King of love ผมนะเหรอภรรยา (เมีย)...ราชาปีศาจ

8.3

เขียนโดย Byตั้งโอ๋

วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.09 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  15.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560 14.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ความรู้สึก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 6 ความรู้สึก

"ข้าวสวย!" อัสบัสตะโกนเรียกผู้เป็นที่รักเสียงดังไปทั่วทั้งบริเวณพร้อมกับใจที่ปวดร้าวเมื่อเห็นร่างของคนรักทรุดลงกับพื้นร่างกายมีเลือดสีแดงฉาดไหลออกจากบริเวณหน้าท้องเต็มไปหมด

อัสบัสยืนนิ่งด้วยความตกใจและเจ็บปวดเป็นอย่างมากที่เห็นคนรักมีเลือดเต็มไปหมดราวกับว่าดวงใจกำลังจะแตกสลาย ถึงแม้พึ่งเจอข้าวสวยได้ไม่นานมากนักแต่ก็รักข้าวสวยตั้งแต่แรกเห็น และเชื่อว่าระหว่างตนเองกับข้าวสวยมันต้องมีสัมพันธ์ที่ยาวนานกว่านี้อัสบัสสัมผัสได้ข้าวสวยถึงสำคัญและมีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาเป็นอย่างมาก

เมื่อได้สติกลับมาก็รีบก้าวเท้าไปคว้าร่างของคนรักที่อยู่ไม่ไกลมาไว้ในอ้อมกอดทันที อัสบัสมองใบหน้าที่เริ่มซีดเซียวอย่างเป็นกังวลไม่เคยรู้สึกเป็นห่วงใครเท่านี้มาก่อน

"ผะ ผมไม่เป็นอะไร" เสียงที่แผ่วเบาและแหบแห้งพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าดูเป็นห่วงมากเหลือเกิน ข้าวสวยค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างฝืดๆ เพราะความเจ็บปวดแต่ก็ต้องทนเพราะไม่อยากให้คนตรงหน้าเป็นกังวลมากกว่านี้ อัสบัสยิ้มตอบรับด้วยแววตาห่วงใยอย่างเห็นได้ชัดซึ่งเป็นแววตาที่แทบจะไม่เห็นเลยจากใบหน้าของคนเป็นราชา ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มหรือการกระทำต่างๆ ที่อัสบัสมอบให้ข้าวสวยนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นให้เห็นในอาณาจักรแห่งนี้ เขารู้ดีทุกสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นเพราะร่างเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด ยิ่งนึกถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้ม กับแก้มป่องๆ ที่ชอบทำใส่เวลาหงุดหงิดหรือถูกขัดใจแต่ตอนนี้กลับซีดเซียวจนน่ากลัวก็อดโมโหผู้ที่กล้าบังอาจทำร้ายดวงใจที่แสนสำคัญนี้ไม่ได้

"ไพทรีเจ้าบังอาจมาก อย่าได้อยู่เลย" ว่าจบลำแสงสีแดงพุ่งออกจากมือของอัสบัสไปยังไพทรีทันที แสงสีแดงค่อยๆ โอบล้อมร่างของไพทรีไปทั่วก่อนที่ดวงไฟสีแดงนั้นจะลอยขึ้น พร้อมกับร่างของ ไพทรีที่ดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดเพราะรู้สึกถึงแรงบีบรัดมหาศาลจากแสงไฟนั้น อัสบัสมองภาพตรงหน้าอย่างเกลียวกลาดและดุดันไม่มีแววตาของความเห็นใจหรือสงสารให้แก่ไพทรีเลยแม้แต่น้อย ทั้งรู้สึกผิดหวังที่ตนอุส่าห์ช่วยเหลือไว้แต่กลับมาหักหลังกันและยิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อนึกถึงไพทรีที่บังอาจมาทำร้ายดวงใจของเขา สายตายิ่งดุดันมากเท่าไรแรงบีบรัดจากแสงสีแดงก็แรงมากเท่านั้นจนร่างกายของไพทรีรู้สึกราวกับจะแตกสลาย

ไพทรีรู้ดีว่าตนเองทำผิดต่อผู้มีบุญคุณอย่างอัสบัสแต่ก็ไม่อาจทนกับความเดียวดาย ความเยาะเย้ย และการไม่เป็นที่ยอมรับของใครได้ไพทรีจึงเสี่ยงที่จะลงมือทำเรื่องนี้ถึงจะรู้ดีว่าไม่มีทางชนะผู้เป็นถึงราชาของโลกปีศาจได้แต่ความต้องการนั้นครอบงำทุกอย่างจนมืดบอด ร่างของไพทรียังคงดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมาน เสียงร้องขอชีวิตดังออกมาอย่างทรมานยิ่งนักแต่ทุกคำนั้นไม่ได้ผ่านเข้าไปในโสตประสาทของผู้เป็นราชาเลยแม้แต่น้อยเพราะความผิดที่ไม่สามารถอภัยได้ ข้าวสวยมองร่างที่ดิ้นทุรนทุรายภายในดวงไฟสีแดงอย่างสงสารจับใจ แม้ไพทรีจะทำร้ายหรือจ้องจะเอาชีวิตตนแต่ข้าวสวยก็ไม่ได้อยากให้ไพทรีต้องตาย รู้สึกได้ว่าไพทรีไม่ได้ต้องการจะทำร้ายตนเองและอัสบัสอย่างแน่นอนเพียงแต่หลายสิ่งหลายอย่างนั้นบีบบังคับให้ไพทรีต้องทำ ยิ่งรู้ถึงผลที่จะได้รับก็ยากที่จะต่อต้านกับตัณหาภายในจิตใจ ข้าวสวยเองรู้สึกสงสารและเข้าใจถึงความเจ็บปวดของไพทรีดี

การที่ไม่มีใครยอมรับ การที่ต้องถูกทอดทิ้งมันน่าเศร้ามากแค่ไหนถึงแม้ตัวข้าวสวยจะไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกนั้นจริงๆ แต่ก็พอรู้ว่ามันทรมานแค่ไหนเพราะตอนที่เสียพ่อกับแม่ไปข้าวสวยเองก็เสียใจมากแต่ของไพทรีนั้นต่างออกไปมันดูทรมานและน่าเสียใจยิ่งกว่า มือเล็กๆ ที่สั่นเคืองเพราะอาการบาดเจ็บค่อยๆ เลื่อนไปจับมือของอัสบัสที่กำลังปล่อยลำแสงอย่างทะลักทุเล อัสบัสหันมามองข้าวสวยอย่างสงสัยดวงตาที่เคยแข็งกราวเริ่มอ่อนลง

"ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าทำเขาเลย ผมขอร้อง" ข้าวสวยพูดขึ้นอย่างแผ่วเบา

"ไม่ มันพยายามที่จะเอาชีวิตเจ้าข้าไม่อาจปล่อยมันไปได้" อัสบัสพูดขึ้นพร้อมกับสายตาดุดันอีกครั้งก่อนจะเพิ่มแรงกดรัดจากดวงไฟนั้นให้แรงขึ้นจนไพทรีร้องออกมาอย่างทรมานยิ่งกว่าเดิม ข้าวสวยรู้สึกสงสารไพทรีจับใจ

"อะ อัสบัส ผะ ผมขอร้องละ อย่าฆ่าเขา เขาคงไม่ทำอะไรผมแล้วละเชื่อผมนะ" ข้าวสวยพูดขึ้นไปตรงๆ เพราะรู้สึกว่าไพทรีจะไม่ทำอะไรอีกอย่างแน่นอนซึ่งข้าวสวยเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น

"แต่...."

"ผมขอร้อง ผมไม่อยากให้คุณฆ่าใคร" ข้าวสวยร้องขอแทรกขึ้นมาทันที เพราะพอจะคาดเดาคำพูดของอัสบัสได้

เมื่อเห็นสายตาขอร้องของคนรักก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันที มองใบหน้าซีดเซียวของคนในอ้อมกอดอย่างไม่เข้าใจแต่อก็อดรู้สึกดีไม่ได้เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็กนั้นเป็นห่วงเขาเพียงใด และมันก็ทำให้อัสบัสรู้ว่าข้าวสวยเป็นคนดีมากแค่ไหนขนาดคนที่จ้องจะเอาชีวิตตนเองแท้ๆยังจะช่วยเหลืออีกทำให้อัสบัสยิ่งหลงรักข้าวสวยมากขึ้นกว่าเดิม แต่จะให้ทำใจปล่อยคนที่คิดจะทำร้ายคนรักไปมันก็ยากยิ่งนักแต่จะขัดคนรักก็เกรงว่าจะโกรธ จนอัสบัสต้องยอมละมือจากไพทรี

ร่างของไพทรีหล่นลงพื้นทันทีหลังจากแสงสีแดงนั้นหายไป อัสบัสมองใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของคนในอ้อมกอดอย่างห่วงใยที่ตอนนี้ใบหน้าเริ่มซีดเซียวลงทุกที

"ขอบคุณนะ" ข้าวสวยพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆ อัสบัสพยักหน้ารับก่อนจะยกร่างของข้าวสวยขึ้นมาอุ้มไว้

"ขอผมคุยกับเขาหน่อยได้ไหม" เสียงแหบแห้งร้องขอขึ้นเมื่อเห็นว่าอัสบัสกำลังจะก้าวเดิน อัสบัสมองอย่างสงสัยทันที

"เจ้าจะคุยอะไรก็ค่อยคุย ตอนนี้ไปรักษาตัวเสียก่อน" อัสบัสพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง

"ผมขอคุยแปบเดียว ได้ไหม" คนตัวเล็กร้องขออีกครั้ง อัสบัสมองใบหน้าที่ซีดเซียวอย่างครุ่นคิดก่อนยอมให้ข้าวสวยได้พูดคุยกับไพทรีเพราะทนต่อสายตาร้องขอนั้นไม่ไหว

อัสบัสค่อยๆ ช้อนร่างเล็กขึ้นและเป็นเวลาที่เหล่าทหารกรู่กันเข้ามาปิดลอบบริเวณที่พวกเขาอยู่ ก่อนที่ทหารกลุ่มหนึ่งกำลังจะพุ่งเข้าหาไพทรีก็ถูกอัสบัสห้ามไว้เสียก่อน อัสบัสพาร่างที่เริ่มไร้เรี่ยวแรงของข้าวสวยมายั่งไพทรีที่นั่งอยู่กับพื้นก่อนค่อยๆ วางร่างเล็กลงตรงหน้าผู้ปองร้าย แม้ในใจจะหวั่นกลัวว่าไพทรีจะทำอะไรข้าวสวยขึ้นมาอีกก็ตามแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ค่อยระวังความปลอดภัยให้กับคนรัก ร่างที่สั่นเทาของข้าวสวยค่อยๆ นั่งลงตรงหน้าไพทรีที่ตอนนี้อาบไปด้วยเลือดสีแดงฉาดและดูไร้เรี่ยวแรงไม่ต่างจากเขาเลย มือเล็กค่อยๆ เลื่อนไปจับกุมมือใหญ่สั่นเทา ข้าวสวยไม่ได้กลัวเลยว่าไพทรีจะมาทำร้ายเพราะความรู้สึกบางอย่างบอกว่าไพทรีไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นคนอันตรายเลย ไพทรีมองร่างบางตรงหน้าอย่างรู้สึกผิดที่คิดจะทำร้ายเพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองเขารู้สึกถึงความอบอุ่นจากมือเล็กๆ นั้นซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนทำให้น้ำตาไหลรินยิ่งสายตาที่ส่งมาให้แก่ไพทรีนั้นมันช่างอบอุ่น รู้สึกถึงความห่วงใยที่ส่งผ่านมาให้ทางสายตาไพทรียิ่งรู้สึกผิดต่อคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้นจนไม่อาจทนสบตากับดวงตาที่โหยหามาแสนนานนั้นได้

“ผมรู้ว่าคุณนะไม่ได้อยากทำร้ายผมหรอกใช่ไหม แต่มันคงมีความจำเป็นสินะ คุณคงทรมานกับมันจริงๆ แต่ว่านะคุณรู้ได้ไงว่าถ้าคุณได้หัวใจผมไปแล้วมันจะทำให้คุณดีขึ้น มันไม่มีอะไรยืนยันแน่นอนจริงไหม ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดีคนหนึ่งเลยแต่การที่พวกคนเหล่านั้นไม่ยอมรับคุณหรือทอดทิ้งคุณไปเพราะพวกเขาไม่รู้จักตัวตนจริงๆ ของคุณ ผมเชื่อว่าสักวันพวกเขาจะเห็นความดีในตัวของคุณเองไม่ใช่การตัดสินแค่รูปร่างภายนอกหรอกนะ แต่มันคือตรงนี้ต่างหาก” ข้าวสวยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือเล็กที่สั่นเทาเลื่อนไปชี้ทางอกด้านซ้าย คำพูดและการกระทำนั้นเรียกน้ำตาของไพทรีออกมาได้เป็นอย่างดี

“พระองค์” ไพทรีพูดอะไรไม่ถูกรู้สึกทราบซึ่งในความดีของผู้เป็นองค์ราชินีของตนอย่างยิ่งแม้จะทำไม่ดีแต่คนผู้นี้ก็ยังคงดีกับเขา

“อย่าได้น้อยใจหรือโศกเศร้าไปเลยแม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้แต่เราก็เลือกที่จะเป็นได้ เราไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาหรือความคิดของคนอื่นมากจนเกินไปเพราะมันจะทำให้ตัวเราเองที่เจ็บปวด เราต้องแคร์ตัวเราเองมากที่สุดสิถึงจะถูก และอย่าได้คิดว่าใครทอดทิ้งคุณเลยยังไงก็ยังคงมีคนที่ต้องการคุณอยู่แล้วเพียงแต่คุณยังไม่รู้ก็เท่านั้นและหนึ่งในนั้นก็มีผมคนหนึ่ง อ่อ! ยังมีอัสบัสอีกคนนะ อย่ายอมแพ้สิคุณต้องสู้มันถึงจะผ่านไปได้ผมเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะเป็นที่ยอมรับของใครๆแน่นอน” ข้าวสวยพูดขึ้นมาจากความรู้สึกจริงๆ ของเขาเองเพราะเชื่อว่าไพทรีต้องผ่านมันไปได้แน่นอนเพียงแต่ยังหาหนทางที่จะผ่านไปยังไม่เจอเท่านั้นข้าวสวยอยากเป็นคนหนึ่งที่ช่วยหาหนทางให้กับไพทรี

ไพทรีเมื่อได้ฟังคำพูดที่ปลอบประโลมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาทันที ไม่เคยมีเลยที่ใครจะเข้าใจความรู้สึกที่ทรมานและค่อยให้กำลังใจไพทรีมาก่อน ข้าวสวยที่พึ่งเจอกันแค่ไม่นานกลับเข้าใจทุกความเจ็บปวดนี้เป็นอย่างดี ไพทรีได้แต่ตระหนักภายในจิตใจว่าต่อให้ตนเองต้องตายก็ขอยอมถวายชีวิตเพื่อคนผู้นี้ ผู้ที่เป็นดั่งแสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาพา ตนออกจากความมืดมิดที่แสนจะทรมานมาเนินนาน ทุกการกระทำนั้นถูกถ่ายทอดไปยังสายตาทุกคู่ที่อยู่บริณนั้นทุกคนล้วนแล้วแต่ปลาบปลื้มในความดีของข้าวสวยด้วยกันทั้งนั้น แต่ยังคงมีสายตาของคนในมุมมืดที่จดจ้องอย่างไม่ละสายตาหากแต่ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายเรื่องตรงหน้าแต่อย่างใดเพราะเพียงแค่จะมาตรวจดูตามข่าวลือเพียงเท่านั้นไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเจอเรื่องตรงนี้ซึ่งมันทำให้ข่าวลือที่ว่านั้นชัดเจนยิ่งขึ้นแต่ก็สลดใจไม่น้อยที่ผู้ครองหยาดน้ำแห่งจันทราเป็นผู้ที่ไม่อยากให้เป็นที่สุด เมื่อเห็นว่าทำอะไรไปตอนนี้ไม่ได้ก็ได้แต่จากไปไม่ใช่ว่าไม่อยากทำแต่ไม่อาจที่จะลงมือกับคนตรงหน้าได้ก็เท่านั้น

ดวงตาที่หลับสนิทอยู่ค่อยๆ ลืมขึ้นก่อนมองไปรอบๆ กายก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในห้องนอนที่คุ้นเคยพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ก็ต่อร้องโอดโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บที่หน้าท้อง เสียงร้องเรียกให้คนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงต้องรีบก้าวเท้าเข้ามาหา

"ฟื้นแล้วหรือ" ร่างใหญ่ของอัสบัสเข้ามาประครองร่างเล็กให้นั่งขึ้น

"ผมหิวน้ำ" ข้าวสวยพูดด้วยเสียงที่แหบแห้ง คนฟังเมื่อได้ยินก็รีบเอาน้ำมาให้ทันที

"เจ้ารู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ยังเจ็บแผลหรือไม่" อัสบัสขึ้นอย่างเป็นห่วง

"ยังเจ็บอยู่นิดหน่อยครับ แล้วคุณละเป็นยังไงบ้าง" ข้าวสวยตอบกลับไปแต่ก็ไม่ลืมถามถึงอัสบัสเพราะคนตัวใหญ่ตรงหน้าเองก็บาดเจ็บเช่นกัน ข้าวสวยนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะจำอะไรไม่ได้เลยหลังจากพูดกับไพทรี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไงและไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร

"ข้าไม่เป็นอะไร รู้ไหมข้าเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน เจ้าสลบไปถึงสองวันเต็มๆ ข้าทรมานมากที่เห็นเจ้าไม่ได้สติเสียที" ตลอดสองวันแทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากมองดูร่างที่หลับใหลรอให้ฟื้นขึ้นมาด้วยจิตใจที่ทรมาน

"ผมสลบไปนานขนาดนั้นเชียว" ข้าวสวยตกใจไม่คิดว่าจะสลบไปถึงสองวัน

"ต่อไปเจ้าห้ามทำแบบนี้อีกรู้หรือไม่ หัวใจข้าแทบแตกสลายข้าทนเห็นเจ้าเจ็บปวดไม่ได้หรอก" มือใหญ่ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามใบหน้าของข้าวสวยดวงตาสีแดงฉายแววความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด

"ตอนนี้ผมก็ไม่เป็นอะไรแล้วไง ผมก็ไม่อยากให้คุณบาดเจ็บเหมือนกัน" ในจิตใจสับสนกับความรู้สึกที่มีต่ออัสบัสมากเหลือเกินยิ่งนึกย้อนถึงตอนที่ไปขวางเถาไม้นั้นยิ่งไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงทำแบบนั้น แค่เห็นว่าเถาไม้พุ่งมาทางอัสบัส แค่คิดว่าอัสบัสจะต้องบาดเจ็บร่างกายมันก็ขยับไปเองอัตโนมัติมารู้สึกอีกที่ก็ถูกแท่งเข้าที่ท้องเสียแล้ว ไม่อาจบอกตัวเองได้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไรแค่รู้สึกเป็นห่วงคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี แค่ไม่อยากให้บาดเจ็บ แค่คิดมันก็ทำให้หัวใจกระวนกระวายไปหมด รู้สึกเจ็บปวดและทรมานในจิตใจ ความรู้สึกเหล่านี้มันคืออะไรกัน ข้าวสวยได้แต่ตั้งคำถามให้กับตัวเอง

"แต่ข้าก็เป็นห่วงเจ้าอยู่ดี เจ้ากินอะไรหน่อยไหมสลบไปนานถึงสองวันคงจะหิวไม่น้อย" อัสพูดแต่ไม่วายถามออกมาด้วยความห่วงใยเพราะข้าวสวยสลบไปนานอาจจะหิวขึ้นมา คนตัวเล็กพยักหน้าเป็นการตอบรับ เมื่อเห็นอย่างนั้นก็เดินออกไปสั่งเหล่าพวกนางกำนัลที่รอรับใช้อยู่หน้าห้องทันทีก่อนกลับมานั่งบนเตียงข้างข้าวสวยอย่างเดิม

"คุณแล้วไพทรีละเป็นยังไงบ้าง" ข้าวสวยถามขึ้นทันทีที่อัสบัสนั่งลงข้างๆเพราะนึกได้ว่าไพทรีเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

"เจ้าจะไปสนใจมันทำไม มันทำร้ายเจ้า" พูดด้วยความหงุดหงิดที่คนตรงหน้ายังไปเป็นห่วงคนที่จ้องจะเอาชีวิตตนเอง

"คุณยังโมโหเขาอยู่สินะ คุณยังไม่ได้ฆ่าเขาใช่ไหม" ข้าวสวยถามขึ้นด้วยใบหน้าหม่นหม่อง

"ข้าจะฆ่ามันได้อย่างไร เจ้าห้ามข้าไว้ไม่ใช่หรือ" อัสบัสว่า ซึ่งมันก็จริงอย่างที่พูด แม้อัสบัสอยากจะทำลายไพทรีให้แหลกคามือแต่ก็ทำไม่ได้เพราะผู้เป็นที่รักขอไว้

"แล้วเขาเป็นยังไงบ้างคุณให้หมอไปรักษาบ้างหรือเปล่า" ข้าวสวยยิงคำถามใส่อัสบัสรัวเพราะนึกเป็นห่วงไพทรีจริงๆ

"มันไม่เป็นอะไรมากหรอก ข้าให้หมอหลวงไปรักษาแล้วไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าเป็นห่วงตัวเจ้าเองเถอะ" ว่าแล้วก็หันมาตรวจดูอาการของข้าวสวยทันที่ มือหนาค่อยๆ เลื่อนไปแตะหน้าผากเพื่อวัดไข้เพราะตอนที่ข้าวสวยสลบไปมีไข้ขึ้นสูงเพราะบาดแผล

"ผมไปเยี่ยมไพทรีได้ไหม" ข้าวสวยถามขึ้นทั้งสายตามองการกระทำของอัสบัสอยู่ตลอด

"ถ้าเจ้าหายดีแล้วข้าจะพาไป" อัสบัสพูดขึ้นทั้งยังเอามือทาบอยู่บนหน้าผากของข้าวสวย ใจจริงอัสบัสก็ไม่ได้อยากให้ข้าวสวยพบกับไพทรีแต่ที่ยอมตอบตกลงไปเพราะรู้ดีว่ายังไงคนตัวเล็กก็จะไม่ยอมยังคงยืนยันที่จะไปหาไพทรีเป็นแน่แท้เลยตอบตกลงไปถึงปฏิเสธไปก็ขวางข้าวสวยไม่ได้อยู่ดี

"คุณแล้วน้องผมละเป็นยังไงบ้าง รีฟเฟอร์ติดต่อมาบ้างไหม" ข้าวสวยเปลี่ยนมาถามไถ่ถึงน้องชายของตนเพราะไม่ได้ข่าวคราวมาหลายวันแล้ว

"ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงรีฟเฟอร์ดูแลอย่างดี ข้าเห็นดูมีความสุขดี ลืมเจ้าไปแล้วกระมัง" อัสบัสพูดขึ้นอย่างยิ้มๆ ไม่วายที่จะแกล้งคนรัก

.

"บ้าสิคุณ ข้าวเจ้าจะลืมผมได้ไง" ใบหน้าที่ซีดเซียวพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบแห้ง พลางทำแก้มป่องใส่คนพูดทันที อัสบัสมองใบหน้าที่ซีดเซียวทำแก้มป่องเพราะถูกแกล้งอย่างชอบใจแม้ใบหน้าจะซีดเซียวลงเพราะอาการเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักนั้นลดลง

“ก็มันจริง ข้าเห็นเรียกหาแต่รีฟเฟอร์ หาได้พูดถึงเจ้าเลย”

“คุณรู้ได้ยังไงละ ผมไม่เชื่อหรอกเจ้านะรักผมจะตาย” ข้าวสวยเถียงตามมาด้วยแก้มป่องๆ ใส่เพราะรู้สึกไม่พอใจที่อัสบัสบอกว่าน้องลืมตนเองไปแล้ว

“ก็ตลอดสองวันนี้ข้าดูอยู่ตลอด ข้าว่าเจ้านอนก่อนเถอะเดี๋ยวอาหารมาแล้วข้าค่อยเรียกเจ้า” พูดจบก็ประครองร่างของข้าวสวยนอนลงทันที คนถูกสั่งให้นอนก็ไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรแต่ก็ไม่มีแรงพอจะต่อต้านได้แต่มุ่ยหน้าแก้มป่องใส่คนตรงหน้า

“นี้คุณผมขอให้ไพทรีมาค่อยเป็นเพื่อนผมได้ไหม ผมสงสารเขาและอีกอย่างผมก็อยากเป็นเพื่อนกับเขาด้วย” ข้าวสวยที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มถามขึ้น

“ไม่ได้หรอกนะ ข้าไม่ไว้ใจมัน” อัสบัสตอบกลับ

“แต่...”

“เอาไว้ค่อยคุยตอนเจ้าหายดีแล้ว ตอนนี้พักผ่อนเสียก่อน” อัสบัสพูดแทรกขึ้น ข้าวสวยพยักหนารับก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล่าจากพิษบาดแผลบวกกับสัมผัสอุ่นๆ ที่ได้รับจากมือหนาสักพักหนึ่งก็เข้าสู่ห้วงนิทรา อัสบัสมองใบหน้าซีดเซียวที่ตอนนี้กำลังหลับอยู่อย่างเป็นห่วง เขารู้สึกชอบที่ข้าวสวยเป็นคนดีแบบนี้มันสมกับเป็นองค์ราชินีจริงๆ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้กลัวว่าไอ้ความใจดีของข้าวสวยจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวข้าวสวยเอง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา