BEST FRIEND(?) #เบสเฟรนด์ชิโระ

6.2

เขียนโดย Khunpor

วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 04.35 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.05K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 06.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) BEST FRIEND(?) 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

บทที่2

 

 

เช้าวันใหม่ของภาคเรียนที่สอง ผมยืนมองตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าหม่น ทั้งชุดยูนิฟอร์มกระเป๋าเปลี่ยนใหม่หมด ตั้งแต่เรื่องครั้งนั้นผมก็ไม่ได้ไปเรียนอีกเลย ไปอีกทีก็แค่ไปสอบเพราะพ่อให้เหตุผลว่าอายที่ต้องให้ผมไปเจอกับคนอื่น และตอนนี้ผมก็ต้องเริ่มต้นใหม่กับสถานที่ใหม่อีกครั้ง เอาเถอะถ้า 'เขา' ต้องการผมจะขัดอะไรได้ อยากให้ย้ายก็จะย้าย อยากให้ทำอะไรผมก็จะทำ เป็นหุ่นเชิ่ดมาตลอดแล้วนิ

ก็อก ก็อก

"พี่ชิโระ ปาล์มเข้าไปได้มั้ยคะ" เสียงเคาะเรียกของน้องสาวทำให้ผมหลุดจากภวังค์ตัวเองก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ปาล์มโดยไม่พูดอะไร

"ชุดใหม่เหมาะกับพี่จัง น่ารักมากเลย"

ปาล์มพูดชมขึ้นด้วยรอยยิ้มฝืนๆ ทำไมผมจะดูไม่ออกว่าน้องร้องไห้ วันที่ปาล์มรู้ว่าผมจะโดนย้ายไปอยู่หอเธออาละวาดใส่พ่อถึงที่ทำงานจนผมต้องไปรับกลับ ขนาดวันนี้ตาปาล์มยังแดงๆ อยู่เลย

ใช่ครับ ผมไม่ได้โดนย้ายโรงเรียนอย่างเดียว แต่พ่อเขาย้ายให้ผมไปอยู่โรงเรียนประจำที่ไกลจากบ้าน เพราะให้เหตุผลว่าจะได้ไม่ต้องเจอคนรู้จัก ทั้งเบอร์และไลน์ผมพ่อก็ให้ผมเปลี่ยนใหม่หมด นี่แค่ต่อยคนนะยังพาหนียังกับลักลอบเข้าประเทศ เหอะ!!

"ขอบใจ แล้วทำไมปาล์มไม่ไปโรงเรียนสักทีละ หืม" ผมพูดกับน้องด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วลูบหัวเธอเบาๆ

"ปาล์ม ฮึก! ปาล์ม ฮึก! ปาล์มเกลียดคุณพ่อ!!! ฮืออออออออ"

ปาล์มไม่ตอบผมแต่สะอื้นร้องไห้พร้อมโผเข้ากอดผมไว้แน่น ผมยิ้มเล็กๆ กับความติดพี่ของปาล์มพรางลูบหลังปลอบเพื่อให้น้องสาวตัวแสบผมหยุดร้องไห้

"ปาล์มคนเก่งที่ไปอาละวาดพ่อตัวเองหายไปไหนแล้วละ ทำไมช่วงนี้พี่เจอแต่ปาล์มขี้แงบ่อยจัง" ผมพูดแซวปาล์มขึ้น

"ก็...ฮึก! ก็ปาล์มไม่อยากให้พี่ชิโระออกจากบ้านนิ!! ฮึก! คุณพ่อทำเกินไปแล้ว!!!!" ปาล์มพูดโวยวายเสียงอู้อี้เพราะมุดหน้าซบอกผมอยู่

"ฮ่าๆ ชั่งมันเถอะ เดี๋ยวเสาร์-อาทิตย์ หรือปิดเทอมพี่ก็แวะกลับบ้านบ่อยๆ เองละน่า ทำยังกับพี่จะไปตายงั้นละ..."

"ห้ามพูดแบบนั้นสิ!!! อย่ามาพูดเรื่องตายนะ!!" ปาล์มเงยหน้าจากอกผมพร้อมพูดเสียงดุเมื่อได้ยินผมพูดไม่เป็นมงคล

"คร้าบๆ ขอโทษคร้าบบบ ทีนี้ปล่อยพี่ได้ยัง เสื้อพี่ยับและเปื้อนน้ำตาปาล์มหมดแล้วมั่งเนี่ย"

"อ่า...ขอโทษค่ะ" ปาล์มปล่อยผมช้าๆ แล้วมองเสื้อผมด้วยสีหน้าหม่นๆ โหย...แค่แซวเล่นเอง ทำหน้าหมาหงอยซะละ

"อยู่บ้านอย่าดื้อละ เป็นเด็กดีเข้าใจมั้ย"

ผมพูดสอนปาล์มด้วยความตะขิดตะขวงใจ เป็นเด็กดีงั้นหรอ? บางครั้งก็อยากลองสอนให้คนอื่นชั่วดูบ้าง อยากรู้ว่าเขาจะมีผลลัพธ์ที่ต่างจากที่ผมเป็นอยู่ยังไง

"ค่ะ พี่ชิโระต้องกลับมาบ้านบ้างนะ ถ้าปาล์มเรียนจบที่นี้แล้วจะไปสอบ ม.4 ที่เดียวกับพี่นะ พี่อย่าลืมปาล์มนะ"

ปาล์มพูดบอกผมด้วยน้ำเสียงสั่นขึ้นน้อยๆ ผมพยักหน้ายิ้มๆ กับคำสั่งน้องสาวก่อนจะหันไปจัดเสื้อผ้าตัวเองดีๆ ใหม่แล้วก้มหยิบกระเป๋าและแมทปิดปากขึ้นมาใช้

"พี่ชิโระใส่แมททำไมหรอคะ ไม่สบายหรอ"

"อ่า...นิดหน่อยนะ พี่ไปละนะ ต้องทำเรื่องย้ายที่ธุรการเดี๋ยวสาย" ผมตอบเลี่ยงน้องแล้วบอกลา ปาล์มพยักหน้าช้าๆ พร้อมน้ำตาที่เหมือนจะรื้อขึ้นอีกรอบ น้องใครขี้แงจัง

"เสร็จแล้วหรอชิโระ เดี๋ยวแม่ไปส่งนะ" เมื่อผมลงมาข้างล่างก็เห็นแม่ยืนรอพร้อมส่งยิ้มให้น้อยๆ

"ผมไปเองได้ครับ ลำบากแม่เปล่าๆ โรงเรียนผมห่างจากที่ทำงานแม่ตั้งเยอะ" ผมบอกท่านด้วยความเป็นห่วง เมื่อคืนกว่าแม่จะกลับก็เกือบเช้าทำงานเป็นพยาบาลลำบากจะตายทำไมผมจะไม่รู้

"ให้แม่ไปส่งเถอะนะ ให้แม่ทำอะไรเพื่อเราบ้าง ขนาดเรื่องย้ายโรงเรียนแม่ยังช่วยอะไรชิโระไม่ได้เลย" แม่พูดพรางทำสีหน้าหม่นจนผมรู้สึกแย่ไปด้วย ทุกคนดีกับผมมากจริงๆ

"ครับ ขอบคุณมากครับ งั้นเรารีบไปกันเถอะเดี๋ยวแม่ไปทำงานสายเอา" เมื่อผมตอบตกลงแม่ก็ยิ้มขึ้นก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเดินนำผมไปขึ้นรถที่หน้าบ้าน

"จะได้ไปเจอเพื่อนใหม่ตื่นเต้นมั้ย"

"ไม่ครับ"

ผมตอบครูคนใหม่ที่ไปรับผมที่ห้องธุรการด้วยท่าทางนิ่งๆ แม่มาส่งผมแล้วยังช่วยเรื่องย้ายที่ห้องธุรการก่อนจะกลับ ส่วนพวกข้าวของแม่คุยกับทางผู้ดูแลหอให้แล้วว่าจะส่งมาให้ตอนเที่ยงวันนี้ ตอนนี้ผมเลยเดินตัวปลิวไปเรียนอย่างเดียว

"นักเรียนทุกคนนั่งที่ วันนี้ครูมีนักเรียนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก" เมื่อเข้ามาในห้องครูก็พูดเปิดประเด็นพร้อมดึงผมมายืนหน้าชั้นเรียน ทุกคนมองผมด้วยสายตางงงวยแล้วเริ่มมีเสียงเซ็งแซ่ขึ้น

"ครูครับปกติโรงเรียนเราไม่รับนักเรียนเข้ากลางเทอมไม่ใช่หรอครับ แถมยิ่งเรื่องสอบเข้าก็ยาก ทำไมถึงมีนักเรียนใหม่เข้ามาได้ละ"

มีคนทนความสงสัยไม่ได้จนต้องยกมือถามขึ้น ครูสาวประจำชั้นทำสีหน้าลำบากใจนิดๆ ผมก็พึ่งรู้เหมือนกันแหะว่าโรงเรียนนี้เข้ายาก ไม่เห็นพ่อพูดอะไร

"ครูก็ไม่ทราบจ๊ะ ผอ.ท่านรับเข้ามาโดยตรงเองนะ"

"ไหงงี้อ่ะ"

"ไม่ยุติธรรมเลย"

"ทีเรากว่าจะเข้าได้แทบตาย"

เสียงโวยวายดังขึ้นเมื่อครูสาวพูดจบ ทุกคนมองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตรนักจนครูเริ่มทำตัวไม่ถูก โฮยๆ จะไหวมั้ยเนี่ยกู วันแรกก็โดนเกลียดยกห้องแล้วเนี่ย

"หุบปากได้แล้ว!! มันจะเข้ามายังไงก็ชั่งสิ ก็ตอนนี้มันเข้ามาแล้ว จะโวยวายกันทำไมวะ รำคาญ!!!" เสียงตะโกนดังขึ้นจากหลังห้องทำให้ทุกคนที่พูดอยู่เงียบกริบ ขนาดครูยังสะดุ้งเลย เฮ้ย!...ครูไหวป่ะวะ แค่นักเรียนยังกลัวเนี่ย - -"

"เอ่อ...งั้นเด็กใหม่ไปนั่งโต๊ะที่ว่างหลังห้องนะจ๊ะ" เมื่อครูเห็นทุกคนไม่พูดอะไรเลยบอกให้ผมไปนั่งที่ได้ อ้าว...ไม่แนะนำตัวแล้วหรอ แต่ชั่งมันเถอะ ผมยังไงก็ได้

ผมก้มหัวให้ครูนิดๆ แล้วเดินไปโต๊ะที่ว่างซึ่งอยู่ข้างหลังของคนที่ตะโกนเมื่อกี้ ก็อยากจะขอบใจเขาอยู่หรอกนะ แต่เจ้าตัวเล่นตะโกนเสร็จแล้วก้มหน้านอนกับโต๊ะเลยคงชวนคุยไม่ได้อ่ะ ผมมองเขานิดๆ ก่อนจะเดินเลยไปนั่งที่โต๊ะตัวเองแล้วเปิดกระเป๋าเอาหนังสือออกมาเรียนวิชาแรก

"วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ครูไม่อยากให้เจอบทเรียนหนักๆ งั้นให้ทุกคนอ่านทบทวนกันแล้วมาสรุปตามความเข้าใจให้ครูฟังทีละคนนะจ๊ะ"

"ครับ!"

ทุกคนตอบรับครูแล้วเริ่มทบทวนบทเรียน พอได้มาสังเกตจริงๆ พึ่งรู้ว่าทั้งห้องเป็นนักเรียนชายหมดเลยแหะ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสหไม่ใช่หรอ ทำไมไม่มีผู้หญิงละ

"นี่ๆ นาย นายนักเรียนใหม่" ผมที่กำลังมองรอบๆ ห้องด้วยความสงสัย ก็โดนคนที่นั่งข้างๆ เรียกพร้อมเอาปากกาจิ้มแขนผมอยู่เบาๆ

"มีอะไรหรอ"

ผมหันไปตอบรับคนเรียก ตอนนี้ครูไม่อยู่แล้วบางคนก็เริ่มจับกลุ่มทบทวนบทเรียนบางคนก็เริ่มจับกลุ่มคุย แต่ส่วนใหญ่บทสนทนาคงไม่พ้นเรื่องของผมหรอก

"นายชื่ออะไรหรอ"

ผู้ชาย เอ๊ะ! หรือผู้หญิง ผมมองคนที่ถามผมด้วยความสงสัย หน้าเขาค่อนข้างไปทางผู้หญิงมาก ผมก็ไว้ยาวระต้นคอ แต่ไหงใส่ชุดยูนิฟอร์มผู้ชายละ

"กูเป็นผู้ชายครับ ไม่ต้องมามองแบบนั้น"

เหมือนอ่านใจผมออก เขาบอกผมด้วยสีหน้าเซ็งๆ เป็นผม ผมก็เกลียดเวลาใครคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง อันนี้ผมพอเข้าใจ TT

"อ่า...ขอโทษทีวะ ผมชื่อชิโระ" ผมตอบด้วยท่าทางนิ่งๆ

"กูชื่อบิว ไม่ต้องพูดเพราะหรอกกูหยุดหยาบไปแล้ว" ผมยิ้มขำกับคำพูดของบิวนิดๆ

"แล้วมึงเป็นลูกครึ่งหรอ ชื่อแปลกๆ ผิวก็แปลก ส่วนสูงก็แปลก ว่าแต่เปิดแมทได้มั้ยเผื่อหน้าแปลก" ทำไมรู้สึกเหมือนโดนด่า - -"

"อ่า กูเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่กูไม่แปลกหรอก มึงอ่ะแปลก กวนตีนละ"

"ฮ่าๆ แหม...ก็แซวเล่นเหอะ เผื่อมึงเปิดแมทแล้วสวยกูจะได้จีบไง"

"กูไม่อยากเบี้ยน"

"กวนตีนละมึง"

ผมพูดคุยหัวเราะกับบิวเบาๆ จากตอนแรกที่โต๊ะห่างกันบิวก็ยกโต๊ะมานั่งข้างๆ และช่วยบอกบทเรียนที่เรียนผ่านไปเทอมที่แล้วให้ฟังคร่าวๆ ด้วย บิวไม่ถามเรื่องเข้ามาเรียนได้ไงสักคำ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีเพื่อนครั้งแรกในชีวิต ดีใจ TT

"ทำเป็นหัวเราะมีความสุขทั้งๆ ที่โกงการเข้ามาเรียนชัดๆ"

เสียงเหน็บแนมดังขึ้นพร้อมสายตาทิ่มแทงจากคนในห้องทำให้บิวที่นั่งข้างๆ ผมกำหมัดแน่นแล้วทำท่าจะลุกขึ้นด่าผมเลยดึงมือห้ามมันเอาไว้ มาเรียนวันแรกผมไม่อยากให้เชิญผู้ปกครองหรอกนะ

"ไอ้บิว จะไปยุ่งกับมันทำไม เดี๋ยวมึงก็ลำบากไปด้วยกรอก"

"นั่นสิ อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องนะมึง"

"พวกกูอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดีนะเห้ย ฮ่าๆ"

เสียงตะโกนพูดพร้อมเสียงหัวเราะดังลั่นห้องอีกครั้ง บิวกำหมัดแน่นกว่าเดิมแล้วกัดฟันกรอดด้วยความโมโห ถูกของพวกมัน บิวไม่ควรมาเป็นเพื่อนผมดีกว่ามั้ย ผมไม่อยากให้มันมาลำบากไปด้วย ยังไงมันก็เข้ามาเรียนเทอมนึงแล้ว ถ้ามาเสียทุกอย่างเพราะผมตอนนี้คงไม่ดีแน่

"เอาไงวะไอ้บิว!!"

"จะเลิกยุ่งหรือจะลำบากไปกับมันนนนนน"

"พวกกูให้ทางเลือกเลยนะเว้ย!!" เสียงตะโกนยังดังไม่หยุด และเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนผมรู้สึกได้ว่าบิวใกล้หมดความอดทนแล้ว

"กูไม่..."

ตึง!!!!!

บิวที่หมดความอดทนลุกขึ้นพรวดแล้วกำลังจะพูดตอกกลับแต่ยังไม่ทันได้พูดจบ เสียงล้มตึงของโต๊ะข้างหน้าผมก็ดังขึ้นจนทั้งห้องเงียบกริบ

"พวกมึงจะแหกปากหาพ่อมึงหรือไง!!! กูนอนอยู่ตาบอดกันหรอ ถ้าปากมันว่างมากกูจะได้ให้แดกตีนกันเรียงตัวเอามั้ย!!!!!!!" เสียงตะโกนของคนที่ลุกขึ้นยืนอยู่ข้างหน้าผมดังลั่นห้อง ผมมองแผ่นหลังกว้างด้วยสายตาสั่นๆ ไม่ใช่กลัวแต่กูตกใจ TT

"น่ารำคาญจริง!!"

คนตัวสูงถีบโต๊ะตัวเองที่ล้มอยู่อย่างหงุดหงิดอีกครั้งก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไปทันที อ้าวเฮ้ย ไม่เรียนหรอนั่น หน้าก็ยังไม่เห็น ยังไม่ได้ขอบใจเลย

"เสือกตะโกนไม่ได้ดูกันเอง พวกมึงน่าจะได้แดกตีนปริ้นซ์ก่อนปริ้นซ์ไปจริงๆ นั่นละ"

"ปากมากนะไอ้บิว ปากแบบมึงน่าจะมานอนครางมากกว่ายืนด่านะ"

"มึงพูดแบบนี้เอากันสักหน่อยมั้ย คนที่แล้วที่พูดแบบนี้กูพามันไปเฝ้าอาม่าแล้วนะเว้ย!!!"

"โห...เอากับมึงทีได้ขึ้นสวรรค์เลยหรอวะ ดีๆ กูก็อยากลองไปถามสารทุกข์สุขดิบของปู่กูอยู่เหมือนกัน"

"ไอ้เชี่ยนี่!!!!"

"เฮ้ย! บิวใจเย็น"

ผมคว้ามแขนบิวไว้ก่อนที่เพื่อนตัวดีผมจากพุ่งไปกระทืบผู้ชายอีกคนที่นั่งยียวนอยู่อีกฝั่งของห้อง นี่ผมเป็นหายณะป่ะเนี่ย ไปที่ไหนชิบหายที่นั่น - -"

"แม่ง ไม่ต้องเรียนมันแล้ว ไปกันเหอะ วันแรกครูไม่สอนไรมากมายหรอก อยู่นานๆ กูจะฆ่าคนเอา"

บิวพูดจบก็ก้มจับกระเป๋าผมและของมันก่อนจะคว้าแขนผมเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องทันที ไม่ถงไม่ถามความสมัครใจกูซากกกกก คำ TT

"แล้วมึงจะลากกูไปไหนเนี่ย" ผมถามขึ้นเมื่อเห็นบิวไม่พูดอะไรเอาแต่จับผมลากไปเรื่อยๆ

"ไม่รู้" อ้าว ไอ้นี่

"งั้นหยุดเดินก่อนกูเหนื่อย" ผมยื้อแขนตัวเองไว้ให้บิวหยุด ก่อนจะดึงกระเป๋าตัวเองกลับมาถือเอง

"แม่ง กูยังของขึ้นอยู่เลย"

บิวพูดขึ้นแล้วทำท่ากระฟัดกระเฟียด มันไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิด กลับดูน่ารักซะอีก แต่อย่าพูดบอกมันดีกว่า เพราะคนที่จะโดนกระทืบคงเป็นผมแทน -.-

"น่าเสียดายปริ้นซ์น่าจะกระทืบพวกมันก่อนออกมาจากห้องสักที จะเป็นพระคุณกูอย่างยิ่ง"

"เออ กูสงสัยมาสักพักละ ปริ้นซ์นี่คือคนตัวสูงๆ ที่นั่งหน้ากูป่ะ ทำไมทุกคนถึงดูกลัวเขาจังวะ" ผมถามบิวด้วยความสงสัยเจ้าตัวเดินไปนั่งม้านั่งใกล้ๆ ก่อนจะเริ่มเล่า

"กูก็อธิบายไม่ถูกวะ กูเข้ามาทุกอย่างก็เป็นแบบนี้แล้ว ขนาดรุ่นพี่ ม.5 ม.6 ยังไม่กล้ายุ่งกับปริ๊นเลย" ทำกูงงไปใหญ่อีก

"ยังไงวะ ถึงเขาจะดูตัวสูงแต่ก็ไม่เห็นต้องกลัวกันขนาดนั่นเลยนิ"

"คือ มันมีข่าวลือว่าปริ้นซ์เป็นหลานเจ้าของโรงเรียนนี้และเป็นลูกของนายกคนปัจจุบัน มีคนเคยเห็นปริ๊นมีเรื่อง 5 รุม 1 ชนะได้แบบสบายๆ แถมล่าสุดมีคนใจกล้าเรียกชื่อจริงๆ ปริ้นซ์ไป โดนกระทืบปางตายโดยไม่มีใครกล้ายุ่งไม่มีเชิญผู้ปกครอง อิทธิพลของปริ้นซ์น่ากลัวจนคนไม่กล้าแหยม อาจารย์ไม่กล้าแตะเลยละ" หืม...นี่นักเรียนหรือมาเฟียสยามวะ - -"

"เดี๋ยวนะ ชื่อจริงๆ ของปริ้นซ์? ปริ้นซ์ไม่ได้ชื่อปริ้นซ์หรอวะ"

"ป่าว ชื่อเล่นจริงๆ ของปริ้นซ์ คือชื่อเบส แต่ไม่รู้ทำไมเขาไม่ยอมให้ใครเรียก คือเรียกชื่อจริงได้ แต่ห้ามเรียกชื่อเล่น แปลกคนดีมั้ยละ" เออ แปลก ไอ้เหี้ย แปลกตั้งแต่ข่าวลือละ นี่นักเรียน ม.4 แน่หรอวะ

"แล้วชื่อจริงเขาชื่อปริ้นซ์ไง" แล้วกูจะอยากรู้ทำไมนักหนาฟะเนี่ย

"ก็ไม่ใช่อีกอ่ะ นี่เป็นฉายา พวกผู้หญิงเขาพากันเรียก พวกผู้ชายเห็นได้ยินก็เรียกตามๆ กันไป ก็ดูสิทั้งหน้าตา ฐานะเพอร์เฟ็คซะขนาดนั้น ไม่ให้พวกผู้หญิงมองเป็นเจ้าชายได้ไง" ไม่รู้อ่ะ ยังไม่เห็นหน้า แล้วดูจากข่าวลือ ผมว่าไม่ควรเป็นเจ้าชาย ควรเป็นมาเฟียมากกว่า - -"

"เออ...ว่าแต่ ทำไมห้องเราไม่เห็นมีผู้หญิงเลยวะ" ถึงหน้ามึงจะเหมือนมากก็เถอะ 555555555

"อ่อ...โรงเรียนเราโดนแบ่งโซนการเรียนอ่ะ โรงเรียนนี้เคยเป็นโรงเรียนชายล้วนมาก่อน พึ่งเปลี่ยนเป็น โรงเรียนสหได้เมื่อ 2-3 ปีนี่เอง นักเรียนหญิงเลยมีน้อยกว่านักเรียนชาย เลยกลายเป็นว่า ทั้งชายหญิงแบ่งโซนการเรียนกัน จะได้เจอกันแค่พักกลางวันตอนกินข้าวนั่นละ" แล้วจะเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสหเพื่อออออ...แบบนี้ผมก็ได้แต่มองหน้าผู้ชายทั้งวันแทนสิ ชีวิตเศร้าชิบ TT

"เฮ้ย!! ชิโระ กูลืมหยิบโทรศัพท์จากใต้โต๊ะ พากลับไปเอาหน่อยดิ" อุตส่าห์เดินออกมาซะเท่ต้องกลับไปเจอพวกนั่นอีกแล้วหรอเนี่ย

"มึงนี่นะ เออๆ ไปๆ"

ผมกับบิวเดินกลับมาที่ห้องเรียนอีกครั้ง โชคดีที่ครูยังไม่เข้าสอนผมเลยรอบิวหน้าห้องให้มันเข้าไปหาโทรศัพท์เอง อย่างน้อยๆ ไม่มีผมเข้าไปด้วยพวกในห้องจะได้ไม่ต้องแขวะผมกระทบบิว

"ไอ้เตี้ย หลบดิ เกะกะ" ผมตากระตุกนิดๆ เมื่อได้ยินคนพูดใส่น้ำเสียงห้วน แม่งเรียกใครเตี้ยวะ

"หูหนวกไง กูบอกให้หลบ เตี้ยแล้วเสือกพิการอีกหรอ"

ผมหันหวับมองคนพูดด้วยความโมโห คนตัวสูงก้มมองผมด้วยสายตานิ่ง ใบหน้าหล่อไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้นแต่นั่นทำผมโมโหยิ่งกว่าเดิม

"ไอ้เตี้..."

"มึงเรียกใครเตี้ย!"

ผมสวนกลับก่อนที่คนตรงหน้าจะพูดจบ ปกติผมเป็นคนคุมอารมณ์ตัวเองได้ดี แต่ไม่รู้ทำไมกลับไอ้หมอนี่ผมอยากเอาชนะมันเหลือเกิน!!!

"มึงยืนขวางประตูอยู่คนเดียวกูคงคุยกับหมาปั๊กมั่ง" นอกจากจะหน้าตายแล้วยังกวนตีนอีก!!!

"แต่กูไม่ได้ชื่อเตี้ย!!"

"แต่มึงเตี้ยไง" ไอ้เหี้ยยยยยย!! กวนตีน กวนตีนมาก เกลียดหน้าตายของมันสุดๆ ต่อยสักทีดีมั้ยเนี่ย

"ชิโระมีไรวะ" เสียงบิวที่พึ่งเดินออกมาจากห้องเรียกผมขึ้น แต่ผมก็ยังจ้องหน้ากับไอ้คนตรงหน้าไม่หันไปตามเสียงเรียก

"เพื่อนมึงมาแล้วก็หลบสิวะ จะยืนเตี้ยขวางตีนกูทำไม"

"มึงพูดงี้ต่อยกับกูเลยม่ะ!!!! จะได้รู้ว่าตีนคนเตี้ยเป็นยังไง!!!!" ผมตะโกนใส่คนตรงหน้าอย่างเหลืออด นักเรียนที่อยู่ในห้องเริ่มมุงดู แต่ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นละตอนนี้

"เหอะ!" คนตัวสูงไม่พูดอะไรแต่หัวเราะในลำคอพร้อมยิ้มเหยียดผมนิดๆ อือหืออออ ทำปรี๊ดกว่าเดิมอีกสัส!!!!

"//มึงจะบ้าหรอชิโระ ปกติห้ามกูจังทีตอนนี้ไปหาเรื่องเขาซะเอง นี่มันปริ้นซ์นะเว้ย หลบๆ เหอะจะได้จบ//" บิวกระตุกแขนผมพร้อมกระซิบด้วยน้ำเสียงร้อนรน นี่หรอปริ้นซ์ที่คนกลัวกันนักหนา

"นี่หรอ 'ไอ้เบส' ที่มึงเล่าให้ฟัง ไม่ได้ดู เบส(Best) สักนิด ดูจะ แบด(Bad) ซะมากกว่า"

"เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย" ผมจงใจเรียกชื่อของคนตรงหน้าออกมา บิวหน้าซีดเมื่อผมพูดจบ แต่คนที่เริ่มมุงส่งเสียงร้องตกใจกับความบ้าบิ่นของผม

"มึงเรียกกูว่าไงนะ"

คนถูกเรียกที่ทำหน้าตายมาตลอด กัดฟันกรอดพูดผ่านไรฟันอย่างน่ากลัว แต่ผมกลับไม่สะท้านสักนิด ตัวใหญ่กว่าแล้วไงวะ คิดว่ากูจะกลัวไง

"อ้าว...จำชื่อตัวเองไม่ได้หรอ 'เบส' ชอบให้คนเยินยอเป็นเจ้าชายจนลืมชื่อตัวเองไง" ผมพูดยั่วโมโหคนตรงหน้ามากกว่าเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องหาเรื่องขนาดนี้ ทั้งๆ ที่อดทนเป็นเด็กดีมาตลอด

"ย้ายมาใหม่แล้วซ่านะมึง!"

ผัวะ!!

เบสพูดจบก็ต่อยผมเต็มแรงจนผมลงไปกองกับพื้น คนตัวสูงเข้ามาเพื่อจะคร่อมผมแล้วต่อยซ้ำ แต่ผมยกเท้าทีบหน้าท้องมันก่อนจะต่อยกลับจนอีกฝ่ายล้มลงเหมือนกัน ดูจากน้ำหนักมือและฟอร์มการต่อยก็รู้แล้วว่ามันเรียนศิลปะการต่อสู้มาเหมือนกัน แต่มันคงเอาไปใช้บ่อย แต่ผมนี่สิแทบไม่เคยใช้เลย มันจะได้เจิมคนแรก!!!!!

ผัวะ! ตุบ ผลั่ก!

"เฮ้ย!!! หยุดสิวะ หยุด" เสียงบิวตะโกนขึ้นแต่ผมกับอีกคนไม่สนใจสักนิด ปล่อยหมัดซัดกันอย่างเดียว จนแมทปิดปากผมขาดไปตอนไหนไม่รู้

"หยุด!!! หยุดเดี๋ยวนี้ ถ้ามึงไม่หยุดกูจะฟ้องเนยนะเบส!!!"

มือหนาที่กำลังจะยกต่อยผมอีกรอบค้างกลางอากาศเพราะเสียงของคนที่เข้ามาใหม่ ผมถีบท้องมันอีกรอบเพราะมันยังกำคอเสื้อผมไว้อยู่ คนโดนถีบล้มลงแล้วมองผมอย่างอาฆาตแต่ไม่พุ่งเข้ามาใส่

"นี่มันเรื่องบ้าอะไร!!!"

เสียงตะโกนถามจากคนเดิมดังกราวทำให้ทุกอย่างเงียบกริบ ผมเช็ดเลือดที่มุมปากลวกๆ แล้วหันไปหาเจ้าของเสียงที่มองมายังพวกผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

"ผมถามพวกคุณเงียบกันทำไม!! ยืนดูกันเป็นสิบๆ ไม่มีใครเข้าไปห้าม พวกนายสองคนก็เหมือนกัน แย่งกระดูกกันหรือไง กัดกันยังกับหมา!!!" หน้าสวยแต่ด่าเจ็บสัส TT

"ขอโทษครับ" ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใครแต่ดูจากที่ทุกคนเกรงๆ กันแล้วผมก็ควรเคารพเขาเหมือนกัน

"มึงอยากโดนย้ายใช่มั้ยเบส" ผู้ชายหน้าสวยพยักหน้ากับคำขอโทษผมนิดๆ ก่อนจะหันไปทำหน้ายักษ์ใส่คนข้างๆ ผมต่อ

"ขอโทษครับ" แล้วเบสก็ยอมพูดขอโทษขึ้นมาอีกคน เขาเป็นใครวะ น่ากลัวชิบ TT

"พวกนายทำผิดกฎต้องโดนเชิญผู้ปกครอง" เชิญผู้ปกครอง!!!!!!

"ไม่นะครับ ผมขอโทษจริงๆ ทำโทษผมอย่างอื่นเถอะ นี่เป็นความผิดครั้งแรกด้วย ผมจะไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก"

ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ผมพึ่งเข้ามาเรียนวันแรกยังไม่อยากให้พ่อปวดหัวไปมากกว่านี้ ผมยอมรับว่าใจร้อนเกินไป ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนโดนหนักกว่านี้อีกก็ทนมาแล้ว ทำไมไม่ทนๆ แล้วหลบทางให้จบๆ ไปนะชิโระเอ้ย!!!!

"เฮ้อ...ฉันอุตส่าห์จะรอรับนายด้วยสภาพดีๆ ดูสิ หน้าตาน่ารักเป็นแผลหมดเลย" หืม...เปลี่ยนอารมณ์ไวจัง ว่าแต่หน้าตาน่ารัก? ผมคลำหน้าตัวเองก็ต้องตาโตขึ้น แมทปิดปากหลุดนี่หว่า!! เชี่ยแล้วไง

"น่ารักเชี่ยไร ผู้ชายห่าไรหน้ายังกับกระเทย" ผมตวัดตามองคนข้างๆ ที่พูดเหน็บด้วยความโมโห หน้าตากูยังไม่ประหลาดเท่านิสัยมึงหรอก

"มึงหุบปากไปเลยเบส เรื่องของมึงกูจะให้เนยจัดการ" ผู้ชายคนเดิมพูดขึ้นเสียงเย็น ผมว่าเขาต้องมีสองบุคลิกแน่ๆ ตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆ

"ได้ไงวะ! ขอละอย่าบอกเนยเลย จะเอากูไปถ่วงไหนก็ตามสบาย แต่อย่าบอกเนย" หน้าซีดเลยแหะ เนยนี่ใครวะ ท่าทางจะรักน่าดู หน้าอย่างมันจะมีแฟนก็คงไม่แปลกหรอกมั่ง

"งั้นมึงมาเป็นกระสอบทรายให้กูซ้อม 30 นาที แล้วกูจะทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น" ปีศาจ ปีศาจชัดๆ ผู้ชายคนนี้น่ากลัว รอยยิ้มสวยๆ ที่ยิ้มมาไม่ได้ดูให้รู้สึกดีสักนิด แต่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังมากกว่าเดิมอีก

"ตะ...ตกลง" เบสก็เบสเถอะ เสียงสั่นเลยมึง

"ส่วนนายบำเพ็ญประโยชน์ 10 วัน โดนหักคะแนะจิตพิศัย 40 คะแนน ทุกคนที่อยู่ที่นี้ก็ต้องโดนหักคนละ 10 คะแนนข้อหาเป็นผู้สวมรู้ร่วมคิดไม่ห้ามปรามกัน ใครมีปัญหาอะไรมั้ย!!!!!!"

"ไม่มีครับ!!!" ทุกคนตอบพร้อมกัน

"งั้นฉันไปละ เจอกันที่หอพักนะชิโระ พวกนายก็คืนดีกันไวๆ ละ เพราะต้องอยู่ด้วยกันอีกยาว"

ผมยืนมองแผ่นหลังเพรียวที่เดินไปตาปริบๆ เขารู้จักชื่อผมได้ไง เขาเป็นใคร แล้วทำไมผมรู้สึกกลัวแปลกๆ กับคำพูดของเขา คงไม่มีปัญหาอะไรตามมาอีกนะ ขอร้องละ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา