นางเอกที่รักกับเจ้าชายสายลม

5.8

เขียนโดย muromaji

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.16 น.

  9 ตอน
  0 วิจารณ์
  11.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) นี่คือบ้านของเราในอนาคต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          ขณะที่เดินทางอยู่นั้นสิ่งที่ทำให้มายด์เกิดความสงสัยคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ไม่
ได้เดินทางไปสนามบินแต่กลับพามายด์มายังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งมีธรรมชาติและทะเลสาบที่สวย
สดงดงามและวังที่ไม่ใหญ่โตเหมือนวังอื่น
     "วันหนึ่งพี่จะทิ้งทุกอย่างแล้วจะมาอยู่ที่นี่" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตรัสก่อนจะ
เดินเข้าไปข้างในที่สะอาดจึงทำให้มายด์สงสัย
     "มายด์ไม่เห็นมีใครซักคนแต่ทำไมข้างในสะอาดจังค่ะเหมือนมีการทำความสะอาด
ทุกวัน" มายด์ถามพร้อมกับหันไปมองรอบ ๆ
     "ฮิเดโกะ จะส่งคนมาทำความสะอาดที่นี่ทุกวันน่ะ แต่ต่อไปคงไม่ต้องแล้วเพราะพี่จะ
ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว" คำสรัสของทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทำให้มายด์ถึงกับหน้าเสียไป
แปปหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
     "แล้วพี่รังสิจะมาเมื่อไหร่ แล้วอยู่ที่นี่เลยหรือค่ะ" มายด์ถามออกมาโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่
ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ยิ้ม
     "พี่จะมาที่นี่ทุกครั้งเมื่อถึงฤดูหนาว พอสิ้นสุดก็กลับ แต่อีกหน่อยก็อยู่ถาวรเลยเพราะ
ที่นี่จะเป็นที่ประทับที่สุดท้ายหลังจากวางงานที่ทำทั้งหมด มายด์ชอบที่นี่ไหม" คำตรัสของ
ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทำให้มายด์หน้าแดงไม่รู้ตัว
     หลังจากนั้นทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็พามายด์ไปนั่นที่ข้างทะเลสาบ สักพักมรุตก็เดินถือ
เครื่องดื่มมาวางให้ก่อนจะถวายคำนับและเดินออกไป ซึ่งการอยู่ด้วยกันถึงแม้จะไม่มีการพูดคุยกัน
ก็ทำให้มายด์รู้สึกได้ว่ากระหม่อมฟ้าชายทรงอบอุ่นและเป็นห่วงในพระวรกายที่มรุตมักจะบอกว่า
ทรงงานหนักเหมือนเก่าก่อนทุกคืน ซึ่งก็มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่มายด์เดินเข้าห้องทรงพระอักษรของ
ทูลกระหม่อมฟ้าชายก็เจอกับหมอหลวงที่เดินสวนกันพอดีจึงได้ทราบว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายทรง
ประชวรเนื่องจากพักผ่อนน้อย
     "ไม่เป็นอะไรมากหรอก หมอกับมรุตเขาแค่ตื่นตูมไปเท่านั้นเอง" ซึ่งมรุตบอกว่านี่เป็น
คำตรัสที่ชินหูไปแล้วสำหรับที่นี่ และไม่มีใครกล้าขัดจนมายด์ต้องดึงเองการในพระหัตต์ออกแล้ว
ทูลให้ทรงพักผ่อนด้วยสีหน้าโกรษ ๆ จนทูลกระหม่อมฟ้าชายตรัสได้แค่แหม แล้วทรงนอนที่เกาอี้
ยาวสักพักก็บรรทมหลับด้วยฤทธิ์ยา
     ในวันรุ่งขึ้นทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์และมายด์ก็เดินทางกลับถึงไทย โดยที่ทูลกระหม่อม
ฟ้าชายทรงไปส่งถึงบ้านเป็นครั้งแรก มายด์ก็เชิญเสด็จเข้าไปข้างในซึ่งขณะนั้นพ่อกับแม่ของมายด์
กำลังช่วยทำอาหารกันอยู่ เมื่อรู้ว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายเสด็จมาก็ทำอะไรแทบไม่ถูก
     "ตามสบายเถิด ฉันแค่มาส่งให้ถึงบ้านเท่านั้น แล้วพบกันใหม่" จากนั้นทูลกระหม่อมฟ้า
ชายก็เสด็จขึ้นรถไปทันที ซึ่งพ่อกับแม่ของมายด์ไม่เคยรู้มาก่อนจารู้วันนี้เองว่าทุกครั้งที่ไม่มีงาน
แสดงมายด์ก็มักจะมาอยู่ที่วังสราญรมย์จนถึงเย็นก็กลับ ทำให้ทั้งพ่อและแม่ของมายด์ถึงกับเรียก
คุยทันที
     "นี่ลูกพ่อคิดว่ามันไม่ถูกนะที่ลูกจะทำตัวตีสนิทแบบนั้น ถึงยังไงท่านก็ทรงเป็นทูล
กระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์" พ่อของมายด์กล่าวอย่างหวัน ๆ
     "แต่พี่รังสิไม่เคยถือนะค่ะคุณพ่อคุณแม่  กลับกันยังชอบให้เรียกแบบนี้ซะอีกแต่ถ้า
คุณพ่อกับคุณแม่ไม่สบายใจมายด์ก็จะระวังค่ะ" มายด์แย้งแต่ก็เข้าใจที่พ่อกับแม่กังวล
     "รวมถึงการไปที่วังด้วยใช่ไหมลูก" แม่พูดเสริมขึ้นมาทันที
     "ไม่ค่ะ เรื่องนั้นไม่เกี่ยว" มายด์พูดก่อนจะลุกเดินหนีไปปล่อยให้พ่อกับแม่นั่งมองหน้ากัน
อย่างห่วงใยว่าลูกจะฝันเกินเอื้อม
     หลังจากนั้นไม่นานมายด์ก็บอกว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์เชิญไปรับประทานอาหารที่วัง
สราญรมย์ โดยที่ทุกคนไม่ทราบเลยว่าการทานอาหารในครั้งนี้จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
เมื่อไปถึงสิ่งที่พ่อกับแม่มายด์เห็นคือ ทหารรักษาพระองค์ นางกำนัน หรือกระทั่งมรุตที่เป็นถึง
ราชเลขาส่วนพระองค์และเป็นราชองค์รักษ์ ถวายคำนับให้มายด์ ซึ่งเมื่อพ่อและแม่ถามพร้อมกัน
ก็ได้คำตอบแค่ว่าเป็นเรื่องธรรมดาเพราะทุกครั้งที่มาทุกคนก็ทำกับมายด์แบบนี้ตลอด
     "ทูลกระหม่อมทรงรับสั่งว่าถ้ามาถึงแล้วให้เชิญเสด็จไปยังห้องเสวยพะยะค่ะ" มรุต
กล่าวจบก็คำนับอีกครั้งก่อนทำท่าจะเดินนำ
     "ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่มรุต ตามสบายเถอะเดียวมายด์พาคุณพ่อกับคุณแม่ไปเอง"
พูดจบมาก็เดินนำพ่อกับแม่ไปยังโต๊ะเสวยทันที
     "หม่อมฉันขอพระราชทานอภัยเพค่ะ ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงให้หม่อมฉัน
มากราบทูลว่าทรงเปลี่ยนที่เสวยเป็นในอุทยานเพค่ะ เชิญเสด็จเพค่ะ" นางกำนันกราบทูล
จบก็ผายมือไปทางอุทยาน
     "ขอบใจจ๊ะ" มายด์กล่าวเพียงสั่น ๆ ก่อนจะลุกเดินนำพ่อกับแม่ไปยังอุทยานที่ได้จัดวาง
อาหารไว้พร้อมโดยที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงประทับอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับมุกและคนอื่น
อีกพอสมควรเมื่อทรงเห็นว่ามาแล้วก็เชิญทุกคนนั่ง หลังจากนั้นก็รับประทานอาหารโดยไม่มีใครพูด
จนกระทั่งทางเสร็จ
     "ที่แห่งนี้อากาศเริ่มร้อนแล้ว คงได้เวลาจะต้องย้ายไปอยู่วังที่ญี่ปุ่นเสียที นี่ไม่ใช่การ
บังคับแต่เป็นคำถามเพื่อขอความเห็นใจ น้องมายด์เต็มใจที่จะไปพำนับที่วังเจ้าฟ้ากับพี่
ไหม" เพียงคำตรัสเท่านี้ก็ทำให้พ่อกับแม่ของมายด์รู้ในความหมายของคำที่รับสั่งทันที
     "นี่เป็นชีวิตของลูกก่อนจะตัดสินใจอะไรคิดให้รอบคอบ พ่อกับแม่เคารพทุกการตัด
สินใจของลูก" พอพ่อมายด์พูดจบก็บีบมือเบา ๆ
     "ทำไมวันนี้พี่รังสิพูดแปลกจัง ช่วงนี้มายด์ไม่มีถ่ายละครก็ต้องไปได้สิค่ะ อีกอย่างพี่
รังสิก็เคยบอกว่าตอนไปที่นั่นทหารองครักษ์และเหล่านางกำนันก็ไปเป็นสิบนี่นา" มายด์
ตอบก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อกับแม่แล้วหันไปมองทุกคนอย่างสงสัย
     "ที่พี่รังสิพูดเมื่อกี้หมายถึง พี่รังสิจะสู่ขอน้องมายด์ต่างหาก ถ้ามายด์ตกลงจะไปอยู่
กับพี่รังสิพี่เขาก็จะให้เสด็จป้าไปขออย่างถูกต้อง" คำพูดของมุกทำให้มายด์เข้าใจความ
หมายที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายตรัสทันที ทำให้มายถึงกับพูดอะไรไม่ออก
     "พี่ไม่ได้รีบร้อนจะเอาคำตอบนะ ขอให้น้องลองกลับไปคิดดูนะ" ตรัสจบทูลกระหม่อม
ฟ้าชายก็ทรงเปลี่ยนเรื่อง แต่ในใจของมายด์กลับยังคงคิดถึงแต่เรื่องที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมัน
ต์รับสั่ง ซึ่งใจหนึ่งก็ดีใจที่ทรงรับสั่งสู่ขอต่อหน้าพ่อกับแม่แต่อีกใจก็ไม่อยากทิ้งความฝันที่ได้เป็น
นักแสดงและอยากจะแสดงหนังต่อไป
     "ลูกคิดไม่ตกเรื่องอะไรหรือจ๊ะบอกแม่ได้หรือเปล่า" มายด์หันไปมองหน้า
     "มายด์ดีใจค่ะที่พี่รังสิรักมายด์และมายด์ก็รักพี่รังสิ แต่มายด์ก็ไม่อยากทิ้งงานแสดง
ยังอย่างแสดงหนังอยู่ค่ะ มายด์จะทำยังไงดีค่ะคุณแม่" มายด์ถามก่อนที่พ่อจะเดินเข้ามา
     "ถ้าลูกแต่งงานลูกก็จะได้เป็นพระชายาซึ่งนั่นจะไปการไม่ดีถ้าลูกยังอยากจะเป็นนัก
แสดงนะเพราะลูกก็รู้ว่าบทที่ได้รับอาจทำให้ลูกเสื่อมเสียรวมถึงทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิ
มันต์ด้วยที่ปล่อยให้พระชายาไปจูบกับคนอื่น" ผู้เป็นพ่อเอามือแตะไหลเพื่อปลอบ
     "อย่างที่พ่อบอกนะ พ่อเคารพในการตัดสินใจของลูก ทำไมไม่เข้านอนแล้วพรุ่งนี้
ลองหาทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ดูล่ะว่าถ้าลูกยังอยากเป็นนักแสดงอยู่จะได้ไหม"
พ่อพูดก่อนจะดึงตัวมายด์ให้ลุกขึ้นแล้วพาเข้าห้อง เช้าวันรุ่งขึ้นถึงแม้มายด์จะนอนไม่หลับทั้งคืน
แต่ก็ออกจากบ้านเพื่อไปวังสราญรมย์เพื่อไปถามคำถามนี้
     "พี่รังสิค่ะ มายด์ฝันตั้งแต่เด็ก ๆ ที่จะเป็นนักแสดงซึ่งตอนนี้มายด์ก็ได้เป็นแล้วแต่
มายด์ยังอยากแสดงหนังอยู่มายด์จะต้องทำยังไงดีค่ะ" มายด์ถามอย่างเศร้า ๆ เพราะนั่นอาจ
หมายถึงมายด์ได้ตอบปฏิเสษที่จะแต่งงานทั้งที่ภายในใจก็รักทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์มาโดย
ตลอด
     "ก็ไม่เห็นยากนี่นา น้องมายด์ก็แสดงหนังแสดงละครต่อไปสิเพียงแต่บทที่จะได้รับก็
ต้องเป็นบทที่ดูแล้วไม่ทำให้เราเสียหาย ซึ่งก็มีหลายเรื่องที่ไม่ต้องมีบทถึงอย่างนั้น
เหมือนกับที่พี่เล่นยังไงล่ะ จับมือถือแขนหรือกอดแขนแค่นั้นเอง" คำตรัสของทูลกระหม่อม
ฟ้าชายรังสิมันต์เป็นคำตรัสที่เหมือนแสงสว่างและเป็นเหมือนน้ำที่ชโลมให้เย็นชุ่มฉ่ำ ขณะที่มายด์
คิดแทบจะหาทางออกไม่ได้จนเหมือนตัวเองเองไปถึงทางแยกที่จะต้องเลือกว่าจะเดินไปทางไหน
ทั้งที่ใจอยากจะเดินไปทั้งสองทางจนนอนไม่หลับ แต่เมื่อมาถามทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์
กลับทำให้ทางที่ไม่สามารถเป็นทางเดียวไปได้ก็กลับกลายเป็นทางเส้นเดียว
     "นั่นสิค่ะ ทำไม่มายด์ถึงคิดไม่ถึงนะ ว่าพี่รังสิก็เป็นเจ้าฟ้ายังสามารถแสดงละครได้
เลยทั้งที่ไม่มีบทเลิฟซีนซักครั้งเเดียว" พูดจบมายด์ก็หาวแล้วหลับด้วยรอยยิ้ม
     "ท่าจะคิดมากจนไม่ได้นอนทั้งคืนเลยล่ะสิ สาวน้อย" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรง
ลุกจากเก้าอี้เดินหยิบผ้าห่มห่มให้ก่อนจะลูบที่ผมอย่างแผ่วเบาแล้วยิ้มให้ แล้วทรงเดินไปที่โต๊ะทำ
งานเพื่อตรวจเอกสารต่อไป หลังจากที่มายด์ตื่นก็เป็นเวลาเที่ยงพอดีจึงร่วมโต๊ะเสวนกับทูล
กระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์แล้วกลับบ้านทันที
     "เอ๋ยิ้มมาแบบนี้แปลว่ามีคำตอบในใจแล้วใช่ไหมลูก" ผู้เป็นพ่อแซวมายด์ทันที่ที่เห็นว่า
ลูกสาวของตนมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มผิดจากเมื่อวานที่หลังจากกลับมาก็ได้แต่นั่งหน้าเศร้า
     หลังจากนั้นไม่นานทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็เชิญสมเสด็จป้า พร้อมทั้งมีราชสารถึงผู้จัด
ผู้กำกับและทีมงานทั้งหมดที่เคยร่วมแสดงละครด้วยกัน พร้อมทั้งเพื่อน ๆ และนักแสดงคนอื่นมา
ร่วมเป็นสักขีพยานในงานหมั่นโดยที่มุกทำหน้าที่เป็นเพื่อนเพื่อนเจ้าสาวส่วนฝ่ายทูลกระหม่อมฟ้า
ชายรังสิมันต์ก็ได้เจ้าหญิงเจ้าชายจากประเทศต่าง ๆ ที่ทรงเป็นสหายในวัยเรียนมาร่วมงานกันทุก
คนโดยชุดในงานหมั่นครั้งนี้เจ้าหญิงเฮเลนและเจ้าหญิงฮิเดโกะทรงลงมือตัดเย็บด้วยพระองค์เอง
หลังจากพิธีหมั่นผ่านพ้นไปอาทิตย์กว่า ๆ ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ เจ้าหญิงวารีรัตน์(มายด์)
และมุก ก็เดินทางไปวังเหมันต์ที่ญี่ปุ่นทันทีโดยมีเหล่าองค์รักษ์และนางกำนันตามเสด็จไปด้วย
ซึ่งเมื่อมุกไปถึงก็ต้องตื่นตะลึงกับความสวยของธรรมชาติและอากาศที่สดชื่นเย็นสบาย
     "วังเหมันต์หรือวังเจ้าฟ้าเป็นของเจ้าพ่อขององค์หญิงฮิเดโกะที่ประทานมาให้พี่ครั้ง
สมัยที่เรายังเรียนอยู่ที่เมืองไทยแล้วได้มาพักผ่อนที่ญี่ปุ่นน่ะ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์
ทรงตรัสให้มุกฟัง ซึ่งมุกก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ
     "ตอนที่มายด์มาครั้งแรกมายด์ก็ติดใจบรรยากาศของที่นี่เหมือนพี่มุกนี่แหละ" มายด์
กล่าวอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ อีกครั้งพลางคิดใจใจว่านี่คือบ้านในอนาคตของเราสองคน
บ้านที่ไม่เรื่องการเมืองและสิ่งอื่นใดจะมีแต่ความอบอุ่นและความรักต่อแต่นี้ไป
 
    

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา