มาโครว์คลื่นพลังเทพปาฏิหาริย์
9.3
เขียนโดย lookc
วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.43 น.
3 ตอน
1 วิจารณ์
4,995 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 23.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอนที่ 2 ชายที่ชื่อ เท็นโฟคุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความข้อมูลตัวละครเบื้องต้น
ชื่อ : กิมีนี ลานซาร์ด
สายเลือด :โมเชียส เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ผู้ใช้มาโครว์ : ขั้น 2 พลังมาโครว์ 668 หน่วย ผู้ใช้ผลังสาย : โมเมนท์
เลเวลนักผจญภัย : 14 สังกัดกิลด์ : เคลคูรัส
***************************************************************
เงาที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ก็ค่อยๆ เข้ามาใกล้จนปรากฏรูปร่างลักษณะที่ชัดขึ้นซึ้งเป็นลักษณะที่แคนเทียร์หรือลานซาร์ดไม่เคยเจอไม่ก่อนแน่นอนว่าต้องไม่ใช้ลักษณะของชาวเมืองหรือนักผจญภัยจากเมืองท๊อคเทลหรือหมู่บ้านใกล้เคียงแน่ เป็นลักษณะที่ไม่เคยพบเห็นหรือได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีสายเลือดมนุษย์ที่มี นัยน์ตาข้างล่ะสีกัน ซึ่งตาข้างซ้ายเป็นสีเทา ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง สีเส้นผมเป็นสีเทาเงิน ผิวสีขาวซีด ถ้าหากเขามาจากเมืองอื่นเขาคงเป็นผู้ใช้มาโครว์แน่ถึงสามารถเดินทางมาได้เมื่อนึกเช่นนั้นแคนเทียร์จึงร้องขอความช่วยเหลือจากชายคนนั้นอีกครั้ง
“ช่วยฉันด้วย ได้โปรด” แคนเทียร์ร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง และเขาคนนั้นก็ไดหยุดแล้วจ้องมองดูมายังแคนเทียร์ก่อนจะหันไปมองที่ลานซาร์ด
“เฮ้ยๆๆๆ นี้แกเป็นใครกัน คิดจะเข้ามาช่วยยั้ยคนนั้นใช่ไหม” ลานซาร์ดรีบตะโกนถามชายคนนั้นทันทีในหัวก็คิดว่าเจ้าหมอนี้หรือว่ามันเป็นนักผจญภัยที่เดินทางมาจากเมืองอื่น ชักน่าจะสนุกแล้วสิไม่ได้ต่อสู้กับผู้ใช้มาโครว์มานานแล้วด้วยสิ
ชายคนนั้นยังคงไม่พูดตอบอะไรออกมาในระหว่างที่ลานซาร์ตยังคงสาดส่องสายตามองหาป้ายสัญลักษณ์นักผจญภัย แต่กลับไม่พบสิ่งที่ยืนยันเลยว่าเขาคนนี้คือนักผจญภัย
“ผมชื่อว่า เท็นโฟคุ ผมไม่ได้คิดจะช่วยใคร เพียงแค่สงสัยว่าทำไมกัน ร่างของคุณทำไมถึงได้ส่องแสงสว่างในยามค่ำคืน”
“ฮ่า ๆๆ นี้แกถามจริงๆหรือว่าแกล้งกันแน่” เมือได้ฟังคำตอบของเขาคนนั้นทำให้ลานซาร์ดถึงกับหัวเราะออกมา เจ้านี้มันจะใช่นักผจญภัยได้ไงเพียงแค่อ่อรามันยังไม่รู้จักเลย บ้างทีเราคงต้องผิดหวังตามอีกรอบล่ะเจ้านี้คงไม่ใช้ผู้ใช้มาโครว์อีกคน
เช่นเดียวกันแคนเทียร์กลับมาสิ้นหวังอีกครั้งเพราะชายคนที่เธอคิดว่าอาจจะช่วยชีวิตเธอได้นั้นกลับไม่ได้คิดจะช่วยเหลือเธอมิหนำซ้ำยังไม่รู้จักแม้กระทั้งแสงอ่อราของผู้ใช้พลังมาโครว์ปาฏิหาริย์ที่เธอคิดว่าจะมีคงไม่ได้มีกันง่ายๆ
“แล้วมันคืออะไรกันครับ” เท็นโฟคุยังคงสงสัยเรื่องแสงนั้น
“เอาเป็นว่าข้าจะตอบให้ก็ได้ แสงที่อยู่รอบกายข้านี้คืออ่อราที่เปล่งประกายออกมายามที่ผู้ใช้มาโครว์ได้ใช้สกิลพื้นฐานอวยพรผู้ใช้ ซึ่งสีของอ่อรามันจะแตกต่างตามระดับขั้นของผู้ใช้มาโครว์นั้น”
สีของแสงออร่าผู้ใช้มาโครว์ขั้นต่างๆก็จะเป็นเช่นนี้
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 1 แสงออร่าเป็นสีส้มอ่อนๆ
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 2 แสงออร่าเป็นสีส้มเข้ม
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 3 แสงออร่าเป็นสีเขียวอ่อน
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 4 แสงออร่าเป็นสีเหลือง
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 5 แสงออร่าเป็นสีชมพู่อ่อน
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 6 แสงออร่าเป็นสีแดง
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 7 แสงออร่าเป็นสีทองน่าจะเป็นระดับขั้นสูงสุดแล้วเพราะเท่าที่ปรากฏข้อมูลมานั้นก็อยู่ในช่วงสงครามเมื่อ 1,800 ปีก่อนซึ่งผู้ใช้มาโครว์ขั้น 7 คนนั้นเขาก็คือตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่และก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใช้มาโครว์ขั้น 8 เลย เป็นไงบางแกพอจะหายสงสัยบางยัง”
“ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยอธิบาย เอาล่ะผมต้องเดินทางไปต่อแล้วล่ะ” เท็นโฟคุพูดขอบคุณก่อนที่จะเดินผ่านทั้งสองคนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เห้ยๆๆ ถึงแกไม่คิดจะช่วยผู้หญิงคนนี้จริงๆ แต่ข้าคงจะปล่อยแกไปไม่ได้หรอกนะ ถือว่าเป็นความซวยของแกแล้วกันนะ” ลานซาร์ดพูดเสร็จก็เข้าไปจับที่ไหล่ขวาของเท็นโฟคุไว้จากด้านหลัง
“ถ้างั้นคุณคงไม่คิดว่าจะให้ผมฆ่าคนแล้วค่อยเดินทางต่อหรอกสินะครับ”เท็นโฟคุตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ฮ่าๆๆๆ นี้แกพูดให้ข้าขำอีกเหรอ คนที่ไม่รู้จักแสงอ่อราอย่างแกก็คงใช้มาโครว์ไม่ได้แล้วแกจะใช้อะไรมาฆ่าข้าว่ะ”
“ถ้างันแกลองแสดงให้ข้าดูหน่อยสิว่า แกจะฆ่าข้าได้ยังไง”ลานซาร์ดพูดจาท้าทายเท็นโฟคุเพียงเพราะคิดว่าเจ้าหมอนี้มันพูดขู่เพื่อที่จะให้เขากลัว เช่นเดียวกันแคนเทียร์ที่ดูเหตุการณ์อยู่ตลอดก็คิดเช่นนั้น
“ถ้าอย่างนั้นผมก็คงจะไม่เกรงใจแล้วนะครับ”หลังจากที่เท็นโฟคุพูดจบ ก็ได้หันหลังกลับไปยังทางที่ลานซาร์ดยืนอยู่ทันใดนั้นร่างของลานซาร์ดก็ลอยเหนือพื้นดินประมาณ 2 เมตรและกระเด็นออกที่จากจุดที่เขายืนประมาณ 15 เมตรก่อนที่จะตกลงสู่พื้นดินพร้อมกับอ่อราก็หายไปด้วย ป้ายสัญลักษณ์นักผจญภัยของลานซาร์ดได้กระเด็นไปตกหน้าแคนเทียร์ ก่อนเธอจะหยิบมันขึ้นมาเก็บไว้ในขณะที่ยังงงอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“นี้นายทำอะไรกับเจ้าลานซาร์ดนั้นกัน” แคนเทียร์ถามเท็นโฟคุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะได้รับคำตอบสั้นๆจากเท็นโฟคุ “ผมก็ฆ่าเขา ตามคำขอ” ก่อนที่เท็นโฟคุจะก้าวเท้าเดินต่อไป
“นี้มันคือปาฏิหาริย์งันเหรอ ทั้งๆที่เราเองเลิกหวังไปแล้ว ชายคนนี้ ถึงไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็ตาม ถ้าเป็นเขาบางทีอาจจะช่วยเหลือหมู่บ้านเราได้ก็ได้”แคนเทียร์คิดในใจ เธอเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเพื่อที่จะให้เขายอมช่วยเหลือเราจะเอาอะไรมาแลกได้ละก็ในเมื่อถุงผ้าที่ห่อเหรียญตราเงินนั้นไมได้อยู่ที่เรา อยู่กับชาย 1 ใน 4 คนที่ถูกลานซาร์ดฆ่าตาย และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ช่างมันอย่างไงก็ต้องคุยกับเขาดูก่อน
“เด้วก่อนสิ นายชื่อเท็นโฟคุใช่ไหม” แคนเทียร์ตะโกนบอกให้เท็นโฟคุหยุดก่อน
“หืมมม มีอะไรเหรอครับหรือว่าผมต้องฆ่าคุณก่อนถึงจะเดินทางต่อได้”
ด้วยแสงสว่างอันน้อยนิดที่สาดส่องมาจากดวงดาวเล็กใหญ่บนท้องฟ้า ทำให้สามารถมองเห็นได้เป็นเงาลางๆ ว่าเท็นโฟคุได้หยุดเดินและหันมาคุยกับตัวเองแคนเทียร์จึงไม่รอช้าที่จะพูดต่อ
“ฉันชื่อว่า แคนเทียร์ เป็นชาวบ้านอยู่หมู่บ้านแถวนี้ แล้วนายกำลังจะเดินทางไปไหนต่อเหรอ”
เท็นโฟคุนิ่งเงียบเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่นาน คงอาจจะเพราะนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปีที่มีหญิงสาวมาพูดคุยด้วยกับเขา ทำให้เขายิ่งนึกถึงหญิงสาวผู้หนึ่ง หญิงสาวที่เปรียบเสมือนนางฟ้าของเขา มันนานมากแล้วที่เธอจากไปแต่ว่าความรู้สึกคิดถึงนั้นไม่เคยลดน้อยลงเลย เหมือนกับว่าเธอพึ่งจากไปเมื่อวาน
“ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหิว คิดว่าคงต้องล่ามอนสเตอร์แถวนี้กินก่อนครับ”
“ถ้างันเพื่อเป็นการตอบแทนที่นายช่วยชีวิตฉันไว้ ไปที่บ้านฉันไหมเด้วฉันจะทำอาหารอร่อยๆให้นายกินเอง”แคนเทียร์เอ่ยปากชวนเท็นโฟคุ
เมือได้ยินเช่นนั้นมันก็ทำให้เท็นโฟคุเริ่มนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเป็นเด็ก
“เจ้าเด็กปีศาจ!!! ทำไหมชาวเมืองถึงเรียกนายว่าเจ้าเด็กปีศาจ” เสียงหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งถามเด็กน้อยที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแผลแต่งตัวเสื้อผ้าชุดขาดๆและสกปรกมาก
“เราไม่ใช้เด็กปีศาจนะ เราชื่อเท็นโฟคุ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม เราก็แค่หิวมากๆ เราคิดถึงท่านพ่อจัง” เจ้าเด็กน้อยเท็นโฟคุตอบกลับสวยสวยคนนั้นพร้อมด้วยน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากตา...
“โอ้ๆๆๆ ไม่ร้องนะเด็กดี รับนี้ไปกินสิแล้วหยุดร้องนะ”หญิงสาวพูดปลอบพร้อมกับยื่นบางสิงให้เท็นโฟคุกิน เท็นโฟคุก็รับมันมาพร้อมกับกินมันเข้าไปทั้งน้ำตาด้วยความหิวตอนนี้ไม่ว่าอะไรเขาก็กินได้
“อร่อยจัง นี้มันคืออะไรครับ”เจ้าเด็กน้อยเท็นโฟคุถามด้วยความอยากรู้เพราะไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
“มันก็คือยาพิษ อีกเดียวนายก็จะต้องตาย” เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเท็นโฟคุก็รู้สึกอึงไปพักหนึ่งและคิดว่าตายไปก็คงไม่เสียหายอะไร
“ไม่เอาน่า อย่าเศร้าไปเราแค่ล้อเล่น ที่นายกินไปมันแค่ขนมที่เราเรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์” หญิงสาวพูดปลอบใจเท็นโฟคุก่อนที่จะแนะนำตัว
“เราชื่อว่า โซวา เราเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองที่นี้ นายรู้รึป่าวว่าทำไมทุกคนในเมืองถึงเรียกนายว่าเป็นเด็กปีศาจ”
“ไม่รู้เลยครับ”
“ก็เพราะว่าทุกคนคิดว่า นายเป็นเผ่าพันธุ์ ครึ่งอสูร แวมไพร์ยังไงล่ะ นายคือลูกของพวกแวมไพร์ที่พวกเราเกลียดและเคียดแค้น”
“ทำไมถึงคิดว่าผมเป็นแวมไพร์ล่ะครับ”
“เพราะสีของเส้นผมของนายไงล่ะ ยังเด็กอยู่แท้ๆ แต่ดันมีเส้นผมสีเทาเงินอย่างพวกแวมไพร์” หญิงสาวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เศร้า “เราขอโทษแทนพวกเขาด้วย ขอโทษจริงๆเขาทุกคนแค่เกลียด โกรธ และเสียใจที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปเพราะพวกแวมไพร์และจู่ๆนายก็โผล่มา ทุกคนเลยมาระบายลงที่นาย ขอโทษด้วยจริงๆ นะ เราสัญญาว่ายังไงเราก็จะช่วยให้นายได้ออกจากคุกนี้แน่นอน”
“เท็นโฟคุ เท็นโฟคุ เท็นโฟคุ” เสียงแคนเทียร์เรียก
“มีแฮมเบอเกอร์รึป่าวล่ะ อาหารที่จะทำให้ผมกิน” เท็นโฟคุตอบ
“เห็นเงียบไปนานเลย เป็นอะไรรึป่าว”
“ป่าวแค่อยากกินแฮมเบอเกอร์ครับ”
“งันตกลงไปบ้านฉันแล้วนะ จะแฮมเบเกอร์ หรือแฮมเบอก้า หรืออะไรถ้าทำได้ก็จะให้กินหมดแหละ”
“ตกลง ไปบ้านคุณก็ได้ นำไปเลย” เท็นโฟคุตอบตกลงและให้แคนเทียร์นำทางไปแต่เนื่องด้วยความมืดและแคนเทียร์ก็ยังหลงทางอยู่แต่ด้วยความกลัวถ้าบอกเรื่องนี้ไปแล้วจะทำให้เท็นโฟคุเกิดเปลี่ยนใจ ทำให้แคนเทียร์ได้แต่ปกปิดเรื่องนี้และเดินนำทางต่อไป แทนที่จะเดินไปใกล้หมู่บ้านกลับกลายเป็นว่าค่อยๆเดินออกห่างไปจากหมู่บ้านเรื่อยๆ
ชื่อ : กิมีนี ลานซาร์ด
สายเลือด :โมเชียส เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ผู้ใช้มาโครว์ : ขั้น 2 พลังมาโครว์ 668 หน่วย ผู้ใช้ผลังสาย : โมเมนท์
เลเวลนักผจญภัย : 14 สังกัดกิลด์ : เคลคูรัส
***************************************************************
เงาที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ก็ค่อยๆ เข้ามาใกล้จนปรากฏรูปร่างลักษณะที่ชัดขึ้นซึ้งเป็นลักษณะที่แคนเทียร์หรือลานซาร์ดไม่เคยเจอไม่ก่อนแน่นอนว่าต้องไม่ใช้ลักษณะของชาวเมืองหรือนักผจญภัยจากเมืองท๊อคเทลหรือหมู่บ้านใกล้เคียงแน่ เป็นลักษณะที่ไม่เคยพบเห็นหรือได้ยินมาก่อนเลยว่าจะมีสายเลือดมนุษย์ที่มี นัยน์ตาข้างล่ะสีกัน ซึ่งตาข้างซ้ายเป็นสีเทา ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง สีเส้นผมเป็นสีเทาเงิน ผิวสีขาวซีด ถ้าหากเขามาจากเมืองอื่นเขาคงเป็นผู้ใช้มาโครว์แน่ถึงสามารถเดินทางมาได้เมื่อนึกเช่นนั้นแคนเทียร์จึงร้องขอความช่วยเหลือจากชายคนนั้นอีกครั้ง
“ช่วยฉันด้วย ได้โปรด” แคนเทียร์ร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง และเขาคนนั้นก็ไดหยุดแล้วจ้องมองดูมายังแคนเทียร์ก่อนจะหันไปมองที่ลานซาร์ด
“เฮ้ยๆๆๆ นี้แกเป็นใครกัน คิดจะเข้ามาช่วยยั้ยคนนั้นใช่ไหม” ลานซาร์ดรีบตะโกนถามชายคนนั้นทันทีในหัวก็คิดว่าเจ้าหมอนี้หรือว่ามันเป็นนักผจญภัยที่เดินทางมาจากเมืองอื่น ชักน่าจะสนุกแล้วสิไม่ได้ต่อสู้กับผู้ใช้มาโครว์มานานแล้วด้วยสิ
ชายคนนั้นยังคงไม่พูดตอบอะไรออกมาในระหว่างที่ลานซาร์ตยังคงสาดส่องสายตามองหาป้ายสัญลักษณ์นักผจญภัย แต่กลับไม่พบสิ่งที่ยืนยันเลยว่าเขาคนนี้คือนักผจญภัย
“ผมชื่อว่า เท็นโฟคุ ผมไม่ได้คิดจะช่วยใคร เพียงแค่สงสัยว่าทำไมกัน ร่างของคุณทำไมถึงได้ส่องแสงสว่างในยามค่ำคืน”
“ฮ่า ๆๆ นี้แกถามจริงๆหรือว่าแกล้งกันแน่” เมือได้ฟังคำตอบของเขาคนนั้นทำให้ลานซาร์ดถึงกับหัวเราะออกมา เจ้านี้มันจะใช่นักผจญภัยได้ไงเพียงแค่อ่อรามันยังไม่รู้จักเลย บ้างทีเราคงต้องผิดหวังตามอีกรอบล่ะเจ้านี้คงไม่ใช้ผู้ใช้มาโครว์อีกคน
เช่นเดียวกันแคนเทียร์กลับมาสิ้นหวังอีกครั้งเพราะชายคนที่เธอคิดว่าอาจจะช่วยชีวิตเธอได้นั้นกลับไม่ได้คิดจะช่วยเหลือเธอมิหนำซ้ำยังไม่รู้จักแม้กระทั้งแสงอ่อราของผู้ใช้พลังมาโครว์ปาฏิหาริย์ที่เธอคิดว่าจะมีคงไม่ได้มีกันง่ายๆ
“แล้วมันคืออะไรกันครับ” เท็นโฟคุยังคงสงสัยเรื่องแสงนั้น
“เอาเป็นว่าข้าจะตอบให้ก็ได้ แสงที่อยู่รอบกายข้านี้คืออ่อราที่เปล่งประกายออกมายามที่ผู้ใช้มาโครว์ได้ใช้สกิลพื้นฐานอวยพรผู้ใช้ ซึ่งสีของอ่อรามันจะแตกต่างตามระดับขั้นของผู้ใช้มาโครว์นั้น”
สีของแสงออร่าผู้ใช้มาโครว์ขั้นต่างๆก็จะเป็นเช่นนี้
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 1 แสงออร่าเป็นสีส้มอ่อนๆ
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 2 แสงออร่าเป็นสีส้มเข้ม
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 3 แสงออร่าเป็นสีเขียวอ่อน
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 4 แสงออร่าเป็นสีเหลือง
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 5 แสงออร่าเป็นสีชมพู่อ่อน
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 6 แสงออร่าเป็นสีแดง
ผู้ใช้มาโครว์ขั้น 7 แสงออร่าเป็นสีทองน่าจะเป็นระดับขั้นสูงสุดแล้วเพราะเท่าที่ปรากฏข้อมูลมานั้นก็อยู่ในช่วงสงครามเมื่อ 1,800 ปีก่อนซึ่งผู้ใช้มาโครว์ขั้น 7 คนนั้นเขาก็คือตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่และก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใช้มาโครว์ขั้น 8 เลย เป็นไงบางแกพอจะหายสงสัยบางยัง”
“ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยอธิบาย เอาล่ะผมต้องเดินทางไปต่อแล้วล่ะ” เท็นโฟคุพูดขอบคุณก่อนที่จะเดินผ่านทั้งสองคนไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เห้ยๆๆ ถึงแกไม่คิดจะช่วยผู้หญิงคนนี้จริงๆ แต่ข้าคงจะปล่อยแกไปไม่ได้หรอกนะ ถือว่าเป็นความซวยของแกแล้วกันนะ” ลานซาร์ดพูดเสร็จก็เข้าไปจับที่ไหล่ขวาของเท็นโฟคุไว้จากด้านหลัง
“ถ้างั้นคุณคงไม่คิดว่าจะให้ผมฆ่าคนแล้วค่อยเดินทางต่อหรอกสินะครับ”เท็นโฟคุตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ฮ่าๆๆๆ นี้แกพูดให้ข้าขำอีกเหรอ คนที่ไม่รู้จักแสงอ่อราอย่างแกก็คงใช้มาโครว์ไม่ได้แล้วแกจะใช้อะไรมาฆ่าข้าว่ะ”
“ถ้างันแกลองแสดงให้ข้าดูหน่อยสิว่า แกจะฆ่าข้าได้ยังไง”ลานซาร์ดพูดจาท้าทายเท็นโฟคุเพียงเพราะคิดว่าเจ้าหมอนี้มันพูดขู่เพื่อที่จะให้เขากลัว เช่นเดียวกันแคนเทียร์ที่ดูเหตุการณ์อยู่ตลอดก็คิดเช่นนั้น
“ถ้าอย่างนั้นผมก็คงจะไม่เกรงใจแล้วนะครับ”หลังจากที่เท็นโฟคุพูดจบ ก็ได้หันหลังกลับไปยังทางที่ลานซาร์ดยืนอยู่ทันใดนั้นร่างของลานซาร์ดก็ลอยเหนือพื้นดินประมาณ 2 เมตรและกระเด็นออกที่จากจุดที่เขายืนประมาณ 15 เมตรก่อนที่จะตกลงสู่พื้นดินพร้อมกับอ่อราก็หายไปด้วย ป้ายสัญลักษณ์นักผจญภัยของลานซาร์ดได้กระเด็นไปตกหน้าแคนเทียร์ ก่อนเธอจะหยิบมันขึ้นมาเก็บไว้ในขณะที่ยังงงอยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“นี้นายทำอะไรกับเจ้าลานซาร์ดนั้นกัน” แคนเทียร์ถามเท็นโฟคุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะได้รับคำตอบสั้นๆจากเท็นโฟคุ “ผมก็ฆ่าเขา ตามคำขอ” ก่อนที่เท็นโฟคุจะก้าวเท้าเดินต่อไป
“นี้มันคือปาฏิหาริย์งันเหรอ ทั้งๆที่เราเองเลิกหวังไปแล้ว ชายคนนี้ ถึงไม่รู้ว่าเพราะอะไรก็ตาม ถ้าเป็นเขาบางทีอาจจะช่วยเหลือหมู่บ้านเราได้ก็ได้”แคนเทียร์คิดในใจ เธอเริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเพื่อที่จะให้เขายอมช่วยเหลือเราจะเอาอะไรมาแลกได้ละก็ในเมื่อถุงผ้าที่ห่อเหรียญตราเงินนั้นไมได้อยู่ที่เรา อยู่กับชาย 1 ใน 4 คนที่ถูกลานซาร์ดฆ่าตาย และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ช่างมันอย่างไงก็ต้องคุยกับเขาดูก่อน
“เด้วก่อนสิ นายชื่อเท็นโฟคุใช่ไหม” แคนเทียร์ตะโกนบอกให้เท็นโฟคุหยุดก่อน
“หืมมม มีอะไรเหรอครับหรือว่าผมต้องฆ่าคุณก่อนถึงจะเดินทางต่อได้”
ด้วยแสงสว่างอันน้อยนิดที่สาดส่องมาจากดวงดาวเล็กใหญ่บนท้องฟ้า ทำให้สามารถมองเห็นได้เป็นเงาลางๆ ว่าเท็นโฟคุได้หยุดเดินและหันมาคุยกับตัวเองแคนเทียร์จึงไม่รอช้าที่จะพูดต่อ
“ฉันชื่อว่า แคนเทียร์ เป็นชาวบ้านอยู่หมู่บ้านแถวนี้ แล้วนายกำลังจะเดินทางไปไหนต่อเหรอ”
เท็นโฟคุนิ่งเงียบเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่นาน คงอาจจะเพราะนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปีที่มีหญิงสาวมาพูดคุยด้วยกับเขา ทำให้เขายิ่งนึกถึงหญิงสาวผู้หนึ่ง หญิงสาวที่เปรียบเสมือนนางฟ้าของเขา มันนานมากแล้วที่เธอจากไปแต่ว่าความรู้สึกคิดถึงนั้นไม่เคยลดน้อยลงเลย เหมือนกับว่าเธอพึ่งจากไปเมื่อวาน
“ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกหิว คิดว่าคงต้องล่ามอนสเตอร์แถวนี้กินก่อนครับ”
“ถ้างันเพื่อเป็นการตอบแทนที่นายช่วยชีวิตฉันไว้ ไปที่บ้านฉันไหมเด้วฉันจะทำอาหารอร่อยๆให้นายกินเอง”แคนเทียร์เอ่ยปากชวนเท็นโฟคุ
เมือได้ยินเช่นนั้นมันก็ทำให้เท็นโฟคุเริ่มนึกถึงเรื่องเมื่อตอนเป็นเด็ก
“เจ้าเด็กปีศาจ!!! ทำไหมชาวเมืองถึงเรียกนายว่าเจ้าเด็กปีศาจ” เสียงหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่งถามเด็กน้อยที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยแผลแต่งตัวเสื้อผ้าชุดขาดๆและสกปรกมาก
“เราไม่ใช้เด็กปีศาจนะ เราชื่อเท็นโฟคุ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไม เราก็แค่หิวมากๆ เราคิดถึงท่านพ่อจัง” เจ้าเด็กน้อยเท็นโฟคุตอบกลับสวยสวยคนนั้นพร้อมด้วยน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากตา...
“โอ้ๆๆๆ ไม่ร้องนะเด็กดี รับนี้ไปกินสิแล้วหยุดร้องนะ”หญิงสาวพูดปลอบพร้อมกับยื่นบางสิงให้เท็นโฟคุกิน เท็นโฟคุก็รับมันมาพร้อมกับกินมันเข้าไปทั้งน้ำตาด้วยความหิวตอนนี้ไม่ว่าอะไรเขาก็กินได้
“อร่อยจัง นี้มันคืออะไรครับ”เจ้าเด็กน้อยเท็นโฟคุถามด้วยความอยากรู้เพราะไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
“มันก็คือยาพิษ อีกเดียวนายก็จะต้องตาย” เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเท็นโฟคุก็รู้สึกอึงไปพักหนึ่งและคิดว่าตายไปก็คงไม่เสียหายอะไร
“ไม่เอาน่า อย่าเศร้าไปเราแค่ล้อเล่น ที่นายกินไปมันแค่ขนมที่เราเรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์” หญิงสาวพูดปลอบใจเท็นโฟคุก่อนที่จะแนะนำตัว
“เราชื่อว่า โซวา เราเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองที่นี้ นายรู้รึป่าวว่าทำไมทุกคนในเมืองถึงเรียกนายว่าเป็นเด็กปีศาจ”
“ไม่รู้เลยครับ”
“ก็เพราะว่าทุกคนคิดว่า นายเป็นเผ่าพันธุ์ ครึ่งอสูร แวมไพร์ยังไงล่ะ นายคือลูกของพวกแวมไพร์ที่พวกเราเกลียดและเคียดแค้น”
“ทำไมถึงคิดว่าผมเป็นแวมไพร์ล่ะครับ”
“เพราะสีของเส้นผมของนายไงล่ะ ยังเด็กอยู่แท้ๆ แต่ดันมีเส้นผมสีเทาเงินอย่างพวกแวมไพร์” หญิงสาวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เศร้า “เราขอโทษแทนพวกเขาด้วย ขอโทษจริงๆเขาทุกคนแค่เกลียด โกรธ และเสียใจที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปเพราะพวกแวมไพร์และจู่ๆนายก็โผล่มา ทุกคนเลยมาระบายลงที่นาย ขอโทษด้วยจริงๆ นะ เราสัญญาว่ายังไงเราก็จะช่วยให้นายได้ออกจากคุกนี้แน่นอน”
“เท็นโฟคุ เท็นโฟคุ เท็นโฟคุ” เสียงแคนเทียร์เรียก
“มีแฮมเบอเกอร์รึป่าวล่ะ อาหารที่จะทำให้ผมกิน” เท็นโฟคุตอบ
“เห็นเงียบไปนานเลย เป็นอะไรรึป่าว”
“ป่าวแค่อยากกินแฮมเบอเกอร์ครับ”
“งันตกลงไปบ้านฉันแล้วนะ จะแฮมเบเกอร์ หรือแฮมเบอก้า หรืออะไรถ้าทำได้ก็จะให้กินหมดแหละ”
“ตกลง ไปบ้านคุณก็ได้ นำไปเลย” เท็นโฟคุตอบตกลงและให้แคนเทียร์นำทางไปแต่เนื่องด้วยความมืดและแคนเทียร์ก็ยังหลงทางอยู่แต่ด้วยความกลัวถ้าบอกเรื่องนี้ไปแล้วจะทำให้เท็นโฟคุเกิดเปลี่ยนใจ ทำให้แคนเทียร์ได้แต่ปกปิดเรื่องนี้และเดินนำทางต่อไป แทนที่จะเดินไปใกล้หมู่บ้านกลับกลายเป็นว่าค่อยๆเดินออกห่างไปจากหมู่บ้านเรื่อยๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ