ลมหวาน ป่าหนาว
9.2
เขียนโดย เพียงแสงจันทร์
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.
42 ตอน
8 วิจารณ์
70.23K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) รอยคราบ.....กระชากใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ตื่น...ทุ่งตื่นได้แล้ว....นี้มันจะตีห้าแล้วนะมึง"
ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมากระทบแก้มเบาๆ จากนั้นผมก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"อ้าวนี้ตีห้าแล้วเหรอ???"
"อืม..อีก 10 นาทีอะมึง ตื่นไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้ไปโรงยิมพร้อมกันเลย"
"นี้มึงอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ??ทำไมอาบไวจังวะ"
"ไม่ให้กูอาบน้ำได้ไง ก็มึงเล่นนอนเพลิน จนน้ำลายไหลยืดมาเลอะเสื้อกูหมดเลย...โคตรเหม็นวะ"
"อะไรนะ??กูเนี้ยน่ะ!!!นอนน้ำลายยืดใส่เสื้อมึง"
"อ้าวดูซะหลักฐาน"
ป่าสักโยนเสื้อกล้ามสีขาวที่มันใส่นอนเมื่อคืนนี้ให้ผมดู
"เชี่ย!!!! คราบเลอะเต็มเสื้อเลยวะ"
อายครับ ผมอายมาก ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี ทำอะไรลงไปวะโอ้ยยยยยย มีใครจะเฉิ่มเบอะเท่าผมไหม???
"ไม่เป็นไรหรอก...เย็นนี้มึงซักให้กู"
"เอ่อ กูขอโทษนะ นอนซบอกมึงทั้งคืน แถมยังทำเสื้อมึงเลอะอีกด้วย"
"โอ้ยยยยมึงคิดไรมาก ผัวเมียกันเปื้อนแค่นี้มันก็ซักออกได้เปล่าวะ"
"ไอ้เชี่ย..เผลอเป็นไม่ได้ ..มึงนี้มันจะม่อตลอดเลยน่ะ"
"555มึงรีบไปอาบน้ำเลย หรือว่ามึงจะให้กูช่วยอาบ?"
ผมได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำทันที ขืนอยู่ต่อมีหวังได้เสียจูบให้มันอีกแน่ๆ
ผมกับป่าสักมาถึงโรงยิมของมหาวิทยาลัยก็ปาเข้าไปตีห้าสิบนาทีแล้ว เพราะผมมัวแต่จมปลักกับความอายของตัวเองอยู่ในห้องน้ำ
"โอ๊ะๆๆอะไรยังไงวะไอ้ทุ่งกะไอ้ป่าสักสุดหล่อมาพร้อมกันเว้ย"
เสียงไอ้ตรีภพแซวมาเป็นคนแรกเลย หลังจากที่ผมกับป่าสักเดินเข้ามาในโรงยิม
"กูว่านะเว้ย มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆวะ
เสียงเพื่อนอีกคนในทีมวอลเลย์บอลเสริมทัพไอ้ตรีภพทันที
"เมื่อคืนนี้กูก็เห็นมันสองคนนั่งรถไปด้วยกันวะ"
เสียงไอ้ตรีภพแซวมาอีกครั้ง นักกีฬาวอลเลย์บอลในทีมหันมามองผมทันที
"เหมือนผัวพาเมียไปแดกข้าวเลยวะ5555555"
เพื่อนคนเดิมในทีมแซวเสริมมาอีกครั้ง ต่อจากนั้นเสียงโห่ก็ตามมาแบบห่าฝนทันที
"ไอ้เชี่ยตรี มึงหยุดเห่าเดี๋ยวนี้เลยนะ"
ผมสุดจะทนที่ไอ้ตรีภพและเพื่อนๆเล่นแซวผมกับไอ้ป่าสักไม่ได้ ผมนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว
"ทุ่ง มึงซ้อมเสร็จก็ไปรอกูที่รถเลยน่ะ"
อ้าวไอ้นี้ก็อีกคน ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เฉยเลย ดูสิครับ ดูมันทำ เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยยยยยป่าสักหันมาพูดกับผมหลังจากที่มันทักทายไอ้ตรีภพและเพื่อนๆนักกีฬาวอลเลย์บอลในทีมเสร็จ
"อืม..เอาตามนั้นก็ได้"
ผมตอบป่าสักออกไปพร้อมกับรีบเดินลงสนามเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนลงซ้อมกับเพื่อนๆในทีม(จริงๆผมหนีอายครับ)
"กูไปละพวกมึง ฝากดูแลไอ้ทุ่งด้วยนะตรี"
ป่าสักหันมาพูดกับไอ้ตรีภพ
"ได้ๆเดี๋ยวกูจะดูแลให้อย่างดีเลยเพื่อน"
"อืม ขอบใจวะ"
ขณะที่ผมกำลังวิ่งรอบสนามวอลเลย์บอลอยู่นั้นไอ้ตรีภพก็วิ่งเข้ามาสะกิดผมเบาๆด้านข้าง
"เอ้ยมึง ไอ้ป่าสักมันจะจีบมึงเหรอวะ??"
"จีบบ้า จีบบอ อะไรของมึงวะไอ้เชี่ย"
"อ้าวกูเห็นมาส่งมึง คอยเป็นห่วงเป็นใย แถมก่อนมันจะไปซ้อมบาส ยังมีการมาฝากให้กูดูแลมึงแทนมันด้วย..แล้ว..แบบนี้ไม่เรียกจีบ จะให้เรียกว่าไรวะ??"
"ไอ้นั้นมันหน้าม่อ มันหื่นจะตาย มันก็พูดแบบนี้กับทุกคน..แถมกูกับมันก็เป็นรูมเมทกันแล้วแปลกตรงไหนที่มาด้วยกัน"
"นั้นไง..กูว่าแล้วววววมันต้องมีอะไรแน่ๆๆ"
"ไอ้เชี่ยตรี มึงหยุดเห่าเลยนะ"
"555มึงไม่ต้องเขินกูหรอกทุ่ง มึงนี้เสน่แรงไม่เบาเลยวะ ทำให้หนุ่มหล่อไฮโซอย่าไอ้ป่าสักมาตกหลุ่มรักได้"
"ไอ้เชี่ยตรี..กูบอกให้หยุดพูด ถ้ามึงไม่หยุดพูด กูจะเอาหมาออกจากปากมึงเดี๋ยวนี้เลย"
ผมวิ่งไล่เตะไอ้ตรีภพไปด้วยความเขินอาย
หลังจากซ้อมกีฬาเสร็จก็ประมาณ หกโมงครึ่ง ผมเดินมารอป่าสักที่รถทันที
"ทุ่ง มึงแน่ใจนะว่าจะกลับพร้อมกับไอ้ป่าสัก"
เสียงไอ้ตรีภพ ขับมอร์ไซค์มาจอดข้างๆผมแล้วถามขึ้นมา ผมหันไปมองเพื่อนทันที
"เอ่อวะ ไหนๆกูก็มากับมันแล้ว ขอบใจมึงมากนะเว้ยตรี"
"อืม ไม่เป็นไรหรอกมึง กูก็แค่เพื่อน ไหนจะไปสู้ผัวมึงได้วะ ทั้งหล่อทั้งรวย"
ไอ้ตรีภพพูดเสร็จมันก็รีบขับรถมอร์ไซค์คู่ใจออกไปทันที ปล่อยให้ผมยกเท้าเก้อ เพราะหมายจะถีบมันอย่างแรงที่ยังแซวผมไม่เลิก
"พวกมึงสองคนเป็นไรกันเปล่าวะ กูเห็นหยอกล้อกันตลอด"
เสียงของป่าสักดังขึ้นหลังจากไอ้ตรีภพขับมอร์ไซค์ออกไปจากลานจอดรถ
"เปล่า..กูกับมันก็เพื่อนกัน นี้มึงซ้อมเสร็จใช่ปะ??"
"อืมถ้าไม่เสร็จ แล้วกูจะมายืนมองดูมึงสองคนเล่นกันเหรอ"
"เอ่อๆไปเถอะ วันนี้เปิดเทอมวันแรก กูไม่อยากไปเรียนสาย"
ผมชวนป่าสักทันที เพราะดูจากสายตาและท่าทางของมันดูจะหงุดหงิดชอบกล
"แวะแดรกข้าวเช้าก่อนนะ แล้วค่อยกลับหอ"
ป่าสักพูดขึ้นหลังจากขับรถหรูของเขาออกมาจากโรงยิม
"อืม กินที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยก็แล้วกัน"
ผมเสนอความคิดออกไปเพราะกลัวว่ามันจะพิเรนพาไปกินในตัวเมืองอีก
"ตามใจมึงสิ"
จากนั้นป่าสักก็ขับรถมายังลาดจอดรถโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยซึ่งโรงอาหารแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางแหล่งรวมอาหารของนิสิตนักศึกษา จึงไม่แปลกใจเลยว่าเช้าๆขนาดนี้คนก็ยังเยอะอยู่ตลอด ผมเดินตามหลังป่าสักเข้ามาในโรงอาหาร ทุกสายตาต่างหันมาจับจ้องมองป่าสักเป็นตาเดียวกันหมดเลย คงเป็นเพราะวันนี้ป่าสักใส่ชุดนักบาสมองดูแล้วเท่มากๆแถมหน้าตามันออกจะหล่อกว่านักศึกษาทั่วไป(เอาตรงๆนึกว่าดาราเกาหลีมาเดินแบบ)คิ้วดกดำ ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงอมชมพู รับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวขาวอมชมพูของมันเปล่งประกายเจิดจ้าออร่ามาเต็ม ผมมองแผ่นหลังของป่าสักถึงได้รู้ว่ามันตัวใหญ่และสูงมาก น่าจะ185ขึ้นไปแน่ๆยิ่งมองยิ่งดูเท่ นี้ขนาดด้านหลังของมันยังน่ามอง น่าหลงใหลเลย(พอๆจะอ่านกินผู้ชายมากไปแล้วนะไอ้ทุ่ง อย่าลืมว่าเรานะเป็นนายเอก)
"โอ้ยยย"
ผมเอาหน้าไปชนกับแผ่นหลังแน่นๆของป่าสักเข้าอย่างจังเพราะว่ามันหยุดเดินแบบกระทันหัน
"อะไรของมึงวะทุ่ง?เมื่อคืนนี้ก็ซบหน้าอกกูทั้งคืน พอตอนเช้ามึงก็จะมาซบแผ่นหลังกูอีก"
"ไอ้เชี่ย มึงหยุดทำไมไม่บอกกูสักคำ แมวที่ไหนมันจะเบรกทันวะ"
"อ้าว แล้วทำไมมึงถึงต้องเดินตามหลังกูด้วยวะ"
"??!! กูเดินตามหลังมึงนี้มันผิดมากเหรอวะ"
"มันก็ไม่ได้ผิด แต่มาด้วยกันก็ควรจะเดินคู่กันเปล่าวะ?หรือมึงเขินที่ได้มาเดินกับคนหล่อๆอย่างกู"
"มึงนี้ นอกจากหน้าม่อหืนกามแล้ว ยังเป็นโรคหลงตัวเองสุดๆ"
"ฮึฮึฮึกูพูดความจริงผิดตรงไหนวะ..เช้านี้แดรกโจ๊กแล้วกันน่ะ"
ป่าสักมันชมตัวเองเสร็จ ก็ออกคำสั่งกับผมทันที ทำให้ไอ้อาการอยากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งของผมหายไปทันที
"อืมได้ แต่หาร้านที่คนไม่เยอะนะ กูขี้เกียจรอ"
"ทางนี้ ร้านมุมสุด โต๊ะว่างพอดี"
จากนั้นป่าสักก็คว้ามือผมเดินไปพร้อมกับมัน สายตาคนที่โรงอาหารนี้มองมาที่ผมทันที ดูๆๆชะนีโต๊ะนั้นสิ เบะปาก มองบน จิกตาใส่ผมอีก นั้นๆป่าร้านข้าวแกงถึงกับตาค้าง อะไรกัน?ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีมาด้วยกันเหรอ....แค่คนหล่อคนไฮโซมันจับมือผมแค่นี้ ทำเหมือนว่าฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะถลายตอนนี้เลยนะ
ขณะที่ผมกับป่าสักกำลังนั่งกินโจ๊ก อยู่ๆก็มีเสียงเข้มๆทุ่มๆทักทายป่าสักขึ้นมา จากด้านหลังผม
"อ้าวน้องป่าสัก ทานข้าวเช้าหรือครับ"
"สวัสดีครับพี่หมอแสน ทานโจ๊กด้วยกันไหมครับ"
"ตามสบายเถอะน้อง พี่อิ่มแล้ว เอ่อป่าสักวันนี้ อย่าลืมเข้าประชุมที่คณะตอนบ่ายนะ พี่ๆสตาฟเชียร์คณะเรามีเรื่องจะพูดคุยกับน้องๆสัตวแพทย์ปีหนึ่งทุกคนเลย"
"ครับ พี่หมอแสน"
"แล้วนี้?? เพื่อนป่าสักเหรอ"
"ครับ นี้ทุ่งธร แก้วบุรี นักกีฬาวอลเลย์บอล เรียนอยู่ครุศาสตร์ สาขาศิลปศึกษาครับ" ป่าสักตอบออกไป
"สวัสดีครับพี่หมอแสน" ผมหันหลังกลับไปยกมือไหว้พร้อมกล่าวทักทายคนมาใหม่ ผมนี้ตกตะลึงไปเลย ทำไมพี่หมอแสนถึงหน้าตาเหมือนผมอย่างกับแกะแบบนี้น่ะ จะแตกต่างกันก็ตรงที่พี่หมอแสน จะสูงใหญ่กว่าและบึกบึนสมชายชาตรี
"ทุ่ง นี้พี่หมอแสน นายสัตวแพทย์แสนชัย พนมดงรัก เรียนสัตวแพทย์ อยู่ปี 5 เป็นที่ปรึกษาพี่ๆสตาฟคณะเรา"
"เอ่อ ตามสบายเลยน้อง พี่ไปน่ะ เอาไว้เจอกันที่คณะ"
"สวัสดีครับ"
ผมกับป่าสักกล่าวลาพี่หมอแสนพร้อมกัน
เกินคำถามขึ้นในใจผมทันทีว่าพี่หมอแสน ทำไมหน้าตาถึงได้เหมือนผมจัง คนเราไม่ใช่พี่น้องกัน จะหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้เหรอ??เท่าที่รู้มาผมไม่เคยมีพี่ชาย เป็นลูกคนเดียว อยู่กับแม่แค่สองคน และอีกอย่างที่สะดุดใจของผมคือ นามสกุลของพี่หมอแสน "พนมดงรัก" ช่างเหมือนกับถ้อยคำที่สลักบนแหวนงาช้างของผมเสียจริง??
"ทุ่ง..เอ้ยทุ่ง มึงจะเหม่ออะไรนักหนาวะ?"
"ปะเปล่าาๆ นี้มึงอิ่มแล้วเหรอ?"
"อืม อิ่มแล้ว..เอ่อทุ่ง กูว่าน่ะ มึงกะไอ้พี่หมอแสนนี้หน้าตาคล้ายๆกันเลยวะ"
"มึง ก็คิดเหมือนกูเลย นี้กูยังงงไม่หายเลยวะ"
"เอ้ยยๆๆไม่ได้น่ะเว้ย มึงจะคิดอะไรกับพี่หมอแสนไม่ได้เชียวนะ"
"อะไรของมึงวะป่าสัก มึงคิดบ้าไรอยู่"
"ไม่รู้ละ..มึงห้ามมองใคร นอกจากกู"
พอสิ้นเสียงพูดของป่าสัก โจ๊กที่อยู่ในปากของผมเกือบพุ่งทะลักออกมาข้างนอกทันที
"มึงนี้ม่อได้แม้กระทั้งตอนแดรกข้าววะ"
"ไม่รู้ละ...ก็ใครใช้มึงมานอนซบอกกู แถมยังทำเสื้อกูเลอะอีก มึงต้องรับผิดชอบ"
ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมากระทบแก้มเบาๆ จากนั้นผมก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"อ้าวนี้ตีห้าแล้วเหรอ???"
"อืม..อีก 10 นาทีอะมึง ตื่นไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้ไปโรงยิมพร้อมกันเลย"
"นี้มึงอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ??ทำไมอาบไวจังวะ"
"ไม่ให้กูอาบน้ำได้ไง ก็มึงเล่นนอนเพลิน จนน้ำลายไหลยืดมาเลอะเสื้อกูหมดเลย...โคตรเหม็นวะ"
"อะไรนะ??กูเนี้ยน่ะ!!!นอนน้ำลายยืดใส่เสื้อมึง"
"อ้าวดูซะหลักฐาน"
ป่าสักโยนเสื้อกล้ามสีขาวที่มันใส่นอนเมื่อคืนนี้ให้ผมดู
"เชี่ย!!!! คราบเลอะเต็มเสื้อเลยวะ"
อายครับ ผมอายมาก ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี ทำอะไรลงไปวะโอ้ยยยยยย มีใครจะเฉิ่มเบอะเท่าผมไหม???
"ไม่เป็นไรหรอก...เย็นนี้มึงซักให้กู"
"เอ่อ กูขอโทษนะ นอนซบอกมึงทั้งคืน แถมยังทำเสื้อมึงเลอะอีกด้วย"
"โอ้ยยยยมึงคิดไรมาก ผัวเมียกันเปื้อนแค่นี้มันก็ซักออกได้เปล่าวะ"
"ไอ้เชี่ย..เผลอเป็นไม่ได้ ..มึงนี้มันจะม่อตลอดเลยน่ะ"
"555มึงรีบไปอาบน้ำเลย หรือว่ามึงจะให้กูช่วยอาบ?"
ผมได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำทันที ขืนอยู่ต่อมีหวังได้เสียจูบให้มันอีกแน่ๆ
ผมกับป่าสักมาถึงโรงยิมของมหาวิทยาลัยก็ปาเข้าไปตีห้าสิบนาทีแล้ว เพราะผมมัวแต่จมปลักกับความอายของตัวเองอยู่ในห้องน้ำ
"โอ๊ะๆๆอะไรยังไงวะไอ้ทุ่งกะไอ้ป่าสักสุดหล่อมาพร้อมกันเว้ย"
เสียงไอ้ตรีภพแซวมาเป็นคนแรกเลย หลังจากที่ผมกับป่าสักเดินเข้ามาในโรงยิม
"กูว่านะเว้ย มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆวะ
เสียงเพื่อนอีกคนในทีมวอลเลย์บอลเสริมทัพไอ้ตรีภพทันที
"เมื่อคืนนี้กูก็เห็นมันสองคนนั่งรถไปด้วยกันวะ"
เสียงไอ้ตรีภพแซวมาอีกครั้ง นักกีฬาวอลเลย์บอลในทีมหันมามองผมทันที
"เหมือนผัวพาเมียไปแดกข้าวเลยวะ5555555"
เพื่อนคนเดิมในทีมแซวเสริมมาอีกครั้ง ต่อจากนั้นเสียงโห่ก็ตามมาแบบห่าฝนทันที
"ไอ้เชี่ยตรี มึงหยุดเห่าเดี๋ยวนี้เลยนะ"
ผมสุดจะทนที่ไอ้ตรีภพและเพื่อนๆเล่นแซวผมกับไอ้ป่าสักไม่ได้ ผมนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว
"ทุ่ง มึงซ้อมเสร็จก็ไปรอกูที่รถเลยน่ะ"
อ้าวไอ้นี้ก็อีกคน ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เฉยเลย ดูสิครับ ดูมันทำ เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยยยยยป่าสักหันมาพูดกับผมหลังจากที่มันทักทายไอ้ตรีภพและเพื่อนๆนักกีฬาวอลเลย์บอลในทีมเสร็จ
"อืม..เอาตามนั้นก็ได้"
ผมตอบป่าสักออกไปพร้อมกับรีบเดินลงสนามเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนลงซ้อมกับเพื่อนๆในทีม(จริงๆผมหนีอายครับ)
"กูไปละพวกมึง ฝากดูแลไอ้ทุ่งด้วยนะตรี"
ป่าสักหันมาพูดกับไอ้ตรีภพ
"ได้ๆเดี๋ยวกูจะดูแลให้อย่างดีเลยเพื่อน"
"อืม ขอบใจวะ"
ขณะที่ผมกำลังวิ่งรอบสนามวอลเลย์บอลอยู่นั้นไอ้ตรีภพก็วิ่งเข้ามาสะกิดผมเบาๆด้านข้าง
"เอ้ยมึง ไอ้ป่าสักมันจะจีบมึงเหรอวะ??"
"จีบบ้า จีบบอ อะไรของมึงวะไอ้เชี่ย"
"อ้าวกูเห็นมาส่งมึง คอยเป็นห่วงเป็นใย แถมก่อนมันจะไปซ้อมบาส ยังมีการมาฝากให้กูดูแลมึงแทนมันด้วย..แล้ว..แบบนี้ไม่เรียกจีบ จะให้เรียกว่าไรวะ??"
"ไอ้นั้นมันหน้าม่อ มันหื่นจะตาย มันก็พูดแบบนี้กับทุกคน..แถมกูกับมันก็เป็นรูมเมทกันแล้วแปลกตรงไหนที่มาด้วยกัน"
"นั้นไง..กูว่าแล้วววววมันต้องมีอะไรแน่ๆๆ"
"ไอ้เชี่ยตรี มึงหยุดเห่าเลยนะ"
"555มึงไม่ต้องเขินกูหรอกทุ่ง มึงนี้เสน่แรงไม่เบาเลยวะ ทำให้หนุ่มหล่อไฮโซอย่าไอ้ป่าสักมาตกหลุ่มรักได้"
"ไอ้เชี่ยตรี..กูบอกให้หยุดพูด ถ้ามึงไม่หยุดพูด กูจะเอาหมาออกจากปากมึงเดี๋ยวนี้เลย"
ผมวิ่งไล่เตะไอ้ตรีภพไปด้วยความเขินอาย
หลังจากซ้อมกีฬาเสร็จก็ประมาณ หกโมงครึ่ง ผมเดินมารอป่าสักที่รถทันที
"ทุ่ง มึงแน่ใจนะว่าจะกลับพร้อมกับไอ้ป่าสัก"
เสียงไอ้ตรีภพ ขับมอร์ไซค์มาจอดข้างๆผมแล้วถามขึ้นมา ผมหันไปมองเพื่อนทันที
"เอ่อวะ ไหนๆกูก็มากับมันแล้ว ขอบใจมึงมากนะเว้ยตรี"
"อืม ไม่เป็นไรหรอกมึง กูก็แค่เพื่อน ไหนจะไปสู้ผัวมึงได้วะ ทั้งหล่อทั้งรวย"
ไอ้ตรีภพพูดเสร็จมันก็รีบขับรถมอร์ไซค์คู่ใจออกไปทันที ปล่อยให้ผมยกเท้าเก้อ เพราะหมายจะถีบมันอย่างแรงที่ยังแซวผมไม่เลิก
"พวกมึงสองคนเป็นไรกันเปล่าวะ กูเห็นหยอกล้อกันตลอด"
เสียงของป่าสักดังขึ้นหลังจากไอ้ตรีภพขับมอร์ไซค์ออกไปจากลานจอดรถ
"เปล่า..กูกับมันก็เพื่อนกัน นี้มึงซ้อมเสร็จใช่ปะ??"
"อืมถ้าไม่เสร็จ แล้วกูจะมายืนมองดูมึงสองคนเล่นกันเหรอ"
"เอ่อๆไปเถอะ วันนี้เปิดเทอมวันแรก กูไม่อยากไปเรียนสาย"
ผมชวนป่าสักทันที เพราะดูจากสายตาและท่าทางของมันดูจะหงุดหงิดชอบกล
"แวะแดรกข้าวเช้าก่อนนะ แล้วค่อยกลับหอ"
ป่าสักพูดขึ้นหลังจากขับรถหรูของเขาออกมาจากโรงยิม
"อืม กินที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยก็แล้วกัน"
ผมเสนอความคิดออกไปเพราะกลัวว่ามันจะพิเรนพาไปกินในตัวเมืองอีก
"ตามใจมึงสิ"
จากนั้นป่าสักก็ขับรถมายังลาดจอดรถโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยซึ่งโรงอาหารแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางแหล่งรวมอาหารของนิสิตนักศึกษา จึงไม่แปลกใจเลยว่าเช้าๆขนาดนี้คนก็ยังเยอะอยู่ตลอด ผมเดินตามหลังป่าสักเข้ามาในโรงอาหาร ทุกสายตาต่างหันมาจับจ้องมองป่าสักเป็นตาเดียวกันหมดเลย คงเป็นเพราะวันนี้ป่าสักใส่ชุดนักบาสมองดูแล้วเท่มากๆแถมหน้าตามันออกจะหล่อกว่านักศึกษาทั่วไป(เอาตรงๆนึกว่าดาราเกาหลีมาเดินแบบ)คิ้วดกดำ ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงอมชมพู รับกับใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวขาวอมชมพูของมันเปล่งประกายเจิดจ้าออร่ามาเต็ม ผมมองแผ่นหลังของป่าสักถึงได้รู้ว่ามันตัวใหญ่และสูงมาก น่าจะ185ขึ้นไปแน่ๆยิ่งมองยิ่งดูเท่ นี้ขนาดด้านหลังของมันยังน่ามอง น่าหลงใหลเลย(พอๆจะอ่านกินผู้ชายมากไปแล้วนะไอ้ทุ่ง อย่าลืมว่าเรานะเป็นนายเอก)
"โอ้ยยย"
ผมเอาหน้าไปชนกับแผ่นหลังแน่นๆของป่าสักเข้าอย่างจังเพราะว่ามันหยุดเดินแบบกระทันหัน
"อะไรของมึงวะทุ่ง?เมื่อคืนนี้ก็ซบหน้าอกกูทั้งคืน พอตอนเช้ามึงก็จะมาซบแผ่นหลังกูอีก"
"ไอ้เชี่ย มึงหยุดทำไมไม่บอกกูสักคำ แมวที่ไหนมันจะเบรกทันวะ"
"อ้าว แล้วทำไมมึงถึงต้องเดินตามหลังกูด้วยวะ"
"??!! กูเดินตามหลังมึงนี้มันผิดมากเหรอวะ"
"มันก็ไม่ได้ผิด แต่มาด้วยกันก็ควรจะเดินคู่กันเปล่าวะ?หรือมึงเขินที่ได้มาเดินกับคนหล่อๆอย่างกู"
"มึงนี้ นอกจากหน้าม่อหืนกามแล้ว ยังเป็นโรคหลงตัวเองสุดๆ"
"ฮึฮึฮึกูพูดความจริงผิดตรงไหนวะ..เช้านี้แดรกโจ๊กแล้วกันน่ะ"
ป่าสักมันชมตัวเองเสร็จ ก็ออกคำสั่งกับผมทันที ทำให้ไอ้อาการอยากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งของผมหายไปทันที
"อืมได้ แต่หาร้านที่คนไม่เยอะนะ กูขี้เกียจรอ"
"ทางนี้ ร้านมุมสุด โต๊ะว่างพอดี"
จากนั้นป่าสักก็คว้ามือผมเดินไปพร้อมกับมัน สายตาคนที่โรงอาหารนี้มองมาที่ผมทันที ดูๆๆชะนีโต๊ะนั้นสิ เบะปาก มองบน จิกตาใส่ผมอีก นั้นๆป่าร้านข้าวแกงถึงกับตาค้าง อะไรกัน?ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีมาด้วยกันเหรอ....แค่คนหล่อคนไฮโซมันจับมือผมแค่นี้ ทำเหมือนว่าฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะถลายตอนนี้เลยนะ
ขณะที่ผมกับป่าสักกำลังนั่งกินโจ๊ก อยู่ๆก็มีเสียงเข้มๆทุ่มๆทักทายป่าสักขึ้นมา จากด้านหลังผม
"อ้าวน้องป่าสัก ทานข้าวเช้าหรือครับ"
"สวัสดีครับพี่หมอแสน ทานโจ๊กด้วยกันไหมครับ"
"ตามสบายเถอะน้อง พี่อิ่มแล้ว เอ่อป่าสักวันนี้ อย่าลืมเข้าประชุมที่คณะตอนบ่ายนะ พี่ๆสตาฟเชียร์คณะเรามีเรื่องจะพูดคุยกับน้องๆสัตวแพทย์ปีหนึ่งทุกคนเลย"
"ครับ พี่หมอแสน"
"แล้วนี้?? เพื่อนป่าสักเหรอ"
"ครับ นี้ทุ่งธร แก้วบุรี นักกีฬาวอลเลย์บอล เรียนอยู่ครุศาสตร์ สาขาศิลปศึกษาครับ" ป่าสักตอบออกไป
"สวัสดีครับพี่หมอแสน" ผมหันหลังกลับไปยกมือไหว้พร้อมกล่าวทักทายคนมาใหม่ ผมนี้ตกตะลึงไปเลย ทำไมพี่หมอแสนถึงหน้าตาเหมือนผมอย่างกับแกะแบบนี้น่ะ จะแตกต่างกันก็ตรงที่พี่หมอแสน จะสูงใหญ่กว่าและบึกบึนสมชายชาตรี
"ทุ่ง นี้พี่หมอแสน นายสัตวแพทย์แสนชัย พนมดงรัก เรียนสัตวแพทย์ อยู่ปี 5 เป็นที่ปรึกษาพี่ๆสตาฟคณะเรา"
"เอ่อ ตามสบายเลยน้อง พี่ไปน่ะ เอาไว้เจอกันที่คณะ"
"สวัสดีครับ"
ผมกับป่าสักกล่าวลาพี่หมอแสนพร้อมกัน
เกินคำถามขึ้นในใจผมทันทีว่าพี่หมอแสน ทำไมหน้าตาถึงได้เหมือนผมจัง คนเราไม่ใช่พี่น้องกัน จะหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้เหรอ??เท่าที่รู้มาผมไม่เคยมีพี่ชาย เป็นลูกคนเดียว อยู่กับแม่แค่สองคน และอีกอย่างที่สะดุดใจของผมคือ นามสกุลของพี่หมอแสน "พนมดงรัก" ช่างเหมือนกับถ้อยคำที่สลักบนแหวนงาช้างของผมเสียจริง??
"ทุ่ง..เอ้ยทุ่ง มึงจะเหม่ออะไรนักหนาวะ?"
"ปะเปล่าาๆ นี้มึงอิ่มแล้วเหรอ?"
"อืม อิ่มแล้ว..เอ่อทุ่ง กูว่าน่ะ มึงกะไอ้พี่หมอแสนนี้หน้าตาคล้ายๆกันเลยวะ"
"มึง ก็คิดเหมือนกูเลย นี้กูยังงงไม่หายเลยวะ"
"เอ้ยยๆๆไม่ได้น่ะเว้ย มึงจะคิดอะไรกับพี่หมอแสนไม่ได้เชียวนะ"
"อะไรของมึงวะป่าสัก มึงคิดบ้าไรอยู่"
"ไม่รู้ละ..มึงห้ามมองใคร นอกจากกู"
พอสิ้นเสียงพูดของป่าสัก โจ๊กที่อยู่ในปากของผมเกือบพุ่งทะลักออกมาข้างนอกทันที
"มึงนี้ม่อได้แม้กระทั้งตอนแดรกข้าววะ"
"ไม่รู้ละ...ก็ใครใช้มึงมานอนซบอกกู แถมยังทำเสื้อกูเลอะอีก มึงต้องรับผิดชอบ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ