Unreal Online
เขียนโดย TheSkill
วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.01 น.
แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 22.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) PROLOG
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ อนาคตที่ไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงมากนัก ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดและการค้นพบสิ่งต่างๆอีกมากมาย สิ่งที่เคยเป็นเพียงจินตนาการก็ถูกสรรค์สร้างขึ้นเช่น ยานพาหนะที่ใช้ความนึกคิดในการขับเคลื่อน การสื่อสารที่สามารถสัมผัสกันได้แม้อยู่ไกลกัน การฉายสิ่งที่คิดให้ออกมาเป็นภาพ 3 มิติจำลอง หรือแม้กระทั่งเกมส์ออนไลน์ที่สามารถเข้าไปสัมผัสได้ด้วยตัวเองที่เรียกกันว่า VRMMORPG ก็มีออกมาเกลื่อนกลาด
[“เอาละครับ อีกไม่ถึงเดือนก็จะเปิดให้เข้าเล่นอย่างเป็นทางการกันแล้ว สำหรับ ‘Re-O Online’ หรือ ‘R-OO’ เกมส์ออนไลน์ตัวใหม่ของค่าย ‘ZenReO’ ซึ่งทางผู้สร้างบอกว่าเป็นรูปแบบที่ยังไม่มีค่ายไหนผลิตออกมาในตอนนี้นะครับ วันนี้เราจะมาพูดคุยกับประธานบริษัทและเป็นผู้ให้กำเนิดเกมส์นี้กันครับ สวัสดีครับ มิส.........”
“จะดูอีกนานมั้ย ไม่รอแล้วนะ”
ภาพสามมิติขนาดใหญ่ที่ฉายจากจุดที่ไม่มีอะไรอยู่ขึ้นมากลางอากาศถูกมือที่เล็กเรียวบางพัดหายไปเหมือนฝุ่นผง
“ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”
ตุบ ตุบ ตุบ ปัง เสียงปิดประตูดังขึ้นและเผยให้เห็นต้นเหตุของเสียง
เด็กสาวตัวเล็กผิวขาวอมชมพู ผมยาวสีขาวมัดทรงโพนี่เทลผมหน้าปัดข้างเล็กน้อย แววตาสีฟ้าเขียวเป็นประกาย
“ขอโทษที่ให้รอค่ะ”
“อย่าวิ่งสิจ๊ะ เดี๋ยวก็ล้มกันพอดี”
“บอกอยู่ว่ารีบยังจะลีลาอยู่ได้นะเรา”
“ยัยนี่ก็อย่างนี้ทุกทีล่ะ อืดอาด”
“......”
“แหม รีบไปกันเถอะจ๊ะ อย่ามัวยืนคุยกันอยู่เลย”
“เพราะใครล่ะ”
“ใช่สิ หนูผิดเอง ขอโทษ...ค่ะ”
ยานพาหนะขนาดย่อมเคลื่อนลอยขึ้นฟ้าแล้วพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียง
สวัสดีค่ะ ชั้นชื่อ ‘โฮโตซึนะ ริน’ เป็นเด็กสาวตัวเล็กน่ารักอย่างที่เห็น ส่วนคนที่นั่งทำท่าเก๊กหล่อทั้งที่ไม่ได้ดูดีขึ้นมาเลยนี่คือพี่ชายของชั้น‘โฮโตซึนะ ซาจิ’ (ผมสั้นสีเทากระเซิงเล็กน้อย แววตาเอื่อยเชื่อย)
“มองอะไร ยัยหมูตอน”
ดูคนเป็นพี่ชายพูดกับน้องสาวสิคะ มันน่าตบนัก
“โธ่ พ่อเทพบุตร แห้วหญิงมากี่คนแล้วล่ะ”
“ก็ยังดีกว่าไม่มีใครเอาล่ะนะ” ดูสิ ดูพูดเข้า นั่นปากใช่มั้ย
“พูดงี้ต่อยกันเลยดีกว่ามา”
“อย่าทะเลาะกันสิจ๊ะ------ ..............................................................]
“เฮ้ย รินโด!!”
เด็กหนุ่มผมเซอร์สีดำละสายตาจากหนังสือมองไปหาเสียงที่เรียกเขา
เด็กหนุ่มท่าทางภูมิฐานเดินเข้ามาทักเพื่อนของเขาที่นั่งอ่านหนังสือนิยายอยู่ในร้านกาแฟ
“มานั่งอ่านนิยายคนเดียวอีกแล้วนะ”
เด็กหนุ่มผมทองรูปหล่อคนนี้ ชื่อ ‘สึกุดะ ซาเอกิ’ เป็นเพื่อนของ ‘โอคาเนะ รินโด’ คนที่นั่งอ่านนิยายอยู่
“นายนี่มืดมนได้ตลอดเลยนะ เพื่อนก็มีน้อย เอ๊ะ หรือไม่มี”
ปัง!
รินโดใช้กำปั้นทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นจ้องซาเอกิเขม็ง
“อะไร อยากมีเรื่องหรอ? ตรงนี้เลยก็ไม่ว่าหรอกนะ”
เพราะในร้านมีลูกค้าน้อยเสียงทุบโต๊ะจึงดังจนได้ยินทั้งร้าน ผู้คนมองมาที่เด็กหนุ่มทั้งสองอย่างกังวล
รินโดหยิบเงินวางไว้บนโต๊ะแล้วหันหลังเดินเตรียมเดินออกจากร้านก่อนจะหันหน้ามาพูดกับซาเอกิ
“งั้นชั้นก็ไม่มีเพื่อนสินะ”
เป็นประโยคที่เศร้า? เหงา? เสียใจ? ไม่ใช่!!
“ง่า~ ชั้นขอโทษ”
หลังออกมาจากร้าน ซาเอกิขอโทษขอโพยรินโดเป็นการใหญ่
“เห็นนายนั่งเงียบๆเลยพูดเผื่อจะสนุกขึ้นมาบ้างไง”
รินโดไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเด็กหนุ่มแต่อย่างใด เขายังคงเดินด้วยจังหวะสม่ำเสมอไปตามทางที่ทอดยาวเลียบถนนสายหนึ่ง
เพราะขณะนี้เป็นเวลาโพล้เพล้ข้างทางจึงประดับไปด้วยแสงไฟสลัวๆ บนถนนมีการจราจรที่ไม่แออัดเรียกได้ว่าน้อยมากๆ สายตาของรินโดมองพุ่งผ่านรถที่แล่นบนถนนไปยังทางเดินฝั่งตรงก่อนที่จะชะงักและหยุดเดินอย่างกะทันหัน
หืม?
“ซาเอกิ นายเห็นอะไรนั่นมั้ย”
“เปลี่ยนอารมณ์เร็วจังนะนาย ไหนๆ”
ซาเอกิมองตามที่รินโดมองไปแล้วอุทานออกมา โอ๊ะ!
สิ่งที่ทั้งสองเห็นคือ ชายฉกรรจ์ 4 คน ยืนล้อมพยายามฉุดกระชากลากผู้หญิงที่แต่งตัวแนวสาวออฟฟิศเข้าไปในตรอกที่ไม่มีคน ผู้คนที่เห็นก็รีบเดินผ่านบ้างก็เหลือบมองหรือหยุดทำท่าทีจะเข้าไปห้ามแต่พอชายเหล่านั้นหันมามองก็รีบเดินออกห่างหนีกันกระเจิง
“ต้องไปช่วยมั้ย?”
รินโดหันหน้ากลับมาถามซาเอกิด้วยแววตาเบื่อหน่าย
ซาเอกิมองหน้ารินโดตาปริบๆแล้วคิดในใจว่า นายบ้ารึเปล่า ถามมาได้
“เห็นคนเดือดร้อนก็ต้องไปช่วยสิ เร็ว!!”
“นั่นสิเนอะ เฮ้อ”
พูดจบซาเอกิก็รีบวิ่งขึ้นสะพานข้ามไปยังอีกฝั่งโดยมีรินโดตามหลังไปติดๆ
“พี่สาว อย่าขัดขืนดีกว่าน่า มาสนุกกับพวกเราเถอะ”
“อย่านะ ปล่อยดิฉันไปเถอะค่ะ”
หญิงสาวพยายามผละตัวเองออกจากชายร่างกำยำที่คล้องคอเธอเอาไว้
“เฮ้ย! พวกแก ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะเว้ย!”
ชายฉกรรจ์หันไปหาต้นเสียงที่กำลังยืนชี้หน้าพวกเขา ซาเอกิยืนกร่างอย่างองอาจ
ชายทั้งสี่จึงปล่อยหญิงสาวแล้วเดินเข้าหาซาเอกิด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ส่วนหญิงสาวหลังถูกปล่อยเธอก็วิ่งไปอยู่ไม่ห่างจากด้านหลังของซาเอกิมากนัก
“แกสั่งใครวะ!? ไอ้หนู!!” หนึ่งในชายฉกรรจ์พูดด้วยท่าทียียวน
“รังแกผู้หญิงมันเท่นักรึไงไม่ทราบ”
“พูดงี้วอนนักใช่มั้ยไอ้หนู!!”
ชายคนหนึ่งพุ่งหมัดเข้าหาซาเอกิโดยพลัน
พลั่ก
หมัดของชายคนดังกล่าวหาได้พุ่งถึงตัวของซาเอกิไม่ กลับกันเขาถูกหมัดที่รุนแรงและรวดเร็วยิ่งกว่าสวนเข้าที่หน้าก่อนจะกระเด็นล้มกลิ้งไม่เป็นท่าและแน่นิ่งไป...
“...คนต่อไป”
รินโดที่เพิ่งโผล่มา ยืนจ้องชายฉกรรจ์ราวจะกินเลือดกินเนื้อ แววตาที่พร้อมจะสังหารทุกสิ่งที่มองผ่าน มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยราวกับเจอเหยื่อที่สามารถพุ่งเข้าไปขย้ำให้แหลกได้ในทันที
“ว่าไงล่ะ เข้ามาสิ”
ชายทั้งสามกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ พวกเขาก้มมองพรรคพวกที่นอนแน่นิ่งเพราะหมัดที่รุนแรงราวสายฟ้าฟาดของเด็กหนุ่มที่พวกเขายืนประจันหน้าด้วย
“เฮ้อ...”
รินโดทำหน้าหน่ายเหมือนจะบอกเป็นนัยว่า ไม่ได้เรื่องกันสักคน
“ไปซะ! หิ้วเพื่อนพวกนายไปด้วย”
ทั้งสามไม่รอช้ารีบยกเพื่อนของพวกเขาขึ้นบ่าแล้วเผ่นหายไปท่ามกลางฝูงชนที่มุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น
พอทุกอย่างสงบลงฝูงคนก็สลายตัว เหลือเพียงรินโด ซาเอกิและหญิงที่ถูกช่วยไว้เมื่อสักครู่
“ปลอดภัยดีนะครับ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
ซาเอกิไม่รอช้าเขาหันไปถามสุภาพสตรีที่เพิ่งช่วยมา เขามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าว่ามีบาดแผลหรือไม่
สุภาพสตรีคนนี้ดูอายุน่าจะราวๆ 20-25 ปี เหมือนพนักงานออฟฟิศ หรือคนที่ทำงานบริษัทที่หรู เพราะการแต่งตัวของเธอนั้นค่อนข้างดูดี
“ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ” แถมยังกิริยามารยาทงดงามอีกด้วย
“ดิฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี ถ้ามีอะไร---”
ซาเอกิยกมือปราบเธอก่อนจะจับมือของเธอขึ้นมาระดับอก
“ไม่เป็นไรครับ คุณผู้หญิง ผมเห็นคนอื่นเดือดร้อนก็ต้องช่วยเป็นเรื่องธรรมดาครับ แล้วยิ่งเป็นผู้หญิงที่งดงามหาใดเปรียบแบบคุณแล้วด้วยผมยิ่ง-โอ๊ย!?”
“ทำอะไรของนายหะ? รินโด”
ซาเอกิเกาหัวที่โดนรินโดทุบด้วยกำปั้นหนึ่งที
“ถ้าคราวหน้าวู่วามอีกชั้นจะต่อยนายคนแรก”
รินโดพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“เอ่อ...”
“ต่อยตีไม่เป็นยังทำเท่ช่วยสาว มันน่าซัดสักหมัด”
“ขอโทษครับ ขอประทานโทษเป็นอย่างสูงขอรับ”
ซาเอกิโค้งคำนับรินโดครั้งแล้วครั้งเล่า
“คือว่า”
เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำให้รินโดและซาเอกิหันไปมองโดยพร้อมเพรียง
“ไม่ทราบว่าทั้งสอง เรียนอยู่ระดับไหนกันคะ”
เป็นคำถามที่แปลกสำหรับคนเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกและในสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งประหลาดเข้าไปอีก
ทั้งสองขมวดคิ้วแล้วหันหน้ามองกันอย่างงงๆ
“พวกเรากำลังจะขึ้น ม.ปลายปี 1” รินโดอาสาตอบ
หญิงสาวเบิกยิ้มน้ำตาคลอเบ้าด้วยความดีใจก่อนจะเอ่ยถามทั้งสองว่า
“สนใจโรงเรียนเกมส์ไหมคะ!?”
……………................
ผลงานนี้ ชื่อ สถานที่ คน สัตว์ สิ่งของ เป็นสิ่งที่เกิดจากความคิดของผู้แต่งมิได้ผาดพิงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น
ผู้แต่ง – เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งแต่ง การเรียบเรียงหรือภาษาอาจมีผิดเพี้ยนก็ขออภัยด้วย และเพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งแต่งแต่ละตอนอาจจะออกช้าเป็นอาจิน จึงเรียนมาเพื่อทราบ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ