แพ้รักน้องสาว
7.3
เขียนโดย Annakan
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.01 น.
6 ตอน
0 วิจารณ์
7,913 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2560 12.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) ตุ๊กตาที่ไม่เคยได้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอรปรีญาเฝ้ารอวันปิดเทอมด้วยใจจดจ่อเพราะอยากเจอพี่เจของเธอเหลือเกิน พักหลังๆ พี่เจไม่ค่อยตอบอีเมลเธอเท่าไหร่เพราะเขาบอกว่ายุ่งๆ กับการเรียน
“พี่รุจคะ อรอยากได้ชุดใหม่สักชุดนึงได้ไหมคะ” เด็กสาวถามพี่ชายหลังจากนำเงินไปฝากที่ธนาคารเรียบร้อยแล้ว
“อร ไม่ได้เอาเงินขายของมาซื้อนะคะอรเก็บจากค่าขนม”
“ก็ซื้อสิ เงินของอรจะต้องมาขอพี่ทำไม”
“อรกลัวพี่รุจว่า พี่รุจไม่เห็นอยากได้เสื้อผ้าใหม่ๆ เลย” อรปรีญาตอบแล้วทำหน้ามุ่ย
“พี่เอาไปซื้อเกมหมดไง ฮ่าๆๆๆ” พี่ชายตอบแล้วจูงมือน้องสาวไปที่ร้านขายเสื้อผ้าในตลาด
อนิรุจรู้ว่าน้องอรอยากได้ชุดใหม่ไว้ใส่ไปเที่ยวกับบ้านของเจเดนในสัปดาห์หน้า น้องอรเริ่มรักสวยรักงามมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้มากมายจนแก่แดดเกินวัยเธอเป็นเด็กน่ารักและวางตัวได้เหมาะสมเสมอ
“ชุดไหนดีคะพี่รุจสีฟ้าหรือสีเหลือง” อรปรีญาตัดใจไม่ได้สักทีว่าจะเอาชุดไหนกันแน่ตัวสีฟ้าก็มีลูกไม้ระบายตรงชายกระโปรงส่วนชุดสีเหลืองก็สดใสแถมยังมีคอปกแบบทหารเรืออีก
“น้องอรก็ซื้อชุดสีฟ้าแล้วพี่จะซื้อชุดสีเหลืองให้” อนิรุจตอบแล้วยิ้มแป้น
“ไม่เอาอ่ะ อรไม่อยากให้พี่รุจใช้เงินกับของฟุ่มเฟือยแบบนี้”
“มันไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยแต่มันคือของที่ทำให้น้องของพี่มีความสุข พี่เคยสัญญาไว้กับพ่อแม่ว่าจะดูแลน้องสาวคนเดียวให้ดีที่สุดนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่รุจ” อรปรีญาวางชุดลงแล้วรัดพี่ชายจนแน่น พ่อกับพี่รุจเป็นผู้ชายที่ใจดีที่สุดในโลกเลย เด็กสาวหิ้วถุงที่บรรจุชุดกระโปรงสองชุดกลับบ้านด้วยหน้าตาสดใสไม่ต่างกับพี่ชายของเธอ
“สวัสดีค่ะ , สวัสดีครับ” อนิรุจและอรปรีญายกมือไหว้พ่อแม่ของเจเดน ทั้งสามคนเพิ่งมาถึงประเทศไทยแล้วก็มุ่งหน้ามาหาเด็กทั้งสองทันทีเพราะร้อนใจอยากพบหน้าและถามถึงความเป็นอยู่
“โตขึ้นเยอะเลยนะรุจ” สุดาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าเด็กหนุ่มจะโตรวดเร็วขนาดนี้
“เป็นยังไงกันบ้างเล่าให้ลุงฟังสิ” ปีเตอร์ถามและอนิรุจก็เล่าทุกอย่างให้ฟังว่าเขาหาเงินและดูแลน้องสาวยังไง
“เยี่ยม เยี่ยมมากๆ เลยรุจ” ปีเตอร์พอใจมากกับความรับผิดชอบของเด็กคนนึงที่มากมายเกินอายุ
“พี่เจ ชุดนี้พี่รุจซื้อให้อรสวยไหมคะ” อรปรีญาอวดชุดกระโปรงสีเหลืองให้พี่ชายต่างสายเลือดดูด้วยความตื่นเต้น ในใจหวังจะได้รับคำชมหรือรอยยิ้มสักนิดก็ยังดี
“อืม” เจเดนตอบโดยไม่เหลือบมาดูคนที่ถาม มือและตาของเขาจ้องอยู่ที่เกมในมือถือ
“รอบนี้เด็กๆ อยากไปไหนกันจ๊ะ” สุดารีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสีหน้าแห่งความเสียใจของเด็กสาว
“เจ อยากไปไหนจ๊ะ” สุดาถามลูกชาย
“ยังไงก็ได้” เจเดนตอบโดยไม่สบตาใครเหมือนเดิม
“เจเดนพูดกับแม่ดีๆ” ปีเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ข่มโทสะไว้เต็มที่ ลูกชายของเขากลายเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ไม่มีมารยาทไปซะแล้ว
“ไปไหนก็ได้ครับเชิญคุณพ่อคุณแม่เลือกกันตามสบาย ผมขอตัวนะครับ” เจเดนเงยหน้ามาพูดแล้วเดินหนีออกไปหน้าบ้าน
“เจ คงเหนื่อยจ้ะเลยอารมณ์ไม่ค่อยดี” สุดาพูดกับทุกคนแต่เน้นกับหนูอรเป็นพิเศษ เด็กสาวหน้าเสียและใกล้จะร้องไห้เต็มทีแล้ว
“ไปทะเลได้ไหมครับ น้องอรมีการบ้านต้องวาดรูปปลา” อนิรุจเสนอ
“ได้สิ หนูไปเก็บเสื้อผ้ากันได้เลย” ปีเตอร์บอก
อรปรีญานั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเจเดนกับอนิรุจ พี่ชายของเธอหันมาคุยด้วยเรื่อยๆ แต่อีกคนกลับไม่ปริปากพูดอะไรสักคำตลอดการเดินทางสามชั่วโมงเขาเอาแต่เหม่อมองไปนอกหน้าต่างเหมือนจิตใจไม่ได้อยู่ตรงนี้เลย เมื่อมาถึงที่พักและจ่ายเงินค่าห้องแล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายไปเก็บสัมภาระของตัวเอง
“พี่เจไม่เหมือนเดิม” อรปรีญานั่งหน้าเศร้าอยู่บนเตียง
“เจคงเหนื่อยแหละเดี๋ยวก็คงอารมณ์ดีขึ้น” พี่ชายมานั่งข้างๆ น้องสาวแล้วโอบไหล่ไว้ อนิรุจก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจเดนทำไมเขาถึงดุดันและเหมือนโกรธเคืองอยู่ตลอดเวลาสีหน้าและแววตาของเขามันไม่ใช่เจเดนคนก่อนเลย
“พี่เจไม่พูดกับอรเลย ฮือๆๆ” เด็กสาวร้องไห้แล้วมือเล็กๆ ก็กำไปที่เปลือกหอยตรงสร้อยคอ
“ไม่ร้องนะ เจคงมีเหตุผลอะไรสักอย่างเดี๋ยวพี่จะถามให้”
ปีเตอร์กับสุดานั่งอาบแดดอยู่ที่เก้าอี้ริมหาด อนิรุจพาน้องสาวไปก่อปราสาททรายข้างๆ เจเดน เด็กชายหน้าตาหมองหม่นนั่งกอดเข่าแล้วมองดูทะเลเบื้องหน้าโดยไม่ทักทายเพื่อนแม้แต่คำเดียว
“น้องอรลืมทาครีมกันแดดเดี๋ยวพี่ไปหยิบให้ รอตรงนี้แหละ” อนิรุจรีบเดินกลับไปที่บ้านพักแล้วทิ้งให้น้องสาวอยู่กับเจเดน
“พี่เจไม่ได้เอาตุ๊กตามาหรอคะ” อรปรีญาถามถึงตุ๊กตาผมสีทองที่เขาเคยบอกว่าจะเอามาให้
“ตุ๊กตาอะไร” เจเดนตวัดเสียงถามด้วยความรำคาญ
“ก็ ก็ตุ๊กตาที่พี่เจบอกว่าแก้มสีแดงแล้วก็มีผมสีทองไงคะ”
“จำไม่ได้ ตุ๊กตาบ้าบออะไร” เจเดนเอาความโกรธแค้นที่มีกับมารดาฟาดใส่ผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ไล่มาตั้งแต่คุณครูประจำชั้น เพื่อนร่วมห้องหรือแม้แต่ผู้หญิงที่เดินผ่านแล้วทำท่าทางว่าอยากจะทักทายและตอนนี้เขากำลังรำคาญยัยเด็กผู้หญิงปากมากคนนี้เหลือเกิน
สุดาต้องไปพบคุณครูของเจเดนอยู่บ่อยๆ เพราะลูกชายก่อวีรกรรมแทบจะทุกสัปดาห์ทั้งชกต่อยและการใช้ถ้อยคำหยาบคายกับเพื่อนในชั้นเรียน เธอพยายามจะเป็นแม่ที่ดีแต่มันก็ยากเหลือเกิน
“ไปไกลๆ เลยน่ารำคาญ” เจเดนตะคอกใส่อรปรีญาแล้วกลับไปเหม่อมองทะเล จริงๆ เขาจำได้ว่าเธอพูดถึงตุ๊กตาตัวไหนแต่ตอนนี้เขาเกลียดผู้หญิงทุกคนเขาไม่อยากเข้าใกล้ไม่อยากสุงสิงไม่อยากอะไรด้วยทั้งนั้น
“ผู้หญิงก็เลวเหมือนกันหมดแกล้งตีหน้าซื่อ พ่อทนอยู่กับแม่ได้ยังไงกัน” เจเดนคิดในใจด้วยความเคียดแค้น
“พี่เจ ลืมได้ยังไงก็พี่เจสัญญาแล้ว” อรปรีญายังรบเร้าไม่เลิกเพราะเขาไม่เคยผิดคำพูดกับเธอสักครั้ง
“ไม่ได้ลืมแต่ไม่สนใจไม่อยากเอามาให้ รำคาญเข้าใจไหม ไปไกลๆ เลย จะไปไหนก็ไป” คราวนี้เจเดนลุกขึ้นยืนแล้วตวาดจนสุดเสียง อนิรุจรีบวิ่งมาหาน้องสาวทันที
“เจ มีอะไร” อนิรุจถามด้วยความตกใจ
“น้องนายนะสิ เซ้าซี้น่ารำคาญ”
“แล้วทำไมต้องเสียงดังกับน้องอรขนาดนั้นพูดดีๆ ก็ได้” อนิรุจจับให้น้องสาวซบหน้ามาที่แขนของตัวเองแล้วลูบหัวไปด้วย
“น้องเราทำอะไร”
“มาทวงตุ๊กตาบ้าบออะไรไม่รู้ โคตรน่ารำคาญเลย”
“พลั่ก” อนิรุจชกไปที่หน้าของเจเดนเต็มแรง มันมีสิทธิ์อะไรมาพูดจาเหยียบย่ำหัวใจน้องอรจนป่นปี้น้องเฝ้ารอวันนี้มาครึ่งค่อนปีเธออยากเห็นว่าตุ๊กตาผมสีทองของพี่เจจะสวยแค่ไหน
“ไอ้รุจ มึง” แล้วมีหรือที่เจเดนเลือดร้อนจะยอม เด็กชายสองคนซัดกันนัว ปีเตอร์กับสุดารีบวิ่งมาห้ามทันที
“ฮือๆๆ พี่รุจอย่า พี่เจอย่าทำ” อรปรีญาร้องไห้และห้ามทั้งสองคนไปด้วย
“แยก หยุดเดี๋ยวนี้” ปีเตอร์ต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะจับเด็กทั้งสองคนแยกกันได้
“ผมขอคุยกับเขาให้รู้เรื่อง” อนิรุจพูดไปหอบไป สายตาที่มองอีกฝ่ายวาวโรจน์ด้วยโทสะขั้นสูงสุดไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายจิตใจน้องอรของเขา
“แยกกันก่อน” ปีเตอร์ดึงทั้งคู่ให้ห่างจากกันด้วยความยากลำบาก
“ถ้าเขามีอะไรไม่ชอบใจก็ควรจะบอกกันตรงๆ คุยกันแบบลูกผู้ชายไม่ใช่ไปใส่อารมณ์กับคนที่ไม่รู้เรื่องด้วยถ้าเขาไม่ชอบขี้หน้าผมกับน้องอรเราสองคนก็จะไม่อยู่ให้เขาเหม็นขี้หน้าอีก ผมกับน้องเป็นส่วนเกินของทุกที่ผมเข้าใจดี”
“ปล่อย ผมจะไปคุยกับรุจ” เจเดนไม่เคยคิดว่าทั้งสองคนเป็นส่วนเกินแต่ตอนนี้เขาเหมือนจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าแม่ตัวเองความพาลความแค้นมันก็คอยจะระเบิดอยู่ตลอดเวลา เขากลัวว่าเด็กสาวที่แสนดีแบบน้องอรจะโตไปเป็นกะหรี่ร่านนอนกับผู้ชายไปทั่ว เขาทำใจไม่ได้แน่ๆ ถ้าน้องอรที่แสนอ่อนหวานจะกลายเป็นแบบนั้น
“ผมสัญญาว่าจะคุยไม่ชกกันอีก” เจเดนสะบัดตัวออกจากมือของบิดา
“ผมสัญญาครับ” อนิรุจก็เช่นกัน
เด็กชายสองคนเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ เจเดนเลือกห้องนอนแล้วปิดประตูตามหลังทั้งคู่ยืนอยู่คนละมุมห้องและจ้องหน้ากันเหมือนพร้อมจะฉีกเนื้อของอีกฝ่ายด้วยมือเปล่า
“น้องอรทำอะไรให้” อนิรุจเป็นคนเปิดปากพูดก่อน
“เปล่า”
“แล้วนายไปตะคอกไปตะโกนใส่น้องแบบนั้นทำไม” อนิรุจพยายามเก็บมือเก็บมือของตัวเองไว้เพราะการชกต่อยไม่ได้ช่วยให้ปัญหามันคลี่คลายมีแต่จะเพิ่มปมแห่งความร้าวฉานให้มากขึ้น
“เราขอโทษ” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เจอหน้ากันที่เจเดนมีแววตาที่อ่อนโยนลง อนิรุจมั่นใจว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เพื่อนของเขากลายเป็นคนพาลแบบนี้
“นายต้องไปขอโทษน้องอรแต่ไว้ก่อน นายเป็นอะไรนายไม่เหมือนเจคนก่อนเลยรู้ตัวใช่ไหม”
“เรา เรา ฮึกๆๆ” เจเดนพยายามจะพูดแต่ก็มีแค่ก้อนสะอื้นที่หลุดออกมา
“เจ นายบอกเราได้ทุกเรื่องเราเป็นเพื่อนกัน” อนิรุจเดินไปตบไหล่อีกฝ่ายแล้วดึงมากอด เจเดนกอดเพื่อนกลับเต็มแรงแล้วปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินออกมา ตั้งแต่รู้เรื่องของมารดาเขาไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้งเขาเปลี่ยนความเสียใจให้เป็นอารมณ์โกรธแค้นและการทำตัวเกะกะเกเรและเขาสะใจมากที่มารดาไม่กล้าต่อต้านเพราะเธอรู้ดีว่าที่ลูกชายทำตัวเหลวแหลกมันมีสาเหตุมาจากอะไร
“เราไม่ได้ตั้งใจจะว่าน้องอร” เจเดนเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเริ่มคุยกับเพื่อนดีๆ
“อืม เรารู้ มีอะไรรบกวนจิตใจนายอยู่เจบอกเรามาเถอะเผื่อเราช่วยได้”
“รุจ รักพ่อกับแม่มากใช่ไหม” เจเดนไม่ตอบแต่ถามอีกฝ่าย
“รักสิ รักมาก”
“แล้วถ้าพ่อแม่ของเราทำผิดนายจะให้อภัยไหม”
“ตอบยากมาก” อนิรุจไม่เข้าใจเลยว่าเรื่องนี้มันมาเกี่ยวกับที่เจเดนตะคอกน้องอรได้ยังไง
“แม่เราทำผิดและน่าขยะแขยง” เจเดนบอกและเขาก็กลับไปมีใบหน้าเรียบเฉยอีกครั้ง
“ยังไงเจ”
“เขานอนกับผู้ชายไปทั่วเขาทำแบบนั้นตั้งแต่เรายังเด็กตอนที่เรายังไม่เข้าใจว่าเซ็กส์มันคืออะไร เขาลากผู้ชายมามั่วในบ้านทั้งที่ยังเป็นเมียพ่อและตอนนี้ก็ยังทำอยู่”
“เฮ้ย แน่ใจหรอเจ”
“แน่สิ ก็เราเห็นกับตาแถมไอ้แฮริสมันยังเอาคลิปของพ่อมันกับแม่เราให้ดูด้วย”
“นายก็ต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขาแหละเจ” อนิรุจตบไหล่เพื่อนเพราะไม่รู้จะปลอบใจหรือพูดอะไรจริงๆ
“เรากลัวน้องอรจะกลายเป็นแบบนั้นเราไม่อยากให้น้องอรเป็นเหมือนแม่เรา”
“น้องอรจะไม่มีวันเป็นแบบนั้นเพราะเธอมีพี่ชายคอยดูแลถึงสองคน” อนิรุจบอก
“เราจะไปขอโทษน้องอร” แล้วเด็กชายสองคนก็เดินกอดคอกันออกไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ