LOVE MISSIONS คุณหมอครับ มีรักมาเสิร์ฟ
-
เขียนโดย Feather
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.39 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
5,202 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กันยายน พ.ศ. 2560 18.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) หมาเป็นเหตุที่ทำให้(เรา)ได้เจอกัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ตลอดคาบเช้า ซินวาเนอร์พยายามตั้งใจเรียน เพราะว่าตนเพิ่งจะเปิดเรียน summer ขึ้นเกรด 12 จึงทำให้ผมขยันเป็นเท่าตัว แต่มันไม่เป็นอย่างที่ผมคิดไว้เลย เนื้อหาวิชาเรียนของที่นี่มันทำให้ผมอยากจะป่วยตลอดเวลา เวลานั่งเรียนเหมือนมีกะทะทองแดงลนก้นทุกนาทีที่อาจารย์เอ่ยชื่อเรียกผม T-Y
จนกระทั้งเรียนคาบเช้าเสร็จผมก็รีบเดินออกจากห้องเรียน ผมพยายามมองหาไอ้เบียร์แต่คนมันเยอะมากเกินทำให้ผมไม่สามารถมองหาเพื่อนสนิทได้ สุดท้ายก็ต้องหยิบมือถือออกมาก่อนจะโทรหาเบียร์ทันที
/ไอ้ซินน กูกำลังจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย/ เสียงปลายสายกลับเป็นรูมเมทเขาแทนที่จะเป็นเบียร์
“แชมเปญ? กูหามึงไม่เจอ ไหนบอกจะมาโรงอาหารวะ”เสียงปลายสายดูร้อนรนอย่างชัดเจนนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย
/เกิดรื่องขึ้นแล้วดิวะ มึงรีบมาโรงจอดรถเร็ว! ไอ้เบียร์แย่แล้ว!!/
“ok ”
ว่าจบผมก็กดวางสายทันทีก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังที่จอดรถหลังโรงเรียน ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็มาถึงโรงจอดรถขนาดใหญ่ที่มีรถ BM Z4 สีแดงเพลิงคันเก่งของผม แต่ผมกลับเดินเลยรถตัวเองไปก่อนจะหยุด เมื่อก้าวเท้ามาถึงรถสปอร์ต Mazda MX-5 สีเทา
“แปะเปี๊ย!!! อย่าเป็นไรน่ะลูกพ่อออ”
เสียงคราญปานจะขาดใจตายของเบียร์ดังขึ้น พร้อมกับผู้ชายสุดหล่อ 2 คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูอะไรสักอย่างที่อยู่ในรถ ผมเดินเข้าไปหาสองคนนั้นพลางสะกิดไหล่เบียร์
“เบียร์เกิดไรขึ้น”
“อยู่ดีๆ ลูกกูก็ตัวร้อนเหมือนไม่สบายเลยวะ!”
“ลูก?? อะไรว่ะ”
“เออ!! แปะเปี๊ยตัวร้อนมากเลยกูไม่น่าพาเขามาโรงเรียนเลยเว่ยยย ”
ไอ้เบียร์ทำหน้าเศร้าพลางดึงแขนผมให้มาดูลูกชายของมัน เดี๋ยวนะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย ไอ้เบียร์มันไปมีลูกตอนไหนกันหรือว่ามันทำผู้หญิงท้อง
เฮ่ยยย!
เฮ่ยยยยยยยยยยยยย!!!
แต่ทว่าภาพตรงหน้าของผมคือลูกหมา อายุประมาณ 1-2 ปี พันธุ์ บีเกิ้ล นอนหลับอยู่ในเบาะรถด้านหลังรถ
“หมา คือ ลูกที่มึงพูดถึงเหรอ? ” ผมทำหน้าเรียบนิ่งหันไปที่พวกมันสองคนที่กำลังยืนร้องไห้
“ใช่ๆ มึงพาไปหาหมอทีดิว่ะ ” ไอ้เบียร์เอื้อมมือมาจับมือผม ส่วนแชมเปญก็พยักหน้า
“ไปได้ไงงง คาบต่อไปอาร์จารย์ติวสอบน่ะเว่ยยย!”
“เดี๋ยวกูเก็บชีทไว้ให้พวกมึงเอง มึงพาไอ้เบียร์ไปหาหมอเถอะ ดูมันทำหน้าจะร้องไห้แล้วเนี่ย” แชมเปญว่าพลางตบไหล่ไปที่เบียร์เบาๆ
“เฮ้อ กูอุส่ารีบมานึกว่าพวกมึงเป็นไรกัน สุดท้ายให้พาหมาไปหาหมอ ” ผมถอนหายใจเบาๆ นึกว่าเกิดเรื่องใหญ่โต สุดท้าย…..มาดูผู้ชายอกสามศอกร้องไห้อ้อนวอนจะเป็นจะตายเพราะหมาไม่สบายย = 0 =
“น๊า นะน่ะ น๊า ” เบียร์กอดแขนผมแน่กว่าเดิมพลางทำตาปริบๆ โอ๊ยย สยองงเว่ยย
“เออๆ โอเคคคคคคค” ผมเดินอ้อมไปตรงประตูที่นั่งข้างคนขับ ส่วนไอ้เบียร์ก็หันไปยิ้มให้แชมเปญแล้วเปิดประตูรถนั่งประจำที่คนขับ
--------------- 30 นาทีต่อมา ----------------------------------
ผมพาแปะเปี๊ยลูกชายสุดที่รักของเบียร์ไปซักประวัติและอาการเบื้องต้นก่อนจะมานั่งรอคิวตรวจอยู่หน้าห้องตรวจ 2
“ซิลวาเดี๋ยวกูมาน่ะ กูปวดขี้ว่ะ” เบียร์พูดพลางเอาลูกชายมันมานอนที่ตักของผมทันที
“อ่าวว เดี๋ยวก็ถึงคิวเราแล้วนะเว่ย ”
“หรือมึงจะให้กูขี้ตรงนี้ล่ะ!!” มันแขวะผมเสร็จก็เดินออกไปทันที เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนเลยไม่ต้องรอนาน ผมจึงลุกขึ้นเดินไปห้องตรวจ
“น้องแปะเปี๊ยเป็นไรมาครับ ”
ผมยืนตะลึงตรงหน้าหมอ ร่างสูงโปร่งที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาว ผมสีเทา ตาสีอเมทิสต์ ใบหน้าคมคายกำลังเตรียมใส่ถุงมืออยู่ เฮ่ยย นี่มันนน เทรย์เวอร์
“น้องเป็นไรมาครับ นี่นายอีกแล้วเหรอ?”
“เทรย์เวอร์”
“โชคร้าย ทั้งวันเลยสิน่ะ ” หมอทำหน้าเซ็งใส่ผม ผมวางน้องหมาลงบนเตียงตรวจก่อนจะมองหน้าคนที่หาเรื่องผม สงบสติอารมณ์ไว้ไอ้ซินวาเนอร์ตอนนี้นายต้องทำตามแผนการที่เตรียมไว้นะ คิดได้ดังนั้นผมก็ส่งยิ้มหวานไปให้หมอทันที
“ปากร้ายแบบนี้ ส่งสัยอยากโดนกัดปากอีกสินะครับ ^^ ”
“อยากตายหรือไงห๊ะ!”
“ผมล้อเล่นนะครับบหมอสุดหล่อ ^^”
“….” เขาทำตาขวางใส่ผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ฮ่าๆ ถ้าไม่ใช่อยู่ที่โรงพยาบาลเขาคงด่าผมแล้วละฮ่ะ
“แปะเปี๊ยมีอาการน้ำมูกไหล ไม่ค่อยทานข้าว จะมีอาการไอ ” ผมพูดพลางลูกหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ
เขาเห็นผมเปลี่ยนเรื่องกระทันหันก็ทำหน้างงๆ ก่อนจะลงมือตรวจน้องหมาอย่างจริงจัง ผมมองเขาอย่างเงียบๆ
อืมม!
ผมไม่เคยเห็นเขาใส่เสื้อหมอแล้วก็ทำหน้ายิ้มแย้มเวลาพูดกับน้องหมาเลย ถึงผมรู้อยู่แหละว่าเทรย์เวอร์เรียนสัตวแพทย์ (รูมเมทเป็นคนเล่าเรื่องให้ฟัง) แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งกับบรรยากาศแบบนี้ เวลาเขาใส่ใจสัตว์เนี่ยยยยยยย 0=0 ดูมีเสน่ห์ น่ารักดีแฮ๊ะ ^_^ เฮ่ยยย
‘ตึกตัก ๆ’ หัวใจบ้านี่ก็เลิกดังสักทีเว่ยยยย
“ลูกชายคุณไม่เป็นไรมากนะ” เขาเงยหน้ามองผมก่อนจะขำเบาๆเมื่อเห็นผมทำหน้างงๆ “เป็นหวัดนะ จะมีอาการไอ สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย อาจติดเชื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง หรือติดเชื้อร่วมกันก็ได้” เขาว่าพลางตรวจร่างกาย ฟังเสียงปอดแปะเปี๊ย “เดี๋ยวหมอฉีดยาและให้ยากลับไปป้อนที่บ้านน่ะครับ” เขาเงยหลังจากตรวจเสร็จและยิ้ม ใช่ ยิ้มค้างแล้วก็ทำเป็นกลบเกลื่อน ฮ่าๆ สงสัยจะลืมตัวว่าอยู่ต่อหน้าผม
“เสร็จแล้ว” ผมอุ้มน้องหมาแล้วก็หันหลังเพื่อเดินออกจากห้อง แต่ก็ต้องสะดุดกึกกับคำพูดของเทรย์เวอร์เข้าอย่างจัง ผมหันไปหาเขา
“เฮ้อออ ขอบคุณสักคำไม่มี เนี่ยน๊าคนเรา” เขายืนกอดอกพลางส่ายหน้าเบาๆ
“คุณนี่มันกวนประสาทจริงๆเลยน่ะ ”
“ขอบคุณหรือยัง”
“ไม่! แต่เปลี่ยนจากการขอบคุณเป็นให้ไลน์แทนได้นะครับคุณหมอ” ผมเดินเข้าไปหาเขาพลางยักคิ้วกวนๆ อ่อยเยอะๆๆ คิดเอาไว้เว่ยยยไอ้ซินวา
“ประสาท!!”
“คนมันชอบนี่น๊า ก็ต้องจีบดิครับ ^^”
"เชิญคนไข้ออกไปได้เเล้วครับ"
"นี่คุณจะคุยดีๆกับผมสักครั้งไม่ได้เลยเหรอ?"
"ไม่จำเป็น!"
"สงสัยจะไม่ประทับใจจูบคราวก่อนถึงได้อารมณ์เสีย"
“ผมว่านอกจากจะพาหมามาหาหมอ คุณน่าจะไปเช็คประสาทบ้างก้ดีนะ ใกล้บ้าเต็มทน”
“ถึงบ้า ก็บ้ารักนะครับบบบบบ” การเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นหงุดหงิดได้นี้ทำให้ผมมีความสุขจังแฮะ ผมคิดเเล้วเผลอยิ้มกว้างออกมา ยิ้มจนเห็นลักยิ้ม “งั้นผมไปก่อนนะครับ ”
“เชิญ” เขาหันหลังให้ทันที ฮ่าๆๆ ยังไงเราก็ต้องกันอีกนั้นแหละครับคุณหมออ คุณหนีผมไม่พ้นหรอกก!! 0++++0
“เสร็จแล้วเหรอวะ เป็นไงบ้าง”
ไอ้เบียร์ทักผมทันทีที่เห็นผมเดินออกมาจากห้องตรวจแล้วอุ้มแปะเปี๊อไว้ในอ้อมอกทันที
“ไม่เป็นไรมากหรอก เดี๋ยวรอรับยาแล้วก็กลับได้” ผมหันไปบอกมัน “มึงไปรอที่รถก่อนเลยเดี๋ยวกูรับยาเอง” มันพยักหน้าแล้วเดินจากไป
ผมเดินตรงไปที่เคาร์เตอร์แล้วส่งยิ้มหวานสุดๆ ที่สาวๆเห็นแล้วต้องหลงรักหัวปักหัวปำให้คุณหมอสุดสวยที่นั่งอยู่
“ขอโทษนะครับ พอดีผมขอเบอร์โทรติดต่อคุณหมอเทรย์เวอร์ได้ไหมครับ ”
“ นี่ค่ะ ” คุณหมอสุดสวยยื่นนามบัตรให้ผมอย่างเขินๆ
“ขอบคุณนะครับบบบบบบบบบบบบ ^__^ ” ผมก้มลงมองดูนามบัตรที่มีเบอร์ติดต่อก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดบันทึกเบอร์โทรและไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปจีบคุณหมอทันที
‘ครั้งแรกที่เราเจอกันมันเป็นเรื่องบังเอิญ ครั้งที่สองมันเป็นพรหมลิขิต
แต่ถ้ามีครั้งต่อไปอีก. . . เราเป็นแฟนกันนะ
From… Silvaner "’
ฮ่าๆ ผมหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าสุดหล่อทำหน้าตกใจ ผมก็เผลอยิ้มออกมาทันที แหม๋ๆๆ ใครๆก็อยากได้อยู่แล้ววล่ะคร๊าฟฟฟ
จนกระทั้งเรียนคาบเช้าเสร็จผมก็รีบเดินออกจากห้องเรียน ผมพยายามมองหาไอ้เบียร์แต่คนมันเยอะมากเกินทำให้ผมไม่สามารถมองหาเพื่อนสนิทได้ สุดท้ายก็ต้องหยิบมือถือออกมาก่อนจะโทรหาเบียร์ทันที
/ไอ้ซินน กูกำลังจะโทรหามึงอยู่พอดีเลย/ เสียงปลายสายกลับเป็นรูมเมทเขาแทนที่จะเป็นเบียร์
“แชมเปญ? กูหามึงไม่เจอ ไหนบอกจะมาโรงอาหารวะ”เสียงปลายสายดูร้อนรนอย่างชัดเจนนั้นทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย
/เกิดรื่องขึ้นแล้วดิวะ มึงรีบมาโรงจอดรถเร็ว! ไอ้เบียร์แย่แล้ว!!/
“ok ”
ว่าจบผมก็กดวางสายทันทีก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังที่จอดรถหลังโรงเรียน ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็มาถึงโรงจอดรถขนาดใหญ่ที่มีรถ BM Z4 สีแดงเพลิงคันเก่งของผม แต่ผมกลับเดินเลยรถตัวเองไปก่อนจะหยุด เมื่อก้าวเท้ามาถึงรถสปอร์ต Mazda MX-5 สีเทา
“แปะเปี๊ย!!! อย่าเป็นไรน่ะลูกพ่อออ”
เสียงคราญปานจะขาดใจตายของเบียร์ดังขึ้น พร้อมกับผู้ชายสุดหล่อ 2 คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาดูอะไรสักอย่างที่อยู่ในรถ ผมเดินเข้าไปหาสองคนนั้นพลางสะกิดไหล่เบียร์
“เบียร์เกิดไรขึ้น”
“อยู่ดีๆ ลูกกูก็ตัวร้อนเหมือนไม่สบายเลยวะ!”
“ลูก?? อะไรว่ะ”
“เออ!! แปะเปี๊ยตัวร้อนมากเลยกูไม่น่าพาเขามาโรงเรียนเลยเว่ยยย ”
ไอ้เบียร์ทำหน้าเศร้าพลางดึงแขนผมให้มาดูลูกชายของมัน เดี๋ยวนะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย ไอ้เบียร์มันไปมีลูกตอนไหนกันหรือว่ามันทำผู้หญิงท้อง
เฮ่ยยย!
เฮ่ยยยยยยยยยยยยย!!!
แต่ทว่าภาพตรงหน้าของผมคือลูกหมา อายุประมาณ 1-2 ปี พันธุ์ บีเกิ้ล นอนหลับอยู่ในเบาะรถด้านหลังรถ
“หมา คือ ลูกที่มึงพูดถึงเหรอ? ” ผมทำหน้าเรียบนิ่งหันไปที่พวกมันสองคนที่กำลังยืนร้องไห้
“ใช่ๆ มึงพาไปหาหมอทีดิว่ะ ” ไอ้เบียร์เอื้อมมือมาจับมือผม ส่วนแชมเปญก็พยักหน้า
“ไปได้ไงงง คาบต่อไปอาร์จารย์ติวสอบน่ะเว่ยยย!”
“เดี๋ยวกูเก็บชีทไว้ให้พวกมึงเอง มึงพาไอ้เบียร์ไปหาหมอเถอะ ดูมันทำหน้าจะร้องไห้แล้วเนี่ย” แชมเปญว่าพลางตบไหล่ไปที่เบียร์เบาๆ
“เฮ้อ กูอุส่ารีบมานึกว่าพวกมึงเป็นไรกัน สุดท้ายให้พาหมาไปหาหมอ ” ผมถอนหายใจเบาๆ นึกว่าเกิดเรื่องใหญ่โต สุดท้าย…..มาดูผู้ชายอกสามศอกร้องไห้อ้อนวอนจะเป็นจะตายเพราะหมาไม่สบายย = 0 =
“น๊า นะน่ะ น๊า ” เบียร์กอดแขนผมแน่กว่าเดิมพลางทำตาปริบๆ โอ๊ยย สยองงเว่ยย
“เออๆ โอเคคคคคคค” ผมเดินอ้อมไปตรงประตูที่นั่งข้างคนขับ ส่วนไอ้เบียร์ก็หันไปยิ้มให้แชมเปญแล้วเปิดประตูรถนั่งประจำที่คนขับ
--------------- 30 นาทีต่อมา ----------------------------------
ผมพาแปะเปี๊ยลูกชายสุดที่รักของเบียร์ไปซักประวัติและอาการเบื้องต้นก่อนจะมานั่งรอคิวตรวจอยู่หน้าห้องตรวจ 2
“ซิลวาเดี๋ยวกูมาน่ะ กูปวดขี้ว่ะ” เบียร์พูดพลางเอาลูกชายมันมานอนที่ตักของผมทันที
“อ่าวว เดี๋ยวก็ถึงคิวเราแล้วนะเว่ย ”
“หรือมึงจะให้กูขี้ตรงนี้ล่ะ!!” มันแขวะผมเสร็จก็เดินออกไปทันที เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนเลยไม่ต้องรอนาน ผมจึงลุกขึ้นเดินไปห้องตรวจ
“น้องแปะเปี๊ยเป็นไรมาครับ ”
ผมยืนตะลึงตรงหน้าหมอ ร่างสูงโปร่งที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาว ผมสีเทา ตาสีอเมทิสต์ ใบหน้าคมคายกำลังเตรียมใส่ถุงมืออยู่ เฮ่ยย นี่มันนน เทรย์เวอร์
“น้องเป็นไรมาครับ นี่นายอีกแล้วเหรอ?”
“เทรย์เวอร์”
“โชคร้าย ทั้งวันเลยสิน่ะ ” หมอทำหน้าเซ็งใส่ผม ผมวางน้องหมาลงบนเตียงตรวจก่อนจะมองหน้าคนที่หาเรื่องผม สงบสติอารมณ์ไว้ไอ้ซินวาเนอร์ตอนนี้นายต้องทำตามแผนการที่เตรียมไว้นะ คิดได้ดังนั้นผมก็ส่งยิ้มหวานไปให้หมอทันที
“ปากร้ายแบบนี้ ส่งสัยอยากโดนกัดปากอีกสินะครับ ^^ ”
“อยากตายหรือไงห๊ะ!”
“ผมล้อเล่นนะครับบหมอสุดหล่อ ^^”
“….” เขาทำตาขวางใส่ผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ฮ่าๆ ถ้าไม่ใช่อยู่ที่โรงพยาบาลเขาคงด่าผมแล้วละฮ่ะ
“แปะเปี๊ยมีอาการน้ำมูกไหล ไม่ค่อยทานข้าว จะมีอาการไอ ” ผมพูดพลางลูกหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ
เขาเห็นผมเปลี่ยนเรื่องกระทันหันก็ทำหน้างงๆ ก่อนจะลงมือตรวจน้องหมาอย่างจริงจัง ผมมองเขาอย่างเงียบๆ
อืมม!
ผมไม่เคยเห็นเขาใส่เสื้อหมอแล้วก็ทำหน้ายิ้มแย้มเวลาพูดกับน้องหมาเลย ถึงผมรู้อยู่แหละว่าเทรย์เวอร์เรียนสัตวแพทย์ (รูมเมทเป็นคนเล่าเรื่องให้ฟัง) แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งกับบรรยากาศแบบนี้ เวลาเขาใส่ใจสัตว์เนี่ยยยยยยย 0=0 ดูมีเสน่ห์ น่ารักดีแฮ๊ะ ^_^ เฮ่ยยย
‘ตึกตัก ๆ’ หัวใจบ้านี่ก็เลิกดังสักทีเว่ยยยย
“ลูกชายคุณไม่เป็นไรมากนะ” เขาเงยหน้ามองผมก่อนจะขำเบาๆเมื่อเห็นผมทำหน้างงๆ “เป็นหวัดนะ จะมีอาการไอ สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ ทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย อาจติดเชื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง หรือติดเชื้อร่วมกันก็ได้” เขาว่าพลางตรวจร่างกาย ฟังเสียงปอดแปะเปี๊ย “เดี๋ยวหมอฉีดยาและให้ยากลับไปป้อนที่บ้านน่ะครับ” เขาเงยหลังจากตรวจเสร็จและยิ้ม ใช่ ยิ้มค้างแล้วก็ทำเป็นกลบเกลื่อน ฮ่าๆ สงสัยจะลืมตัวว่าอยู่ต่อหน้าผม
“เสร็จแล้ว” ผมอุ้มน้องหมาแล้วก็หันหลังเพื่อเดินออกจากห้อง แต่ก็ต้องสะดุดกึกกับคำพูดของเทรย์เวอร์เข้าอย่างจัง ผมหันไปหาเขา
“เฮ้อออ ขอบคุณสักคำไม่มี เนี่ยน๊าคนเรา” เขายืนกอดอกพลางส่ายหน้าเบาๆ
“คุณนี่มันกวนประสาทจริงๆเลยน่ะ ”
“ขอบคุณหรือยัง”
“ไม่! แต่เปลี่ยนจากการขอบคุณเป็นให้ไลน์แทนได้นะครับคุณหมอ” ผมเดินเข้าไปหาเขาพลางยักคิ้วกวนๆ อ่อยเยอะๆๆ คิดเอาไว้เว่ยยยไอ้ซินวา
“ประสาท!!”
“คนมันชอบนี่น๊า ก็ต้องจีบดิครับ ^^”
"เชิญคนไข้ออกไปได้เเล้วครับ"
"นี่คุณจะคุยดีๆกับผมสักครั้งไม่ได้เลยเหรอ?"
"ไม่จำเป็น!"
"สงสัยจะไม่ประทับใจจูบคราวก่อนถึงได้อารมณ์เสีย"
“ผมว่านอกจากจะพาหมามาหาหมอ คุณน่าจะไปเช็คประสาทบ้างก้ดีนะ ใกล้บ้าเต็มทน”
“ถึงบ้า ก็บ้ารักนะครับบบบบบ” การเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นหงุดหงิดได้นี้ทำให้ผมมีความสุขจังแฮะ ผมคิดเเล้วเผลอยิ้มกว้างออกมา ยิ้มจนเห็นลักยิ้ม “งั้นผมไปก่อนนะครับ ”
“เชิญ” เขาหันหลังให้ทันที ฮ่าๆๆ ยังไงเราก็ต้องกันอีกนั้นแหละครับคุณหมออ คุณหนีผมไม่พ้นหรอกก!! 0++++0
“เสร็จแล้วเหรอวะ เป็นไงบ้าง”
ไอ้เบียร์ทักผมทันทีที่เห็นผมเดินออกมาจากห้องตรวจแล้วอุ้มแปะเปี๊อไว้ในอ้อมอกทันที
“ไม่เป็นไรมากหรอก เดี๋ยวรอรับยาแล้วก็กลับได้” ผมหันไปบอกมัน “มึงไปรอที่รถก่อนเลยเดี๋ยวกูรับยาเอง” มันพยักหน้าแล้วเดินจากไป
ผมเดินตรงไปที่เคาร์เตอร์แล้วส่งยิ้มหวานสุดๆ ที่สาวๆเห็นแล้วต้องหลงรักหัวปักหัวปำให้คุณหมอสุดสวยที่นั่งอยู่
“ขอโทษนะครับ พอดีผมขอเบอร์โทรติดต่อคุณหมอเทรย์เวอร์ได้ไหมครับ ”
“ นี่ค่ะ ” คุณหมอสุดสวยยื่นนามบัตรให้ผมอย่างเขินๆ
“ขอบคุณนะครับบบบบบบบบบบบบ ^__^ ” ผมก้มลงมองดูนามบัตรที่มีเบอร์ติดต่อก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดบันทึกเบอร์โทรและไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปจีบคุณหมอทันที
‘ครั้งแรกที่เราเจอกันมันเป็นเรื่องบังเอิญ ครั้งที่สองมันเป็นพรหมลิขิต
แต่ถ้ามีครั้งต่อไปอีก. . . เราเป็นแฟนกันนะ
From… Silvaner "’
ฮ่าๆ ผมหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงใบหน้าสุดหล่อทำหน้าตกใจ ผมก็เผลอยิ้มออกมาทันที แหม๋ๆๆ ใครๆก็อยากได้อยู่แล้ววล่ะคร๊าฟฟฟ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ