Injury project รักอันตรายของยัยสโลว์ไลฟ์

7.7

เขียนโดย Mepale

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.53 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  6,808 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560 13.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Dangerous 02 : ตื่นแล้วสินะยัยน้องสาว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ยามเช้าท้องฟ้ามืดครึม สายฝนค่อยๆโปรยลงมา ร่างเล็กออกมาจากห้องขัง ถูกพาตัวไปที่ห้องรับรองของพระราชวัง เหล่านางกำนัลนำเสื้อธรรมดามาให้โรซาเนียนสวม โรซาเนียที่ไม่กรีดร้องทำให้พวกนางกำนัลแปลกใจมิใช่น้อย นัยตาสีฟ้ายังคงไว้ซึ่งความเย็นชา ร่างเล็กหยิบเสื้อคลุมสีดำออกมาสวมทับภายนอก เมื่อแต่งกายเรียบร้อยเธอก็เดินตามทหารที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก ลงไปยังลานหน้าพระราชวัง ก่อนขึ้นรถม้านัยตาสีฟ้าสบเข้ากับ เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินนัยตาสีเดียวกันกับเส้นผมยืนรออยู่ข้างๆรถม้า ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เขาคือ ยูจีน เรนเดล อัศวินประจำตัวของเธอ อายุของยูจีนห่างร่างเล็กสามปี

เมื่อมาถึงรถม้าโรซาเนียก็ปีนขึ้นไปนั่งได้สำเร็จ ถึงจะทุลักทุเลก็ตาม เด็กหนุ่มเข้ามานั่งยังฝั่งตรงข้าม ประตูรถม้าถูกปิดลง ไม่นานรถม้าก็เครื่องที่ออกจากพระราชวัง หากกล่าวกันตามตรงยูจีนไม่อยากที่จะมากกับร่างเล็กตรงหน้า เขาอยากอยู่กับจูเลียมากกว่า ภายในรถม้าเต็มไปด้วยความเงียบ สายฝนยังคงโปรยปรายไม่มีทีท่าว่าจะหยุด นัยตาสีฟ้ามองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ยูจีนทนความเงียบเช่นนี้ไม่ไหวจึงเอ่ยเหน็บแนมร่างเล็ก

"หึ! คนอย่างเธอนี่มันน่าจะตายๆไปซะ อย่าคิดเข้าข้างตนเองล่ะ ที่ฉันตามสวะอย่างเธอมาเพราะจูเลียขอร้องหรอกนะ สำนึกบุญคุณจูเลียด้วย" ความจริงแล้วจูเลียไม่ได้ขอให้เขามา แต่พระราชาเป็นผู้มอบหน้าที่ให้เขาคุ้มกันเด็กสาว แม้จะเป็นคนในพันธสัญญา จะมาหรือไม่ก็ได้

โรซาเนียยังคงเงียบเช่นเดิม ก่อนจะเอ่ยราวกับนึกบางอย่างออก "พูดจบยัง ถ้าพูดจบแล้วก็หุบปากและอยู่เงียบๆซะฉันจะนอน"

ร่างเล็กค่อยๆเอนตัวลงนอนกับที่นั่งที่กว้างพอสมควร เปลือกตากำลังจะปิดลง ครั้นรถม้าได้หยุดลงระหว่างทางเข้าออกเมืองทางด้านตะวันออก เสียงหวานดังขึ้นด้านนอกรถม้า เปลือกตาที่กำลังจะปิดก็ต้องลืมขึ้น ยูจีนเตรียมจะลงรถม้าไปหาหญิงในดวงใจ แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าหลังจากได้ยินเสียงหวานของจูเลีย

"ท่าน...นังโรซาเนีย นังตัวไร้ค่าลงมาเดียวนี้นะ!!" จูเลียเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว โดยที่ตนไม่รู้ว่านอกจากโรซาเนีย ยังมีใครอีกคนอยู่บนรถม้า

เธอเห็นว่ายูจีนชะงักแบบนั้นจึงเอ่ยเสียงเรียบนิ่งแบบไม่ดังมากเกินไป "ถ้าไม่ลงก็หลีกไป"

ยูจีนถอยกลับมานั่งที่เดิน โรซาเนียเตรียมจะเปิดประตูลงไป ครั้นฉุกคิดได้ว่าตอนปีนมันลำบาก เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่ออกมาจากรถม้า "มีอะไร"

"หึ! ไม่กล้าสู้หน้าฉันสินะ ก่อนแกจะไปฉันต้องขอบคุณแก" จูเลียเอ่ยน้ำเสียงเย้ยหยัน ยูจีนที่ได้รับรู้ความจริงแทบช็อค

"ขอบคุณ??" โรซาเนียนิ้วหน้าเธอขี้เกียจต่อปากต่อคำกับผู้หญิงคนนี้

"ท่านหญิง....โอ้วววไม่ใช่สิ โรซาเนีย ในที่สุดทุกๆสิ่งที่เป็นของเธอ ก็ตกเป็นของฉัน"

โรซาเนียไม่ได้สนใจคำเอ่ยของจูเลีย เธอสั่งให้คนขับรถม้าเคลื่อนรถออกจากเมืองหลวง จูเลียจ้องรถม้าด้วยแววตาแข็งกร้าว พลางสั่งคนชุดดำที่ตนว่าจ้างมาให้ตามรถม้าคันนั้นไปโดยพลัน "เมื่อถึงชายป่าใกล้เขตอื่นก็รีบลงมือทันที"

รถม้าเคลื่อนตัวได้ไกลจากตัวเมืองหลวงจะเข้าสู่เขตถัดไป ก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่านักฆ่า ยูจีนหากช็อคจากเรื่องเมื่อครู่ เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารรอบๆรถม้า โรซาเนียก็รับรู้การมาถึงของพวกมัน ร่างเล็กกำมัดแน่น เธอประเมินกำลังของยูจีน เขาสามารถไม่สามารถปกป้องตนเองได้ อีกอย่างนักฆ่าพวกนั้นคงเข้าใจว่ามีแต่เธออยู่ในรถม้า โรซาเนียเอ่ยเสียงอ่อนลงเล็กน้อย "ห้ามตายนะยูจีน นายต้องรอด"

เอ่ยจบเธอก็สับเข้าที่ท้ายทอยของยูจีน "นี่เธอ...." เด็กหนุ่มทรุดกายสลบลงบนที่นั่งของตน เขาไม่เข้าใจว่าโรซาเนียคิดจะทำอะไร

ร่างเล็กกระโดดลงรถม้า คนขับรถม้าถูกสังหารไปแล้ว เด็กสาววิ่งฝ่าวงล้อมออกไปได้อย่างรวดเร็ว ทักษะนี้เธอได้มาจากการวิ่งไล่เจ้าชายบ่อยๆ มันก็มีประโยชน์ตอนนี้แหละ เธอใช้ทักษะการวิ่งร่วมกับพลังธาตุดินเพื่อเสริมกำลังทางกายภาพ หลังจากความทรงจำกลับมาพลังธาตุที่ไม่เคยมีก็ปรากฏขึ้นเมื่อวาน ประกอบกับโรซาเนียนั้นเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ทำให้เธอประยุกต์ใช้พลังธาตุได้ เรื่องความชอบในการอ่านหนังสือไม่มีใครรับรู้หรอก เพราะคนส่วนใหญ่มักมองข้ามและคิดว่าโรซาเนียมีดีแค่หน้าตา

นักฆ่าตกตะลึงเล็กน้อยที่รับรู้ถึงพลังธาตุจากร่างเล็กที่กำลังหลบหนีพวกเขา สายฝนเริ่มกระหน่ำรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากแผนที่ที่เธอศึกษาตอนห้าขวบ จำได้ว่าหากผ่านพ้นป่านี้ไปจะเป็นเขตของอาณาจักรลูมินัส และข้อมูลบางอย่างที่เคยอ่านเจอในหนังสือคือ บริเวณก่อนพ้นจากป่ามีการกางมนตราเอาไว้ เป็นมนตราที่กางเอาไว้จับผู้ครอบครองอาวุธโดยเฉพาะ ตรวจจับไม่ได้เพราะมนตราเบาบางมาก แม้เบาบางแต่อนุภาคก็มากพอที่จะฆ่าพวกมัน โชคดีที่เธอไม่พกอาวุธใดๆมา

โรซาเนียวิ่งไปไม่หยุด พลังเสริมกายภาพของเธอเริ่มลดลงแล้ว เธอฝืนเร่งสปีดให้เต็มที่ 'อีกนิดเดียวอดทนไว้ ฉันจะมาตายตรงนี้ไม่ได้'

อัก!!

อ๊าก!!

โรซาเนียหยุดฝีเท้าหลังจากได้ยินเสียงร้องโหยหวนของพวกนักฆ่า 'มนตราเริ่มทำงานแล้วสินะ' เธอไม่รอช้ารีบวิ่งต่อไปทันที ไม่นานก็พ้นเขตป่า เข้าสู่เขตทุ่งกว้างของอาณาจักรลูมินัส ในที่สุดเธอก็รอดแล้ว

ซ่าๆ ครืนๆ

ท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมา ยังมีร่างเล็กของเด็กสาววัย 7 ขวบ ภายใต้ชุดคลุมสีดำ ก้าวย่างไปเรื่อยๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอยังจำคำพูดของจูเลียได้ดี มันเป็นคำพูดที่แสนจะร้ายกาจก่อนที่รถม้าจะเคลื่อนออกจากเมืองหลวง 'ท่านหญิง....โอ้วววไม่ใช่สิ โรซาเนีย ในที่สุดทุกๆสิ่งที่เป็นของเธอ ก็ตกเป็นของฉัน'

ร่างเล็กหยุดก้าวเดินและแหงนมองท้องฟ้าซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยสีเทา ฝนยังคงกระหน่ำลงมาเรื่อยๆ หากไม่ใช่เพราะโดนกลุ่มนักฆ่าพวกนั้นลอบสังหาร เธอไม่ได้มาเดินท่ามกลางพายุฝนฟ้าคะนองเช่นนี้แน่ และเธอก็พอจะเดาออกว่าใครเป็นคนว่าจ้างนักฆ่า "น่าสมเพชที่สุด โง่กันทั้งดยุคและดัสเชส...เหอะ...สักวันฉันจะแก้แค้น...."

ฟุบ!

เอ่ยยังไม่ทันครบประโยคร่างเล็กก็ทรุดลงไปนอนกับพื้นดินทันที สติค่อยๆเลือนลางทุกที แม้จะพยายามฝืนร่างกายให้ลุกขึ้น ก็ไม่สามารถจะลุกขึ้นมาได้ ราวกับโดนบางอย่างตรึงเอาไว้ ก่อนจะสิ้นสติเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าหลายตัวดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และแล้วสติก็ดับลงไปในที่สุด ชายหนุ่มในผ้าคลุมสีขาวไร้ลวดลาย ควบม้าเข้ามาหยุดบริเวณที่มีร่างใต้ผ้าคลุมสีดำสลบอยู่ เขาตวัดตัวลงจากหลังม้าก้าวเดินเข้าไปหาร่างเล็ก คนอื่นๆที่ตามมาในฐานะองค์รักษ์ยังคงอยู่บนหลังม้า พลางสอดส่องสายตาไปทั่วบริเวณอย่างรอบครอบ เพื่อคุ้มกันชายหนุ่มในผ้าคลุมสีขาว

นัยตาสีอเมทิสกวาดสายตามองสำรวจร่างเล็ก ก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นอุ้ม ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มราวกับมีเรื่องสนุก ชายหนุ่มส่งตัวหญิงสาวขึ้นบนหลังม้า พลางตวัดกายขึ้นมาตาม เขาจัดให้ร่างเล็กพิงมาที่อกแกร่งของตน ไม่นานชายหนุ่มและเหล่าองค์รักษ์ก็ควบม้ากลับไปยังแผ่นดินของตน

'อย่าได้เสียใจภายหลังก็แล้วกัน ราชาแห่งสเวน'

.

.

.

ยูจีนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้น พลางรีบออกจากรถม้า นัยตาสีน้ำเงินสบเข้ากับคนขับรถม้าที่เสียชีวิตไปแล้วและร่องรอยกีบเท้าของม้า ที่มุ่งตรงเข้าไปยังป่า ในใจของเด็กหนุ่มร้อนหลนยิ่งกว่าปกติ กระนั้นก็พบว่าที่มือด้านขวาสัญลักษณ์ในการทำพันธสัญญาการเป็นอัศวิน ยังไม่จางหายไปไหน เด็กหนุ่มเพ้งสมาธิเพื่อหาสัญญาณชีพ แม้จะบางเบาจนแทบสัมผัสไม่ได้ แต่ก็ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย 'โรซาเนียยังมีชีวิตอยู่'

เด็กหนุ่มถอดตัวเชื่อมระหว่างรถม้ากับตัวม้าออก พลางตวัดกายขึ้นม้า ควบกลับเมืองหลวงโดยพลัน เขามีรางสังหรณ์ว่าสักวันจะต้องได้พบกันอีก และมีหลายๆสิ่งที่ยังไม่ได้พูดกับเธอ เช่นคำว่า ขอโทษ

เด็กหนุ่มตัดสินใจร่ายเวทย์ดึงพลังธาตุลมเข้ามาเสริม ม้าจึงวิ่งได้เร็วกว่าเดิม ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึงเมืองหลวง ยูจีนเข้าเฝ้าพระราชาแห่งสเวนทันที ขณะที่พระราชากำลังตรวจราชกิจ เขาทำเพียงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

"ถวายบังคมพะยะค่ะ" เด็กหนุ่มคุกเข่าลงอย่างน้อบน้อม

"ไม่ต้องมากพิธี" พระราชาเอ่ยเสียงเรียบ ทำให้ยูจีนเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ออก

"ทูลฝ่าบาท ระหว่างทางเข้าเขตถัดไป ได้ทีนักฆ่าหลายสิบคนเข้ามาหมายจะสังหาร....." ยูจีนตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ตนเองโดนโรซาเนียสับเข้าที่คอทำให้สลบ และร่องรอยกีบเท้าของม้าหลายตัวที่เข้าไปในป่า เขตแดนที่กั้นระหว่างสองอาณาจักร พระราชากำพระหัตถ์แน่น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและโกรธเกรี้ยว

"ระดมพลตามหาโรซาเนียอย่าลับๆ โดยด่วน!!" สิ้นเสียงรับสั่งแม้ยูจีนจะงงพอสมควร ว่าทำไมโรซาเนียถึงได้สำคัญขนาดต้องระดมพลตามหาอย่างลับๆเลยหรือ เขาคำนับพระราชาอีกครั้ง ก้าวเดินออกไปทำตามรับสั่ง เมื่อคล้อยหลังเด็กหนุ่มพระราชาเอ่ยเพียงในใจ ด้วยพระอารมณ์ที่ร้อนหลนกว่าปกติ

'ลูมินัสจะต้องไม่ได้เด็กคนนั้นไป'

การระดมคนเพื่อตามหาเด็กสาวยังคงดำเนินต่อไป พวกเขาจำเป็นต้องปลดอาวุธ เนื่องจากยามเข้าใกล้ลูมินัส จะมีมนตราบางอย่างที่จะไล่ล่าฆ่าคนที่นำอาวุธเข้ามา มนตรานี้ไม่มีผลกับเด็กที่อายุต่ำกว่าสิบขวบปี พวกเขาตามหาอยู่แรมเดือนก็ไม่พบเด็กสาว ทางนี้นังคงวุ่นวายตามหาต่อไป และได้สร้างข่าวขึ้นมาว่าโรซาเนียตายไปแล้ว ส่วนโรซาเนียที่พวกเขาตามหายังคงนอนเป็นผักอยู่บนเตียงในพระราชวังลูมินัส

.

.

.

ร่างเล็กยังคงหลับอยู่บนเตียง นับได้เป็นหนึ่งเดือนแล้วที่ยังไม่ตื่นขึ้นมา ระหว่างนั้นฝนยังคงตกลงมาตลอด ฝนที่ตกมาแรมเดือนเริ่มปรากฏเค้ารางแห่งภัยพิบัติ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านล่างของเชิงเขาถูกผลกระทบจากดินทล่ม และน้ำป่าไหลหลาก เหตุการณ์นั้เกิดขึ้นในอาณาจักรสเวน พร้อมๆกับข่าวลือเรื่องความแค้นของโรซาเนีย

'โรซาเนียแค้นเคืองที่ไม่มีผู้ใดให้ความยุติธรรมกับเธอ จึงสาปแช่งให้คนในอาณาจักรสเวนตัองประสบชะตากรรมที่เหลวร้าย'

คนปล่อยข่าวจะเป็นใครไปไม่ได้ หากไม่ใช่ชายหนุ่มวัย 20 ปี ผมสีดำดุจท้องฟ้ายามราตรี ผิวขาวราวกับหิมะ ริมฝีปากหนาที่ยิ้มออกมาจะเพิ่มความหล่อเหลาให้เจ้าตัวอย่างร้ายกาจ นัยตาสีอเมทิสทรงเสน่ห์ยังคงนั่งมองเด็กสาวบนเตียง เขาคือ เอซ คาริซม่า และเด็กน้อยอีกคนที่มีใบหน้าคล้ายเขาหลายส่วนคือ เดลโลนส์ คาริซม่า ซึ่งเป็นบุตรชายของเขา

"เสด็จพ่อ เมื่อไหร่น้องของลูกจะตื่นขึ้นมาซะที ลูกอยากมีเพื่อนเล่นจะแย่แล้วพะยะค่ะ" เสียงเล็กเอ่ยออกมาอย่างสนุกสนานกับคำว่า 'เล่น' ของตน

"อีกไม่นานก็ตื่นแล้วล่ะ หนูเดลนั่งเฝ้าน้องไปนะ เดี๋ยวจะไปสุสางราชกิจ" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางก้าวเดินออกจากห้องไป เดลโลนส์ทำเพียงพยักหน้า เด็กชายยังคงนั่งเฝ้าเด็กสาว เด็กชายนึกย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อน วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนักมากกว่าทุกวัน เสด็กพ่อของเขาออกเดินทางอย่างเร่งรีบไปพร้อมกับองค์รักษ์ฝีมือดีหลายนาย ก่อนไปเสด็จพ่อตรัสกับเสด็จแม่ด้วยถ้อยคำบางอย่างที่ตนไม่ค่อยเข้าใจนัก

'ยามนี้เด็กในคำทำนายของแม่เฒ่าแห่งป่ามนตราได้ปรากฏตัวแล้ว พี่จะต้องไปรับเด็กคนนั้นมา รักษาตัวด้วยช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย'

'เพคะ ขอให้ฝ่าบาทเดินทางปลอดภัยไร้ซึ่งอุปสรรค' เสียงหวานเอ่ยอวยพร ชายหนุ่มเข้าสวมกอดว่าพลาง

'แล้วจะรีบกลับมา'ทั้งสองผละออกจากกัน เอซตวัดกายขึ้นม้ารีบควบออกจากพระราชวัง ผ่านไปได้ประมาณสองวัน เสด็จพ่อก็กลับมาพร้อมๆกับร่างเล็กในอ้อมแขน จากนั้นฝนที่เหมือนมีทีท่าว่าจะหยุดก็ตกหนักกว่าเดิม ร่างเล็กถูกพามาอยู่ในห้องนี้ นางกำนัลรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเพราะมันเปียกชื้นเหลือเกิน ไม่นานหมอหลวงก็เข้ามาดูอาการ วันนั้นพระราชวังลูมินัสเกิดความวุ่นวายเป็นครั้งแรก ส่วนตัวเขาทำได้เพียงมองความวุ่นวายนั้นจากระยะไกลๆ และแล้วความวุ่นวายก็จบลง เขาถึงได้รับรู้ว่าเสด็จพ่อรับเด็กสาวคนหนึ่งเขามาเป็นธิดาบุญธรรม

เขาที่อยากจะมีเพื่อนเล่นก็ได้เพื่อนเล่นสักที "รีบๆตื่นขึ้นมานะ ยัยน้องสาว ฉันรอเล่นกับเธอแทบไม่ไหวแล้ว"

เด็กชายหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่านระหว่างเฝ้าร่างเล็ก จึงไม่ได้สังเกตมามือเล็กของเธอกำลังขยับ เปลือกตาบางค่อยๆลืมตาขึ้นมา เธอกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับให้มองชัดขึ้น ภาพตรงหน้าคือเพดานสีครีมซึ่งมีลวดลายใบไม้สีทอง ให้ความรู้สึกหรูหรา พอหันหน้ามาอีกทางก็สบเข้ากับเด็กชายคนหนึ่งที่แลดูอายุใกล้เคียงกับตน กำลังอ่านหนังสืออยู่ ผมของเขามีสีดำดุจท้องฟ้ายามค่ำคืน นัยตาสีอเมทิสทอประกายทรงเสน่ห์ ริมฝีปากสีธรรมชาติ ผิวขาวราวหิมะ หากโตขึ้นไปคงกลายเป็นหนุ่มหล่อมากแน่ๆ

ราวกับเด็กชายรับรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองตนอยู่ เขาจึงปิดหนังสือวางลงโต๊ะข้างเตียง หันหน้าไปสบกับใบหน้างดงามน่ารักของโรซาเนีย เด็กหนุ่มยิ้มออกมาให้เธออย่างอ่อนโยน นั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เธอได้เห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเขา "ตื่นแล้วสินะยัยน้องสาว"

-----------To be continued------------

แต่ล่ะตอนสั้นยาวไม่เท่ากันนะจ๊ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา