ลมหวาน ป่าหนาว

9.2

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.

  42 ตอน
  8 วิจารณ์
  70.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) รอยคราบ.....กระชากใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
"ตื่น...ทุ่งตื่นได้แล้ว....นี้มันจะตีห้าแล้วนะมึง"
ผมรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมากระทบแก้มเบาๆ  จากนั้นผมก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"อ้าวนี้ตีห้าแล้วเหรอ???"
"อืม..อีก 10 นาทีอะมึง  ตื่นไปอาบน้ำได้แล้ว  จะได้ไปโรงยิมพร้อมกันเลย"
"นี้มึงอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ??ทำไมอาบไวจังวะ"
"ไม่ให้กูอาบน้ำได้ไง  ก็มึงเล่นนอนเพลิน จนน้ำลายไหลยืดมาเลอะเสื้อกูหมดเลย...โคตรเหม็นวะ"
"อะไรนะ??กูเนี้ยน่ะ!!!นอนน้ำลายยืดใส่เสื้อมึง"
"อ้าวดูซะหลักฐาน"
ป่าสักโยนเสื้อกล้ามสีขาวที่มันใส่นอนเมื่อคืนนี้ให้ผมดู
"เชี่ย!!!! คราบเลอะเต็มเสื้อเลยวะ"
อายครับ  ผมอายมาก  ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี  ทำอะไรลงไปวะโอ้ยยยยยย มีใครจะเฉิ่มเบอะเท่าผมไหม???
"ไม่เป็นไรหรอก...เย็นนี้มึงซักให้กู"
"เอ่อ  กูขอโทษนะ  นอนซบอกมึงทั้งคืน แถมยังทำเสื้อมึงเลอะอีกด้วย"
"โอ้ยยยยมึงคิดไรมาก ผัวเมียกันเปื้อนแค่นี้มันก็ซักออกได้เปล่าวะ"
"ไอ้เชี่ย..เผลอเป็นไม่ได้  ..มึงนี้มันจะม่อตลอดเลยน่ะ"
"555มึงรีบไปอาบน้ำเลย หรือว่ามึงจะให้กูช่วยอาบ?"
ผมได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำทันที ขืนอยู่ต่อมีหวังได้เสียจูบให้มันอีกแน่ๆ
     ผมกับป่าสักมาถึงโรงยิมของมหาวิทยาลัยก็ปาเข้าไปตีห้าสิบนาทีแล้ว  เพราะผมมัวแต่จมปลักกับความอายของตัวเองอยู่ในห้องน้ำ
"โอ๊ะๆๆอะไรยังไงวะไอ้ทุ่งกะไอ้ป่าสักสุดหล่อมาพร้อมกันเว้ย"
เสียงไอ้ตรีภพแซวมาเป็นคนแรกเลย  หลังจากที่ผมกับป่าสักเดินเข้ามาในโรงยิม
"กูว่านะเว้ย มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆวะ
เสียงเพื่อนอีกคนในทีมวอลเลย์บอลเสริมทัพไอ้ตรีภพทันที
"เมื่อคืนนี้กูก็เห็นมันสองคนนั่งรถไปด้วยกันวะ"
เสียงไอ้ตรีภพแซวมาอีกครั้ง นักกีฬาวอลเลย์บอลในทีมหันมามองผมทันที
"เหมือนผัวพาเมียไปแดกข้าวเลยวะ5555555"
เพื่อนคนเดิมในทีมแซวเสริมมาอีกครั้ง ต่อจากนั้นเสียงโห่ก็ตามมาแบบห่าฝนทันที
"ไอ้เชี่ยตรี  มึงหยุดเห่าเดี๋ยวนี้เลยนะ"
ผมสุดจะทนที่ไอ้ตรีภพและเพื่อนๆเล่นแซวผมกับไอ้ป่าสักไม่ได้ ผมนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว
"ทุ่ง  มึงซ้อมเสร็จก็ไปรอกูที่รถเลยน่ะ"
อ้าวไอ้นี้ก็อีกคน ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เฉยเลย ดูสิครับ ดูมันทำ เหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยยยยยป่าสักหันมาพูดกับผมหลังจากที่มันทักทายไอ้ตรีภพและเพื่อนๆนักกีฬาวอลเลย์บอลในทีมเสร็จ
"อืม..เอาตามนั้นก็ได้"  
ผมตอบป่าสักออกไปพร้อมกับรีบเดินลงสนามเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนลงซ้อมกับเพื่อนๆในทีม(จริงๆผมหนีอายครับ)
"กูไปละพวกมึง ฝากดูแลไอ้ทุ่งด้วยนะตรี"
ป่าสักหันมาพูดกับไอ้ตรีภพ
"ได้ๆเดี๋ยวกูจะดูแลให้อย่างดีเลยเพื่อน"
"อืม  ขอบใจวะ"
ขณะที่ผมกำลังวิ่งรอบสนามวอลเลย์บอลอยู่นั้นไอ้ตรีภพก็วิ่งเข้ามาสะกิดผมเบาๆด้านข้าง
"เอ้ยมึง ไอ้ป่าสักมันจะจีบมึงเหรอวะ??"
"จีบบ้า จีบบอ  อะไรของมึงวะไอ้เชี่ย"
"อ้าวกูเห็นมาส่งมึง คอยเป็นห่วงเป็นใย แถมก่อนมันจะไปซ้อมบาส ยังมีการมาฝากให้กูดูแลมึงแทนมันด้วย..แล้ว..แบบนี้ไม่เรียกจีบ  จะให้เรียกว่าไรวะ??"
"ไอ้นั้นมันหน้าม่อ มันหื่นจะตาย มันก็พูดแบบนี้กับทุกคน..แถมกูกับมันก็เป็นรูมเมทกันแล้วแปลกตรงไหนที่มาด้วยกัน"
"นั้นไง..กูว่าแล้วววววมันต้องมีอะไรแน่ๆๆ"
"ไอ้เชี่ยตรี  มึงหยุดเห่าเลยนะ"
"555มึงไม่ต้องเขินกูหรอกทุ่ง มึงนี้เสน่แรงไม่เบาเลยวะ ทำให้หนุ่มหล่อไฮโซอย่าไอ้ป่าสักมาตกหลุ่มรักได้"
"ไอ้เชี่ยตรี..กูบอกให้หยุดพูด ถ้ามึงไม่หยุดพูด กูจะเอาหมาออกจากปากมึงเดี๋ยวนี้เลย"
ผมวิ่งไล่เตะไอ้ตรีภพไปด้วยความเขินอาย
     หลังจากซ้อมกีฬาเสร็จก็ประมาณ หกโมงครึ่ง ผมเดินมารอป่าสักที่รถทันที
"ทุ่ง  มึงแน่ใจนะว่าจะกลับพร้อมกับไอ้ป่าสัก"
เสียงไอ้ตรีภพ ขับมอร์ไซค์มาจอดข้างๆผมแล้วถามขึ้นมา  ผมหันไปมองเพื่อนทันที
"เอ่อวะ ไหนๆกูก็มากับมันแล้ว ขอบใจมึงมากนะเว้ยตรี"
"อืม ไม่เป็นไรหรอกมึง  กูก็แค่เพื่อน ไหนจะไปสู้ผัวมึงได้วะ ทั้งหล่อทั้งรวย"
ไอ้ตรีภพพูดเสร็จมันก็รีบขับรถมอร์ไซค์คู่ใจออกไปทันที ปล่อยให้ผมยกเท้าเก้อ เพราะหมายจะถีบมันอย่างแรงที่ยังแซวผมไม่เลิก
"พวกมึงสองคนเป็นไรกันเปล่าวะ  กูเห็นหยอกล้อกันตลอด"
เสียงของป่าสักดังขึ้นหลังจากไอ้ตรีภพขับมอร์ไซค์ออกไปจากลานจอดรถ
"เปล่า..กูกับมันก็เพื่อนกัน  นี้มึงซ้อมเสร็จใช่ปะ??"
"อืมถ้าไม่เสร็จ  แล้วกูจะมายืนมองดูมึงสองคนเล่นกันเหรอ"
"เอ่อๆไปเถอะ  วันนี้เปิดเทอมวันแรก กูไม่อยากไปเรียนสาย"
ผมชวนป่าสักทันที เพราะดูจากสายตาและท่าทางของมันดูจะหงุดหงิดชอบกล
"แวะแดรกข้าวเช้าก่อนนะ  แล้วค่อยกลับหอ"
ป่าสักพูดขึ้นหลังจากขับรถหรูของเขาออกมาจากโรงยิม
"อืม กินที่โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยก็แล้วกัน"
ผมเสนอความคิดออกไปเพราะกลัวว่ามันจะพิเรนพาไปกินในตัวเมืองอีก
"ตามใจมึงสิ"
จากนั้นป่าสักก็ขับรถมายังลาดจอดรถโรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัยซึ่งโรงอาหารแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางแหล่งรวมอาหารของนิสิตนักศึกษา  จึงไม่แปลกใจเลยว่าเช้าๆขนาดนี้คนก็ยังเยอะอยู่ตลอด  ผมเดินตามหลังป่าสักเข้ามาในโรงอาหาร  ทุกสายตาต่างหันมาจับจ้องมองป่าสักเป็นตาเดียวกันหมดเลย  คงเป็นเพราะวันนี้ป่าสักใส่ชุดนักบาสมองดูแล้วเท่มากๆแถมหน้าตามันออกจะหล่อกว่านักศึกษาทั่วไป(เอาตรงๆนึกว่าดาราเกาหลีมาเดินแบบ)คิ้วดกดำ ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงอมชมพู รับกับใบหน้าเรียวรูปไข่  ผิวขาวอมชมพูของมันเปล่งประกายเจิดจ้าออร่ามาเต็ม  ผมมองแผ่นหลังของป่าสักถึงได้รู้ว่ามันตัวใหญ่และสูงมาก น่าจะ185ขึ้นไปแน่ๆยิ่งมองยิ่งดูเท่ นี้ขนาดด้านหลังของมันยังน่ามอง น่าหลงใหลเลย(พอๆจะอ่านกินผู้ชายมากไปแล้วนะไอ้ทุ่ง  อย่าลืมว่าเรานะเป็นนายเอก)
"โอ้ยยย"
ผมเอาหน้าไปชนกับแผ่นหลังแน่นๆของป่าสักเข้าอย่างจังเพราะว่ามันหยุดเดินแบบกระทันหัน
"อะไรของมึงวะทุ่ง?เมื่อคืนนี้ก็ซบหน้าอกกูทั้งคืน  พอตอนเช้ามึงก็จะมาซบแผ่นหลังกูอีก"
"ไอ้เชี่ย มึงหยุดทำไมไม่บอกกูสักคำ แมวที่ไหนมันจะเบรกทันวะ"
"อ้าว  แล้วทำไมมึงถึงต้องเดินตามหลังกูด้วยวะ"
"??!! กูเดินตามหลังมึงนี้มันผิดมากเหรอวะ"
"มันก็ไม่ได้ผิด  แต่มาด้วยกันก็ควรจะเดินคู่กันเปล่าวะ?หรือมึงเขินที่ได้มาเดินกับคนหล่อๆอย่างกู"
"มึงนี้ นอกจากหน้าม่อหืนกามแล้ว  ยังเป็นโรคหลงตัวเองสุดๆ"
"ฮึฮึฮึกูพูดความจริงผิดตรงไหนวะ..เช้านี้แดรกโจ๊กแล้วกันน่ะ"
ป่าสักมันชมตัวเองเสร็จ ก็ออกคำสั่งกับผมทันที ทำให้ไอ้อาการอยากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งของผมหายไปทันที
"อืมได้  แต่หาร้านที่คนไม่เยอะนะ กูขี้เกียจรอ"
"ทางนี้ ร้านมุมสุด โต๊ะว่างพอดี"
จากนั้นป่าสักก็คว้ามือผมเดินไปพร้อมกับมัน สายตาคนที่โรงอาหารนี้มองมาที่ผมทันที  ดูๆๆชะนีโต๊ะนั้นสิ  เบะปาก มองบน  จิกตาใส่ผมอีก  นั้นๆป่าร้านข้าวแกงถึงกับตาค้าง  อะไรกัน?ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีมาด้วยกันเหรอ....แค่คนหล่อคนไฮโซมันจับมือผมแค่นี้  ทำเหมือนว่าฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะถลายตอนนี้เลยนะ
     ขณะที่ผมกับป่าสักกำลังนั่งกินโจ๊ก  อยู่ๆก็มีเสียงเข้มๆทุ่มๆทักทายป่าสักขึ้นมา จากด้านหลังผม
"อ้าวน้องป่าสัก  ทานข้าวเช้าหรือครับ"
"สวัสดีครับพี่หมอแสน  ทานโจ๊กด้วยกันไหมครับ"
"ตามสบายเถอะน้อง  พี่อิ่มแล้ว เอ่อป่าสักวันนี้ อย่าลืมเข้าประชุมที่คณะตอนบ่ายนะ พี่ๆสตาฟเชียร์คณะเรามีเรื่องจะพูดคุยกับน้องๆสัตวแพทย์ปีหนึ่งทุกคนเลย"
"ครับ  พี่หมอแสน"
"แล้วนี้?? เพื่อนป่าสักเหรอ"
"ครับ  นี้ทุ่งธร  แก้วบุรี นักกีฬาวอลเลย์บอล เรียนอยู่ครุศาสตร์ สาขาศิลปศึกษาครับ" ป่าสักตอบออกไป
"สวัสดีครับพี่หมอแสน" ผมหันหลังกลับไปยกมือไหว้พร้อมกล่าวทักทายคนมาใหม่ ผมนี้ตกตะลึงไปเลย  ทำไมพี่หมอแสนถึงหน้าตาเหมือนผมอย่างกับแกะแบบนี้น่ะ  จะแตกต่างกันก็ตรงที่พี่หมอแสน จะสูงใหญ่กว่าและบึกบึนสมชายชาตรี
"ทุ่ง นี้พี่หมอแสน  นายสัตวแพทย์แสนชัย  พนมดงรัก  เรียนสัตวแพทย์ อยู่ปี 5 เป็นที่ปรึกษาพี่ๆสตาฟคณะเรา"
"เอ่อ  ตามสบายเลยน้อง  พี่ไปน่ะ  เอาไว้เจอกันที่คณะ"
"สวัสดีครับ"
ผมกับป่าสักกล่าวลาพี่หมอแสนพร้อมกัน
     เกินคำถามขึ้นในใจผมทันทีว่าพี่หมอแสน  ทำไมหน้าตาถึงได้เหมือนผมจัง  คนเราไม่ใช่พี่น้องกัน  จะหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้เหรอ??เท่าที่รู้มาผมไม่เคยมีพี่ชาย เป็นลูกคนเดียว อยู่กับแม่แค่สองคน  และอีกอย่างที่สะดุดใจของผมคือ  นามสกุลของพี่หมอแสน  "พนมดงรัก" ช่างเหมือนกับถ้อยคำที่สลักบนแหวนงาช้างของผมเสียจริง??
"ทุ่ง..เอ้ยทุ่ง มึงจะเหม่ออะไรนักหนาวะ?"
"ปะเปล่าาๆ นี้มึงอิ่มแล้วเหรอ?"
"อืม อิ่มแล้ว..เอ่อทุ่ง กูว่าน่ะ มึงกะไอ้พี่หมอแสนนี้หน้าตาคล้ายๆกันเลยวะ"
"มึง ก็คิดเหมือนกูเลย  นี้กูยังงงไม่หายเลยวะ"
"เอ้ยยๆๆไม่ได้น่ะเว้ย  มึงจะคิดอะไรกับพี่หมอแสนไม่ได้เชียวนะ"
"อะไรของมึงวะป่าสัก  มึงคิดบ้าไรอยู่"
"ไม่รู้ละ..มึงห้ามมองใคร นอกจากกู"
พอสิ้นเสียงพูดของป่าสัก  โจ๊กที่อยู่ในปากของผมเกือบพุ่งทะลักออกมาข้างนอกทันที
"มึงนี้ม่อได้แม้กระทั้งตอนแดรกข้าววะ"
"ไม่รู้ละ...ก็ใครใช้มึงมานอนซบอกกู แถมยังทำเสื้อกูเลอะอีก มึงต้องรับผิดชอบ"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา