Isekai wa Tengoku ja Nai !

7.3

เขียนโดย MasamuneRuri

วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.36 น.

  6 บท
  0 วิจารณ์
  7,922 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560 00.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) หักหลัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

#ปล_เนื้อหาต่อไปนี้อาจมีความรุนแรงและคำหยาบ

สิ่งแรกที่ทาบาตะกล่าวขึ้นหลังจากเห็นวิวและสิ่งต่างๆที่แปลกตาคือ
"ที่นี้มันที่ไหนเนี้ยย.."
และในตอนนั้นเองก็มีหญิงสาวปริศนาเดินขึ้นมาจากด้านซ้ายมือของทาบาตะซึ้งทาบาตะอยู่คือ โบสต์ที่ราบสูงระหว่างกลางภูเขา โดยมีภูเขาเหนือเมืองและซ้ายมือเป็นทางเดินขึ้นมาส่วนขวามือเป็นทางตันโดยเป็นช่องระหว่างกลางภูเขา โดยหญิงสาวที่เดินขึ้นมาเป็นหญิงสาวอายุราวเดียวกับทาบาตะมีผมสีดำมีตาสีดำม่านตาสีขาวปกติทั่วไปใส่ชุดยุคกลาง หรือยุคที่ยังมีทาสมีสงคราม และหญิงสาวได้กล่าวทักทายขึ้น
"เออ..คือว่า..."
ทาบาตะที่ยังไม่รู้ว่ามีคนเดินเข้ามาไกล้ได้ตกใจและหันหน้าไปมองและทาบาตะที่ไม่ค่อยชินกับผู้หญิงได้ถอยหลังนิดหน่อยและเวลาต่อมาได้สดุดล้มลงกับพื้น
"ตู้บ!!!"
"โอ้ยๆๆๆ "
ทาบาตะร้องออกมาเบาๆ
"ป..เป็นอะไรรึป่าวค่ะ.."
"ม..ไม่เป็นอะไรครับ!!"
หญิงสาวถามพร้อมกับยื่นมือซ้ายเข้าไปหาเพื่อที่จะพยุงตัวทาบาตะขึ้นและทาบาตะก็ใช้มือขวาไปจับกับมือซ้ายและพยายามลุกขึ้นพร้อมปัดฝุ่นออกจากกางเกงตัวเอง
"ข..ขอบคุณครับ!!"
"ไม่เป็นไรค่ะ"
หญิงสาวตอบกลับด้วยใบหน้าที่ยิ้มสดใสและใจดี

[ไรท์ : ทาบาตะอย่าเชื่อใจผู้หญิง!!!]

"แล้วคุณคือ ..?"
"ผ..ผม. นานาสึกะ ทาบาตะ.. ครับ!!"
ทาบาตะพูดเสียงหลงด้วยท่าทางเกรงๆเพราะว่าเกิดมาไม่ค่อยได้คุยกับผู้หญิง และหญิงสาวก็ขำออกมาเบาๆ ทำไห้ทาบาตะสงสัยและหญิงสาวก็บอกกลับมา
"ข..ขอโทษค่ะ.. ชั้นเซเลีย.. คุณนานาสึกะ สินะค่ะชื่อแปลกดีนะคะ .. แล้วดูเหมือนจะไม่ใช่คนแถวนี้ด้วย.. นักผจญภัยสินะ มาจากเมืองไหนหรอค่ะ..?"
"อ..เออ.."
หญิงสาวได้โหมกระหนำคำถามมายังทาบาตะรัวๆและทาบาตะก็ไม่ได้กล่าวอะไรตอบกลับได้แต่มองพร้อมเหงือไหลหน่อยๆที่หญิงสาวถามมาไม่หยุดและหญิงสาวก็ตอบบกลับมาทันทีที่เห็นท่าที่กังวลของทาบาตะ
"อ๊ะ.. ขอโทษค่ะ..."
"อ๊ะ..ไม่เป็นไรครับ.. ว่าแต่นักผจญภัยนี้คือ..??"
ทาบาตะถามคำถามที่แปลกมากซึ้งนักผจญภัยบนโลกใบนี้ไครๆก็รู้จักและในตอนนั้นเองที่ทาบาตะได้สงสัยขึ้นว่า ทั้งวงเวทย์เมื่อกี้แล้วสิ่งที่เหมือนกับนกในนิยาย และพื้นที่ที่เหมือนในจินตนาการนี้มัน.. "โลกแฟนตาซี" สินะ นั้นคือสิ่งที่เค้าคิดได้ถึงจะโง่แต่การจินตนาการก็มีกันทุกคนและตัวทาบาตะเองอาจจะเก่งเหมือนอัจฉริยะเลยก็เป็นได้ และเซเลียได้ทำหน้าตกใจนิดหน่อยพร้อมๆกับกล่าวขึ้น
"ไม่รู้จักนักผจญภัยงั้นหรอค่ะ??"
ทาบาตะพยักหน้าตอบและเซเลียได้ทำหน้าตกใจแต่ว่าในเวลาต่อมาก็เริ่มอธิบายไห้ทาบาตะฟังซึ้งนักผจัญภัยนั้น ไครๆก็สามารถเป็นได้แต่ว่าต้องมีพลังเวทย์หรือทักษะที่พอผ่านการทดสอบเป็นนักผจญภัย และการเป็นนักผจญภัยนั้นก็เรียกว่าเป็นงานอย่างหนึ่งได้เลยทว่าถ้าทำภารกิจก็ได้ค่าตอบแทนซึ้งภารกิจจะเป็นการจ้างจากคนธรรมดาที่มอนส์เตอร์มาบุกแล้วจะได้ค่าประสบการณ์ รวมไปถึงเลเวลอัพและในหมู่นักผจญภัยเองมีการจัดแรงค์ [Rank] ด้วยการทำภารกิจ ซึ้งการทำภารกิจนี้จะได้รับการเลื่อนขั้นไปที่ล่ะครั้งแต่ว่าจะเลื่อน แต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย โดยตัวแรงค์จะถูกแบ่งออกตามลำดับ

ลำดับที่ 13 เศษเหล็ก 30 เหรียญซิลเวอร์
ลำดับที่ 12 ชิ้นส่วนเหล็ก 50 เหรียญซิลเวอร์
ลำดับที่ 11 กระเบือกเหล็ก 70 เหรียญซิลเวอร์
ลำดับที่ 10 เหรียญเหล็ก 90 เหรียญซิลเวอร์
ลำดับที่ 9 เศษทอง 3 เหรียญทอง
ลำดับที่ 8 ชิ้นส่วนทอง 8 เหรียญทอง
ลำดับที่ 7 กระเบือกทอง 17 เหรียญทอง
ลำดับที่ 6 เหรียญทอง 30 เหรียญทอง
ลำดับที่ 5 เศษเพรช 50 เหรียญทอง
ลำดับที่ 4 ชิ้นส่วนเพรช 90 เหรียญทอง
ลำดับที่ 3 กระเบือกเพรช 5 เหรียเพรช
ลำดับที่ 2 เหรียญเพรช 10 เหรียญเพรช
ลำดับที่ 1 อัญมนี ----

ซึ้งลำดับสุดท้ายว่ากันว่าถ้าจะเลื่อนขึ้นไปต้องเป็นระดับเหรียญเพรชและไปฆ่า ไฮดร้า 5 หัว เสียก่อนซึ้งไม่มีทางเป็นไปได้เลยตามตำนานบอกว่าไฮดร้าเพียงหัวเดียวนั้นก็มีความสามารถฟื้นฟูที่น่าทึ่งแล้ว แต่ 5 หัวนั้นมีในระดับที่เรียกว่าอมตะได้เลยแถมแต่ล่ะหัวมีความสามารถที่แตกต่างสารพัดประโยชน์ โดยRank นั้นจะดูกันได้ตามสิ่งที่ติดตัว ซึ้งถ้าต่ำสุดก็ได้สิ่งติดตัวเป็นเศษเหล็ก หรือตามชื่อเรียกลำดับเลย และยังสามารถขายได้เงินราคาสูงอีกอย่างมาก

[ค่าเงิน]
1 เหรียญซิลเวอร์ ->ต่อ= 200 บาท
ซึ้ง 100 ซิลเวอร์ ต่อ 1 เหรียญทอง 100 เหรียญทอง ต่อ 1 เหรียญเพรช ซึ้งตัวอัญมนีนั้นไม่สามารถประมูลค่าของมันได้เลย

และแน่นอนว่าการขายRank นั้นไม่ผิดกฏหมาย และในหมู่นักผจญภัยมีการต่อสู้เพื่อแย้งแรงค์กันด้วย โดยแย้งแรงค์มาอยู่ในมือเสร็จจะสามารถเพิ่มแรงค์เป็น 2 เท่าได้ และถ้าขายแรงค์หรือโดนแย้งแรงค์ จะไม่สามารถกลับเป็นนักผจญภัยได้อีกทว่าการจะเป็นจำเป็นต้องลงทะเบียดด้วยเลือดหยดลงกระดาษสีเหลี่ยมจะมีค่าสถานะขึ้นบ่งบอกได้ชัดเจนยกตัวอย่างเช่น

[ค่าสถานะ]
ชื่อ : เซเลีย
อายุ : 17
เพศ : หญิง
อาชีพ : นักผจญภัย > ล่าแรงค์
แรงค์ : กระเบือกเหล็ก
เลเวล : 20
STR : 0 -> 3
INT : 5 -> 10
VIT : 3 -> 7
AGT : 1 -> 4
DEX : 3 -> 3
CRT : 0 -> 5

ซึ้งอาชีพนักผจญภัยนั้น จะมีมาตั้งแต่กำเนิด ซึ้งเป็นสิ่งที่ควรเป็น แต่ก็มีเยอะผู้คนที่สามารถฝึกจนกลายเป็นนักผจญภัย ส่วนอาชีพข้างหลังจะเด้งขึ้นมาหลังจากเป็นอาชีพที่ควรเป็น เช่น พ่อค้า > นักล่ากำไร หรือ นักผจญภัย > นักล่าก็อปลิน นั้นเอง และนั้นเป็นสิ่งที่เซเลียอธิบายมาไห้ฟังและทาบาตะได้ฟังอย่างใจจดจ่อ และการเป็นนักผจญภัยนั้นไม่เสียค่าสมัครเลยแม้แต่น้อย และหลังจากนั้นทาบาตะได้กล่าวขึ้น
"อย่างชั้นเนี้ย.. เป็นนักผจญภัยได้ไหมนะ"
"เออ.. คุณนานาสึกะหรอค่ะ.."
"ใช่ๆ.."
"ไม่รู้สิค่ะ.. ถ้าสนใจจะลองไปทดสอบดูไหมล่ะค่ะ"
"ได้หรอ!!"
ทาบาตะตาเป็นประกายหลังจากที่เห็นเซเลียบอกแบบนั้น
"ค่ะ.. ตามมาเลยค่ะ"
หลังจากนั้นเซเลียก็เดินนำทางทาบาตะลงไปยังเมืองและในเวลาต่อมาทาบาตะที่ไม่เคยเห็นเมืองยุคกลาพร้อมกับมองภายในตัวเมืองและตกใจไม่น้อยเลยพร้อมมองซ้ายมองขวาตลอดเวลา และคนในเมืองก็เดินไปมาไม่หยุดอย่างกับเดินตลาด และในเวลาต่อมา
"นั้นไงคะ.. ถึงแล้วค่ะ"
เซเลียหยุดเดิมพร้อมกับชี้ไปทางประตูด้านหน้สพร้อมเขียนว่า กิลด์ อยู่เป็นประตูไม่ปิดทั้งบาน ปิดแค่บางส่วนและมีการดีด [เหมือนประตูในบาร์ ยุคกลาง] และทาบาตะกับเซเลียได้เดินเข้าไปในกิลด์ที่มีเสียงค่อนข้างดัง

"เอี๊ยก!!!"

เสียงประตูของทาบาตะดังขึ้นทำไห้กิลด์เงียบไปพักใหญ่และมองมาทางด้านเซเลียกับทาบาตะเองทำไห้ทาบาตะกบัวไม่น้อยทว่าถ้าเทียบร่างกายล่ะก็เท่ากับคุณตาแก่ที่เคยฆ่าตัวเองเลยจึงทำให้ทาบาตะกลัวไม่น้อยและในเวลาต่อมาไม่นานนักก็ได้มีเสียงคุยกันพร้อมกับเสียงซุบซิบ
"เฮ้ยๆ.. เจ้าเด็กนั้นมันไครน่ะ.. มากับยัยเซเลีย คงเป็นเหยื่อใหม่ของยัยนั้นแน่ๆ"
และทาบาตะก็สงสัยกับคำนั้นอย่างมาก และในตอนที่ทาบาตะกำลังเหม่อลอยจู่ๆก็มีเสียงเรียกจากเซเลีย "คุณนานาสึกะ !! คุณนานาสึกะค่ะ!!!" ทำไห้ทาบาตะหันกลับมาหาเซเลียพร้อมเดินไปหา
"นี้ไงค่ะ.."
"อ๊ะอืม.."
-คุณพนักงานหน้าฟรอนซ์- "เชิญกรอกข้อมูลที่นี้เลยค่ะ"
"ค..ครับ"
หลังจากนั้นทาบาตะก็กรอกชื่อข้อมูลบางส่วนลงไปและในเวลาต่อมาพนักงานได้บอกไห้ขึ้นไปชั้นสองเข้าห้องสุดท้ายด้านขวามือเพื่อทดสอบความสามารถ ซึ้งการทดสอบนั้นต้องทดสอบกับทางพนักงานและไม่ไห้คนอื่นเข้าไปด้วย ทาบาตะได้เดินขึ้นไปและเข้าห้องที่พนักงานบอก และนั่งรอที่เก้าอี้มีโต๊ะอยู่ข้างหน้า และมีก้อนกลมๆสีรุ้งว่างอยู่พร้อมมีหญิงสาวผมสีทองหูยาวใส่แว่นตานั่งคอยอยู่
"เออ..."
"เชิญค่ะ.."
"ครับ..."
"ก่อนอื่นเลยเอามือวางบน หินนี้แล้วรวบรวมจิตส่งลงไปเพื่อเป็นพลังเวทย์ เป็นการทดสอบคุณสมบัติ และธาตุที่ถนัด"
หลังจากนั้นทาบาตะได้เอามือว่างแชะทำตามที่ผู้หญิงเมื่อกี้บอกและรวบรวมจิตและในตอนนั้นเองมีแสงส่องออกมาจากก้อนหินอย่างรุนแรงและในจังหวะที่ทาบาตะดีใจนั้นเองจู่ๆแสงก็หายไปและมีบางสิ่งบางอย่างไหลเป็นสีขาวๆอยู่ข้าง แม้แต่ตัวคุณพนักงานเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร

[ซึ้งโดยปกติแล้ว เวทย์จะถูกแบ่งออกเป็น ไฟ น้ำ ลม ดิน สายฟ้า แสง ความมืด กราวิตี้ ฯลฯ และต่ำกว่าเวทย์ธาตุคือเวทย์ ปกติ ไม่มีสายใดสายหนึ่ง ซึ้งจะเปร่งแสงออกมาเป็นแสงสีขาว แต่สำหรับทาบาตะนั้นไม่ใช่ เป็นคล้ายๆสไลม์สีขาวใส ซึ้งถ้าไร้เวทย์ จะไม่ปฏิกิริยาอะไรกับก้อนวงกลมเลย]

แต่ว่าทาบาตะก็ยังมีเป็นเวทย์จึงผ่านถึงแม้ตัวพนักงานเองจะไม่รู้ว่าเป็นอะไรเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปคือการหยดเลือลงการ์ดสีเหลี่ยมและทาบาตะได้หยดลงและมีแสงส่องออกมาปรากฏไห้เห็นตัวหนังสือ

[ค่าสถานะ]
ชื่อ : นานาสึกะ ทาบาตะ
อายุ : 16-17
เพศ : ชาย
อาชีพ : ไร้อาชีพ > ไร้อาชีพ
แรงค์ : เศษเหล็ก
เลเวล : 1
STR : 0
INT : 0
VIT : 0
AGT : 0
DEX : 0
CRT : 0

 

[Note : ที่ค่าทุกอย่างเป็นศูนย์เพราะอยู่ในสถานะเกิดใหม่เอาตามจริงทาบาตะยกอะไรไม่ได้เลยล่ะ]

 

และหลังจากที่ทาบาตะเห็นค่าสถานะตัวเองถึงกับสายหน้าพร้อมถอนหายใจเลยทีเดียวในความคิดของทาบาตะ ถึงจะไม่รู้ว่าค่าพวกนี้มันเป็นค่าอะไรมั้งแต่ได้กลิ่นความกากโชยมาและตัวคุณพนักงานก็ตกใจอยู่ไม่น้อยถึงจะไม่เคยต่อสู้ก็ไม่มีทางที่ค่าทุกอย่างจะเป็น 0 แถมเวล 1เหมือนกับว่าเพิ่งเกิดขึ้นมาเลย แต่ว่าอาชีพกับเซ็ทมาทั้งอาชีพเพิ่มและอาชีพหลักนั้นคือ ไร้อาชีพ และไร้อาชีพนี้ไม่เคยมีมาก่อนเลยด้วยทว่าทุกคนจ้องมีสิ่งที่ถนัดนั้นเองแต่ตัว ทาบาตะกลับบอกว่าไม่มี แต่ว่าทาบาตะกลับผ่านเพราะมีพลังเวทย์ค่อนข้างรุ่นแรง[ดูตอนเปร่งแสงที่ตรวจธาตุ] และทาบาตะได้รับเศษเหล็กและเดินออกจากห้องแต่ทว่าก่อนออกจากห้องจู่ๆเสียงของหญิงสาวพนักงานก็ดังขึ้น
"ระวังหลังไว้ดีๆ..."
เป็นจังหวะเดียวที่ประตูปิดและทาบาตะออกจากห้องซึ้งคำๆนั้นทำไห้ทาบาตะแปลกใจมันมีความหมายว่ายังไงและในตอนนั้นเองเซเลียได้เรียกชื่อทาบาตะและทาบาตะก็ อ๊ะ พร้อมเดินไปหาและทาบาตะได้ตัดสินใจว่า
"อ๊ะ.. จริงด้วยมีภารกิจไรง่ายๆไหมพอดีไม่มีตังค์ ที่จะเช่าห้องนอนเลย.."
"มีค่ะ..."
หลังจากนั้นเซเลียได้เดินไปแนะนำภารกิจซึ้งเป็นภารกิจปราบสไลม์ข้างหุบเหวและเป็นภารกิจที่ได้มากถึง 10 เหรียญซิลเวอร์เลยทีเดียวและทาบาตะได้ตัดสินใจเลือกภารกิจนี้พร้อมกับดึงไปที่เคาท์เตอร์หน้ากิลด์ และทำการยืนยันการรับภารกิจ และในเวลาต่อมาไม่นานจู่ๆก็เสียงคุยกันขึ้น

[เสียงตัวประกอบคุยกัน]
"นี้ๆ รู้รึป่าว.. เรื่องหุบเหวไกล้ๆเมืองน่ะ"
"มันคือ??"
"นี้แกไม่รู้หรอ.. ว่ากันว่าข้างใต้ลึกหุบเหวมีความลึกมากกว่า 4 กิโล อีกนะ แถมข้างล่างยังมีมอนส์เตอร์และปีศาจโหดๆด้วย แล้วก็แม้อยู่ในระดับกระเบือกเพรชยังไม่มีทางรอดเลยถ้าตกลงไปน่ะ!!"
"จริงดิ!!?"

ทาบาตะได้ยินถึงกับเหม่อลอยและเซเลียก็เรียกสิติกบับมาโดย "คุณทาบาตะ!!" และทาบาตะก็หันมาขานตอบเซเลียและเซเลียได้บอกกับทาบาตะ
"ถึงจะแค่ สไลม์ แต่มันก็แกร่งสำหรับมือใหม่ เดี๋ยวชั้นจะช่วยพร้อมกับๆเพื่อนชั้นดีไหมค่ะ"
"เออ.. เพื่อนๆ?"
และก็มีผู้ชายที่ตัวใหญ่เดินมาและเซเลียได้แนะนำไห้ทาบาตะ
"เออ.. แต่ว่าเรื่องเงิน..."
"ไม่เป็นไรๆ ชั้นไม่เอาหรอก"
"คือไม่ใช่เรื่องนั้นนะ.. มันน้อยไห้ไปเยอะแบบนี้.."
"ไม่เป็นไรน่า!!"
"อ๊ะ.. อ่อ.. ครับ!"
หลังจากนั้นทาบาตะก็ได้ไปกับเซเลียพร้อมกับเพื่อผู้ชายสองคนซึ้งตัวไหญ่เรียกว่าเป็นนักล้ามได้เลยและตอนเดินทางไปนั้นไม่ได้ไกล้นักจึงใช้วิธีการเดินแทนที่จะขี้รถลากในเวลาต่อไปถึงจุดหมายทาบาตะได้ทำการเอาดาบออกมาจากวงเวทย์ซึ้งทำคนในกลุ่มตกใจเป็นอย่างมากและมีแสงออกมาจากกำไลหลังจากใช้ซึ้งนั้นทำไห้รู้ทันทีว่านี้เป็นกำไลที่ทำไห้เก็บอาวุธได้

[ 10 นาทีผ่านไป]

"นี้ตัวสุดท้ายสีนะ"
ทาบาตะเหวี่ยงดาบใส่สไลม์และสไลม์ก็ขาดและสลายทว่าปกติแล้วการโจมตีทางกายภาพไม่สามารถทำลายสไลม์ได้แต่ทว่าเป็นเพราะดาบนั้นเอง ทาบาตะได้ปราดเหงือพร้อมกับยืนตรงและหันไปคุยกับเซเลียแต่ทว่า

"ตู๊บ!!"

เสียงค้อนที่กระแทกเข้าต้นคออย่างจำทำไห้ทาบาตะล้มลงกับพื้นสติเลื่อนลางเหมือนๆจะสลบแต่ไม่สลบและทาบาตะมีเลือดไหลเต็มหัวและได้หันน้าขึ้นไปเห็นผู้ชายถือค้อนที่ใช้ฟาดหัวตัวเองและเค้าได้พยายามพูดออกมาแต่เหมือจะไม่เสียงเพร่ะควบคุมร่างกายไม่ได้ "น..นายทำอะไรนะ" ตาเริ่มพร้ามัวไปหมดและได้มองไปอีกเห็นเซเลียถือมีดเบ่มไหญ่พร้อมกับมองด้วยสายตาที่ยิ้มเหมือนจะไม่เป็นมิตร "น..นี้. คุณเซเลียจะทำอะไรน่ะ" แต่ไม่มีเสียงเหมือนเดิมและในเวลาต่อมาเซเลียได้เดินเข้าไกบ้ทาบาตะพร้อมกับกล่าวขึ้น
"ฟังนะ.. คุณนานาสึกะ โลกนี้นะไม่ควรเชื่อใจคนแปลกหน้านะ ชั้นขอปลอกแขนนี้นะ"
กล่าวขึ้นพร้อมใบหน้าที่แสยะยิ้มด้วยน้ำเสียงโหดๆในเวลาต่อมาไม่นานนักสติของทาบาตะได้เริ่มหายไปอย่างช้าๆ และในตอนนั้นเองเซเลียได้ใช้มีดเล่มไหญ่เหวี่ยงลงใส่แขนทาบาตะ
"ฟึ๊ด!!"
เพีนงพริบตาเดียวทาบาตะได้ร้องเสียงดังออกมาได้ในทันที
"อ๊ากกกก!!! ข.. แขนชั้น. ข..แขนชั้น เอาแขนชั้นคืนมา อ๊ากกกกกก!!!! แขนชั้น!!"
เลือดได้พุ้งฉีดอย่างกับน้ำที่เปิดกร๊อกใหม่ๆ ไปทั่วพร้อมกับเสียงทาบาตะที่ร้องลั่นไปทั่ว และเซเลียได้ยิ้ม แต่ทว่าในเวลาต่อมาเลือดได้พุ้งไปถูกหน้าเซเลีย ใบหน้าที่ยิ้มพอใจกลับบิดเบี้ยวไปด้วยความโกธรและความเกลียด พร้อมลุกขึ้น
"ไอ่เวร!!! แกอย่าเอาเลือดสกปรกมาถูกตัวชั้น!!"
และเหยียเข้าที่แขนที่ขาดของทาบาตะและใช้เท้าเจะเข้าที่บาดแผลอย่างรุนแรง "ไอ่เวร!! ไอ่ขยะโสโครก!!! ไอ่นรก!!" เซเลียเตะเข้าที่บาดแผลอย่างรุนแรงทำไห้ทาบาตะร้องดังกว่าเดิม "อ๊ากกกกกก !!!! ข(แขน)..ช(ชั้น).. อ๊ากกกก ย(หยุด).. น(นะ).. อ๊ากกกกกกกกกกก!!!" ร้องจนเสียงหมดและในเวลาต่อมาทาบาตะได้เสียงหายแต่ทว่าก็ไม่หยุดร้องจนสำลักเลือดในเวลาต่อมามีก้อนกลมๆหลุดออกมาจากปากพร้อมกับเลือดเต็มคอและปาก (ลูกกระเดือก) ความเจ็บปวดจึงเพิ่มขึ้นมาที่คอและเซเลียก็เตะเข้าที่ท้องอย่างรุนแรงด้วยความโกธร "แก แก แก ไอ่กรวก ไอ่โสโครก" จนทำไห้ทั้งน้ำลายและเลือไหลออกจากปากพร้อมน้ำหมูกและน้ำตาออกมาในจุดๆเดียว

[ลองอิมเมจเอานะ สำหรับความเจ็บปวดโดนซ้ำแผลเดิม กระเดือกหลุดออกจากคอ =^=]

และในเวลาต่อมาผู้ชายได้ออกมาลากเซเลียออกไปพร้อมกับบอกว่า
"พ..พอเถอะลูกพี่มันตายแล้วมั้ง"
"ชิ.."
ร่างทาบาตะได้แน่นิ่งพร้อมจมกองเลือดแต่ทว่าทาบาตะกลับมีสติอยู่นิดหน่อย และเซเลียได้หยิบเอาแขนและดาบของทาบาตะรวมไปถึงเศษเหล็กที่เป็นแรงค์ของทาบาตะและไห้ผู้ชายโยนร่างทาบาตะลงหุบเหว ทาบาตะที่สติเลื่อนลางไกล้ตายพร้อมความเจ็บปวดที่มหาเจ็บปวดวิ่งมาในร่าง

"อ่า.. นี้ชั้นกำลังจะตายสินะ.."
"ไม่ว่าโลกไหนๆมันก็เหมือนกันสินะ..."
"ตู้บ!!!"
เสียงร่างทาบาตะกระทบกับพื้นที่เร็วกว่าปกติซึ้งปกติสูงลึกถึง 4 กิโล แต่กลับถึงไว้กว่าปกติ และต่อมาจู่ๆก็มีเสียงเรียกทาบาตะที่กำลังเลือนลางแต่กลับเป็นภาษาที่เคยใช้แต่นึกวิธีพูดไม่ออก
"@%#@#&฿@@% [เป็นอะไรรึป่าว]"
"ไครนะ..."
ทาบาตะได้พูดในใจขึ้น (กระเดือกลาแล้วเลยพูดไม่ได้)และทาบาตะก็หลับไป

(สำหรับทาบาตะที่เคยใช้ ก็คือตอนมีกำไลแขน จึงพูดและเข้าใจภาษาได้ แต่ว่าถูกเอากำไลไปแล้วจึงไม่สามารถเข้าใจภาษาได้)

×โปรดติดตามตอนต่อไป×

เป็นไงมั้งล่ะ 555 ความอนาถ ยังไม่จบ รอดูซุปขาทาบาตะได้ตอนต่อไป 555

#ทาบาตะจะเก่งขึ้นไหม
#บอกเลยเก่งขึ้นแน่นวน

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา