นางเอกที่รักกับเจ้าชายสายลม
5.8
เขียนโดย muromaji
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 21.16 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
11.24K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) สายสัมพันธ์แห่งชีวิต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในขณะที่หลายคนนอนหลับอยู่ในบ้านของตนเองนั้น ก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่ยังคงทำงานอย่างเงียบ
ๆ ในห้องทำงานของตนเอง ซึ่งเขาทำงานแบบนี้มา 10 ปี แล้วหลังจากที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ต่อ
จากพระบิดาที่ทรงพระประชวรและสวรรคตไปตอนที่ทูลกระหม่อมมีพระพรรษา 15 ปีเท่านั้น แต่แล้ว
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในวันหนึ่งขณะที่ทรงกำลังนั่งดูเอกสารอยู่ในห้องทำงาน
" ขอประทานอภัยพะยะค่ะคุณหนู " มรุตพูดขึ้นขณะเดินเข้ามาในห้องทำงาน มรุตเป็น
ราชเลขานุการประจำวังสราญรมย์ ซึ่งเขาได้ทำงานในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่รุ่นพ่อของเขาและยังเติบโต
มาด้วยกันกับทูลกระหม่อมจึงเป็นคนเดียวที่รู้พระทัยทูลกระหม่องเจ้าฟ้าชายรังสิมันต์มากที่สุด และ
ในบรรดาทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดก็มีเพียงมรุตเท่านั้นที่เรียกคุณหนู
คุณหนูหรือที่ทุกคนรู้จักในนาม "ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าชายรังสิมันต์ วัฒนากัลยาวดี" เป็นชายหนุ่ม
ที่มีโครงหน้าเหมือนผู้หญิง
"ว่าอย่างไร มีงานด่วนอะไรหรือเปล่า" รังสิมันต์กล่าวถามขณะที่ยังก้มหน้าดูเอกสารในมือ
"มีรับสั่งจากสมเด็จให้คุณหนูเล่นละครที่สมเด็จทรงเลือกบทให้พะยะค่ะ" มรุตกล่าวจบก็
นำบทละครมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน รังสิมันต์จึงวางเอกสารในมือแล้วเงยหน้ามองหน้ามรุตอย่างสงสัย
แตคำตอบที่ได้จากมรุตคือเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ เดินไปที่โต๊ะทำงานของตนเองแล้วจึงหยิบเอกสารที่มี
คนส่งมาเปิดอ่านอย่างไม่สนใจ
"ให้ฉันเล่นละครเนี่ยนะ เสด็จน้าทรงคิดอะไรล่ะเนี่ย แต่จะไม่ทำตามรับสั่งก็ไม่ได้เสีย
ด้วยในเมื่อมีรับสั่งมาก็ต้องทำตาม แล้วจะทำได้ไหมเนี่ย ท่าจะทำพังมากกว่าทำดีล่ะนะ" รัง
สิมันต์ถอนหายใจขณะพูดแล้วจึงวางไว้บนโต๊ะตามเดิม
"อ่อ จริงสิพรุ่งนี้ผู้จัดละครกับผู้กำกับละครจะขอเข้าเฝ้าตอนเที่ยงนะพะยะค่ะ" มรุตพูด
จบก็ก้นหน้าทำงานต่อไปปล่อยให้ทูลกระหม่อมต้องหยิบบทละครมาเปิดดู
ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตื่นบรรทมก็เดินมาห้องทำงานตามปกติ
หากแต่มีสิ่งที่เปลี่ยนไปจากทุกวันคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ไม่ได้นั่งอ่านเอกสารเหมือนเช่น
ทุกวันแต่กลับนั่งอ่านบทละครที่ได้รับมาเมื่อวาน เพื่อรอเวลาที่ผู้จัดละครกับผู้กำกับละครมาเข้าเฝ้า
หลังจากที่ได้นั่งอ่านมาสักพัก มรุตมักจะเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ บนพระพักต์ของทูลกระหม่อมฟ้าชาย
ซึ่งน้อยคนนักจะได้เห็น
"คุณหนูยิ้มแบบนี้สงสัยฝนจะตกหนักแน่ ๆ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นคุณหนูยิ้ม
สักที นอกจากทรงทำคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างเดียว" มรุตพูดพลางเดินนำเอกสารที่ตรวจสอบ
แล้ววางบนโต๊ะทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์
"จะไม่ให้ฉันยิ้มได้ยังไงก็เรื่องนี้เป็นนิยายที่ฉันชอบอ่านยามว่างนี่นา" รังสิมันต์พูดจบก็
เดินไปหยิบหนังสือเล่มโปรดที่มักจะนำออกมาอ่านเพื่อผ่อนคลายให้มรุตดู ขณะที่มรุตกำลังจะพูด
ทหารรักษาพระองค์ก็เดินเข้ามาถวายคำนับ
"กระหม่อมขอพระราชประทานอภัยพะยะค่ะ ผู้จัดละครกับผู้กำกับละครขอเข้าเฝ้าที่
ห้องรับรองพะยะค่ะ" ทหารองค์รักษ์กล่าวจบก็ถวายคำนับอีกครั้งก่อนจะถอยหลังแล้วเดินออก
ไป
ณ.ห้องรับรองเมื่อผู้จัดละครกับผู้กำกับละครเห็นทูลกระหม่อนฟ้าชายรังสิมันต์ก็ลุกขึ้นถวาย
คำนับในทันที
"ท่านทั้ง 2 เชิญนั่งลงตามสบายเถิด" รังสิมันต์กล่าวจบก็นั่งตรงโซฟาตัวยาว ส่วนผู้จัด
ละครกับผู้กำกับนั้งที่โซฟาตัวเล็กที่มีอยู่ข้างละ 2 ตัว
"กระหม่อมได้รับพระราชดำรัสของสมเด็จให้มาถวายคำอธิบายเรื่องละครที่ทูล
กระหม่อมจะทรงร่วมแสดงด้วยพะยะค่ะแล้วนี้คือบทที่ต้องใช้ถ่ายทำพะยะค่ะ" ผู้จัดกล่าว
จบก็ถวายบทฉบับใหม่ให้กับทูลกระหม่อมเจ้าฟ้ารังสิมันต์ทันที
"ท่านทั้งสองคิดว่าเราซึ่งไม่เคยแม้กระทั่งดูละครเลยจะแสดงได้หรือ" ทูลกระหม่อม
ทรงถ้าขณะรับเอาบทฉบับใหม่ขึ้นมาเปิดดู
"ถ้าทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าทรงเรียนการแสดงก่อนกำหนดเปิดกล้องก็คาดว่าจะทรงทำ
ได้พะยะค่ะ" ผู้จัดละครกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
"แน่ใจหรือ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ยังคงถามอีกครั้ง หากแต่ถ้าผู้จัดละครกับผู้กำกับ
ละครเงยหน้ามาพูดไม่ใช่ก้มหน้าตอบก็จะเห็นว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงยิ้มบาง ๆ
เหมือนกำลังล้อเล่นกับผู้กำกับ
"แน่พระทัยพะยะค่ะ ถ้าทรงเรียนการแสดง" ผู้จัดละครยังคงก้มหน้าตอบเหมือนเดิม
"อ่ะ เรียนก็เรียน ตามบทที่ได้รับเมื่อวานดูเหมือนจะต้องเล่นประกบกับนักแสดง 2
คน คือผู้ที่จะมารับบทเป็นน้องสาวกับผู้ที่จะมารับบทเป็นนางเอกฉันไช้ไหม แล้วถ้าฉันจะ
ขอเลือกนักแสดงทั้ง 2 คนนี้ พวกท่านจะว่าอย่างไรหรือเปล่า" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมัน
ต์กล่าวขณะทรงดูบทละครที่ได้รับมาใหม่
"ถ้าทูลกระหม่อมมีพระประสงค์จะเลื่อกนักแสดงทั้ง 2 คน พวกกระหม่อมก็ไม่ขัดพะ
ยะค่ะ แล้วพรุ่งนี้กระหม่อมจะเอารายชื่อนักแสดงมาให้ทูลกระหม่อมทรงพิจารณาพะยะ
ค่ะ" ผู้จัดละครกล่าวอย่างโล่งอกที่ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้ารังสิมันต์ทรงรับเล่น
"พวกท่านไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้นักแสดงที่ฉันอยากแสดงด้วยคือ น้องมุกกับ
น้องมายด์ น่ะ ซึ่งอยากให้น้องมายด์รับบทเป็นน้องสาว ส่วนน้องมุกรับบทเป็นนางเอก
พอจะทำได้ไหม" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์พูดจบก็วางบทลงบนโต๊ะ
"ถ้าทูลกระหม่อมทรงเลือกนักแสดงเอาไว้แล้วกระหม่อมจะรีบติดต่อนักแสดงทั้ง 2
เพื่อมารับบทพะยะค่ะ" ผู้จัดกล่าวอีกครั้ง
"อีกเรื่องที่พวกท่านต้องทราบคือ ฉันจะตื่นนอนตอน สี่โมงเช้าทุกวัน ถ้าต้องไปเรียน
การแสดงก็ให้มารับตอนนั้นหรือถ้าช่วงถ่ายละครก็เช่นกัน หากแต่วันไหนที่ต้องถ่ายทำ
เช้าก็ให้บอกฉันก่อนล่วงหน้าฉันจะได้เตรียมตัวไว้ก่อนนะ" ทูลกระหม่อมรังสิมันต์พูดจบ ผู้
จัดละครกับผู้กำกับรับคำก็ถวายคำนับขอตัวลากลับ
หลังจากที่ผู้จัดละครกับผู้กำกับกลับไปแล้ว มรุตที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ถามถึงสาเหตุที่จะขอเล่น
กับนักแสดงทั้ง 2 และที่สงสัยมากที่สุดคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงรู้จักชื่อนักแสดงทั้ง
สองนี้ได้อย่างไรในเมื่อวัน ๆ หมดไปกับการทรงงานในโต๊ะอย่าว่าแต่เวลาพักหรือฟังเพลงเลย แม้
แต่ทีวีทูลกระหม่อมก็ไม่เคยดูสักครั้ง แต่คำตอบที่ได้รับจากทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์คือ เห็น
ทหารองค์รักษ์พูดว่าสองคนนี้น่ารักดี
ๆ ในห้องทำงานของตนเอง ซึ่งเขาทำงานแบบนี้มา 10 ปี แล้วหลังจากที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ต่อ
จากพระบิดาที่ทรงพระประชวรและสวรรคตไปตอนที่ทูลกระหม่อมมีพระพรรษา 15 ปีเท่านั้น แต่แล้ว
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในวันหนึ่งขณะที่ทรงกำลังนั่งดูเอกสารอยู่ในห้องทำงาน
" ขอประทานอภัยพะยะค่ะคุณหนู " มรุตพูดขึ้นขณะเดินเข้ามาในห้องทำงาน มรุตเป็น
ราชเลขานุการประจำวังสราญรมย์ ซึ่งเขาได้ทำงานในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่รุ่นพ่อของเขาและยังเติบโต
มาด้วยกันกับทูลกระหม่อมจึงเป็นคนเดียวที่รู้พระทัยทูลกระหม่องเจ้าฟ้าชายรังสิมันต์มากที่สุด และ
ในบรรดาทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดก็มีเพียงมรุตเท่านั้นที่เรียกคุณหนู
คุณหนูหรือที่ทุกคนรู้จักในนาม "ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าชายรังสิมันต์ วัฒนากัลยาวดี" เป็นชายหนุ่ม
ที่มีโครงหน้าเหมือนผู้หญิง
"ว่าอย่างไร มีงานด่วนอะไรหรือเปล่า" รังสิมันต์กล่าวถามขณะที่ยังก้มหน้าดูเอกสารในมือ
"มีรับสั่งจากสมเด็จให้คุณหนูเล่นละครที่สมเด็จทรงเลือกบทให้พะยะค่ะ" มรุตกล่าวจบก็
นำบทละครมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน รังสิมันต์จึงวางเอกสารในมือแล้วเงยหน้ามองหน้ามรุตอย่างสงสัย
แตคำตอบที่ได้จากมรุตคือเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ เดินไปที่โต๊ะทำงานของตนเองแล้วจึงหยิบเอกสารที่มี
คนส่งมาเปิดอ่านอย่างไม่สนใจ
"ให้ฉันเล่นละครเนี่ยนะ เสด็จน้าทรงคิดอะไรล่ะเนี่ย แต่จะไม่ทำตามรับสั่งก็ไม่ได้เสีย
ด้วยในเมื่อมีรับสั่งมาก็ต้องทำตาม แล้วจะทำได้ไหมเนี่ย ท่าจะทำพังมากกว่าทำดีล่ะนะ" รัง
สิมันต์ถอนหายใจขณะพูดแล้วจึงวางไว้บนโต๊ะตามเดิม
"อ่อ จริงสิพรุ่งนี้ผู้จัดละครกับผู้กำกับละครจะขอเข้าเฝ้าตอนเที่ยงนะพะยะค่ะ" มรุตพูด
จบก็ก้นหน้าทำงานต่อไปปล่อยให้ทูลกระหม่อมต้องหยิบบทละครมาเปิดดู
ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงตื่นบรรทมก็เดินมาห้องทำงานตามปกติ
หากแต่มีสิ่งที่เปลี่ยนไปจากทุกวันคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ไม่ได้นั่งอ่านเอกสารเหมือนเช่น
ทุกวันแต่กลับนั่งอ่านบทละครที่ได้รับมาเมื่อวาน เพื่อรอเวลาที่ผู้จัดละครกับผู้กำกับละครมาเข้าเฝ้า
หลังจากที่ได้นั่งอ่านมาสักพัก มรุตมักจะเห็นรอยยิ้มน้อย ๆ บนพระพักต์ของทูลกระหม่อมฟ้าชาย
ซึ่งน้อยคนนักจะได้เห็น
"คุณหนูยิ้มแบบนี้สงสัยฝนจะตกหนักแน่ ๆ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นคุณหนูยิ้ม
สักที นอกจากทรงทำคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างเดียว" มรุตพูดพลางเดินนำเอกสารที่ตรวจสอบ
แล้ววางบนโต๊ะทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์
"จะไม่ให้ฉันยิ้มได้ยังไงก็เรื่องนี้เป็นนิยายที่ฉันชอบอ่านยามว่างนี่นา" รังสิมันต์พูดจบก็
เดินไปหยิบหนังสือเล่มโปรดที่มักจะนำออกมาอ่านเพื่อผ่อนคลายให้มรุตดู ขณะที่มรุตกำลังจะพูด
ทหารรักษาพระองค์ก็เดินเข้ามาถวายคำนับ
"กระหม่อมขอพระราชประทานอภัยพะยะค่ะ ผู้จัดละครกับผู้กำกับละครขอเข้าเฝ้าที่
ห้องรับรองพะยะค่ะ" ทหารองค์รักษ์กล่าวจบก็ถวายคำนับอีกครั้งก่อนจะถอยหลังแล้วเดินออก
ไป
ณ.ห้องรับรองเมื่อผู้จัดละครกับผู้กำกับละครเห็นทูลกระหม่อนฟ้าชายรังสิมันต์ก็ลุกขึ้นถวาย
คำนับในทันที
"ท่านทั้ง 2 เชิญนั่งลงตามสบายเถิด" รังสิมันต์กล่าวจบก็นั่งตรงโซฟาตัวยาว ส่วนผู้จัด
ละครกับผู้กำกับนั้งที่โซฟาตัวเล็กที่มีอยู่ข้างละ 2 ตัว
"กระหม่อมได้รับพระราชดำรัสของสมเด็จให้มาถวายคำอธิบายเรื่องละครที่ทูล
กระหม่อมจะทรงร่วมแสดงด้วยพะยะค่ะแล้วนี้คือบทที่ต้องใช้ถ่ายทำพะยะค่ะ" ผู้จัดกล่าว
จบก็ถวายบทฉบับใหม่ให้กับทูลกระหม่อมเจ้าฟ้ารังสิมันต์ทันที
"ท่านทั้งสองคิดว่าเราซึ่งไม่เคยแม้กระทั่งดูละครเลยจะแสดงได้หรือ" ทูลกระหม่อม
ทรงถ้าขณะรับเอาบทฉบับใหม่ขึ้นมาเปิดดู
"ถ้าทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าทรงเรียนการแสดงก่อนกำหนดเปิดกล้องก็คาดว่าจะทรงทำ
ได้พะยะค่ะ" ผู้จัดละครกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
"แน่ใจหรือ" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ยังคงถามอีกครั้ง หากแต่ถ้าผู้จัดละครกับผู้กำกับ
ละครเงยหน้ามาพูดไม่ใช่ก้มหน้าตอบก็จะเห็นว่าทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงยิ้มบาง ๆ
เหมือนกำลังล้อเล่นกับผู้กำกับ
"แน่พระทัยพะยะค่ะ ถ้าทรงเรียนการแสดง" ผู้จัดละครยังคงก้มหน้าตอบเหมือนเดิม
"อ่ะ เรียนก็เรียน ตามบทที่ได้รับเมื่อวานดูเหมือนจะต้องเล่นประกบกับนักแสดง 2
คน คือผู้ที่จะมารับบทเป็นน้องสาวกับผู้ที่จะมารับบทเป็นนางเอกฉันไช้ไหม แล้วถ้าฉันจะ
ขอเลือกนักแสดงทั้ง 2 คนนี้ พวกท่านจะว่าอย่างไรหรือเปล่า" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมัน
ต์กล่าวขณะทรงดูบทละครที่ได้รับมาใหม่
"ถ้าทูลกระหม่อมมีพระประสงค์จะเลื่อกนักแสดงทั้ง 2 คน พวกกระหม่อมก็ไม่ขัดพะ
ยะค่ะ แล้วพรุ่งนี้กระหม่อมจะเอารายชื่อนักแสดงมาให้ทูลกระหม่อมทรงพิจารณาพะยะ
ค่ะ" ผู้จัดละครกล่าวอย่างโล่งอกที่ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้ารังสิมันต์ทรงรับเล่น
"พวกท่านไม่ต้องลำบากขนาดนั้นก็ได้นักแสดงที่ฉันอยากแสดงด้วยคือ น้องมุกกับ
น้องมายด์ น่ะ ซึ่งอยากให้น้องมายด์รับบทเป็นน้องสาว ส่วนน้องมุกรับบทเป็นนางเอก
พอจะทำได้ไหม" ทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์พูดจบก็วางบทลงบนโต๊ะ
"ถ้าทูลกระหม่อมทรงเลือกนักแสดงเอาไว้แล้วกระหม่อมจะรีบติดต่อนักแสดงทั้ง 2
เพื่อมารับบทพะยะค่ะ" ผู้จัดกล่าวอีกครั้ง
"อีกเรื่องที่พวกท่านต้องทราบคือ ฉันจะตื่นนอนตอน สี่โมงเช้าทุกวัน ถ้าต้องไปเรียน
การแสดงก็ให้มารับตอนนั้นหรือถ้าช่วงถ่ายละครก็เช่นกัน หากแต่วันไหนที่ต้องถ่ายทำ
เช้าก็ให้บอกฉันก่อนล่วงหน้าฉันจะได้เตรียมตัวไว้ก่อนนะ" ทูลกระหม่อมรังสิมันต์พูดจบ ผู้
จัดละครกับผู้กำกับรับคำก็ถวายคำนับขอตัวลากลับ
หลังจากที่ผู้จัดละครกับผู้กำกับกลับไปแล้ว มรุตที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ถามถึงสาเหตุที่จะขอเล่น
กับนักแสดงทั้ง 2 และที่สงสัยมากที่สุดคือทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์ทรงรู้จักชื่อนักแสดงทั้ง
สองนี้ได้อย่างไรในเมื่อวัน ๆ หมดไปกับการทรงงานในโต๊ะอย่าว่าแต่เวลาพักหรือฟังเพลงเลย แม้
แต่ทีวีทูลกระหม่อมก็ไม่เคยดูสักครั้ง แต่คำตอบที่ได้รับจากทูลกระหม่อมฟ้าชายรังสิมันต์คือ เห็น
ทหารองค์รักษ์พูดว่าสองคนนี้น่ารักดี
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ