Injury project รักอันตรายของยัยสโลว์ไลฟ์
7.7
เขียนโดย Mepale
วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.53 น.
5 บท
0 วิจารณ์
6,663 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560 13.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) Dangerous 03 : สายพิเศษ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ตื่นแล้วสินะยัยน้องสาว"
นี้คือประโยคแรกที่เธอได้ยินหลังจากที่ตื่นขึ้นมา นัยตาสีฟ้ามองหน้าเด็กชายด้วยแววตามึนงง ดันกายลุกขึ้นพิงพนักเตียง พลางเอ่ยประโยคเด็ดที่มักจะได้พบเจอในนิยายหลายเรื่อง ถามเด็กชายตรงหน้า "ที่นี่ที่ไหน แล้วคุณเป็นใคร ใครคือน้องสาวของคุณ"
คำถามที่ออกมาจากริมฝีปากอันนุ่มนิมเอ่ยออกมา ไม่ได้ทำให้เด็กชายรู้สึกรำคาญแต่อย่างใด เด็กชายทำเพียงสั่งให้องค์รักษ์ที่เฝ้าอยู่ด้านนอก "ไปตามเสด็จพ่อมา เธอฟื้นแล้ว"
องค์รักษ์เร่งรุดไปห้องทำงานโดยพลัน เด็กชายหันมาส่งยิ้มให้เด็กสาวอีกครั้ง "ฉันจะตอบคำถามเธอ ทีล่ะคำถามแล้วกัน ที่นี้คือพระราชวังลูมินัส ส่วนฉันชื่อว่า เดลโลนส์ คาริซม่า เธอเป็นน้องสาวของฉัน"
เด็กสาวขมวดคิ้วหมุน ก่อนสิ้นสติเธอจำได้ว่าตนได้ยินเสียงกีบม้าหลายตัวดังเข้ามาใกล้บริเวณที่เธออยู่ หรือว่าคนที่ช่วยเธอคือ... นัยตาสีฟ้าจ้องมองเด็กชายตรงหน้า ก็ต้องส่ายหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดนี้ออกไป มันจะเป็นไปได้ยังไง เด็กขายตัวเล็กแค่นี้ท่ามกลางพายุฝน จะสามารถช่วยเธอได้ "เอาล่ะ...ฉันบอกชื่อเธอไปแล้ว ถึงตาเธอที่ต้องแนะนำตัวบ้าง"
เด็กชายมองเด็กสาวด้วยแววตาหาคำตอบ ร่างเล็กรู้สึกอึกอักไม่น้อยที่ต้องบอกชื่อของตนเอง "เออ...คือว่า..."
เด็กชายส่งสายตาเร่งรัดให้เธอตอบ "อ้ำๆ อึ้งๆอยู่ได้ ตอบมาสิ" เด็กชายเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง ร่างเล็กไม่อยากจะตอบว่าตนเป็นใคร ราวกับสวรรค์มาโปรด เมื่อชายหนุ่มวัย 20 ปี เดินเข้ามาในห้อง ว่าพลาง
"น้องสาวของลูกชื่อ โรส อืม...ต้องเรียกเต็มๆว่า โรซาน คาริซม่า" ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก้าวเดินมานั่งยังเก้าอี้อีกตัวข้างๆเตียง ร่างเล็กพยักหน้าตามคำเอ่ยของเขาเพื่อยืนยันคำตอบ
"ยัยน้องสาวบอกแค่นี้ก็จบแล้ว เฮอะ" ว่าจบก็สะบัดหน้าไปอีกทาง
"หนูเดลออกไปก่อน พ่อมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับโรส" เดลโลนส์ไม่รอช้า เขาก้าวเดินออกไปอย่างว่าง่าย เอซมองตามบุตรชายไปสนสุดประตู เมื่อเห็นว่าเดลโลนส์ไม่ได้ซ่อนตัวหรือแอบฟัง จึงถอนสายตากลับมา "เด็กน้อย เธอคนจะสงสัยหลายเรื่องสินะ เราคือ เอซ คาริซม่า ไม่ต้องอธิบายก็รู้สินะว่าเราเป็นใคร"
"ท่านคือพระราชแห่งลูมินัส ทำไมถึงช่วยหม่อมฉันเพคะ" ร่างเล็กถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอไม่มีอารมณ์ตกใจใดๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชา
"เราช่วยเพราะเธอเป็นคนตามคำทำนายของแม่เฒ่าแห่งป่ามนตรา อีกอย่างเธอไม่ได้ไร้พลัง อย่างที่คนอื่นคิด รู้จักพลังสายพิเศษหรือไม่" มือหนารินน้ำเปล่าให้อีกฝ่ายดื่ม มือเล็กรับมาก่อนจะยกจิบเพียงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยตอบ
"รู้จักเพคะ แล้วหม่อมฉันเกี่ยวข้องอะไรกับพลังสายพิเศษ" พลังสายพิเศษมีผู้คนมากมาย เฝ้าหวังและปรารถนาที่จะมีมัน แต่น้อยคนนักที่จะมีพลังสายนี้ พลังสายพิเศษเป็นสายที่สามารถดึงพลังธาตุทุกธาตุมาใช้ร่วมกับพลังสายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เวทย์มนต์ ศาสตร์ลับ นักสู้ นักรบ ผู้ใช้อนิม่า ฯลฯ
"เกี่ยวสิ ที่เธอรู้มาคงมีแต่ข้อมูลพอสังเขปสินะ คนที่มีพลังสายพิเศษนั้น พลังจะตื่นช้ากว่าคนที่มีพลังสายอื่น ตามปกติเราจะทำการวัดสายพลังเมื่อตอนอายุห้าขวบ เมื่อพบว่าตนอยู่สายไหนก็เรียนและฝึกฝนทางด้านนั้น แต่สายพิเศษจะปรากฏขึ้นเมื่อตอนเธออายุเจ็ดขวบ การวัดพลังเมื่อตอนห้าขวบจึงไร้ผล" ร่างเล็กพยักเป็นเชิงเข้าใจ เอซจึงอธิบาย "ดังนั้นเธอจึงเป็นผู้มีพลังสายพิเศษ"
ร่างเล็กยังคงเฉยชา ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะถ้าหากเธอมีพลังสายพิเศษนั่นก็หมายความว่า เธอต้องฝึกฝนมากกว่าคนอื่น นับว่าเป็นเรื่องดี เธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อไปแก้แค้นคนเหล่านั้น แววตามุ่งมั่นฉายออกมาอย่างชัดเจน หลังจากทราบว่าตนไม่ได้ไร้พลัง "แล้วฝ่าบาทพอจะทราบไหมเพคะ ว่าใครที่จะสามารถเป็นอาจารย์ให้หม่อมฉันได้"
"เรื่องนั้นเราทราบและได้ส่งจดหมายไปหาคนผู้นั้นแล้ว หนูโรส นับจากนี้ชื่อของเธอคือโรส หรือ โรซาน คาริซม่า ธิดาบุญธรรมของเราและหนูโรสจะต้องเรียกเราว่า เสด็จพ่อ เข้าใจหรือไม่" น้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนทำให้ร่างเล็กรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากใบหน้าที่เคยเฉยชาก็เริ่มอ่อนลง
"เพคะเสด็จพ่อ"
"หนูโรสพักผ่อนเถิด พ่อมีงานต้องทำต่อ" เอซดันกายลุกขึ้นยืน ก่อนไปเขาวางมือบนศีรษะของร่างเล็ก มือหนาลูบศีรษะเด็กสาวอย่างอ่อนโยน "อีกสองวันคนผู้นั้นจะรับหนูไป ระหว่างนี้ก็เล่นเป็นเพื่อนหนูเดลพี่ชายของหนูหน่อยล่ะ"
เด็กสาวไม่ได้เอ่ยตอบอะไรอีก ทำเพียงพยักหน้าเท่านั้น เอซถอนมือตากศีรษะของร่างเล็กอย่างเสียดาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงรู้สึกเช่นนี้ จากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องนอนของร่างเล็ก คล้อยหลังเอซ เดลโลนส์ก็ก้าวเข้ามาในห้องอีกครั้ง ประโยคสุดท้ายของผู้เป็นบิดาเขาได้ยินมันอย่างชัดเจน 'อีกสองวันยัยน้องสาวจะถูกใครบางคนรับไป แล้วฉันจะเล่นกับใครล่ะทีนี้'
"อ้าวคุณเดลโลนส์ ยังไม่กลับอีกหรอคะ" ร่างเล็กที่กำลังจะล้มตัวนอน เพราะยังเพลียอยู่สบเข้ากับร่างของเด็กชาย จึงเอ่ยถาม
"ทำไมฉันต้องกลับ เลิกนอนเป็นผักได้แล้วยัยน้องสาว ออกไปเดินเล่นกัน" เดลโลนส์เอ่ยน้ำเสียงสดใสเจือแววบังคับ ร่างเล็กจำต้องดันกายลุกขึ้นและปีนลงจากเตียง เดลโลนส์กุมมือเด็กสาว ดึงให้เธอเดินตามเขาไปด้านนอกปราสาท
.
.
.
นัยตาสีครามจับจ้องเด็กทั้งสอง ที่กำลังชมนกชมไม้ภายในสวนข้างปราสาท ร่างระหงษ์มองด้วยแววตาเอ็นดูขณะยืนอยู่บนระเบียงของห้องทรงงานของพระราชาแห่งลูมินัส ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูธรรมชาติเปรยออกมา "ท่าทางหนูเดลจะชอบหนูโรสมากนะเพคะ เสด็จพี่"
"ลีอาร์คิดเช่นนั้นรึ ไม่ใช่ว่าหนูเดลจะหาเรื่องแกล้งหนูโรสหรอกนะ ปกติพวกลูกขุนนางที่มาเล่นด้วยก็โดนหนูเดลตัวแสบแกล้งตลอด" ส่ายพระพักตร์อย่างที่ไม่เคยจะเชื่อนักว่าไอ้ลูกชายตัวแสบจะเล่นอะไรดีๆ นอกจากการแกล้ง
"ลองทอดพระเนตรสิเพคะ หนูเดลไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครแน่ๆ" ลีอาร์แย้มยิ้มพิมพ์ใจเอ่ยเชิญชวนผู้เป็นสวามี เอซไม่รอช้ารีบตรงไปที่ระเบียง นัยตาอเมทิสมองลงไปยังสวนเบื้องล่าง เอซตกใจพอสมควร ที่ไอ้ลูกชายตัวแสบกำลังทำมงกุฏดอกไม้และสวมให้กับเด็กสาว "เห็นรึยังเพคะ หนูเดลต้องชอบหนูโรสมากแน่ๆ"
"อะ....อืม" นัยตาอเมทิสยังคงไม่ล่ะสายตาจากเด็กทั้งสอง เพื่อจับผิดไอ้ลูกชาย
ณ ด้านล่าง
ร่างเล็กในชุดผ้าเนื้อดีสีขาวลายปักรูปผีเสื้อ ยังคงมีใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิม เด็กสาวไม่คิดเลยว่าเด็กชายตรงหน้าจะเล่นอะไรที่มันดูผู้หญิงขนาดนี้ เด็กชายวางมงกุฏดอกไม้ ไว้บนศีรษะของเด็กสาวอย่งทะนุถนอม พร่ำบ่นเสียงดังขึ้น
"นับแต่นี้ไป ยันน้องสาวคือราชินีของฉัน" เอ่ยด้วยเสียงที่ตนคิดว่ามั่นใจแบสุดๆ "เลิกทำหน้านิ่งแล้วยิ้มซะที"
'ใครอยากเป็นราชินีของนายกัน' หากเธอพูดออกไปแบบที่ใจคิดได้ก็คงดีไม่น้อย เด็กสาวยังคงนั่งบนพื้นหญ้ามองการกระทำต่อไปของเด็กชาย เขาเดินออกไปเก็บดอกไม้มาเพิ่ม ระหว่างที่เดินก็คว้านหาบางอย่างจากกอหญ้า เพื่อกลั่นแกล้งเด็กสาว เดลโลนส์ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำสถิติการแกล้งยัยน้องสาวให้ได้มากๆ ก่อนที่เธอจะไป คนที่จะโดนแกล้งยังคงทำหน้านิ่งเช่นเดิม
ในที่สุดเดลโลนส์ก็หาบางสิ่งบางอย่าเจอ มันคือกบนั้นเอง เด็กชายจับมันขึ้นมาพลางเหยียดยิ้มอย่างร้ายกาจ เอามันไปซ่อนไว้ในช่อดอกไม้ที่ตนเด็ดมาเยอะแยะ เขาเดินกลับมาหาร่างเล็ก ยื่นช่อดอกไม้ให้กับเธอ มือเล็กรับมานัยตาสีฟ้ามองบางสิ่งในช่อดอกไม้นิ่ง บางสิ่งที่ว่านั่นก็คือ กบ ตัวเขียวและมีผิวขรุขระ ร่างเล็กเริ่มเข้าใจแล้วว่า เด็กชายตรงหน้าคิดจะทำอะไร
"ไอ้พี่ชาย!!" และแล้วมหกรรมวิ่งไล่โดยใช้ดอกไม้เป็นอาวุธฟาดฟันก็ได้เกิดขึ้น เดลโลนส์แย้มยิ้มสนุกสนานที่เด็กสาวฟาดไม่โดนเขาซะที นับจากนี้ไปการกลั่นแกล้งน้องสาวคงกลายเป็นกิจวัตรประจำของเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
ร่างเล็กหอบหายใจเสียงดัง หลังจากวิ่งไล่เด็กชายได้สักพัก เด็กสาวหันซ้ายแลขวาก็ไม่พบเดลโลนส์ จึงทรุดกายลงกับพื้นหญ้าเพื่อหยุดหายใจ เดลโลนส์ค่อยๆย่องมาทางด้านหลังพร้อมกับกบตัวเดิมที่หล่นจากช่อดอกไม้เมื่อครู่ "ยัยน้องสาวววววว"
เดลโลนส์ลากเสียงยาว ประจวบกับที่ร่างหันมาเขาก็โยนกบใส่เด็กสาว แปะ!! เด็กสาวร้องลั่นแบบไม่เกรงใจใคร "กรี๊ดดดดดดดดดดด ไอ้พี่บ้าาาาาา"
มือเล็กปัดมันออก ใบหน้างามเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย เดลโลนส์หัวเราะด้วยความชอบใจ มือเล็กชี้หน้าเด็กชายเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง "ฉันจะไม่เล่นกับพี่อีกแล้ว!! หึ!" ว่าจบก็หมุนตัววิ่งเข้าปราสาทไป ตอนนี้เธอโกรธเด็กชายคนนี้มาก
เสียงหัวเราะของเขาลดลงและเงียบไปในที่สุด ประโยคที่เด็กสาวเอ่ยกับเขาเมื่อครู่ ยังคงก้องอยู่ในหู 'ฉันจะไม่เล่นกับพี่อีกแล้วๆๆๆ'
"ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องรีบไปง้อยัยนั่น ไม่งั้นฉันจะแกล้งใคร"
----------------------------------------To be continued--------------------------
แต่ล่ะตอนสั้นยาวไม่เท่ากัน ขออภัยหายเขียนคำใดผิด
คนที่ทำให้โรสปรี๊ดแตกได้ คือเดลโลนส์
นี้คือประโยคแรกที่เธอได้ยินหลังจากที่ตื่นขึ้นมา นัยตาสีฟ้ามองหน้าเด็กชายด้วยแววตามึนงง ดันกายลุกขึ้นพิงพนักเตียง พลางเอ่ยประโยคเด็ดที่มักจะได้พบเจอในนิยายหลายเรื่อง ถามเด็กชายตรงหน้า "ที่นี่ที่ไหน แล้วคุณเป็นใคร ใครคือน้องสาวของคุณ"
คำถามที่ออกมาจากริมฝีปากอันนุ่มนิมเอ่ยออกมา ไม่ได้ทำให้เด็กชายรู้สึกรำคาญแต่อย่างใด เด็กชายทำเพียงสั่งให้องค์รักษ์ที่เฝ้าอยู่ด้านนอก "ไปตามเสด็จพ่อมา เธอฟื้นแล้ว"
องค์รักษ์เร่งรุดไปห้องทำงานโดยพลัน เด็กชายหันมาส่งยิ้มให้เด็กสาวอีกครั้ง "ฉันจะตอบคำถามเธอ ทีล่ะคำถามแล้วกัน ที่นี้คือพระราชวังลูมินัส ส่วนฉันชื่อว่า เดลโลนส์ คาริซม่า เธอเป็นน้องสาวของฉัน"
เด็กสาวขมวดคิ้วหมุน ก่อนสิ้นสติเธอจำได้ว่าตนได้ยินเสียงกีบม้าหลายตัวดังเข้ามาใกล้บริเวณที่เธออยู่ หรือว่าคนที่ช่วยเธอคือ... นัยตาสีฟ้าจ้องมองเด็กชายตรงหน้า ก็ต้องส่ายหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดนี้ออกไป มันจะเป็นไปได้ยังไง เด็กขายตัวเล็กแค่นี้ท่ามกลางพายุฝน จะสามารถช่วยเธอได้ "เอาล่ะ...ฉันบอกชื่อเธอไปแล้ว ถึงตาเธอที่ต้องแนะนำตัวบ้าง"
เด็กชายมองเด็กสาวด้วยแววตาหาคำตอบ ร่างเล็กรู้สึกอึกอักไม่น้อยที่ต้องบอกชื่อของตนเอง "เออ...คือว่า..."
เด็กชายส่งสายตาเร่งรัดให้เธอตอบ "อ้ำๆ อึ้งๆอยู่ได้ ตอบมาสิ" เด็กชายเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง ร่างเล็กไม่อยากจะตอบว่าตนเป็นใคร ราวกับสวรรค์มาโปรด เมื่อชายหนุ่มวัย 20 ปี เดินเข้ามาในห้อง ว่าพลาง
"น้องสาวของลูกชื่อ โรส อืม...ต้องเรียกเต็มๆว่า โรซาน คาริซม่า" ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก้าวเดินมานั่งยังเก้าอี้อีกตัวข้างๆเตียง ร่างเล็กพยักหน้าตามคำเอ่ยของเขาเพื่อยืนยันคำตอบ
"ยัยน้องสาวบอกแค่นี้ก็จบแล้ว เฮอะ" ว่าจบก็สะบัดหน้าไปอีกทาง
"หนูเดลออกไปก่อน พ่อมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุยกับโรส" เดลโลนส์ไม่รอช้า เขาก้าวเดินออกไปอย่างว่าง่าย เอซมองตามบุตรชายไปสนสุดประตู เมื่อเห็นว่าเดลโลนส์ไม่ได้ซ่อนตัวหรือแอบฟัง จึงถอนสายตากลับมา "เด็กน้อย เธอคนจะสงสัยหลายเรื่องสินะ เราคือ เอซ คาริซม่า ไม่ต้องอธิบายก็รู้สินะว่าเราเป็นใคร"
"ท่านคือพระราชแห่งลูมินัส ทำไมถึงช่วยหม่อมฉันเพคะ" ร่างเล็กถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอไม่มีอารมณ์ตกใจใดๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชา
"เราช่วยเพราะเธอเป็นคนตามคำทำนายของแม่เฒ่าแห่งป่ามนตรา อีกอย่างเธอไม่ได้ไร้พลัง อย่างที่คนอื่นคิด รู้จักพลังสายพิเศษหรือไม่" มือหนารินน้ำเปล่าให้อีกฝ่ายดื่ม มือเล็กรับมาก่อนจะยกจิบเพียงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยตอบ
"รู้จักเพคะ แล้วหม่อมฉันเกี่ยวข้องอะไรกับพลังสายพิเศษ" พลังสายพิเศษมีผู้คนมากมาย เฝ้าหวังและปรารถนาที่จะมีมัน แต่น้อยคนนักที่จะมีพลังสายนี้ พลังสายพิเศษเป็นสายที่สามารถดึงพลังธาตุทุกธาตุมาใช้ร่วมกับพลังสายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เวทย์มนต์ ศาสตร์ลับ นักสู้ นักรบ ผู้ใช้อนิม่า ฯลฯ
"เกี่ยวสิ ที่เธอรู้มาคงมีแต่ข้อมูลพอสังเขปสินะ คนที่มีพลังสายพิเศษนั้น พลังจะตื่นช้ากว่าคนที่มีพลังสายอื่น ตามปกติเราจะทำการวัดสายพลังเมื่อตอนอายุห้าขวบ เมื่อพบว่าตนอยู่สายไหนก็เรียนและฝึกฝนทางด้านนั้น แต่สายพิเศษจะปรากฏขึ้นเมื่อตอนเธออายุเจ็ดขวบ การวัดพลังเมื่อตอนห้าขวบจึงไร้ผล" ร่างเล็กพยักเป็นเชิงเข้าใจ เอซจึงอธิบาย "ดังนั้นเธอจึงเป็นผู้มีพลังสายพิเศษ"
ร่างเล็กยังคงเฉยชา ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะถ้าหากเธอมีพลังสายพิเศษนั่นก็หมายความว่า เธอต้องฝึกฝนมากกว่าคนอื่น นับว่าเป็นเรื่องดี เธอจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อไปแก้แค้นคนเหล่านั้น แววตามุ่งมั่นฉายออกมาอย่างชัดเจน หลังจากทราบว่าตนไม่ได้ไร้พลัง "แล้วฝ่าบาทพอจะทราบไหมเพคะ ว่าใครที่จะสามารถเป็นอาจารย์ให้หม่อมฉันได้"
"เรื่องนั้นเราทราบและได้ส่งจดหมายไปหาคนผู้นั้นแล้ว หนูโรส นับจากนี้ชื่อของเธอคือโรส หรือ โรซาน คาริซม่า ธิดาบุญธรรมของเราและหนูโรสจะต้องเรียกเราว่า เสด็จพ่อ เข้าใจหรือไม่" น้ำเสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนทำให้ร่างเล็กรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากใบหน้าที่เคยเฉยชาก็เริ่มอ่อนลง
"เพคะเสด็จพ่อ"
"หนูโรสพักผ่อนเถิด พ่อมีงานต้องทำต่อ" เอซดันกายลุกขึ้นยืน ก่อนไปเขาวางมือบนศีรษะของร่างเล็ก มือหนาลูบศีรษะเด็กสาวอย่างอ่อนโยน "อีกสองวันคนผู้นั้นจะรับหนูไป ระหว่างนี้ก็เล่นเป็นเพื่อนหนูเดลพี่ชายของหนูหน่อยล่ะ"
เด็กสาวไม่ได้เอ่ยตอบอะไรอีก ทำเพียงพยักหน้าเท่านั้น เอซถอนมือตากศีรษะของร่างเล็กอย่างเสียดาย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตนถึงรู้สึกเช่นนี้ จากนั้นชายหนุ่มก็เดินออกจากห้องนอนของร่างเล็ก คล้อยหลังเอซ เดลโลนส์ก็ก้าวเข้ามาในห้องอีกครั้ง ประโยคสุดท้ายของผู้เป็นบิดาเขาได้ยินมันอย่างชัดเจน 'อีกสองวันยัยน้องสาวจะถูกใครบางคนรับไป แล้วฉันจะเล่นกับใครล่ะทีนี้'
"อ้าวคุณเดลโลนส์ ยังไม่กลับอีกหรอคะ" ร่างเล็กที่กำลังจะล้มตัวนอน เพราะยังเพลียอยู่สบเข้ากับร่างของเด็กชาย จึงเอ่ยถาม
"ทำไมฉันต้องกลับ เลิกนอนเป็นผักได้แล้วยัยน้องสาว ออกไปเดินเล่นกัน" เดลโลนส์เอ่ยน้ำเสียงสดใสเจือแววบังคับ ร่างเล็กจำต้องดันกายลุกขึ้นและปีนลงจากเตียง เดลโลนส์กุมมือเด็กสาว ดึงให้เธอเดินตามเขาไปด้านนอกปราสาท
.
.
.
นัยตาสีครามจับจ้องเด็กทั้งสอง ที่กำลังชมนกชมไม้ภายในสวนข้างปราสาท ร่างระหงษ์มองด้วยแววตาเอ็นดูขณะยืนอยู่บนระเบียงของห้องทรงงานของพระราชาแห่งลูมินัส ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูธรรมชาติเปรยออกมา "ท่าทางหนูเดลจะชอบหนูโรสมากนะเพคะ เสด็จพี่"
"ลีอาร์คิดเช่นนั้นรึ ไม่ใช่ว่าหนูเดลจะหาเรื่องแกล้งหนูโรสหรอกนะ ปกติพวกลูกขุนนางที่มาเล่นด้วยก็โดนหนูเดลตัวแสบแกล้งตลอด" ส่ายพระพักตร์อย่างที่ไม่เคยจะเชื่อนักว่าไอ้ลูกชายตัวแสบจะเล่นอะไรดีๆ นอกจากการแกล้ง
"ลองทอดพระเนตรสิเพคะ หนูเดลไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครแน่ๆ" ลีอาร์แย้มยิ้มพิมพ์ใจเอ่ยเชิญชวนผู้เป็นสวามี เอซไม่รอช้ารีบตรงไปที่ระเบียง นัยตาอเมทิสมองลงไปยังสวนเบื้องล่าง เอซตกใจพอสมควร ที่ไอ้ลูกชายตัวแสบกำลังทำมงกุฏดอกไม้และสวมให้กับเด็กสาว "เห็นรึยังเพคะ หนูเดลต้องชอบหนูโรสมากแน่ๆ"
"อะ....อืม" นัยตาอเมทิสยังคงไม่ล่ะสายตาจากเด็กทั้งสอง เพื่อจับผิดไอ้ลูกชาย
ณ ด้านล่าง
ร่างเล็กในชุดผ้าเนื้อดีสีขาวลายปักรูปผีเสื้อ ยังคงมีใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิม เด็กสาวไม่คิดเลยว่าเด็กชายตรงหน้าจะเล่นอะไรที่มันดูผู้หญิงขนาดนี้ เด็กชายวางมงกุฏดอกไม้ ไว้บนศีรษะของเด็กสาวอย่งทะนุถนอม พร่ำบ่นเสียงดังขึ้น
"นับแต่นี้ไป ยันน้องสาวคือราชินีของฉัน" เอ่ยด้วยเสียงที่ตนคิดว่ามั่นใจแบสุดๆ "เลิกทำหน้านิ่งแล้วยิ้มซะที"
'ใครอยากเป็นราชินีของนายกัน' หากเธอพูดออกไปแบบที่ใจคิดได้ก็คงดีไม่น้อย เด็กสาวยังคงนั่งบนพื้นหญ้ามองการกระทำต่อไปของเด็กชาย เขาเดินออกไปเก็บดอกไม้มาเพิ่ม ระหว่างที่เดินก็คว้านหาบางอย่างจากกอหญ้า เพื่อกลั่นแกล้งเด็กสาว เดลโลนส์ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำสถิติการแกล้งยัยน้องสาวให้ได้มากๆ ก่อนที่เธอจะไป คนที่จะโดนแกล้งยังคงทำหน้านิ่งเช่นเดิม
ในที่สุดเดลโลนส์ก็หาบางสิ่งบางอย่าเจอ มันคือกบนั้นเอง เด็กชายจับมันขึ้นมาพลางเหยียดยิ้มอย่างร้ายกาจ เอามันไปซ่อนไว้ในช่อดอกไม้ที่ตนเด็ดมาเยอะแยะ เขาเดินกลับมาหาร่างเล็ก ยื่นช่อดอกไม้ให้กับเธอ มือเล็กรับมานัยตาสีฟ้ามองบางสิ่งในช่อดอกไม้นิ่ง บางสิ่งที่ว่านั่นก็คือ กบ ตัวเขียวและมีผิวขรุขระ ร่างเล็กเริ่มเข้าใจแล้วว่า เด็กชายตรงหน้าคิดจะทำอะไร
"ไอ้พี่ชาย!!" และแล้วมหกรรมวิ่งไล่โดยใช้ดอกไม้เป็นอาวุธฟาดฟันก็ได้เกิดขึ้น เดลโลนส์แย้มยิ้มสนุกสนานที่เด็กสาวฟาดไม่โดนเขาซะที นับจากนี้ไปการกลั่นแกล้งน้องสาวคงกลายเป็นกิจวัตรประจำของเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
ร่างเล็กหอบหายใจเสียงดัง หลังจากวิ่งไล่เด็กชายได้สักพัก เด็กสาวหันซ้ายแลขวาก็ไม่พบเดลโลนส์ จึงทรุดกายลงกับพื้นหญ้าเพื่อหยุดหายใจ เดลโลนส์ค่อยๆย่องมาทางด้านหลังพร้อมกับกบตัวเดิมที่หล่นจากช่อดอกไม้เมื่อครู่ "ยัยน้องสาวววววว"
เดลโลนส์ลากเสียงยาว ประจวบกับที่ร่างหันมาเขาก็โยนกบใส่เด็กสาว แปะ!! เด็กสาวร้องลั่นแบบไม่เกรงใจใคร "กรี๊ดดดดดดดดดดด ไอ้พี่บ้าาาาาา"
มือเล็กปัดมันออก ใบหน้างามเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย เดลโลนส์หัวเราะด้วยความชอบใจ มือเล็กชี้หน้าเด็กชายเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง "ฉันจะไม่เล่นกับพี่อีกแล้ว!! หึ!" ว่าจบก็หมุนตัววิ่งเข้าปราสาทไป ตอนนี้เธอโกรธเด็กชายคนนี้มาก
เสียงหัวเราะของเขาลดลงและเงียบไปในที่สุด ประโยคที่เด็กสาวเอ่ยกับเขาเมื่อครู่ ยังคงก้องอยู่ในหู 'ฉันจะไม่เล่นกับพี่อีกแล้วๆๆๆ'
"ไม่ได้การล่ะ ฉันต้องรีบไปง้อยัยนั่น ไม่งั้นฉันจะแกล้งใคร"
----------------------------------------To be continued--------------------------
แต่ล่ะตอนสั้นยาวไม่เท่ากัน ขออภัยหายเขียนคำใดผิด
คนที่ทำให้โรสปรี๊ดแตกได้ คือเดลโลนส์
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ