มาโครว์คลื่นพลังเทพปาฏิหาริย์

9.3

เขียนโดย lookc

วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.43 น.

  3 ตอน
  1 วิจารณ์
  4,977 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 23.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ 1 ชายปริศนา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ดินแดนที่อยู่แถบทางใต้ของสวอร์ต ณ เมืองหนึ่งนั้นเด็กน้อยวัย 11 ขวบที่มีนัยน์ตาทั้ง 2 ข้างเป็นสีเทา เส้นผมสีเทาเงิน กำลังวิ่งหนีอย่างหัวซุกหัวซุน ภายในมือน้อยๆ ของเขาก็ได้ถือผลไม้อยู่ลูกหนึ่งซึ่งมีลักษณะทรงกลมออกจะแบนเล็กน้อย ผลโตส่วนตรงขั้ว และก้นของผลนั้นมีรอยบุ๋มเข้าเปลือกมีสีแดงหรือที่เรียกชื่อมันว่าแอปเปิล อยู่ห่างไม่ไกลออกไปจากเด็กน้อยนั้นก็ได้มีกลุ่มของชาวเมืองจำนวนหลายสิบคนได้วิ่งตามจับเด็กคนนี้พร้อมกับตะโกนด่าว่าต่างๆนาๆ

     "พวกเราช่วยกันจับมันไว้"

     "หยุดนะเจ้าเด็กปีศาจ"

     "เจ้าลูกของปีศาจหยุดนะ"

     "อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้"

     "จับมันมาแขวนคอให้ได้"

ในระหว่างที่เด็กน้อยที่ถูกเรียกว่าเด็กปีศาจพยายามวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างเอาเป็นเอาตายนั้นทันใดนั้นก็มีของแข็งมากระทบข้างหลังแถวบริเวณท้ายทอยทำให้เด็กน้อยล้มลงนอนกับนอนกับพื้นทันทีที่ชาวเมืองที่วิ่งไล่ตามมาทัน ก็ไม่รอช้าหรือพูดอะไรพากันใช้เท้ารุ่มเตะรุ่มกระทืบพร้อมตะโกนว่า "นี้แน่ นี้แน่ ตายไปซะ เจ้าปีศาจน้อย" ทันใดนั้นเด็กน้อยปีศาจคนนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝัน

“ฝันถึงเรื่องนี้อีกแล้วเหรอ” ชายคนนี้พูดรำพึงกับตัวเอง

และเขาได้ลุกขึ้นแล้วก็เริ่มออกเดินทางต่อไปในความมืด

ในดินแดนแห่งนี้นั้นถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะยังมืดมิดแต่ก็ใช้ว่าจะเป็นช่วงเวลานอนหลับพักผ่อนของมนุษย์เพราะค่ำคืนยามราตีในดินแดนแห่งนี้มันกินเวลานานถึง 18 ชม.ของในแต่ล่ะวัน ห่างออกไปไม่ไกลจากที่ชายคนนี้อยู่มากนัก ก็มีอยู่บ้านอยู่หมู่บ้านหนึ่งท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรีนี้ ได้มีชาวบ้านของหมู่บ้านรวมตัวกันอยู่ เพื่อหารือกันเรื่องบางอย่าง ทันใดนั้น  ชายคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “เป็นอันตกลงตามนี้นะ พวกเราทั้ง 4 คนจะเป็นคนเดินทางไปยังเมืองท๊อคเทล ที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน มีใครจะอาสาอีกไหม” แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากใครมีเพียงความเงียบสงัด สักครู่หนึ่ง ก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมา

“ข้า!!!    ข้าเองก็จะไปด้วย” หลังจากพูดจบหญิงสาวหน้าตางดงามก็เดินเผยตัวออกมาให้เห็นแต่ 1 ในชาย 4 คนก็พูดว่าขึ้นมาบอกว่า “แคนเทียร์ เธอเป็นผู้หญิงไปด้วยไม่ได้มันอันตราย”

“ข้าเป็นผู้หญิงแล้วไง เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับว่าเป็นเพศไหน เรื่องหมู่บ้านสำคัญกว่า อีกอย่างข้าก็เป็นลูกสาวของอดีตหัวหน้าหมู่บ้าน ควรให้ข้าได้ทำอะไรบ้างเพื่อเป็นการรับผิดชอบกับสิ่งที่พ่อของข้าได้ทำลงไป ขอร้องล่ะ”

“ก็ได้ ถ้าเธอต้องการอย่างนั้น มีใครไม่เห็นด้วยบ้าง” ชายคนนั้นถามชาวบ้านแต่ก็ไม่มีใครขัดแย้ง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเรา 5 คน ก็จะออกเดินทางเดียวนี้เลย”

“ช้าก่อน” ชายชราคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมกับเดินมาอยู่ตรงหน้าชายคนนั้นก่อนจะหยิบถุงผ้ามายื่นให้

“รับสิ่งนี้ไปซะ มันคือเหรียญตราเงินทั้งหมดที่รวบรวมมาจากชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้าน จงมอบมันให้กับกลุ่มนักผจญภัยที่จะมาช่วยหมู่บ้านพวกเรานะ”

“ได้ครับท่านผู้เฒ่า ข้าจะต้องเอาเหรียญตราเงินจำนวนนี้ไปมอบให้กับกลุ่มนักผจญภัยกับมือด้วยตัวข้าเอง รับรองมันจะต้องไม่สูญเปล่า”ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับหันหน้าสาดส่องสายตามองดูชาวบ้านทั้งหลาย

          “พวกเราไปกันได้”

แล้วพวกเขาทั้ง 5 หันหลังเดินออกจากกลุ่มชาวบ้านออกมาเยี่ยงวีรบุรุษ ชาวบ้านทุกคนเริ่มมีความหวังและต่างก็อวยพรให้พวกเขาโชคดีเดินทางไปได้อย่างปลอดภัย แต่เหตุการณ์มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทุกคนคาดหวังเลยสักนิดทันทีที่พวกเขาทั้ง 5 ก้าวเท้าออกจากเขตหมู่บ้านได้ไม่ถึง 1 กม. ชายผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมออร่าสีส้มอ่อนรอบกาย...

                “ข้ามีชื่อเรียกว่า ลานซาร์ด ยินดีตอนรับทุกท่านเข้าสู่เขตแดนของข้า แต่สำหรับพวกแกทุกคนมันคงเป็นเขตแดนแห่งความตาย เพราะแค่มองก็รู้แล้วว่าพวกแกคิดที่จะหลบหนีไปสินะ” ชายคนที่ชื่อ ลานซาร์ดพูดแนะนำตัวเอง

แค่มองด้วยตาเปล่าทั้ง 5 คนก็รู้ได้ทันทีว่าลานซาร์ดผู้นี้คือผู้ใช้มาโครว์ ตอนนี้เขาใช้มาโครว์ อยู่ ปัญหาก็คือพวกเขาไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับผู้ใช้มาโครว์เร็วขนาดนี้ พวกเขาตั้งใจว่าจะแอบหลบหนีโดยไม่คิดจะต่อสู้ เนื่องจากพวกเขาทุกคนไม่มีใครใช้มาโครว์ได้เลย การที่จะต่อสู้กับผู้ใช้มาโครว์นั้นผู้ที่ไม่สามารถใช้ได้นั้นมันเป็นไปได้ยากมากที่จะต่อกรได้

“ไปซะแคนเทียร์” ชายคนที่ 1 พูด

“หนีไปซะแคนเทียร์” ชายคนที่ 2 พูด

“วิ่งไปซะแคนเทียร์เด้วเราตามไป” ชายคนที่ 3 พูด

“รีบไปแคนเทียร์เด้วทางนี้พวกเราจัดการเอง” ชายคนที่ 4 พูด

            แคนเทียร์จึงตัดสินใจวิ่งหนีไปจากทุกคนและก็หายไปในความมืด ภายในหัวก็ได้แต่ภาวนาขอให้ทุกคนปลอดภัย ซึ่งมันก็คงเป็นไปได้ยากถึงกระนั้นในตอนนี้พวกเขาทุกคนก็คิดแค่ว่าอย่างน้อยก็ขอแค่เธอรอดไปได้และสามารถที่จะทำภารกิจครั้งนี้ได้สำเร็จเพราะได้รับปากกับชาวบ้านทุกคนแล้ว ยังไงก็ต้องไปให้ถึงสมาคมนักผจญภัยให้ได้

            “วิ่งหนีไปก็เท่านั้น อีกเดียวหลังจากจัดการฆ่าพวกแกหมดแล้วก็ค่อยไปตามหายั้ยผู้หญิงนั้นก็ได้”

            “อย่าเอาแต่พล่ามเข้ามาได้เลยไอ้ลานซาร์ด ไม่เชื่อหรอกว่าพวกเรา 4 คนทำอะไรแกไมได้” ชาย 1 ใน 4 คนพูดขึ้น

            หลังจากที่แคนเทียร์วิ่งหนีเอาชีวิตมาอย่างเอาเป็นตาย เธอก็ได้หยุดวิ่งและยืนพักหายใจ ท่ามกลางความมืดมิดในยามราตรีประกอบกับที่เธอไม่ชำนาญเส้นทางครั้งสุดท้ายที่เธอเดินทางไปยังเมืองท๊อกเทลก็เมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และการที่เธอวิ่งหนีมาแบบคิดแค่เพียงว่าจะหนีให้รอดทำให้ตอนนี้เธอเกิดหลงทิศหลงทาง ตอนนี้เธอไม่รู้เลยว่าอยู่ตรงไหน และทางที่จะเดินไปยังเมืองท๊อกเทลต้องไปทางไหน ระหว่างที่เธอกำลังที่เธอกำลังยืนคิดอยู่นั้น บางสิ่งที่มีแสงสีส้ม ก็พุงมาด้วยความเร็วก็ที่จะหยุดอยู่ตรงข้างหน้าของเธอ

            “หึๆๆ บอกไปแล้วนิว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะวิ่งหนีไป อย่างไงก็หนีข้าคนนี้ไม่รอดหรอก” แสงสีส้มนั้นแท้จริงแล้วคือแสงจากอ่อราของลานซาร์ด ชายผู้ที่เธอกำลังหนีมานั้นเอง เมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นแคนเทียร์ก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวังถ้าหากลานซาร์ดมาอยู่นี้ได้ก็หมายความเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากว่า เพื่อนที่ร่วมเดิมทางมากับเธอผู้ชายทั้ง 4 คนนั้นได้ถูกฆ่าตายหมดแล้ว

            “แกฆ่าพวกเขาตายหมดแล้วเหรอ” แคนเทียร์ถามขึ้น

            “ก็อุตส่าคิดว่าจะได้ต่อสู้อย่างสนุกซะหน่อยเห็นตั้งกลุ่มพากันหนีออกมาคิดว่ามีดีอะไรอยู่บางถึงกล้ากัน แต่ดันเป็นพวกใช้มาโครว์ไม่ได้สักคน พวกแกมันโง่กันมากรึไง ถึงรวมกลุ่มพวกที่ใช้มาโครว์ไม่ได้ชาย 4 หญิง 1 คิดว่าจะหนีกันไปได้ไกลแค่ไหนล่ะ ข้าไม่ทันจะได้รู้สึกเพลิดเพลินกับการต่อสู้เลยสักนิด พวกมันก็ตายหมดล่ะ น่าผิดหวังจริงๆ” 

            ลานซาร์ดได้พูดขึ้นต่อ “จะบอกอะไรให้รู้ไว้นะกลุ่มคนที่ไร้ความสามารถใช้มาโครว์ไม่ได้ต่อให้รวมกลุ่มกันมาสิบยี่สิบคน ต่อให้ข้าไม่จัดการฆ่าพวกแกเองกับมือ พวกแกไม่พ้นถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายก่อนจะไปถึงเมืองท๊อกเทลได้อย่างแน่นอน”

“เอาล่ะ ได้เวลาที่แกต้องตายล่ะ ถ้าจะโทษก็โทษที่พวกแกอ่อนแอเอง”

แคนเทียร์ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสิ้นหวัง และคิดว่าเธอคงมาไกลได้ที่สุดเพียงแค่เท่านี้และนึกขอโทษต่อชาวบ้านทั้งทีทุกคนอุตส่าห์ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่พวกเราแล้วแท้ๆ และเป็นโอกาสที่จะได้ทำอะไรเพื่อชดใช้ความความผิดที่พ่อเราได้ทำลงไป แต่ฉันกลับทำอะไรไม่ได้เลย จู่ๆ ก็มีน้ำใส่ๆค่อยๆไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของแคนเทียร์

เมื่อความสิ้นหวังมาเยือนสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งจะทำได้คืออะไร นั้นคือถึงเธอจะหมดสิ้นความหวังไปแล้วแต่ในใจลึกๆเธอกลับขอให้เกิดเรื่องปาฏิหาริย์ขึ้นมา และแล้วปาฏิหาริย์หรือแค่ความบังเอิญกันแน่มันก็ได้บังเกิดขึ้น...

“ช่วยฉันด้วย” แคนเทียร์ได้ร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมาทำให้ลานซาร์ดต้องหันหลังไปมองดูก็เห็นเงาปริศนารูปร่างลักษณะเหมือนเช่นมนุษย์ค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาใกล้ที่พวกเขาอยู่...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา