Unreal Online

8.0

เขียนโดย TheSkill

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.01 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  5,812 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 22.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) PROLOG

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                ณ อนาคตที่ไม่ห่างไกลจากความเป็นจริงมากนัก ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดและการค้นพบสิ่งต่างๆอีกมากมาย สิ่งที่เคยเป็นเพียงจินตนาการก็ถูกสรรค์สร้างขึ้นเช่น ยานพาหนะที่ใช้ความนึกคิดในการขับเคลื่อน การสื่อสารที่สามารถสัมผัสกันได้แม้อยู่ไกลกัน การฉายสิ่งที่คิดให้ออกมาเป็นภาพ 3 มิติจำลอง หรือแม้กระทั่งเกมส์ออนไลน์ที่สามารถเข้าไปสัมผัสได้ด้วยตัวเองที่เรียกกันว่า VRMMORPG ก็มีออกมาเกลื่อนกลาด

 


 

[เอาละครับ อีกไม่ถึงเดือนก็จะเปิดให้เข้าเล่นอย่างเป็นทางการกันแล้ว สำหรับ ‘Re-O Online’ หรือ ‘R-OO’ เกมส์ออนไลน์ตัวใหม่ของค่าย ‘ZenReO’ ซึ่งทางผู้สร้างบอกว่าเป็นรูปแบบที่ยังไม่มีค่ายไหนผลิตออกมาในตอนนี้นะครับ วันนี้เราจะมาพูดคุยกับประธานบริษัทและเป็นผู้ให้กำเนิดเกมส์นี้กันครับ สวัสดีครับ มิส.........

จะดูอีกนานมั้ย ไม่รอแล้วนะ

ภาพสามมิติขนาดใหญ่ที่ฉายจากจุดที่ไม่มีอะไรอยู่ขึ้นมากลางอากาศถูกมือที่เล็กเรียวบางพัดหายไปเหมือนฝุ่นผง

ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ

ตุบ ตุบ ตุบ ปัง เสียงปิดประตูดังขึ้นและเผยให้เห็นต้นเหตุของเสียง

เด็กสาวตัวเล็กผิวขาวอมชมพู ผมยาวสีขาวมัดทรงโพนี่เทลผมหน้าปัดข้างเล็กน้อย แววตาสีฟ้าเขียวเป็นประกาย

ขอโทษที่ให้รอค่ะ

อย่าวิ่งสิจ๊ะ เดี๋ยวก็ล้มกันพอดี

 “บอกอยู่ว่ารีบยังจะลีลาอยู่ได้นะเรา

ยัยนี่ก็อย่างนี้ทุกทีล่ะ อืดอาด

......

แหม รีบไปกันเถอะจ๊ะ อย่ามัวยืนคุยกันอยู่เลย

เพราะใครล่ะ

ใช่สิ หนูผิดเอง ขอโทษ...ค่ะ

ยานพาหนะขนาดย่อมเคลื่อนลอยขึ้นฟ้าแล้วพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียง

            สวัสดีค่ะ ชั้นชื่อ โฮโตซึนะ ริน เป็นเด็กสาวตัวเล็กน่ารักอย่างที่เห็น ส่วนคนที่นั่งทำท่าเก๊กหล่อทั้งที่ไม่ได้ดูดีขึ้นมาเลยนี่คือพี่ชายของชั้นโฮโตซึนะ ซาจิ (ผมสั้นสีเทากระเซิงเล็กน้อย แววตาเอื่อยเชื่อย)

มองอะไร ยัยหมูตอน

ดูคนเป็นพี่ชายพูดกับน้องสาวสิคะ มันน่าตบนัก

โธ่ พ่อเทพบุตร แห้วหญิงมากี่คนแล้วล่ะ

ก็ยังดีกว่าไม่มีใครเอาล่ะนะ ดูสิ ดูพูดเข้า นั่นปากใช่มั้ย

พูดงี้ต่อยกันเลยดีกว่ามา

อย่าทะเลาะกันสิจ๊ะ------                                 ..............................................................]


 

 

     “เฮ้ย รินโด!!

เด็กหนุ่มผมเซอร์สีดำละสายตาจากหนังสือมองไปหาเสียงที่เรียกเขา

เด็กหนุ่มท่าทางภูมิฐานเดินเข้ามาทักเพื่อนของเขาที่นั่งอ่านหนังสือนิยายอยู่ในร้านกาแฟ

     “มานั่งอ่านนิยายคนเดียวอีกแล้วนะ”

เด็กหนุ่มผมทองรูปหล่อคนนี้ ชื่อ สึกุดะ ซาเอกิ เป็นเพื่อนของ โอคาเนะ รินโด คนที่นั่งอ่านนิยายอยู่

     “นายนี่มืดมนได้ตลอดเลยนะ เพื่อนก็มีน้อย เอ๊ะ หรือไม่มี”

          ปัง!

รินโดใช้กำปั้นทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นจ้องซาเอกิเขม็ง

     “อะไร อยากมีเรื่องหรอ? ตรงนี้เลยก็ไม่ว่าหรอกนะ”

เพราะในร้านมีลูกค้าน้อยเสียงทุบโต๊ะจึงดังจนได้ยินทั้งร้าน ผู้คนมองมาที่เด็กหนุ่มทั้งสองอย่างกังวล

รินโดหยิบเงินวางไว้บนโต๊ะแล้วหันหลังเดินเตรียมเดินออกจากร้านก่อนจะหันหน้ามาพูดกับซาเอกิ

     “งั้นชั้นก็ไม่มีเพื่อนสินะ”

เป็นประโยคที่เศร้า? เหงา? เสียใจ? ไม่ใช่!!

      “ง่า~ ชั้นขอโทษ”

หลังออกมาจากร้าน ซาเอกิขอโทษขอโพยรินโดเป็นการใหญ่

      “เห็นนายนั่งเงียบๆเลยพูดเผื่อจะสนุกขึ้นมาบ้างไง”

รินโดไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเด็กหนุ่มแต่อย่างใด เขายังคงเดินด้วยจังหวะสม่ำเสมอไปตามทางที่ทอดยาวเลียบถนนสายหนึ่ง

เพราะขณะนี้เป็นเวลาโพล้เพล้ข้างทางจึงประดับไปด้วยแสงไฟสลัวๆ บนถนนมีการจราจรที่ไม่แออัดเรียกได้ว่าน้อยมากๆ สายตาของรินโดมองพุ่งผ่านรถที่แล่นบนถนนไปยังทางเดินฝั่งตรงก่อนที่จะชะงักและหยุดเดินอย่างกะทันหัน

          หืม?

     “ซาเอกิ นายเห็นอะไรนั่นมั้ย”

     “เปลี่ยนอารมณ์เร็วจังนะนาย ไหนๆ”

ซาเอกิมองตามที่รินโดมองไปแล้วอุทานออกมา โอ๊ะ!

สิ่งที่ทั้งสองเห็นคือ ชายฉกรรจ์ 4 คน ยืนล้อมพยายามฉุดกระชากลากผู้หญิงที่แต่งตัวแนวสาวออฟฟิศเข้าไปในตรอกที่ไม่มีคน ผู้คนที่เห็นก็รีบเดินผ่านบ้างก็เหลือบมองหรือหยุดทำท่าทีจะเข้าไปห้ามแต่พอชายเหล่านั้นหันมามองก็รีบเดินออกห่างหนีกันกระเจิง

     “ต้องไปช่วยมั้ย?”

รินโดหันหน้ากลับมาถามซาเอกิด้วยแววตาเบื่อหน่าย

ซาเอกิมองหน้ารินโดตาปริบๆแล้วคิดในใจว่า นายบ้ารึเปล่า ถามมาได้

      “เห็นคนเดือดร้อนก็ต้องไปช่วยสิ เร็ว!!”

      “นั่นสิเนอะ เฮ้อ”

พูดจบซาเอกิก็รีบวิ่งขึ้นสะพานข้ามไปยังอีกฝั่งโดยมีรินโดตามหลังไปติดๆ

     “พี่สาว อย่าขัดขืนดีกว่าน่า มาสนุกกับพวกเราเถอะ”

      “อย่านะ ปล่อยดิฉันไปเถอะค่ะ”

หญิงสาวพยายามผละตัวเองออกจากชายร่างกำยำที่คล้องคอเธอเอาไว้   

     “เฮ้ย! พวกแก ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะเว้ย!”

ชายฉกรรจ์หันไปหาต้นเสียงที่กำลังยืนชี้หน้าพวกเขา ซาเอกิยืนกร่างอย่างองอาจ

ชายทั้งสี่จึงปล่อยหญิงสาวแล้วเดินเข้าหาซาเอกิด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ส่วนหญิงสาวหลังถูกปล่อยเธอก็วิ่งไปอยู่ไม่ห่างจากด้านหลังของซาเอกิมากนัก

     “แกสั่งใครวะ!? ไอ้หนู!!” หนึ่งในชายฉกรรจ์พูดด้วยท่าทียียวน

     “รังแกผู้หญิงมันเท่นักรึไงไม่ทราบ”

     “พูดงี้วอนนักใช่มั้ยไอ้หนู!!”

ชายคนหนึ่งพุ่งหมัดเข้าหาซาเอกิโดยพลัน

          พลั่ก

หมัดของชายคนดังกล่าวหาได้พุ่งถึงตัวของซาเอกิไม่ กลับกันเขาถูกหมัดที่รุนแรงและรวดเร็วยิ่งกว่าสวนเข้าที่หน้าก่อนจะกระเด็นล้มกลิ้งไม่เป็นท่าและแน่นิ่งไป...

     “...คนต่อไป”

รินโดที่เพิ่งโผล่มา ยืนจ้องชายฉกรรจ์ราวจะกินเลือดกินเนื้อ แววตาที่พร้อมจะสังหารทุกสิ่งที่มองผ่าน มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยราวกับเจอเหยื่อที่สามารถพุ่งเข้าไปขย้ำให้แหลกได้ในทันที

     “ว่าไงล่ะ เข้ามาสิ”

ชายทั้งสามกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ พวกเขาก้มมองพรรคพวกที่นอนแน่นิ่งเพราะหมัดที่รุนแรงราวสายฟ้าฟาดของเด็กหนุ่มที่พวกเขายืนประจันหน้าด้วย

     “เฮ้อ...”

รินโดทำหน้าหน่ายเหมือนจะบอกเป็นนัยว่า ไม่ได้เรื่องกันสักคน

     “ไปซะ! หิ้วเพื่อนพวกนายไปด้วย”

ทั้งสามไม่รอช้ารีบยกเพื่อนของพวกเขาขึ้นบ่าแล้วเผ่นหายไปท่ามกลางฝูงชนที่มุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น

พอทุกอย่างสงบลงฝูงคนก็สลายตัว เหลือเพียงรินโด ซาเอกิและหญิงที่ถูกช่วยไว้เมื่อสักครู่

       “ปลอดภัยดีนะครับ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”

ซาเอกิไม่รอช้าเขาหันไปถามสุภาพสตรีที่เพิ่งช่วยมา เขามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าว่ามีบาดแผลหรือไม่

สุภาพสตรีคนนี้ดูอายุน่าจะราวๆ 20-25 ปี เหมือนพนักงานออฟฟิศ หรือคนที่ทำงานบริษัทที่หรู เพราะการแต่งตัวของเธอนั้นค่อนข้างดูดี

      “ค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ” แถมยังกิริยามารยาทงดงามอีกด้วย

     “ดิฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนอย่างไรดี ถ้ามีอะไร---”

ซาเอกิยกมือปราบเธอก่อนจะจับมือของเธอขึ้นมาระดับอก

       “ไม่เป็นไรครับ คุณผู้หญิง ผมเห็นคนอื่นเดือดร้อนก็ต้องช่วยเป็นเรื่องธรรมดาครับ แล้วยิ่งเป็นผู้หญิงที่งดงามหาใดเปรียบแบบคุณแล้วด้วยผมยิ่ง-โอ๊ย!?

       “ทำอะไรของนายหะ? รินโด”

ซาเอกิเกาหัวที่โดนรินโดทุบด้วยกำปั้นหนึ่งที

      “ถ้าคราวหน้าวู่วามอีกชั้นจะต่อยนายคนแรก”

รินโดพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

     “เอ่อ...”

     “ต่อยตีไม่เป็นยังทำเท่ช่วยสาว มันน่าซัดสักหมัด”

     “ขอโทษครับ ขอประทานโทษเป็นอย่างสูงขอรับ”

ซาเอกิโค้งคำนับรินโดครั้งแล้วครั้งเล่า

      “คือว่า”

เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำให้รินโดและซาเอกิหันไปมองโดยพร้อมเพรียง

     “ไม่ทราบว่าทั้งสอง เรียนอยู่ระดับไหนกันคะ”

เป็นคำถามที่แปลกสำหรับคนเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกและในสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งประหลาดเข้าไปอีก

ทั้งสองขมวดคิ้วแล้วหันหน้ามองกันอย่างงงๆ

      “พวกเรากำลังจะขึ้น ม.ปลายปี 1” รินโดอาสาตอบ

หญิงสาวเบิกยิ้มน้ำตาคลอเบ้าด้วยความดีใจก่อนจะเอ่ยถามทั้งสองว่า

สนใจโรงเรียนเกมส์ไหมคะ!?

……………................

 

 

 

ผลงานนี้ ชื่อ สถานที่ คน สัตว์ สิ่งของ เป็นสิ่งที่เกิดจากความคิดของผู้แต่งมิได้ผาดพิงถึงสิ่งใดทั้งสิ้น

          ผู้แต่ง – เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งแต่ง การเรียบเรียงหรือภาษาอาจมีผิดเพี้ยนก็ขออภัยด้วย และเพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งแต่งแต่ละตอนอาจจะออกช้าเป็นอาจิน จึงเรียนมาเพื่อทราบ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา