พ่ายรักพรางหัวใจ
8.8
เขียนโดย Phaky
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.
33 ตอน
4 วิจารณ์
33.36K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
30) ศัตรูหัวใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความซีรีส์ชุด 'พ่ายรักยอดดวงใจ' โดย 'พิจักขณา' มีทั้งหมด 3 เรื่องค่ะ
-พ่ายรักกลลวงใจ ราคา 279 บาท จำนวน 312 หน้า
-พ่ายพยศรัก ราคา 319 บาท จำนวน 360 หน้า
-พ่ายรักพรางหัวใจ ราคา 389 บาท จำนวน 504 หน้า
แต่หากซื้อยกชุด ราคาสมาชิกเพียงชุดละ 839 บาท เท่านั้นคร่า
สั่งซื้อได้แล้วที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ
https://www.lightoflovebooknovel.com/showbook.php?bid=2597
หรือตามหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค B2S (เฉพาะพ่ายรักพรางหัวใจ วางแผงหน้าร้านเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันที่ 26/08/60 ตามต่างจังหวัดรอกระจายสินค้า 1-2 สัปดาห์)
***********************************************************************************************
แจ้งนักอ่านที่น่ารักทุกท่านคร่า ใกล้ครบโควต้าที่จะสามารถอัพลงเว็บให้อ่านกันแล้วนะคะ น่าจะลงได้อีก 2 - 3 ตอนค่ะ ใครไม่อยากค้างคา อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วคู่รักปากหนักคู่นี้จะลงเอยแบบไหน สามารถหาซื้อหนังสือได้ที่สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ หรือตามร้านหนังสือชั้นนำเลยค่ะ
*********************************************************************************************
“คุณชาย”
“นึกว่าใคร พี่ดาเนียลนี่เอง”
เสียงเข้มห้วนที่ดังคล้ายตะคอกจากทางด้านหลังปลุกคนสองคนที่ถูกภวังค์ความคิดของตัวเองครอบงำให้กลับมาสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง และใบหน้าถมึงทึงดวงตาวาวโรจน์ด้วยโทสะของผู้มาใหม่ที่มองจ้องมาก็ทำเอาเอริสาถึงกับหน้าถอดสีเสียวสันหลังวาบ แม้ยังไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้นายใหญ่กริมเมอร์เกิดอาการเช่นนี้ก็ตาม
ส่วนจัสตินนั้นทำเพียงไหวไหล่เล็กน้อยแล้วหันกลับมาทั้งตัวพร้อมทั้งเอ่ยทักทายดาเนียลออกไปเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ชายหนุ่มนั้นพอจะเดาได้ว่าทำไมนายใหญ่กริมเมอร์ถึงได้มีท่าทางอารมณ์เสียแบบนี้ ซึ่งมันทำให้ลางสังหรณ์บางอย่างของจัสตินมีเค้าว่าจะเป็นจริง
“อืม นายมาถึงนานหรือยังล่ะจัสติน”
ดาเนียลที่ยืนอยู่ตรงประตูเชื่อมระหว่างห้องจัดเลี้ยงกับระเบียงด้านนอกไขว่มือทั้งสองไว้ข้างหลังแล้วกำแน่นเข้าหากันเพื่อระงับอารมณ์เกรี้ยวกราดที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในอก ทันทีที่ได้รับรายงานจากเซนที่คอยตามดูแลเมียรักอยู่ห่างๆเข้ามารายงานว่าจัสตินกำลังพูดคุยกับเอริสาอยู่ที่ระเบียงห้องจัดเลี้ยงสองต่อสอง เขาก็รีบเอ่ยลาคู่สนทนาทันทีไม่สนใจว่านั่นคือนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องการทำธุรกิจร่วมกับเขา แล้วรีบเดินก้าวยาวๆแทบเป็นวิ่งออกมายังระเบียงกว้างที่ลูกน้องคนสนิทรายงานว่าเอริสากับจัสตินอยู่ที่นั่น แม้ภาพที่เห็นจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดกังวล แต่แค่เห็นผู้ชายคนอื่นยืนอยู่ใกล้ๆเอริสาเขาก็ไม่ชอบใจแล้ว หากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่จัสตินที่เขาให้ความรักไม่ต่างจากน้องชายแท้ๆ มีหรือที่มันจะยังได้ยืนหายใจอยู่ตรงนี้
“สักพักแล้วครับ มาถึงก่อนพี่แป้บนึง ผมยังเห็นพี่ควงสาวสวยตั้งสองคนเข้างานอยู่เลย”
ได้ทีจัสตินจึงแกล้งกระเซ้าดาเนียลเรื่องคู่ควงเข้างานด้วยใบหน้ารื่นเริงปนสะใจเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าหล่อคมเข้มที่เขานึกอิจฉาในบางครั้งนั้นยิ่งบึ้งตึงดวงตากราดเกรี้ยวกว่าเดิม เพราะดาเนียลทำเป็นหวงผู้หญิงตรงหน้านี้ทั้งที่ข้างกายก็มีพี่สาวของเขาอยู่ด้วยทั้งคน
“แล้วทำไมไม่เข้าไปในงานล่ะ ได้ยินคุณลุงบ่นๆอยู่นะว่านายจะยอมมาหรือเปล่า มัวมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”
คำพูดของดาเนียลฟังผิวเผินเหมือนเป็นการถามด้วยความสงสัย แต่คนฟังอย่างจัสตินนั้นเข้าใจดีว่ามันไม่ใช่ ดาเนียลกำลังต่อว่าเขาทางอ้อมต่างหากว่าเขามายืนอยู่ใกล้ๆเอริสาทำไม
“ผมก็อยากเข้าไปในงานนะครับ แต่บังเอิญว่าผม…‘ตกหลุมรัก’สาวสวยคนหนึ่งซะก่อน หาทางขึ้นไม่เจอ ก็เลยเข้าไปในงานไม่ถูก”
แต่ถึงจะรู้ตัวว่าถูกดาเนียลต่อว่าทางอ้อม จัสตินกลับไม่ได้รู้สึกผิดหรือหวาดกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้าม! ชายหนุ่มกลับพูดไปตามที่ใจคิดอย่างไม่กลัวเลยว่าจะถูกเจ้าพ่อวงการอสังหาฯฆ่าตัดตอนด้วยข้อหาเข้ามาเกาะแกะผู้หญิงของเขา ก็เพราะท่าทีของดาเนียลแสดงออกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงเอริสา และเขาก็กลัวว่าเอริสาจะหลงรักดาเนียลเหมือนๆผู้หญิงเกือบค่อนประเทศที่ใฝ่ฝันอยากเป็นมาดามกริมเมอร์ จัสตินจึงต้องรีบไขว่คว้าโอกาสที่เหลือริบรี่ด้วยการแสดงเจตนารมณ์ให้เอริสารู้ตัวเสียเลยว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเจ้าหล่อน
“นายนี่มีอารมณ์ขันดีนะ” กัดฟันพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับเดือดปุดๆราวลาวาร้อนระอุที่กำลังปะทุเดือดเตรียมพร้อมที่จะระเบิดออกมาจากภูเขาไฟได้ทุกเวลา
“มันก็แล้วแต่โอกาสน่ะครับ บางครั้งก็แค่ขำๆ แต่บางครั้งก็…จริงจัง!”
“อย่างนั้นเหรอ? ก็แล้วแต่นายนะ แต่บางครั้งนายก็ต้องเช็คให้ดีด้วยว่า ‘โอกาส’ ที่นายพูดถึงน่ะ…”
ดาเนียลทิ้งช่วงคำพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่นนั้น แล้วมองสบตากับจัสตินนิ่งๆสื่อความหมาย
“มันเกิดมาเพื่อเป็นของนายหรือเปล่าและถ้าโอกาสที่ว่านั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัย นายก็ไม่ควร…เข้าไปยุ่ง!”
ท้ายประโยคนั้นดาเนียลเน้นคำดุดันชัดเจนอย่างต้องการเตือนให้จัสตินรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือของต้องห้าม และมันควรถอยห่างจากสิ่งที่มันกำลังคาดหวังมากกว่าที่จะพูดคุยโต้ตอบกันตามประสาคนคุ้นเคย เพราะครอบครัวแอมบริธิโอกับเขานั้นมีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนานตั้งแต่รุ่นบิดา ดาเนียลจึงรีบเตือนให้หนุ่มรุ่นน้องรีบถอยห่างจากการเข้ามาวอแวกับเอริสาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเขาเองก็ไม่อยากมีปัญหากับน้องชายด้วยเรื่องผู้หญิง
“ป่ะ กลับบ้านกันเถอะ ผมง่วงแล้ว เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน”
พูดเตือนสติคนไม่มีสิทธิ์จบ ดาเนียลก็เลิกให้ความสนใจจัสตินแล้วเดินเข้ามาหาเอริสาที่ยืนมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างอึดอัดพร้อมทั้งเกี่ยวเอวบางเข้ามาตัวแนบชิดอย่างต้องการแสดงสิทธิ์ให้ใครบางคนที่ยืนมองแล้วบดกรามเข้าหากันนั้นได้เห็นให้เต็มตา มือใหญ่ลูบศีรษะของคนเจ้าเสน่ห์แผ่วเบาก่อนจับปอยผมตรงหน้าผากเนียนที่ถูกสายลมเย็นๆพัดให้หลุดจากกิ๊บติดผมสีดำที่ช่างผมซ่อนเอาไว้ขึ้นทัดใบหูอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งก้มหน้าลงจรดริมฝีปากสูดดมความหอมหวานของแก้มใสหนักๆ อีกทั้งดวงตาคู่คมที่มองมาอย่างต้องการสื่อคำพูดสองแง่สองง่ามที่ตั้งใจให้จัสตินเข้าใจว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่ได้นอนนั้นก็ทำเอาแก้มขาวๆของเอริสาค่อยๆแดงปลั่งลามไปทั่วใบหน้าด้วยความเขินอาย
“ฉันกลับก่อนนะจัสติน มี ‘ธุระสำคัญ’ ต้องรีบกลับไปทำ ส่วนนายก็ควรเข้าไปในงานได้แล้ว พยายามออกงานกับคุณลุงบ่อยๆ นายจะได้เรียนรู้การทำงานของคุณลุงด้วยว่าทำไมท่านถึงได้พาบริษัทเติบโตมาได้อย่างทุกวันนี้”
แสดงฉากเลิฟซีนหวานๆให้จัสตินได้ดูเป็นการยืนยันว่ามันไม่มีสิทธิ์ตะต้องเมียรักของเขาแม้ในความคิดเขาก็ไม่อนุญาต ดาเนียลจึงยอมถอนใบหน้าออกจากการค้ากำไรกับแก้มนวลที่แดงปลั่งราวลูกมะเขือเทศสุกแล้วหันมาเอ่ยลากับหนุ่มรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงยียวน ไม่ใช่เพราะมีมารยาท แต่ดาเนียลต้องการเน้นที่คำว่า ‘ธุระสำคัญ’ ให้จัสตินคิดตามว่าในเวลาค่ำมืดเช่นนี้ ‘ธุระสำคัญ’ ที่ว่านั้นคืออะไร
แต่ก่อนจะเดินจากไป ดาเนียลกลับนึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน ชายหนุ่มจึงมองสบตากับทายาทคนเล็กของตระกูลแอมบริธิโออีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไร้ร่องรอยยียวนเยาะเย้ย แต่ดวงตาของดาเนียลนั้นหรี่แคบลงเล็กน้อยพร้อมทั้งเอ่ยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นการเป็นงาน
“ขอบคุณครับที่แนะนำ แต่คงไม่ต้องถึงมือผมหรอก เพราะความหวังของพ่อน่าจะฝากไว้ที่พี่มากกว่า”
แทนที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ จัสตินกลับไหวไหล่อย่างไม่สนใจกับคำพูดของดาเนียล
“พูดอะไรแบบนั้น ในเมื่อนายเป็นลูก นายก็ต้องรับช่วง…”
“จะกลับแล้วเหรอดาเนียล”
ยังไม่ทันได้แก้ไขทัศนคติของจัสตินเสียใหม่ เสียงทุ้มของเกอร์ดอนที่แขนด้านซ้ายควงคู่ลูกสาวคนโตแสนสวยมาด้วยนั้นกลับส่งเสียงถามแทรกขึ้นมาแต่ไกลเสียก่อน ดาเนียลจึงต้องยุติบทสนทนาที่ตั้งใจอยู่นานแล้วว่าจะพูดให้จัสตินเข้าใจแล้วหันไปตอบคำถามเพื่อนสนิทของบิดา โดยที่มือของเขายังเกาะกอดอยู่ที่เอวเล็กบางของเอริสาไม่ยอมปล่อย จนเจสสิก้ามองภาพระคายหัวใจนั้นด้วยใบหน้าหงิกงอ
“ครับคุณลุง”
“ทำไมหลานรีบกลับนักล่ะ หืม”
“คือผมต้องไป…”
“จะอะไรอีกล่ะคะคุณพ่อ นอกจากจะรีบกลับไปกกแม่นี่ สงสัยจะคันมาก ดูท่าแล้วคงจะออเซาะเก่งซะด้วย ดาเนียลถึงได้รีบกลับทั้งที่งานเพิ่งจะเริ่มแท้ๆ”
“เจสซี่ อย่าเสียมารยาทสิลูก”
และก็เป็นอีกครั้งภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงที่เจสสิก้าอดทนเก็บกักความริษยาที่มีต่อเอริสาเอาไว้ไม่ไหวแล้วเอ่ยแทรกบทสนทนาระหว่างดาเนียลกับเกอร์ดอนอย่างเสียมารยาทด้วยถ้อยคำกระแนะกระแหนแดกดัน อีกทั้งสรรพนามที่จิกเรียกเอริสานั้นยังหยาบคายจนถูกบิดาเอ่ยเตือนเสียงเรียบ เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างที่กำลังเดินออกมาตามหาดาเนียล เกอร์ดอนนั้นเอ่ยสอนลูกสาวคนโตให้รู้จักควบคุมอารมณ์ให้สงบเยือกเย็นมากกว่านี้ ไม่ว่าจะโกรธจะเกลียดชังมากแค่ไหนก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้แค่ในใจ และไม่ควรแตะต้องวุ่นวายกับเอริสาถ้าไม่จำเป็น หากเจสสิก้านั้นต้องการเอาชนะหัวใจดื้อด้านของดาเนียลที่มีแนวโน้มว่าจะหลุดลอยให้อยู่ในกำมือ
“ฮึ!”
คนถูกเตือนสะบัดหน้าหนีไปอีกทางเมื่อได้รับสัญญาณเตือนเป็นน้ำเสียงราบเรียบของบิดาที่รู้กันดีว่าหากเกอร์ดอนพูดด้วยน้ำเสียงลักษณะเช่นนี้ทีไรนั่นคือบิดาของเธอกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมากและเธอต้องรีบหยุดพฤติกรรมที่ทำอยู่ทันที อีกทั้งเธอยังได้รับสายตาดุกร้าวด้วยความกรุ่นโกรธจากดาเนียลเป็นของแถมอีกอย่าง ซึ่งคนหลังนี้ดูท่าว่าจะน่ากลัวกว่าพ่อเธอด้วยซ้ำ เจสสิก้าจึงไม่กล้าดื้อแพ่งจำต้องสงบปากสงบคำเพื่อเอาตัวรอด
“งั้นผมลาคุณลุงตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ”
“แล้วเจอกัน อย่าลืมที่คุยกันไว้นะ”
“ครับคุณลุง สวัสดีครับ ไปนะจัสติน อย่าลืมที่ฉันบอก นายควรเริ่มทำมันได้แล้ว”
ล่ำลาจบดาเนียลก็โอบร่างสูงเพรียวสมส่วนของเอริสาที่หายไปจากบทสนทนากลับหลังหันแล้วเดินออกไปจากระเบียงกว้างที่มีสามพ่อลูกตระกูลแอมบริธิโอยืนอยู่ครบ เป้าหมายอยู่ที่รถยนต์ส่วนตัวที่ป่านนี้ลูกน้องของคุณชายกริมเมอร์คงขับมาจอดรอที่บันไดทางเข้าหน้าโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
“ไง แกชอบแม่นั่นเหรอ เห็นมองตามอย่างกับจะจับกลืนลงท้อง”
“ถามทำไม! หรือว่าพี่มีข้อเสนอน่าสนใจมานำเสนอ”
จัสตินยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมทั้งมองตามเรือนร่างอรชรด้านหลังของเอริสาไปไม่ยอมกระพริบตาราวกับว่าภาพของหญิงสาวนั้นคืออัญมณีงดงามล้ำค่าที่ยากยิ่งนักที่เขาจะมีโอกาสได้พบเจอสักครั้งในชีวิต จนเมื่อเอริสากับดาเนียลเดินหายไปจากสายตาแล้วนั่นแหละ เจ้าของดวงตาสีฟ้าครามจึงยอมหันใบหน้ากลับมามองพี่สาวแล้วเลิกคิ้วหนาขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อได้ยินถ้อยคำแฝงนัยยะของเจสสิก้าและมองเห็นความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้ามีรอยยิ้มพอใจนั่น
“คงงั้นมั้ง ฉันคิดว่าเราได้ผลประโยชน์ร่วมกันถ้าแกยอมร่วมมือกับฉัน”
“อย่าให้มันออกนอกหน้านัก ดูก็รู้ว่าดาเนียลกำลังหลงแม่นั่น ขืนพวกแกทำอะไรให้ดาเนียลไม่พอใจ เรื่องมันจะจัดการยากไปกันใหญ่ แกสองคนเข้าใจที่พ่อพูดใช่ไหม”
เกอร์ดอนที่ได้ฟังลูกสาวลูกชายคุยกันเอ่ยเตือนเสียงเรียบ ด้วยเพราะสายตามากประสบการณ์ดูออกว่าดาเนียลรู้สึกอย่างไรกับบอดี้การ์ดสาวสวยคนนั้น และเกอร์ดอนยังรู้อีกด้วยว่าลูกชายของเพื่อนสนิทมีนิสัยไม่ต่างกับเพื่อนรักของเขาอย่างเดย์มอนด์ที่หวงแหนชลิตาสตรีผู้เป็นที่รักมากยิ่งกว่าสิ่งใด หากใครคิดร้ายหรือแตะต้องให้ภรรยาต้องเจ็บช้ำน้ำใจแม้เพียงเล็กน้อย เดย์มอนด์ไม่เคยปล่อยมันผู้นั้นให้อยู่เป็นสุขเลยสักคน
เกอร์ดอนจึงจำเป็นต้องเตือนสติลูกๆทั้งสองเอาไว้บ้างให้ระมัดระวังหากคิดจะทำอะไร เพราะหากพลาดพลั้ง แน่นอนว่าความหวังที่เขาจะได้ดาเนียลมาเป็นลูกเขยนั้นคงยากเต็มที แต่ถ้าฟังดูดีๆจะรู้ว่าชายหนุ่มวัยหกสิบปีนั้นไม่ได้เอ่ยปากห้ามเลยสักคำ
-พ่ายรักกลลวงใจ ราคา 279 บาท จำนวน 312 หน้า
-พ่ายพยศรัก ราคา 319 บาท จำนวน 360 หน้า
-พ่ายรักพรางหัวใจ ราคา 389 บาท จำนวน 504 หน้า
แต่หากซื้อยกชุด ราคาสมาชิกเพียงชุดละ 839 บาท เท่านั้นคร่า
สั่งซื้อได้แล้วที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ
https://www.lightoflovebooknovel.com/showbook.php?bid=2597
หรือตามหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค B2S (เฉพาะพ่ายรักพรางหัวใจ วางแผงหน้าร้านเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในวันที่ 26/08/60 ตามต่างจังหวัดรอกระจายสินค้า 1-2 สัปดาห์)
***********************************************************************************************
แจ้งนักอ่านที่น่ารักทุกท่านคร่า ใกล้ครบโควต้าที่จะสามารถอัพลงเว็บให้อ่านกันแล้วนะคะ น่าจะลงได้อีก 2 - 3 ตอนค่ะ ใครไม่อยากค้างคา อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วคู่รักปากหนักคู่นี้จะลงเอยแบบไหน สามารถหาซื้อหนังสือได้ที่สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ หรือตามร้านหนังสือชั้นนำเลยค่ะ
*********************************************************************************************
“คุณชาย”
“นึกว่าใคร พี่ดาเนียลนี่เอง”
เสียงเข้มห้วนที่ดังคล้ายตะคอกจากทางด้านหลังปลุกคนสองคนที่ถูกภวังค์ความคิดของตัวเองครอบงำให้กลับมาสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง และใบหน้าถมึงทึงดวงตาวาวโรจน์ด้วยโทสะของผู้มาใหม่ที่มองจ้องมาก็ทำเอาเอริสาถึงกับหน้าถอดสีเสียวสันหลังวาบ แม้ยังไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้นายใหญ่กริมเมอร์เกิดอาการเช่นนี้ก็ตาม
ส่วนจัสตินนั้นทำเพียงไหวไหล่เล็กน้อยแล้วหันกลับมาทั้งตัวพร้อมทั้งเอ่ยทักทายดาเนียลออกไปเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ชายหนุ่มนั้นพอจะเดาได้ว่าทำไมนายใหญ่กริมเมอร์ถึงได้มีท่าทางอารมณ์เสียแบบนี้ ซึ่งมันทำให้ลางสังหรณ์บางอย่างของจัสตินมีเค้าว่าจะเป็นจริง
“อืม นายมาถึงนานหรือยังล่ะจัสติน”
ดาเนียลที่ยืนอยู่ตรงประตูเชื่อมระหว่างห้องจัดเลี้ยงกับระเบียงด้านนอกไขว่มือทั้งสองไว้ข้างหลังแล้วกำแน่นเข้าหากันเพื่อระงับอารมณ์เกรี้ยวกราดที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในอก ทันทีที่ได้รับรายงานจากเซนที่คอยตามดูแลเมียรักอยู่ห่างๆเข้ามารายงานว่าจัสตินกำลังพูดคุยกับเอริสาอยู่ที่ระเบียงห้องจัดเลี้ยงสองต่อสอง เขาก็รีบเอ่ยลาคู่สนทนาทันทีไม่สนใจว่านั่นคือนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าต้องการทำธุรกิจร่วมกับเขา แล้วรีบเดินก้าวยาวๆแทบเป็นวิ่งออกมายังระเบียงกว้างที่ลูกน้องคนสนิทรายงานว่าเอริสากับจัสตินอยู่ที่นั่น แม้ภาพที่เห็นจะไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดกังวล แต่แค่เห็นผู้ชายคนอื่นยืนอยู่ใกล้ๆเอริสาเขาก็ไม่ชอบใจแล้ว หากผู้ชายคนนั้นไม่ใช่จัสตินที่เขาให้ความรักไม่ต่างจากน้องชายแท้ๆ มีหรือที่มันจะยังได้ยืนหายใจอยู่ตรงนี้
“สักพักแล้วครับ มาถึงก่อนพี่แป้บนึง ผมยังเห็นพี่ควงสาวสวยตั้งสองคนเข้างานอยู่เลย”
ได้ทีจัสตินจึงแกล้งกระเซ้าดาเนียลเรื่องคู่ควงเข้างานด้วยใบหน้ารื่นเริงปนสะใจเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าหล่อคมเข้มที่เขานึกอิจฉาในบางครั้งนั้นยิ่งบึ้งตึงดวงตากราดเกรี้ยวกว่าเดิม เพราะดาเนียลทำเป็นหวงผู้หญิงตรงหน้านี้ทั้งที่ข้างกายก็มีพี่สาวของเขาอยู่ด้วยทั้งคน
“แล้วทำไมไม่เข้าไปในงานล่ะ ได้ยินคุณลุงบ่นๆอยู่นะว่านายจะยอมมาหรือเปล่า มัวมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”
คำพูดของดาเนียลฟังผิวเผินเหมือนเป็นการถามด้วยความสงสัย แต่คนฟังอย่างจัสตินนั้นเข้าใจดีว่ามันไม่ใช่ ดาเนียลกำลังต่อว่าเขาทางอ้อมต่างหากว่าเขามายืนอยู่ใกล้ๆเอริสาทำไม
“ผมก็อยากเข้าไปในงานนะครับ แต่บังเอิญว่าผม…‘ตกหลุมรัก’สาวสวยคนหนึ่งซะก่อน หาทางขึ้นไม่เจอ ก็เลยเข้าไปในงานไม่ถูก”
แต่ถึงจะรู้ตัวว่าถูกดาเนียลต่อว่าทางอ้อม จัสตินกลับไม่ได้รู้สึกผิดหรือหวาดกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้าม! ชายหนุ่มกลับพูดไปตามที่ใจคิดอย่างไม่กลัวเลยว่าจะถูกเจ้าพ่อวงการอสังหาฯฆ่าตัดตอนด้วยข้อหาเข้ามาเกาะแกะผู้หญิงของเขา ก็เพราะท่าทีของดาเนียลแสดงออกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงเอริสา และเขาก็กลัวว่าเอริสาจะหลงรักดาเนียลเหมือนๆผู้หญิงเกือบค่อนประเทศที่ใฝ่ฝันอยากเป็นมาดามกริมเมอร์ จัสตินจึงต้องรีบไขว่คว้าโอกาสที่เหลือริบรี่ด้วยการแสดงเจตนารมณ์ให้เอริสารู้ตัวเสียเลยว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเจ้าหล่อน
“นายนี่มีอารมณ์ขันดีนะ” กัดฟันพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจกลับเดือดปุดๆราวลาวาร้อนระอุที่กำลังปะทุเดือดเตรียมพร้อมที่จะระเบิดออกมาจากภูเขาไฟได้ทุกเวลา
“มันก็แล้วแต่โอกาสน่ะครับ บางครั้งก็แค่ขำๆ แต่บางครั้งก็…จริงจัง!”
“อย่างนั้นเหรอ? ก็แล้วแต่นายนะ แต่บางครั้งนายก็ต้องเช็คให้ดีด้วยว่า ‘โอกาส’ ที่นายพูดถึงน่ะ…”
ดาเนียลทิ้งช่วงคำพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่นนั้น แล้วมองสบตากับจัสตินนิ่งๆสื่อความหมาย
“มันเกิดมาเพื่อเป็นของนายหรือเปล่าและถ้าโอกาสที่ว่านั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัย นายก็ไม่ควร…เข้าไปยุ่ง!”
ท้ายประโยคนั้นดาเนียลเน้นคำดุดันชัดเจนอย่างต้องการเตือนให้จัสตินรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือของต้องห้าม และมันควรถอยห่างจากสิ่งที่มันกำลังคาดหวังมากกว่าที่จะพูดคุยโต้ตอบกันตามประสาคนคุ้นเคย เพราะครอบครัวแอมบริธิโอกับเขานั้นมีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนานตั้งแต่รุ่นบิดา ดาเนียลจึงรีบเตือนให้หนุ่มรุ่นน้องรีบถอยห่างจากการเข้ามาวอแวกับเอริสาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเขาเองก็ไม่อยากมีปัญหากับน้องชายด้วยเรื่องผู้หญิง
“ป่ะ กลับบ้านกันเถอะ ผมง่วงแล้ว เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน”
พูดเตือนสติคนไม่มีสิทธิ์จบ ดาเนียลก็เลิกให้ความสนใจจัสตินแล้วเดินเข้ามาหาเอริสาที่ยืนมองคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างอึดอัดพร้อมทั้งเกี่ยวเอวบางเข้ามาตัวแนบชิดอย่างต้องการแสดงสิทธิ์ให้ใครบางคนที่ยืนมองแล้วบดกรามเข้าหากันนั้นได้เห็นให้เต็มตา มือใหญ่ลูบศีรษะของคนเจ้าเสน่ห์แผ่วเบาก่อนจับปอยผมตรงหน้าผากเนียนที่ถูกสายลมเย็นๆพัดให้หลุดจากกิ๊บติดผมสีดำที่ช่างผมซ่อนเอาไว้ขึ้นทัดใบหูอย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งก้มหน้าลงจรดริมฝีปากสูดดมความหอมหวานของแก้มใสหนักๆ อีกทั้งดวงตาคู่คมที่มองมาอย่างต้องการสื่อคำพูดสองแง่สองง่ามที่ตั้งใจให้จัสตินเข้าใจว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่ได้นอนนั้นก็ทำเอาแก้มขาวๆของเอริสาค่อยๆแดงปลั่งลามไปทั่วใบหน้าด้วยความเขินอาย
“ฉันกลับก่อนนะจัสติน มี ‘ธุระสำคัญ’ ต้องรีบกลับไปทำ ส่วนนายก็ควรเข้าไปในงานได้แล้ว พยายามออกงานกับคุณลุงบ่อยๆ นายจะได้เรียนรู้การทำงานของคุณลุงด้วยว่าทำไมท่านถึงได้พาบริษัทเติบโตมาได้อย่างทุกวันนี้”
แสดงฉากเลิฟซีนหวานๆให้จัสตินได้ดูเป็นการยืนยันว่ามันไม่มีสิทธิ์ตะต้องเมียรักของเขาแม้ในความคิดเขาก็ไม่อนุญาต ดาเนียลจึงยอมถอนใบหน้าออกจากการค้ากำไรกับแก้มนวลที่แดงปลั่งราวลูกมะเขือเทศสุกแล้วหันมาเอ่ยลากับหนุ่มรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงยียวน ไม่ใช่เพราะมีมารยาท แต่ดาเนียลต้องการเน้นที่คำว่า ‘ธุระสำคัญ’ ให้จัสตินคิดตามว่าในเวลาค่ำมืดเช่นนี้ ‘ธุระสำคัญ’ ที่ว่านั้นคืออะไร
แต่ก่อนจะเดินจากไป ดาเนียลกลับนึกอะไรขึ้นมาได้เสียก่อน ชายหนุ่มจึงมองสบตากับทายาทคนเล็กของตระกูลแอมบริธิโออีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไร้ร่องรอยยียวนเยาะเย้ย แต่ดวงตาของดาเนียลนั้นหรี่แคบลงเล็กน้อยพร้อมทั้งเอ่ยประโยคถัดมาด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นการเป็นงาน
“ขอบคุณครับที่แนะนำ แต่คงไม่ต้องถึงมือผมหรอก เพราะความหวังของพ่อน่าจะฝากไว้ที่พี่มากกว่า”
แทนที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำ จัสตินกลับไหวไหล่อย่างไม่สนใจกับคำพูดของดาเนียล
“พูดอะไรแบบนั้น ในเมื่อนายเป็นลูก นายก็ต้องรับช่วง…”
“จะกลับแล้วเหรอดาเนียล”
ยังไม่ทันได้แก้ไขทัศนคติของจัสตินเสียใหม่ เสียงทุ้มของเกอร์ดอนที่แขนด้านซ้ายควงคู่ลูกสาวคนโตแสนสวยมาด้วยนั้นกลับส่งเสียงถามแทรกขึ้นมาแต่ไกลเสียก่อน ดาเนียลจึงต้องยุติบทสนทนาที่ตั้งใจอยู่นานแล้วว่าจะพูดให้จัสตินเข้าใจแล้วหันไปตอบคำถามเพื่อนสนิทของบิดา โดยที่มือของเขายังเกาะกอดอยู่ที่เอวเล็กบางของเอริสาไม่ยอมปล่อย จนเจสสิก้ามองภาพระคายหัวใจนั้นด้วยใบหน้าหงิกงอ
“ครับคุณลุง”
“ทำไมหลานรีบกลับนักล่ะ หืม”
“คือผมต้องไป…”
“จะอะไรอีกล่ะคะคุณพ่อ นอกจากจะรีบกลับไปกกแม่นี่ สงสัยจะคันมาก ดูท่าแล้วคงจะออเซาะเก่งซะด้วย ดาเนียลถึงได้รีบกลับทั้งที่งานเพิ่งจะเริ่มแท้ๆ”
“เจสซี่ อย่าเสียมารยาทสิลูก”
และก็เป็นอีกครั้งภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงที่เจสสิก้าอดทนเก็บกักความริษยาที่มีต่อเอริสาเอาไว้ไม่ไหวแล้วเอ่ยแทรกบทสนทนาระหว่างดาเนียลกับเกอร์ดอนอย่างเสียมารยาทด้วยถ้อยคำกระแนะกระแหนแดกดัน อีกทั้งสรรพนามที่จิกเรียกเอริสานั้นยังหยาบคายจนถูกบิดาเอ่ยเตือนเสียงเรียบ เพราะก่อนหน้านี้ระหว่างที่กำลังเดินออกมาตามหาดาเนียล เกอร์ดอนนั้นเอ่ยสอนลูกสาวคนโตให้รู้จักควบคุมอารมณ์ให้สงบเยือกเย็นมากกว่านี้ ไม่ว่าจะโกรธจะเกลียดชังมากแค่ไหนก็ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้แค่ในใจ และไม่ควรแตะต้องวุ่นวายกับเอริสาถ้าไม่จำเป็น หากเจสสิก้านั้นต้องการเอาชนะหัวใจดื้อด้านของดาเนียลที่มีแนวโน้มว่าจะหลุดลอยให้อยู่ในกำมือ
“ฮึ!”
คนถูกเตือนสะบัดหน้าหนีไปอีกทางเมื่อได้รับสัญญาณเตือนเป็นน้ำเสียงราบเรียบของบิดาที่รู้กันดีว่าหากเกอร์ดอนพูดด้วยน้ำเสียงลักษณะเช่นนี้ทีไรนั่นคือบิดาของเธอกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมากและเธอต้องรีบหยุดพฤติกรรมที่ทำอยู่ทันที อีกทั้งเธอยังได้รับสายตาดุกร้าวด้วยความกรุ่นโกรธจากดาเนียลเป็นของแถมอีกอย่าง ซึ่งคนหลังนี้ดูท่าว่าจะน่ากลัวกว่าพ่อเธอด้วยซ้ำ เจสสิก้าจึงไม่กล้าดื้อแพ่งจำต้องสงบปากสงบคำเพื่อเอาตัวรอด
“งั้นผมลาคุณลุงตรงนี้เลยแล้วกันนะครับ”
“แล้วเจอกัน อย่าลืมที่คุยกันไว้นะ”
“ครับคุณลุง สวัสดีครับ ไปนะจัสติน อย่าลืมที่ฉันบอก นายควรเริ่มทำมันได้แล้ว”
ล่ำลาจบดาเนียลก็โอบร่างสูงเพรียวสมส่วนของเอริสาที่หายไปจากบทสนทนากลับหลังหันแล้วเดินออกไปจากระเบียงกว้างที่มีสามพ่อลูกตระกูลแอมบริธิโอยืนอยู่ครบ เป้าหมายอยู่ที่รถยนต์ส่วนตัวที่ป่านนี้ลูกน้องของคุณชายกริมเมอร์คงขับมาจอดรอที่บันไดทางเข้าหน้าโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
“ไง แกชอบแม่นั่นเหรอ เห็นมองตามอย่างกับจะจับกลืนลงท้อง”
“ถามทำไม! หรือว่าพี่มีข้อเสนอน่าสนใจมานำเสนอ”
จัสตินยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมทั้งมองตามเรือนร่างอรชรด้านหลังของเอริสาไปไม่ยอมกระพริบตาราวกับว่าภาพของหญิงสาวนั้นคืออัญมณีงดงามล้ำค่าที่ยากยิ่งนักที่เขาจะมีโอกาสได้พบเจอสักครั้งในชีวิต จนเมื่อเอริสากับดาเนียลเดินหายไปจากสายตาแล้วนั่นแหละ เจ้าของดวงตาสีฟ้าครามจึงยอมหันใบหน้ากลับมามองพี่สาวแล้วเลิกคิ้วหนาขึ้นเป็นเชิงถามเมื่อได้ยินถ้อยคำแฝงนัยยะของเจสสิก้าและมองเห็นความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้ามีรอยยิ้มพอใจนั่น
“คงงั้นมั้ง ฉันคิดว่าเราได้ผลประโยชน์ร่วมกันถ้าแกยอมร่วมมือกับฉัน”
“อย่าให้มันออกนอกหน้านัก ดูก็รู้ว่าดาเนียลกำลังหลงแม่นั่น ขืนพวกแกทำอะไรให้ดาเนียลไม่พอใจ เรื่องมันจะจัดการยากไปกันใหญ่ แกสองคนเข้าใจที่พ่อพูดใช่ไหม”
เกอร์ดอนที่ได้ฟังลูกสาวลูกชายคุยกันเอ่ยเตือนเสียงเรียบ ด้วยเพราะสายตามากประสบการณ์ดูออกว่าดาเนียลรู้สึกอย่างไรกับบอดี้การ์ดสาวสวยคนนั้น และเกอร์ดอนยังรู้อีกด้วยว่าลูกชายของเพื่อนสนิทมีนิสัยไม่ต่างกับเพื่อนรักของเขาอย่างเดย์มอนด์ที่หวงแหนชลิตาสตรีผู้เป็นที่รักมากยิ่งกว่าสิ่งใด หากใครคิดร้ายหรือแตะต้องให้ภรรยาต้องเจ็บช้ำน้ำใจแม้เพียงเล็กน้อย เดย์มอนด์ไม่เคยปล่อยมันผู้นั้นให้อยู่เป็นสุขเลยสักคน
เกอร์ดอนจึงจำเป็นต้องเตือนสติลูกๆทั้งสองเอาไว้บ้างให้ระมัดระวังหากคิดจะทำอะไร เพราะหากพลาดพลั้ง แน่นอนว่าความหวังที่เขาจะได้ดาเนียลมาเป็นลูกเขยนั้นคงยากเต็มที แต่ถ้าฟังดูดีๆจะรู้ว่าชายหนุ่มวัยหกสิบปีนั้นไม่ได้เอ่ยปากห้ามเลยสักคำ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ