HOMESICK : What Is Love รักคืออะไรใครออกแบบ
-
เขียนโดย AUSTINK
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.47 น.
2 ตอน
1 วิจารณ์
3,890 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560 22.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) HOMESICK : What is love "Intro"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความHOMESICK : What is love
[ รักคืออะไรใครออกแบบ ]
INTRO
.....เสียงของรถบนถนนที่กำลังสัญจรกันอย่างหนาแน่นอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพนั้น ไม่สามารถเรียกสติของเด็กนักเรียนมัธยมคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงบริเวณขอบสะพานได้เลย เด็กนักเรียนชายวัยมัธยมปลายคนนี้ต้องเจอเรื่องราวอะไรมากมายที่ทำให้เขาต้องรู้สึกว่าต้องตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างกับตัวเอง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง...
สายลมพัดเฮือกสุดท้ายที่พัดเข้าหาตัวเขาได้จบลงพร้อมกับน้ำตาหยดสุดท้ายที่หยดลงไปสู่แม่น้ำก่อนที่เด็กคนหนึ่งตัดสินใจจะจบชีวิตของตัวเองลง
เพียงเพราะเขารู้สึกว่า “โลกไม่ได้ต้อนรับเขา”
................
พุทธศักราชที่ 2552 / คริสต์ศักราช 2009
25 ธันวาคม ณ โรงเรียนคริสต์เอกชนแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
นับว่าเป็นเทศกาลที่ใครหลายๆคนมักรอคอย เทศกาลแห่งความสุข ที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงอันอบอุ่นที่ทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุขและยิ้มหัวเราะไปกับเทศกาลนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นเทศกาลคริสต์มาส เทศกาลที่เกิดขึ้นทุกๆปีในช่วงฤดูหนาวปลายปีนั่นเอง
เป็นที่รู้ดีอยู่แล้วว่าโรงเรียนคริสต์หรือโรงเรียนเอกชนต่างๆมักจะมีกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเด็กๆนักเรียนคุณครูและผู้ใหญ่อยู่เสมอ ไม่นับแต่โรงเรียนพวกนี้ ถ้าเราลองมองไปรอบๆก็จะรู้ว่าเทศกาลนี้เกิดขึ้นอยู่ทุกๆที่เลยด้วยซ้ำไป
และนี่ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่ทางโรงเรียนคริสต์เอกชนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่ประจำจังหวัดได้ทำการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อมอบความสุขให้แก่ประชนทั้งเด็กๆและผู้ใหญ่ที่มาเข้าร่วมเทศกาลที่โรงเรียนแห่งนี้
“กันน” เสียงเรียกของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ตะโกนออกมาจากตึกเรียนเพื่อเรียกเด็กผู้ชายอีกคนที่นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้หน้าตึกอยู่คนเดียว
“กันๆๆ นี่ อะ” เด็กชายวัยประถมตัวน้อยยืดบางสิ่งให้กับเพื่อนของเขา
“อะไรหรออาร์ม” เด็กชายตัวเล็กทำหน้าสงสัยพร้อมยืดมือของตัวเองแล้วแบมือรับของจากอีกฝ่าย
“เราให้กันนะ”
“มันคืออะไรอะ..”
“ระฆังวันคริสต์มาสไงกัน ที่เราเห็นกันบนต้นไม้ไง”
“อ๋อ สวยจัง.. อ่าวนั่น” เด็กชายตัวเล็กเห็นว่ามีอีกอันหนึ่งติดห้อยอยู่ที่กระเป๋านักเรียนของเพื่อนของเค้า
“อ๋อ พอดีเรามีสองอัน เราให้กันอันหนึ่ง และอาร์มก็เก็บไว้อันหนึ่ง เก็บมันไว้ดีๆนะ เวลากันไม่มีเพื่อนเล่นก็เอาระฆังอันนี้ขึ้นมาดูขึ้นมาแกว่งแล้วกันจะได้นึกถึงอาร์มไง กันจะได้ไม่เหงา”
เด็กชายตัวเล็กมองไปยังระฆังบนฝ่ามือของตัวเองแล้วยิ้มและขำออกมาเป็นเสียงลมออกทางจมูกเล็กน้อยอย่างมีความสุข แน่นอนอยู่แล้วเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน อยู่หมู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เด็กๆ แถมยังเรียนห้องเดียวด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลหนึ่ง เขาทั้งสองสนิทกันมาก ไปไหนไปกัน แต่เด็กชายตัวเล็กที่ชื่อ กัน มักมีนิสัยที่ขี้อายหน่อยๆไม่ค่อยพูดแต่น่ารักนิสัยดีชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่กับเพื่อนๆที่สนิทๆก็จะดูร่าเริง แต่สุขภาพไม่ค่อยดี มีปัญหาทางสุขภาพค่อนข้างบ่อย แต่ก็มีเด็กชายที่ชื่อ อาร์ม เพื่อนสนิทของเขาที่คอยดูแลกันอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยเหลือเวลากันคิดว่ากันจะทำมันออกมาได้ไม่ดี อาร์มนี่แหละจะเป็นคนคอยให้กำลังใจกันและช่วยเหลือกันเสมอ
“แล้วนี่พ่อแม่กันจะมารับตอนไหนหรอ” เด็กชายอาร์มถามด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ฟังแล้วดูอบอุ่น
“กันก็ไม่รู้เหมือนกัน คงยังทำงานไม่เสร็จอะ” เด็กชายกันตอบด้วยน้ำเสียงอย่างแผ่วเบาเหมือนจะเศร้าหน่อยๆ
“พ่อแม่เราจะมารับแล้ว กันอยากกลับพร้อมอาร์มไหมเดี๋ยวให้พ่อแม่เราไปส่งให้ที่บ้านกันก็ได้นะ”
“อ๋ออ ไม่เป็นไร อาร์มกลับก่อนเลย เราเกรงใจพ่อแม่อาร์มอะ แค่นี้เรารอได้” เด็กชายตัวเล็กพูดพร้อมกับยิ้มให้กับเด็กชายอีกคนหนึ่ง
“อ่าวหรอ” เด็กชายอาร์มพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเชิงว่าไม่เป็นอะไรจริงๆหรอ รอคนเดียวได้แน่ๆนะ เพราะเด็กชายตัวน้อยกลัวเด็กชายตัวเล็กจะเหงาและต้องนั่งรออยู่เพียงคนเดียว
“ไม่เป็นไรจริงๆนะ” เด็กชายตัวน้อยถามเด็กชายตัวเล็กอีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่ใจ
“อือ ไม่เป็นไร กลับก่อนได้เลย” ในขณะที่เด็กชายกันพูด รถพ่อแม่ของเพื่อนของเขาก็มาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองคน
“อาร์มลูก กลับบ้านกัน” เสียงผู้หญิงในรถคันนั้นดังออกมาด้วยความสดใสพร้อมที่จะมารับลูกของตัวเองกลับบ้านไปพักผ่อนด้วยกัน
“ครับแม่” เด็กชายอาร์มตอบกลับแม่ของเขา
“งั้นอาร์มกลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ” เด็กชายอาร์มพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถของเขา
“อือ ขอบคุณนะ ไว้เจอกันตอนปีใหม่นะ” เด็กชายทั้งสองยกมือทำท่าทางบอกลากันในวันนี้ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านและพักผ่อนกับช่วงปิดเรียนคริสต์มาสปีใหม่นี้ เด็กชายตัวน้อยมองเพื่อนของเขาแทบจะไม่ละสายตาของเขาออกจากเพื่อนของเขาเลย เพียงเพราะเขาเป็นห่วงว่าเพื่อนของเขาจะอยู่ตัวคนเดียวแล้วเหงาไม่มีคนคอยเล่นด้วย...
พุทธศักราชที่ 2553 / คริสต์ศักราช 2010
เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับปีการศึกษาใหม่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กัน เด็กชายตัวเล็กที่จะอยู่กับเด็กชายตัวน้อยที่ชื่ออาร์มเสมอ ทุกวันนี้ เขาต้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนที่คบหากับเขาเลยเพียงสักคนเดียว กัน ยังมีเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนในกลุ่มที่คอยไปไหนมาไหนภายในโรงเรียนอยู่ด้วย แต่ไม่มีเพื่อนที่ชื่ออาร์มที่คอยอยู่ใกล้ๆคอยดูแลและอยู่ด้วยกันในยามที่กันเหงาอีกแล้ว
ไม่มีอาหารมื้อสุดท้ายที่กินด้วยกันก่อนจากลา คำพูดสุดท้ายกำลังใจสุดท้ายที่จะบอกกันและกันเสมอก่อนที่จะจากลา เห็นหน้าครั้งสุดท้าย พูดคุยกันครั้งสุดท้าย เล่นกันครั้งสุดท้าย ก็ไม่มีก่อนที่จะมารู้ว่าจะไม่ได้มาอยู่ด้วยกันใกล้ๆอีกแล้วในวันนี้
อาร์มและครอบครัวมีเรื่องบางสิ่งบางอย่างที่ต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่กรุงเทพช่วงต้นปีหลังจากปิดเรียนช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีใหม่ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ด่วนซะจนไม่ได้มีการบอกล่าวให้ใครคนรู้จักใกล้ๆฟังหรือรู้ถึงเรื่องการย้ายบ้านกันมากมายเลย
ซึ่งกันเพื่อนสนิทของอาร์มก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกันว่าทำไม เขาหวังว่าเพื่อนสนิทของเขาจะกลับมาหาเขาสักวันหนึ่ง และจะได้พบเจอกันอีกสักวันหนึ่ง แต่เวลาได้ผ่านไปเรื่อยๆ ดำเนินผ่านไปเกือบจะเป็นปีจนจะเรียนจบชั้นประถม เขาก็ยังไม่รู้สาเหตุของการย้ายบ้านของเพื่อนสนิทของเขา และไม่ได้มีการติดต่อหากันทางไหนอีกเลย
“สักวัน วันเหล่านั้นมันต้องกลับมาอีก ผมเชื่ออย่างนั้นนะ”
พูดคุยกันได้ทาง Hashtag Twitter นี้นะ
#1HOMESICKWhatIsLove
จบกันไปแล้วกับ INTRO เริ่มเรื่อง เป็นยังไงกันบ้างครับ มันออกมาโอเคไหม 55555555 อย่าพึ่งหาว่าเรื่องนี้ต้องเศร้าต้องจบไม่happyแน่นอนกันก่อนนะครับ ค่อยๆติดตามกันไป อันนี้มันพึ่งเริ่มครับ :)
ยังไงก็จะพยายามทำให้มันออกมาดีที่สุดนะครับ จะพยายามนำทุกสิ่งอย่างที่ทุกคนเห็นว่าควรแก้ไปแก้ไขและปรับปรุงนะครับ สามารถติชมกันได้เสมอนะครับ คำไหนผิดหรือบริบทไหนควรเป็นยังไงสามารถบอกได้นะครับผมจะได้นำไปแก้ไขและพัฒนาต่อไป
ถ้าชอบก็อย่าลืมที่จะคอมเม้นและแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนกันนะครับ T^T
[ รักคืออะไรใครออกแบบ ]
INTRO
.....เสียงของรถบนถนนที่กำลังสัญจรกันอย่างหนาแน่นอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพนั้น ไม่สามารถเรียกสติของเด็กนักเรียนมัธยมคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงบริเวณขอบสะพานได้เลย เด็กนักเรียนชายวัยมัธยมปลายคนนี้ต้องเจอเรื่องราวอะไรมากมายที่ทำให้เขาต้องรู้สึกว่าต้องตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างกับตัวเอง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง...
สายลมพัดเฮือกสุดท้ายที่พัดเข้าหาตัวเขาได้จบลงพร้อมกับน้ำตาหยดสุดท้ายที่หยดลงไปสู่แม่น้ำก่อนที่เด็กคนหนึ่งตัดสินใจจะจบชีวิตของตัวเองลง
เพียงเพราะเขารู้สึกว่า “โลกไม่ได้ต้อนรับเขา”
................
พุทธศักราชที่ 2552 / คริสต์ศักราช 2009
25 ธันวาคม ณ โรงเรียนคริสต์เอกชนแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
นับว่าเป็นเทศกาลที่ใครหลายๆคนมักรอคอย เทศกาลแห่งความสุข ที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงอันอบอุ่นที่ทำให้ทุกคนรู้สึกมีความสุขและยิ้มหัวเราะไปกับเทศกาลนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นเทศกาลคริสต์มาส เทศกาลที่เกิดขึ้นทุกๆปีในช่วงฤดูหนาวปลายปีนั่นเอง
เป็นที่รู้ดีอยู่แล้วว่าโรงเรียนคริสต์หรือโรงเรียนเอกชนต่างๆมักจะมีกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเด็กๆนักเรียนคุณครูและผู้ใหญ่อยู่เสมอ ไม่นับแต่โรงเรียนพวกนี้ ถ้าเราลองมองไปรอบๆก็จะรู้ว่าเทศกาลนี้เกิดขึ้นอยู่ทุกๆที่เลยด้วยซ้ำไป
และนี่ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่ทางโรงเรียนคริสต์เอกชนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่ประจำจังหวัดได้ทำการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาเพื่อมอบความสุขให้แก่ประชนทั้งเด็กๆและผู้ใหญ่ที่มาเข้าร่วมเทศกาลที่โรงเรียนแห่งนี้
“กันน” เสียงเรียกของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ตะโกนออกมาจากตึกเรียนเพื่อเรียกเด็กผู้ชายอีกคนที่นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้หน้าตึกอยู่คนเดียว
“กันๆๆ นี่ อะ” เด็กชายวัยประถมตัวน้อยยืดบางสิ่งให้กับเพื่อนของเขา
“อะไรหรออาร์ม” เด็กชายตัวเล็กทำหน้าสงสัยพร้อมยืดมือของตัวเองแล้วแบมือรับของจากอีกฝ่าย
“เราให้กันนะ”
“มันคืออะไรอะ..”
“ระฆังวันคริสต์มาสไงกัน ที่เราเห็นกันบนต้นไม้ไง”
“อ๋อ สวยจัง.. อ่าวนั่น” เด็กชายตัวเล็กเห็นว่ามีอีกอันหนึ่งติดห้อยอยู่ที่กระเป๋านักเรียนของเพื่อนของเค้า
“อ๋อ พอดีเรามีสองอัน เราให้กันอันหนึ่ง และอาร์มก็เก็บไว้อันหนึ่ง เก็บมันไว้ดีๆนะ เวลากันไม่มีเพื่อนเล่นก็เอาระฆังอันนี้ขึ้นมาดูขึ้นมาแกว่งแล้วกันจะได้นึกถึงอาร์มไง กันจะได้ไม่เหงา”
เด็กชายตัวเล็กมองไปยังระฆังบนฝ่ามือของตัวเองแล้วยิ้มและขำออกมาเป็นเสียงลมออกทางจมูกเล็กน้อยอย่างมีความสุข แน่นอนอยู่แล้วเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน อยู่หมู่บ้านเดียวกันตั้งแต่เด็กๆ แถมยังเรียนห้องเดียวด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลหนึ่ง เขาทั้งสองสนิทกันมาก ไปไหนไปกัน แต่เด็กชายตัวเล็กที่ชื่อ กัน มักมีนิสัยที่ขี้อายหน่อยๆไม่ค่อยพูดแต่น่ารักนิสัยดีชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่กับเพื่อนๆที่สนิทๆก็จะดูร่าเริง แต่สุขภาพไม่ค่อยดี มีปัญหาทางสุขภาพค่อนข้างบ่อย แต่ก็มีเด็กชายที่ชื่อ อาร์ม เพื่อนสนิทของเขาที่คอยดูแลกันอยู่ใกล้ๆ คอยช่วยเหลือเวลากันคิดว่ากันจะทำมันออกมาได้ไม่ดี อาร์มนี่แหละจะเป็นคนคอยให้กำลังใจกันและช่วยเหลือกันเสมอ
“แล้วนี่พ่อแม่กันจะมารับตอนไหนหรอ” เด็กชายอาร์มถามด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ฟังแล้วดูอบอุ่น
“กันก็ไม่รู้เหมือนกัน คงยังทำงานไม่เสร็จอะ” เด็กชายกันตอบด้วยน้ำเสียงอย่างแผ่วเบาเหมือนจะเศร้าหน่อยๆ
“พ่อแม่เราจะมารับแล้ว กันอยากกลับพร้อมอาร์มไหมเดี๋ยวให้พ่อแม่เราไปส่งให้ที่บ้านกันก็ได้นะ”
“อ๋ออ ไม่เป็นไร อาร์มกลับก่อนเลย เราเกรงใจพ่อแม่อาร์มอะ แค่นี้เรารอได้” เด็กชายตัวเล็กพูดพร้อมกับยิ้มให้กับเด็กชายอีกคนหนึ่ง
“อ่าวหรอ” เด็กชายอาร์มพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเชิงว่าไม่เป็นอะไรจริงๆหรอ รอคนเดียวได้แน่ๆนะ เพราะเด็กชายตัวน้อยกลัวเด็กชายตัวเล็กจะเหงาและต้องนั่งรออยู่เพียงคนเดียว
“ไม่เป็นไรจริงๆนะ” เด็กชายตัวน้อยถามเด็กชายตัวเล็กอีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่ใจ
“อือ ไม่เป็นไร กลับก่อนได้เลย” ในขณะที่เด็กชายกันพูด รถพ่อแม่ของเพื่อนของเขาก็มาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองคน
“อาร์มลูก กลับบ้านกัน” เสียงผู้หญิงในรถคันนั้นดังออกมาด้วยความสดใสพร้อมที่จะมารับลูกของตัวเองกลับบ้านไปพักผ่อนด้วยกัน
“ครับแม่” เด็กชายอาร์มตอบกลับแม่ของเขา
“งั้นอาร์มกลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ” เด็กชายอาร์มพูดประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถของเขา
“อือ ขอบคุณนะ ไว้เจอกันตอนปีใหม่นะ” เด็กชายทั้งสองยกมือทำท่าทางบอกลากันในวันนี้ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านและพักผ่อนกับช่วงปิดเรียนคริสต์มาสปีใหม่นี้ เด็กชายตัวน้อยมองเพื่อนของเขาแทบจะไม่ละสายตาของเขาออกจากเพื่อนของเขาเลย เพียงเพราะเขาเป็นห่วงว่าเพื่อนของเขาจะอยู่ตัวคนเดียวแล้วเหงาไม่มีคนคอยเล่นด้วย...
พุทธศักราชที่ 2553 / คริสต์ศักราช 2010
เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับปีการศึกษาใหม่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กัน เด็กชายตัวเล็กที่จะอยู่กับเด็กชายตัวน้อยที่ชื่ออาร์มเสมอ ทุกวันนี้ เขาต้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนที่คบหากับเขาเลยเพียงสักคนเดียว กัน ยังมีเพื่อนร่วมห้อง เพื่อนในกลุ่มที่คอยไปไหนมาไหนภายในโรงเรียนอยู่ด้วย แต่ไม่มีเพื่อนที่ชื่ออาร์มที่คอยอยู่ใกล้ๆคอยดูแลและอยู่ด้วยกันในยามที่กันเหงาอีกแล้ว
ไม่มีอาหารมื้อสุดท้ายที่กินด้วยกันก่อนจากลา คำพูดสุดท้ายกำลังใจสุดท้ายที่จะบอกกันและกันเสมอก่อนที่จะจากลา เห็นหน้าครั้งสุดท้าย พูดคุยกันครั้งสุดท้าย เล่นกันครั้งสุดท้าย ก็ไม่มีก่อนที่จะมารู้ว่าจะไม่ได้มาอยู่ด้วยกันใกล้ๆอีกแล้วในวันนี้
อาร์มและครอบครัวมีเรื่องบางสิ่งบางอย่างที่ต้องย้ายบ้านไปอยู่ที่กรุงเทพช่วงต้นปีหลังจากปิดเรียนช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีใหม่ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ด่วนซะจนไม่ได้มีการบอกล่าวให้ใครคนรู้จักใกล้ๆฟังหรือรู้ถึงเรื่องการย้ายบ้านกันมากมายเลย
ซึ่งกันเพื่อนสนิทของอาร์มก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นกันว่าทำไม เขาหวังว่าเพื่อนสนิทของเขาจะกลับมาหาเขาสักวันหนึ่ง และจะได้พบเจอกันอีกสักวันหนึ่ง แต่เวลาได้ผ่านไปเรื่อยๆ ดำเนินผ่านไปเกือบจะเป็นปีจนจะเรียนจบชั้นประถม เขาก็ยังไม่รู้สาเหตุของการย้ายบ้านของเพื่อนสนิทของเขา และไม่ได้มีการติดต่อหากันทางไหนอีกเลย
“สักวัน วันเหล่านั้นมันต้องกลับมาอีก ผมเชื่ออย่างนั้นนะ”
พูดคุยกันได้ทาง Hashtag Twitter นี้นะ
#1HOMESICKWhatIsLove
จบกันไปแล้วกับ INTRO เริ่มเรื่อง เป็นยังไงกันบ้างครับ มันออกมาโอเคไหม 55555555 อย่าพึ่งหาว่าเรื่องนี้ต้องเศร้าต้องจบไม่happyแน่นอนกันก่อนนะครับ ค่อยๆติดตามกันไป อันนี้มันพึ่งเริ่มครับ :)
ยังไงก็จะพยายามทำให้มันออกมาดีที่สุดนะครับ จะพยายามนำทุกสิ่งอย่างที่ทุกคนเห็นว่าควรแก้ไปแก้ไขและปรับปรุงนะครับ สามารถติชมกันได้เสมอนะครับ คำไหนผิดหรือบริบทไหนควรเป็นยังไงสามารถบอกได้นะครับผมจะได้นำไปแก้ไขและพัฒนาต่อไป
ถ้าชอบก็อย่าลืมที่จะคอมเม้นและแชร์กันนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนกันนะครับ T^T
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ