พ่ายรักพรางหัวใจ

8.8

เขียนโดย Phaky

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.

  33 ตอน
  4 วิจารณ์
  33.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) แม่ครัวคนใหม่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 

 เป็นวันแรกในรอบกี่ปีก็จำไม่ได้ที่ดาเนียลกลับมาถึงบ้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ทันตกดินจนอาเธอร์ที่กำลังเดินออกกำลังกายอยู่ในสวนสวยใกล้ๆกับบันไดหน้าคฤหาสน์ต้องขยับขาแว่นเขม่นตามองว่าดวงตาของเธอนั้นฝ้าฝาดไปหรือเปล่า แล้วก็ยิ้มน้อยๆอย่างพอจะเข้าใจสาเหตุเมื่อเห็นคุณชายหนุ่มหล่อนั้นก้าวยาวๆมาหาตัวเอง

“อลิสล่ะ”


“อยู่ในครัวค่ะ”


“ทำอาหาร?” คุณชายใหญ่ขมวดคิ้วถามอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะหากเอริสากำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว หัวหน้าแม่บ้านก็ควรอยู่คอยดูแลหญิงสาวตามที่เขาสั่งไว้ไม่ใช่หรือ หากเมียเขาเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ


“เปล่าหรอกค่ะ คุณผู้หญิงทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เธอกำลังเช็คของในครัวที่จะทำอาหารในวันพรุ่งนี้ ถ้าขาดเหลืออะไรจะได้ให้เด็กไปซื้อมาน่ะค่ะ”


“อืม งั้นเหรอ งั้นป้าออกกำลังกายต่อเถอะ”


พูดแค่นั้นดาเนียลก็เดินย้อนกลับเข้าไปในตัวคฤหาสน์อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งสั่งลูกน้องให้แยกย้ายกันไปพักผ่อนไม่ต้องตามเขาเข้าไป ซึ่งไม่ต้องบอกทุกคนก็เดาได้ว่าคุณชายใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปที่ใด

“ทำอะไรอยู่”


“อุ๊ย!”


เสียงทุ้มที่เอ่ยถามอยู่ข้างหูยังไม่ทำให้คนที่กำลังเพลินอยู่กับการจดจำกระปุกเครื่องปรุงนานาชนิดในห้องครัวนั้นตกใจได้เท่ากับท่อนแขนล่ำสันทั้งสองข้างที่สอดเข้ากอดเอวบางของเธออย่างสนิทสนมพร้อมทั้งร่างกายหนาแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่แนบชิดอยู่กับแผ่นหลังบอบบาง ไม่ต้องบอกไม่ต้องหันไปมองก็รู้ดีว่าเจ้าของการกระทำอุกอาจนี้คือใคร ก็คนเดียวกับคนที่เธอตั้งใจเตรียมอาหารให้เขารับประทานนั่นแหละ

ฟอด!


“อุ๊ย!”


และก็เป็นอีกครั้งที่เอริสาต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆแก้มเนียนถูกขโมยหอมหนักๆดังฟอดใหญ่ มือบางยกขึ้นกุมแก้มข้างที่ถูกรังแกโดยอัตโนมัติพร้อมทั้งเบี่ยงหน้าแดงๆกลับไปมองชายหนุ่มตาโต จนคนฉวยโอกาสนั้นรู้สึกมันเขี้ยวอยากจับเจ้าของแก้มแดงๆมาฟัดหนักๆให้หนำใจอีกหลายๆครั้ง


“ไม่ต้องมามอง ถามแล้วไม่ยอมตอบ ดื้อดีนัก ต้องถูกทำโทษ”


นอกจากจะไม่สะทกสะท้านกับสายตาตื่นตระหนกปะปนมึนงงของเอริสา ดาเนียลยังถือโอกาสโยนความผิดให้หญิงสาวรับไว้หน้าตาเฉย ใบหน้าคมคายที่วางเกยอยู่กับไหล่บางจึงเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างต้องการกล่าวหา

“แล้วตกลงว่าทำอะไรอยู่”


“กำลังดูว่าเครื่องปรุงแต่ละกระปุกมันคืออะไรบ้างค่ะ”


คราวนี้ไม่ปล่อยให้คำถามของดาเนียลนั้นไร้ความหมาย เมื่อชายหนุ่มเอ่ยปากถามอีกครั้ง เอริสาก็รีบตอบออกมาราวกับกลัวว่าหากปล่อยให้ความเงียบคลอบคลุมสักวินาทีแล้วจะทำให้เธอถูกลงโทษซ้ำอีกรอบ

“จำได้หรือยังล่ะ”


“พอจำได้บ้างแล้วค่ะ แต่ก็ยังมีอีกหลายกระปุกที่จำไม่ได้ คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันหรือไม่ก็หยิบใช้บ่อยๆให้คุ้นมืออย่างที่คุณป้าอาเธอร์สอน ถึงจะจำได้แม่นยำกว่านี้ค่ะ”


“อืม งั้นก็รีบจำให้ได้ทั้งหมด วันไหนว่างๆฉันจะเรียกมาทดสอบ”


เอริสาทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยกับคำพูดนั้น อีกอย่างเมื่อครู่ถ้าสายตาของเธอไม่ฝาด เธอคิดว่าเธอเห็นแววตาเป็นประกายพึงพอใจของชายหนุ่มยามที่เธอบอกว่าคงต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะจำกระปุกโหลแก้วบรรจุเครื่องปรุงกับเครื่องเทศนานาชนิดเกือบห้าสิบใบที่วางเรียงรายอยู่ในตู้เก็บวัตถุดิบข้างผนังห้องครัวได้ แต่เพียงแวบเดียวสายตาคมคู่นั้นก็กลับมาเรียบเฉยเหมือนเคย อีกทั้งเธอยังหาเหตุผลไม่ได้เลยว่าทำไมดาเนียลถึงให้ความสำคัญกับการจดจำกระปุกเครื่องปรุงพวกนี้นัก

“แล้ววันนี้ทำอาหารให้ฉันกินหรือเปล่า”


“ทำค่ะ ดิฉันทำเสร็จสักพักแล้ว แต่เป็นอาหารไทยง่ายๆ ไม่แน่ใจว่าคุณชายจะกินได้หรือเปล่า”


“เธอตั้งใจทำให้ฉันกินหรือเปล่าล่ะ”


“ค่ะ ดิฉันตั้งใจทำให้คุณชาย” ตั้งใจสุดความสามารถเพื่อคุณชายคนเดียวเลยค่ะ เอริสาอยากจะบอกคำนี้นักแต่ก็ไม่กล้า


“งั้นฉันก็กินได้”


“จริงนะคะ คุณชายจะลองกินอาหารฝีมือดิฉันจริงๆนะคะ”


เพราะความดีใจมากล้นจึงทำให้เอริสาหมุนตัวหันหลังกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งเขย่ามือของดาเนียลแรงๆอย่างลืมตัว ยอมรับว่าระหว่างที่ทำอาหารเธอแอบกลัวอยู่เหมือนกันว่าอาหารที่เธอลงมือทำครั้งแรกด้วยความตั้งใจจะถูกเททิ้งใส่ถังขยะเพราะคนสั่งให้ทำต้องการแค่แกล้งหางานให้เธอทำไม่ได้ต้องการจะกินมันจริงจัง แต่เมื่อดาเนียลพยักหน้ารับแทนคำตอบ เอริสาที่มักแสดงออกอย่างนิ่งเฉยราวกับร่างกายไร้ต่อมความรู้สึกกลับเผยอยิ้มดีใจ รอยยิ้มนั้นทำให้คนมองหายใจสะดุด ดวงตาพร่ามัวราวกับม่านดวงตาของเขานั้นถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งหนาวเย็น


“ถ้าอย่างนั้นให้ดิฉันจัดโต๊ะเลยนะคะ”


“เอาสิ”


แค่รอยยิ้มเดียวก็ทำเอาดาเนียลที่แสนเย่อหยิ่งศิโรราบหมดท่า จริงๆแล้วชายหนุ่มยังไม่รู้สึกหิวเลยด้วยซ้ำ แต่ที่ยอมพยักหน้าตามใจอย่างง่ายดายราวกับกำลังตกอยู่ในมนต์สะกดนั้นเป็นเพราะกำลังหลงมัวเมากับรอยยิ้มแสนหวานที่เขาเพิ่งได้รับจากเอริสาเป็นครั้งแรก ต่อให้ตอนนี้เอริสาร้องขออะไรที่มีค่ามากมายมหาศาลแค่ไหน เขาเชื่อว่าแค่หญิงสาวส่งยิ้มหวานๆแบบนี้ให้เขาอีกครั้ง เขาคงยอมถวายหัวยกให้ทุกอย่างตามที่อดีตบอดี้การ์ดสาวต้องการไม่มีอิดออด


“เดี๋ยว! มือไปโดนอะไรมา”


ความสุขอยู่กับเขาได้ไม่นานก็มีเรื่องให้ดาเนียลต้องขุ่นข้องใจเสียแล้ว ในขณะที่เจ้าของสองตาคมยืนพิงผนังห้องครัวกอดอกมองเอริสากำลังอุ่นอาหารให้ร้อนเพื่อเตรียมนำไปตั้งโต๊ะเพลินๆ ดาเนียลกลับเห็นว่าที่มือขาวบางข้างขวาของหญิงสาวนั้นมีแผ่นปลาสเตอร์สีเนื้อแปะทับอยู่ ชายหนุ่มจึงไม่รอช้าเดินเข้าไปหาร่างบางที่อยู่หน้าเตาพร้อมทั้งคว้ามือข้างนั้นขึ้นมาตรงหน้า ก่อนเอ่ยถามเสียงห้วนหน้าตาบึ้งตึงไม่พอใจ


“คือ…ดิฉันทำจานแตกค่ะ ตอนหยิบไปทิ้งเศษกระเบื้องเลยบาดมือ”


เอริสาตอบออกไปเสียงเบากลัวถูกตำหนิที่เผลอทำตัวซุ่มซ่าม

“ทำไมไม่ระวัง!”


ดาเนียลตำหนิเสียงเข้มยามมองมือข้างนั้นอีกครั้ง ลำพังแค่เข็มฉีดยาหรือเข็มน้ำเกลือแท่งเล็กจิ๋วทิ่มแทงเข้าไปในผิวเนื้ออ่อนใสเขายังไม่ชอบใจเลย แล้วนี่ไม่รู้เลยว่าผิวเนื้อภายใต้ปลาสเตอร์ปิดแผลแผ่นนั้นจะถูกกรีดลึกให้ได้รับความเจ็บปวดมากมายขนาดไหน แล้วจะให้เขาปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างไร ในขณะที่เอริสาได้แต่ก้มหน้างุดมองพื้นอย่างรู้สึกผิด หญิงสาวคิดว่าที่ดาเนียลไม่พอใจนั้นเป็นเพราะเธอทำข้าวของราคาแพงของเขาพังเสียหาย คนกลัวความผิดจึงได้แต่กล่าวขอโทษเสียงอ่อย

“ดิฉันขอโทษค่ะ ต่อไปจะระวังให้มากกว่านี้”


ใบหน้าคมสวยที่เคยมีรอยยิ้มหวานๆประดับอยู่จืดเจื่อนจนดูน่าสงสาร เห็นอย่างนั้นดาเนียลก็ทำใจแข็งดุต่อไม่ลง ทั้งที่ใจจริงยังมีคำต่อว่าต่อขานอีกมากมายที่อยากเอ่ยออกมาให้คนตัวบางรู้สำนึกซะบ้างว่าผิวกายนวลเนียนของหญิงสาวทั่วทุกตารางนิ้วนั้นเป็นของเขาทั้งหมด เอริสาไม่มีสิทธิ์ทำให้มันได้รับบาดเจ็บเสียหายแม้รอยขีดข่วน แต่เอาเถอะ ครั้งนี้เขาจะใจดียอมให้อภัยไปก่อน แต่ถ้ามีคราวหน้าอีกล่ะก็ เอริสาจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักแน่นอนที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บกับบาดแผลบนเรือนกายของหญิงสาวตามไปด้วย

“เจ็บมากหรือเปล่า แผลใหญ่ไหม ไปให้หมอดูหน่อยดีกว่า แอสตัน เตรียมรถ ฉันจะพาอลิสไปโรงพยาบาล!”


ดาเนียลคว้ามือบางที่มีปลาสเตอร์ปิดแผลขึ้นมาพิจารณาเบาๆด้วยท่าทีทะนุถนอมกลัวจะทำให้บาดแผลของเอริสานั้นกระทบกระเทือนจนเจ็บ พลางตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่ด้านนอกเสียงดังโหวกเหวก ทำราวกับว่าเมียสาวเลือดตกยางออกได้รับบาดเจ็บสาหัส


“ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ แค่รอยบาดนิดเดียวแผลไม่ได้ลึกมาก อีกวันสองวันก็หายไม่ต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ค่ะ”


“ได้ยังไง เกิดแผลติดเชื้อแล้วลามเป็นบาดทะยักจะทำยังไงล่ะ ไม่ได้ๆ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ไปหาหมอกับฉันเดี๋ยวนี้เลย” ท่าทางของดาเนียลร้อนรนอยู่ไม่สุขเหมือนเขาเป็นคนเจ็บเสียเอง


“ดิฉันไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ แค่เศษกระเบื้องบาดเฉี่ยวๆนิดเดียวเอง อีกอย่างป้าอาเธอร์ก็ล้างแผลใส่ยาให้เรียบร้อยแล้วด้วย นะคะคุณชาย ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอกนะคะ”


เอริสาพยายามอ้อนวอนเสียงอ่อยด้วยไม่อยากให้เรื่องมีดบาดนิดเดียวกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนพลอยทำให้คนอื่นๆต้องวุ่นวายตามไปด้วย อีกทั้งเธอคงทำหน้าไม่ถูกอับอายคุณหมอกับพยาบาลแน่ๆหากคนเหล่านั้นได้เห็นบาดแผลเท่ารอยแมวข่วนของเธอ แต่นายใหญ่กริมเมอร์กลับทำเหมือนมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย


“แน่ใจนะว่าแค่นั้น ถ้าฉันรู้ทีหลังว่าเป็นแผลใหญ่แต่ไม่ยอมบอก ฉันเอาเรื่องหนักนะ!”


“แน่ใจค่ะ”


“อืม…ก็ได้ คราวหน้าก็ระวังๆหน่อยแล้วกัน ไปกินข้าวกันเถอะ ที่เหลือให้แม่บ้านมาจัดการ”


ดาเนียลยอมตัดบทไม่เอาเรื่องเพราะไม่อาจทนเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของแม่ครัวฝึกหัดที่เหมือนกำลังรู้สึกผิดมากมาย ก่อนหันไปเรียกแม่ครัวที่อยู่ด้านนอกเข้ามาจัดการเรื่องอาหารแทนเอริสา จากนั้นมือหนาจึงเลื่อนมากุมมือบางข้างที่ไร้บาดแผลแล้วจับจูงพาออกไปข้างนอกด้วยท่าทีถนอมอย่างหนักราวกับเอริสาเป็นคนป่วยอ่อนแรง เป้าหมายอยู่ที่โต๊ะอาหารหรูหราที่ดาเนียลนั้นไม่ค่อยมีเวลามาใช้บริการมันสักเท่าไร

“นั่นซุปอะไร”


คุณชายใหญ่ตระกูลกริมเมอร์ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบเมื่อแม่บ้านลำเลียงอาหารฝีมือแม่ครัวคนใหม่มาวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว อาหารบางอย่างที่ชายหนุ่มไม่คุ้นตาทำให้ดาเนียลอดสงสัยไม่ได้ว่ามันคืออะไรบ้าง


“ต้มจืดรากบัวกระดูกหมูใส่เก๋ากี้ค่ะ”


เอริสาตอบออกไปเสียงเบาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เพียงแค่เริ่มต้นก็ทำให้กลัวเสียแล้วว่าอาหารฝีมือของเธอนั้นจะไม่เป็นที่พอใจสำหรับคุณชายใหญ่ ก็ดาเนียลนั้นเล่นหรี่ตามองถ้วยซุปตรงหน้าซะเหมือนมันคือสิ่งแปลกประหลาดขนาดนั้น คนปรุงจึงรู้สึกหวาดหวั่นจนหัวใจดวงน้อยๆกระหน่ำเต้นรัวแรง

“ไม่เคยกิน” แค่เพียงประโยคสั้นๆก็ทำเอาเอริสาใจแป้วไปเกือบครึ่ง

“แล้วทำไมถึงเลือกทำเมนูนี้ให้ฉันกินล่ะ หืม”


ดาเนียลถามอย่างสงสัยจริงๆ เพราะเท่าที่จำได้ อาเธอร์ไม่เคยทำเมนูนี้ให้เขารับประทานมาก่อน ดาเนียลจึงแปลกใจที่เอริสาเลือกทำอาหารที่หัวหน้าแม่บ้านไม่เคยทำขึ้นโต๊ะ


“คือ เมนูนี้เป็นอาหารบำรุงร่างกายค่ะ แต่ถ้าคุณชายไม่ชอบ…”


“ฉันจะกิน”


ยังไม่ทันที่เอริสาจะพูดจบว่าหากดาเนียลไม่ปลื้มกับรายการอาหารที่เธอทำ ชายหนุ่มจะเลือกไม่รับประทานมันก็ได้ ดาเนียลกลับเอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน และเพียงคำพูดเดียวของเขาก็ทำเอาหัวใจที่เคยหวั่นเกรงคิดมากไปสารพัดของเอริสานั้นกลับมาเต้นแรงด้วยความดีใจจนหัวใจพองโตคับอกอีกครั้ง

“แล้วอีกสองอย่างที่เหลือล่ะ ของบำรุงมีประโยชน์กับร่างกายทั้งนั้นใช่ไหม”


ดาเนียลเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดีที่รู้ที่มาที่ไปของอาหารบนโต๊ะ เพราะมันทำให้เขารู้ว่าอย่างน้อยเอริสาก็ยังมีความใส่ใจแบ่งปันให้เขาบ้าง ไม่ได้สักแต่ว่าทำเพราะคำสั่ง


“ก็…ค่ะ”


“โอเค เข้าใจแล้ว งั้นอันไหนที่มีประโยชน์อยากให้ฉันกิน เธอก็ตักใส่จานให้ฉันแล้วกัน”


“ค่ะคุณชาย”


เพียงเท่านี้ใบหน้าของเอริสาก็กลับมามีรอยยิ้มได้อีกครั้งเมื่อดาเนียลยอมรับประทานอาหารฝีมือของเธอ มือบางจึงตักรากบัวชิ้นโตในถ้วยต้มจืดอุ่นๆใส่จานข้าวของชายหนุ่มอย่างกระตือรือร้น อีกทั้งผัดบร็อคโคลี่สีเขียวสดน่ากินนั่นก็ถูกตักใส่จานของชายหนุ่มตามมาเช่นกัน แม้ไม่มีคำชมว่าอาหารที่เธอทำนั้นรสชาติถูกปากหรือไม่ แต่แค่ชายหนุ่มตักมันเข้าปากคำแล้วคำเล่าทุกครั้งที่เธอตักอาหารใส่จานของเขา แค่นี้ก็ทำให้แม่ครัวฝึกหัดอย่างเธอนั้นเป็นปลื้ม กรามค้างแข็งจนหุบยิ้มแทบไม่ลง

“คุณชายคะ พรุ่งนี้ดิฉันขอทำอาหารให้คุณชายอีกได้หรือเปล่าคะ”


เอริสาทำใจกล้าเอ่ยถามออกไปแล้วกลั้นใจรอฟังคำตอบหลังจากที่นั่งรวบรวมความกล้าในใจอยู่นานเมื่อเห็นว่าดาเนียลนั้นยอมกินอาหารฝีมือของเธอทั้งสามอย่าง เพราะคำพูดของคุณป้าอาเธอร์ตอนอยู่ในห้องครัวนั้นมันทำให้เธอต้องกลับมาคิดทบทวนอยู่หลายรอบ สุดท้ายเธอจึงเลือกที่จะลองทำตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ที่หวังดีกับเธอดูสักครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องถามความสมัครใจของผู้รับเสียก่อนว่าเขาเต็มใจด้วยหรือเปล่า

“เอาสิ แต่อย่าให้มีแผลมาอีกแล้วกัน”


ดาเนียลเงยหน้าขึ้นมองคนเอ่ยขอแล้วยิ้มน้อยๆอย่างอารมณ์ดีส่งให้พร้อมทั้งอนุญาตอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด แต่ประโยคหลังที่ตามมานั้นกลับเป็นดั่งคำประกาศิตให้เอริสาปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วยความเป็นห่วงเมียรัก


“ขอบคุณค่ะคุณชาย ดิฉันจะระวังตัวค่ะ”


จากนั้นมือบางก็ขยันตักอาหารบนโต๊ะให้คุณชายใหญ่เป็นว่าเล่น เรียกว่าดาเนียลนั้นมีหน้าที่แค่เคี้ยวอาหารแล้วกลืนลงท้องเท่านั้น ที่เหลือเป็นเอริสาที่อาสาบริการด้วยความเต็มใจ ส่วนดาเนียลนั้นก็แอบอมยิ้มอยู่ในใจคนเดียวเงียบๆ กับสิ่งที่หญิงสาวเอ่ยขอ เนื่องจากสิ่งที่เขาต้องการนั้นได้ผลเกินคาด เพราะที่เขามีคำสั่งฟ้าผ่าให้เอริสาหัดทำอาหารก็เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหญิงสาว เขากลัวว่าหากอดีตบอดี้การ์ดมีเวลาว่างมากเกินไปแล้วเอริสาจะเข้าไปนอนร้องไห้ในห้องนอนของดาร์เลเน่อีก เขาไม่ต้องการเห็นน้ำตาของเจ้าหล่อน แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะบอกความจริงเรื่องที่ดาร์เลเน่ติดต่อกลับมา การหาอะไรให้หญิงสาวทำให้วุ่นวายๆจนลืมเลือนเรื่องรอบกายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

...........................................................................................................................................................
     
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา