ตื๊กรักพี่สาว
เขียนโดย Annakan
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.52 น.
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 14.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอน 6-7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 6
“หนูน้ำไอ้นายเป็นไงมั่ง” พอออกจากกรมน้ำก็บึ่งไปที่สนามบินทันทีและโชคดีมากที่มีตั๋ว เธอกลับมาถึงบ้านเอาตอนเย็นๆ และป้าน้อยก็กำลังถามถึงลูกชายของเธอ
“เขาสบายดีจ้ะ” น้ำตอบแต่ในใจยังคงโมโหไม่หายกับสิ่งที่เห็นตำตาเธอน่าจะเดินกลับไปตบอีนังคนนั้นสักฉาดสองฉาดให้หายแค้นแล้วเตะผ่าหมากไอ้เด็กบ้านั่นอีกสักที
นายเองก็ไม่มีสติเขามัวแต่กระหน่ำโทรหาน้ำจนลืมไปว่ายังมีแม่อีกคนให้โทรหาอย่างน้อยเล่าความจริงให้แม่ฟังให้แม่ช่วยอธิบายอาจจะช่วยอะไรได้บ้างกว่าจะนึกได้ก็ตกค่ำแล้ว
“ทำไมสีหน้าไม่ดีเลยลูก” น้อยถามเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง
“เพลียๆ ค่ะ เหนื่อยเดินทาง”
“อ้อๆ งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะลูก” น้อยไม่อยากซักไซ้ให้มากความแต่เธอรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
“เป็นไงบ้างลูก นายสบายดีไหม” นวลถามลูกสาวที่เดินลากขาเข้ามา
“เขาสบายดีค่ะ หนูเหนื่อยจังเลยแม่ขอไปนอนเลยนะคะหนูกินข้าวมาแล้ว” นวลพยักหน้ารับรู้และก็เช่นกันที่เธอสังเกตได้ว่าลูกสาวมีอะไรปิดบังอยู่
สองคุณแม่ได้แต่นั่งครุ่นคิดอยู่ในบ้านของตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเด็กสองคนแต่นวลและน้อยก็ได้แต่คิดว่ามันคงเป็นเรื่องเล็กๆ งอแงกันตามประสาหนุ่มสาวและคงจะคลี่คลายได้ในที่สุด
แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่
ระหว่างทางกลับบ้านน้ำคิดแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอเกิดมายี่สิบสี่ปีไม่เคยตกปากรับคำคบกับใครจริงจังแล้วก็มาโดนไอ้เด็กรุ่นน้องหลอกซะเต็มเปา เธอเสียหน้าพอๆ กับที่เสียใจ เธอคิดว่านายเป็นคนดีมาตลอดเธอคิดว่าเขาอ่อนโยนและรักเธอเพียงคนเดียวแต่สิ่งที่เห็นคาตามันก็บอกอะไรได้หลายอย่าง เขาก็คงไปอ่อนโยนกับคนอื่นไปดีกับคนอื่นเหมือนที่ดีกับเธอนั่นแหละ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นยิ่งโมโหให้กับความโง่เง่าไร้เดียงสาของตัวเองที่หลงเชื่อคารมผู้ชายแถมยังเป็นผู้ชายที่เด็กกว่า
“พี่นกคะ น้ำขอถามเรื่องย้ายสาขาที่คุยกันวันก่อนได้ไหมคะ” สัปดาห์ก่อนเจ้านายเกริ่นๆ ว่าจะให้พนักงานไปประจำที่สาขาปารีสสองปี พี่คนที่ได้รับมอบหมายยินดีเป็นอย่างยิ่งแต่ทุกอย่างก็ต้องชะงักไปเพราะพี่เขาตั้งท้องแผนการส่งพนักงานไปเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ จึงยังค้างคาอยู่
“อืม ได้สิทำไมหรอน้ำ”
“จำเป็นไหมคะว่าคนที่ไปทำงานต่างสาขาต้องเป็นพนักงานเก่า”
“ไม่นะ บอสเขาก็เคยส่งเด็กฝึกงานไปปารีสแต่ไปแค่สามเดือนเพราะว่าเขายังไม่ใช่พนักงานประจำไง จริงๆ พี่ก็อยากเสนอน้ำนะแต่มันตั้งสองปีน้ำคงไม่อยากไปหรอกใช่ไหมคงอยากอยู่ใกล้ๆ แฟนมากกว่า”
“น้ำอยากไปค่ะ”
“อ้าว แล้วแฟนล่ะ”
“โทรหากันก็ได้ค่ะ อีกอย่างไปสองปีก็ไล่ๆ กับตอนที่เขาออกมาพอดี น้ำอยากไปหาประสบการณ์ค่ะน้ำอยากเก่งเหมือนพี่ๆ ทุกคน”
“ก็ได้ พี่จะบอกบอสให้เองแต่ถ้าได้ไปคือเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะเพราะเราต้องทำเอกสารการเดินทางแล้ว”
“ค่ะพี่นก”
ตกบ่ายเธอก็กลายเป็นพนักงานทรานซิสเรียบร้อย พรุ่งนี้เธอต้องเตรียมเอกสารชุดใหญ่สำหรับทำหนังสือเดินทางและสิ่งที่ใหญ่กว่ากองเอกสารคือการบอกแม่
“อะไรนะ ไปปารีสสองปี” นั่นไงคิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าแม่ต้องโวยวาย น้ำบอกแม่หลังทานข้าวเสร็จ
“แล้วนายล่ะ”
“หนูบอกเขาเมื่อวานแล้วค่ะกลับมาก็เลยเนือยๆ แบบที่แม่เห็น” น้ำสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อเรียกคะแนนสงสาร
“ยังไงหนูกับนายก็ไม่ได้เจอกันอยู่แล้วเราโทรหากันได้ค่ะแม่ หนูอยากไปหาประสบการณ์แม่ให้หนูไปเถอะนะบริษัทส่งไปหนูไม่ต้องออกค่าอะไรเองเลย”
“แล้วจะไปอยู่ยังไงลูกเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว”
“ผู้หญิงในโลกนี้อยู่คนเดียวเยอะแยะไปค่ะ แม่ให้หนูไปเถอะนะคะหนูขอร้องมันคืองานที่หนูรักมันจะต่อยอดให้อาชีพหนูได้อีกมากมายเลยค่ะ”
“แล้วไปเมื่อไหร่ล่ะลูก” นวลเห็นถึงแววตาแห่งความมุ่งมั่นของลูกเธอก็เข้าใจและโอกาสก็ใช่ว่าจะวิ่งเข้าหาทุกวัน ถึงจะห่วงลูกแค่ไหนเธอก็ต้องทำใจให้ได้
“เอกสารเสร็จก็ไปเลยค่ะ”
“แม่ตามใจหนูลูก” นวลบอกลูกสาวแล้วสองแม่ลูกก็กอดกัน
น้ำภาวนาว่าขอให้เอกสารอย่าใช้เวลาเกินหนึ่งเดือนเลยเพราะไม่อย่างนั้นนายก็จะได้วันลากลับบ้านแล้วมาเจอเธอซะก่อนและความลับมันต้องแตกแน่ๆ เธอจะหายไปจากชีวิตเขาในเมื่อเขาเลือกที่จะทำร้ายจิตใจเธอก็ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีกต่างคนต่างอยู่ชาตินี้ไม่ต้องเจอกันอีกเลยจะดีมาก
“รอให้หนูไปก่อนก็ได้นี่แล้วแม่ค่อยย้าย” นวลต่อรองกับลูกสาวเธอเองก็อยากกลับไปอยู่บ้านที่พิจิตรเหมือนกันเพราะญาติพี่น้องก็อยู่ที่นั่นหมด
“หนูอยากไปส่งแม่ด้วยตัวเอง”
“แล้วไม่คิดว่าแม่ก็อยากไปส่งหนูบ้างหรอ”
“วันที่บินหนูจะโทรมาหา ให้หนูไปด้วยความสบายใจนะหนูไม่อยากให้แม่ขนของคนเดียว”
เอกสารการเดินทางของเธอใช้เวลาเตรียมยี่สิบวันที่มันรวดเร็วขนาดนี้เพราะบอสของเธอมีเส้นสายที่ดีอีกสามวันเธอก็จะบินลัดฟ้าไปปารีสแล้ว
“แม่ไปเองก็ได้นะหนูจะได้เตรียมตัว”
“ไม่เป็นไรจ้ะหนูไหว” น้ำไปส่งแม่ที่บ้านที่เธอเลือกจะไปเองเพราะอยากทดสอบจิตใจของตัวเองว่ามันเข้มแข็งจริงรึเปล่า ผ่านมาเป็นสิบปีแล้วที่เธอย้ายออกจากตำบลนั้นเพราะทนความกดดันคำนินทาของชาวบ้านไม่ได้
“นี่น้ำใช่ไหมเนี่ย” เดินเข้าหมู่บ้านมาเธอก็ได้รับการทักทายพร้อมสายตาดูหมิ่นทันที
“ใช่จ้ะหนูจะกลับมาบอกทุกคนว่าตอนนั้นที่หนูหยุดเรียนเพราะโดนรถชนไม่ได้ท้องไม่ได้มั่ว” น้ำพูดดังๆ ชัดๆ ให้ทั้งหัวหงอกหัวดำได้ยิน
“สมัยนี้แล้วคงไม่มีใครเชื่อข่าวลือกลวงๆ หรอกเนอะ” เธอหันไปส่งยิ้มหวานให้ทุกคนแล้วจูงมือพาแม่กลับไปบ้านหลังเก่า คนเช่าดูแลบ้านให้เป็นอย่างดีแม่ของเธอจึงเข้าอยู่ได้เลย
“แล้วพี่เขาย้ายไปไหนคะ” น้ำถามถึงคนเช่ารายล่าสุดที่ย้ายออกไป
“เห็นว่าได้งานอีกจังหวัด”
“อีกสองปีเลยหรอเนี่ยแม่ถึงจะได้เจอหนู” เมื่อถึงเวลาต้องล่ำลากันจริงๆ มันก็อดใจหายไม่ได้ ลูกยังไงก็ยังเป็นเด็กน้อยในสายตาเธอเสมอ
“หนูจะโทรมาหาบ่อยๆ จ้ะ แม่ไม่ต้องกลัว หนูรู้ว่าแม่เหงากลับมาอยู่นี่แม่มีความสุขมากกว่าขอบคุณนะคะที่แม่เสียสละเพื่อหนูมาตั้งหลายปี”
“แม่รักหนูนะน้ำ ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก”
“หนูก็รักแม่ค่ะ” สองแม่ลูกกอดกันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วน้ำก็กลับมาบ้านที่กรุงเทพเพราะเธอต้องจัดกระเป๋าสำหรับการเดินทางครั้งใหญ่
“แล้วเจ้านายมันไม่ว่าอะไรจริงๆ หรอลูก” น้อยถามย้ำเด็กสาวเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างที่เธอยืนรอแท็กซี่เพื่อไปสนามบิน
“ไม่ว่าจ้ะ เขารู้ว่ามันคือความฝันของหนู” น้ำตอบและเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อลูกชายของป้าน้อย เธอโกรธและแค้นฝังใจมากกับสิ่งที่เด็กคนนั้นทำและเธอจะไม่มีวันอภัยให้เขาเป็นอันขาด
“โชคดีนะลูกดูแลตัวเองดีๆ แล้วรีบกลับมานะ” น้อยกอดลาเด็กสาวและเธอก็ยิ่งมั่นใจว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างที่หนูน้ำปิดบังเอาไว้
“ขอบคุณค่ะป้าน้อย” น้ำยกมือไหว้อดีตแม่แฟนเป็นครั้งสุดท้าย
ตอนที่ 7
“เป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยไหม” น้อยดึงลูกชายเข้ามากอดด้วยความคิดถึงไม่ได้เจอกันเกือบสามเดือนลูกของเธอเปลี่ยนไปเยอะทีเดียว ท่าทางการเดินสง่างามถอดแบบทหารมาเป๊ะมือไม้ก็หยาบกร้านขึ้นกว่าแต่ก่อนส่วนผิวพรรณและหน้าตาไม่ต้องพูดถึงเพราะทั้งดำทั้งเกรียม
“สบายดีครับ คิดถึงแม่จัง”
“แล้วเป็นยังไงได้เห็นหอไอเฟลรึยัง”
“หอไอเฟลอะไรหรอแม่” นายผละจากอ้อมกอดแม่แล้วก็นึกสงสัยขึ้นมาว่าทำไมบ้านน้ำปิดเงียบเชียวสงสัยป้านวลจะไปธุระข้างนอก
“นี่อย่าบอกนะว่าเอ็งไม่รู้”
“ไม่รู้อะไรหรอแม่แล้ววันนี้ป้านวลไปไหนบ้านปิดเงียบจัง นายซื้อของฝากมาให้ป้านวลกับน้ำเยอะแยะเลยของแม่ก็มีนะ” นายหยิบผลไม้และขนมมาอวดแม่ด้วยความดีใจอีกไม่กี่ชั่วโมงน้ำก็คงจะกลับบ้านแล้ว
“น้ำไปปารีสไปเมื่ออาทิตย์ก่อน นวลก็ย้ายกลับต่างจังหวัดบ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว”
“อะไรนะแม่” นายหันมาถามกล่องของฝากในมือร่วงลงพื้น
“น้ำไปปารีสเห็นว่าไปสองปี”
“อะไรนะแม่แล้วทำไมแม่ไม่ห้าม”
“เอ้า แล้วแม่จะรู้ได้ยังไงก็หนูน้ำบอกว่าเอ็งไม่ว่าอะไร”
“แล้วสรุปว่ามีเรื่องอะไรกันทำไมหนูน้ำทำแบบนี้เอ็งไปทำอะไรไว้รึ”
“วันนั้นที่น้ำไปหาเขาเห็นนายนั่งอยู่กับผู้หญิงคนอื่น เขาไม่ยอมฟังคำอธิบายอะไรเลย”
“ไปอยู่ไม่กี่เดือนมีผู้หญิงแล้วหรอ” น้อยเองก็แปลกใจไม่แพ้กัน
“เขาเป็นลูกหัวหน้าหมู่นะแม่ ชะตานายขาดได้เลยนะถ้าไปขัดใจอะไรเธอเข้า”
“อันนี้แม่ก็ไม่รู้แล้วเป็นแม่ก็คงจะแค้นนะถ่อไปหาตั้งไกลดันเจอว่าอยู่กับคนอื่นแล้วยิ่งไกลกันความสัมพันธ์มันก็ยิ่งเปราะบาง”
“ไปปารีสไปสองปี ทำไมน้ำใจร้ายกับนายขนาดนี้” นายทรุดนั่งบนเก้าอี้แล้วมองข้าวของทุกอย่างที่หอบกลับมา วันนั้นน้ำก็คงรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
“แน่ใจหรอว่ามีแค่เรื่องนี้ที่ผิดใจกัน” น้อยถามลูกชาย
“แค่เรื่องนี้แต่น้ำเขาเสียใจมาก เขาคิดว่านายไม่ซื่อสัตย์แต่นายไม่ได้คิดอะไรกับดารินเลยนะแม่”
“อืม แม่เชื่อแล้วจะทำยังไงต่อไป”
“ก็รอน้ำกลับมา นายไม่มีเงินซื้อตั๋วบินไปหาน้ำหรอก”
“ก็ตั้งใจฝึกทหารออกมาหนูน้ำก็คงกลับมาพอดีแหละ”
วันลาที่วาดฝันไว้ว่าจะได้เจอคนรักได้ปรับความเข้าใจกันก็สลายยับไม่มีชิ้นดีและที่แย่กว่านั้นคือไม่รู้ว่าเขาจะมีโอกาสได้เจอน้ำอีกไหม เผลอๆ น้ำอาจจะไปอยู่ถาวรเลยก็ได้ พลทหารกลับเข้ากรมด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวและเมื่อเห็นหน้าดารินเขาก็อยากตะบันหน้าเด็กคนนั้นให้หายแค้นจริงๆ เพราะเธอคนเดียวเลยที่ทำให้ทุกอย่างมันเลวร้ายแบบนี้
“พี่นายกลับบ้านนานจังรินคิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย” ดารินวิ่งนมกระเพื่อมมาหาพลทหารหนุ่มด้วยความคิดถึง
“ดารินผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามายุ่งกับผม” นายแกะมือปลาหมึกของยัยเด็กแก่แดดออกจากแขนด้วยความรำคาญ ช่างไม่รู้เลยนะว่าไอ้สิ่งที่เป็นมันทำลายความรักของเขาจนหมดสิ้น
“พี่นายเนี่ยใจแข็งจัง รินไม่สวยตรงไหนคนอื่นอยากเป็นแฟนรินจะตาย”
“ผมไม่ได้ชอบคุณผมมีคนรักอยู่แล้ว”
“ก็คนรักของพี่นายไม่ได้อยู่ที่นี่พี่นายรักรินแทนไม่ได้หรอ”
“ถ้ามันเปลี่ยนง่ายๆ แบบนั้นมันไม่ใช่ความรักหรอกและคุณก็ไม่รู้จักความรักด้วยดาริน” นายเดินกระทืบเท้าหนีไปอีกทางด้วยความขัดใจเขาจะทนอยู่ที่นี่ได้ยังไงอีกตั้งสองปีและยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจกับสิ่งที่น้ำทำ เธอไม่รักเขาเลยหรือไงถึงทิ้งเขาได้ลงคอ
“เหนื่อยไหมคะพี่นาย” นายกลับมาฝึกอีกครั้ง วันนี้พี่หมู่ให้เขามาเช็ดตู้เอกสารกับไอ้สันและยัยเด็กแก่แดดก็ตามมาวุ่นวายอีกแล้ว ทำยังไงเขาถึงจะหนียัยนี่พ้น
“พี่สันก็อยู่อีกคนนะครับน้องริน” คมสันส่งตาหวานให้ยัยเด็กแก่แดด
“ทำงานไปอย่าพูดมากไม่งั้นจะฟ้องคุณพ่อ” ดารินหันไปเบ้ปากใส่พลทหารอีกคน
“น้องรินรู้ไหมครับพี่สันเขาเป็นนายแบบนะแถมเคยถ่ายโฆษณาด้วย” นายรู้มาว่ายัยเด็กแก่แดดจอมแสบอยากเข้าวงการมาก ที่แต่งตัวล่อตะเข้เดินไปทั่วกรมก็เพราะหวังให้มีแมวมองมาเห็นเขากับไอ้สันก็ได้แต่ขำให้ความไร้สติของยัยเด็กไร้ความคิดนี่มันกรมทหารแมวที่ไหนจะเข้ามามองถึงในนี้
“จริงหรอคะ” ดารินผละจากพลทหารนายทันที
“จะ จริงครับ” คมสันตกใจกับท่าทางที่เปลี่ยนไปแบบทันท่วงที เขาเองก็ปลื้มน้องรินเพราะเธอทั้งขาวทั้งอวบจริงๆ ผู้ชายทั้งกรมก็คงปลื้มน้องรินหมดแหละแต่ใครจะกล้ายุ่งล่ะเธอเป็นลูกหัวหน้าหมู่ขืนไปทำทะลึ่งได้หัวขาดไม่รู้ตัวแน่ๆ
“พี่สันเหนื่อยไหมคะ”
“ไม่ครับ”
“พี่สันดื่มน้ำก่อนนะคะ” แก้วน้ำที่วางไว้สำหรับไอ้นายถูกยกมาให้เขาถึงริมฝีปาก คมสันจิบน้ำเย็นชื่นใจเข้าไปอึกใหญ่
“กินเลอะเป็นเด็กเลยนะคะ รินเช็ดให้” แม่เด็กจอมแก่แดดเบียดอกอวบไปกับแผงอกล่ำสันของพลทหาร นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามริมฝีปากที่มีน้ำเย็นๆ เกาะอยู่
“ขะ ขอบคุณครับ” พลทหารคมสันแทบจะหัวใจหยุดเต้นกับการแนบชิดถึงตัวขนาดนี้ มือใหญ่กำผ้าขนหนูไว้แน่นเพื่อระงับความตื่นเต้น
“ร้อนหรอคะ” ดารินแสร้งถามชายหนุ่มทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเขากำลังตื่นตาตื่นใจกับนมไซส์มหาลัยของเธอ เมื่อมองดีๆ พี่คนนี้ก็หล่อเหมือนกันนะทำไมเธอไม่เคยสังเกตแถมดูจะดื้อน้อยกว่าไอ้นายบ้านั่นซะอีก
“ออกไปรอข้างนอกแล้วดูคนให้ด้วย” ดารินหันมาสั่งพลทหารนาย สองหนุ่มขยิบตาให้กันนายดีใจมากในที่สุดเขาก็สลัดยัยเด็กบ้าพ้นตัวสักที
“พี่สันเคยถ่ายโฆษณาอะไรหรอคะ” ดารินถามพร้อมไล้มือไปตามกรอบหน้าของพลทหารหนุ่มที่มีเหงื่อซึมจนทั่ว
“โฆษณาเสื้อผ้าครับ พี่ พี่ไม่ได้ดังมากแต่ก็มีงานเรื่อยๆ”
“วันหลังพารินไปด้วยได้ไหมคะรินอยากเข้าวงการ”
“ดะ ได้ครับ”
“พี่สันใจดีจังเลย ก้มหน้ามาสิคะรินจะเช็ดเหงื่อให้” คมสันก้มหน้าไปตามคำสั่ง ดารินถลกเสื้อยืดของตัวเองขึ้นมาเช็ดหน้าให้พลทหารหนุ่ม คมสันแทบจะเลือดกำเดาพุ่งเพราะที่อยู่ชิดริมฝีปากคือหน้าอกอวบๆ ของดาริน
“พี่สันว่าหน้าอกแบบรินสวยไหมคะ” เด็กสาวแสร้งถามแล้วนวดคลึงมันเบาๆ
“สะ สวยครับ”
“หัวนมของรินสีชมพูด้วยแหละพี่สันอยากเห็นไหมคะ”
“หะ ห๊ะ พี่ว่าไม่ดีมั้งครับเดี๋ยวคุณพ่อน้องรินฆ่าพี่แน่ๆ”
“คุณพ่อไม่กล้าขัดใจรินหรอกค่ะถ้าพี่สันอยากดูรินจะเปิดให้ดู”
“อยากดูไหมคะพี่สัน”
“อยากครับ อยากดู” คมสันเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดหน้าแล้วก็รีบปาทิ้งทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ น้องรินกำลังถอดเสื้อยืดสีขาวตัวเล็กคับติ้วออก
“สวยไหมคะพี่สัน” ดารินอวดอกที่เบียดชิดกันอยู่ในยกทรงสีดำขลิบด้วยลูกไม้แถมยังคลึงหัวนมตัวเองอีกต่างหาก
“สวยครับ” คมสันยืนขาสั่นสายตาก็จับจ้องที่หน้าอกภูเขาไฟของเด็กสาวแทบไม่กะพริบ อายุไม่เท่าไหร่แต่นมใหญ่เป็นบ้าเลย
“เห็นไหมคะว่ามันสีชมพู เขาบอกว่าผู้ชายชอบจริงไหมคะพี่สัน” ดารินปลิ้นหน้าอกขาวผ่องออกมาแล้วบีบทับทิมเม็ดเล็กสีชมพูระเรื่อให้พลทหารเห็นชัดๆ
“จะ จริงครับ ชอบครับ” คมสันไม่รู้จะหนีไปจากสถานการณ์นี้ยังไงถ้าพี่หมู่หรือใครมาเห็นเข้าได้ชะตาหัวขาดแน่ๆ แต่ขามันแข็งขยับไปไหนไม่ได้เลยไม่ใช่แต่ขาด้วยที่แข็ง
“มันนิ่มมากเลยนะคะพี่สันลองจับดูสิ” ไม่พูดเปล่ามือเล็กๆ มากระชากมือใหญ่หนากร้านให้ไปวางแหมะอยู่บนอกอวบอัด
“จับสิคะ บี้มัน” ดารินพานิ้วโป้งและนิ้วกลางของทหารหนุ่มวางตรงเม็ดทับทิมสีอ่อน คมสันคือชายหนุ่มเต็มตัวและขาดรักมาหลายเดือนแล้วเมื่อทรวงอกและทรวดทรงอันเย้ายวนอยู่ตรงหน้าเขาก็หมดสิ้นซึ่งความอดกลั้นใดๆ
“อืม พี่สันขา” ดารินครวญครางเสียงหวานเมื่อยอดอกโดนเลียด้วยลิ้นหนาสาก เธอดูจากหนังโป๊และอยากรู้เหลือเกินว่าตอนที่ผู้ชายเล้าโลมมันจะรู้สึกยังไงจะเสียวซ่านขนาดไหนและเธอก็ได้รู้แล้วมันดีเกินกว่าที่คิดไว้ซะอีก
“พี่สันอยากดูตรงนี้ด้วยไหมคะ” ดารินพามือใหญ่ของชายหนุ่มเลื้อยลอดผ่านกางเกงชั้นในตัวจิ๋ว
ติดตามให้จบได้ในฉบับเต็ม
เข้า mebmarket.com ค้นหาด้วยชื่อเรื่อง "ตื๊กรักพี่สาว"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ