พ่ายรักพรางหัวใจ

8.8

เขียนโดย Phaky

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.

  33 ตอน
  4 วิจารณ์
  33.34K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน 

ซีรีส์ชุด 'พ่ายรักยอดดวงใจ' โดย 'พิจักขณา' มีทั้งหมด 3 เรื่องค่ะ

 

-พ่ายรักกลลวงใจ ราคา 279 บาท จำนวน 312 หน้า

 

-พ่ายพยศรัก ราคา 319 บาท จำนวน 360 หน้า

 

-พ่ายรักพรางหัวใจ ราคา 389 บาท จำนวน 504 หน้า

 

แต่หากซื้อยกชุด ราคาสมาชิกเพียงชุดละ 839 บาท เท่านั้นคร่า

 

สั่งซื้อได้แล้วที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ

 

​https://www.lightoflovebooknovel.com/showbook.php?bid=2597

 

หรือตามหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค B2S (เฉพาะพ่ายรักพรางหัวใจ วางแผงหน้าร้านเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันที่ 26/08/60 ตามต่างจังหวัดรอกระจายสินค้า 1-2 สัปดาห์)

 

***********************************************************************

 

แจ้งนักอ่านที่น่ารักทุกท่านคร่า ใกล้ครบโควต้าที่จะสามารถอัพลงเว็บให้อ่านกันแล้วนะคะ น่าจะลงได้อีก 2 - 3 ตอนค่ะ ใครไม่อยากค้างคา อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วคู่รักปากหนักคู่นี้จะลงเอยแบบไหน สามารถหาซื้อหนังสือได้ที่สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ หรือตามร้านหนังสือชั้นนำเลยค่ะ

 

*****************************************************************

 

“หนีลงมาแบบนี้ ‘ไม่น่ารัก’ เลยนะ อลิส”

 

เสียงทุ้มติดจะแง่งอนของคนที่มายืนซ้อนหลังพร้อมทั้งสอดแขนแข็งแรงสองข้างเข้ามารัดรอบเอวเล็กภายใต้ชุดเดรสยาวแค่เข่าสีเหลืองสดใสที่ดาเนียลเป็นคนหาซื้อมาให้ อีกทั้งปลายคางบึกบึนที่วางเกยอยู่บนไหล่บางเปล่าเปลือยจนริมฝีปากสีเข้มของคนตัวโตแสนงอนแนบชิดอยู่กับแก้มอิ่มทำให้เอริสาที่ยืนปรุงข้าวต้มอยู่หน้าเตาในห้องครัวนั้นตัวแข็งทื่อแทบไม่กล้าขยับ ด้วยคาดไม่ถึงว่าคนตัวโตจอมเอาแต่ใจที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้างตอนที่เธอแอบย่องลงมาข้างล่างก่อนจะตามลงมาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ทั้งที่เมื่อคืนคุณชายจอมหื่นหักโหมกินเธอเสียขนาดนั้น แถมพ่อเจ้าประคุณยังตัดพ้อต่อว่าทำเหมือนเธอเพิ่งทำเรื่องร้ายแรงมาอย่างไรอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ความจริงก็แค่แอบหนีลงมาด้านล่างก่อนเท่านั้นเอง

 

‘น่ารัก’ เป็นคำอันตราย!

 

และจากที่เคยปลาบปลื้มใจเมื่อได้ฟังคำว่า ‘น่ารัก’ จากปากดาเนียลเอ่ยชม ไม่น่าเชื่อว่าไม่ทันข้ามคืน ชายหนุ่มกลับทำให้เธอรู้สึกหวาดผวากับคำๆนี้เสียแล้ว จะไม่ให้เธอกลัวได้อย่างไร ในเมื่อคำว่า ‘น่ารัก’ หลุดจากปากของดาเนียลคราใด เป็นเธอที่ต้องลำบากรองรับบทรักหนักหน่วงเป็นการตอบแทนทุกทีไป ซึ่งเมื่อคืนก็จำได้ไม่แน่ชัดว่าดาเนียลชมว่าเธอ ‘น่ารัก’ ไปสี่หรือห้าครั้ง ไม่แน่ว่าอาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ รู้เพียงแต่ว่าเช้านี้แขนขาของเธออ่อนเปลี้ยเมื่อยล้าจนแทบทรงตัวลุกจากเตียงนอนไม่ขึ้น แต่ด้วยกลัวว่าจะได้รับคำชมว่า ‘น่ารัก’ อีกครั้งสองครั้งเป็นการรับอรุณ เอริสาจึงต้องฝืนหอบร่างกายอ่อนแรงอาบน้ำอาบท่าแล้วรีบหนีลงมาจากห้องนอนเพื่อเตรียมอาหารเช้าก่อนที่คนปากหวานจอมหื่นจะตื่นมาเจอเธอ

 

“ดิฉันไม่ได้หนีนะคะ”

 

“แล้วทำไมลงมาก่อนไม่รอกัน ทำไมทิ้งให้ฉันนอนบนเตียงคนเดียว มันหนาวไม่รู้เหรอไง”

 

ดาเนียลจับร่างบางหมุนหันมาเผชิญหน้ากับตัวเองก่อนโวยวายเสียงดังคล้ายเด็กชายตัวน้อยอายุสักสี่ห้าขวบกำลังไม่พอใจที่ถูกมารดาห้ามไม่ให้ซื้อหุ่นยนต์ของเล่นตัวโปรดซึ่งสวนทางกับความเป็นจริงว่าตอนนี้คนที่ยืนปากคว่ำโวยวายคือผู้บริหารสูงสุดของกริมเมอร์แอสเสทที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการอสังหาฯหน้าหยกอายุอานามสามสิบสามปีเข้าไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มดูแย่ ในสายตาของเอริสายามมองดูดาเนียลตอนนี้ ชายหนุ่มกลับทำให้อดีตบอดี้การ์ดสาวรู้สึกเอ็นดูและหลงรักเด็กโข่งที่ยืนทำหน้ามุ่ยปากยื่นคนนี้ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก จากที่กลัวจนหัวหดในตอนแรกจึงแปรเปลี่ยนเป็นอมยิ้มน้อยๆอย่างคนกำลังมีความสุข

 

‘บนเตียงไม่มีผ้าห่ม?’

 

แม้ความสุขกำลังโอบล้อมจนบรรยากาศรอบๆนั้นอบอุ่น แต่เพราะความผิดที่ถูกยัดเยียดมันฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอริสาจึงได้แต่เถียงในใจ เพราะถ้ากล้าอ้าปากเถียงไปตรงๆ เธอมั่นใจว่าคนตัวโตจอมหื่นอย่างดาเนียลต้องหาเรื่องจับเธอลงโทษเป็นแน่ และเธอก็มั่นใจว่าก่อนลงมาด้านล่าง ผ้าห่มนวมหนานุ่มที่ตกอยู่ข้างเตียงนอนถูกเธอลากขึ้นมาอยู่บนเตียงและคลุมทับให้ความอบอุ่นกับร่างสูงที่นอนเนื้อตัวเปล่าเปลือยป้องกันไม่ให้หวัดเล่นงานเป็นที่เรียบร้อย แล้วอย่างนี้ทำไมดาเนียลถึงยังต่อว่ายัดความผิดให้เธออีกล่ะเนี่ย

 

“ก็…”

 

“ก็อะไร หรือว่าเธอรังเกียจฉันมากไม่อยากอยู่ใกล้ เลยต้องรีบหนีลงมา”

 

ชายหนุ่มที่เอริสาเพิ่งรู้ว่าเขาขี้งอนยังคงยืนกอดอกคาดคั้นเอาคำตอบด้วยใบหน้าบึ้งตึง

 

“เปล่านะคะ ดิฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น”

 

“แล้วรีบลงมาทำไม” ถ้าเหตุผลฟังไม่ขึ้น เช้านี้มีคนถูกจับตีก้นแน่

 

“ดิฉันรีบลงมาทำอาหารเช้าให้คุณชายค่ะ”

 

“อย่ามาอ้าง ปกติมื้อเช้าเป็นหน้าที่ของป้าอาเธอร์”

 

ดาเนียลอยากหางานให้เอริสาทำแก้เบื่อ และเพื่อป้องกันไม่ให้อดีตบอดี้การ์ดมีเวลานั่งคิดกังวลเรื่องดาร์เลเน่จนแอบไปนอนร้องไห้อีก ดาเนียลจึงสั่งให้หญิงสาวมีหน้าที่ทำอาหารให้เขากิน แต่ก็เป็นเพียงอาหารมื้อเย็นเท่านั้น ด้วยเป็นห่วงว่าเอริสาจะเหน็ดเหนื่อยมากเกินไปจนไม่สบาย อาหารมื้อเช้ากับมื้อกลางวันจึงยังคงเป็นหน้าที่ของแม่ครัวตามเดิม

 

“คือ…ดิฉันอยากทำอาหารให้คุณชายด้วยตัวเอง ถ้าเป็นไปได้ก็…ทุกมื้อค่ะ”

 

เพราะกลัวว่าการไม่พูดความจริงจะทำให้บรรยากาศดีๆสูญหาย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากเหลือเกิน เอริสาจึงกัดฟันสารภาพออกไปด้วยความเขินจัด ไม่รู้ว่าเลือดในกายทั้งหมดมันมารวมตัวเฉพาะกิจอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวหรือเปล่า เพราะตอนนี้ใบหน้าขาวๆนั้นแดงก่ำแทบเป็นสีเลือดครามครัน ก่อนก้มใบหน้าร้อนผ่าวมองพื้นเพื่อหลบสายตาวาววามของดาเนียลที่กำลังอมยิ้มกรุ้มกริ่มเหมือนถูกใจที่หลอกล่อให้เธอยอมสารภาพความจริงออกมาจนได้

 

จริงๆเรื่องที่เธอหนีลงมาเพราะกลัวว่าจะถูกจับกินก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เหตุผลหลักๆที่เธอรีบลงมายังห้องครัวเป็นเพราะเธออยากลงมาปรุงอาหารให้ดาเนียลรับประทานด้วยตัวเอง ถึงจะได้นอนน้อยลงเพราะต้องรีบลงมาก่อนที่คุณป้าอาเธอร์จะทำมันเสร็จเสียก่อน แต่แลกกับการที่เธอได้ดูแลชายหนุ่ม แม้เป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่ดาเนียลไม่ได้ให้ความสำคัญ ก็สร้างความสุขใจให้เธอได้มากมายนัก

 

“พูดจริงใช่ไหม”

 

“คะ?” เพราะมัวแต่ครุ่นคิดอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับผู้ชายตรงหน้าไปเรื่อยเปื่อย เอริสาจึงทำหน้างุนงงนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำถามของดาเนียลอีกครั้ง

 

“ก็ที่บอกว่าอยากเป็นคนทำอาหารให้ฉันกิน…ทุกมื้อ”

 

คนอารมณ์ดีผิดปกติก้มหน้าลงต่ำเพื่อสบสายตากับคนขี้อาย พลางจับปลายคางของหญิงสาวให้แหงนเงยเมื่อเอริสานั้นพยายามเหลือเกินที่จะก้มหน้ามองพื้นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาเขา

 

เรียวปากก็งาม ดวงตาก็เซ็กซี่ ไม่รู้จะขยันหลบทำไม หน้าสวยขนาดนี้ต้องเงยให้เขามองบ่อยๆสิถึงจะถูก!

 

“จะ..จริงค่ะ”

 

เอริสาตอบออกไปตะกุกตะกักเมื่อได้สบตากับดวงตาคู่คมที่ตอนนี้มันแวววาวเหมือนมีดวงดาวนับล้านดวงอยู่ในนั้น และเจ้าดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับเป็นประกายที่ว่าก็ทำให้เธอรู้สึกขัดเขินยิ่งกว่าเดิมจนเลือดในกายพลุ่งพล่าน เขินจนสองขาเรียวยาวแทบไร้เรี่ยวแรงจะทรงตัวอยู่รอมร่อ

 

“น่ารัก!”

 

ดาเนียลหัวเราะออกมาเสียงลั่น เพียงแค่เขาเอ่ยชมคนตัวบางที่ตอบได้ถูกใจเขาเหลือเกินว่า ‘น่ารัก’ แม่เมียคนงามที่แสนจะขี้อายก็เบิกดวงตาออกกว้างด้วยความตกใจเหมือนเห็นภูตผีปีศาจมาปรากฏอยู่ตรงหน้า คราแรกก็งุนงงที่อดีตบอดี้การ์ดทำท่าตกอกตกใจอะไรมากมายขนาดนั้นทั้งที่เขาเอ่ยชมแท้ๆ แต่พอสมองย้อนภาพเหตุการณ์ที่ทำให้เขามีความสุขจนแทบสำลักเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเอริสานั้นตกใจเรื่องอะไร

 

ก็ถ้าคำชมว่า ‘น่ารัก’ หลุดออกมาจากปากของเขาเมื่อไร เอริสาเป็นต้องถูกเขาจับกลืนกินเมื่อนั้น ไม่สิ! ต้องบอกว่าเขาต่างหากที่ถูกหญิงสาว ‘จับกิน’ เพราะเมื่อคืนเขาถูกหญิงสาว ‘ควบ’ และ ‘คุม’ จนเนื้อตัวอ่อนเปลี้ยแทบหมดแรง แต่เป็นการหมดแรงที่เขาโคตรจะเต็มใจและมีความสุข

 

ให้ตาย! ตอนนี้ชักอยากหมดแรงอีกสักรอบสองรอบแล้วสิ

 

“แล้วเช้านี้ทำอะไรให้ฉันกินบ้าง”

 

ด้วยไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดเรื่องเดิมให้ความต้องการที่กำลังพวยพุ่งในร่างกายนั้นมีปริมาณมากเกินห้ามปราม เพราะรู้ว่าเมื่อคืนเขาเรียกร้องเอาจากเมียรักมามากมายจนเรือนร่างสวยเพรียวนี้แทบบอบช้ำจนเกรงว่าเอริสาจะไม่สบายป่วยไข้ไปเสียก่อน ดาเนียลจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนาเสียใหม่เพื่อหักห้ามใจ และการถามถึงอาหารที่ส่งควันหอมฉุยอยู่บนเตาแก๊ส ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้

 

“ข้าวต้มทรงเครื่องค่ะ”

 

 “เป็นอาหารบำรุงร่างกายหรือเปล่า”

 

“ก็…ไม่เชิงค่ะ”

 

เอริสานึกทบทวนเกี่ยวกับขั้นตอนที่ใช้ในการปรุงแล้วตอบแบ่งรับแบ่งสู้ จะว่ามันเป็นอาหารเน้นบำรุงร่างกายอย่างต้มจืดรากบัวกระดูกหมูใส่เก๋ากี้อย่างคราวก่อนก็ไม่ใช่ แต่ถ้านึกถึงวัตถุดิบที่เธอใช้ทั้งแครอท หัวไชเท้า หอมหัวใหญ่ กระเทียมในการต้มน้ำซุปร่วมกับกระดูกหมูสดสะอาดอย่างดีเป็นเวลาเกือบสี่ชั่วโมงที่เคี่ยวเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แล้วนำมาต้มรวมกับหมูสับปั้นเป็นก้อนกลมพอดีคำกับซี่โครงหมูและข้าวสวยในเช้าวันนี้ มันก็น่าจะนับรวมเป็นอาหารบำรุงสุขภาพได้อยู่บ้างละมั้ง เนื่องจากวัตถุดิบที่เธอใช้ในการปรุง เธอพิถีพิถันในการเลือกมาเป็นอย่างดีทุกอย่าง เพราะแม้แต่ผักที่มีรอยเหี่ยวรอยช้ำเพียงนิดเดียว เธอยังคัดทิ้งไม่ยอมปล่อยผ่านให้มันได้เป็นส่วนประกอบในอาหารที่เธอตั้งใจทำให้ดาเนียลรับประทานเลย

 

“ตอบอย่างนี้แสดงว่าข้าวต้มของเธอไม่ได้ช่วยบำรุงกำลัง งั้นทำไข่ลวกให้ฉันด้วยสี่ฟอง ไม่ๆ เอามาห้าฟองเลยดีกว่า”

 

“คุณชายอยากทานไข่ลวกเหรอคะ”

 

เอริสาเงยหน้าขึ้นมองดาเนียลก่อนเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเห็นดาเนียลรับประทานไข่ลวกมาก่อน

 

“เปล่า แต่เมื่อคืนใช้แรงไปตั้งหลายยก เช้านี้เลยต้องซัดไข่ลวกเรียกพละกำลังคืนเสียหน่อย เดี๋ยวไม่มีแรงทำงาน อ้อ! กินเผื่อที่ต้องใช้คืนนี้ด้วย เธอว่าห้าฟองนี่จะพอไหม หรือต้องมากกว่านี้ หืม?”

 

ดาเนียลอมยิ้มเจ้าเล่ห์พลางขยิบตาส่งให้คนหน้าแดงที่ยิ่งแดงก่ำกว่าเก่าเมื่อได้ฟังเขาพูดจบ นอกจากคืนแรกที่ได้ผู้หญิงหน้าสวยเฉี่ยวคนนี้มานอนเคียงข้างบนเตียงนอนของตัวเอง ค่ำคืนที่ผ่านมาก็เป็นอีกหนึ่งคืนที่เขาอยากต่อเวลาออกไปให้นานกว่าทุกๆคืนที่ผ่านมา เพราะเมื่อคืนนี้เขามีความสุขมาก มากชนิดที่ว่าเขารู้ตัวเลยว่าเมื่อคืนนี้เขาคงนอนหลับใหลไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ภาพหญิงสาวที่เป็นเจ้าของหัวใจเขามานานนั่งเปลือยเปล่าทาบทับอยู่บนกายมันเป็นภาพแสนวิเศษที่เขาจินตนาการและรอคอยมาแสนนาน แล้วเมื่อคืนนี้เอริสาก็ช่างน่ารักเกินบรรยาย เพราะไม่ว่าเขาจะสอนหญิงสาวให้ทำอะไร เอริสาก็ทำตามไม่มีเกี่ยงงอน อาจจะมีขัดๆเขินๆบ้างในตอนแรก แต่สุดท้ายเมื่อถูกอารมณ์รักรัญจวนเล่นงาน เอริสาก็ทำตามที่อาจารย์มากประสบการณ์คนนี้สอนแต่โดยดี แถมหญิงสาวยังเป็นนักเรียนหัวไว บอกอะไรก็ทำได้ในเวลาไม่นาน จนเขาได้แต่ครางเสียงแหบแห้งอย่างทรมานปะปนความสุขสมแทบทั้งคืน

 

 “คุณชาย!”

 

คำถามที่ฟังเหมือนขอความคิดเห็น แต่เอริสารู้ว่าจริงๆแล้วมันคือคำเย้าแย่ที่ดาเนียลตั้งใจทำให้คนขี้อายอย่างเธอขัดเขินต่างหาก ไม่รู้ทำไมหมู่นี้ชายหนุ่มถึงได้ชอบทำอะไรให้เธอใจเต้นรัวแรงอย่างนี้ ตอนนี้เลือดในตัวสูบฉีดแรงเกินไปแล้วนะ ไม่กลัวเธอหัวใจวายตายหรืออย่างไร ดาเนียลที่เคยวางมาดเฉยชาเงียบขรึมคนเดิมหายไปไหน ทำไมคุณชายกริมเมอร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ถึงได้กลายเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์ท่าทางกรุ้มกริ่มน่าหยิกแบบนี้ล่ะ แล้วฟังแต่ละอย่างที่ดาเนียลพูดออกมาสิ มันพาดพิงถึงเรื่องบนเตียงน่าอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทั้งนั้น ถ้าเธอไม่เขินไม่อายตอนนี้แล้วจะไปอายตอนไหน

 

คุณชายบ้า! ล้อกันจัง ครั้งต่อไปเราจะไม่ยอมอยู่ข้างบนแล้ว

 

“หือ ไม่ตอบ งั้นฉันจะถือว่าคืนนี้เธออนุญาตให้ ‘จัดหนัก’ ได้ตามใจชอบนะ”

 

ดาเนียลโมเมยกเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองหน้าตายเมื่อเห็นเอริสาหนีหน้าไม่ยอมตอบคำถามเขาด้วยการหันใบหน้าแดงๆกลับไปยังทิศทางด้านหลังที่มีหม้อข้าวต้มเดือดปุดๆวางอยู่บนเตา ธรรมชาติของนักธุรกิจ อะไรที่มีประโยชน์กับธุรกิจเขาก็ต้องรีบครอบครองอยู่แล้ว แล้วนี่ยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเมียรักแสนสวยที่มีคุณค่ามากกว่าธุรกิจมูลค่าพันล้านนั่นเป็นไหนๆ เขายิ่งไม่เปิดโอกาสให้หญิงสาวได้ปฏิเสธเป็นแน่

 

“ไหน เหลืออะไรต้องทำอีกบ้าง อยากช่วย”

 

เมื่อแน่ใจว่าเอริสาขัดเขินเกินกว่าจะยอมหันใบหน้าแดงๆกลับมาให้เขาแกล้งแหย่อีกครั้ง ดาเนียลจึงไม่คิดกลั่นแกล้งให้เมียตัวน้อยต้องอับอายมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะกลัวเมียจะเขินจนเส้นเลือดในสมองแตกไปเสียก่อน ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปซ้อนหลังเอริสาแนบชิด แล้วถามหางานครัวที่ยังค้างคา ทั้งที่ถามไปก็ไม่รู้ว่าจะช่วยทำได้หรือเปล่า เพราะตลอดชีวิตสามสิบสามปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยหยิบจับงานในครัวเลยสักอย่าง แต่เป็นเพราะอยากใช้เวลาที่เหลือก่อนไปทำงานกับเมียรักให้คุ้มค่า ดาเนียลจึงขอทำอะไรก็ได้ที่มันทำให้เขาได้ยืดเวลาอยู่กับเมียต่อไปนานๆ

 

แต่เมื่อเอริสาไม่ยอมตอบ คนตัวโตจึงถือโอกาสโอบกอดแม่ครัวคนงามจากด้านหลัง แล้วสอดแขนเข้าบริเวณเอวเล็กคอด ก่อนยื่นมือข้างขวาจับทัพพีที่ใช่คนข้าวต้มในหม้อที่มีมือบางของเอริสาจับอยู่อย่างถือวิสาสะ พลางเกยคางไว้กับไหล่บางแล้วถูไถอย่างออดอ้อน การกระทำของดาเนียลทำให้เอริสาได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นๆ เพราะตอนนี้เธออยากยิ้มออกมาให้ปากฉีกไปถึงใบหูแล้ว แต่ก็กลัวว่าหากทำอย่างนั้นจริงๆแล้วดาเนียลอาจไม่พอใจและหยุดการกระทำน่ารักๆที่ทำอยู่ ทำไมวันนี้ดาเนียลถึงได้น่ารักช่างอ้อนขนาดนี้นะ เขาจะทำให้เธอตกหลุมรักเขาไปถึงไหนกัน ทุกวันนี้เธอก็หลงรักเขาจนโงหัวไม่ขึ้นสองตาไม่สามารถเหลือบแลไปมองใครได้อยู่แล้ว ดาเนียลช่างเป็นผู้ชายที่ใจร้ายเสียจริง นี่เขาคิดจะยั่วยวนให้สายตาของเธอมองเห็นแต่เขาคนเดียวหรืออย่างไร

 

‘เวลาจ๋า เดินช้าๆได้หรือเปล่า หรือจะหยุดเดินไปเลยก็ได้’

 

เอริสาได้แต่คร่ำครวญในอกอยากให้เวลาหยุดเดินเพื่อที่เธอจะได้ซึมซับรับเอาความน่ารักน่าเอ็นดูของดาเนียลเก็บไว้ให้มากที่สุดทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่เธอทำได้คือปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อดาเนียลทำตัวน่ารักกับเธอ เธอก็จะไม่ดื้อดึงใส่เขาให้เสียบรรยากาศ

 

‘เฮ้อ…โล่งอกไปที นึกว่าคุณชายจะอาละวาดจนบ้านแตกเสียแล้ว’

 

ภาพชายหญิงที่สวยหล่อสมกันราวนางฟ้ากับเทวดาบนสวรรค์ที่กำลังช่วยกันปรุงอาหารอยู่หน้าเตาในห้องครัว ทำให้คนสี่คนที่แอบมองอยู่ตรงปากทางเข้าประตูห้องครัวยืนอมยิ้มด้วยความโล่งอก ยิ่งตอนที่เอริสาตักข้าวต้มที่สุกได้ที่ป้อนให้ดาเนียลชิมทั้งที่ร่างบางยังตกอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโตตลอดเวลาและได้รับการหอมแก้มนุ่มทั้งสองข้างหนักๆเป็นรางวัล ทำให้ อดัม เซน แอสตัน และคุณป้าอาเธอร์ที่มาซุ่มดูสถานการณ์พลอยยิ้มมีความสุขตามคนทั้งคู่ไปด้วย เพราะทั้งสี่เป็นห่วงกลัวว่าเอริสากับดาเนียลจะมีปัญหากัน เนื่องจากเมื่อคืนดาเนียลนั้นมีสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัดตอนกลับมาจากงานเลี้ยง อีกทั้งนายใหญ่กริมเมอร์ยังลากแขนเรียวของอดีตบอดี้การ์ดให้ตามขึ้นไปด้านบนด้วยท่าทางดุดันอีกด้วย แต่เมื่อเห็นท่าทางหวานชื่นกระหนุงกระหนิงของทั้งคู่ในเวลานี้ พวกเขาก็เบาใจ หน่วยสอดแนมเฉพาะกิจทั้งสี่จึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างหมดห่วง

 

“อลิส ถ้าฉันอยากให้เธอทำอาหารให้ฉันกินตลอดไป เธอคิดว่าจะทำได้หรือเปล่า”

 

ดาเนียลเอ่ยเรียกชื่อเล่นของหญิงสาวในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนกว่าครั้งไหนๆเมื่อมือขาวบางกำลังยื่นออกไปหมายจะปิดเตาแก๊ส ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าเอริสาชะงักมือค้างในอากาศไปชั่วครู่ ก่อนหมุนมือปิดหัวแก๊สจนเรียบร้อย ในขณะที่หญิงสาวค่อยๆทำทุกอย่างอย่างใจเย็น แต่คนถามกลับกลั้นใจรอฟังคำตอบด้วยหัวใจลุ้นระทึก แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ดาเนียลกลับรู้สึกว่ามันนานแสนนาน เข้าใจแล้วว่า ‘ทรมาน’ มันคือความรู้สึกแบบไหนเหงื่อตามไรผมและฝ่ามือไหลซึมออกมาประจานว่าเขาตื่นเต้นมากมายเพียงใด และเขาก็ไม่กล้าเร่งรัดเอาคำตอบ เพราะใจหนึ่งยังหวาดกลัวว่าถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยออกจากปากของเอริสาจะทำให้เขา…หยุดหายใจ

 

“ขอเพียงคุณชายบอกว่าต้องการ ดิฉันจะทำค่ะ”

 

เอริสาพยายามนับหนึ่งให้ถึงสิบอยู่สองสามรอบเพื่อตั้งสติแล้วคิดทบทวนหาความหมายจากน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เอ่ยถามมาว่าชายหนุ่มมีนัยยะใดแอบแฝงอยู่ในนั้นหรือไม่ ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าคำถามแปลกๆที่ออกจากปากผู้ชายที่อยู่สูงเกินเอื้อมคนนี้เป็นเพราะเขามีใจ แต่การกระทำของดาเนียลหลายๆอย่างทำให้หัวใจไม่รักดีของเธอนั้นใฝ่สูงอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ หญิงสาวจึงเลือกที่จะเสี่ยง เสี่ยงที่จะค่อยๆแสดงความในใจของตัวเองให้ชายหนุ่มรับรู้บ้าง ไม่กล้าคาดเดาว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร รู้เพียงแต่ว่าในเวลานี้เธอรู้สึกโล่งใจมากขึ้นที่ได้พูดออกไปและมีความสุขเหลือเกินกับความสัมพันธ์ของเธอกับดาเนียลที่กำลังดำเนินไปอย่างที่เป็นอยู่

 

“สัญญาได้ไหม”

 

“ดิฉัน…สัญญาค่ะ”

 

“งั้นก็เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยนะ แต่คงต้องเป็นมื้อเย็น เพราะตอนเที่ยงฉันมีนัดทานข้าวกับลูกค้า”

 

“เย็นนี้ดิฉันจะเตรียมอาหารไว้รอค่ะ”

 

เอริสาตอบรับด้วยรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจด้วยความยินดีอย่างที่สุด เพียงแค่รู้ว่าดาเนียลให้ความสำคัญกับอาหารที่เธอตั้งใจทำเพื่อเขา ความสุขมากมายที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็กระแทกหัวใจเธออย่างจัง จนตอนนี้เธอรู้สึกเนื้อตัวมันเบาหวิวคล้ายจะลอยคว้างอยู่ในอากาศ โชคดีที่อ้อมแขนแข็งแรงของดาเนียลยังคงโอบกอดเธอไว้แนบชิด ร่างกายของเธอจึงยังสามารถทรงตัวอยู่ได้ไม่ลอยติดเพดานไปเสียก่อน

 

“ฉันจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเร็วๆ จะได้กลับมาช่วยเธอทำอาหารเย็น”

 

ดาเนียลเอ่ยบอกอย่างเต็มใจอาสาแล้วช่วยจับปอยผมที่หล่นมาปรกใบหน้าสวยขึ้นทัดหูของเอริสาอย่างอ่อนโยน ก่อนก้มใบหน้าลงต่ำเพื่อจรดริมฝีปากจูบหน้าผากเนียนของเมียรักด้วยความรู้สึกอบอุ่นรักใคร่ที่อัดแน่นอยู่ในใจ แม้เขาจะทำอะไรไม่เป็นเลยและเคยคิดว่าในครัวมีแต่กลิ่นอาหารเหม็นคลุ้งไม่ควรย่างกรายเข้ามาใกล้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากระปุกเครื่องปรุงแต่ละอย่างที่เคยสั่งให้เอริสาท่องจำมันคืออะไรบ้าง แต่ตอนนี้เขากลับอยากจะฝึกฝนทำทุกอย่างๆให้เป็น เพราะเขาเพิ่งได้รู้วันนี้เองว่าการได้ใช้เวลาทำอาหารร่วมกับภรรยาในครัวมันสามารถนำพาความสุขมาให้เขาได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ความสุขในแบบที่เขาไม่เคยรู้ว่ามันมีอยู่บนโลกนี้

 

“อลิส วันหลังอย่าหนีลงมาก่อนอีกนะ รู้ไหมว่าฉันไม่ชอบเลยที่ต้องตื่นขึ้นมาคนเดียว”

 

เมื่ออาหารถูกปรุงเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงให้แม่บ้านเข้ามาจัดเตรียมเพื่อนำไปเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ดาเนียลจึงจูงมือคนตัวบางออกมาด้านนอกแล้วพากันไปนั่งบนเก้าอี้ไม้สีขาวที่ตั้งอยู่ในสวนสวยด้านข้างคฤหาสน์ระหว่างรอแม่บ้านจัดโต๊ะ โดยที่เจ้าของร่างใหญ่อุทิศกายเป็นเบาะให้หญิงสาวรองนั่งด้วยความเต็มใจ ก่อนดึงไหล่มนให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดจนแผ่นหลังบางแนบชิดอยู่กับอกกว้าง จากนั้นดาเนียลจึงออกคำสั่งเกี่ยวกับวิถีปฏิบัติหลังตื่นนอนยามเช้าเสียงนุ่มระคนขอร้องไม่ยอมให้เอริสาหนีห่างจากเขาไปไหนอีก เพราะภาพแรกที่เขาต้องการเห็นยามลืมตาตื่นก็คือผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักคนนี้ เมื่อก่อนเขาอาจจะถนัดนอนตามลำพังและลืมตาตื่นมาบนเตียงกว้างคนเดียวได้ แต่ตั้งแต่ที่มีเอริสาเข้ามาแบ่งปันพื้นที่ของเตียงกว้าง นับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่สามารถนอนคนเดียวบนเตียงนอนหลังใหญ่นี้ได้อีก หญิงสาวเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาจนหมดสิ้น

 

และเมื่อคำสั่งแกมขอร้องระคนออดอ้อนนั้นได้รับการพยักหน้าจากเอริสาเป็นการยอมรับแต่โดยดี ริมฝีปากได้รูปของดาเนียลจึงคลี่ออกจากกันแถมยังใจดีส่งรอยยิ้มหวานพิฆาตใจมาให้หญิงสาวเป็นของขวัญยามเช้าที่สดใสอีกต่างหาก

 

‘ถ้าคุณชายยังขยันทำให้ดิฉันตกหลุมรักทุกวันแบบนี้ งั้นดิฉันจะไม่พยายามตัดใจแล้วนะคะ’

 

เอริสาคิดในใจพลางทิ้งตัวพิงอกอุ่นอย่างเป็นสุข ก่อนหน้านี้เธอพยายามแล้วที่จะไม่ผูกพันกับดาเนียลให้เกิดเป็นสายใยที่ตัดยากลำบากในวันที่เธอต้องเก็บกระเป๋าแล้วเดินไปจากคฤหาสน์กริมเมอร์ แต่ในเมื่อตอนนี้สถานการณ์ระหว่างเธอกับดาเนียลนั้นเปลี่ยนแปลงไป แถมยังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีเสียด้วย ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจแล้วว่าจะลองเปิดหัวใจให้ดาเนียลรู้สักครั้ง ว่าก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายของเธอมันมีแต่เขาจับจองอยู่เต็มพื้นที่หัวใจมานานเหลือเกิน

 

**********************************************************************************************

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา