ตื๊กรักพี่สาว
เขียนโดย Annakan
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.52 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 14.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ตอน 4-5
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 4
สัปดาห์หน้านายก็ต้องไปเกณฑ์ทหารแล้วและในที่สุดนายก็รู้ใจตัวเองสักทีเขามั่นใจแล้วว่าเขารักน้ำ สิ่งที่ยืนยันชัดเจนคือยิ่งใกล้เวลาจับใบดำใบแดงเท่าไหร่หัวใจของเขามันก็เจียนจะขาดรอนๆ เขานึกไม่ออกเลยว่าการไม่ได้เจอน้ำทุกวันมันจะเป็นยังไงเขาต้องคิดถึงน้ำจนขาดใจแน่ๆ
“เป็นไรอ่ะ” น้ำถามนายที่นั่งจ้องหน้าเธอมาสักพักแล้วเหมือนเขามีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดสักที จริงๆ นายมีอาการประหลาดแบบนี้มาได้สามสี่วันแล้ว
“เย็นนี้ไปเดินเล่นริมบึงกันไหม” นายตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะบอกความในใจกับน้ำ เขาไม่อยากไปทั้งที่ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่
“ไปสิ” น้ำตอบตกลงแล้วยกจานไปที่อ่าง น่าเสียดายมากที่วันนัดสัมภาษณ์งานตรงกับวันที่นายไปเกณฑ์ทหารพอดี
“อีกสองปีแน่ะกว่าจะได้กลับมา” ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ริมบึงมองสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ตามแรงลม เธอกับเขามักจะมานั่งเล่นที่นี่บ่อยๆ และทุกครั้งที่มามักจะมีเรื่องสำคัญเสมอครั้งนี้นายคงจะบอกเรื่องที่เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างที่นายยังบอกไม่หมด
“ทำไมดูมั่นใจจังว่าจะติดทหารแล้วก็พูดเว่อร์ไปฝึกแค่สองเดือนหลังจากนั้นก็ลากลับบ้านได้ไม่ใช่หรอ”
“นั่นสินะแล้วน้ำจะมากับนายเหมือนเดิมไหม”
“มาสิ ทำไมถามอะไรแปลกๆ”
“มีอะไรอยากพูดอีกรึเปล่า” น้ำหันไปถามและสบตาเขา
“น้ำคิดว่านายเป็นคนดีไหม”
“คิดสิ นายเป็นคนดีแล้วก็ใจดีมาก”
“ถ้านายเป็นคนดีจริงๆ น้ำให้โอกาสนายดูแลน้ำได้ไหม”
“นายก็ดูแลน้ำมาตลอดอยู่แล้วนี่นา”
“ไม่ใช่แบบที่ผ่านมา นายอยากดูแลน้ำในฐานะคนรัก”
“เอ่อ…” นั่นคือคำเดียวที่น้ำนึกออก เธอไม่รู้จะตอบว่ายังไงจริงๆ
“นายไม่อยากไปทั้งที่ยังมีเรื่องนี้ค้างอยู่ในใจ นายรู้ว่าน้ำไม่ได้รักนายหรอกแต่นายอยากขอโอกาสได้ไหมให้นายได้ดูแลน้ำได้พิสูจน์ตัวเองว่านายทำให้น้ำมีความสุขได้”
“และช่วงที่เราห่างกันมันจะยืนยันได้ว่านายรักและมั่นคงกับน้ำจริงๆ นายสัญญาว่าจะไม่มีใคร”
“นี่เรียกบอกรักป่ะ”
“เอ่อ ก็คงใช่มั้ง นายคิดเรื่องนี้มาเป็นเดือนๆ แล้ว แต่ไม่รู้จะพูดยังไงถึงนายจะเป็นคนดีแบบที่น้ำคิดแต่ก็ยังด้อยกว่าผู้ชายคนอื่นๆ อีกเยอะ นายถึงต้องอ้อนวอนขอโอกาสให้นายได้พิสูจน์ตัวเอง”
“นายไม่ได้ด้อยกว่าใครและนายก็ไม่ต้องขอโอกาสหรอก นายดูแลน้ำมาตลอดและก็ห่วงใยแม่นวลของน้ำด้วยแค่ช่วงที่ห่างกันอย่าไปมีใครก็พอ”
“นี่เรียกตกลงใช่ป่ะ” นายถามและพยายามคิดทบทวนคำพูดของน้ำ
“แล้วแต่จะเข้าใจ” น้ำตอบแล้วบิดกระโปรงเล่นเพราะไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน
“ตกลงนะน้ำเราลองคบกันนะให้นายดูแลน้ำนะ”
“อืม”
“ขอจับมือหน่อยได้ไหม”
“โห ลามปามป่ะ”
“รู้จักกันมาตั้งนาน นายเคยลามปามน้ำหรอ” นายถามด้วยความน้อยใจ
“โห บอบบางขี้น้อยใจจังพ่อคุณ” น้ำฉวยมือของนายมาจับไว้ มันเป็นความรู้สึกที่น้ำเน่ามากเธอไม่มีวันพูดให้ใครฟังเด็ดขาดตอนที่สองมือประสานกันเธอสัมผัสได้ถึงความรักและความผูกพันของคนสองคนที่มีให้กัน นึกย้อนไปที่เธอไม่เคยตกลงคบกับใครจริงจังก็เพราะนายนั่นแหละ
ในใจลึกๆ เธอรู้ดีว่าไม่มีใครมาแทนที่นายได้แต่เธอไม่เคยพูดเพราะว่าอายที่ตัวเองแก่กว่านายตั้งสี่ปีและเธอก็ไม่มั่นใจด้วยว่านายจะคิดกับเธอเกินเลยกว่าพี่สาว
เธอยังจำได้ดีถึงวันแรกที่นายเดินเข้ามาคุยด้วยและยื่นถ้วยแกงให้และตั้งแต่วันนั้นเด็กชายตัวน้อยก็ข้ามฝั่งมาคุยกับเธอทุกวัน เธอค่อยๆ ปรับตัวได้ทีละนิดเพราะตอนที่ต้องย้ายโรงเรียนเธอจิตตกจนเรียกว่าแทบจะป่วยเป็นโรคประสาทเลยก็ว่าได้เพราะไม่ว่าใครจะมาพูดอะไรด้วยเธอจะกลัวไปก่อนแล้วว่าคนพวกนั้นจะนินทาว่าร้ายเธอแต่นายก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นถึงนายจะเป็นผู้ชายแต่นายก็สุภาพและอ่อนโยน
“ขอบใจนะ” นายกำลังมองมือที่ประสานกันไว้แล้วยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเพราะวันที่รอคอยมาเนิ่นนานในที่สุดมันก็เป็นจริงสักที
“ไม่อายใช่ไหมที่น้ำแก่กว่า”
“เราเลิกมองเรื่องอายุได้ไหมน้ำให้เป็นแค่น้ำกับนายไม่ต้องมีใครแก่กว่าอ่อนกว่าไม่ต้องมีใครเป็นผู้นำใครเป็นผู้ตาม”
“ให้เป็นแค่เราสองคนที่อยู่เคียงข้างกันก็พอ”
“อืม” พอยิ่งเขินน้ำก็ยิ่งบีบมือของนายให้แน่นขึ้น ไม่น่าเชื่อว่านายจะพูดจาหวานๆ แบบนี้เป็นกับเขาด้วย
“นายมีความสุขที่สุดในโลกเลย”
“แล้วจะบอกแม่ยังไงดี” น้ำถามขึ้นมาด้วยความกังวล
“ป้านวลคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง” นายเองก็ชักจะหวั่นๆ ใจ จริงอยู่ที่ป้านวลเอ็นดูเขาแต่มาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าป้านวลจะเปลี่ยนไปจะรู้สึกยังไงป้าจะพอใจไหมที่ลูกสาวเพียงคนเดียวมีแฟนแบบนี้
“ป่ะ กลับบ้านกัน”
“เพิ่งมาถึงเองนะ”
“ไปบอกป้านวล” นายบอกด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
“บะ บอกอะไร”
“ก็บอกว่าเราสองคนคบกันไง”
“เฮ้ย ไม่ต้องก็ได้มั้ง”
“ไหนว่าไม่อายที่คบกับนายไง”
“ก็ไม่ได้อายแต่กลัวแม่ไม่รู้แม่จะว่าไง”
“กลัวยิ่งต้องไปพูด ทำหลบๆ ซ่อนๆ คนที่โดนด่าคือนายไม่ใช่น้ำ” นายลากให้น้ำเดินตามมาจนได้มันเป็นการไปหาป้านวลที่น่าหวาดหวั่นที่สุดเป็นครั้งแรกในชีวิตเลย
“ไปหาแม่น้ำก่อนแล้วค่อยไปหาแม่นาย”
“ป้านวลครับ” นายเรียกมารดาของแฟนที่นั่งดูทีวีอยู่
“อ้าว ไหนว่าไปริมบึงทำไมกลับเร็วกันจัง”
“คือ ผม ผมขอรบกวนเวลาป้านวลสักครู่ได้ไหมครับ”
“ได้สิลูก เข้ามาๆ ไปเอาน้ำท่ามาให้นายเขาสิลูก” น้ำเดินเลี่ยงออกไปช้าๆ เพราะเธอแทบจะก้าวขาไม่ออกเมื่อกลับมานายก็ส่งสายตาบอกให้เธอไปนั่งข้างๆ
“ผมกับน้ำตกลงคบกันครับผมขอโอกาสดูแลน้ำได้ไหมครับป้านวล”
“แล้วเจ้าตัวเขาตอบว่ายังไงล่ะ” นวลถามเด็กหนุ่มแล้วอมยิ้ม
“เขาตกลงครับ”
“ก็ถ้าเขาตกลงแม่ก็ตกลง ลูกแม่รักใครแม่ก็รักด้วย”
“ขอบคุณครับป้านวล”
“ทีนี้ก็เรียกแม่ได้แล้วนะลุ้นมาตั้งนานว่าเมื่อไหร่จะเลิกปากหนักกันสักที” นวลเย้าเด็กทั้งสองคน เธอรู้ว่าลูกสาวก็มีใจให้นายแต่ก็อายเกินกว่าจะพูดไปส่วนนายก็คงเกรงใจเพราะน้ำอายุมากกว่าและแม่ลูกสาวตัวดีของเธอก็เอาแต่พูดเรื่องอายุเรื่องพี่สาวแทบจะทุกวัน
“ผมไปหาแม่ก่อนนะครับแล้วจะพาน้ำมาส่ง”
“จ้ะ ไปกันดีๆ นะ ไกลมากเลย” นวลยังไม่วายจะแหย่ให้เด็กๆ เขินหนักกว่าเดิม
“แม่ครับนายมีอะไรจะบอก” เด็กหนุ่มร่างโตเรียกหาแม่ตั้งแต่ยังเดินไม่ถึงประตูบ้าน
“เอะอะโวยวายทำไมกันเล่า” น้อยหันมาเอ็ดลูกชาย
“ตั้งแต่นี้ไปผมจะเป็นคนดูแลน้ำครับแม่ นายไปบอกป้านวลแล้วป้านวลไม่ว่าอะไร”
“ดีเลยหนูน้ำทีนี้ถ้ามันดื้อก็หวดมันให้แม่ทีแม่แก่แล้วไม่มีแรง” น้อยหันไปบอกเด็กสาว
“ถ้าตายด้วยมือของน้ำผมก็ยินดีครับแม่”
“โหย เลี่ยนทำไมต้องเลี่ยนขนาดนี้” น้ำทำหน้าเบ้เพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
“เลี่ยนเพราะรักไง”
“พอเลย ทะลึ่งใหญ่แล้วเจ้านาย ไปส่งหนูน้ำแล้วมาช่วยแม่เก็บร้าน” น้อยปรามเจ้าลูกชายให้เลิกเกเรเพราะหนูน้ำเขินจนหน้าแดงบิดเสื้อตัวเองจนจะขาดอยู่แล้ว นายเดินไปส่งน้ำที่หน้าบ้านแล้วกลับมาช่วยแม่เก็บร้านเด็กหนุ่มทำงานไปผิวปากไปอย่างสบายอารมณ์พอทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็อาบน้ำแล้วโทรไปหาคนรัก
นาย: ทำไรอยู่
น้ำ: นอนเล่น
นาย: ทำไมไม่นอนจริงๆ ล่ะ
น้ำ: กวนแหละ
นาย: พรุ่งนี้นัดเพื่อนไว้กี่โมง
น้ำ: แปดโมง
นาย: งั้นหกโมงครึ่งนายโทรมาปลุกนะ
น้ำ: อืม
นาย: น้ำ
น้ำ: มีไร
นาย: คิดถึงจัง
น้ำ: เว่อร์ เพิ่งแยกกันไม่ถึงชั่วโมง
นาย: ก็คิดถึง น้ำไม่คิดถึงนายหรอ
น้ำ: หึ
นาย: น้ำใจร้าย
น้ำ: โอ๊ย งอแงเป็นเด็กอะไรเนี่ย
นาย: ก็งอแงกับน้ำคนเดียว
น้ำ: ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ไหม
นาย: คิดถึงไหม คิดถึงรึเปล่า บอกคิดถึงหน่อย
น้ำ: คิดถึงหน่อย
นาย: น้ำใจร้าย ฮือๆ
น้ำ: ที่ผ่านมานี่แอ๊บแมนใช่ป่ะ
นาย: ไม่ได้แอ๊บนี่ก็แค่อีกมุมนึงที่อยากให้คนรักเห็น
น้ำ: เก็บซะมิดเลยนะ
นาย: แล้วตกลงว่าคิดถึงไหม
น้ำ: ตกลงจะให้คิดถึงไหมหรือให้คิดถึงหน่อย
นาย: ก็ได้ ไม่คิดถึงก็ไม่คิดถึง ฝันดีนะ
น้ำ: โอ๋ๆ คิดถึงจ้าคิดถึงนายนะ
นาย: น่ารักที่สุดเลย รีบนอนนะพรุ่งนี้นายโทรไปปลุก
น้ำ: โอเค
นาย: น้ำ
น้ำ: ว่า
นาย: นายรักน้ำนะ น้ำไม่ต้องบอกก็ได้รอให้น้ำมั่นใจก่อนแต่นายมั่นใจแล้ว
น้ำ: น้ำก็รักนาย
เมื่อพูดจบน้ำก็ตัดสายทิ้งทันทีทั้งสองคนได้แต่นอนยิ้มกับเพดานแต่บนนั้นกลับไม่ใช่เพดานมันคือหน้าของคนอีกคนที่นอนอยู่ในบ้านฝั่งตรงข้าม
ตอนที่ 5
พลทหารเข้ากรมไปได้หนึ่งเดือนแล้วชีวิตของทหารใหม่เหนื่อยสมกับที่เขาร่ำลือกันจริงๆ ทุกวันนายต้องตื่นตอนตีสี่เพื่อมาออกกำลังกายและฝึกวิชาชายชาติทหารระหว่างวันมันเหนื่อยแต่มันก็ไม่ทรมานเท่าตอนกลางคืนเพราะตอนนั้นคือเวลาที่เขาจะคิดถึงน้ำและแม่ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยห่างแม่มาก่อนและสิบกว่าปีหลังเขาก็เจอน้ำทุกวันมันเป็นความปวดร้าวที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ ว่าเขาคิดถึงและอยากเจอน้ำกับแม่มากขนาดไหน การที่ทำได้แต่เฝ้าคิดถึงเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้อยู่ใกล้ๆ มันกำลังจะทำให้เขาตายทั้งเป็น
“คิดถึงเมียหรอมึง” ไอ้สันบัดดี้ที่จะเกาะติดกับเขาตลอดสองปีถามขึ้นมาเบาๆ เพราะถ้าพี่หมู่ได้ยินเสียงคนคุยกันได้ลุกไปวิดพื้นกันทั้งโรงนอนแน่ๆ
“กูบอกว่าแฟนไม่ใช่เมีย” นายกระซิบกลับไป
“เออ อดทนหน่อยอีกไม่ถึงเดือนญาติก็มาเยี่ยมได้แล้ว”
“นอนเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง” นับว่าเป็นโชคดีของคมสันที่ไม่มีคนรักให้ต้องคิด
“เออ” นายบอกแต่อีกพักใหญ่ๆ เขาถึงจะข่มตาหลับได้ในที่สุด ในหัวของเขามีแต่ภาพใบหน้าของน้ำ หูก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ของน้ำ มือที่วางพักอยู่บนหน้าท้องก็หวนไปถึงสัมผัสมือเล็กๆ นิ่มๆ ของน้ำที่เขาได้จับแค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนที่อยู่ริมบึง เมื่อไหร่จะถึงเดือนหน้ากว่าจะถึงตอนนั้นเขาจะตายด้วยความคิดถึงก่อนไหม
“ฝันดีนะนาย” น้ำยืนอยู่ที่ระเบียงเธอมองไปที่ห้องของนายแล้วกระซิบเบาๆ ไปกับสายลม เธอไม่รู้เลยว่านายเป็นยังไงบ้างเขาจะเหนื่อยไหมจะลำบากแค่ไหนจะตื่นจะนอนกี่โมง วันๆ จะทำอะไรบ้างและที่สำคัญเธอไม่รู้ว่านายจะคิดถึงเธอบ้างไหม ทุกคืนเธอนอนร้องไห้เพราะคิดถึงเขาเธอไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองรักและติดนายมากขนาดไหนจนวันที่เขาไปนั่นแหละ
ชีวิตที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆ มันเคว้งคว้างจนเธอหวั่นใจ เธอรู้แล้วว่าเธอแก่แค่อายุเท่านั้นจริงๆ นายต่างหากที่เป็นผู้นำและดูแลเธอมาตลอดและวันนี้วันที่เขาไม่อยู่มันทำให้เธอกลัวเหลือเกิน เธอกลัวเขาไม่กลับมาเธอกลัวเขามีคนอื่นและที่สุดของความกลัวก็คือเธอกลัวเขาตาย
“คิดถึงน้ำบ้างไหม” น้ำกลับมานอนบนเตียงแล้วกระซิบถามสายลมอีกครั้ง ป่านนี้นายคงจะนอนแล้วเพราะเธอไปหาอ่านข้อมูลจากที่ต่างๆ เขาว่ากันว่าทหารเกณฑ์จะต้องนอนสองทุ่มและตื่นตีสี่ เธอได้แต่นับวันรอให้ครบสองเดือนเร็วๆ จะได้ไปหานายซื้อขนมซื้อของใช้ไปฝากเขาแต่อีกใจนึงเธอก็แอบคิดว่าเขาคงไม่อยากเจอเธออีกแล้วก็ได้เพราะสองเดือนที่อยู่ไกลกันนายอาจจะคิดได้ในที่สุดว่าไม่มีเธอเขาก็มีชีวิตได้แถมไม่เหนื่อยต้องมาคอยดูแลเอาใจเธอให้ยุ่งยากด้วย
ผ่านมาสองเดือนสามวันแล้วที่นายไปเป็นทหารและเธอก็เริ่มทำงานพร้อมๆ กับตอนที่นายเข้ากรม เมื่อครบกำหนดสองเดือนน้ำก็พกมือถือติดตัวไว้ตลอดเวลาเธอปิดเสียงและตั้งสั่นไว้ระดับสูงสุดเพื่อรอรับสายจากเขา ผ่านมาสามวันแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครโทรมาหรือนายจะไม่รักเธอแล้วจริงๆ
“ใจเย็นๆ เดี๋ยวเขาก็โทรมาของแฟนพี่รออยู่เกือบสิบวัน” พี่นกปลอบใจเธอ ทุกคนรู้ว่าแฟนของเธอไปเป็นทหารและต่างก็เห็นใจเธอ
“ค่ะพี่” น้ำพยายามตั้งใจทำงานเธอต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกมาก่อน
“เป็นอะไรน้ำ” พี่นกถามเมื่อเห็นเธอสะดุ้งเฮือกขึ้นมา
“นายค่ะ นายโทรมาหนูตั้งสั่นไว้เลยตกใจ” น้ำหยิบมือถือขึ้นมาดูเธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเธอคิดว่าเธอฝันไป
“ไปสิไปคุยกันในห้องประชุมก็ได้ไม่มีคนอยู่”
“ค่ะพี่”
นาย: น้ำ
น้ำ: ฮือๆๆๆ (เธอดีใจมากที่การรอคอยมันสิ้นสุดลงสักที นายไม่ลืมเธอนายโทรมาหาเธอจริงๆ ด้วย)
นาย: เป็นอะไรน้ำ
น้ำ: น้ำ น้ำคิดว่านายจะไม่โทรมาจะ จะ ไม่คิดถึง
นาย: คิดถึงสิ คิดถึงที่สุดเลย นายคิดถึงน้ำทุกคืนเลยนะแต่ตอนกลางวันมันไม่มีเวลาว่างให้คิดเท่าไหร่โดนพี่หมู่ฝึกหนักทุกวันแต่หลังจากนี้ก็จะเบาลงแล้ว
น้ำ: ฮือๆๆๆ
นาย: ไม่ร้องนะ
น้ำ: น้ำกลัวนายจะลืมน้ำ กลัว ฮือๆๆ
นาย: ไม่ลืม รักขนาดนี้ใครจะลืมได้ลงไม่ร้องแล้วนะเงียบก่อน เช็ดน้ำตาก่อน
น้ำ: เหนื่อยไหม (น้ำสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด)
นาย: ได้ยินเสียงน้ำก็หายเหนื่อยแล้ว นายรักน้ำนะรักที่สุดเลย
น้ำ: รักเหมือนกัน
นาย: สัปดาห์หน้าเขาให้ญาติมาเยี่ยมได้ถ้าน้ำว่างก็มานะแต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร
น้ำ: อยากให้น้ำไปรึเปล่า
นาย: อยากสิทำไมจะไม่อยากแต่มันไกล นายเป็นห่วงที่น้ำต้องเดินทางคนเดียว
น้ำ: ก็ให้ป้าน้อยไปด้วยสิ
นาย: นายโทรหาแม่แล้วบอกว่าไม่ต้องมานั่งรถนั่งรานานๆ มันไม่ดี รอให้นายได้วันหยุดนายจะลงไปหาแม่เอง
น้ำ: แต่น้ำ น้ำคิดถึง
นาย: นายก็คิดถึงน้ำคิดถึงมาก นายอยากให้น้ำมาหานะอยากให้มาที่สุดเลยแต่นายก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวเพราะน้ำเป็นคนลำบากไม่ใช่นาย
น้ำ: น้ำจะไปหาน้ำคิดถึง น้ำทนไม่ไหวแล้ว
นาย: นายจะรอนะ รักน้ำนะนายต้องวางแล้ว
น้ำ: น้ำก็รักนายแล้วเจอกันอาทิตย์หน้า
พอวางสายน้ำก็ร้องไห้อีกโฮใหญ่แต่คราวนี้คือน้ำตาของความโล่งใจและความดีใจ นายคิดถึงเธอนายยังรักเธอเหมือนเดิมนายยังไม่เปลี่ยนไป
ทางกรมเปิดให้เยี่ยมญาติวันอาทิตย์ตอนสายๆ น้ำออกเดินทางวันเสาร์แล้วหาโรงแรมใกล้ๆ นอนหนึ่งคืน เธอซื้อขนมและผลไม้มาฝากนายเยอะมากคืนนั้นเธอหลับไม่ค่อยสนิทนักเพราะต้องนอนแปลกที่แต่เมื่อคิดว่าพอรุ่งเช้าจะได้เจอหน้านายเธอก็ข่มตาหลับได้ในที่สุด
น้ำมาถึงกรมก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพราะเธอไม่อยากพลาดการเข้าเยี่ยมนั่งรออยู่ด้านนอกสักพักก็ได้เข้าไปข้างในเธอมองหานายอยู่พักใหญ่ๆ ก็เจอและมันทำให้เธอแทบจะล้มกองไปกับพื้นมือไม้ที่ถือข้าวของอ่อนแรงขึ้นมาทันที
“ดารินผมรอแฟนอยู่คุณอย่ามายุ่งกับผมได้ไหม” ดารินคือลูกของนายทหารใหญ่ เธออายุเพิ่งจะเต็มสิบเจ็ดแต่ส่วนสัดนำเข้ามหาลัยไปเรียบร้อยแม่สาวหน้านวลชอบมายุ่งเอาขนมเอาน้ำมาให้แทบจะทุกวันทั้งที่เขาบอกชัดเจนว่ามีคนรักอยู่แล้ว
“เขาไม่มาแล้วแหละ พี่นายกินสิคะขนมเจ้านี้ส่งมาจากกรุงเทพเลยนะคะพ่อให้คนส่งขึ้นเครื่องมาให้” ดารินหมายตาพี่พลทหารสุดหล่อคนนี้ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า เธอไม่สนหรอกว่าเขาจะมีแฟนแล้วในเมื่อตัวเขาอยู่ตรงนี้ยังไงเธอก็มีสิทธิ์มากกว่ารักกันแค่ไหนยังไงก็ต้องแพ้ให้ดาริน…ไม่เชื่อก็คอยดู
“มันยังไม่ถึงเวลานัด เลิกทำแบบนี้ได้ไหมคนอื่นเขามองมันน่าเกลียด” นายพยายามปัดป้องและหันหน้าหนีแต่ดารินก็ไม่ละความพยายาม เขาก็ไม่กล้าจะใช้ถ้อยคำรุนแรงเพราะกลัวชะตาตัวเองจะขาดถ้าไปขัดใจลูกหัวหน้าเข้า
น้ำมองหาคนรักแค่ไม่นานเธอก็เห็นว่าเขานั่งอยู่กับผู้หญิงคนนึงและเธอคนนั้นกำลังป้อนขนมให้นายด้วย ขนาดเห็นไกลๆ ยังรู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นสวยมาก
“น้ำ น้ำ” นายรีบวิ่งไปหาน้ำทันที น้ำเพิ่งเดินพ้นประตูเข้ามาแล้วเธอก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นแต่พอเขาเรียกน้ำก็วางข้าวของทุกอย่างแล้วเดินออกไปเลย
“น้ำ ฟังนายก่อน” นายวิ่งมาทันและฉุดมือของน้ำไว้
“เนี่ยหรอที่คิดถึงน้ำทุกวันเนี่ยหรอที่รักน้ำที่สุดมาอยู่แค่สองเดือนก็มีคนอื่นไปถึงไหนกันแล้วล่ะ” น้ำพูดด้วยเสียงต่ำๆ เธอไม่อยากเอะอะโวยวายให้ตัวเองเป็นขี้ปากใคร
“ไม่ใช่นะน้ำ เขาเป็นลูกหัวหน้า นายไม่ได้คิดอะไรกับเขา”
“แล้วไอ้ที่นั่งป้อนนั่งชิดจนแทบจะขี่กันนั่นมันอะไร ขอโอกาสเพื่อมาทำให้น้ำเสียใจแบบนี้หรอ”
“นายทำอะไรไม่ได้จริงๆ น้ำ นายขอโทษแต่นายรักน้ำ นายรักน้ำคนเดียว”
“ขอบคุณนะซื้อของมาให้นายเยอะแยะเลย” นายพยายามชวนเปลี่ยนเรื่อง
“มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย” น้ำเสียใจมากที่ต้องมาเจอภาพบาดตาแบบนี้ นายต้องอยู่ที่นี่อีกเกือบสองปีมันเป็นไปไม่ได้เลยที่สองคนนี้จะไม่สานสัมพันธ์กัน
“น้ำไม่มาก็ไม่เป็นไร นายจะไปหาน้ำเองตอนที่ได้วันหยุดไปนั่งก่อนนะนายมีเรื่องจะเล่าให้น้ำฟังเยอะแยะเลย” นายดึงมือให้น้ำเดินกลับเข้ามาแต่น้ำก็ไม่ยอม เธอยืนจ้องหน้าเขาเงียบๆ พร้อมน้ำตาหยดเล็กๆ ที่เริ่มไหลออกมา เขาไม่เคยเห็นน้ำเสียใจและโกรธแค้นแบบนี้มาก่อนเลย
“นายขอโทษ มันไม่มีอะไรจริงๆ น้ำ ยกโทษให้นายเถอะนะ”
“เชิญไปป้อนกันให้พอใจเถอะ น้ำอดหลับอดนอนวิ่งไปซื้อขนมจากทุกร้านที่นายชอบหอบมันมาคนเดียวทั้งหนักทั้งเหนื่อยแถมต้องมานอนที่แปลกๆ ทั้งที่นายก็รู้ว่าน้ำกลัวผีขนาดไหนแต่น้ำก็ยอมแล้วนี่คือสิ่งที่น้ำได้รับต้องมาเห็นแฟนตัวเองแทบจะนั่งเกยกับผู้หญิงอีกคน” เมื่อพูดจบน้ำก็สะบัดมือแล้ววิ่งออกไปทันที
“น้ำ น้ำ” นายตะโกนเรียกและพยายามวิ่งตามแต่น้ำก็ไม่มองกลับมาและเขาก็ตามเธอไปไม่ได้แล้วเพราะถ้าวิ่งออกไปมันจะแปลว่าเขาออกนอกพื้นที่กลายเป็นหนีราชการทันที
เวลาที่เหลือทั้งหมดสำหรับการเยี่ยมญาตินายกระหน่ำโทรหาน้ำแต่เธอก็ไม่รับสายคืนนั้นเขาแทบจะขาดใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นต้องรออีกเดือนนึงเลยเขาถึงจะได้วันลา
น้ำกลับบ้านด้วยหัวใจแหลกสลายผู้ชายก็เหมือนกันทั้งโลกโกหก โลเล ไว้ใจไม่ได้อยู่ใกล้ใครก็รักคนนั้นเธอเองก็คงไม่ได้มีความหมายอะไรที่มาบอกรักมันก็แค่ความใกล้ชิดก็เท่านั้นเอง พอห่างกันไปใกล้คนอื่นก็รักคนใหม่ ง่ายๆ แบบนั้น
“โดนเด็กหลอกเป็นยังไงล่ะน้ำเอ๊ย” เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำแยกแยะอะไรไม่ได้มีปากก็พูดพล่อยๆ ไปเรื่อย
“รักน้ำนะ คิดถึงน้ำนะ” ยิ่งคิดถึงถ้อยคำที่เคยได้ฟังก็ยิ่งแค้น ไอ้เด็กเวรไอ้เด็กปากเปราะเสียแรงที่ไว้ใจเสียแรงที่ฉันรักแกจริงๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ