นางเอกที่รักกับเจ้าชายสายลม

     การถ่ายทำละครก็ถึงวันปิดกล้อง หลายคนเสียดายที่อยู่ด้วยกันมาเป็นเดือน ๆ แล้วต้องแยกจาก

กันถึงแม้จะมีงานเลี้ยงวันปิดกล้องที่เจ้าหญิงเฮเลนทรงเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงที่หรูหราเพียงใด หาก

แต่สิ่งที่ทุกคนรู้กันคือจากนี้ต่อไปคงไม่มีวัน ที่จะได้ร่วมทำงานกับทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์อีก

แล้ว หลังจากที่งานเลี้ยงผ่านไปวันรุ่งขึ้นทุกคนก็เก็บของเพื่อเดินทางกลับไทย เจ้าหญิงเฮเลนทรง

ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีเช่นเคยโดยมาส่งที่สนามบินก่อนจะลาเจ้าหญิงทรงมอบของที่ระลึกให้กับทุกคน

แล้วเสด็จกลับ เมื่อทุกคนลงถึงสนามบินก็แยกย้ายกันกลับบ้านโดยที่ทุกคนมีรอยยิ้มเพราะว่าทูล

กระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนพระองค์เนื่องจากมายด์ขอทำให้ทุกคนขอด้วยซึ่ง

ทูลกระหม่อมฟ้าชายก็ไม่ทรงว่าอย่างไรนอกจากว่า

     "ก็ดีเหมือนกันเผื่อฉันเบื่อ ๆ อยากจัดงานจะได้โทรตามทุกคนมาร่วมงาน" แล้วทูลกระ

หม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็เสด็จขึ้นรถส่วนพระองค์ไปทันที

     หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปถึง 2 เดือนผู้จัดละครคนเดิมก็ขอเข้าเฝ้าโดยไม่ได้นัดล่วงหน้า ซึ่งผู้จัด

ละครจะหวั่น ๆ อยู่ในใจว่าอาจไม่ให้เข้าเฝ้าก็ได้ เพราะเคยโดนมาแล้วครั้งหนึ่งตอนขอเฝ้าทูล

กระหม่อมลูกยาเธอกฤษณา เมื่อเดินตามทหารองค์รักษ์ที่ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะให้เฝ้าหรือนั้น

ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่มรุตราชเลขานุการและเป็นราชองค์รักษ์ส่วนพระองค์เดินมาพอดี

     "มีธุระอะไรหรือเปล่าท่านผู้จัดถึงได้มาถึงที่นี่" มรุตทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นกัน

เอง

     "กระผมจะมาขอเข้าเฝ้าทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ขอรับ" ผู้จัดกล่าวอย่างเกรง ๆ 

     "ได้สิ เดียวผมไปกราบทูลให้ เชิญท่านรอที่ห้องรับรองก่อนนะ" มรุตกล่าวจบก็สั่งให้

องค์รักษ์พาไปที่ห้องรับรอง แล้วมรุตก็เดินไปห้องทรงพระอักษรทันที

     "ผู้จัดละครมาขอเข้าเฝ้าคุณหนูพะยะค่ะ คงมีละครจะให้แสดงอีกกระมังพะยะค่ะ"

มรุตกราบทูลเสร็จก็เดินไปนั่งยังโต๊ะทำงานของตน ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงเงยพระพักต์

ขึ้นมาจากเอกสาร

     "หลังคุยกับผู้จัดเสร็จเราไปเดินเที่ยวห้างกันดีกว่า" ตรัสจบก็ทรงลุกออกจากโต๊ะทำงาน

ยังห้องรับรองทันที เมื่อไปถึงผู้จัดที่นั่งรอก็ลุกขึ้นถวายคำนับทันที

     "ที่กระหม่อมมาเข้าเฝ้าโดยมิได้ทำหนังสือนัดก่อน กระหม่องต้องขอพระราช

ทานอภัยโทษด้วยพะยะค่ะ" ผู้จัดละครก้มหน้ากล่าวอย่างหวัน ๆ จนบางตอนแทบจะไม่ได้ยิน

แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็ทำให้ใจของผู้จัดละครชื้นขึ้นมาได้เพราะสีพระพักต์ของทูลกระหม่อมฟ้า

ชายรังสิมันต์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

     "ไม่เป็นไรหรอกผู้จัดมีอะไรกับฉันหรือถึงได้มาเฝ้าฉันที่นี่" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมัน

ต์ทรงตรัสอย่างไพเราะ

     "คือกระหม่อมอยู่ทรงมาขออนุญาต เพราะมีแฟนละครเรียกร้องอยากให้ทูล

กระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงมีละครให้แฟน ๆ อีกพะยะค่ะ" ผู้จัดกราบทูลโดยขอความ

เห็นชอบ

     "ได้สิฉันก็อยากเล่นอยู่เหมือนกันนะ สนุกดี ถ้าเป็นไปได้อยากได้ทีมงานเดิมน่ะ แล้ว

ฉันต้องแสดงกับใครและรับบทเป็นอะไรล่ะ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตอบด้วยรอย

ยิ้มทำให้ผู้จัดละครยิ้มหน้าบานเข้าไปอีก

     "เดียวกระหม่อมจะรีบให้คนนำบทมาให้พะยะค่ะ ส่วนนางเอกของทูลกระหม่อมฟ้า

ชายรังสิมันต์คือน้องมายด์พะยะค่ะ คือแฟนละครอยากเห็นคู่กันพะยะค่ะ" ผู้จัดละครรีบ

กราบทูลทันทีก่อนจะถวายคำนับอีกครั้งเพื่อทูลลารีบกลับไปจัดการส่งบทมาทันที หลังจากที่ผู้

กำกับเดินทางกลับทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็สั่งให้ทหารไปตามมรุตที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเพื่อ

รอตามเสร็จไปห้างโดยมีราชองค์รักษ์อีกคนยืนรออยู่ที่รถแล้ว

     ภายในห้างมีหลายคนที่มองมายังทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์เพื่ออยากจะขอถ่ายรูปและขอ

ลายเซ็นแต่ติดอยู่ที่มีคนแต่งสูทอยู่ 2 คนที่คอยเดินตามอยู่ติด ๆ จึงทำให้ไม่มีกล้าที่จะเข้ามารอ

อีกส่วนหนึ่งก็นึกในใจว่าคงจะเป็นนักแสดงที่หยิ่งจึงต้องมีบอร์ดี้การ์ดคอยตามประกบไม่ให้ใครเข้า

ไปใกล้ ๆ โดยไม่มีใครรู้ว่านี่คือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ เพราะพระองค์ทรงบอกกับผู้จัดว่าขอ

ให้ทางผู้จัดพิมพ์ชื่อนักแสดงแค่ว่า "รังสิมันต์ วัฒนากัลยาวดี" เท่านั้น ซึ่งผู้จัดก็ทำตามที่ขอจน

กระทั่งทุกคนก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นมา

     "ท่าทางฝนจะตกท่วมกรุงเทพ ฯ นะค่ะพี่รังสิมาเที่ยวห้างด้วย" พอทุกคนหันไปมอง

พร้องทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็เห็นนักแสดงสาว 2 คนเดินมาด้วยกันคือ มุก กับ มายด์ ทำ

ให้ทุกคนตื่นเต้นเป็นการใหญ่

     "อากาศดีอย่างนี้ ก็ต้องมาพักผ่อนบ้างสิ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายทรงตอบด้วยรอบยิ้ม ก่อน

ที่มุกและมายด์จะเดินมาถึงพอดี

     "มายด์พึ่งรู้นะค่ะว่าพี่รังสิก็พักผ่อนเป็นกับเขาด้วย" มายด์ยังคงแซวไม่เลิกขณะที่มุกได้

แต่ยิ้มให้ จนมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับกระดาษ

     "พี่ ๆ ค่ะหนูขอลายเซ็นกับขอถ่ายรูปได้ไหมค่ะ หนูติดตามละครของพี่ชอบมาก

ค่ะ" เด็กผู้หญิงคนนั้นกล่าวก่อนจะยิ้มให้ มุกและมายด์จึงหันไปมองพี่รังสิของตน

     "ได้สิพี่ ๆ ทั้ง 3 จะเซ็นให้นะ" แล้วทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็รับกระดาษมาเซ็นให้

ก่อนส่งต่อไปให้มุกและมายด์เซ็นแล้วถ่ายรูปคู่ทั้ง 3 คน เมื่อคนอื่น ๆ เห็นก็ลองเข้าไปขอบ้างก็

ได้เช่นกันจึงทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นเข้ามารุม จนทำให้องค์รักษ์ต้องเข้ามาขอให้เข้าแถวให้เป็น

ระเบียบทำให้ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ต้องขอให้ทุกคนไปที่โต๊ะอาหารของทางห้างแล้วขอ

แจกลายเซ็นให้หมดก่อนแล้วใครที่จะขอถ่ายรูปค่อยถ่าย จึงทำให้ทั้ง 3 คนใช่เวลาไปกับการเซ็น

และถ่ายรูปให้กับทุกคนเกือบ 3 ชั่วโมงจนหมด แล้วทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ก็พามุกและ

มายด์ไปที่ร้านอาหารบาบิคิวเพื่อพูดคุยกันหลังไม่ได้พบกันนาน

     "ผู้จัดละครติดต่อไปหรือยังว่าจะมีละครเล่นคู่กับมายด์น่ะ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมัน

ต์ทรงถามหลังจากที่สั่งอาหารเสร็จแล้ว

     "ติดต่อมาคะ มุกก็เล่นด้วยนะค่ะ จะมีพระเอกนางเอก 2 คู่ค่ะ" มายด์ตอบในขณะที่มุกก็

เอาบทละครออกมาให้ดู

     "ว่าแต่พี่รังสิจะรับเล่นหรือเปล่าค่ะ" มุกถามขึ้นมาบ้าง

     "เล่นสิ แต่ผู้จัดยังไม่ส่งบทมาให้เลยแค่มาถามเท่านั้น" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์

ตอบด้วยรอยยิ้ม

     "และยังบบอกอีกด้วยว่าถ้าเป็นไปได้อยากได้ทีมงานเดิมด้วยทำงานแล้วมีความสุข

ดี" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์กล่าวก่อนที่จะมองไปยังพนักงานที่เดิมมาเซิร์ฟของพอดี

     "มายด์ว่าทุกคนต้องดีใจแน่ ๆ ค่ะที่จะได้มาร่วมงานกับพี่รังสิต่อว่าแต่ว่า พี่รังสิไม่พา

พี่เฮเลนแฟนพี่มาด้วยล่ะค่ะ" มายด์ถามทันทีเพราะไม่เห็นเจ้าหญิงเฮเลนมาด้วย

     "เฮเลนเขาก็อยู่ประเทศของเขาสิ อีกอย่างพี่ก็ยังไม่มีแฟน" คำตอบของทูลกระหม่อม

ฟ้าชายรังสิมันต์ทำให้ทั้ง 2 พูดแทบไม่ออก เพราะต่างก็คิดไปแล้วว่าเจ้าหญิงเฮเลนทรงเป็นพระ

ชายาเพราะเจ้าหญิงเฮเลนทรงปฏิบัติกับทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์อย่างพระชายาจริง ๆ หลัง

จากนั้นบทสนทนาก็เป็นเรื่องทั่ว ๆ จนกระทั่งอิ่มทุกคนจึงแยกย้ายกันโดยที่มายด์กับมุกเดินไปด้วย

กันส่วนทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์เมื่อได้ของที่ต้องการก็กลับวังทันที แล้วพบว่าผู้จัดได้ส่งบท

พร้อมกับนัดหมายวันประชุมเพื่อพูดคุยกันกับทีมงานและนักแสดง

     เมื่อถึงวันนัดประชุมเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับละครเรื่องใหม่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงเสด็จ

ไปก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงขณะที่ทุกคนมาถึงเรียบร้อยแล้ว

     "นี่ตกลง ฉันมาสายอีกแล้วหรือนี่" คำตรัสที่ติดตลก ถ้าเป็นคนอื่นได้ยินอาจจะร้อน ๆ

หนาว ๆ หรือถึงกับหน้าถอดสีก็เป็นไปได้ โดยเฉพาะทีมงานและนักแสดงอีกเรื่องที่มารอรับเสด็จ

แต่ไม่ใช้กับทีมงานและนักแสดงชุดนี้ที่ต่างก็รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานอีกครั้งทั้งที่บางคนตอนแรกก็

ตอบปฎิเสธไปแล้วเนื่องจากมีงานค้อนข้างมาก แต่เมื่อรู้ว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงร่วม

แสดง และที่สำคัญอยากร่วมงานกับทีมงานชุดเดิม ทำให้หลายคนถึงขนาดรีบเคลียงานของตน

หรือไม่ก็โยนงานไปให้เพื่อนทำทันทีเพื่อที่จะมาร่วมงานละครครั้งนี้ให้ได้

     "ทรงตรัสแบบนี้ อดอาหารสักมื้อคงไม่เป็นไรมังค่ะ" ป้าแม่ครัวที่มายืนรับเสด็จกล่าวยิ้ม

ๆ ทำให้ทุกคนหน้าถอดสีไปกันใหญ่

     "ไม่เป็นไรจ๊ะ อย่างไรซะฉันก็ไม่ได้อดคนเดียวอยู่แล้ว" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์

กล่าวจบก็มองทุกคนก่อนจะยิ้มแล้วเดินเข้าห้องประชุม ทีมงานและนักแสดงจึงได้แต่ยิ้มที่ป้าแม่

ครัวไม่ทำได้แค่ยิ้มเท่านั้นไม่เคยพูดชนะทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ได้เลย เพราะพระองค์มักจะ

หาทางแก้ได้เสมอ

     ในการประชุมในครั้งนี้มีละครที่ต้องถ่ายทำทั้งหมด 3 เรื่องด้วยกัน ซึ่งทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิ

มันต์ทรงรับบทเป็นหนุ่มเจ้าของโรงแรม โดยที่มุกและมายด์รับบทเป็นนักศึกษาฝึกงานที่ต้องเข้ามา

ทำงานยังโรงแรมแห่งนี้ และมีเพื่อนสนิทอีกคน จึงทำให้บทในครั้งนี้จะมีพระเอกนางเอก 2 คู่ ซึ่ง

คู่หนึ่งคือ ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์กับมายด์ และอีกคู่คือ มุกกับนักแสดงในสังกัด การประชุม

ได้ดำเนินไปจนถึงตอนเที่ยงก็พักทานอาหารก่อนที่จะเริ่มการบวงสรวงละครในรอบบ่ายและการให้

สัมภาษณ์และถ่ายรูปโปรโมทละคร