Path to the God พลิกชะตาท้าอสูร

8.0

เขียนโดย NStill

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 09.06 น.

  8 บท
  4 วิจารณ์
  9,554 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2560 16.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) เทพี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 4 เทพี
                ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าไรที่ลูเคียหลับไป เขาค่อยๆดึงสติกลับมาจากห้วงนิทรา ก่อนจะค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าคือผนังถ้ำหินขนาดใหญ่ ถัดไปจากเขามีกองไฟกำลังส่องแสงอ่อนๆและมอบความอบอุ่นให้แก่เขา ความเจ็บปวดที่เขาได้รับหายไปจนเกือบหมดแล้ว เขาค่อยๆยันตัวขึ้นก่อนจะหันไปพบกับบางอย่าง...หญิงสาวรูปงามผู้หนึ่งกำลังนอนขดตัวอยู่ข้างกองไฟ เรือนผมสีชมพูอ่อนของนางสะท้อนกับเปลวไฟดูเลอค่ายิ่งนักยามที่ได้มอง ลูเคียตกอยู่ในมนต์สะกดห้วงหนึ่งก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เขาพยายามนึกเรื่องก่อนหน้านี้ จนในที่สุดเขาก็จำได้ว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บและนางก็เป็นคนพาเขามาที่นี่ ลูเคียกำลังคิดว่าควรจะอยู่รอนางตื่นหรือจากไปตอนนี้ดี แต่ในที่สุดเขาก็ยอมนั่งลงพลางหยิบขนมปังในกระเป๋าขึ้นมากินก้อนหนึ่ง เวลาผ่านไปซักพักลูเคียก็ค่อยๆเดินเข้าไปมองหน้านางชัดๆก่อนจะยื่นมือไปเตะที่ใบหน้าของนาง ‘เย็นมาก’ ลูเคียตกใจมาก เขาคิดว่านางน่าจะป่วยเพราะดูแลเขา เขาค่อยๆหยิบผ้าและถุงใส่น้ำในกระเป๋าออกมาก่อนจะเทน้ำลงไปบนผ้าและนำมันไปผิงไฟเพื่อให้มันอุ่นขึ้นหลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆใช้มันซับบนใบหน้าของนาง ใบหน้านั้นดูเย้ายวนอย่างประหลาดจนลูเคียแอบคิดในใจว่านี่คือความงามที่มนุษย์สามารถครอบครองจริงๆอย่างนั้นหรือ? เวลาผ่านไปซักพักนางยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นลูเคียจึงค่อยๆลุกขึ้นก่อนเดินไปสำรวจหน้าถ้ำ เวลาผ่านไปซักพักเธอยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นลูเคียจึงค่อยๆลุกขึ้นก่อนเดินไปสำรวจหน้าถ้ำ
                ความหนาวเย็นพุ่งเข้ากระแทกตัวของลูเคีย เขารีบเอามือมากอดอกเพื่อป้องกันความหนาวทันที ก่อนจะปรายตาไปมองรอบข้าง ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า ไม่มีโอเอซิส “นี่นางพาข้ามาไกลขนาดไหนกันเนี่ย?” เขาเอ่ยขึ้นลอยๆ ก่อนจะหันกลับเข้าไปในถ้ำ “ตัวก็เล็กแต่ทำไมแรงเยอะนัก”เขามองนางด้วยแววตาสงสัยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในถ้ำ
                หลายชั่วโมงต่อมาลูเคียกำลังนั่งอยู่ข้างร่างของหญิงสาวปริศนาเพื่อเฝ้ารอนางตื่นนอน จนในที่สุดนางก็ขยับตัว เขาค่อยๆขยับเข้าไปใกล้นางขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมาอยู่ใกล้กับนางมาก นางค่อยๆขยี้ตาด้วยท่าทางน่าเอ็นดูก่อนจะหันมาสบตากับลูเคียพอดิบพอดี
“ว้ายย!”นางส่งเสียงร้องออกมาอย่างตกใจ
“เฮ้ย!!ขะ..ขะ..ขะ..ขอโทษ”ลูเคียที่เพิ่งรู้ตัวว่าเขยิบเข้ามาใกล้นางตกใจกับเสียงอุทานทำให้กระเด้งตัวไปด้านหลังอย่างเร็ว
“จะ..เจ้าฟื้นแล้วหรือ?”นางถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
“เจ้าก็เห็นอย่างนั้นไม่ใช่รึ?”ลูเคียหันตอบ
“เจ้าชื่ออะไร?”นางถามลูเคีย
“ข้าชื่อ ลูเคีย เมอร์ริเอล มาจากเมืองเฟเทอร์ดัสท์กำลังเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อพบกับเดอะ ไลท์บริงเกอร์”ลูเคียตอบ “แล้วเจ้าล่ะ”เขาถามกลับ
“ข้าชื่อ อลิเซีย ดีเซิร์ท ก็อดเดส เป็นเทพีแห่งทะเลทราย”นางตอบด้วยเสียงสดใส
“งั้นเหรอ....เดี๋ยวนะเมื้อกี้เจ้าว่าเจ้าเป็นเทพี!?” ลูเคียตอบด้วยเสียงตกใจ เขาแทบจะก้มลงกราบนางเสียเดี๋ยวนั้น ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเหตุใดนางถึงพาเขามาที่นี่และรักษาเขาท่ามกลางทะเลทรายที่แห้งแล้งได้
“เจ้าไม่ต้องตกใจหรอก ข้าเป็นเพียงเทพีไม่ใช่เทพ บิดาของข้าแซนด์เดรีย ดีเซิร์ท ก็อดต่างหากที่เจ้าควรเคารพ”อลิเซียตอบด้วยน้ำเสียงที่แฝงความขบขัน
“ข้าต้องขอบคุณเจ้ามากที่ รักษาข้า”ลูเคียเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจก่อนจะโค้งตัวเพื่อแสดงความขอบคุณอลิเซีย
“เจ้าจะไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”อลิเซียเอ่ยถาม
“ใช่แล้วล่ะ หากเรามีวาสนาคงได้พบกันอีก”เขากล่าวก่อนจะหันหลังเตรียมออกเดิน
“เชิญเลยถ้าท่านไม่กลัวพายุทะเลทรายล่ะก็นะ”คำพูดของอลิเซียทำให้ลูเคียหยุดชะงักก่อนจะหันมามองนาง
“พายุทะเลทรายอย่างนั้นหรือ?”ลูเคียถามด้วยความสงสัย
“ใช่แล้วล่ะ อีกไม่กี่ชั่วโมงจะมีพายุทะเลทรายเกิดขึ้นพายุนั้นจะกินเวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ หากท่านคิดว่าท่านวิ่งไปถึงเมืองถัดไปได้ในเวลาสองชั่วโมงล่ะก็เชิญเลย”อลิเซียพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
“นี่เจ้า...”ลูเคียพูดก่อนจะตัดสินใจนั่งลงในถ้ำ นี่เขาต้องติดอยู่ในถ้ำกับยัยนี่หนึ่งอาทิตย์อย่างนั้นหรือเนี่ย?!
                เคร้ง! เสียงดาบกระทบกันพร้อมประกายไฟกระเด็นเข้าเฉี่ยวตาของแม็กนัส เขากำลังประดาบอยู่กับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีแผลเป็นที่ตาข้างซ้าย พวกเขาถูกล้อมไปด้วยเหล่าคิงส์โนลด์มากมาย พวกมันต่างส่งเสียงเชียร์นักสู้ที่ตัวเองลงเงินพนันไว้ซึ่งส่วนมากจะเป็นข้างของชายที่มีรอยแผลเป็นแม็กนัสพุ่งเข้าประชิดตัวชายคนนั้นก่อนจะเหวี่ยงดาบเข้าใส่หน้าเขาแต่ก็ถูกเขาเตะเข้าที่หน้าท้องจนแม็กนัสเซไปประมาณครึ่งเมตร เขาไม่ปล่อยให้แม็กนัสหายใจ เขาถีบพื้นเพื่อพุ่งเข้าหาแม็กนัสก่อนจะตวัดดาบใส่ข้อมือของแม็กนัส แม็กนัสรีบหมุนตัวเพื่อใช้ดาบของเขาปัดดาบเล่มนั้น แต่เนื่องจากเขายังไม่ทันได้ทรงตัวจากการถูกถีบเขาจึงล้มไปบนพื้น ชายคนนั้นแทงดาบลงพื้นอย่างรุนแรงหวังจะปลิดชีวิตของแม็กนัส หากแต่แม็กนัสรีบเบี่ยงตัวหลบได้ทันแต่โชคร้ายที่แขนข้างซ้ายกลับไม่พ้นวิถีดาบ แขนเขาถูกแทงอย่างรุนแรงเลือดสีแดงไหลรินอย่างบ้าคลั่ง เสียงเฮของคิงส์โนลด์ที่ลงพนันชายคนนั้นดังสนั่นเขาเเสยะยิ้มก่อนจะค่อยยกดาบขึ้นจากแขน ทันใดนั้นดาบของแม็กนัสก็พุ่งทะลุสีข้างของเขาทันที ไม่มีสัญญาณใด ไม่มีเสียงใดๆ ไม่มีแม้ความรู้สึกดีใจจากแม็กนัส เขารอจังหวะที่คู่ต่อสู้เผลอวางใจหลังจากที่แทงแขนเขาสำเร็จ เขารู้ดีว่าเมื่อมนุษย์จะเปิดช่องโหว่ของตนเมื่อคิดว่าตนเองได้รับชัยชนะ เขาค่อยๆพยุงตัวขึ้น ก่อนจะฉีกแขนเสื้อของตัวเองมาพันแผลก่อนจะเดินออกไปจากลานประลองท่ามกลางเสียงเฮของคิงส์โนลด์ที่ลงพนันข้างเขา
                ผ่านมาหลายวันแล้วที่เหล่าคิงส์โนลด์ยึดครองหมู่บ้านของพวกเขา พวกมันจับผู้ชายมาเป็นทาสแรงงาน ทั้งขนของ ทำเกษตร หาอาหาร และการประลองเพื่อความสนุกของพวกมัน ส่วนผู้หญิงถูกใช้ในงานบ้านต่างๆ อาทิทำอาหาร และทำความสะอาดชุดของพวกมัน แม็กนัสถูกจับมาเป็นนักสู้ในสนามประลองเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากทำมากที่สุด ฆ่าฟันเพื่อนมนุษย์โดยไร้เหตุผลคือสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุด เขาเดินเข้าไปหาโรเบิร์ทที่ยืนมองการประลองอยู่ด้านนอก
“ชนะเพราะโชคอีกแล้วสินะ”โรเบิร์ทพูด
“ไปกันเถอะครับคุณโรเบิร์ท”แม็กนัสตอบเพราะไม่อยากพูดถึงการประลองครั้งนี้ “ท่านได้ข่าวลูคบ้างไหม”เขาหันไปมองหน้าโรเบิร์ท
“ไม่เลยแต่ข้ามั่นใจว่าเขาจะปลอดภัย”โรเบิร์ทพูดอย่างมีความหวัง
ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆไม่มีใครพูดอะไรอีกภายในใจได้เพียงภาวนาให้คำพูดของโรเบิร์ทเป็นจริง...
 
ถ้าชอบก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ หรือถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เหมือนกัน ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านครับ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา