

ต่อให้พรุ่งนี้จะเป็นยังไง วันนี้ก็เป็นวันที่ไม่เลวเลยนะ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา