Children in the Forest เด็กตัวเล็กในป่าใหญ่

 
 
 
                         สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อ จ๋า ฉันอายุ 15 ปี ฉันมีน้องสาวคนหนึ่ง ชื่อ จ๊ะ อายุ 10 ขวบเราสองคนอยู่กับตายาย คือ ตา นา กับยาย ยิ้ม พ่อแยกทางไปจากพวกเราตั้งแต่แม่เริ่มมีจ๊ะ ดั่งสวรรค์กลั่นแกล้ง ทันทีที่คลอดน้องสาวฉัน แม่ก็ตาย นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันกับน้องมีแค่ตายายเท่านั้นที่เป็นครอบครัว แต่ฉันไม่รู้สึกขาดอะไรเลย เพราะตายายคือส่วนที่เติมเต็มในชีวิตฉัน และเราพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้น้องสาวของฉัน รู้สึกแบบนั้น
                         บ้านของเราอยู่บนเนินเขา ห่างจากหมู่บ้าน 200 เมตร ซึ่งรอบๆก็มีบ้านของเพื่อนบ้านอยู่ประปราย หมู่บ้านของเราอยู่ในป่า ส่วนใหญ่มักจะอยู่ข้างล่าง คือที่ลุ่ม ที่สามารถเพาะปลูกพืชได้ง่าย ครอบครัวฉันเองก็มีที่ราบลุ่มสำหรับเพาะปลูกเช่นกัน อยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านห่างจากบ้านฉันราว 1 กิโลเมตร ซึ่งตอนนี้มีข้าวเต็มพื้นที่ เพราะช่วงนี้น้ำจากลำธารข้างหมู่บ้านกำลังมาก ทุกคนในหมู่บ้านรู้ดีว่าฤดูกาลรนี้ เหมาะแก่การเพาะปลูก จึงปลูกข้าวเตรียมเก็บไว้ฤดูแล้ง
                              ตอนนี้ฉันกับตากำลังออกมาหาฟืนในป่า ที่นี่ เราไม่ตัดไม้ที่ยังเขียวสด ไม้ที่ตายหรือโค่นล้มจึงมักจะถูกจับจองโดยผู้ที่เจอก่อน ต้นไม้เขียวสดที่จะถูกตัด ก็ต่อเมื่อมีคู่แต่งงานใหม่ โดยที่พ่อแม่ในบ้านหลังนั้นยังอยู่ คู่แต่งงานใหม่จะตัดต้นไม้ที่เขียวสดได้เพียง 6 ต้นเท่านั้น ในการลงหลักสร้างบ้านสำหรับครอบครัวตนเอง ส่วนที่แหลือจะใช้ไม้ไผ่ ซึ่งออกใหม่อยู่ทุกปี และโตเร็วแทน ฉันกับตาเก็บฟืนที่อยู่ตามพื้นที่มีขนาดใหญ่หน่อย เพื่อนำไปเผาเป็นถ่าน เรามีเปลป่านสำหรับขนสิ่งของใช้ขนฟืนเหล่านี้ ตาฉันอายุ 67 ปี แก่กว่ายาย 3 ปี ท่านทั้งสองยังแข็งแรงไม่มีที่ติ เมื่อได้ฟืนเต็มเปลแล้ว เราก็หามไปบ้าน ตาอยู่ข้างหน้า เพราะฝนเมื่อวานทำให้พื้นค่อนข้างแฉะ
                              เมื่อมาถึงบ้าน ฉันขุดหลุมขนาดผืนผ้า ลึกประมาณครึ่งแข้ง ที่เดิมที่ใช้เผาถ่าน เพราะอยู่ริมลำธาร สะดวกต่อการเผาถ่าน รอบๆก็มีหลุมเผาถ่านของชาวบ้านอยู่มากมาย ทั้งที่เก็บถ่านไปแล้ว และกำลังเผาอยู่ ตาฟันฟืนขนาดสั้นกว่าหลุมเล็กน้อย เพื่อให้ใส่ลงในหลุมได้
"จ๋าไปเอาฟางมาสิลูก"
"จ้ะ"
                              ฉันวิ่งขึ้นไปบ้านที่อยู่ไม่ไกล ที่บ้านฉันมีคอกสำหรับใส่ฟางอยู่หลังบ้าน ฉันเอาฟางยัดใส่ถุงป่าน เหยียบอัดลงจนแน่น 2 ถุงป่าน มัดปากถุงป่าน จากนั้นเอาเชือกยาวๆ ใช้ปลายเชือกมัดถุงป่านข้างละถุงทั้งสองฝั่ง สำหรับสะพาย ฉันสะพายถุงป่านใส่ฟางไปหาตา ตาฟันฟืนใกล้เสร็จแล้ว ฉันจึงเอาฟืนที่ฟันแล้วลงไปวางในหลุม โดยเอาท่อนที่สั้นที่สุดสามท่อนที่ตาฟันวางไว้ต่างหากวางก่อน สามท่อนนี้เอาวางฝั่งหัวและท้ายของหลุมทั้งสองฝั่งตรงข้ามกันและตรงกลาง เอาฟางเศษฟืนและกิ่งไม้กองตรงที่ว่างในนั้น แล้วนำฟืนที่ยาวกว่ามาวางด้านบน โดยวางพาดบนฟืนสามท่อนก่อนหน้านี้ เรียงขึ้นมาเรื่อยๆ ที่วางฟืนแบบนี้ เพื่อให้มีช่องว่างสำหรับไฟ เมื่อวางฟืนหมดแล้ว ก็เอาฟางมากลบทั้งด้านบนและด้านข้าง ตาตักดินกลบฟางอีกที เหลือไว้ตรงฝั่งหัวหรือท้ายฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เอาไม่ขีดไฟจุดคบไม้สอดเข้าไปจ่อกองฟางกองเศษไม้ด้านในให้ติดไฟ รอจนไฟลุกติดฟืน จึงตักดินปิด
"ไปกินข้าวกันเถอะ"
"จ้ะ"
                                   ยายกับจ๊ะกำลังตากเมล็ดถั่วอยู่หน้าบ้าน เมื่อเห็นฉันกับตากลับมาก็ผละเข้าไปในบ้าน ตาเดินไปตักน้ำในตุ่มล้างมือ ฉันไปช่วยจ๊ะตากถั่วจนเสร็จ
"วันนี้ยายทำแกงหัวบุกด้วย"
"จริงหรอ"
                                   ฉันรีบไปดูตามที่จ๊ะบอก ยายกำลังตักแกงหัวบุกใส่ถ้วยดินเผา ดีใจจัง ได้กินแกงหัวบุก ฉันรีบไปล้างมือที่โถล้างชาม แล้วมาช่วยยายตั้งโต๊ะกินข้าว จ๊ะจูงมือตามาในครัว ฉันตักข้าวใส่จานดินเผาครบคนมาวางให้ทุกคน แล้วจึงนั่งลงกินข้าว ที่นี่นั่งพื่นกัน มีเพียงโต๊ะไม้สูงครึ่งแข้งไว้วางอาหารเท่านั้น