พ่ายรักพรางหัวใจ

8.8

เขียนโดย Phaky

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.

  33 ตอน
  4 วิจารณ์
  33.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) น่ารัก!

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เว็บขีดเขียน

 

ซีรีส์ชุด 'พ่ายรักยอดดวงใจ' โดย 'พิจักขณา' มีทั้งหมด 3 เรื่องค่ะ

-พ่ายรักกลลวงใจ ราคา 279 บาท จำนวน 312 หน้า

 

-พ่ายพยศรัก ราคา 319 บาท จำนวน 360 หน้า

 

-พ่ายรักพรางหัวใจ ราคา 389 บาท จำนวน 504 หน้า

 

แต่หากซื้อยกชุด ราคาสมาชิกเพียงชุดละ 839 บาท เท่านั้นคร่า

 

สั่งซื้อได้แล้วที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ

 

https://www.lightoflovebooknovel.com/showbook.php?bid=2595

 

หรือตามหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค B2S (เฉพาะพ่ายรักพรางหัวใจ วางแผงหน้าร้านเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันที่ 26/08/60 ตามต่างจังหวัดรอกระจายสินค้า 1-2 สัปดาห์)

 

******************************************************************************************

 

แจ้งนักอ่านที่น่ารักทุกท่านคร่า ใกล้ครบโควต้าที่จะสามารถอัพลงเว็บให้อ่านกันแล้วนะคะ น่าจะลงได้อีก 2 - 3 ตอนค่ะ ใครไม่อยากค้างคา อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วคู่รักปากหนักคู่นี้จะลงเอยแบบไหน สามารถหาซื้อหนังสือได้ที่สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ หรือตามร้านหนังสือชั้นนำเลยค่ะ

 

******************************************************************************************

 

“อื้อออ…! โอ๊ะ! คุณชายคะ ดิฉันเจ็บ”

 

เสียงร้องครางแหบแห้งที่เกิดจากการถูกทรมานด้วยปลายลิ้นสากลากไล้วนเวียนอยู่บริเวณอกอิ่มเอ่ยเตือนเบาๆด้วยความตกใจเมื่อริมฝีปากหยักสวยสีเข้มของคนเอาแต่ใจที่นอนทาบทับแนบสนิทอยู่เหนือร่างนั้นขบเม้มยอดอกสีชมพูสดของเธอหนักๆแล้วเผลอตัวขบฟันคู่คมงับก้อนเนื้อนุ่มจนเจ้าของที่กำลังถูกร่ายมนต์พิศวาสสะดุ้งเฮือกหลุดออกจาภวังค์สีน้ำผึ้งแสนหวานที่ครอบงำสติทั้งปวง

 

หลังจากถูกลากออกมาจากระเบียงที่เชื่อมต่อกับห้องบอลรูมงานเลี้ยงต้อนรับท่านประธานาธิบดีคนใหม่ ดาเนียลก็ก้าวฉับๆลากแขนเธอขึ้นรถแล้วพากลับมายังคฤหาสน์กริมเมอร์ ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถด้านหลังด้วยกัน ดาเนียลไม่ยอมปริปากพูดคุยกับเธอสักคำ ริมฝีปากหยักสวยของเขาเม้มแน่นพอๆกับท่อนแขนแข็งแรงที่กอดอกกว้างเอาไว้คล้ายเด็กชายตัวน้อยกำลังไม่พอใจอย่างหนัก อีกทั้งใบหน้าคมที่ลดระดับความหล่อลงเล็กน้อยเพราะหัวคิ้วเข้มๆนั้นขมวดกันเป็นปมก็ยังหันหน้าหนีมองออกไปนอกตัวรถ เรียกว่าท่าทางของดาเนียลที่แสดงออกมานั้นเป็นการส่งสาส์นชัดเจนเลยทีเดียวว่ากำลังโกรธเธอ เพียงแต่เธอยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเองว่าเขาโกรธเธอด้วยเรื่องอะไร

 

และเพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เอริสาจึงคิดไม่ออกว่าควรทำตัวอย่างไรดี จะง้องอนเขารึก็กลัวว่าจะถูกตะเพิดกลับมาให้ได้อายเพราะในความเป็นจริงเธออาจไม่มีความสำคัญมากพอที่จะทำให้ต่อมควบคุมอารมณ์ของคนหยิ่งเย็นชาอย่างดาเนียลทำงานจนกลายเป็นว่าเธอนั้นหลงตัวเอง แต่จะปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งทำหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์แบบนี้ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย ร่างบางจึงได้แต่ลอบถอนหายใจสลับกับแอบเหลือบตาสังเกตท่าทางของคนบุรุษข้างกายอย่างเป็นกังวล พลางนึกเสียดายที่บรรยากาศตอนกลับจากงานช่างแตกต่างจากตอนมาชนิดหน้ามือเป็นใต้ฝ่าเท้าเลยทีเดียว

 

นี่สินะ! ที่โบราณว่าไว้ว่าความสุขมันไม่เคยอยู่กับใครนานๆ เธอเข้าใจลึกซึ้งก็วันนี้เอง

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอนั่งคิดนานไปหน่อย หรือเป็นเพราะคนขับรถนั้นขับเร็วเกินไป เพราะยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์อึมครึมที่กำลังโอบล้อมให้บรรยากาศรอบๆตัวดูขมุกขมัวตึงเครียด ลีมูซีนคันหรูก็พาเธอกับดาเนียลกลับมายังคฤหาสน์กริมเมอร์เสียก่อน เพียงรถยนต์ราคาแพงตีโค้งเข้ามาจอดหน้าบันไดทางเข้าคฤหาสน์หลังงาม ไม่ต้องรอให้รถจอดสนิทด้วยซ้ำ คนที่นั่งกอดอกหน้าเชิดบ่าตั้งตรงก็ฉวยข้อมือเธอแล้วดึงออกมาจากตัวรถอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงก้าวยาวๆลากพาเธอเดินขึ้นบันไดกลางบ้านแล้วเลี้ยวไปทางปีกซ้ายซึ่งเป็นอาณาเขตส่วนตัวของดาเนียล

 

เมื่อเปิดประตูห้องนอนได้มือหนาก็ผลักเธอเข้าไปรวดเร็วจนแทบล้มคะมำ โชคดีที่เธอยังสามารถทรงตัวอยู่บนรองเท้าส้นสูงคู่สวยนั้นได้เพราะเริ่มคุ้นเคยบ้างแล้ว มิเช่นนั้นเธออาจหกล้มกลิ้งอยู่กับบันไดเพราะก้าวตามคุณชายใหญ่ไม่ทันเป็นแน่ จากนั้นชั่วพริบตาในขณะที่เธอกำลังยืนถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างที่นึกกังวล เอริสาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศที่สัมผัสกับผิวเนื้อด้านหลัง เมื่อมือใหญ่ของดาเนียลที่เข้ามาประชิดร่างตอนไหนก็ไม่ทราบจับที่คอเสื้อแล้วกระชากแรงๆจนเนื้อผ้าด้านหลังขาดแล่งเป็นทางยาว เปิดเปลือยแผ่นหลังนวลเนียนให้ปรากฏแก่สายตา

 

ไม่ทันได้ร้องห้ามหรือปัดป้อง ร่างเพรียวระหงก็ถูกจับพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนขี้โมโห มิใช่เพื่อพูดคุยหรือว่าสบตา แต่ที่ดาเนียลพลิกร่างของเอริสากลับมาก็เพื่อปลดกระชากชุดเดรสตัวยาวที่ยังเกาะติดอยู่บนร่างสวยนั้นให้หลุดพ้นไปต่างหาก จากนั้นบราปีกนกที่แปะไว้เพื่อยึดเกาะทรวงอกแทนที่ยกทรงแบบปกติก็หลุดลอยไปจากร่างอย่างง่ายดาย ร่างทั้งร่างจึงเหลือเพียงแพนตี้ลูกไม้สีดำตัวบางติดกาย แล้วมือใหญ่ก็ผลักร่างเกือบเปลือยล้มลงไปนอนบนเตียงกว้าง ตามด้วยร่างสูงทะมึนที่ล้มตัวลงไปนอนทาบทับไม่ยอมให้เอริสาพลิกกายหลบหนี

 

“ตรงนี้…ของฉัน!”

 

เสียงเข้มแสดงความเป็นเจ้าของออกมาเสียงดังเหมือนเด็กถูกขัดใจเมื่อโดนห้ามปราม ซึ่ง ‘ตรงนี้’ ที่ชายหนุ่มหมายถึงก็คือทรวงอกอวบคู่งามขาวผ่องที่มีรสชาติหวานหอมอร่อยลิ้นอันเป็นอาหารจานหลักที่ดาเนียลนั้นโปรดปรานเป็นที่สุด เพราะไม่ว่าจะดื่มจะชิมกี่ครั้งเขาก็ไม่เคยเบื่อ นับวันมีแต่จะยิ่งติดใจเข้าขั้นหลงใหลต้องได้สัมผัสอย่างน้อยก็ด้วยมือ เขาถึงจะข่มตาหลับสนิท

 

ซึ่งในยามปกตินั้นเขาพยายามทะนุถนอมสุดกำลังไม่ให้ทรวงเต้าเต่งตึงต้องบอบช้ำ แม้จะมีบางครั้งเผลอตัวรุนแรงไปบ้างยามตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาสใกล้แตะขอบสวรรค์แต่ก็น้อยครั้งนักด้วยเกรงเมียรักจะเจ็บระบม แต่ที่ครั้งนี้เขาเผลอตัวดูดเม้มรุนแรงคงเป็นเพราะอารมณ์ขุ่นมัวที่เห็นจัสตินลอบมองเมียเขายังไม่จางหาย เขาจึงต้องตีตราประทับแสดงความเป็นเจ้าของทุกพื้นที่บนเรือนกายของเอริสาทุกตารางนิ้ว แต่เมื่อได้ยินเสียงหวานแหบพร่าอุทธรณ์ร้องขอ ดาเนียลจึงมิอาจทำเมินเฉยใจร้ายทำให้เอริสาต้องเจ็บต่อไปได้ลงคอ

 

“ตรงนี้…ก็ของฉัน”

 

“อื้อออออ คุณชาย”

 

จากเสียงร้องวอนขอห้ามปรามแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางกระเส่าด้วยความรัญจวนเมื่อดาเนียลยอมเปลี่ยนเป้าหมายรุกรานจากทรวงอกกลมกลึงที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงช้ำจากแรงขบเม้มรุนแรงมาเป็นลาดหน้าท้องเนียนที่ชายหนุ่มใหลหลงเป็นหนักหนา ทุกพื้นที่ผิวที่ริมฝีปากของดาเนียลลากผ่าน ไม่มีส่วนใดเลยที่ชายหนุ่มจะไม่ตีตราประทับเป็นเจ้าของด้วยรอยจูบเร่าร้อนที่พร้อมกระชากวิญญาณของคนถูกรังแกให้หลุดออกจากร่าง ใบหน้าหล่อเหลาคลุกเคล้าอ้อยอิ่งอยู่ตรงสะดือบุ๋มพร้อมลากไล้ปลายลิ้นสากวนเวียนอยู่ตรงนั้น จนขนอ่อนบนเรือนกายของเอริสาลุกชูชัน ปลายนิ้วเท้าทั้งสิบหดเกร็งเข้าหากันแน่นทุกครั้งยามปลายลิ้นร้อนทำหน้าที่ของมันหนักหน่วงกว่าครั้งไหนๆ

 

“อื้ออออ คุณชาย อย่าค่ะ”

 

เสียงหวานที่ครางมาเนิ่นนานหลายสิบนาทีร้องห้ามเสียงหลงเมื่อสติพร่าเลือนรับรู้ได้ว่าริมฝีปากและใบหน้าคมคายของดาเนียลกำลังเคลื่อนตัวลงต่ำไปเรื่อยๆ ความอุ่นชื้นจากริมฝีปากได้รูปกำลังลากไล้จากบริเวณหน้าท้องลงไป ใช่! ถ้าเธอเดาไม่ผิด เป้าหมายต่อไปคือ…

 

“อ๊ะ! ไม่นะคะคุณชาย อย่าทำแบบนั้นนะคะไม่ๆ”

 

เอริสาเอ่ยห้ามเสียงหลงอีกครั้งเมื่อใบหน้าของดาเนียลเฉียดเข้าใกล้จุดอ่อนไหวกลางกายเข้าไปอย่างน่าใจหาย ยิ่งเมื่อแพนตี้ตัวบางถูกฟันคมคาบเกี่ยวแล้วดึงมันออกมากองอยู่ที่โคนขาอ่อน จนเปิดเปลือยความงดงามชุ่มฉ่ำให้ปรากฏแก่สายตาหื่นกระหายของดาเนียล ความแดงและอุณหภูมิร้อนผ่าวจึงแผ่ครอบครองไปทั้งใบหน้าและเนื้อตัวของคนขี้อายใต้ร่างดาเนียลอย่างน่าเอ็นดู

 

“อย่าห้าม เพราะตรงนี้…ก็ของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้น”

 

‘อยากประกาศให้ผู้ชายทั่วโลกรู้นักว่าผู้หญิงคนนี้คือเมียเขา และที่สำคัญ…เขาหวงมาก!’

 

นอกจากดื้อดึงไม่ฟังคำห้ามปรามของเอริสา ดาเนียลยังจงใจคลุกเคล้าใบหน้าเข้าลิ้มรสความหวานละมุนอย่างหลงใหลจนเจ้าของความงดงามนั้นหมดสิ้นคำห้ามปราม ได้แต่ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างทรมานปะปนความสุขสมอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ศีรษะปกคลุมด้วยเส้นผมยาวสีดำสนิทเป็นเงานั้นส่ายไปมาอยู่บนหมอน ร่างงามเกร็งกระตุกยามปลายลิ้นสอดส่ายชิมความหวานล้ำปานน้ำผึ้งเดือนห้า สะโพกผายตึงที่ถูกสองมือคร้ามแดดยึดเกาะส่ายไหวรับจังหวะกับเรียวลิ้นสากสองมือบางกำผ้าปูที่นอนแน่นด้วยความรัญจวนที่ตีวนในร่างกาย

 

“บอกมาสิ ว่าเธอเป็นของฉันคนเดียว”

 

ดาเนียลยอมเงยหน้าขึ้นจากความอ่อนหวานกลางกายด้วยความเสียดายเล็กน้อยแต่ยังไม่ถอนถอยใบหน้าออกห่างเสียทีเดียว เพราะปลายคางที่มีไรเคราขึ้นรำไรนั้นยังนวดคลึงอยู่เหนือความเย้ายวนไม่ห่าง เพื่อแลกกับถ้อยคำหวานหูที่อยากจะฟังให้ชื่นหัวใจเผื่อมันจะช่วยลดระดับความขึงโกรธที่ยังติดอยู่ในใจให้ลดระดับลงได้บ้าง

 

“อึก! ดิ..ดิฉัน เปะ..เป็น เป็นของคุณชายคนเดียวค่ะ”

 

เสียงหวานตอบรับกระท่อนกระแท่นแทบไม่เป็นคำเมื่อถูกรุกรานทั้งส่วนล่างที่กลางลำตัวด้วยปลายคางสากสลับกับเรียวลิ้นหนาและอกอวบเด้งชูชันที่ตอนนี้ถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งคลึงเคล้าอย่างเอาแต่ใจ จนสติสตังของคนถูกรังแกนั้นแทบสลายหายไปในอากาศ กว่าจะพูดจบก็ต้องกลั้นหายใจตั้งสติแล้วรีบพูดออกมารัวเร็วจนครบประโยค

 

“จะไม่มีวันเป็นของผู้ชายคนอื่น”

 

แม้จะได้ยินคำพูดที่อยากจะฟังแล้ว แต่ดาเนียลกลับไม่ยอมหยุดแค่นั้น เพราะใบหน้าขาวสะอาดของจัสตินที่ยิ้มพรายขณะมองเอริสานั้นยังวนเวียนตามมาหลอกหลอนให้เขานึกโมโหจนอยากสั่งฆ่าตัดตอนมันให้สิ้นซาก อีกทั้งผู้ชายปริศนาที่อยู่ในใจเอริสาคนนั้น คนที่ทำให้หญิงสาวยิ้มหวานยามได้ดอกไม้จากงานแต่งของคาเลโอมาครอบครอง ผู้ชายปริศนาที่ทำให้เขาตัดสินใจเด็ดขาดจับเอริสามาเป็นภรรยาโดยไม่ปล่อยให้หญิงสาวลอยนวลอีกต่อไป และเขาเชื่อว่ายังผู้ชายอีกหลายคนที่สนใจอยากขอเข้ามาเป็นคนดูแลหัวใจอดีตบอดี้การ์ดสาวสวยคนนี้ จึงทำให้เขาไม่สบายใจนัก กลัวว่าวันหนึ่งที่เขาได้ตัวดาร์เลเน่กลับมาแล้ววันนั้นเขาจะไม่สามารถใช้ความผิดที่เขาจงใจยัดเยียดให้เจ้าหล่อนรับไว้มากักขังหน่วงเหนี่ยวให้เอริสาอยู่กับเขาได้อีก เขากลัวว่าถ้าวันนั้นมาถึงหญิงสาวอาจโบยบินจากเขาไปไม่กลับมา จึงอยากได้คำสัญญาที่เปรียบเสมือนโซ่ตรวนผูกมัดหญิงสาวไว้กับเขา

 

“ดิฉันจะไม่มีวันเป็นของผู้ชายคนอื่นค่ะ”

 

“และจะเป็นของฉันคนเดียว…ตลอดไป”

 

‘ได้คืบจะเอาศอก’ คือนิยามอธิบายความเป็น ดาเนียล กริมเมอร์ ในยามนี้จริงๆ

 

เพราะไม่ว่าเอริสาจะตอบรับความต้องการของดาเนียลสักเท่าไรก็ดูเหมือนจะยังไม่เป็นที่พอใจของชายหนุ่มสักที ดาเนียลยังคงเรียกร้องให้อดีตบอดี้การ์ดยืนยันว่าหญิงสาวจะยอมเป็นของเขาคนเดียวไม่หยุดหย่อน มากไปกว่านั้นคือคำสัญญาที่ว่ายังเหมารวมไปถึงระยะเวลาของชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ไปจนกว่านาฬิกาชีวิตจะดับสูญ มันจึงทำให้เอริสาลังเลและเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างด้วยความเศร้าหมอง จนทำให้คนรอฟังเสียงหวานตอบรับด้วยใจระทึกนั้นอารมณ์พลุ่งพล่านเดือดดาลอีกครั้ง เพราะเข้าใจว่าที่เอริสาเงียบไปและทำหน้าเศร้าๆเป็นเพราะหญิงสาวยังมีความหวังว่าจะกลับไปหาผู้ชายคนอื่น ดาเนียลจึงตะคอกสั่งออกมาอีกครั้งเสียงห้วนดุ

 

“พูด!”

 

“ดิฉันจะเป็นของคุณชายคนเดียว…ตลอดไปค่ะ”

 

และดิฉันก็อยากอยู่กับคุณชายตลอดไปเช่นเดียวกัน แต่คงไม่มีวันนั้น

 

เอริสาคร่ำครวญประโยคหลังในอกด้วยหัวใจหม่นหมอง สาเหตุที่เธอไม่ตกปากรับคำของดาเนียลข้อสุดท้ายไม่ใช่เพราะกลัวตัวเองทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ จริงๆต่อให้ดาเนียลไม่สั่ง เธอก็ไม่คิดจะมองผู้ชายคนไหนอีกแล้ว ดาเนียลจะไม่เป็นเพียงผู้ชายคนแรกแต่เขาจะเป็นรักเดียวของเธอไปจนวันตาย แต่ที่เธอลังเลไม่ตอบรับทันที เป็นเพราะคำว่า ‘ตลอดไป’ ของเขาแทงใจดำของเธอเข้าอย่างจังจนอกข้างซ้ายปวดหนึบเจ็บร้าว เมื่อความจริงมันกระแทกรุนแรงที่หัวใจเต็มไปด้วยบาดแผล ความจริงที่ว่า…

 

‘ตลอดไป’ ที่หลุดออกจากปากของเธอคือหัวใจของเธอที่จะมีเขาคนเดียวได้เป็นเจ้าของ ซึ่งต่อให้วันนี้เธอยังดำเนินชีวิตเป็นบอดี้การ์ดของคุณหนูเจ้าขาตามปกติ หาได้จับพลัดจับผลูมาเป็นนักโทษสวาทของดาเนียลเช่นวันนี้ เธอก็จะมีแต่เขาเพียงคนเดียวอยู่ในใจไปจนวันสุดท้ายของชีวิต

 

แต่ ‘ตลอดไป’ ที่ดาเนียลร้องขอ คือ เธอต้องอยู่ในฐานะนักโทษสวาทของเขาตลอดไปโดยไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเธอไม่มีปัญหาที่จะยอมรับมัน แต่ที่ทำให้หัวใจของเธอทุกข์ระทม เป็นเพราะรู้ตัวดีว่า ‘ตลอดไป’ ที่ดาเนียลต้องการนั้นไม่มีวันเกิดขึ้นจริง อีกไม่นานเธอเชื่อว่าดาเนียลจะต้องตามหาตัวคุณหนูเจ้าขาจนเจอ เมื่อถึงวันนั้นเธอก็ต้องไปตามคำที่ดาเนียลเคยลั่นวาจาไว้

 

“ยอดเยี่ยม!”

 

และเพียงเพราะเอริสายอมตกปากรับคำอย่างที่ขอทุกข้อ เพียงแค่นี้อารมณ์พลุ่งพล่านร้อนรนในอกด้วยกังวลว่าจะมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาแย่งเอริสาแสนสวยไปจากเขาก็พลันหายไปทันควัน เพราะเขารู้ว่าบอดี้การ์ดอย่างเจ้าหล่อนรักษาคำพูดเท่าชีวิต ริมฝีปากหยักจึงเอ่ยคำชมทั้งที่ไม่เคยพูดกับหญิงสาวมาก่อนพร้อมทั้งก้มลงจุมพิตเรียวปากบางหนักๆซ้ำๆหลายครั้งอย่างรักใคร่ ใบหน้าที่เคยบึ้งตึงเพราะคิดว่าเมียรักเกิดความลังเลใจจึงมีรอยยิ้มกว้างแห่งความสุขเข้ามาแต่งแต้ม พลอยทำให้บรรยากาศอึมครึมที่ก่อตัวเป็นก้อนเมฆสีดำก่อนหน้านั้นกลับมาหวานชื่นเป็นสีชมพูได้อีกครั้ง และพร้อมแล้วที่จะทำอะไรต่อมิอะไรที่ยังค้างคาให้เสร็จสมตามหัวใจปรารถนาสักที

 

ร่างสูงกำยำจึงขยับตัวลงจากร่างบางที่นอนหอบหายใจถี่ๆ ดวงตาปรือปรอยมองสบตาเขาคล้ายรอคอยบางสิ่งบางอย่างด้วยใจจดจ่อ จากนั้นสองมือหนาก็ช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อสูทสีดำเนื้อดีและเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมคลุมกายให้พ้นไปจากร่าง โชว์แผงอกกว้างแข็งแกร่งสีแทนกับลอนซิกแพคแน่นๆอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอจนคนมองเผลอตัวกลืนน้ำลายลงคอได้ยากลำบาก ตามด้วยกางเกงแสล็กขายาวที่ถูกดึงออกไปจากสะโพกสอบพร้อมด้วยกางเกงชั้นในสีขาวสะอาดแบรนด์ดัง ปลดปล่อยความอลังการแข็งแกร่งให้ปรากฏแก่สายตาจนเอริสาที่นอนมองทุกการเคลื่อนไหวของร่างสูงนั้นหน้าแดงแปร๊ด ผิวกายขาวนวลเนียนทั่วร่างแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อน่ามอง

 

‘เมียกู โครตน่ากิน!’

 

และไม่เพียงแค่น่ามองอย่างเดียว แต่ร่างกายสวยสดสีเรื่อที่นอนบิดเร่าอยู่ท่ามกลางเตียงนอนขาวสะอาดนั่นยังน่าจับกลืนลงท้องไปทุกส่วนสัด ไม่รอช้าให้เสียเวลา ดาเนียลจึงรีบโถมกายเข้าหาร่างบาง แนบสัดส่วนที่แสดงออกอย่างดื้อรั้นเสียดสีกับความอ่อนหวานที่ถูกเขาปลุกเร้าไว้ก่อนหน้าด้วยความตั้งใจจนความอ่อนหวานนั่นยิ่งชุ่มฉ่ำแล้วมอบจุมพิตเรียกร้องรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นในอก เพียงปลายลิ้นทั้งสองได้สัมผัส ไฟรักในกายทั้งสองก็ลุกโชนง่ายดายไม่ต่างอะไรกับเชื้อไฟที่ได้รับเชื้อเพลิงชั้นดีจนไฟนั้นลุกโหมกระหน่ำยากเดินกว่าจะมอดลงหากยังไม่ได้พร่าผลาญคนทั้งคู่ให้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน

 

“น่ารัก!”

 

ดาเนียลเอ่ยชมเสียงเบาพลางยิ้มใส่ตาของคนใต้ร่าง ก่อนพรมจูบไปทั่วไปหน้าเหวอๆคล้ายตกใจแดงก่ำของเอริสาอย่างแสนรัก เมื่อเมียตัวน้อยอ่อนเดียงสาของเขามีวิวัฒนาการการจูบมากขึ้นกว่าเดิม เรียวลิ้นอ่อนนุ่มสีชมพูของหญิงสาวรู้จักพลิกพริ้วตอบโต้ลิ้นสากเร่าร้อนของเขา แม้จะเป็นไปแบบเก้ๆกังๆไม่มั่นใจ แต่มันก็ทำให้คนประสบการณ์โชกโชนเจนสนามรักอย่างเขาเนื้อตัวสั่นเทาวูบวาบไปทั่วร่างด้วยความต้องการแทบล้นปรี่

 

‘คุณชายบอกว่าเรา ‘น่ารัก’ จริงๆเหรอ? เราไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?’

 

คำเอ่ยชมน่าชื่นใจที่หลุดออกมาจากเรียวปากรุมร้อนของดาเนียลทำเอาเอริสาเบิกดวงตาที่กำลังปรือปรอยด้วยฤทธิ์พิศวาสออกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อหู เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ชายเย็นชาและเห็นเธอเป็นเพียงนักโทษสวาทอย่างดาเนียลจะเอ่ยปากชมเธอออกมา กว่าสิบหกปีที่เข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์กริมเมอร์อย่าว่าแต่คำชมเลย เพียงแค่ประโยคสนทนาที่มากกว่าการทักทายกันแก้เก้อยังยากหากไม่พบหน้ากันในระยะจวนตัวจริงๆ

 

แต่เมื่อสักครู่เธอกลับได้ยินเขาชมเธอว่า ‘น่ารัก’ ไม่อยากยอมรับว่าคำง่ายๆสั้นๆที่ดาเนียลอาจพูดไปโดยไม่ได้คิดอะไรนั้นมีอานุภาพรุนแรงมากขนาดที่ทำให้หัวใจของเธอพองฟูราวกับลูกบอลลูนลูกยักษ์ก็ไม่ปาน ก็จะไม่ให้รู้สึกเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อนี่คือครั้งแรกในชีวิตเลยนะที่ดาเนียลชมเธอ ไม่แน่ใจด้วยว่าเป็นครั้งแรกแล้วจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วยหรือเปล่า เพราะฉะนั้น…

 

‘อั้ยยะ! นี่เมียกูบ้ายอเหรอวะ เจ๋ง!’

 

ดาเนียลสบถในใจด้วยความแปลกใจระคนตื่นเต้นเร้าอารมณ์ เมื่ออยู่ดีๆร่างหนาๆของเขาที่ทาบทับอยู่ด้านบนนั้นถูกมือบางรั้งให้เป็นฝ่ายลงมานอนด้านล่างจนแผ่นหลังกว้างแนบติดอยู่บนเตียงนอน ดาเนียลนอนมองด้วยใจเต้นระรัวเมื่อเจ้าของร่างขาวผ่องเปลือยเปล่าเป็นฝ่ายนั่งคร่อมหน้าท้องเป็นลอนแข็งโป๊กของเขาแทน จนทรวงอกขาวผ่องน่ากินนั้นลอยเด่นท้าทายสายตาและริมฝีปากของเขาอยู่ตรงหน้า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเมียตัวน้อยอ่อนด้อยประสบการณ์อย่างเอริสาจะกล้าทำอะไรหื่นๆแบบนี้ สาเหตุเป็นเพราะเขาชมว่าเจ้าหล่อนน่ารักหรือเปล่านะ เมียรักถึงได้มีท่าทางผิดแปลกไป แต่เขาก็ชอบนะ ชอบมากด้วย ถ้ารู้ว่าเมียเขาเป็นพวกบ้ายอ รู้อย่างนี้พ่อจะชมสักวันละสิบรอบไปเลย ชมหนึ่งคำฟัดกันหนึ่งยก จัดให้หนัก!

 

“จัดการฉันเลยคนสวย อยากทำอะไรกับร่างกายฉัน…ฉันยอมทุกอย่าง”

 

ดาเนียลเอ่ยบอกอย่างใจ ‘ปล้ำ’ เมื่อเห็นท่าทางขัดเขินไม่มั่นใจของเมียตัวน้อยที่ทำท่าทางเหมือนจะดิ้นหนีลงจากตัวเขา มือใหญ่จึงจับเอวบางให้เลื่อนขยับลงไปจากแผ่นท้องของเขาช้าๆจนสะโพกตึงแน่นอวบอัดของเอริสาชนเข้ากับตัวตนร้อนรุ่มแข็งแกร่งที่ผงาดง้ำอยู่ด้านหลัง พลางตรึงสองมือออกแรงกดไว้ไม่ให้หญิงสาวขยับตัวหลีกหนี

 

“แต่ว่า…”

 

คนใจกล้าตั้งท่าจะปฏิเสธ ในตอนแรกที่เธอบ้าบิ่นกล้าเป็นฝ่ายรุกเร้าด้วยเพราะหัวใจกำลังฮึกเหิมเลยกะจะขอบคุณดาเนียลด้วยเรือนกายอวบอัดเปลือยเปล่าของตัวเองที่รู้ดีว่าฝ่ายชายยังมีความปรารถนามันอยู่พอตัว แต่พอเอาเข้าจริง ประสบการณ์อันน้อยนิดบวกกับความขัดเขินที่เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณยามเมื่อสติกลับคืนนั้นมีมากเกินกว่าจะเป็นฝ่าย ‘ปฏิบัติ’ ได้ เอริสาจึงเริ่มหาหนทางบ่ายเบี่ยง แต่ดูท่าจะไม่เป็นผล เพราะสองตาของคนตัวโตที่มองมานั้นกำลังเร่งเร้าระคนบังคับให้เธอ ‘ปฏิบัติ’ ภารกิจครั้งนี้ให้สำเร็จ

 

“เร็วเข้า อย่างอแง ฉันปวดจนแทบร้าวไปทั้งตัวแล้วไม่สงสารบ้างเหรอ”

 

ดาเนียลกระตุ้นเตือนพลางขยับเรือนกายส่วนล่างที่ร้อนระอุราวจับไข้เสียดสีจนช่องท้องของเอริสากระตุกวาบ มือหนาข้างหนึ่งกอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นบีบเคล้นเร้าอารมณ์ ส่วนมืออีกข้างทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงช่วยจับสะโพกกลมกลึงของคนขี้อายให้รู้จักขยับรุกเร้า ในขณะที่สะโพกสอบแข็งแกร่งก็ขยับให้ดูเป็นตัวอย่าง เพียงไม่นานความเขินอายก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นฮึกเหิมหาญกล้า เมื่อเห็นสีหน้าเป็นสุขและเสียงครางกระเส่าด้วยความทรมานผสานความรัญจวนจากริมฝีปากแสนร้ายกาจของดาเนียล ที่แม้จะเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่เรียวปากคู่นั้นกลับไม่ยอมอยู่เฉย เพราะในขณะที่เอริสาเป็นฝ่ายแทรกปลายลิ้น ‘รุก’ ดาเนียลก็สอดปลายลิ้น ‘รับ’ การมาเยือนของเรียวลิ้นนุ่มหวานสีชมพูสวย

 

จากนั้นร่างสองร่างเปลือยเปล่าก็ผลัดกันพลิกคว่ำพลิกหงายจนเตียงนอนยับย่นราวกับผ่านสมรภูมิรบมาหนักหน่วง ประสานเสียงครางกระเส่าด้วยความสุขสมจากบทเพลงรักเสน่หาที่ทั้งสองช่วยกันบรรเลงเป็นบทเพลงที่แสนไพเราะ ไม่สนใจว่าเวลาล่วงผ่านไปนานเท่าไร ไม่แคร์แม้เวลาที่ทั้งคู่ขยับกายผลักดันเข้าหากันอย่างเร่าร้อนรุนแรงตอนนี้คือช่วงเวลาที่ทั้งคู่ควรนอนพักผ่อน มีเพียงความต้องการที่ยังวิ่งพล่านอยู่ในร่างกายราวกับเปลวไฟที่ยังลุกโชนเนื่องจากได้รับเชื้อเพลิงชั้นดีเติมไม่ได้ขาด นานเท่านานจวบจนร่างเปลือยเปล่าทั้งสองร่างเกร็งกระตุกร่างกายกอดเกี่ยวกันแนบแน่นแล้ว เปล่งเสียงครางยาวๆด้วยความสุขสมออกมาลั่นห้อง ก่อนทิ้งตัวเปียกชื้นเหงื่อไคลแนบชิดกอดก่ายกันบนเตียงฟังเสียงหายใจหอบถี่ของกันและกันอย่างเป็นสุข

****************************************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา