Path to the God พลิกชะตาท้าอสูร

8.0

เขียนโดย NStill

วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 09.06 น.

  8 บท
  4 วิจารณ์
  9,762 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2560 16.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ล่มสลาย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 2 ล่มสลาย

 

     ท่ามกลางกระแสความวุ่นวายที่ถาโถมภายในเมืองลูเคียยังคงตั้งสติแล้ววิ่งตรงไปยังเสียงระเบิดอีกฟากของเมือง ภายในใจมีเพียงความสับสนและความกังวลใจเมื่อเขาไปถึงความตกใจก็ถาโถมเข้าสู่จิตใจอย่างรุนแรงต่อเนื่องเนื่องจากภาพที่ปรากฎตรงหน้าเป็นภาพของศพจำนวนมากและอสุรกายกลุ่มหนึ่งที่กำลังเข่นฆ่าผู้คนอย่างสนุกสนาน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เขาอยากจะกรีดร้องออกมาดังๆหากแต่ไม่สามารถทำได้ เหล่าอสุรกายเหล่านี้คือคิงส์โนลด์เป็นโนลด์ชั้นสูงที่มีพัฒนาการด้านสติปัญญาและร่างกายสูงสุด ไม่ใช่อสุรกายที่นักรบทั่วไปจะต่อกรได้เมื่อเขาพบความจริงข้อนี้เขาแทบจะเสียสติและเมื่อยิ่งพบว่าพวกมันมีมากกว่ายี่สิบตัวเขาก็แทบจะเสียสติอย่างจริงจัง เขาเริ่มออกวิ่งเพื่อไปเตือนให้คนอื่นๆหนี ทฤษฎีต่างๆหลั่งไหลเข้ามาในหัว เขาเข้าใจแล้ว เข้าใจดี ทำไมถึงเกิดเพลิงไหม้ที่ป่า ทำไมเขาถึงมีลางสังหรณ์ที่ป่าแห่งนั้น แม้แต่ถ้ำนั่นก็เป็นกลลวง ทั้งหมดทุกอย่างเป็นกลลวง!!!

     อสุรกายในขนสีเพลิงในชุดเกราะขัดเงากำลังจ้องมองภาพความโกลาหลเบื้องหน้าอย่างสนุกสนาน แผนการทั้งหมดที่มันวางเอาไว้กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น เริ่มจากใช้เวทย์มนต์ในการหลอกล่อเด็กหนุ่มสองคนที่มาทำการสำรวจป่าให้เกิดอาการติดใจในป่าซึ่งอยู่อีกฟากกับป่าที่พวกมันอาศัยอยู่ทำให้พวกเขาไม่เกิดการเอะใจในป่าฝั่งที่พวกมันอยู่ หลังจากนั้นก็เผาป่าฝั่งนั้นทิ้งเด็กหนุ่มพวกนั้นจะต้องเพ่งความสนใจไปยังป่าอีกฝั่งก่อน รวมถึงพวกเขาย่อมเรียกทหารของเมืองไปช่วยกันดับไฟที่ป่าแห่งนั้นเนื่องจากเขาคิดว่าอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมาจากป่าแห่งนั้นทำให้เมืองอีกฟากไร้คนดูแลเป็นโอกาสให้มันสามารถเข้ายึดเมืองได้ง่ายดายขึ้น มันนึกสะใจในแผนที่ตนเองคิดขึ้นก่อนจะเดินไปหาเด็กคนหนึ่งซึ่งกำลังนอนแกล้งตายอยู่ข้างทาง มันหยิบดาบออกมาและสะบั้นคมดาบไปยังลำคอของเด็กคนนั้น... พวกมันฉลาดพอที่จะรู้ว่าใครตายไม่ตาย แม้อีกฝั่งจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

     ระหว่างทางลูเคียได้พบกับแม็กนัสท่าทางเขาก็รู้เช่นเดียวกันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาวิ่งสวนทางกับเหล่าทหารและนักรบรับจ้างของเมือง ลูเคียรู้ดีว่าพวกเขากำลังเอาชีวิตไปทิ้งแต่ก็ไม่อาจห้ามปรามไว้ได้เขาทำได้เพียงขอพรต่อเทพแห่งความหวังให้พวกเขาปลอดภัย เมื่อลูเคียเดินทางไปถึงป่าอีกฝั่งที่กำลังไฟไหม้เขาก็พบกับความจริงอันน่าสะพรึง...ไฟป่าได้ลามปิดล้อมเมืองนี้ไว้แทบหมด และเริ่มที่จะลามไปยังบ้านต่างๆ ตอนนี้คนในเมืองเหมือนถูกกำแพงแห่งความตายล้อมรอบและค่อยๆบีบตัวเข้ามา”แม็กนัสนายไปหาครอบครัวนาย ปกป้องพวกเขาซะแล้วปลอดภัยเมื่อไหร่ค่อยมาเจอกัน”ลูเคียพูด แม็กนัสพยักหน้ารับถึงแม้ว่าอาจจะไม่มีโอกาสได้พบกันอีก...

     อสุรกายขนแดงยังคงกวัดแกว่งดาบใส่เหล่าทหารอย่างสนุกสนานความเร็วของมันเร็วจนยากที่จะจับตา มันสามารถตั้งรับและตอบโต้เหล่านักรบรับจ้างและทหารได้อย่าง่ายดาย ทุกดาบที่มันกวัดแกว่งล้วนแล้วแต่ใช้เพื่อปลิดชีพศัตรู ในตอนที่ศพสุดท้ายร่วงลงบนพื้นทั่วร่างของมันเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉานมันคำรามออกมาหนึ่งที่ก่อนจะเก็บดาบเข้าฝักและเริ่มออกเดิน”ท่านไรลี่ย์ครับจะให้พวกเราทำยังไรต่อ”คิงส์โนลด์ตัวหนึ่งเดินเข้ามาถามมัน ไรลี่ย์หรือคิงส์โนลด์ขนแดงตอบว่า”ไปยังศาลากลางตอนนี้เรายึดเมืองได้แล้วไม่มีใครเข้าหรืออกเมืองได้อีกเหลือเพียงทำให้พวกมนุษย์ยอบศิโรราบเท่านั้น”มันตอบเสียงเข้ม”รับทราบขอรับ”คิงส์โนลด์อีกตัวพูดก่อนจะหันไปมองคิงส์โนลด์อีกกลุ่ม”โจมตีศาลากลาง!!!”สิ้นเสียงตะโกนของคิงส์โนลด์ตัวนั้นคิงส์โนลด์ตัวอื่นๆมากมายก็บุกเข้าโจมตีศาลากลางพร้อมกัน

     ลูเคียรีบรุดหน้ากลับไปที่บ้านพบโรเบิร์ทกำลังเก็บของใส่กระเป๋าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเปิดหีบสีทองที่เขาไม่เคยเปิดให้ใครเห็นแม้แต่ลูเคีย ลูเคียนึกสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ต้องสลัดมันทิ้งก่อนจะพูดอย่างเร่งรีบ"ดีมากท่านพ่อรีบเก็บของเราจะหนีไปทางแม่น้ำ"เมืองเฟเทอร์ดัสท์เป็นเมืองปกครองตนเองเมืองหลวงจะไม่ยื่นมือเข้ามายุ่งหรือช่วยเหลือใดๆเนื่องจากเจ้าเมืองคนก่อนๆไม่ต้องการส่งเงินบำนาญให้แก่เมืองหลวงแต่เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นการทำแบบนี้เปรียบเสมือนการฆ่าตัวตาย ทางรอดเดียวก็คือหนีออกจากเมืองให้ได้ และทางออกเดียวในตอนนี้ก็คือแม่น้ำที่ตัดผ่านชานเมือง แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะไหลไปที่ใด โรเบิร์ทมองลูเคียแวบหนึ่งก่อนจะหยิบดาบเงินออกมาจากหีบนั้น “นี่น่ะไม่ใช่ของข้า” โรเบิร์ทพูดก่อนจะนำดาบเงินนั้นผูกติดกับกระเป๋าแล้วโยนให้ลูเคีย “มันเป็นของเจ้าต่างหาก”คำพูดของโรเบิร์ททำให้ลูเคียสั่นสะท้าน “หมายความว่ายังไง?” ลูเคียพยายามประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมด “เจ้าต้องหนีไปที่เมืองหลวง มีคนคนหนึ่งที่ช่วยเจ้าได้เขาคือเดอะ ไลท์บริงเกอร์เขาเป็นอัศวินแห่งแสงผู้กล้าแกร่ง ในกระเป๋านั่นมีเงินอยู่จำนวนหนึ่งนำไปให้เขาแลกกับให้เขาเดินทางมาช่วยเรา!!” สิ้นคำนั้นประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมคิงส์โนลด์สองตัวที่ถือดาบมือเดียว “พวกมนุษย์เอ๋ยนั่งลงเดี๋ยวนี้แล้วตามข้ามา”คิงส์โนลด์ตัวหนึ่งพูด ในขณะที่ลูเคียกำลังสับสนโรเบิร์ทก็ได้วิ่งเข้าไปหาพวกมัน นำดาบอีกเล่มหนึ่งที่อยู่ในหีบเข้าไปตวัดใส่พวกมัน พวกมันถอยร่นเพราะความตกใจแต่ก็สามรถตั้งสติได้ในเวลาอันน้อยนิดและตวัดดาบใส่โรเบิร์ทหนึ่งครั้ง ดาบในมือโรเบิร์ทกระเด็นไปปักผนังบ้านก่อนที่มันจะใช้ดาบจี้ที่ลำคอของโรเบิร์ท “แกยังโชคดีที่เจอพวกข้า ข้าจะให้โอกาสแกอีกครั้งจะยอมนั่งลงหรือตาย?” โรเบิร์ทหันไปมองลูเคียที่กำลังวิ่งออกไปนอกบ้าน ลูเคียเข้าใจแผนของเขาดีรวมถึงการที่พวกมันไม่ได้เข้ามาฆ่าพวกเขาแต่แรกทำให้ลูเคียยอมทำตามแผนเนื่องจากลูเคียมั่นใจใจว่าโรเบิร์ทจะปลอดภัยดี โรเบิร์ทยอมนั่งลงตามที่พวกมันสั่งเพราะเขาสามารถเบนความสนใจให้ลูเคียหนีไปได้ ไม่มีเหตุผลให้เขาดื้อด้านอีกต่อไป

     ลูเคียเริ่มออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตภายในใจทั้งกลัว ทั้งกัวล ทั้งเป็นห่วงบิดาของตนแต่เขาได้รับมอบหมายหน้าที่นี้มาไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องทำให้สำเร็จเพื่อคนทั้งเมือง ระหว่างทางที่วิ่งเขาเจอคิงส์โนลด์บ้างประปรายแต่เขาก็สามารถหลบพวกมันมาได้ทุกครั้งปัญหาที่หนักที่สุดดูจะเป็นไฟที่ไหม้ลามมาถึงบ้านของชาวบ้านที่ปิดกั้นทางหนีของเขาทำให้เขาต้องอ้อมไป ในที่สุดเขาก็หนีมาถึงแม่น้ำ หากแต่เขาสังเกตเห็นคิงส์โนลด์สามตัวกำลังเฝ้าแม่น้ำนี้อยู่ มีคนหลายคนที่วิ่งอย่างขาดสติมาที่แม่น้ำหวังจะหนีเช่นเดียวกัน แต่ก็ถูกพวกมันปลิดชีวิตอย่างเลือดเย็น เขาวิ่งไปหลบที่พุ่มไม้ก่อนจะเริ่มคิดหาทางหนี เขาค่อยๆขยับตัวไปตามพุ่มไม้ต่างๆอย่างช้าๆเฝ้ารอให้พวกมันเดินจากไป แต่ความหวังนั้นกลับตรงกันข้ามเมื่อหนึ่งในพวกมันเดินเข้ามายังพุ่มไม้ที่ลูเคียอยู่ วินาทีนั้นเขาแทบจะหยุดหายใจ ในมือกำดาบที่บิดาให้มาแน่น เหงื่อไหลซึมออกมาทั่วร่าง ความกดดันเข้าครอบงำจิตใจ เขาตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงบางอย่างดู เขาตัดสินใจขยับตัวพร้อมยื่นดาบที่บิดาให้มาไปด้านหน้า คิงส์โนลดตัวนั้นได้ยินเสียงขยับตัวจึงรีบเดินไปยังพุ่มไม้ให้เร็วขึ้นก่อนที่จะพบกับดาบสีเงินที่พุ่งทะลุใบหน้าของมัน มันร้องลั่นดึงให้คิงส์โนลด์อีกสองตัวหันมามอง เมื่อเห็นเพื่อนของพวกมันถูกปลิดชีพต่อหน้าต่อตาคิงส์โนลด์ตัวหนึ่งก็ร้องคำรามก่อนจะหยิบดาบในฝักแล้วพุ่งตรงมาทางลูเคีย ในขณะที่คิงส์โนลด์อีกตัวหนึ่งยกธนูขึ้นหมายจะปลิดชีพลูเคีย ลูเคียหลบการโจมตีของคิงส์โนลด์ตัวแรกได้แต่ก็ต้องเจ็บตัวกับลูกธนูที่พุ่งเข้ามา ในขณะที่เขากำลังสิ้นหวังนั้นก็ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเพื่อจะกระโดดน้ำหนีทำให้คิงส์โนลด์ตัวที่สองหันไปสนใจกับเขา ทำให้ลูเคียสามารถตั้งสมาธิกับคิงส์โนลด์ตัวแรกได้ดีขึ้น เขาหลบดาบที่เหวี่ยงเข้าที่หัวได้อย่างเฉียดฉิวในขณะที่กำลังจะถอยหลังไปยังแม่น้ำ ทำให้เจ้าคิงส์โนลด์เปิดช่องโหว่ขึ้นนิดหน่อยทำให้เขาสามารถถอยหลังเข้าแม่น้ำได้ไวขึ้นในขณะที่เจ้าคิงส์โนลด์กำลังจะตั้งตัวใหม่นั้นเขาจึงกระโดดใช้ขาสองขาถีบเข้าใส่เจ้าคิงส์โนลด์จนมันเสียหลัก ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้แรงถีบนั้นเป็นตัวส่งเขาให้กระเด็นไปลงแม่น้ำพอดี เจ้าคิงส์โนลด์ตัวที่สองหลังจากที่ฆ่าชาวบ้านคนนั้นเสร็จแล้วเห็นลูเคียกำลังจะหนีสำเร็จจึงตั้งคันธนูเล็งไปยังลูเคีย ถึงแม้คิงส์โนลด์จะแข็งแกร่งเพียงใดสรีระของมันก็ไม่เอื้ออำนวยให้สามารถว่ายน้ำได้ทำให้พวกมันไม่สามารถลงไปตามล่าลูเคียในน้ำได้ ทำได้เพียงใช้ธนูปลิดชีพลูเคียก่อนเขาจะหนีไปเท่านั้น โชคดีของลูเคียที่เขาสังเกตเห็นจึงเหวี่ยงขาลงน้ำอย่างแรงทำให้เกิดคลื่นในน้ำลูกธนูจึงเพียงเฉี่ยวแขนเขาเท่านั้น เขารีบสูดอากาศและดำลงไปในน้ำก่อนที่ธนูดอกที่สองจะตามมาเขาว่ายไปซักพักจึงโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำพบว่าอยู่กลางป่าที่กำลังไหม้โชคดีของเขาที่พวกคิงส์โนลด์ไม่ชอบอากาศร้อนทำให้เขาวางใจได้ว่าพวกมันจะไม่มาอยู่แถวนี้ เมื่อเขามั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจึงลงมือว่ายน้ำต่อไปจนพ้นเขตป่า เขาขึ้นจากน้ำและเริ่มที่จะวิ่งอีกครั้ง ความกังวลยังฉายชัดอยู่ในแววตาเขาคิดเพียงต้องวิ่งๆๆและวิ่งไปเมืองหลวงเท่านั้น เขาวิ่งไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ สติของเขาเริ่มเลือนลางก่อนที่เขาจะล้มลงจมสู่ห้วงนิทรา

     “จงฟังจากนี้ไปพวกแกทุกคนจะต้องมาเป็นทาสของพวกเราคิงส์โนลด์และจากนี้ไปข้าอาร์มาร์ดอนราชาแห่งคิงส์โนลด์จะเป็นราชาของพวกเจ้า!!”คิงโนล์ขนทองหรืออาร์มาร์ดอนตะโกนกร้าวอยู่หน้าศาลากลางโดยมีเหล่าชาวบ้านถูกมัดมือมัดเท้าให้อยู่ในท่าคุกเข่า ความกลัวได้เข้ากัดกินหัวใจของทุกคน แม้ไฟป่าจะถูกดับลงแล้วแต่ภาพความหายนะเมื่อครู่ยังคงอยู่ภาพในความทรงจำ คนที่พวกเขาเคยคุย เคยรัก และเคยเกลียดล้มหายตายจากไปมากมาย ไม่มีอีกแล้วความสงบสุขไม่มีอีกแล้วเสียงหัวเราะทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว...

     แม็กนัสที่นั่งคุกเข่าอยู่ท่ามกลางชาวบ้านกำลังกำหมัดแน่น ตาที่คลอไปด้วยน้ำตากำลังจับจ้องไปที่อาร์มาร์ดอนอย่างแค้นเคือง ‘เขาอยากได้ดาบ...จะแทงเหล่าอสุรกายตรงหน้าให้วอดวายไม่ให้เหลือแม้เถ้าถ่านหรือเศษเสี้ยวของวิญญาณ’แม็กนัสทำได้เพียงคิดสิ่งนั้นไว้ในใจเขาไม่เหลือใครอีกแล้ว พ่อ แม่ น้องสาว และพี่ชาย ถูกสังหานโดยพวกมันพวกมันไม่มีความปราณีเขาไม่ได้แม้แต่จะล่ำลาเขาสาบานต่อเทพทุกองค์ว่าจะฆ่าสัตว์นรกตรงหน้าไม่ให้เหลือแม้แต่ตัวตน เขาเก็บความแค้นไว้ในใจก่อนจะปรายตามองหาลูเคียใจเขาเริ่มสั่นสะท้านเมื่อไม่พบลูเคียอยู่ในนั้น เขาหยุดสายตาไว้ที่โรเบิร์ท โรเบิร์ทที่เห็นแม็กนัสจึงยิ้นและทำปากเป็นคำบางอย่าง ถึงแม้จะไม่ได้ยินแต่เขาก็สัมผัสและรับรู้ได้เขาเริ่มใจเย็นลงเมื่อทราบว่าลูเคียยังปลอดภัย เขาหลับตาในใจภาวนาต่อเทพแห่งความปลอดภัยให้คุมครองเพื่อนรักของเขาตลอดการเดินทางและสาบานต่อเทพแห่งคำสัญญาว่าจะดูแลพ่อของลูเคียให้ดีที่สุดจนกว่าลูเคียจะกลับมา

     ไรลี่ย์ที่เพิ่งมาถึงพากลุ่มมนุษย์อีกประมาณสิบคนเข้าคุกเข่าต่อหน้าอาร์มาร์ดอนก่อนจะเดินเข้าไปรายงาน “มีมนุษย์หนีรอดไปได้ประมาณสามคน คนแรกหนีไปทางป่าที่ถูกไฟไหม้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกไฟคลอกตาย คนที่สองและสามหนีไปทางแม่น้ำครับ!”ไรลี่ย์ประกาศเสียงดังฟังชัด โรเบิร์ทและแม็กนัสมั่นใจว่าหนึ่งในนั้นต้องเป็นลูเคียเพราะในขณะนั้นพวกคิงส์โนลด์ก็ได้นำศพจำนวนมากมารวมกันเพื่อเผา ในนั้นไม่มีร่างของลูเคีย แต่แล้วความสลดเข้าก็ได้ควบคุมศาลากลางทันที ชาวบ้านที่ได้เห็นศพของคนที่ตนรักต่างร้องไห้ออกมาแม้แต่แม็กนัสที่กัดฟันไม่เปล่งเสียงใดๆแต่ก็ยังมีน้ำตาที่ไหลออกมาหลังจากได้เห็นร่างไร้วิญญาณของน้องสาว‘แมรี่ พี่จะแก้แค้นให้เธอเอง!’เขาสัญญากับตัวเองอีกครั้ง “ใครที่ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้”อาร์มาดอนถามไรลี่ย์ “พวกมันขอรับ” ไรลี่ย์ว่าพลางกระชากตัวของคิงส์โนลด์สองตัวที่ลูเคียพบออกมา “พะ..พวกมัน..ขะ..แข็ง..กะ..กะ..กะ.แกร่..” ยังไม่ทันจะแก้ตัวพวกมันก็กลายเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณ ดาบที่สะบั้นคอพวกมันนั้นเป็นของอาร์มาร์ดอนมันเก็บดาบเข้าฝักก่อนจะตะโกนว่า “พวกมนุษย์ เอ๋ย จงดูพวกมันไว้เป็นเยี่ยงอย่างใครที่แข็งข้อหรือขัดขืนจะถูกฆ่าทิ้งไม่มีข้อละเว้นไม่มีความเมตตาใดๆทั้งสิ้น!!” สิ้นเสียงของอาร์มาร์ดอนศาลากลางก็ปกคลุมไปด้วยความกลัวอีกครั้ง “พวกข้าขอตายซะยังจะดีกว่า!”ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกน...และเขาก็ไร้ลมหายใจทันที เสียงกรีดร้องดังสนั่นไปทั่วหยาดโลหิตหยดลงบนตัวของผู้ที่อยู่ใกล้ชายคนนั้นศีรษะของเขากระเด็นไปตกอยู่กลางวงของชาวบ้านทำให้เกิดความแตกตื่น “มีใครจะหืออีกมั้ย?”ไรลี่ย์เก็บดาบเปื้อนเลือดเข้าฝักก่อนจะตะโกนถามตอนนั้นทั่วทั้งศาลากลางกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง อาร์มาร์ดอนดูพอใจกับภาพที่เกิดขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปยังศาลากลางก่อนที่ไรย์ลี่จะตามเข้าไปทิ้งให้ความเงียบ ความโกรธ ความแค้น ความกลัว และความสับสนกลืนกินจิตใจของชาวเฟเทอร์ดัสท์ที่เหลือรอด...

     

ถ้าชอบก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ หรือถ้าอยากให้ปรับปรุงตรงไหนก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เหมือนกัน ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านครับ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา