พ่ายรักพรางหัวใจ

8.8

เขียนโดย Phaky

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.

  33 ตอน
  4 วิจารณ์
  32.85K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) ก็แค่คิดถึง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

เว็บขีดเขียน

ซีรีส์ชุด 'พ่ายรักยอดดวงใจ' โดย 'พิจักขณา' มีทั้งหมด 3 เรื่องค่ะ

-พ่ายรักกลลวงใจ ราคา 279 บาท จำนวน 312 หน้า

-พ่ายพยศรัก ราคา 319 บาท จำนวน 360 หน้า

-พ่ายรักพรางหัวใจ ราคา 389 บาท จำนวน 504 หน้า

แต่หากซื้อยกชุด ราคาสมาชิกเพียงชุดละ 839 บาท เท่านั้นคร่า

สั่งซื้อได้แล้วที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ

https://www.lightoflovebooknovel.com/showbook.php?bid=2595

หรือตามหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค B2S (เฉพาะพ่ายรักพรางหัวใจ วางแผงหน้าร้านเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันที่ 26/08/60 ตามต่างจังหวัดรอกระจายสินค้า 1-2 สัปดาห์)

************************************************************************

“อดัม ตอนนี้กี่โมงแล้ว”

ชายหนุ่มที่กำลังนั่งก้มหน้าอ่านเอกสารรายงานยอดกำไรไตรมาสล่าสุดเอ่ยถามลูกน้องที่นั่งเช็คกระดานหุ้นตรงโซฟารับแขกไม่ห่างจากโต๊ะทำงานของตัวเองมากนักด้วยใบหน้าค่อนไปทางเคร่งขรึมไม่ต่างจากน้ำเสียง แต่สาเหตุที่ทำให้หัวคิ้วของดาเนียลขมวดมุ่นหาใช่เพราะตัวเลขกำไรสุทธิในรายงานไม่เป็นไปตามเป้า ตรงกันข้าม ยอดกำไรสุทธิไตรมาสนี้มันเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนเกือบยี่สิบเปอร์เซ็นด้วยซ้ำ ทั้งที่บริษัทของเขามีข่าวเรื่องคอนโดมิเนียมที่กำลังก่อสร้างถล่มลงมา แต่ตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากนี้ไม่อาจเรียกความพอใจจากดาเนียลในยามนี้ได้เลยสักนิดเดียว

“สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วครับคุณชาย”

อดัมเงยหน้าจากหน้าจอแทบเล็ตที่มีแต่ตัวเลขลายตาชวนปวดหัวขึ้นตอบเจ้านายใหญ่ พลางขบคิดในใจด้วยความสงสัยว่าทำไมวันนี้เจ้านายของเขาถึงได้มีท่าทีลุกลี้ลุกลนแปลกๆ ปกติในเวลาทำงาน ดาเนียลมักนั่งทำงานนิ่งๆอย่างคนใช้สมาธิ สายตาคู่คมของเจ้านายหนุ่มเพ่งมองอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์หรือแฟ้มเอกสารตรงหน้า เขาแทบไม่เคยเห็นดาเนียลขยับตัวไปไหนนอกจากยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบหรือลุกไปเข้าห้องน้ำเป็นครั้งคราว แต่มาวันนี้ ดาเนียลกลับมีท่าทางร้อนรนเหมือนรอคอยอะไรบางอย่างอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งนี่ยังเป็นรอบที่ห้าแล้วที่ดาเนียลเอ่ยปากถามเขาเรื่องเวลา มันต้องมีอะไรแน่ๆ

“เฮ้อออ เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเองเหรอวะ” พระเจ้าช่วยลูกด้วย! ทำไมวันนี้เข็มนาฬิกาเดินโคตรจะช้าเลยวะเนี่ย

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณชาย หรือว่าคุณชายมีธุระต้องไปทำ”

เสียงถอนหายใจยาวๆด้วยความผิดหวังของคนเป็นนายทำเอาอดัมถึงกับขยับตัวขึ้นตรงแล้วหันหน้าไปมองดาเนียลเต็มตา แท็บเล็ตคู่ใจในมือถูกวางบนโต๊ะกระจกใสอย่างหมดความสำคัญ เมื่อในตอนนี้ท่าทางแปลกๆและใบหน้ามุ่ยๆของคุณชายใหญ่นั้นสำคัญกว่าเป็นไหนๆ

“ไม่นี่!”

คนที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอแสดงอาการงุ่นง่านหงุดหงิดคล้ายผู้หญิงวัยทองให้ลูกน้องเห็นถอนหายใจยาวๆแล้วปฏิเสธออกไปเสียงเรียบพลางหมุนปากกาสีทองด้ามสวยในมือเล่นไปมาอย่างคนไม่มีสมาธิจะทำงาน เขาไม่ได้เป็นอะไรจริงๆก็แค่…อยากกลับบ้าน อยากกลับไปหาเมีย อยากเห็นหน้าเมีย อยากกอดเมีย อยากหอมแก้มเมีย อยากนอนตักเมีย อยากให้เมียลูบผม อยากให้เมียจูบหน้าผาก อยากให้เมียนอนซุกอก อยากให้เมียอาบน้ำให้ อยากรักเมีย อยากให้เมีย…

โว๊ย! เขาไม่ได้เป็นอะไร แค่คิดถึงเมีย คิดถึงเมีย คิดถึงเมีย แค่คิดถึงเมีย แค่นั้นแหละ

“แล้วนี่แอสตันยังไม่กลับมาอีกเหรอ”

ก่อนที่จะเผลอออกอาการ ‘งอแง’ ให้ลูกน้องได้เห็นเป็นบุญตาจนเสียภาพลักษณ์เจ้าพ่อแห่งวงการอสังหาฯผู้น่าเกรงขามที่อุตส่าห์สะสมมาเป็นสิบปี ดาเนียลจึงต้องรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปเรื่องอื่นแทน และความรู้สึกเหมือนเงาที่คอยติดตามทุกฝีก้าวจนแทบจะเกาะหลังเขาไปทุกที่หายไปจากสายตา ดาเนียลจึงอดที่จะถามถึงไม่ได้

‘พักนี้แอสตันมันชักจะยังไงๆนะเนี่ย หายหัวหายหน้าประจำ’

“คุณชายมีอะไรจะใช้ผมหรือเปล่าครับ”

ยังไม่ทันที่อดัมบอดี้การ์ดคู่ใจควบตำแหน่งเลขาฯที่เปรียบเสมือนมือซ้ายของดาเนียลจะทันได้แจกแจงหรือเรียกอีกอย่างว่า ‘ฟ้อง’ เจ้านายหนุ่ม คนที่ตกเป็นประเด็นในการพูดถึงก็เปิดประตูแล้วโผล่หัวเข้ามาเสียก่อน

“ฮึ! ตายยากชะมัด พูดถึงก็มาพอดี แล้วยังไง หายไปเสียนานสองนาน ได้เรื่องอะไรมาบ้าง”

ดาเนียลก็แกล้งหาเรื่องว่าลูกน้องคนสนิทไปอย่างนั้นแหละ แต่จริงๆแล้วเขารู้ว่าแอสตันไม่ได้หนีงานแอบไปเที่ยว แต่มันออกไปทำ ‘งานใหญ่’ ต่างหาก

“เป็นอย่างที่คุณชายคิดครับ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย เพียงแต่ก่อนหน้านี้มันยักยอกแค่เล็กๆน้อยๆ โครงการก่อสร้างเลยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และทุกครั้งที่ลงมือทำ โทนี่รับรู้ทุกครั้งครับ”

พูดมาถึงตรงนี้น้ำเสียงของแอสตันก็ขรึมลงเล็กน้อย เพราะรู้สึกผิดหวังกับวิศวกรรุ่นใหญ่ที่ทำงานกับกริมเมอร์แอสเสทมานานตั้งแต่รุ่นพ่ออย่างโทนี่เหลือเกิน ไม่อยากจะเชื่อว่าโทนี่จะมีส่วนรู้เห็นกับการทุจริตค่าอุปกรณ์ก่อสร้างครั้งนี้จนทำให้โครงสร้างคอนโดมิเนียมถล่มและครั้งก่อนๆด้วย

 “งั้นเหรอ? นี่ฉันไว้ใจมันมากเกินไปสินะ”

ดาเนียลทิ้งตัวพิงกับพนักเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่แล้วเคาะปลายปากกาในมือกับโต๊ะทำงานสีดำเบาๆ ดวงตาคู่คมหรี่แคบลงคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง อุตส่าห์พยายามมองโลกในแง่ดีว่าทุกอย่างที่เขาคาดเดาคงเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดแต่สุดท้ายมันกลับเป็นเรื่องจริง ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่เรารักและไว้ใจจะทำกันได้

“คิดว่ามันรู้ตัวหรือยังว่าเรารู้”

“คิดว่าไม่ครับ คนพวกนั้นยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม”

“งั้นก็ดี จับตาดูพวกมันต่อไป ระวังอย่าให้มันรู้ตัว ฉันอยากจับมันทีเดียวให้ได้คาหนังคาเขา”

“ครับคุณชาย”

แอสตันน้อมรับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่มหล่อ ก่อนที่ทั้งสามจะพร้อมใจกันเงียบกริบ ไม่ใช่เพราะไม่มีเรื่องจะคุย แต่ทั้งสามต่างตกอยู่ในภวังค์นึกคิดของตัวเอง ดาเนียลกำลังคิดว่าหากถึงวันที่เขาต้องกระชากหน้ากากของตัวต้นเหตุที่ทำให้ธุรกิจของเขาเสียหาย เมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆแล้วเขาควรทำอย่างไรกับมันผู้นั้นดี ในเมื่อมันคือคนที่เขาคุ้นเคย ไม่ต่างจากอดัมที่แสดงออกด้วยท่าทีเฉยชาเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจกลับกำลังขบคิดว่าจะใช้ปืนรุ่นไหนในการลงโทษคนสารเลวให้เหมาะสมกับความชั่วของมัน

ส่วนแอสตันนั้นก็ครุ่นคิดว่าไม่น่าเชื่อว่าการที่เขาส่งลูกน้องคอยดูแลและกันไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับเจนนิเฟอร์จะทำให้เขาได้รู้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งกำลังติดตามความเคลื่อนไหวของสองพ่อลูกแอนเดอสันอยู่ และเมื่อสืบไปสืบมากลับพบว่าคนกลุ่มนั้นคือคนที่อยู่เบื้องหลังสาเหตุที่ทำให้ตึกของกริมเมอร์แอสเสทล้มครืนไม่เป็นท่า

“อดัม โทรหาเซน แล้วถามมันว่าอลิสทำอะไรอยู่”

กำลังคิดหาวิธีการจัดการกับคนเลวอยู่แท้ๆจนอารมณ์กำลังคุกรุ่นได้ที่ เรียกว่าถ้าตอนนี้ตัวต้นเหตุมายืนอยู่ตรงหน้า อดัมกับแอสตันสามารถชักปืนที่เอวขึ้นมายิงพวกมันได้ทันทีด้วยความแค้นเคืองที่พวกมันบังอาจมาทำร้ายเจ้านายของเขาสองคน แต่อยู่ๆดาเนียลกลับโพล่งขึ้นมาอีกเรื่อง ทำเอาลูกน้องมือซ้ายและขวาทำหน้างุนงงสับสนนิดๆกับอารมณ์ของเจ้านายหนุ่มที่แปรปรวนอย่างกับคลื่นทะเล เมื่อครู่ยังคุยกันหน้าดำคร่ำเครียดเรื่องงานอยู่เลย เผลอแป๊บเดียวคุณชายใหญ่กลับสั่งให้โทรหาบอดี้การ์ดฝีมือดีอีกคนเพื่อถามถึงนายหญิงเอาดื้อๆ

“มองอะไร ทำไมยังไม่รีบโทร” อยากเจออารมณ์คนคิดถึงเมียจนลงแดงอาละวาดรึไงวะ ฮึ่ย!

“ครับๆ”

อดัมรับคำสั่งแล้วรีบล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อออกมากดโทรหาเซนรัวเร็ว ทิ้งให้แอสตันยืนสังเกตและวิเคราะห์อาการของดาเนียลด้วยความแปลกใจลำพัง

ส่วนเซนบอดี้การ์ดที่ขึ้นชื่อว่าเก่งเรื่องการต่อสู้มากที่สุดและได้รับหน้าที่สำคัญให้ติดตามเอริสาตั้งแต่เข้ามาเป็นบอดี้การ์ดสังกัดตระกูลกริมเมอร์ก็รีบกดรับสายเรียกเข้าจากอดัมทันทีเมื่อเห็นเบอร์โทรของเพื่อนที่หน้าจอ เพราะถ้าอดัมหรือแอสตันโทรหาเขาทีไร กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นคือนายใหญ่กริมเมอร์ต้องการรับรู้ความเคลื่อนไหวของอดีตบอดี้การ์ดคนสวยนั่นเอง

“นายหญิงออกไปซื้อของ ตอนนี้อยู่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตครับ”

ปัง!

“แล้วทำไมต้องให้เมียฉันไปซื้อของเอง แม่บ้านมีตั้งเยอะตั้งแยะ หายหัวไปไหนกันหมด ฮะ!”

เสียงฝ่ามือกระทบผิวโต๊ะทำงานทำเอาสองบอดี้การ์ดแอบสะดุ้งเล็กน้อยเนื่องด้วยไม่ทันตั้งตัวว่าเพียงเพราะเอริสาออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตจะทำให้คุณชายใหญ่เกิดอาการไม่พอใจราวช้างป่าตัวใหญ่ตกมันขนาดนี้

ดาเนียลขยับตัวขึ้นตรงแล้วตบโต๊ะดังปังด้วยความไม่สบอารมณ์สุดขีดเมื่อได้ฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิทเพราะคนที่เขาถามถึงด้วยความโหยหานั่นคือนายหญิงตระกูลกริมเมอร์เชียวนะ นั่นคือคนที่มีอำนาจสูงสุดรองจากเขา หรือไม่…ตอนนี้ก็อาจจะมีอำนาจสูงสุดในบ้านเหนือเขาด้วยซ้ำ แล้วทำไมคนรับใช้พวกนั้นถึงปล่อยให้เมียเขาต้องลำบากตรากตรำด้วยการไปซื้อของเองด้วย เอริสามีหน้าที่ชี้นิ้วสั่งแล้วให้พวกแม่บ้านเหล่านั้นไปจัดการหามาให้ตามความต้องการมิใช่หรือ เดินซื้อของเหนื่อยก็เหนื่อยไหนจะต้องหิ้วของหนักๆที่ซื้อมานั่นอีก แล้วเมียเขาจะไม่สบายไปก่อนหรือไร ลูกน้องเขานี่มันยังไงกัน ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงคิดกันไม่ได้

‘ฮึ่ย! นึกแล้วโมโห กลับไปพ่อจะไล่ออกให้หมด’

และเสียงตะคอกถามด้วยอารมณ์โมโหกราดเกรี้ยวของนายใหญ่กริมเมอร์ที่ดังทะลุเข้าไปในสายโทรศัพท์ก็ทำให้เซนต้องรีบรายงานเหตุผลให้อดัมรีบนำไปรายงานดาเนียลต่ออีกทอดเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของเจ้านายเหนือหัว ด้วยเกรงว่าหากชักช้าอาจมีคำสั่งสายฟ้าฟาดลงโทษพวกเขาก็เป็นได้ เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงหน้าคมหุ่นนาฬิกาทรายที่ชื่อ ‘เอริสา อนันต์ชัย’ ดาเนียลมักให้ความสำคัญจนมองเห็นเป็นเรื่องใหญ่เสมอ

“นายหญิงอยากไปซื้อเองครับ นายหญิงบอกว่าอยากเลือกซื้อของที่ดีที่สุดมาทำอาหารให้คุณชายรับประทานด้วยตัวเอง”

“อย่างนี้เอง เมียฉันนี่น่ารักจริงๆ งั้นก็ไม่เป็นไร ตามใจอลิสเถอะ อลิสอยากไปซื้อของเองก็ปล่อยไป แล้วอย่าลืมกำชับเซนด้วยว่าให้หาคนไปช่วยอลิสถือของด้วย ห้ามปล่อยให้เมียฉันถือของเองเดี๋ยวอลิสจะเจ็บมือ ยิ่งของหนักๆนี่ห้ามให้อลิสแตะเด็ดขาด ระวังพื้นด้วย อย่าให้เมียฉันเดินตรงที่มันลื่นๆล่ะเดี๋ยวล้ม คอยดูอย่าให้อลิสเดินซื้อของนานเกินไปนะ เดี๋ยวเมียฉันจะปวดขา”

‘คลื่นทะเลหรือจะแปรปรวนเท่าคลื่นอารมณ์ของคุณชายตอนนี้’

อดัมกับแอสตันแทบไม่เชื่อสายตา สองบอดี้การ์ดคู่หูที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่คุณชายกริมเมอร์มานานถึงกับขมวดคิ้วเป็นโบว์ชิ้นใหญ่แล้วหันใบหน้าที่งงเป็นไก่ตาแตกมองกันเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเหตุผลเดียวสั้นๆจะทำให้ดาเนียลที่กำลังโกรธเกรี้ยวราวยักษ์ร้ายผู้แสนจะดุดันที่พร้อมจะพังทุกอย่างที่ขวางหน้าให้แหลกละเอียดจะกลับกลายมาเป็นผู้ชายอารมณ์ดีนั่งตาลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คนเดียวอย่างคนที่กำลังมีความสุขได้ในพริบตา อีกทั้งกระแสเสียงก็ยังอ่อนโยนนุ่มนวลผิดจากตอนแรกที่ห้วนดุไม่ต่างจากสายฟ้าฟาด นี่คือคุณชายคนเดียวกันกับคนเมื่อกี้จริงๆเหรอเนี่ย ตามอารมณ์คุณชายไม่ทันจริงๆ!

“อดัม ถามเซนอีกทีซิ ว่าอลิสบอกแบบนั้นจริงๆใช่ไหม”

“จริงครับ ตอนแรกคุณอาเธอร์ก็ไม่ยอมครับจะให้แม่บ้านคนอื่นมาซื้อแทนเพราะไม่อยากให้นายหญิงเหนื่อย แต่พอนายหญิงบอกว่าอยากมาซื้อด้วยตัวเองอย่างที่บอกคุณชาย คุณอาเธอร์ถึงยอมแล้วตอนนี้ก็มีคุณอาเธอร์ โซเฟีย แม่บ้านอีกสองคน เซน แล้วก็บอดี้การ์ดอีกสองคนที่ตามไปซื้อของกับนายหญิงครับ”

นับแล้วมีคนตามไปช่วยเอริสาซื้อของถึงเจ็ดคน หวังว่าคุณชายคงหายพิโรธได้สักที แค่ไปซื้อกับข้าวยังต้องมีคนคอยตามดูแลเป็นกองทัพ ถ้าไม่ใช่นายหญิงตระกูลกริมเมอร์ที่ชื่อเอริสา คงไม่มีโอกาสได้รับสิทธิ์พิเศษจากดาเนียลเช่นนี้แน่

“อืม บอกเซนให้ดูแลเมียฉันดีๆล่ะ”

“ครับ แล้วคุณชายจะคุยกับนายหญิงสักหน่อยไหมครับ”

“ไม่ล่ะ”

ดาเนียลปฏิเสธอย่างเสียดายนิดๆพลางคิดในใจขำๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากคุยกับเอริสา ใจจริงอยากอ้อนให้เมียรักพูดประโยคที่อดัมบอกให้เขาฟังด้วยตัวเองด้วยซ้ำ เขาคงมีความสุขกว่าตอนที่อดัมพูดให้ฟังหลายเท่าตัว แต่เกรงว่าเดี๋ยวได้ยินเสียงเมียแล้วเขาจะตบะแตกวิ่งแจ้นกลับบ้านงานการไม่ได้ทำ วันนี้ตอนเที่ยงเขามีนัดทานข้าวกับลูกค้าด้วยเลยต้องข่มใจเอาไว้ แล้วเตือนตัวเองว่าเดี๋ยวตอนเย็นก็ได้เห็นหน้าได้กอดเมียแล้ว

“แอสตัน แกยิ้มทำไม”

สัญชาตญาณบอกว่ามีคนกำลังมองเขาอยู่ คนที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ลำพังอย่างสุขใจจึงหันหน้าไปมองทิศทางที่หางตาเขาเห็นอยู่รำไร แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แอสตันลูกน้องมือขวาคนสนิทของเขานั่นเอง ถ้ามันมองธรรมดาเขาคงไม่แปลกใจนัก แต่นี่มันมองแล้วอมยิ้มน้อยๆไปด้วย มันน่าแปลกไหมล่ะ ปกติหมอนี่มันเสือยิ้มยากจะตาย

“ผมกำลังยิ้มอยู่เหรอครับ”

“เออสิวะ ถ้าแกไม่ได้ยิ้มแล้วฉันจะถามทำไม” นอกจากวันนี้มันจะยิ้มแล้ว มันยังกวนตีนอีกด้วย

“คือผมไม่รู้ตัวครับว่ากำลังยิ้ม แต่ถ้าผมยิ้ม คงเป็นเพราะผมยิ้มตามคุณชาย”

แอสตันตอบแบบพาซื่อ ซื่อทั้งน้ำเสียงและสีหน้า แต่แววตาของบอดี้การ์ดหนุ่มกลับไม่มีความซื่อใสให้เห็นแม้แต่นิดเดียว ดวงตาสีน้ำตาลสวยของแอสตันบ่งบอกเป็นอย่างดีว่ามันต้องการแซ็วเจ้านายเหนือหัวเรื่องนายหญิงต่างหาก

“แกจะมายิ้มตามฉันได้ยังไง แกยังไม่มีเมียเหมือนฉันสักหน่อย”

โดนลูกน้องแซ็วแต่ดาเนียลก็หาแคร์ไม่ นายใหญ่กริมเมอร์ยอมรับเอาดื้อๆว่าสาเหตุที่ทำให้เขายิ้มได้เป็นเพราะเมียรักแสดงออกว่าห่วงใย แถมยังเป็นการแสดงออกนอกหน้าเสียด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขานั่งยิ้มจนปวดขากรรไกรได้อย่างไรล่ะ ถึงยังไม่มั่นใจว่าเมียมีใจให้เขาแล้วหรือยัง แต่แค่เอริสาห่วงใยดูแลใส่ใจเขาแบบนี้ คนแอบรักแอบมองมานานอย่างเขาก็สุขใจแล้ว

ส่วนลูกน้องที่มันกวนตีนหน้านิ่งนี่เขาต้องขอเอาคืนมันเสียหน่อย บังอาจมาแซ็วเขาดีนัก ไอ้คุณแอส!

“ยังไม่มี แต่กำลังจะมีครับคุณชาย เพราะฉะนั้นแอสตันยิ้มตามคุณชายได้ ไม่ถือว่าผิดครับ”

ไม่ใช่แอสตันที่เป็นคนแก้ต่าง แต่เป็นอดัมต่างหากที่ขยับจากโซฟารับแขกเข้ามาอยู่แถวๆหน้าโต๊ะทำงานของดาเนียลอย่างต้องการมีส่วนร่วมเต็มที่ ถามว่าตอนทำงานตั้งใจอย่างตอนนี้ไหม? ตอบเสียงดังฟังชัดเลยว่า…ไม่!

ฟังเผินๆเหมือนอดัมต้องการเข้าข้างเพื่อนสนิทไม่ให้ถูกดาเนียลต่อว่า แต่เอาเข้าจริงจะรู้ว่าลูกน้องมือซ้ายกำลังเปิดประเด็นให้เจ้านายเข้าโจมตีคู่หูต่างหาก แอสตันจึงได้แต่กัดฟันแล้วมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างกินเลือดกินเนื้อเป็นการขอบคุณน้ำใจของมัน แม้ไม่มีเสียงเล็ดลอดให้ได้ยิน แต่อดัมก็สามารถอ่านปากของคู่หูได้เป็นอย่างดี…

‘ไอ้เพื่อนเวร!’

“เออ จริงของแก ได้ข่าวว่ามันไปขอกับพ่อตาตั้งแต่ว่าที่เจ้าสาวอายุแค่สิบห้า ฮึ! ไอ้โลลิคอน”

โบราณว่าตีงูต้องตีให้ตายฉันใด การเอาคืนแอสตันก็ต้องทำให้ถึงที่สุดฉันนั้น ดาเนียลจึงไม่รอช้า ขุดคุ้ยเอาความลับทั้งหลายแหล่ที่เขาอาจไม่เคยพูดถึงแต่ก็รับรู้ทุกเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับลูกน้องที่เขารักเหมือนน้องชายมาตีแผ่ให้โลกรู้เพื่อความสะใจ แล้วก็สะใจจริงๆ เมื่อตอนนี้ใบหน้าของลูกน้องที่เพิ่งกวนประสาทเขาเมื่อครู่เริ่มแดงจัดอย่างที่ไม่เคยได้เห็น

‘ของผมไปขอกับพ่อตาตอนอายุสิบห้ายังถูกกล่าวหาว่าเป็นโลลิคอนเป็นพวกคลั่งเด็ก เอิ่ม…แล้วของคุณชายนี่ได้ข่าวว่าออกอาการชัดเจนตั้งแต่นายหญิงอายุแค่สิบขวบ โวยวายหัวเด็ดตีนขาดไม่ยอมให้มาดามชลิตารับเอริสาเป็นลูกบุญธรรม อย่างนี้ไม่โลลิคอนยิ่งกว่าเหรอครับคุณชาย’

แอสตันคิดในใจแต่ยังไม่ทันได้พูดออกมา เจ้าเพื่อนรักตัวแสบก็เอ่ยตัดหน้าขึ้นมาเสียก่อน

“ข่าววงในยังบอกอีกด้วยครับว่าตอนนี้เรือนหอสร้างเสร็จแล้ว สามารถย้ายเข้าไปอยู่ได้ทันที”

เป็นอดัมอีกเช่นเคยที่ยืนตัวตรงกางขาแข็งแรงออกความกว้างเท่าช่วงไหล่ กุมมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าขาแล้วพูดน้ำเสียงเรียบๆเหมือนกำลังรายงานเรื่องสำคัญให้ดาเนียลฟัง

‘มีวงในวงนอกที่ไหนกันวะ มึงกับกูก็คนหาข่าววงเดียวกันนี่แหละ’

แอสตันกัดฟันคิดในใจอย่างแค้นๆ นี่แหละที่โบราณว่าคนเราจะเห็นตัวตนที่แท้จริงกันและกันตอนตกทุกข์ได้ยาก แล้วเขาก็ได้เห็นแล้วว่าเพื่อนสนิทคู่หูดูโอ้ของเขาอย่างอดัม มัน…โคตรเลว! นี่มันกะจะเอาข่าววงในที่มันซอกแซกมาเองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของประเด็นมาเผาเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่านเลยใช่ไหมเนี่ย ไอ้เลว! ไอ้เพื่อนชั่ว! อย่าให้ถึงตากูบ้างนะมึง แอสตันไม่ได้กล่าว แต่สายตาของชายหนุ่มที่มองหน้านิ่งๆขรึมๆของอดัมบอกอย่างนั้น

“อ๊อ! เรือนหอเสร็จแล้วนี่เอง ถึงว่าสิ! ฉันได้ข่าวมาแว่วๆว่ามันเพิ่งรับแม่บ้านมาคนหนึ่งเอาไว้ดูแลบ้าน หน้าตาน่าเอ็นดูใช้ได้เลยล่ะ ท่าทางจะขยันด้วยนะ เรียนไปหางานทำไปด้วย เสียอย่างเดียว ยังเรียนไม่จบ มันเลย…อด!”

ข่าววงในของอดัมที่ว่าแน่ยังแพ้ให้กับข่าวกรองความรวดเร็วแม่นยำระดับชาติของดาเนียลที่เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อเช้านี้เอง ทำเอาบอดี้การ์ดที่พยายามเก๊กหน้านิ่งเรียบเฉยอย่างอดัมถึงกับทนไม่ไหวหลุดหัวเราะก๊ากออกมาดังลั่นกับสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเพื่อนสนิทที่โดนดีเข้าแล้ว

‘สมน้ำหน้า! แซ็วใครไม่แซ็ว ดันมาแซ็วเจ้าพ่ออสังหาฯ เป็นไงล่ะ ก็โดนเอาคืนไปตามระเบียบสิครับไอ้โลลิคอน’

“งั้นก็แสดงว่าเย็นนี้แกจะไม่ได้ชิมกับข้าวอร่อยๆฝีมือเมียฉันสินะ ใช่ไหมแอสตัน”

“ทำไมเหรอครับคุณชาย” อดัมทำหน้าเหมือนสงสัยแต่ดวงตาแวววับล้อเลียนของชายหนุ่มกลับทำให้แอสตันรู้ว่ามันตั้งใจเป็นลูกคู่รับส่งมุกกับดาเนียลกลั่นแกล้งเขาต่างหาก

“แกนี่ไม่รู้เรื่องเลยนะอดัม ก็เรือนหอมันสร้างเสร็จแล้ว แถมเมื่อเช้ามันยังพาแม่บ้านย้ายเข้าไปอยู่แล้วด้วย มันก็ต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่บ้านน่ะสิ หน้าตาน่าเอ็นดูขนาดนั้นปล่อยให้อยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียวได้ยังไง เป็นห่วงแย่เลย เผลอๆที่มันรีบพาแม่บ้านคนใหม่มาอยู่ในบ้านคงเพราะกลัวไอ้หนุ่มที่เป็นเพื่อนกันมาจีบ มันเลยต้องรีบจับแยกนี่ไง ทีนี้แกเข้าใจหรือยังล่ะว่าทำไมมันต้องรีบกลับบ้าน”

“อย่างนี้นี่เอง งั้นต่อไปผมคงต้องนั่งกินข้าวกับไอ้เซนแค่สองคน”

‘เออ! ขอให้มึงกับไอ้เซนกินข้าวด้วยกันทุกวันจนได้เสียเป็นเมียผัวให้ฟ้าผ่าไปเลย ไอ้เพื่อนเวร!’

อดัมแกล้งตัดพ้อด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย แต่ทำไมแอสตันกลับไม่รู้สึกสงสาร ตรงกันข้าม เขาอยากกระโดดเตะมันด้วยซ้ำ นี่มันกับคุณชายกะจะขุดหลุมฝังเขาเลยใช่ไหมเนี่ยถึงยังแซ็วไม่เลิกแบบนี้ แถมเขายังเถียงไม่ออกด้วยเพราะมันคือเรื่องจริงทั้งนั้นโดยเฉพาะเหตุผลข้อสุดท้ายที่ดาเนียลเอามาแฉ นั่นแหละประเด็นหลักเลยที่เขาต้องรีบย้ายเจนนิเฟอร์เข้าไปอยู่ในบ้านแล้วหางานให้หญิงสาวทำ เจนนิเฟอร์จะได้ไม่ต้องออกไปหางานพิเศษทำนอกบ้านกับไอ้เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนั้นอีก

“คุณชายครับ ผมไหว้ล่ะครับ เห็นใจผมเถอะนะครับ ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ วันหลังผมจะไม่แซ็วคุณชายเรื่องนายหญิงแล้วครับ ผมสัญญา”

ไม่เพียงแค่พูด แต่คนถูกแฉยังพนมมือทั้งสองข้างขึ้นไหว้ท่วมหัวขอร้องเจ้านายจอมแกล้งอีกต่างหาก แถมใบหน้าของแอสตันนั้นยังดูน่าเวทนาจนคนขี้แกล้งทั้งสองคนส่งเสียงหัวเราะเสียงดังด้วยความสะใจไร้แววปรานี

“ก็แค่เป็นพวกโลลิคอนขี้หึง ไม่เห็นแกต้องอายเลยนี่หว่า ฮ่าๆ”

ดาเนียลหัวเราะกับอดัมอย่างอารมณ์ดีที่สามารถแกล้งแอสตันให้จนมุมได้ และสุดท้ายแม้แต่ตัวคนถูกรุมแกล้งอย่างแอสตันเองยังอดยิ้มแล้วส่ายหัวคล้ายระอากับผู้ชายตัวโตทั้งสองคนที่ดูจะมีความสุขเหลือล้นที่ได้หยอกล้อเขา บรรยากาศในห้องทำงานของดาเนียลจึงมีแต่เสียงหัวเราะหยอกเย้าอย่างที่ไม่เคยได้ยินจนดูครึกครื้นผิดปกติ แต่ความครึกครื้นนั้นก็พลันหายไปเมื่อมีใครบางคนที่ไม่ได้รับเชิญก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในห้อง

“ไฮ ดาร์ลิ้ง ฉันมารับคุณไปทานอาหารกลางวันค่ะ”

*************************************************************************

     แจ้งนักอ่านที่น่ารักทุกท่านคร่า ครบโควต้าที่จะสามารถอัพลงเว็บให้อ่านกันแล้วนะคะ วันนี้จะเป็นตอนที่จะลงเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ขอบคุณมากมายสำหรับการติดตาม คอมเม้นต์ และกำลังใจที่มอบให้นักเขียนตัวกลมๆคนนี้ หากนักอ่านยังคงฟินกับความรักของคู่รักปาก(โคตร)หนัก จากเรื่อง 'พ่ายรักพรางหัวใจ' สามารถหาซื้อหนังสือได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำ หรือง่ายสุดคือสั่งซื้อจากเว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ ได้ตามลิ้งค์ที่แปะไว้ด้านบนเลยค่ะ

     ปล.ขอฝากผลงานเรื่องอื่นๆของ 'พิจักขณา' ไว้ด้วยนะคะ อีกไม่นานพบกันกับนิยายเรื่องใหม่ 'สยบรักเมียบำเรอค่ะ'

........................................................................................................................................

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา