พ่ายรักพรางหัวใจ

8.8

เขียนโดย Phaky

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.

  33 ตอน
  4 วิจารณ์
  33.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) เปิดตัว & นางมาร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    ซีรีส์ชุด 'พ่ายรักยอดดวงใจ' โดย 'พิจักขณา' มีทั้งหมด 3 เรื่องค่ะ

 

1.พ่ายรักกลลวงใจ ราคา 279 บาท จำนวน 312 หน้า

 

2.พ่ายพยศรัก ราคา 319 บาท จำนวน 360 หน้า

 

3.พ่ายรักพรางหัวใจ ราคา 389 บาท จำนวน 504 หน้า

 

แต่หากซื้อยกชุด  ราคาสมาชิกเพียงชุดละ 839 บาทเท่านั้น!

 

สั่งซื้อได้แล้วที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ

 

https://www.lightoflovebooknovel.com/showbook.php?bid=2597 

 

หรือตามหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ดบุ๊ค B2S

 

*************************************************************************************

แสงแฟลชวูบวาบที่กระทบจอประสาทสายตาจนทำให้รู้สึกพร่ามัวกอปรกับเสียงกดชัตเตอร์รัวๆจากกล้องถ่ายภาพหลายสิบตัวของกองทัพนักข่าวเกือบครึ่งร้อยชีวิตที่มารอทำข่าวอยู่ทางเข้างานเลี้ยงต้อนรับผู้นำประเทศคนใหม่ทำให้ร่างบางสะโอดสะองของเอริสาที่ก้าวขาออกมาจากลีมูซีนคันหรูนั้นชะงักค้างไม่กล้าก้าวเดินไปตามเส้นทางที่มีพรมหนาสีแดงเลือดนกปูรออยู่ ด้วยเพราะไม่ทราบล่วงหน้าว่างานเลี้ยงที่ดาเนียลพามาร่วมงานด้วยนั้นเป็นงานอะไรและจะยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหน เอริสาจึงไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับบรรดานักข่าวที่พากันหันกล้องมาเก็บภาพยามเมื่อคนเหล่านั้นเห็นว่าชายหนุ่มรูปร่างสูงโดดเด่นที่ก้าวขายาวๆลงมาคือดาเนียล กริมเมอร์

และเอริสาคือคู่ควงที่ดาเนียลมอบความเป็นสุภาพบุรุษให้ด้วยการยื่นมือมารับตอนหญิงสาวก้าวออกมาจากรถคันงามด้วยท่าทีทะนุถนอมยิ่งกว่าการออกงานครั้งไหนๆ จึงทำให้เอริสาตกเป็นที่จับตามองหลีกหนีความอยากรู้อยากเห็นของนักข่าวพวกนั้นไม่ได้ สายตาทุกคู่รวมทั้งกล้องทุกตัวจึงพร้อมใจกันหันมาทางหญิงสาวกับดาเนียลเป็นตาเดียวอย่างไม่ต้องนัดหมาย คนที่ไม่เคยตกเป็นเป้าสายตาจึงรู้สึกตระหนกและประหม่าทำตัวไม่ถูก โชคดีที่ยังมีมืออุ่นหนากุมมือของเธอเอาไว้และยังบีบกระชับเบาๆเหมือนต้องการกระตุ้นเตือนว่าเธอยังมีเขาอยู่ข้างๆ จึงทำให้เอริสาที่ยืนตัวแข็งเกร็งค่อยๆผ่อนคลายแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดยาวๆเพื่อเรียกสติและความมั่นใจกลับคืนมา

“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่กับเธอตรงนี้”

“ขอบคุณค่ะคุณชาย”

น้ำหนักมือที่บีบกระชับหนักๆช่วยเรียกความมั่นใจของเอริสาที่หดหายจากสถานการณ์ไม่คุ้นเคยให้กลับมาได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่าว่าฝ่ามือหนาของดาเนียลนั้นนอกจากต้องการเตือนว่าเธอมีเขาอยู่เคียงข้าง แล้วเขายังส่งมอบกำลังใจอบอุ่นมาให้เธออีกด้วย ซึ่งมันทำให้ความตระหนกตกใจของเธอลดลงไปอย่างรวดเร็ว

“กอดแขนฉันเอาไว้ นึกถึงแต่ฉันคนเดียว ไม่ต้องสนใจคนพวกนั้น”

ดาเนียลเอ่ยบอกเสียงนุ่ม พลางปล่อยฝ่ามือจากมือบางนุ่มนิ่มแล้วเปลี่ยนมางอแขนเพื่อให้เอริสาสอดแขนเรียวสวยเข้ามาหา เขารู้ดีว่าหญิงสาวกำลังประหม่ากับสายตากระเหี้ยนกระหืออยากรู้อยากเห็นของบรรดานักข่าวที่หันหน้าพูดคุยกันเสียงดังเซ็งแซ่ว่าสาวสวยที่ได้รับเกียรติให้เป็นคู่ควงของเขาในค่ำคืนนี้เป็นใครกัน เพราะเอริสามิใช่คนมีชื่อเสียงในวงสังคม สายตาของนักข่าวพวกนั้นจึงยิ่งทวีความสงสัยและรีบกดชัตเตอร์รัวเร็วจนนิ้วแทบหักเพื่อเก็บภาพของหญิงสาวให้ได้มากที่สุดเพื่อนำไปเขียนข่าว

“ไม่ทราบว่าสาวสวยที่คุณดาเนียลพามาร่วมงานคืนนี้คือใครเหรอครับ”

นักข่าวหนุ่มคนหนึ่งเป็นผู้กล้าเอ่ยปากถามออกมาเสียงดังเมื่อเจ้าพ่อวงการอสังหาฯสุดหล่อควงคู่สาวงามเดินเข้ามาใกล้ประตูหน้างานซึ่งเป็นจุดที่แขกที่ได้รับเชิญจะต้องมาหยุดยืนให้นักข่าวถ่ายภาพพอเป็นพิธีตรงแบ็คดรอปที่ฝ่ายเตรียมงานจัดเตรียมไว้ให้ เนื่องจากนักข่าวจากสำนักต่างๆพวกนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเก็บภาพภายในงาน

“ใช่ค่ะๆ เธอเป็นนางแบบหรือว่าเป็นดาราหน้าใหม่หรือเปล่าคะ”

“เธอเป็นนักธุรกิจหรือเปล่าคะ แล้วคุณดาเนียลเจอกับเธอได้ยังไงคะ กำลังคบกันอยู่หรือเปล่า”

“ขอทราบชื่อของเธอได้ไหมคะ”

และอีกสารพันคำถามที่นักข่าวเหล่านั้นตะโกนถามออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบจากคนถูกถามเช่นเคย เพราะดาเนียลนั้นทำเพียงดึงร่างเพรียวระหงของเอริสาเข้ามายืนแนบชิดแล้วโอบเอวคอดบางของหญิงสาวเอาไว้ให้นักข่าวได้เก็บภาพประมาณครึ่งนาที จากนั้นเจ้าพ่ออสังหาฯคนดังก็โอบเจ้าของเอวบางพาเดินเข้าไปในงานเลี้ยงไม่สนใจเสียงตะโกนถามระงมด้วยความหงุดหงิดจากนักข่าวที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากชายหนุ่มเลยสักนิด

นอกจากเสียงร้องถามเซ็งแซ่นั้น เอริสายังได้ยินเสียงบ่นงึมงำเบาๆของนักข่าวเกี่ยวกับความหยิ่งจองหองของนายใหญ่ตระกูลกริมเมอร์ อีกทั้งเสียงพูดคุยกันด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนกันแน่ ทำไมดาเนียลจึงเลือกเธอเป็นคู่ควงในงานสำคัญแบบนี้ และที่สะดุดหูเธอที่สุดคงเป็นชื่อของเจสสิก้า แอมบริธิโอ ที่นักข่าวพากันสงสัยว่าทำไมดาเนียลจึงกล้าควงผู้หญิงคนอื่นมาทั้งที่น่าจะรู้ว่าว่าที่คู่หมั้นของตัวเองก็อยู่ในงาน บ้างก็เปรียบเทียบว่าระหว่างเธอกับเจสสิก้าใครสวยกว่ากัน และอีกหลายหลากข้อสงสัยมากมายที่บรรดานักข่าวยังคงพูดกันสนุกปาก

‘บางทีการไม่รู้ก็ทำให้เราไม่ต้องเจ็บปวด’

มาถึงตอนนี้เธอเองก็เกิดความสงสัยไม่ต่างจากพวกนักข่าวว่าเพราะเหตุใดดาเนียลจึงพาเธอมางานคืนนี้ด้วย แต่ก็ได้แค่ปิดปากเงียบไม่กล้าถามออกไป เพราะกลัวจะถูกชายหนุ่มเกรี้ยวกราดใส่หากเผลอไปยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินความจำเป็น ถึงแม้ว่าในระยะหลังๆมานี้ชายหนุ่มจะค่อนข้างใจดีกับเธอมากกว่าปกติก็ตาม อีกทั้งยังหวั่นเกรงว่าคำตอบของเขาจะทำให้หัวใจที่กำลังพองฟูด้วยความสุขของเธอนั้นกลับมาเหี่ยวเฉาเหมือนเดิม

“ดาเนียล ทางนี้ค่ะ”

เพียงก้าวเท้าเข้ามายังห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่ตอนนี้คราคร่ำไปด้วยแขกเหรื่อมากมายของโรงแรมชื่อดังกลางใจเมืองลอสแองเจลิสที่มีนักการเมืองรุ่นใหญ่ในสภาเป็นเจ้าของ เอริสาก็ต้องเงยหน้าดึงสติออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองเมื่อได้ยินน้ำเสียงหวานๆเรียกชื่อของดาเนียลด้วยความสนิทสนม และเจ้าของเสียงนั้นก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เธอคือไฮโซสาวสวยคนดังลูกสาวเจ้าของบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างครบวงจรยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของอเมริกาและยังเป็นบริษัทคู่ค้ารายสำคัญของกริมเมอร์แอสเสท เจสสิก้า แอมบริธิโอ นั่นเอง

“นึกว่าคุณจะไม่มาซะแล้ว ทำไมวันนี้มาช้าจังล่ะคะ ปกติคุณจะมาถึงก่อนงานเริ่มไม่ใช่เหรอ”

เจ้าของน้ำเสียงหวานใสผู้มีใบหน้าสวยหมดจดแต่งกายด้วยชุดเดรสเข้ารูปสีแดงเพลิงยาวคลุมข้อเท้าอวดรูปร่างอรชรเอ่ยถามอย่างมีแง่งอนพลางสวมกอดแขนอีกข้างของดาเนียลแนบชิดอย่างสนิทสนม แม้จะเห็นอยู่เต็มตาว่าดาเนียลมิได้มาเพียงลำพัง แต่หญิงสาวชุดสีแดงเพลิงหาได้สนใจ ในตอนแรกไฮโซสาวสวยชะงักไปนิดเมื่อเห็นเต็มตาว่าชายหนุ่มที่เธอชะเง้อคอรอคอยนั้นมีหญิงสาวรูปร่างหน้าดีเคียงข้าง แต่เธอก็เลือกจะทำเมินเหมือนไม่เห็นสตรีที่ชายหนุ่มควงมาเพราะคิดว่าผู้หญิงพวกนี้ก็คงไม่พ้นดารานางแบบที่ดาเนียลเอาไว้สนองอารมณ์บนเตียงชั่วคราวเท่านั้น และถึงแม้จะทำเป็นเหมือนหญิงสาวหุ่นนางแบบไม่มีตัวตนในสายตา แต่ในใจกลับรู้สึกคลับคล้ายคลับคาผู้หญิงหุ่นสูงเพรียวใบหน้าสวยเฉี่ยวดูเซ็กซี่คนนี้อยู่ไม่น้อย พยายามนึกแต่ก็ยังนึกไม่ออก

“มาถึงนานแล้วเหรอเจสซี่”

ดาเนียลเลือกที่จะถามกลับแทนการตอบคำถามของเจสสิก้า เขาไม่อยากโกหก พอๆกับไม่อยากพูดความจริงว่าจริงๆแล้วเขาแทบจะเปลี่ยนใจไม่มาร่วมงานเลี้ยงนี่แล้วด้วยซ้ำ เพระเขากำลังมีความสุขล้นปรี่กับการมีร่างบางของเอริสาอยู่บนตัก แถมเจ้าของร่างเพรียวนั้นยังขยันซุกซบร่างกายเข้าหาอย่างช่างอ้อนเอาใจผิดปกติ แต่เป็นความผิดปกติที่เขาอยากให้เกิดขึ้นอีกบ่อยๆ เพราะเขาชอบมันมาก มากจนเขาเผลอสั่งให้ลูกน้องหมุนพวงมาลัยกลับไปยังคฤหาสน์กริมเมอร์เหมือนคนละเมอ ดีที่แอสตันเตือนสติว่างานนี้เป็นงานสำคัญที่นอกจากเขาจะได้รับคำเชิญจากท่านผู้นำประเทศคนใหม่ด้วยตัวเองแล้ว ที่งานนี้ยังมีแขกเหรื่อและเจ้าของธุรกิจอีกมากมายมารวมตัวกัน ซึ่งนักธุรกิจอย่างเขาควรเข้ามาทำความรู้จักและผูกมิตรเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ของกิจการที่อาจได้รับในวันข้างหน้า

“นานมากกกกกกกกก ยืนรอจนขาแข็งไปหมดแล้วเนี่ย”

เจสสิก้าลากเสียงยาวบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวนั้นยืนรอดาเนียลนานมากเพียงใด

“แต่ฉันก็ยินดีจะรอ เพราะฉันอยากเจอคุณ”

เจสสิก้าเอ่ยบอกเสียงหวานแล้วกอดรัดท่อนแขนของชายหนุ่มแน่นขึ้นอีกระดับพลางส่งยิ้มสื่อความหมายใส่ดวงตาเรียบเฉยของดาเนียลอย่างจงใจ นอกจากวันนี้จะยืนรอเขามาเกือบชั่วโมงด้วยใจจดจ่อ เธอยังต้องการย้ำเตือนให้ดาเนียลรับรู้ว่าตอนนี้เธอก็ยังรอเขาอยู่เหมือนเดิม รอให้เขามองเห็นคุณค่าความรักซื่อสัตย์ที่เธอมีให้เขามาตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา

‘ผู้หญิงคนนี้คือตัวจริง’

ภาพสองหนุ่มสาวที่มองสบตาเนิ่นนานกันทำให้เอริสาที่ยืนไร้ตัวตนรู้สึกยอกแสยงในอก ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายเจ็บแปลบเหมือนถูกกรีดด้วยเศษแก้วเมื่อหัวใจถูกสมองดึงให้กลับมาอยู่ในโลกความเป็นจริงอีกครั้งและย้ำเตือนว่าผู้หญิงที่ดาเนียลเลือกให้ยืนอยู่เคียงข้างคือสาวสวยไฮโซที่เติบโตมาพร้อมกับเขาคนนี้ ส่วนเธอก็แค่นักโทษที่ดาเนียลมอบเศษน้ำใจให้ด้วยความสมเพชเท่านั้นหาใช่ความพิศวาส เธอไม่ควรคิดเข้าข้างตัวเองว่าที่ชายหนุ่มโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนทุกค่ำคืนเพราะเขามีใจให้

“ลุงเกอร์ดอนล่ะ ไม่มาด้วยหรือไง”

แม้จะเข้าใจความหมายจากคำพูดและแววตาหวานเชื่อมที่ต้องการสื่อสาร แต่ดาเนียลก็เลือกที่รับฟังเพียงผ่านหูแล้วเปลี่ยนหัวเรื่องสนทนาเพื่อเป็นการปฏิเสธทางอ้อมไปถามถึงบุคคลที่ไม่น่าจะพลาดงานใหญ่ระดับนี้อย่าง เกอร์ดอน แอมบริธิโอ หนุ่มใหญ่ผู้กุมบังเหียนบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างครบวงจรขนาดใหญ่ผู้ครองตลาดหลักมาเป็นเวลาช้านานและเกอร์ดอนยังเป็นเพื่อนสนิทที่รักใคร่กลมเกลียวของบิดาเขาที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน แทนที่การพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจสสิก้าที่เขารู้ดีว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนไปเป็นอะไรที่มากกว่านั้นได้

“งานใหญ่ขนาดนี้คุณพ่อไม่มีทางพลาดหรอกค่ะ อยู่ข้างในโน่นแน่ะ เมื่อสักครู่เห็นคุยอยู่กับท่านผู้พิพากษา ฉันว่าเราเข้าไปหาคุณพ่อกันเลยดีกว่า ท่านถามหาคุณตั้งแต่ตอนมาถึงงานแล้ว บ่นๆว่าคิดถึงไม่ได้เจอกันนาน ดูสิ! คุณพ่อของฉันแต่กลับบอกว่าคิดถึงคุณ ทำอย่างกับคุณเป็น ‘ลูกชายของท่าน’ อย่างนั้นแหละ”

เจสสิก้ายังคงพูดอ่อยต่อไปไม่อายปากด้วยการเน้นย้ำคำว่า ‘ลูกชายของท่าน’อย่างมีจริตจะก้าน ถึงดาเนียลจะทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่เธอต้องการสื่อ แต่ยังไงซะสุดท้ายเขากับเธอก็ต้องลงเลยกันอยู่ดี เพราะพ่อของชายหนุ่มกับพ่อของเธอนั้นเป็นเพื่อนรักกันมาก คุณพ่อทั้งสองจึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้เธอกับดาเนียลแต่งงานรวมเป็นทองแผ่นเดียวกัน จะได้ช่วยกันดูแลกิจการที่ทั้งสองบุกเบิกมาด้วยกันต่อไป

“ไปสิ ผมเองก็ยุ่งๆไม่ได้เข้าไปเยี่ยมคุณลุงเลย อลิส เข้าไปด้วยกัน”

ดาเนียลตอบรับคำชวนของเจสสิก้าแต่ยังรั้งรอไม่ยอมก้าวเดินไปตามแรงจูงของไฮโซสาว ชายหนุ่มหันไปพูดกับสตรีอีกคนข้างกายที่หายไปจากบทสนทนาด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มเอาใจแล้วจับมือบางที่หลุดจากการเกาะเกี่ยวแขนของเขาเข้ามากุมเอาไว้แน่นไม่ยอมให้เอริสาห่างกาย จนทำให้ดวงตาของเจสสิก้าลุกวาวกับท่าทีอ่อนโยนที่ดาเนียลมอบให้ผู้หญิงหน้าเฉี่ยวคนนั้น เพราะตั้งแต่เล็กแต่น้อยที่รู้จักกันมาเธอไม่เคยเห็นเขาอ่อนโยนกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากมารดากับน้องสาว แล้วนังผู้หญิงคนนี้มันเป็นใคร วิเศษมาจากไหนถึงได้รับอภิสิทธิ์นั้น พลันชื่อที่หลุดจากริมฝีปากสีชมพูเข้มก็ทำให้หัวคิ้วที่แต่งแต้มสีน้ำตาลอ่อนของสาวไฮโซขมวดมุ่น และข้อสงสัยที่ติดอยู่ในใจก็หมดไป เมื่อตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงรู้สึกคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้นัก ที่แท้ก็...

“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เธอนั่นเอง พอแต่งหน้าแต่งตัวแล้วจำแทบไม่ได้เลยนะ อลิส”

เจสสิก้าจำต้องเอ่ยปากทักทายเมื่อแท้จริงแล้วผู้หญิงที่ดาเนียลควงมาด้วยไม่ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นคนใกล้ตัวชนิดที่เธอคาดไม่ถึงเชียวล่ะ ไม่นึกมาก่อนว่าผู้หญิงสวยสง่าที่ดาเนียลควงมาด้วยคือคนเดียวกับผู้หญิงที่เธอไม่ค่อยถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น จริงๆเธอก็ไม่ถูกชะตาทั้งเจ้านายกับลูกน้องนั่นแหละ กับดาร์เลเน่เธอก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไร เพราะดูก็รู้ว่าเด็กนั่นไม่อยากได้เธอเป็นพี่สะใภ้ ส่วนบอดี้การ์ดสาวคนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เธอรู้สึกทั้งริษยาและหมั่นไส้กับรูปร่างสูงเพรียวระหงแต่ไม่ผอมแห้งของเอริสาที่มันมีส่วนเว้าส่วนโค้งอ่อนช้อยสวยงามอย่างที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันอยากจะมีและผู้ชายร้อยทั้งร้อยชื่นชอบ อีกทั้งใบหน้าของเจ้าหล่อนยังโดดเด่นสะดุดสายตาแม้บนใบหน้าไร้เครื่องสำอางเคลือบทาเอาไว้ ทุกอย่างที่รวมเป็นผู้หญิงคนนี้ดูเหมาะเจาะงดงามจนน่าอิจฉา

“ร้อนเงินเหรอจ๊ะ?”

ได้ยินแบบนั้นเอริสาจึงเงยหน้าขึ้นมองคนถามอย่างไม่เข้าใจ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ดวงตาคู่คมที่ถูกตกแต่งด้วยสีน้ำตาลเข้มจึงมองลึกไปยังใบหน้าที่กำลังยิ้มเยาะมุมปากคล้ายกำลังดูแคลนแล้วยักไหล่ด้วยท่าทางไม่ยี่หระนั่นเพื่อค้นหาคำตอบ

“ก็...เห็นรับจ็อบเพิ่ม กลางวันเป็นบอดี้การ์ดให้น้องสาว พอตกกลางคืนแต่งตัวแต่งหน้าเป็นคู่…‘ควง’ ของพี่ชาย ฉันก็เลยคิดว่าเธอน่าจะกำลังร้อนเงิน”

“เจสสิก้า!”

น้ำเสียงที่ใช้เรียกชื่อของเจสสิก้านั้นไม่เบาเลย มันทั้งห้วนและเต็มไปด้วยความไม่พอใจชัดเจนที่ได้ยินหญิงสาวพูดจาดูหมิ่นเอริสาอย่างน่าเกลียด หากเป็นคนอื่นที่ไม่สนิทสนมพูดดูถูกผู้หญิงของเขาแบบนี้รับรองว่าคนๆนั้นคงถูกลงโทษสถานหนัก แต่นี่คือคนกันเองที่มีความผูกพันคล้ายญาติพี่น้องดาเนียลจึงได้แต่เอ่ยปรามเสียงขรึมพร้อมดวงตาดุกร้าวที่มองไปยังเจสสิก้าเป็นสัญญาณเตือนว่าอย่าพูดอย่างนี้ออกมาอีกเป็นอันขาด!

“แหม ไม่เห็นต้องดุเลย ฉันแซ็วเล่นน่ะค่ะ แล้วนี่คุณนึกยังไงเหรอคะถึงได้ควงบอดี้การ์ดของน้องสาวมาออกงานใหญ่ระดับนี้ ไม่กลัวว่าจะขายขี้หน้าเหรอถ้าใครๆรู้เข้าว่าผู้หญิงที่คุณควงมาด้วยก็แค่ลูกน้องในบ้าน ไม่ใช่ดารานางแบบดังๆเหมือนเมื่อก่อน มาตรฐานต่ำลงหรือว่าวันนี้คู่ขาในสต็อกของคุณไม่ว่างคะเลยต้องควงแม่นี่มาขัดตาทัพ ถ้าเป็นอย่างนั้นวันหลังบอกฉันก็ได้นะ ฉันพร้อมสำหรับคุณทุกเวลา”

เจสสิก้ายังลอยหน้าลอยตาพูดเย้ยหยันไม่สะทกสะท้านเพราะรู้ดีว่าอย่างไรซะดาเนียลก็จะไม่มีวันทำร้ายเธอด้วยเรื่องแค่นี้ ส่วนคนถูกดูแคลนนั้นบดริมฝีปากเข้าหากันแน่น คำว่า ‘บอดี้การ์ด’ ถูกเน้นเสียงหนักๆคล้ายคนพูดต้องการย้ำเตือนให้คนต่ำต้อยรู้สถานะที่แท้จริงของตัวเอง เพียงแค่ถูกตราหน้าว่า ‘ร้อนเงิน’ ถึงขนาดต้องเอาตัวเข้าแลกก็ทำให้รู้สึกหน้าชาราวกับถูกฝ่ามือหนาๆตบเข้าที่ใบหน้าอย่างรุนแรงซ้ำๆหลายครั้ง แต่นี่เธอยังถูกย้ำเตือนให้รู้ว่าตัวเองมีสถานะแค่ลูกจ้างธรรมดาๆคนหนึ่งที่ไม่คู่ควรเลยสักนิดที่จะให้ดาเนียลพาเข้ามาปะปนอยู่ในสังคมระดับสูงของเขาให้แปดเปื้อน เอริสาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนั้นต่ำต้อยราวหนูสกปรกที่อยู่ตามกองขยะเน่าเหม็นที่จับพลัดจับผลูได้เข้ามาอยู่ในประสาทของพระราชาสูงศักดิ์

“เจสซี่ อย่าให้ผมต้องเตือนเป็นรอบที่สอง!”

คราวนี้น้ำเสียงคนเตือนนั้นห้วนดุกว่าครั้งแรกมากมายบอกให้รู้ว่าเขาไม่พอใจกับการกระทำของเจสสิก้าเป็นที่สุด เพราะคำพูดดูถูกดูแคลนนั้นทำให้มือบางที่เคยอุ่นของเอริสาเยียบเย็นจนน่าใจหาย ขณะที่เจสสิก้านั้นต้องหุบปากฉับไม่กล้าเอ่ยถ้อยคำกระทบกระเทียบแดกดันบอดี้การ์ดสาวออกมาอีกเพราะรับรู้ได้เช่นกันว่าดาเนียลกำลังโกรธจัด แต่ด้วยความที่ไม่อยากเสียหน้า หญิงสาวจึงต้องพยายามทำหน้าระรื่นลอยหน้าลอยตายิ้มยั่วต่อไปเหมือนไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงกับท่าทางหัวเสียของดาเนียลเลยสักนิด

“ก็ได้ค่ะก็ได้ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้ งั้นเราสองคนรีบเข้าไปหาคุณพ่อด้านในกันดีกว่า ป่านนี้คุณพ่อรอแย่แล้ว ไปค่ะ”

สองแขนขาวเรียวของเจสสิก้าออกแรงดึงเบาๆกระตุ้นเตือนให้ดาเนียลเข้าไปข้างในงานพร้อมกับตัวเอง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอริสาจะเข้าใจความหมายจากคำพูดของเธอเป็นอย่างดีว่าเธอต้องการเข้าไปในงานกับดาเนียลเพียง ‘สองคน’ เท่านั้น

“เข้าไปด้วยกัน จุ๊บ! ห้ามดื้อ”

เอริสาเข้าใจความหมายที่คุณหนูตระกูลไฮโซต้องการสื่อว่าเธอเป็นส่วนเกินที่ไม่ควรเสนอหน้าเข้าไปในงาน เธอจึงยืนนิ่งเฉยไม่ขยับตัวตามกะว่าจะกลับไปรออยู่ที่รถ แต่เป็นดาเนียลที่เป็นฝ่ายบีบกระชับมือบางของเธอเข้าหาฝ่ามืออุ่นหนาแล้วกระตุกเบาๆ ก่อนเอ่ยสั่งเสียงนุ่มให้เธอตามเขาเข้าไป พอเธอเงยหน้าขึ้นตั้งใจจะคัดค้าน ดาเนียลก็ก้มหน้าลงมาหาแล้วฉกริมฝีปากร้อนทาบทับเรียวปากของเธอเบาๆเพื่อปิดกั้นถ้อยคำที่เขาไม่ประสงค์จะฟัง จนใบหน้าที่ตกแต่งงดงามนั้นแดงปลั่งด้วยความขัดเขินที่ดาเนียลถึงเนื้อถึงตัวในที่สาธารณะ

เกลียด!

เจสสิก้าที่เห็นภาพบาดหัวใจในระยะใกล้ชิดแทบควบคุมความโมโหเอาไว้ไม่อยู่ สองมือกำเข้าหากันแน่นอย่างพยายามข่มอารมณ์ให้ได้มากที่สุด ดาเนียลกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าเธอได้อย่างไร นี่ชายหนุ่มไม่คิดไว้หน้าเธอบ้างเลยหรือ ความผิดหวังที่ดาเนียลปฏิเสธเธอครั้งแล้วครั้งเล่ากลับมาตอกย้ำหัวใจไม่ต่ำกว่าครั้งที่ร้อยนั้นรวดร้าวและเกรี้ยวกราดปะปนกันให้วุ่น ตอนนี้เจสสิก้าคิดเพียงอย่างเดียวคืออยากทำลายล้างบุคคลที่กล้าทำให้เธอต้องเสียใจให้ย่อยยับพังพินาศ แต่ในเมื่อเป็นดาเนียลที่ทำให้เธอต้องขุ่นเคือง เธอไม่สามารถโยนความผิดให้เขาซึ่งเป็นที่เธอรักรับผิดชอบได้ เธอจึงขอถ่ายเทความผิดนี้ให้…นังอลิส มันจะต้องเป็นคนชดใช้ที่วันนี้ทำให้เธอต้องเจ็บใจและเสียหน้า

เมื่อดาเนียลยังคงยืนยันด้วยคำพูดและการกระทำว่าต้องการให้เอริสาเข้าไปในงานกับเขา ทั้งสามคนจึงเดินเข้าไปในห้องบอลรูมกว้างขวางซึ่งถูกจัดไว้เป็นห้องจัดงานงานเลี้ยงแสดงความยินดีต้อนรับท่านผู้นำคนใหม่อย่างไม่อาจเลี่ยง ภายในงานเต็มไปด้วยเหล่าคนมียศมีศักดิ์และนักธุรกิจระดับแนวหน้ามารวมตัวกัน โดยที่เจสสิก้านั้นเลือกที่จะเดินนำหน้าไปห่างๆทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้มาพร้อมกับดาเนียล นั่นก็เพราะดาเนียลเล่นจับจูงมือของบอดี้การ์ดสาวไว้ไม่ยอมปล่อย หากเธอยังกล้ากอดแขนเขาก็จะกลายเป็นภาพที่ชวนให้แขกในงานพากันนินทาสนุกปาก สู้อดทนรอให้ถึงวันที่เธอได้เป็นเจ้าสาวของดาเนียลซะก่อนเถอะ ถึงวันนั้นเธอจะปัดกวาดพวกผู้หญิงไร้ค่าพวกนี้ไมให้เข้าใกล้ดาเนียลได้สักคน

‘โดยเฉพาะแกนังอลิส แกจะเป็นคนแรกที่ถูกฉันเฉดหัวออกไป อีนางบำเรอ อีตัวมาร!’

***********************************************************************************

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา