พ่ายรักพรางหัวใจ
8.8
เขียนโดย Phaky
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.
33 ตอน
4 วิจารณ์
33.38K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
11) กระวนกระวาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“คุณชายครับ”
“ถอยหลังไปเดี๋ยวนี้!”
แอสตันกับบอดี้การ์ดคนอื่นๆถึงกับผงะ ถอยหลังแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงตะคอกสั่งห้วนดุของคุณชายใหญ่ตระกูลกริมเมอร์ ไม่รู้ว่าเจ้านายของเขากำลังอารมณ์เสียเรื่องอะไร แต่ทันทีที่ดาเนียลออกมาจากห้องพักของเอริสาแล้วเห็นว่าพวกเขายืนออกันอยู่หน้าห้อง เจ้านายหนุ่มก็ทำตาขวางหน้าถมึงทึงพร้อมชี้นิ้วสั่งให้พวกเขาถอยห่างจากหน้าประตูให้เร็วที่สุด
โครม!
“แห่มายืนกันตรงนี้ทำไม ฮะ!”
ดาเนียลตวาดเสียงเข้มแล้วรีบปิดประตูห้องพักของเอริสาแทบไม่ทันเมื่อเปิดประตูออกมาเพื่อหลบเลี่ยงการมองภาพบาดความรู้สึกภายในห้องแล้วเจอลูกน้องของเขายืนอยู่ด้านนอกกันหน้าสลอน เพียงแค่คิดว่าจังหวะที่บานประตูอ้าออกแล้วลูกน้องหนุ่มๆของเขาจะมองเข้าไปข้างในเจอกับภาพเนื้อตัวเปลือยเปล่าของเอริสาที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงกว้างดาเนียลก็รู้สึกเลือดขึ้นหน้าแทบอยากควักลูกตาของพวกมันออกมากระทืบให้แหลกคาเท้า พวกมันจะมองใครอะไรที่ไหนอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เอริสา!
“พวกผมมารอรายงานความคืบหน้าเรื่องคุณหนูครับ”
แอสตันเป็นหน่วยกล้าตายตอบคำถามของเจ้านายที่ท่าทางหัวเสียอย่างหนักแทนลูกน้องคนอื่นๆ ถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำผิดด้วยเรื่องอะไร ทำไมดาเนียลถึงจ้องมองมาเหมือนพวกเขาทำผิดร้ายแรงด้วย ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณชายใหญ่นั่นแหละที่สั่งให้พวกเขายืนรออยู่หน้าห้องเพื่อที่ตัวเองจะเข้าไปสอบสวนบอดี้การ์ดคนสวยเพียงลำพัง แม้ว่าดาเนียลจะเข้าไปข้างในเป็นเวลาชั่วโมงกว่า แต่พวกเขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดไม่ได้หายไปไหน แล้วทำไมคุณชายใหญ่ถึงไม่พอใจล่ะหรือว่าจะเกี่ยวกับ...คนที่อยู่ข้างใน
“อืม ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”
ดาเนียลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วยกมือลูบหน้าลูบตาอย่างหนักอึ้งในสมอง ร่างกายที่เพิ่งรู้สึกเบาสบายกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง พลางคิดทบทวนว่านี่เขาทำอะไรลงไป เขารีบบินกลับมาเมืองไทยเพื่อตามหาน้องสาวไม่ใช่หรือ แล้วสิ่งที่เขาทำล่ะ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตามหาดาร์เลเน่เลยสักนิด เขานี่มัน...เป็นพี่ชายที่แย่สุดๆ
“จากจุดสุดท้ายที่บอดี้การ์ดกับคุณหนูแยกกัน ทีมแกะรอยสันนิษฐานไว้สามเส้นทางที่คุณหนูน่าจะใช้หลบหนีครับ คุณชายจะไปดูที่เกิดเหตุเลยหรือเปล่าครับ”
“มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว”
ดาเนียลตอบคำถามลูกน้องคนสนิทเสียงขรึมแล้วออกเดินนำไปข้างหน้า เขาต้องรีบไปอยู่แล้ว อันที่จริงเวลานี้เขาควรอยู่ในที่เกิดเหตุแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่เสียเวลา...ทำเรื่องระยำกับบอดี้การ์ดของน้องสาวไปเกือบๆชั่วโมงอย่างนี้
“แอสตัน หาคนเฝ้าหน้าห้องอลิสไว้ด้วย ห้ามใครหน้าไหนเปิดประตูเข้าไปข้างในเด็ดขาด!”
“ครับคุณชาย”
แอสตันเดินตามหลังดาเนียลพลางรับคำสั่งเสียงเรียบก่อนเอี้ยวตัวหันไปพยักหน้าอย่างรู้กันกับลูกน้องสองคนที่อยู่ด้านหลัง ว่านอกจากจะต้องคอยเฝ้าหน้าห้องพักของบอดี้การ์ดคนสวยอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งก็คือห้ามสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ทุกคนย่างกรายเข้าไปด้านใน...เด็ดขาด! ถึงไม่เข้าใจเหตุผลว่าเพราะเหตุใดดาเนียลจึงสั่งแบบนั้น แต่แอสตันก็มีหน้าที่ปฏิบัติตาม มือขวาหนุ่มจึงส่งต่อคำสั่งนี้ให้ลูกน้องใต้บังคับบัญชาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหากพวกมันไม่อยากเอาชีวิตไปทิ้งหรือเปลี่ยนงานใหม่
..................................................................................................................................................................
‘เจ้าขา ตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน’
ดาเนียลรำพึงในใจด้วยความหนักอึ้งในสมองขณะที่ลงมาจากรถเพื่อกลับมายังอินทิราโฮเทล ปกติไม่ว่าจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่ความนิ่งและสมองอันปราดเปรื่องของดาเนียลจะแก้ปัญหาไม่ได้ สำหรับเขาปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอมา แต่นั่นมันเมื่อก่อนไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเป็นเวลากว่าสามสิบหกชั่วโมงแล้วที่ชายหนุ่มพร้อมด้วยลูกน้องและทีมแกะรอยฝีมือดีระดมกำลังช่วยกันสืบหาเส้นทางที่ดาร์เลเน่หายตัวไป แต่กลับไม่พบหลักฐานอะไรเหลือเลย ไม่มีแม้ร่องรอยให้พวกเขาออกติดตามสักอย่างเดียว ทุกทางนั้นมืดสนิทจนมองไม่ออกเลยว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน แต่เขายังไม่ยอมแพ้ ทีมแกะรอยยังคงเร่งทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนดาเนียลนั้นมีความจำเป็นต้องกลับมาเคลียร์งานบางส่วนที่คั่งค้าง ชายหนุ่มจึงได้แต่ภาวนากับพระเจ้าว่าขอให้เขาได้รับการติดต่อจากทีมค้นหาภายในเวลาอันใกล้นี้
“อลิสเป็นไงบ้าง”
ตอนแกะรอยตามหาน้องสาวอยู่ข้างนอกจิตใจของดาเนียลก็ทุ่มเทไปที่ดาร์เลเน่เพียงคนเดียว เพราะเขากับลูกน้องต้องช่วยกันวิเคราะห์และจำลองสถานการณ์ความเป็นไปได้เกี่ยวกับเส้นทางที่ดาร์เลเน่หรือใครก็ตามที่พาน้องสาวเขาหนีไป แต่เพียงก้าวแรกที่ย่างกรายกลับมายังอินทิราโฮเทล ชายหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีหญิงสาวอีกคนที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ขายาวๆของดาเนียลจึงก้าวไปตามเส้นทางห้องพักของเอริสาแทนที่ห้องพักของตัวเอง ก่อนเอ่ยถามลูกน้องสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“เอ่อ...ไม่ทราบครับ”
บอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่เฝ้าหน้าห้องเอริสายืนประสานมือกันไว้ที่หน้าขาแล้วก้มหน้ามองปลายเท้าก่อนกลั้นหายใจแล้วตอบออกไปเสียงเบา นี่พวกเขาทำอะไรผิดงั้นหรือ ในเมื่อคำสั่งที่ได้รับก่อนที่คุณชายใหญ่จะออกไปคือให้พวกเขาเฝ้าหน้าห้องไว้ไม่ให้คุณบอดี้การ์ดคนสวยหนีออกไปได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือห้ามใครเข้าไปข้างในเด็ดขาด ในเมื่อเข้าไปไม่ได้แล้วพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าเอริสาเป็นอย่างไรบ้าง แล้วพอตอบตามความจริงว่าไม่ทราบ เจ้านายสุดหล่อกลับทำท่าเหมือนอยากจับพวกเขามาตัดคอด้วยเครื่องประหารหัวสุนัขซะอย่างนั้น
“หมายความว่ายังไง ทำไมถึงไม่ทราบ! ฮะ!”
เจ้านายใหญ่กริมเมอร์หยุดเดินแล้วตวัดสายตามองลูกน้องทั้งสองคนที่รีบก้มหน้าหลบสายตาเขาด้วยความไม่พอใจ พวกมันกล้าพูดมาได้อย่างไรว่าไม่ทราบ นี่หมายความว่าตั้งแต่ที่เขาออกไปแกะรอยตามหาดาร์เลเน่ข้างนอกซึ่งเป็นเวลาถึงสามสิบหกชั่วโมงนั้นไม่มีใครเข้าไปดูแลเอริสาเลยอย่างนั้นหรือ มือหนาทั้งสองข้างกำเป็นหมัดแน่นด้วยความขึงโกรธ ดวงตาคู่คมวาววับจนบอดี้การ์ดทั้งสองคนเสียวสันหลังวาบ
“คือ...ก่อนหน้านี้คุณชายสั่งไว้ว่าห้ามใครเข้าไปเด็ดขาดครับ”
แอสตันที่ยืนอยู่ด้านหลังของดาเนียลเป็นฝ่ายเอ่ยทบทวนความจำให้เจ้านายใหญ่ เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยเลยตามเลยบอดี้การ์ดทั้งสองคนได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่นอน ทั้งที่พวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะดาเนียลนั่นแหละที่สั่งไว้เสียงเข้มว่าห้ามมิให้ใครคนไหนเข้าไปในห้องของบอดี้การ์ดหน้าสวย แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าเสนอหน้าเข้าไปล่ะ ดีไม่ดีการเข้าไปในห้องพักของเอริสาด้วยความเป็นห่วงอย่างบริสุทธิ์ใจอาจเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งไว้ก็ได้ เพราะบอดี้การ์ดตระกูลกริมเมอร์ทุกคนนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้...ห้ามแตะ!
“ฮึ่ย!”
ดาเนียลได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจเมื่อได้ฟังคำพูดของลูกน้องคนสนิท เพราะมันก็จริงอย่างที่แอสตันบอก วันนั้นเขาเป็นคนสั่งเองว่าห้ามให้ใครเข้าไปในห้อง ก็เอริสานอนเนื้อตัวเปล่าเปลือยขนาดนั้น เกิดพวกมันทะเล่อทะล่าเข้าไปแล้วไปเจอเอริสาที่นอนแก้ผ้าอยู่จะทำอย่างไรล่ะ เขาไม่อยากควักลูกตาพวกมันทิ้งหรอกนะ แต่ถ้ามันเห็นเอริสาตอนโป๊เขาไม่เก็บพวกมันไว้แน่นอน เนื้อตัวขาวๆเรือนร่างสวยๆนั่นเป็นของเขา เขาเพียงคนเดียวที่มีสิทธิ์มอง และเพราะไม่ทันคิดไว้ว่าเขาจะออกไปข้างนอกเป็นเวลานานขนาดนี้ถึงได้มีคำสั่งบ้าๆแบบนั้นออกไป ไม่รู้ว่าจะลงโทษในความซื่อของลูกน้องหรือด่าตัวเองที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อนสั่ง
‘ฉิบหาย! ป่านนี้อลิสจะเป็นยังไงบ้างวะเนี่ย’
และภาพสุดท้ายตอนที่เขาหันหลังออกมานั่นคือภาพที่เอริสานอนนิ่งเนื้อตัวบอบช้ำจากน้ำมือของเขา ร่องรอยความป่าเถื่อนเกลื่อนอยู่แทบทุกตารางพื้นผิวของกายสาว หัวใจชาวาบเนื้อตัวแข็งทื่อเมื่อคิดต่อไปว่าระยะเวลากว่าสองวันหนึ่งคืนที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่ บอดี้การ์ดคนสวยของเขานั้นยังไม่มีข้าวไม่มีน้ำตกถึงท้อง เพราะเขาเชื่อว่าลูกน้องของเขาทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดที่ไม่ยอมให้เอริสาออกจากห้องและห้ามมิให้ใครเข้าไปด้านใน เร็วเท่าความคิด วินาทีถัดมาท่อนขาแข็งแรงจึงรีบก้าวยาวๆไปยังห้องพักของเอริสาอย่างร้อนรน ความเป็นห่วงฉายชัดออกมาทั้งสีหน้าและแววตา ตอนนี้ดาเนียลได้แต่ภาวนาขอให้หญิงสาวอย่าเป็นอะไรไป
“ไม่ต้องเข้ามา!”
ดาเนียลสั่งเสียงเข้มเมื่อชายหนุ่มหมุนลูกบิดประตูห้องพักที่ปิดตายมาเกือบสองวัน แล้วแอสตันทำท่าจะเดินตามเจ้านายเข้ามาเหมือนอย่างที่เคย เพราะในยามปกติมีดาเนียลที่ไหน ที่นั่นต้องมีแอสตันอยู่ด้วยเสมอ แต่มาครั้งนี้มือขวาหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเจ้านายมาสิบกว่าปีกลับต้องชะงักเท้าแล้วก้มศีรษะให้อย่างเข้าใจเจ้านายดี ก่อนจะถอยหลังออกไปยืนรอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องพัก
“อลิส!”
แต่เพราะคำภาวนาไม่เป็นผล ดาเนียลจึงยืนขาตายตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหินเมื่อชายหนุ่มก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าเตียงนอนของเอริสา เพราะภาพที่เขาเห็นคือร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา มีเพียงใบหน้าแดงก่ำที่กำลังหลับสนิทของเอริสาเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมาให้เขาเห็น แต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะยืนยันว่าหญิงสาวกำลังไม่สบาย และสาเหตุนั้นต้องมาจากเขาแน่นอน
ยืนมองนิ่งๆคล้ายทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วครู่ สมองของดาเนียลถึงกลับมาสั่งการได้อีกครั้ง ชายหนุ่มจึงรีบถลาเข้าไปทรุดนั่งอยู่ข้างเตียงพลางโน้มตัวสอดแขนช้อนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเอริสาขึ้นมาจากที่นอน แต่เพียงปลายมือสัมผัสกับผิวเนื้อเนียนนุ่ม ไอความร้อนจากผิวกายของเอริสาก็ทำเอาดาเนียลหัวใจแทบหยุดเต้น เพราะมันช่างร้อนเหลือเกิน ร้อนราวกับผิวกายของหญิงสาวโอบล้อมด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุ
ยิ่งเมื่อดาเนียลได้พิศมองใบหน้าที่ยังหลับสนิทของบอดี้การ์ดสาวใกล้ๆ ใบหน้าแดงก่ำด้วยพิษไข้นั้นมีแต่คราบน้ำตาแห้งกรัง ริมฝีปากบางแห้งผากราวขาดน้ำมาแรมปี ความรู้สึกของดาเนียลตอนนี้มันเจ็บร้าวเข้าไปถึงหัวใจเมื่อได้เห็นความเจ็บปวดที่เอริสาได้รับจากการกระทำเหี้ยมโหดของเขา สมองที่เคยทำงานฉับไวกลับตื้อตันไปหมด
‘หมอ ใช่! ไม่สบายต้องให้หมอมาดูอาการ’
คิดได้ดังนั้นดาเนียลจึงประคองร่างอ่อนระทวยขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบวิ่งไปหยิบเสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวสะอาดในห้องน้ำมาสวมปิดบังร่างไร้อาภรณ์ของเอริสาที่คงนอนตัวเปล่ามาตั้งแต่วันที่ถูกเขารังแกแล้วดึงผ้านวมผืนโตขึ้นมาห่มให้อีกชั้นป้องกันสายตาของผู้ชายคนอื่น จากนั้นจึงตะโกนเรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาในห้อง
“แอสตัน ไปตามหมอมาดูอาการอลิส ด่วนที่สุด”
“อลิสเป็นอะไรเหรอครับ”
“ไม่สบาย ตัวร้อนจี๋อย่างกับไฟ”
คนถูกเจ้านายเรียกเข้ามาในห้องพักด้วยท่าทางร้อนรนเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย และยิ่งมั่นใจอะไรบางอย่างเมื่อเจ้านายตอบกลับมาด้วยท่าทีเป็นกังวลคล้ายเป็นดาเนียลเสียเองที่กำลังเจ็บป่วย
“คุณชายพาเธอไปโรงพยาบาลดีกว่าไหมครับ เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาลน่าจะมีอุปกรณ์ครบครันกว่า”
แอสตันเอ่ยค้านเมื่อเหลือบตามองใบหน้าซีดเซียวของคนบนเตียงและพอจะคาดเดาได้แล้วว่าสาเหตุที่หญิงสาวป่วยนั้นมาจากอะไร ชายหนุ่มจึงอยากให้ดาเนียลพาเธอไปโรงพยาบาลมากกว่าเพื่อความปลอดภัย
“อืม จริงของนาย งั้นสั่งให้เตรียมรถเลย ฉันแต่งตัวให้อลิสแป๊บเดียว ส่วนนาย...ออกไปได้แล้ว”
ดาเนียลตอบรับคำแนะนำของลูกน้องพลางนึกในใจว่านี่เขาเป็นอะไรไป เรื่องง่ายๆแบบนี้ทำไมถึงคิดไม่ได้ ทั้งที่ในยามปกตินั้นเขารอบคอบเสมอ แต่ครั้งนี้เขากลับตัดสินใจพลาดอย่างที่ไม่น่าจะเป็นหรือเป็นเพราะจิตใจของเขาตอนนี้มันไม่นิ่งเหมือนอย่างเคย เพราะการเรียกหมอให้มาดูอาการเอริสาที่นี่มันอาจจะสะดวกรวดเร็ว แต่หมอคงมีแค่อุปกรณ์พื้นฐานติดตัวมา ซึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะใช้ดูแลรักษาผู้หญิงที่นอนซีดเซียวอยู่บนเตียง อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ใช่ที่บ้านของเขาที่มีหมอประจำตระกูลที่ไว้ใจได้คอยดูแลใกล้ชิด ดังนั้นเขาจึงควรรีบพาเอริสาไปยังโรงพยาบาลที่ดีที่สุดให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
คิดได้ดังนั้นดาเนียลจึงค่อยๆปล่อยมือบางร้อนผ่าวของเอริสาที่ถูกเกาะกุมด้วยมือหนาวางไว้บนเตียงนอน ก่อนจะไล่ลูกน้องคนสนิทออกไปจากห้องเพราะสิ่งที่เขากำลังจะทำเป็นลำดับต่อไปคือแต่งตัวให้คนป่วย ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้ดวงตาของผู้ชายคนอื่นมีโอกาสได้เห็นผิวกายใต้ร่มผ้าของเอริสาเด็ดขาด!
..........................................................................................................................................................................
มาแว้วๆ พาคุณชายใจร้ายมาส่งแล้ว โถ่! นึกว่าฮีจะแน่ อิอิ
“ถอยหลังไปเดี๋ยวนี้!”
แอสตันกับบอดี้การ์ดคนอื่นๆถึงกับผงะ ถอยหลังแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงตะคอกสั่งห้วนดุของคุณชายใหญ่ตระกูลกริมเมอร์ ไม่รู้ว่าเจ้านายของเขากำลังอารมณ์เสียเรื่องอะไร แต่ทันทีที่ดาเนียลออกมาจากห้องพักของเอริสาแล้วเห็นว่าพวกเขายืนออกันอยู่หน้าห้อง เจ้านายหนุ่มก็ทำตาขวางหน้าถมึงทึงพร้อมชี้นิ้วสั่งให้พวกเขาถอยห่างจากหน้าประตูให้เร็วที่สุด
โครม!
“แห่มายืนกันตรงนี้ทำไม ฮะ!”
ดาเนียลตวาดเสียงเข้มแล้วรีบปิดประตูห้องพักของเอริสาแทบไม่ทันเมื่อเปิดประตูออกมาเพื่อหลบเลี่ยงการมองภาพบาดความรู้สึกภายในห้องแล้วเจอลูกน้องของเขายืนอยู่ด้านนอกกันหน้าสลอน เพียงแค่คิดว่าจังหวะที่บานประตูอ้าออกแล้วลูกน้องหนุ่มๆของเขาจะมองเข้าไปข้างในเจอกับภาพเนื้อตัวเปลือยเปล่าของเอริสาที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงกว้างดาเนียลก็รู้สึกเลือดขึ้นหน้าแทบอยากควักลูกตาของพวกมันออกมากระทืบให้แหลกคาเท้า พวกมันจะมองใครอะไรที่ไหนอย่างไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เอริสา!
“พวกผมมารอรายงานความคืบหน้าเรื่องคุณหนูครับ”
แอสตันเป็นหน่วยกล้าตายตอบคำถามของเจ้านายที่ท่าทางหัวเสียอย่างหนักแทนลูกน้องคนอื่นๆ ถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำผิดด้วยเรื่องอะไร ทำไมดาเนียลถึงจ้องมองมาเหมือนพวกเขาทำผิดร้ายแรงด้วย ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณชายใหญ่นั่นแหละที่สั่งให้พวกเขายืนรออยู่หน้าห้องเพื่อที่ตัวเองจะเข้าไปสอบสวนบอดี้การ์ดคนสวยเพียงลำพัง แม้ว่าดาเนียลจะเข้าไปข้างในเป็นเวลาชั่วโมงกว่า แต่พวกเขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดไม่ได้หายไปไหน แล้วทำไมคุณชายใหญ่ถึงไม่พอใจล่ะหรือว่าจะเกี่ยวกับ...คนที่อยู่ข้างใน
“อืม ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”
ดาเนียลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วยกมือลูบหน้าลูบตาอย่างหนักอึ้งในสมอง ร่างกายที่เพิ่งรู้สึกเบาสบายกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง พลางคิดทบทวนว่านี่เขาทำอะไรลงไป เขารีบบินกลับมาเมืองไทยเพื่อตามหาน้องสาวไม่ใช่หรือ แล้วสิ่งที่เขาทำล่ะ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตามหาดาร์เลเน่เลยสักนิด เขานี่มัน...เป็นพี่ชายที่แย่สุดๆ
“จากจุดสุดท้ายที่บอดี้การ์ดกับคุณหนูแยกกัน ทีมแกะรอยสันนิษฐานไว้สามเส้นทางที่คุณหนูน่าจะใช้หลบหนีครับ คุณชายจะไปดูที่เกิดเหตุเลยหรือเปล่าครับ”
“มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว”
ดาเนียลตอบคำถามลูกน้องคนสนิทเสียงขรึมแล้วออกเดินนำไปข้างหน้า เขาต้องรีบไปอยู่แล้ว อันที่จริงเวลานี้เขาควรอยู่ในที่เกิดเหตุแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่เสียเวลา...ทำเรื่องระยำกับบอดี้การ์ดของน้องสาวไปเกือบๆชั่วโมงอย่างนี้
“แอสตัน หาคนเฝ้าหน้าห้องอลิสไว้ด้วย ห้ามใครหน้าไหนเปิดประตูเข้าไปข้างในเด็ดขาด!”
“ครับคุณชาย”
แอสตันเดินตามหลังดาเนียลพลางรับคำสั่งเสียงเรียบก่อนเอี้ยวตัวหันไปพยักหน้าอย่างรู้กันกับลูกน้องสองคนที่อยู่ด้านหลัง ว่านอกจากจะต้องคอยเฝ้าหน้าห้องพักของบอดี้การ์ดคนสวยอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญมากๆอีกเรื่องหนึ่งก็คือห้ามสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ทุกคนย่างกรายเข้าไปด้านใน...เด็ดขาด! ถึงไม่เข้าใจเหตุผลว่าเพราะเหตุใดดาเนียลจึงสั่งแบบนั้น แต่แอสตันก็มีหน้าที่ปฏิบัติตาม มือขวาหนุ่มจึงส่งต่อคำสั่งนี้ให้ลูกน้องใต้บังคับบัญชาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหากพวกมันไม่อยากเอาชีวิตไปทิ้งหรือเปลี่ยนงานใหม่
..................................................................................................................................................................
‘เจ้าขา ตอนนี้น้องอยู่ที่ไหน’
ดาเนียลรำพึงในใจด้วยความหนักอึ้งในสมองขณะที่ลงมาจากรถเพื่อกลับมายังอินทิราโฮเทล ปกติไม่ว่าจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่ความนิ่งและสมองอันปราดเปรื่องของดาเนียลจะแก้ปัญหาไม่ได้ สำหรับเขาปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอมา แต่นั่นมันเมื่อก่อนไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเป็นเวลากว่าสามสิบหกชั่วโมงแล้วที่ชายหนุ่มพร้อมด้วยลูกน้องและทีมแกะรอยฝีมือดีระดมกำลังช่วยกันสืบหาเส้นทางที่ดาร์เลเน่หายตัวไป แต่กลับไม่พบหลักฐานอะไรเหลือเลย ไม่มีแม้ร่องรอยให้พวกเขาออกติดตามสักอย่างเดียว ทุกทางนั้นมืดสนิทจนมองไม่ออกเลยว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน แต่เขายังไม่ยอมแพ้ ทีมแกะรอยยังคงเร่งทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนดาเนียลนั้นมีความจำเป็นต้องกลับมาเคลียร์งานบางส่วนที่คั่งค้าง ชายหนุ่มจึงได้แต่ภาวนากับพระเจ้าว่าขอให้เขาได้รับการติดต่อจากทีมค้นหาภายในเวลาอันใกล้นี้
“อลิสเป็นไงบ้าง”
ตอนแกะรอยตามหาน้องสาวอยู่ข้างนอกจิตใจของดาเนียลก็ทุ่มเทไปที่ดาร์เลเน่เพียงคนเดียว เพราะเขากับลูกน้องต้องช่วยกันวิเคราะห์และจำลองสถานการณ์ความเป็นไปได้เกี่ยวกับเส้นทางที่ดาร์เลเน่หรือใครก็ตามที่พาน้องสาวเขาหนีไป แต่เพียงก้าวแรกที่ย่างกรายกลับมายังอินทิราโฮเทล ชายหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีหญิงสาวอีกคนที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ขายาวๆของดาเนียลจึงก้าวไปตามเส้นทางห้องพักของเอริสาแทนที่ห้องพักของตัวเอง ก่อนเอ่ยถามลูกน้องสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“เอ่อ...ไม่ทราบครับ”
บอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่เฝ้าหน้าห้องเอริสายืนประสานมือกันไว้ที่หน้าขาแล้วก้มหน้ามองปลายเท้าก่อนกลั้นหายใจแล้วตอบออกไปเสียงเบา นี่พวกเขาทำอะไรผิดงั้นหรือ ในเมื่อคำสั่งที่ได้รับก่อนที่คุณชายใหญ่จะออกไปคือให้พวกเขาเฝ้าหน้าห้องไว้ไม่ให้คุณบอดี้การ์ดคนสวยหนีออกไปได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือห้ามใครเข้าไปข้างในเด็ดขาด ในเมื่อเข้าไปไม่ได้แล้วพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าเอริสาเป็นอย่างไรบ้าง แล้วพอตอบตามความจริงว่าไม่ทราบ เจ้านายสุดหล่อกลับทำท่าเหมือนอยากจับพวกเขามาตัดคอด้วยเครื่องประหารหัวสุนัขซะอย่างนั้น
“หมายความว่ายังไง ทำไมถึงไม่ทราบ! ฮะ!”
เจ้านายใหญ่กริมเมอร์หยุดเดินแล้วตวัดสายตามองลูกน้องทั้งสองคนที่รีบก้มหน้าหลบสายตาเขาด้วยความไม่พอใจ พวกมันกล้าพูดมาได้อย่างไรว่าไม่ทราบ นี่หมายความว่าตั้งแต่ที่เขาออกไปแกะรอยตามหาดาร์เลเน่ข้างนอกซึ่งเป็นเวลาถึงสามสิบหกชั่วโมงนั้นไม่มีใครเข้าไปดูแลเอริสาเลยอย่างนั้นหรือ มือหนาทั้งสองข้างกำเป็นหมัดแน่นด้วยความขึงโกรธ ดวงตาคู่คมวาววับจนบอดี้การ์ดทั้งสองคนเสียวสันหลังวาบ
“คือ...ก่อนหน้านี้คุณชายสั่งไว้ว่าห้ามใครเข้าไปเด็ดขาดครับ”
แอสตันที่ยืนอยู่ด้านหลังของดาเนียลเป็นฝ่ายเอ่ยทบทวนความจำให้เจ้านายใหญ่ เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยเลยตามเลยบอดี้การ์ดทั้งสองคนได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่นอน ทั้งที่พวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะดาเนียลนั่นแหละที่สั่งไว้เสียงเข้มว่าห้ามมิให้ใครคนไหนเข้าไปในห้องของบอดี้การ์ดหน้าสวย แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าเสนอหน้าเข้าไปล่ะ ดีไม่ดีการเข้าไปในห้องพักของเอริสาด้วยความเป็นห่วงอย่างบริสุทธิ์ใจอาจเป็นการเอาชีวิตไปทิ้งไว้ก็ได้ เพราะบอดี้การ์ดตระกูลกริมเมอร์ทุกคนนั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้...ห้ามแตะ!
“ฮึ่ย!”
ดาเนียลได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจเมื่อได้ฟังคำพูดของลูกน้องคนสนิท เพราะมันก็จริงอย่างที่แอสตันบอก วันนั้นเขาเป็นคนสั่งเองว่าห้ามให้ใครเข้าไปในห้อง ก็เอริสานอนเนื้อตัวเปล่าเปลือยขนาดนั้น เกิดพวกมันทะเล่อทะล่าเข้าไปแล้วไปเจอเอริสาที่นอนแก้ผ้าอยู่จะทำอย่างไรล่ะ เขาไม่อยากควักลูกตาพวกมันทิ้งหรอกนะ แต่ถ้ามันเห็นเอริสาตอนโป๊เขาไม่เก็บพวกมันไว้แน่นอน เนื้อตัวขาวๆเรือนร่างสวยๆนั่นเป็นของเขา เขาเพียงคนเดียวที่มีสิทธิ์มอง และเพราะไม่ทันคิดไว้ว่าเขาจะออกไปข้างนอกเป็นเวลานานขนาดนี้ถึงได้มีคำสั่งบ้าๆแบบนั้นออกไป ไม่รู้ว่าจะลงโทษในความซื่อของลูกน้องหรือด่าตัวเองที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อนสั่ง
‘ฉิบหาย! ป่านนี้อลิสจะเป็นยังไงบ้างวะเนี่ย’
และภาพสุดท้ายตอนที่เขาหันหลังออกมานั่นคือภาพที่เอริสานอนนิ่งเนื้อตัวบอบช้ำจากน้ำมือของเขา ร่องรอยความป่าเถื่อนเกลื่อนอยู่แทบทุกตารางพื้นผิวของกายสาว หัวใจชาวาบเนื้อตัวแข็งทื่อเมื่อคิดต่อไปว่าระยะเวลากว่าสองวันหนึ่งคืนที่เขาไม่ได้กลับมาที่นี่ บอดี้การ์ดคนสวยของเขานั้นยังไม่มีข้าวไม่มีน้ำตกถึงท้อง เพราะเขาเชื่อว่าลูกน้องของเขาทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดที่ไม่ยอมให้เอริสาออกจากห้องและห้ามมิให้ใครเข้าไปด้านใน เร็วเท่าความคิด วินาทีถัดมาท่อนขาแข็งแรงจึงรีบก้าวยาวๆไปยังห้องพักของเอริสาอย่างร้อนรน ความเป็นห่วงฉายชัดออกมาทั้งสีหน้าและแววตา ตอนนี้ดาเนียลได้แต่ภาวนาขอให้หญิงสาวอย่าเป็นอะไรไป
“ไม่ต้องเข้ามา!”
ดาเนียลสั่งเสียงเข้มเมื่อชายหนุ่มหมุนลูกบิดประตูห้องพักที่ปิดตายมาเกือบสองวัน แล้วแอสตันทำท่าจะเดินตามเจ้านายเข้ามาเหมือนอย่างที่เคย เพราะในยามปกติมีดาเนียลที่ไหน ที่นั่นต้องมีแอสตันอยู่ด้วยเสมอ แต่มาครั้งนี้มือขวาหนุ่มที่อยู่เคียงข้างเจ้านายมาสิบกว่าปีกลับต้องชะงักเท้าแล้วก้มศีรษะให้อย่างเข้าใจเจ้านายดี ก่อนจะถอยหลังออกไปยืนรอรับคำสั่งอยู่หน้าห้องพัก
“อลิส!”
แต่เพราะคำภาวนาไม่เป็นผล ดาเนียลจึงยืนขาตายตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหินเมื่อชายหนุ่มก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าเตียงนอนของเอริสา เพราะภาพที่เขาเห็นคือร่างเพรียวบางของหญิงสาวที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา มีเพียงใบหน้าแดงก่ำที่กำลังหลับสนิทของเอริสาเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมาให้เขาเห็น แต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะยืนยันว่าหญิงสาวกำลังไม่สบาย และสาเหตุนั้นต้องมาจากเขาแน่นอน
ยืนมองนิ่งๆคล้ายทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วครู่ สมองของดาเนียลถึงกลับมาสั่งการได้อีกครั้ง ชายหนุ่มจึงรีบถลาเข้าไปทรุดนั่งอยู่ข้างเตียงพลางโน้มตัวสอดแขนช้อนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเอริสาขึ้นมาจากที่นอน แต่เพียงปลายมือสัมผัสกับผิวเนื้อเนียนนุ่ม ไอความร้อนจากผิวกายของเอริสาก็ทำเอาดาเนียลหัวใจแทบหยุดเต้น เพราะมันช่างร้อนเหลือเกิน ร้อนราวกับผิวกายของหญิงสาวโอบล้อมด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุ
ยิ่งเมื่อดาเนียลได้พิศมองใบหน้าที่ยังหลับสนิทของบอดี้การ์ดสาวใกล้ๆ ใบหน้าแดงก่ำด้วยพิษไข้นั้นมีแต่คราบน้ำตาแห้งกรัง ริมฝีปากบางแห้งผากราวขาดน้ำมาแรมปี ความรู้สึกของดาเนียลตอนนี้มันเจ็บร้าวเข้าไปถึงหัวใจเมื่อได้เห็นความเจ็บปวดที่เอริสาได้รับจากการกระทำเหี้ยมโหดของเขา สมองที่เคยทำงานฉับไวกลับตื้อตันไปหมด
‘หมอ ใช่! ไม่สบายต้องให้หมอมาดูอาการ’
คิดได้ดังนั้นดาเนียลจึงประคองร่างอ่อนระทวยขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ก่อนที่ชายหนุ่มจะรีบวิ่งไปหยิบเสื้อคลุมผ้าขนหนูสีขาวสะอาดในห้องน้ำมาสวมปิดบังร่างไร้อาภรณ์ของเอริสาที่คงนอนตัวเปล่ามาตั้งแต่วันที่ถูกเขารังแกแล้วดึงผ้านวมผืนโตขึ้นมาห่มให้อีกชั้นป้องกันสายตาของผู้ชายคนอื่น จากนั้นจึงตะโกนเรียกลูกน้องคนสนิทเข้ามาในห้อง
“แอสตัน ไปตามหมอมาดูอาการอลิส ด่วนที่สุด”
“อลิสเป็นอะไรเหรอครับ”
“ไม่สบาย ตัวร้อนจี๋อย่างกับไฟ”
คนถูกเจ้านายเรียกเข้ามาในห้องพักด้วยท่าทางร้อนรนเอ่ยถามออกมาอย่างสงสัย และยิ่งมั่นใจอะไรบางอย่างเมื่อเจ้านายตอบกลับมาด้วยท่าทีเป็นกังวลคล้ายเป็นดาเนียลเสียเองที่กำลังเจ็บป่วย
“คุณชายพาเธอไปโรงพยาบาลดีกว่าไหมครับ เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาลน่าจะมีอุปกรณ์ครบครันกว่า”
แอสตันเอ่ยค้านเมื่อเหลือบตามองใบหน้าซีดเซียวของคนบนเตียงและพอจะคาดเดาได้แล้วว่าสาเหตุที่หญิงสาวป่วยนั้นมาจากอะไร ชายหนุ่มจึงอยากให้ดาเนียลพาเธอไปโรงพยาบาลมากกว่าเพื่อความปลอดภัย
“อืม จริงของนาย งั้นสั่งให้เตรียมรถเลย ฉันแต่งตัวให้อลิสแป๊บเดียว ส่วนนาย...ออกไปได้แล้ว”
ดาเนียลตอบรับคำแนะนำของลูกน้องพลางนึกในใจว่านี่เขาเป็นอะไรไป เรื่องง่ายๆแบบนี้ทำไมถึงคิดไม่ได้ ทั้งที่ในยามปกตินั้นเขารอบคอบเสมอ แต่ครั้งนี้เขากลับตัดสินใจพลาดอย่างที่ไม่น่าจะเป็นหรือเป็นเพราะจิตใจของเขาตอนนี้มันไม่นิ่งเหมือนอย่างเคย เพราะการเรียกหมอให้มาดูอาการเอริสาที่นี่มันอาจจะสะดวกรวดเร็ว แต่หมอคงมีแค่อุปกรณ์พื้นฐานติดตัวมา ซึ่งอาจไม่เพียงพอที่จะใช้ดูแลรักษาผู้หญิงที่นอนซีดเซียวอยู่บนเตียง อีกอย่างที่นี่ก็ไม่ใช่ที่บ้านของเขาที่มีหมอประจำตระกูลที่ไว้ใจได้คอยดูแลใกล้ชิด ดังนั้นเขาจึงควรรีบพาเอริสาไปยังโรงพยาบาลที่ดีที่สุดให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
คิดได้ดังนั้นดาเนียลจึงค่อยๆปล่อยมือบางร้อนผ่าวของเอริสาที่ถูกเกาะกุมด้วยมือหนาวางไว้บนเตียงนอน ก่อนจะไล่ลูกน้องคนสนิทออกไปจากห้องเพราะสิ่งที่เขากำลังจะทำเป็นลำดับต่อไปคือแต่งตัวให้คนป่วย ซึ่งเขาจะไม่ยอมให้ดวงตาของผู้ชายคนอื่นมีโอกาสได้เห็นผิวกายใต้ร่มผ้าของเอริสาเด็ดขาด!
..........................................................................................................................................................................
มาแว้วๆ พาคุณชายใจร้ายมาส่งแล้ว โถ่! นึกว่าฮีจะแน่ อิอิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ