คำตอบของความรัก
-
1) วันวุ่นๆ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ คุณคิดว่าความรักคืออะไร? คำถามนี่ไม่มีคนตอบได้เลย แม้แต่คนที่แต่งงาน มีครอบครัวที่สุขสันต์ บางคู่ตอบได้แค่ว่า ความรักนั้นคือการเชื่อใจ ความรักคือการอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ความรักคือการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความรักคือการใช้กำลังแล้วมันจะดีขึ้น แต่ทำไมบ้างคนถึงได้บอกกันว่าความรักนั้นไม่สามารถกินได้ แล้วตกลงรักคืออะไรกันแน่?
ฉันเป็นเด็กอายุ 20 เป็นนักเขียนระดับวัยต้นๆของประเทศ ฉันไม่เคยมีความรัก เพื่อนเกือบทั้งหมดของฉันนั้นมีแฟนกันหมดยกเว้นฉัน ฉันเป็นเด็กมหาลัยชื่อดังทุกคนไม่เคยรู้ตัวตนของฉันเลยสักคนว่าฉันเป็นใครในวงการการเขียนนิยาย แม้แต่เพื่อนสนิทของฉัน เธอชื่อว่าพิม เธอเป็นเด็กรักสวยรักงามตามธรรมชาติของสตรีต้องผู้(ชาย) ฉันรู้ว่าการเขียนของฉันไม่ได้ส่งผลให้เธอสนใจฉันนอกจากคำถามที่ว่า ‘ทำอะไรอยู่หรอ?’ ฉันได้แค่ตอบว่า ‘ทำงาน’ ฉันไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าฉันทำงานเกี่ยวกับนักเขียน แต่ยังไงสักวันเธอก็ต้องรู้อยู่ดี
ณ มหาลัย
เช้าอีกวัน วันนี้ฉันมีเรียน 10 โมง ฉันอยู่ปี 2 คณะอักษรศาสตร์ เอกจิตวิทยา วันนี้คงไม่มีเรียนตอนเย็นอีกนะเพราะวันนี้ต้องไปสำนักงานอีก ฮื่ออ~
ฉันเดินเข้ามาในมหาลัยพร้อมเดินใส่หูฟังฟังเพลงไปเพลินๆในช่วงเดิน ตึกของฉันอยู่ข้างในมหาลัยเกือบๆ 3 กิโลเมตร เดินจนขาเรียวเลยก็ว่าได้ ระหว่างที่ฉันเดิน รถสปอร์ตสีแดงขับมาใกล้ๆทางคนเดินพร้อมบีบแตร์
แป๊น แป๊น!
“ไง พลอยเดินมาคนเดียวหรอ?” แยม เพื่อนร่วมสาขาปรับกระจกรถลงพร้อมทักทาย ฉันถอดหูฟังลงพร้อมยิ้มให้เธอ
“อื้ม! ใช่นึกว่าฉันเดินมากับผีเหรอ?” ฉันยิ้มพร้อมหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ ฉันล้อเล่นนะ อย่าคิดมาก”
“จ้าๆ พอดีฉันจะให้เธอฝากบอกอาจารย์หน่อยละจ้ะ ว่าฉันไม่สบาย”
“แล้วเธอเป็นหนักหรือป่าว”
“ไม่หรอกจ้ะ งั้นฉันฝากหน่อยนะพลอย” ฉันพยักหน้าให้แยม แยมยิ้มให้แบบปรีดาพร้อมปรับกระจกขึ้นแล้วเร่งความเร็วรถเพื่อออกไปทางประตูทางออกของมหาลัย
ฉันเดินมาจนถึงตึกคณะ เดินเข้าไปพร้อมใส่หูฟังเช่นเดิม ขึ้นตึกคณะพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง ฉันต้องขึ้นไปถึงชั้นที่ 3 กระโปรงฉันยาวเท่าเข่าจึงไม่ได้เป็นผลอะไรกับการขึ้นมาหนักหรอก แต่ความจริงก็มาอยู่ตรงหน้าของฉันแล้ว ฉันอยู่หน้าห้องเรียน เสียงคนกำลังดีใจออกมาจากในห้อง ฉันเดินเข้าไปอย่างอึนๆ
“เฮ้! ไอหัวหน้าห้องตัวแสบของพวกเรามาแล้ว อาจารย์!!!!” จิ๊กโก้ประจำห้องตะโกนเรียกอาจารย์ที่กำลังเชียร์บอลเล่อย่างออกหน้าออกตา อาจารย์หันมาพร้อมยิ้มให้ฉัน
“โอ๊ว! มาแล้วเหรอพลอย มาๆ มานั่งเชียร์บอลเล่กัน” อาจารย์พูดเสร็จท่านก็หันไปเชียร์บอลเล่เช่นเดิม ฉันหันไปมองรอบๆห้องไปเจอพิมที่กำลังแต่งหน้าที่จุดที่พวกเรานั่งเรียนกัน ฉันเดินมาหาเธอ
“พิมมันเกิดอะไรขึ้น? แล้ววันนี้ไม่เรียนกันหรอ?” ฉันวางกระเป๋าเป้ลงพร้อมนั่งข้างๆเธอ
“วันนี้ไม่มีเรียน อาจารย์ตั๋งแกติดเชียร์บอลเล่ระดับโลกอยู่นะซิ แกเลยว่าวันนี้ไม่ต้องเรียนเลยสะดีกว่า”
“แบบนี้ก็ได้หรอ งั้นว่างๆแบบนี้พวกเราไปนั่งข้างล่างตึกกันได้ไหม?”
“ฉันว่าได้นะ เพราะหลังจากเช็คชื่อเสร็จอาจารย์แกก็ปล่อย แกคงไม่ว่าหรอก ที่เราจะไปขอไปนั่งข้างล่าง”
“อืมๆ” ฉันลุกขึ้นเพื่อจะไปเขียนเช็คชื่อ
“พลอย!” พิมเรียกฉันทันทีก่อนที่จะไปเซ็นชื่อ “ฉันเช็คชื่อให้แล้วนะ” พิมยิ้มเบาๆ
“ขอบใจนะ” ฉันยิ้มให้เธอเช่นกัน
ฉันเดินไปหาที่โต๊ะอาจารย์เพื่อจะไปขอลงไปนั่งด้านล่างของตึก ฉันเดินไปข้างๆท่าน ท่านหันมาพอดีที่ฉันกำลังเดินเข้าไป
“เอ้า! พลอยมีอะไรหรอลูก?”
“คือ หนูจะขอลงไปนั่งด้านล่างตึกจะได้ไหมค่ะ?”
“ได้ซิ ถ้าเช็คชื่อแล้วก็ลงไปได้เลย แล้วหนูจะลงไปทำไมละ? มีอะไรหรือป่าว?”
“ไม่มีอะไรค่ะ พอดีหนูอยากไปกินไอติมด้านล่างเลยจะขออาจารย์ลงไปเลยทีเดียวเพราะหลังจากวิชานี้หนูก็ว่างแล้ว”
“ได้ๆ ถ้าอย่างงั้นคาบหน้าบอกให้เพื่อนๆทำแบบทดสอบส่งอาจารย์ภายในเย็นดีด้วยละ เดียวอาจารย์จะส่งไปในกรุ๊ป”
“รับทราบค่ะอาจารย์” ฉันไหว้ท่านแล้วเดินออกมา แต่ฉันกลับนึกบ้างอย่างออกแล้วเดินถอยหลังไปหาท่าน “อาจารย์ วันนี้แยมลาป่วยนะคะ”
“โอเค ฝากบอกแยมด้วยนะพลอย”
“ค่ะ”
ณ ด้านล่างตึก ใต้ต้นมะม่วงเล็กๆ
ฉันอยู่ใต้ตึกของคณะ ที่กระเป๋าฉันหนักๆเนี่ย เพราะฉันเอาแม็คบุ๊คมา เพื่อจะได้จบนิยายอีกหนึ่งเรื่องของฉัน ฉันเขียนเรื่องนี้ราวๆ 6 เดือนเศษ เรื่องนี้มันเป็นซีรี่ย์เติมเต็มรัก มันมียอดขายเกือบๆ ห้าหมื่นลืมต่อหนึ่งภาค ซีรี่ย์มันมีทั้งหมดประมาณ 4 เรื่องใหญ่ๆเลยละ เรื่องแรกก็ค้นข้ามเวลาหารัก เรื่องที่สองซ่อนรัก เรื่องที่สามเกมส์ยึดเหนี่ยวรัก และที่ฉันกำลังจะจบเรื่องคือ รักข้ามแดนเป็นเรื่องที่สี่
“พลอยแกทำอะไรอยู่อ่ะ เห็นเอามาเกือบทุกวันเลยนะแม็คบุ๊คเนื้ย”
“ทำงานเหมือนเดิมละแก”
“หรอ? อ๋อ แล้วเมื่อไหร่แกจะบอกฉันซะที?” เสียงพิมเริ่มจริงจังขึ้น ฉันมองหน้าเธอแล้วเล่นชักลังเลกับสายตาที่พิมมองมา
“เห้ยบ้า! ฉะ..ฉะ..ฉันก็ทำงาน..กะ..กะ...เกี่ยวกับ...ออ..ออ”
“คือฉันหมายถึงว่า งานที่แกทำอะ มันเป็นความลับมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“มะ..ไม่...ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ฉะ..ฉันทำเกี่ยวกับการ..ออ..บริหารงานของบริษัทของแม่ฉันแค่นั้นเอง”
“หรอ? มันยากไหมละ? ฉันขอดูหน่อยสิได้ไม”
“ไม่ได้! คือ..ฉันหมายถึง...ไม่ได้หรอก...เพราะธุระกิจของแม่ฉันมันใหญ่สุดๆ ฉันต้องขอโทษทีไม่ให้ดูนะ ที่จริงๆฉันก็อยากให้ดูนั้นและ”
“อ๋อ นึกว่าจะงกไม่ให้ดูซะอีก ฉันไม่ดูของเธอหรอก สู้ๆนะแก”
“ขอบใจแกมากๆนะ” ฉันยิ้มให้พิมเหมือนเดิม ฉันกำลังเขียนใกล้จะจบแล้วพิมที่กำลังเล่นมือถือของเธอ เธอหันหน้ามาทางฉัน
“อีพลอย แกวันนี้ฉันขอไปบ้านแกได้ไหม?”
“มีอะไรหรอพิม”
“คือ ฉันทะเลาะกับแม่อีกแล้วละดิ แม่คิดว่าฉันโดดเรียนวันนี้”
“เอ้า แล้วเธอไปบอกแม่ว่าไง”
“ก็ฉันบอกว่า ‘แม่ๆ วันนี้ตอนเที่ยงหนูขอไปเซ็นทรัลหน่อยนะ’ บอกไปแค่นี้เขาก็นึกว่าฉันโดดเรียนเลย”
“ให้ตาย! ได้ๆงั้นวันนี้เธอมานอนบ้านฉันก่อนก็ได้ แต่เที่ยงนี้ฉันต้องไปทำธุระก่อน เดียวประมาณบ่ายสามฉันก็ถึงห้องละ” ฉันหยิบคุณแจที่อยู่ในกระเป๋าสตัง ให้กับพิม “งั้นแกไปอยู่ห้องก่อนเดียวฉันตามไป”
“ได้ๆ เดียวฉันไปซื้ออะไรให้แกกินตอนเย็นแล้วกันนะพลอย”
“โอเครได้เลย” ฉันมองนาฬิกาข้อมือของฉัน ฉันสีหน้าเปลื่ยนทันที “ชิบพาย! งานเข้าแล้วกูเอ๋ยยย”
“เกิดอะไรขึ้นพลอย!”
“เดียวฉันขอตัวไปก่อนนะ” ฉันรีบเก็บกระเป๋าพร้อมเซฟนิยายทันที มันสายทีพี่ดานัดดูงานแล้วซะด้วย ให้ตายเถอะซิส ฉันเก็บของเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงวิ่งไปหน้ามหาลัยเพื่อกระโดดขึ้นรถแท็คซี่ทันที
“โชคดีนะเพื่อนรัก เดียววันนี้กินหมูกระทะกันนะ” เสียงพิมไล่หลังมาแต่ใกล้ ฉันชูมือขึ้นพร้อมทำโอเคให้เธอ
ณ สำนักงานมหัศจรรย์
คุณอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ชื่อสำนึกงานนี้มีชื่อว่า ‘มหัศจรรย์’ คัดนักเขียนหลายๆประเภทระดับต้นๆมารวมกันอยู่ที่นี้ แน่นอนชื่อของฉันก็อยู่ในนี้เช่นกันแต่ไม่ได้อยู่อันดับหนึ่งของคนรู้จักหรอกนะ แต่อยู่อันดับหนึ่งของตลาดมากกว่า ฉันเดินเข้าไปในตึก พี่ๆน้องๆต่างทักท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆ ฉันมุ่งหน้าหาห้องพี่ดาทันที จนวิ่งมาถึงหน้าห้องพอดิบพอดี
ก๊อก ก๊อกๆ
“เข้ามา” เสียงสาวเข้มตะโกนออกมาจากห้อง ฉันเดินเข้าไปอย่างใจสั่นๆ แน่ละซิ พี่สาวคนนี้โหดคือโหด ใจดีคือใจดี
“พี่ดาคือ...”
“พลอย! ที่พี่เรียกตัวมาครั้งนี้ เพื่อจะบอกกับพลอยว่า” พี่ดาหยิบแฟ้มขึ้นมา “พลอยคงต้องเขียนนิยายขึ้นอีกหนึ่งเรื่องแล้วละ”
“ทำไมละค่ะพี่ดา ผลการขายหนังสือมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ?”
“ปล่าว น้องๆเข้ามาในบอร์ด เขาขอให้เธอเขียนมาอีกเรื่องหนึ่ง เพราะอยากให้ทุกภาคๆที่อยู่ในซีรี่ย์เติมเต็มรัก ที่เธอเขียนมันมาอยู่ในเล่มเดียวกัน เธอคงเข้าใจนะ”
“แล้วหนูต้องเขียนแบบไหนละคะพี่ดา เรื่องสุดท้ายอีกไม่เท่าไหร่ก็จะจบอยู่แล้ว”
“เรื่องนั้นพี่คิดให้น้องแล้ว พี่จะให้พลอยเขียนที่มีชื่อเรื่องว่า คำตอบของความรัก” พี่ดายืนเอกสารให้ฉัน “พลอยต้องเขียนว่าความรักคืออะไร เป็นแบบไหน ถ้าพลอยเขียนนิยายรักได้พลอยก็จะต้องรู้ว่ารักนั้นคืออะไรด้วยเช่นกัน”
“พี่ดา พลอยไม่เคยมีแฟนเลยนะพี่..แม้แต่คนเดียว ชีวิตนี้พลอยเคยคุยกับผู้ชาย แต่ไม่เคยคิดอะไรด้วยมากไปกว่านี้เลย พลอยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไร”
“งั้นนิยายเรื่องนี้ พี่ให้เวลาพลอยเขียน 8 เดือนเศษๆ แล้วจะตีพิมพ์ประมาณเกือบๆ 1 ปี เพราะฉะนั้น! พลอยต้องเขียนบทนำมาให้พี่สะก่อน ภายในสามวันนี้!” แน่นอนฉันเถียงอะไรพี่ดาไม่ลงแม้แต่คำเดียว ชีวิตนี้ฉันรักแค่ผู้ชายคนเดียวก็คือพ่อแค่นั้นเอง
“ค่ะพี่ดา พลอยจะเขียนส่งมาทางเมลให้นะคะ”
“เห้อ.. ที่จริงพี่ไม่ได้คิดชื่อเรื่องขึ้นมาเองหรอก”
“เอ้า!..พี่ดา”
“บอสตั้งหากที่คิด เรื่องนี้บอสอยากให้แกเขียนนะ ฉันเลยรับปากกับบอสเพื่อจะได้เป็นดาวเด่นแทน ตุ๊ดแทนมัน เดียวนี้มันกร่างกับนักเขียนหลายๆคนแล้ว พี่นี่อยากจะกระชากหน้ากากของมันออกมาจริงๆ”
“โธ่พี่ดา เอาเป็นว่าน้องรักคนนี้จะให้พี่เป็นดาวเด่นของบอสเลย” ฉันเดินเข้าไปกอดพี่ดาข้างๆโต๊ะ “พลอยจะให้พี่แทนลงมานั่งตรงที่ของพี่ตอนนี้ก็แล้วกัน”
“ดีจัง ดีจริงๆที่ฉันปั้นแกมากับมือ”
“ถ้าหนูไม่ได้พี่ หนูก็คงไม่มีวันนี้หรอกค่ะ”
ณ ห้องพัก
ห้องพักของฉัน มันเป็นเชิงห้องพิเศษ ห้องนี้คุณแม่ซื้อเอาไว้ให้เป็นของขวัญเข้ามหาลัย สไตล์ห้องสีขาวสะอาดตา ที่นี้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องว่าง ห้องวางตอนนี้กลายเป็นห้องสำหรับเล่นวีอาร์ หรือเป็นที่ออกกำลังกาย ส่วนห้องเขียนนิยายก็อยู่ในห้องส่วนตัว
ปึ๊ง!
“ฉันกลับมาแล้วนะ” ฉันตะโกนไปในห้องทันที ที่เดินเข้ามา
ในห้องนี้เต็มไปด้วยของกินเต็มไปหมด พร้อมผู้คนอีก 2-3 คน มาอยู่ในห้องนี้ เพื่อนตัวแสบของฉันตอนนี้เธอกำลังปิ้งหมูตรงระเบียงห้อง เพราะเธอรู้ว่า ถ้ามากินกันข้างในห้องจะโดนฉันด่าทันที แต่คราวนี้เธอเข้าใจฉันดีว่าการทำความสะอาดนั้นมันยาก พิมเห็นฉันในสภาพไม่น่ามอง แน่นอนสิเสื้อนี่ดำเหมือนคนโดนถีบ เธอเดินมาหาฉัน
“พลอย เดียวแกไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดียวฉันมาแนะนำให้เพื่อนของฉันรู้จักแก”
“อือๆ ก็ได้แก ฉันก็ไม่ไหวกับการเดินทางครั้งนี้เลย อย่าลืมเหลือกุ้งไว้ให้ด้วยนะ”
“ได้ๆ ไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
ฉันเดินไปที่ห้องทันที พร้อมชาติแบตโน็ตบุ๊คเพื่อจะได้จบนิยายสะที ไม่มีเวลาที่จะเขียนเลยนะที่หลังจากคุยกับพี่ดาเสร็จฉันก็มุ่งหน้ากลับห้องเลย เพราะความที่หิวและแรงมากของฉันต้องกลับมาที่ห้องโดยทันที ฉันกำลังอาบน้ำด้วยความชื่นใจ อาบน้ำไปเลื่อยๆมีร้องเพลงบ้างเล็กน้อยเพื่อเป็นสีสันแห่งการอาบน้ำ จนถึงการแต่งตัว ฉันแต่งตัวปกติ กางเกงขาสั้น เสื้อคอกลมสีดำ เดินออกมาจากห้องด้วยความหิว จึงเดินมุ่งหน้าไปที่ระเบียงห้อง พวกเขาหัวเราะกันใหญ่ จนฉันเดินเข้าไปพวกเขาก็ยังดูยิ้มแย้มกัน
“อ๋อนี่! พวกเธอ คนนี้ชื่อพลอยนะเพื่อนมหาลัย” พิมแนะนำฉันให้รู้จักกับคนอื่นๆ “คนแรกนะ เป็นรุ่นพี่ของพลอยเองชื่อ พี่นาย”
“หวัดดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขาที่นั่งด้านซ้ายของฉัน พี่เขาไหว้กลับ
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้น้องพลอยพี่ไม่ถือ”
“อ่ะห้ะ ต่อมาชื่อ เกมส์ เพื่อนเราเอง” พิมพ์ชี้ไปทางข้างหน้าที่อยู่ข้างๆพี่นาย
“หวัดดี” ฉันทักทาย
“ไง” เกมส์ทักทายกลับพร้อมยิ้มให้ ฉันยิ้มกลับ
“คนสุดท้าย ชื่อแก้ม เป็นน้องไอ้เกมส์”
“หวัดดีจ้ะ” ฉันหันไปหาน้องเขาที่นั่งอยู่ข้างๆพี่ชายของเธอ
“หวัดดีค่ะพี่พลอย ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะคะ”
“ขอบใจจ้ะ” ฉันยิ้มเป็นการขอบคุณ
“เอาเป็นว่า พลอยพวกเรากินกันอื่มแล้วที่เหลือเป็นของเธอเลย” พิมยกหมูมาให้ฉันพร้อมกุ้งที่ปิ้งไว้ให้พอดิบพอดี
“นี่แกปิ้งให้ฉันหรอยัยพิม?” ฉันดีใจสุดๆ “เธอไม่เคยคิดที่จะปิ้งให้ฉันเลยนะ”
“คนที่ปิ้งอ่ะไม่ใช่ฉัน คนนี้ตั้งหาก” พิมมองไปทางพี่นาย พี่นายมองหน้าพิมทันที
“คะ..ครับ พี่ปิ้งให้น้องเองเห็นว่าชอบทานกุ้ง”
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับบบ เดียวหมูเดียวพี่ช่วยปิ้งดีกว่าน้องคงหิวน่าดู” หมูที่อยู่ในมือของพิมได้ถูกเอาไปโดยพี่นาย พี่นายยิ้มทันที ขนาดฉันยังไม่ตอบอะไรเลย
“พี่นาย เพื่อนพิมคนนะ ไม่ใช่หมี”
“ถ้าเป็นหมีพี่ยอมให้กินทั้งตัวเลยครับ”
“ง้อววววววววว ไม่เบาเลยนะครับเนี่ยพี่นาย” เกมส์พูดขึ้นมาพร้อมยิ้มให้กับพี่นาย เขาให้ศอกดันแขนพี่เขา
“อะไรๆ พี่แค่พูดเฉยๆเองแหม่”
ตึ๊ง ตึ๊งงง!!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องของฉันดังขึ้น แน่นอนฉันเป้นเจ้าบ้านที่จำเป็นที่จะต้องไปเปิด ฉันเดินออกจากวงเพื่อไปดูว่าใครมาเคาะ ฉันเดินไปถึงทางต่างระดับของห้อง ห้องของฉันเป็นทางต่างระดับที่ชันมากและสูงมากเกือบ 1 เมตร มันเป็นบันไดเล็กๆที่บ้างคนอาจจะไม่เห็นมัน แต่ฉันดันไปสดุ๊ดขาตัวเองเข้าแบบจังๆ แบบไม่ทันตั้งตัว คนอะไรมาตายบนพื้นที่ต่างระดับอย่างฉันเนื้ย!
ปึ๊งงงงงง!!!!!!
ฉันลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที ทุกคนได้ยินเสียงฉัน เขาวิ่งกันมาดูฉันแล้วพยายามพยุงฉันขึ้น แต่ที่เด่ดที่สุดคือ ขาฉันดันไปโดนตะปูที่ไม่ใด้ตอกเสียบเขาขาพอดิบพอดี เลือดไหลไม่หยุด ทุกคนต่างหวาดกลัวว่าฉันจะเป็นอะไรไป
“พลอย แก!! แกไปเดินท่าไหนเนื้ย สดุ๊ดขาตัวเองแล้วตกบันไดแบบนี้”
“พี่นาย พลอยโดนตะปูที่มีสนิมฝั่งอยู่ เลือดไหลไม่หลุดเลย” เกมส์บอกพี่นายทันที
“พี่คงจะช่วยเพื่อนหนูได้นะ”
“มันต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างเดียวแล้วละ เพราะตะปูมันฝั่งลึกมาก แก้มโทรเรียกรถพยาบาลด่วน!” พี่นายมาดูขาฉัน “ตะปูมันดันไปโดนเส้นเอ็นอีก พลอยลุกไม่ได้แน่ๆ”
แต่ฉันหมดสติทันทีในอ้อมกอดของพิม ฉันไม่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขออย่างเดียว พิมต้องเอาโน๊ตบุ๊คฉันไปด้วยยย!!!!!
ฉันเป็นเด็กอายุ 20 เป็นนักเขียนระดับวัยต้นๆของประเทศ ฉันไม่เคยมีความรัก เพื่อนเกือบทั้งหมดของฉันนั้นมีแฟนกันหมดยกเว้นฉัน ฉันเป็นเด็กมหาลัยชื่อดังทุกคนไม่เคยรู้ตัวตนของฉันเลยสักคนว่าฉันเป็นใครในวงการการเขียนนิยาย แม้แต่เพื่อนสนิทของฉัน เธอชื่อว่าพิม เธอเป็นเด็กรักสวยรักงามตามธรรมชาติของสตรีต้องผู้(ชาย) ฉันรู้ว่าการเขียนของฉันไม่ได้ส่งผลให้เธอสนใจฉันนอกจากคำถามที่ว่า ‘ทำอะไรอยู่หรอ?’ ฉันได้แค่ตอบว่า ‘ทำงาน’ ฉันไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าฉันทำงานเกี่ยวกับนักเขียน แต่ยังไงสักวันเธอก็ต้องรู้อยู่ดี
ณ มหาลัย
เช้าอีกวัน วันนี้ฉันมีเรียน 10 โมง ฉันอยู่ปี 2 คณะอักษรศาสตร์ เอกจิตวิทยา วันนี้คงไม่มีเรียนตอนเย็นอีกนะเพราะวันนี้ต้องไปสำนักงานอีก ฮื่ออ~
ฉันเดินเข้ามาในมหาลัยพร้อมเดินใส่หูฟังฟังเพลงไปเพลินๆในช่วงเดิน ตึกของฉันอยู่ข้างในมหาลัยเกือบๆ 3 กิโลเมตร เดินจนขาเรียวเลยก็ว่าได้ ระหว่างที่ฉันเดิน รถสปอร์ตสีแดงขับมาใกล้ๆทางคนเดินพร้อมบีบแตร์
แป๊น แป๊น!
“ไง พลอยเดินมาคนเดียวหรอ?” แยม เพื่อนร่วมสาขาปรับกระจกรถลงพร้อมทักทาย ฉันถอดหูฟังลงพร้อมยิ้มให้เธอ
“อื้ม! ใช่นึกว่าฉันเดินมากับผีเหรอ?” ฉันยิ้มพร้อมหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ ฉันล้อเล่นนะ อย่าคิดมาก”
“จ้าๆ พอดีฉันจะให้เธอฝากบอกอาจารย์หน่อยละจ้ะ ว่าฉันไม่สบาย”
“แล้วเธอเป็นหนักหรือป่าว”
“ไม่หรอกจ้ะ งั้นฉันฝากหน่อยนะพลอย” ฉันพยักหน้าให้แยม แยมยิ้มให้แบบปรีดาพร้อมปรับกระจกขึ้นแล้วเร่งความเร็วรถเพื่อออกไปทางประตูทางออกของมหาลัย
ฉันเดินมาจนถึงตึกคณะ เดินเข้าไปพร้อมใส่หูฟังเช่นเดิม ขึ้นตึกคณะพร้อมกระเป๋าเป้สะพายข้าง ฉันต้องขึ้นไปถึงชั้นที่ 3 กระโปรงฉันยาวเท่าเข่าจึงไม่ได้เป็นผลอะไรกับการขึ้นมาหนักหรอก แต่ความจริงก็มาอยู่ตรงหน้าของฉันแล้ว ฉันอยู่หน้าห้องเรียน เสียงคนกำลังดีใจออกมาจากในห้อง ฉันเดินเข้าไปอย่างอึนๆ
“เฮ้! ไอหัวหน้าห้องตัวแสบของพวกเรามาแล้ว อาจารย์!!!!” จิ๊กโก้ประจำห้องตะโกนเรียกอาจารย์ที่กำลังเชียร์บอลเล่อย่างออกหน้าออกตา อาจารย์หันมาพร้อมยิ้มให้ฉัน
“โอ๊ว! มาแล้วเหรอพลอย มาๆ มานั่งเชียร์บอลเล่กัน” อาจารย์พูดเสร็จท่านก็หันไปเชียร์บอลเล่เช่นเดิม ฉันหันไปมองรอบๆห้องไปเจอพิมที่กำลังแต่งหน้าที่จุดที่พวกเรานั่งเรียนกัน ฉันเดินมาหาเธอ
“พิมมันเกิดอะไรขึ้น? แล้ววันนี้ไม่เรียนกันหรอ?” ฉันวางกระเป๋าเป้ลงพร้อมนั่งข้างๆเธอ
“วันนี้ไม่มีเรียน อาจารย์ตั๋งแกติดเชียร์บอลเล่ระดับโลกอยู่นะซิ แกเลยว่าวันนี้ไม่ต้องเรียนเลยสะดีกว่า”
“แบบนี้ก็ได้หรอ งั้นว่างๆแบบนี้พวกเราไปนั่งข้างล่างตึกกันได้ไหม?”
“ฉันว่าได้นะ เพราะหลังจากเช็คชื่อเสร็จอาจารย์แกก็ปล่อย แกคงไม่ว่าหรอก ที่เราจะไปขอไปนั่งข้างล่าง”
“อืมๆ” ฉันลุกขึ้นเพื่อจะไปเขียนเช็คชื่อ
“พลอย!” พิมเรียกฉันทันทีก่อนที่จะไปเซ็นชื่อ “ฉันเช็คชื่อให้แล้วนะ” พิมยิ้มเบาๆ
“ขอบใจนะ” ฉันยิ้มให้เธอเช่นกัน
ฉันเดินไปหาที่โต๊ะอาจารย์เพื่อจะไปขอลงไปนั่งด้านล่างของตึก ฉันเดินไปข้างๆท่าน ท่านหันมาพอดีที่ฉันกำลังเดินเข้าไป
“เอ้า! พลอยมีอะไรหรอลูก?”
“คือ หนูจะขอลงไปนั่งด้านล่างตึกจะได้ไหมค่ะ?”
“ได้ซิ ถ้าเช็คชื่อแล้วก็ลงไปได้เลย แล้วหนูจะลงไปทำไมละ? มีอะไรหรือป่าว?”
“ไม่มีอะไรค่ะ พอดีหนูอยากไปกินไอติมด้านล่างเลยจะขออาจารย์ลงไปเลยทีเดียวเพราะหลังจากวิชานี้หนูก็ว่างแล้ว”
“ได้ๆ ถ้าอย่างงั้นคาบหน้าบอกให้เพื่อนๆทำแบบทดสอบส่งอาจารย์ภายในเย็นดีด้วยละ เดียวอาจารย์จะส่งไปในกรุ๊ป”
“รับทราบค่ะอาจารย์” ฉันไหว้ท่านแล้วเดินออกมา แต่ฉันกลับนึกบ้างอย่างออกแล้วเดินถอยหลังไปหาท่าน “อาจารย์ วันนี้แยมลาป่วยนะคะ”
“โอเค ฝากบอกแยมด้วยนะพลอย”
“ค่ะ”
ณ ด้านล่างตึก ใต้ต้นมะม่วงเล็กๆ
ฉันอยู่ใต้ตึกของคณะ ที่กระเป๋าฉันหนักๆเนี่ย เพราะฉันเอาแม็คบุ๊คมา เพื่อจะได้จบนิยายอีกหนึ่งเรื่องของฉัน ฉันเขียนเรื่องนี้ราวๆ 6 เดือนเศษ เรื่องนี้มันเป็นซีรี่ย์เติมเต็มรัก มันมียอดขายเกือบๆ ห้าหมื่นลืมต่อหนึ่งภาค ซีรี่ย์มันมีทั้งหมดประมาณ 4 เรื่องใหญ่ๆเลยละ เรื่องแรกก็ค้นข้ามเวลาหารัก เรื่องที่สองซ่อนรัก เรื่องที่สามเกมส์ยึดเหนี่ยวรัก และที่ฉันกำลังจะจบเรื่องคือ รักข้ามแดนเป็นเรื่องที่สี่
“พลอยแกทำอะไรอยู่อ่ะ เห็นเอามาเกือบทุกวันเลยนะแม็คบุ๊คเนื้ย”
“ทำงานเหมือนเดิมละแก”
“หรอ? อ๋อ แล้วเมื่อไหร่แกจะบอกฉันซะที?” เสียงพิมเริ่มจริงจังขึ้น ฉันมองหน้าเธอแล้วเล่นชักลังเลกับสายตาที่พิมมองมา
“เห้ยบ้า! ฉะ..ฉะ..ฉันก็ทำงาน..กะ..กะ...เกี่ยวกับ...ออ..ออ”
“คือฉันหมายถึงว่า งานที่แกทำอะ มันเป็นความลับมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“มะ..ไม่...ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ฉะ..ฉันทำเกี่ยวกับการ..ออ..บริหารงานของบริษัทของแม่ฉันแค่นั้นเอง”
“หรอ? มันยากไหมละ? ฉันขอดูหน่อยสิได้ไม”
“ไม่ได้! คือ..ฉันหมายถึง...ไม่ได้หรอก...เพราะธุระกิจของแม่ฉันมันใหญ่สุดๆ ฉันต้องขอโทษทีไม่ให้ดูนะ ที่จริงๆฉันก็อยากให้ดูนั้นและ”
“อ๋อ นึกว่าจะงกไม่ให้ดูซะอีก ฉันไม่ดูของเธอหรอก สู้ๆนะแก”
“ขอบใจแกมากๆนะ” ฉันยิ้มให้พิมเหมือนเดิม ฉันกำลังเขียนใกล้จะจบแล้วพิมที่กำลังเล่นมือถือของเธอ เธอหันหน้ามาทางฉัน
“อีพลอย แกวันนี้ฉันขอไปบ้านแกได้ไหม?”
“มีอะไรหรอพิม”
“คือ ฉันทะเลาะกับแม่อีกแล้วละดิ แม่คิดว่าฉันโดดเรียนวันนี้”
“เอ้า แล้วเธอไปบอกแม่ว่าไง”
“ก็ฉันบอกว่า ‘แม่ๆ วันนี้ตอนเที่ยงหนูขอไปเซ็นทรัลหน่อยนะ’ บอกไปแค่นี้เขาก็นึกว่าฉันโดดเรียนเลย”
“ให้ตาย! ได้ๆงั้นวันนี้เธอมานอนบ้านฉันก่อนก็ได้ แต่เที่ยงนี้ฉันต้องไปทำธุระก่อน เดียวประมาณบ่ายสามฉันก็ถึงห้องละ” ฉันหยิบคุณแจที่อยู่ในกระเป๋าสตัง ให้กับพิม “งั้นแกไปอยู่ห้องก่อนเดียวฉันตามไป”
“ได้ๆ เดียวฉันไปซื้ออะไรให้แกกินตอนเย็นแล้วกันนะพลอย”
“โอเครได้เลย” ฉันมองนาฬิกาข้อมือของฉัน ฉันสีหน้าเปลื่ยนทันที “ชิบพาย! งานเข้าแล้วกูเอ๋ยยย”
“เกิดอะไรขึ้นพลอย!”
“เดียวฉันขอตัวไปก่อนนะ” ฉันรีบเก็บกระเป๋าพร้อมเซฟนิยายทันที มันสายทีพี่ดานัดดูงานแล้วซะด้วย ให้ตายเถอะซิส ฉันเก็บของเสร็จเรียบร้อย แล้วจึงวิ่งไปหน้ามหาลัยเพื่อกระโดดขึ้นรถแท็คซี่ทันที
“โชคดีนะเพื่อนรัก เดียววันนี้กินหมูกระทะกันนะ” เสียงพิมไล่หลังมาแต่ใกล้ ฉันชูมือขึ้นพร้อมทำโอเคให้เธอ
ณ สำนักงานมหัศจรรย์
คุณอ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ชื่อสำนึกงานนี้มีชื่อว่า ‘มหัศจรรย์’ คัดนักเขียนหลายๆประเภทระดับต้นๆมารวมกันอยู่ที่นี้ แน่นอนชื่อของฉันก็อยู่ในนี้เช่นกันแต่ไม่ได้อยู่อันดับหนึ่งของคนรู้จักหรอกนะ แต่อยู่อันดับหนึ่งของตลาดมากกว่า ฉันเดินเข้าไปในตึก พี่ๆน้องๆต่างทักท้ายด้วยรอยยิ้มหวานๆ ฉันมุ่งหน้าหาห้องพี่ดาทันที จนวิ่งมาถึงหน้าห้องพอดิบพอดี
ก๊อก ก๊อกๆ
“เข้ามา” เสียงสาวเข้มตะโกนออกมาจากห้อง ฉันเดินเข้าไปอย่างใจสั่นๆ แน่ละซิ พี่สาวคนนี้โหดคือโหด ใจดีคือใจดี
“พี่ดาคือ...”
“พลอย! ที่พี่เรียกตัวมาครั้งนี้ เพื่อจะบอกกับพลอยว่า” พี่ดาหยิบแฟ้มขึ้นมา “พลอยคงต้องเขียนนิยายขึ้นอีกหนึ่งเรื่องแล้วละ”
“ทำไมละค่ะพี่ดา ผลการขายหนังสือมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ?”
“ปล่าว น้องๆเข้ามาในบอร์ด เขาขอให้เธอเขียนมาอีกเรื่องหนึ่ง เพราะอยากให้ทุกภาคๆที่อยู่ในซีรี่ย์เติมเต็มรัก ที่เธอเขียนมันมาอยู่ในเล่มเดียวกัน เธอคงเข้าใจนะ”
“แล้วหนูต้องเขียนแบบไหนละคะพี่ดา เรื่องสุดท้ายอีกไม่เท่าไหร่ก็จะจบอยู่แล้ว”
“เรื่องนั้นพี่คิดให้น้องแล้ว พี่จะให้พลอยเขียนที่มีชื่อเรื่องว่า คำตอบของความรัก” พี่ดายืนเอกสารให้ฉัน “พลอยต้องเขียนว่าความรักคืออะไร เป็นแบบไหน ถ้าพลอยเขียนนิยายรักได้พลอยก็จะต้องรู้ว่ารักนั้นคืออะไรด้วยเช่นกัน”
“พี่ดา พลอยไม่เคยมีแฟนเลยนะพี่..แม้แต่คนเดียว ชีวิตนี้พลอยเคยคุยกับผู้ชาย แต่ไม่เคยคิดอะไรด้วยมากไปกว่านี้เลย พลอยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรักคืออะไร”
“งั้นนิยายเรื่องนี้ พี่ให้เวลาพลอยเขียน 8 เดือนเศษๆ แล้วจะตีพิมพ์ประมาณเกือบๆ 1 ปี เพราะฉะนั้น! พลอยต้องเขียนบทนำมาให้พี่สะก่อน ภายในสามวันนี้!” แน่นอนฉันเถียงอะไรพี่ดาไม่ลงแม้แต่คำเดียว ชีวิตนี้ฉันรักแค่ผู้ชายคนเดียวก็คือพ่อแค่นั้นเอง
“ค่ะพี่ดา พลอยจะเขียนส่งมาทางเมลให้นะคะ”
“เห้อ.. ที่จริงพี่ไม่ได้คิดชื่อเรื่องขึ้นมาเองหรอก”
“เอ้า!..พี่ดา”
“บอสตั้งหากที่คิด เรื่องนี้บอสอยากให้แกเขียนนะ ฉันเลยรับปากกับบอสเพื่อจะได้เป็นดาวเด่นแทน ตุ๊ดแทนมัน เดียวนี้มันกร่างกับนักเขียนหลายๆคนแล้ว พี่นี่อยากจะกระชากหน้ากากของมันออกมาจริงๆ”
“โธ่พี่ดา เอาเป็นว่าน้องรักคนนี้จะให้พี่เป็นดาวเด่นของบอสเลย” ฉันเดินเข้าไปกอดพี่ดาข้างๆโต๊ะ “พลอยจะให้พี่แทนลงมานั่งตรงที่ของพี่ตอนนี้ก็แล้วกัน”
“ดีจัง ดีจริงๆที่ฉันปั้นแกมากับมือ”
“ถ้าหนูไม่ได้พี่ หนูก็คงไม่มีวันนี้หรอกค่ะ”
ณ ห้องพัก
ห้องพักของฉัน มันเป็นเชิงห้องพิเศษ ห้องนี้คุณแม่ซื้อเอาไว้ให้เป็นของขวัญเข้ามหาลัย สไตล์ห้องสีขาวสะอาดตา ที่นี้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องว่าง ห้องวางตอนนี้กลายเป็นห้องสำหรับเล่นวีอาร์ หรือเป็นที่ออกกำลังกาย ส่วนห้องเขียนนิยายก็อยู่ในห้องส่วนตัว
ปึ๊ง!
“ฉันกลับมาแล้วนะ” ฉันตะโกนไปในห้องทันที ที่เดินเข้ามา
ในห้องนี้เต็มไปด้วยของกินเต็มไปหมด พร้อมผู้คนอีก 2-3 คน มาอยู่ในห้องนี้ เพื่อนตัวแสบของฉันตอนนี้เธอกำลังปิ้งหมูตรงระเบียงห้อง เพราะเธอรู้ว่า ถ้ามากินกันข้างในห้องจะโดนฉันด่าทันที แต่คราวนี้เธอเข้าใจฉันดีว่าการทำความสะอาดนั้นมันยาก พิมเห็นฉันในสภาพไม่น่ามอง แน่นอนสิเสื้อนี่ดำเหมือนคนโดนถีบ เธอเดินมาหาฉัน
“พลอย เดียวแกไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เดียวฉันมาแนะนำให้เพื่อนของฉันรู้จักแก”
“อือๆ ก็ได้แก ฉันก็ไม่ไหวกับการเดินทางครั้งนี้เลย อย่าลืมเหลือกุ้งไว้ให้ด้วยนะ”
“ได้ๆ ไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
ฉันเดินไปที่ห้องทันที พร้อมชาติแบตโน็ตบุ๊คเพื่อจะได้จบนิยายสะที ไม่มีเวลาที่จะเขียนเลยนะที่หลังจากคุยกับพี่ดาเสร็จฉันก็มุ่งหน้ากลับห้องเลย เพราะความที่หิวและแรงมากของฉันต้องกลับมาที่ห้องโดยทันที ฉันกำลังอาบน้ำด้วยความชื่นใจ อาบน้ำไปเลื่อยๆมีร้องเพลงบ้างเล็กน้อยเพื่อเป็นสีสันแห่งการอาบน้ำ จนถึงการแต่งตัว ฉันแต่งตัวปกติ กางเกงขาสั้น เสื้อคอกลมสีดำ เดินออกมาจากห้องด้วยความหิว จึงเดินมุ่งหน้าไปที่ระเบียงห้อง พวกเขาหัวเราะกันใหญ่ จนฉันเดินเข้าไปพวกเขาก็ยังดูยิ้มแย้มกัน
“อ๋อนี่! พวกเธอ คนนี้ชื่อพลอยนะเพื่อนมหาลัย” พิมแนะนำฉันให้รู้จักกับคนอื่นๆ “คนแรกนะ เป็นรุ่นพี่ของพลอยเองชื่อ พี่นาย”
“หวัดดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พี่เขาที่นั่งด้านซ้ายของฉัน พี่เขาไหว้กลับ
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้น้องพลอยพี่ไม่ถือ”
“อ่ะห้ะ ต่อมาชื่อ เกมส์ เพื่อนเราเอง” พิมพ์ชี้ไปทางข้างหน้าที่อยู่ข้างๆพี่นาย
“หวัดดี” ฉันทักทาย
“ไง” เกมส์ทักทายกลับพร้อมยิ้มให้ ฉันยิ้มกลับ
“คนสุดท้าย ชื่อแก้ม เป็นน้องไอ้เกมส์”
“หวัดดีจ้ะ” ฉันหันไปหาน้องเขาที่นั่งอยู่ข้างๆพี่ชายของเธอ
“หวัดดีค่ะพี่พลอย ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะคะ”
“ขอบใจจ้ะ” ฉันยิ้มเป็นการขอบคุณ
“เอาเป็นว่า พลอยพวกเรากินกันอื่มแล้วที่เหลือเป็นของเธอเลย” พิมยกหมูมาให้ฉันพร้อมกุ้งที่ปิ้งไว้ให้พอดิบพอดี
“นี่แกปิ้งให้ฉันหรอยัยพิม?” ฉันดีใจสุดๆ “เธอไม่เคยคิดที่จะปิ้งให้ฉันเลยนะ”
“คนที่ปิ้งอ่ะไม่ใช่ฉัน คนนี้ตั้งหาก” พิมมองไปทางพี่นาย พี่นายมองหน้าพิมทันที
“คะ..ครับ พี่ปิ้งให้น้องเองเห็นว่าชอบทานกุ้ง”
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับบบ เดียวหมูเดียวพี่ช่วยปิ้งดีกว่าน้องคงหิวน่าดู” หมูที่อยู่ในมือของพิมได้ถูกเอาไปโดยพี่นาย พี่นายยิ้มทันที ขนาดฉันยังไม่ตอบอะไรเลย
“พี่นาย เพื่อนพิมคนนะ ไม่ใช่หมี”
“ถ้าเป็นหมีพี่ยอมให้กินทั้งตัวเลยครับ”
“ง้อววววววววว ไม่เบาเลยนะครับเนี่ยพี่นาย” เกมส์พูดขึ้นมาพร้อมยิ้มให้กับพี่นาย เขาให้ศอกดันแขนพี่เขา
“อะไรๆ พี่แค่พูดเฉยๆเองแหม่”
ตึ๊ง ตึ๊งงง!!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องของฉันดังขึ้น แน่นอนฉันเป้นเจ้าบ้านที่จำเป็นที่จะต้องไปเปิด ฉันเดินออกจากวงเพื่อไปดูว่าใครมาเคาะ ฉันเดินไปถึงทางต่างระดับของห้อง ห้องของฉันเป็นทางต่างระดับที่ชันมากและสูงมากเกือบ 1 เมตร มันเป็นบันไดเล็กๆที่บ้างคนอาจจะไม่เห็นมัน แต่ฉันดันไปสดุ๊ดขาตัวเองเข้าแบบจังๆ แบบไม่ทันตั้งตัว คนอะไรมาตายบนพื้นที่ต่างระดับอย่างฉันเนื้ย!
ปึ๊งงงงงง!!!!!!
ฉันลงไปกองอยู่ที่พื้นทันที ทุกคนได้ยินเสียงฉัน เขาวิ่งกันมาดูฉันแล้วพยายามพยุงฉันขึ้น แต่ที่เด่ดที่สุดคือ ขาฉันดันไปโดนตะปูที่ไม่ใด้ตอกเสียบเขาขาพอดิบพอดี เลือดไหลไม่หยุด ทุกคนต่างหวาดกลัวว่าฉันจะเป็นอะไรไป
“พลอย แก!! แกไปเดินท่าไหนเนื้ย สดุ๊ดขาตัวเองแล้วตกบันไดแบบนี้”
“พี่นาย พลอยโดนตะปูที่มีสนิมฝั่งอยู่ เลือดไหลไม่หลุดเลย” เกมส์บอกพี่นายทันที
“พี่คงจะช่วยเพื่อนหนูได้นะ”
“มันต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างเดียวแล้วละ เพราะตะปูมันฝั่งลึกมาก แก้มโทรเรียกรถพยาบาลด่วน!” พี่นายมาดูขาฉัน “ตะปูมันดันไปโดนเส้นเอ็นอีก พลอยลุกไม่ได้แน่ๆ”
แต่ฉันหมดสติทันทีในอ้อมกอดของพิม ฉันไม่รู้ว่าต่อจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขออย่างเดียว พิมต้องเอาโน๊ตบุ๊คฉันไปด้วยยย!!!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ