SAENRAK แสนรัก [YAOI]

8.0

เขียนโดย DAIPS

วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 00.39 น.

  10 chapter
  1 วิจารณ์
  12.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2560 22.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) SAENRAK แสนรัก : CHAPTER.06

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

 

SAENRAK แสนรัก : CHAPTER.06

เรื่องโดย : ++DAIPS++

 

      “แสนรักเป็นไงบ้าง ยังไม่หายดีงั้นหรอ?” รพีเอ่ยปากถามผมในช่วงพักกลางวัน

สีหน้าฉายแววชัดถึงความเป็นห่วง ผมพยักหน้าตอบเขาพลางจับหน้ากากอนามัยให้กระชับขึ้น “งี้ก็ลงไปกินข้าวด้วยกันไม่ได้อะดิ” รพีพูดต่อด้วยเสียงแผ่วเบา เขาทำตาละห้อยส่งมาให้ผม “เสียดายอะ”

 

      “ไว้วันอื่นนะครับ แค่ก!..แค่ก!” ผมตอบเขาด้วยเสียงที่แหบพร่า พูดไปได้ไม่กี่คำก็ไอค่อกแค่กออกมา ผมยกมือขึ้นมาลูบคอตัวเองเบาๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้ผมหายเจ็บคอเลยก็เถอะ

 

      “เข้าใจแล้วๆ ไว้ฉันจะรีบขึ้นมานะ” รพีพูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆก่อนจะโบกมือลาผมและเดินตามเพื่อนคนอื่นๆไป

 

      หลังจากวันที่ฝนตกอย่างหนักในวันนั้น ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเป็นทุนเดินอยู่แล้ว เมื่อกลับบ้านไปด้วยสภาพที่เปียกโชก อีกทั้งยังตากแอร์ในรถของอิงอรเข้าไปเต็มๆ สุดท้ายก็จบลงตรงที่ผมลุกออกจากเตียงไปไหนไม่ไหว นอนซมเพราะพิษไข้เป็นเวลาสองวันเต็มๆ  ผมหยุดเรียนไปสองวัน อิงอรทำหน้าที่ดูแลผมได้เป็นอย่างดี ในตอนนี้ผมหายไข้แล้ว หากแต่อาการไอและเจ็บคอยังไม่ดีขึ้นเลย

 

      “ไม่หิวงั้นหรอ?” เสียงทุ้มนิ่งดังมาจากผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆผม สายตาของเขายังคงจับจ้องมองที่หนังสือ อ่านมันด้วยความตั้งใจ

 

      “ครั- แค่ก!..แค่ก!” ผมไอออกมาแทนคำตอบ เจ้าชายละสายตาจากหนังสือแล้วหันมามองหน้าผม

 

      “…”

 

       ครืด...

 

       เขามองหน้าผมนิ่งๆไม่พูดอะไร ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินออกจากห้องเรียนไป ผมมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความงุนงง  ก่อนจะยักไหล่ไม่สนใจและฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะ ใช่...ผมนอน

      ..

      ..

      ..

      ครืด...

 

       ผมสะดุ้งเบาๆเมื่อได้ยินเสียงเลื่อนเก้าอี้จากโต๊ะข้างๆ เงยหน้าขึ้นมามองนิดหน่อย เห็นว่าเป็นเจ้าชายที่กำลังทิ้งตัวนั่งลงไปกับเก้าอี้ ในมือของเขาถือแก้วอะไรสักอย่าง ซึ่งผมไม่ได้สนใจอะไรมันมากนัก ผมก้มหน้าฟุบลงไปกับท่อนแขนของตัวเองอีกครั้งเพื่อที่จะนอนต่อ

    

      “แสนรัก” เสียงทุ้มนิ่งของเจ้าชายทำให้ผมเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาวางแก้วนั่นลงที่โต๊ะของผม วางมันตรงหน้าผม “น้ำผึ้งผสมมะนาว” เจ้าชายพูดพร้อมมองไปยังแก้ว ผมละสายตาจากเขาและยืดตัวขึ้นมานั่งดีๆ จากนั้นก็มองไปยังแก้วบรรจุน้ำสีเหลืองอ่อน “อุ่น...” เขาพูดต่อก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เปิดไปยังหน้าที่คั่นเอาไว้

 

      “ให้ผมหรอครับ?” ผมถามเขาอย่างสงสัย เจ้าชายหรี่ตามามองผมนิดๆก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ “ขอบคุณนะครับ” ผมเอ่ยขอบคุณเขา รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่เขานำน้ำผึ้งผสมมะนาวมาให้ผม เขาคงจะเห็นผมไอเริ่มหนักขึ้นล่ะมั้ง นี่อุส่าห์พยายามกลั้นเสียงที่สุดแล้วนะ ไม่อยากให้เสียงไอของผมมันรบกวนเขาในเวลาอ่านหนังสือเลย

 

      ผมยกมือขึ้นมาเลื่อนหน้ากากอนามัยลงจนถึงคาง จับแก้วที่เจ้าชายหยิบยื่นให้ขึ้นมาถือ “อร่อยจัง” พูดพึมพำออกมาเบาๆเมื่อริมฝีปากจรดปากแก้วแล้วจิบน้ำผึ้งผสมมะนาวเข้าปากนิดหน่อย

 

      “ขอบคุณนะเจ้าชาย” ผมเอ่ยคำขอบคุณคนข้างๆอีกหนึ่งครั้ง ก่อนจะอ่านหนังสือไปพลาง ยกแก้วขึ้นมาจิบไปพลาง

      ..

      ..

      ..

      “แสนรักกกกกกกกกก”รพีส่งเสียงเรียกผมมาแต่ไกล ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล่มใหญ่ เห็นว่าเขากำลังเดินตรงมายังโต๊ะของผม “อะ ให้!” เขาวางแก้วลงบนโต๊ะของผม “ช่วยให้ชุ่มคอแหละ!” พูดต่อพร้อมกับยิ้มกว้าง “อร่อยด้วยนะ”

 

       “…” ผมมองแก้วตรงหน้าที่บรรจุน้ำสีคุ้นตาด้วยสีหน้าเอียนๆ ดีที่ผมมีหน้ากากอนามัยปิดครึ่งหน้าเอาไว้  ไม่งั้นรพีต้องตกใจแน่ๆที่เห็นผมทำหน้าอย่างนั้น  

 

      “ขอบคุณครับ...” ผมเอ่ยขอบคุณเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่อยากจะปฏิเสธน้ำใจที่เขามีให้ มันคงน่าเกลียดมากแน่ๆ เพราะเขาอุส่าห์ใจดีและเป็นห่วงผม

 

      รพียิ้มกว้างให้ผมก่อนที่เจ้าตัวจะกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง เมื่อเห็นว่าคุณครูประวิชาเข้าสอนแล้ว

      

       “จริงๆนายปฏิเสธเขาไปก็ได้นี่” เจ้าชายพูดด้วยเสียงนิ่งๆ ใบหน้าของเขายังคงมองไปทางด้านหน้า “นายจะดื่มมันทั้งสองแก้วเลยงั้นหรอ” เขาพูดอีกครั้งก่อนจะเก็บหนังสือลงใต้โต๊ะและหยิบหนังสือวิชาคณิตศาสตร์ขึ้นมาแทน

 

       “อืม...ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมตอบกลับเจ้าชาย

 

      “…”เขาเงียบ ไม่ได้พูดอะไรต่อ มันจึงเป็นการจบบทสนทนาไปโดยปริยาย

      ..

      ..

      ..

      (ทำไมวันนี้ถึงกลับเย็นล่ะ? มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?) อิงอรถามด้วยความสงสัยปนแปลกใจ น้ำเสียงของเธอติดเป็นห่วงนิดๆ เนื่องจากอาการของผมยังดีขึ้นไม่เต็มร้อย   

ผมเป็นคนที่ป่วยง่าย อิงอรเธอรู้และเป็นห่วงเรื่องนี้เป็นพิเศษ

 

       “ตามงานน่ะครับ ผมหยุดเรียนไปสองวัน การบ้านเลยค่อนข้างเยอะ” ผมบอกเหตุผลกับอิงอร เธอยอมรับและอนุญาตให้ผมอยู่ที่โรงเรียนต่อจนถึงช่วงเย็น เมื่อถึงเวลาก็ให้โทรตาม เธอจะเป็นคนออกมารับผมเอง 

 

      “ครับ สวัสดีครับ”ผมตอบกลับเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะวางสายไป

 

       “เรียบร้อยแล้ว?” ผมมองหน้าคนที่ยืนข้างๆ ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ “อืม งั้นไปกันเถอะ” เขาพูดต่อ

 

       “ครับ...รพี” ผมตอบกลับรพีก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินขึ้นไปยังตัวตึก ไปยังชั้นที่มีห้องสมุด

 

      “นั่งตรงนี้แหละ” รพีพาผมมานั่งยังโต๊ะที่เป็นมุมอับและคนค่อนข้างน้อย “ตรงอื่นแอร์มันเย็น เดี๋ยวนายจะเป็นหนักกว่าเดิม” เขาพูดต่อพร้อมกับวางกระเป๋าเป้ลงไปที่โต๊ะ

 

      “ครับ” ผมตอบรับก่อนจะวางกระเป๋าตามเขา ทิ้งตัวนั่งลงไปกับเก้าอี้ จ้องมองรพีที่กำลังยกเก้าอี้จากฝั่งตรงข้ามมาวางและนั่งข้างๆผม

 

      “นั่งตรงข้ามไม่ถนัดอะ” เขาพูดเหตุผลออกมา ผมพยักหน้ารับเบาๆอย่างไม่ใส่ใจ

 

      จะนั่งตรงไหนก็นั่งเถอะ มันเป็นที่สาธารณะนี่นา…

 

      “เมื่อวันก่อนมีการบ้านวิชาคณิตฯ อิ้ง และ...” รพีเริ่มบอกรายชื่อวิชาที่มีการบ้านในสองวันที่ผมไม่ได้มา เขาชี้แจงรายละเอียดและวิธีทำต่างๆได้อย่างชัดเจนและถี่ถ้วน     

 

       ผมค่อนข้างเข้าใจเนื้อหาการเรียนวิชาต่างๆ และค่อนข้างหัวไปไวกว่าคนอื่นๆ ส่วนหนึ่งคือ เนื้อหาพวกนี้ผมเคยเรียนมาแล้ว อย่าลืม ผมเองก็เคยอยู่มอหกนะ ถึงจะแค่เทอมเดียวและดร็อปไปอีกสามปีก็เถอะ

 

      “ใช่ๆ อย่างนั้นแหละ” รพีพยักหน้าเมื่อเห็นว่าผมทำโจทย์เลขตามที่เขาสอนได้อย่างถูกต้อง พอเห็นว่าผมทำได้เขาก็ปล่อยให้ผมทำเอง ไม่ได้วอแวอะไรมากนักถ้าหากผมไม่ได้เอ่ยปากถาม

 

      “รพีช่วยตรวจทานให้หน่อยสิครับ” ผมพูดพลางเลื่อนสมุดไปตรงหน้าของรพี “ผมไม่ค่อยแน่ใจ” และพูดต่อ

 

       รพีพยักรับนิดๆก่อนจะก้มลงมองที่สมุด เขาตรวจทานทีละบรรทัดอย่างถี่ถ้วน บรรทัดไหนที่ผมทำถูก รพีก็จะพยักหน้าเบาๆ ผมสังเกตใบหน้าของเขาพลางมองสมุดตัวเองไปด้วย

 

      “ผิดงั้นหรอ?” ผมเอ่ยปากถามรพี เมื่อเห็นเขาชะงักและไม่พยักหน้าต่อ

 

      “เปล่าๆ” เขาพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจากสมุด “ถูกหมดเลย เก่งว่ะ” เขาเอ่ยคำชมพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ “ต่อไปอิ้ง ทำต่อเลยปะ?”

 

      “อื้ม!” ผมพยักหน้าตอบเขาพร้อมกับรอยยิ้ม ถึงเขาจะเห็นแค่ดวงตาเพราะว่าผมใส่หน้ากากอนามัยปิดแทบจะครึ่งค่อนหน้าเลยก็เถอะ

 

      “หายใจออกหรอ?”

 

      “หื้ม?” ผมทวนคำถามของรพี เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้ตั้งใจฟัง มัวแต่เก็บสมุดหนังสือวิชาคณิตศาสตร์และค้นหาหนังสือภาษาอังกฤษในกระเป๋า

 

      “ถามว่า หายใจออกหรอ ใส่ทั้งวันแล้วนะ ไม่อึดอัดหรอ” รพีพูดทวนคำถามอีกครั้ง เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเท้าคางระหว่างที่พูดคุยกับผม

 

      “ออกสิครับ ผมชินแล้วแหละ” ผมตอบรพี เขามองมาที่ผมพร้อมกับคิ้วข้างหนึ่งที่เลิกสูงขึ้น “ผมป่วยบ่อย”

 

      “อ๋อออออออ” เขาลากเสียงยาวและพยักหน้ารับกับคำตอบของผม “ทำต่อเถอะ กลับบ้านเย็นเดี๋ยวที่บ้านนายจะเป็นห่วงเอา” ผมพยักรับกับคำพูดของรพีก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านแบบฝึกหัดวิชาภาษาอังกฤษ ในหน้าที่รพีเปิดให้

      ..

      ..

      ..

      “อ้าว ฝนตกเฉยเลย”

 

      “แย่จังเลยนะครับ”

 

      ผมและรพีพึ่งออกมาจากตัวห้องสมุด พอลงมายังชั้นล่างก็เห็นหยาดสายฝนที่กระหน่ำเทลงมา ผมมองไปยังท้องฟ้าที่ค่อยๆแปรเปลี่ยนจากสีส้มแดงเป็นสีมืดครึ้ม

 

      นี่มันก็เป็นเวลาที่ค่อนข้างเย็นมากแล้ว...

 

       ผมหันไปมองใบหน้าคมของรพีก่อนที่จะเอ่ยปากถาม “ที่บ้านของรพีจะว่าเอามั้ยครับ? กลับบ้านเย็นขนาดนี้”

 

      “ไม่หรอก ฉันอยู่บ้านคนเดียว” รพีตอบกลับมา “ไปนั่งตรงนั้นป่ะ” เขาชี้ไปยังโต๊ะไม้หินอ่อนก่อนจะดันหลังผมเบาๆให้เดินตามเขาไป

 

      “โว้ววววว บรรยากาศดีจังเลยแหะ” เขาพูดก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงไปบนเก้าอี้ ผมเองก็นั่งลงไปตามเขา “เหมาะสำหรับคู่รัก”

 

      พรึ่บ

 

      “…” ผมมองไปยังท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของรพี เขาวางมันพาดลงบนไหล่ของผม ผมหันหน้าไปมองเขา เห็นว่ารพีมองผมอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

 

 

      ความเงียบเข้าปกคลุมเราสองคน มีเพียงเสียงของหยาดสายฝนและบรรยากาศที่เย็นสบายเท่านั้นที่ครอบคลุมเราทั้งสอง เส้นผมสะบัดปลิวไหวไปตามทิศทางแรงลมที่พัดโชยมา

 

      ผมและเขาต่างคนต่างมองหน้ากัน รพียกมือขึ้นมาเกี่ยวรั้งหน้ากากอนามัยออกจากใบหน้าของผมอย่างแผ่วเบา

 

      เราสบสายตากัน ก่อนที่เขาจะ...

      ..

      ..

      ..

      “รู้ว่าหล่อแต่อย่าจ้องมากได้ปะ เขินนะ”

 

      “…”

 

      พูดถ้อยคำที่ทำให้ผมรู้สึกอยากมองบนและเบะปากแรงๆสักสองสามที!

 

      “อะไรกัน! ทำหน้าอย่างนั้นหมายความว่าไงห๊ะ?!” รพีทำหน้าแบบ (พยายาม)หาเรื่องผมสุดๆ  เขาเปลี่ยนจากการพาดแขนที่ไหล่เป็นการล็อคคอเบาๆ

 

      “อยากมีเรื่องกับฉันใช่มั้ย? ได้เลยแสนร๊ากกกกกก! พูดจบรพีก็ยกมือขึ้นมายีศีรษะจนเส้นผมสีน้ำตาลเข้มของผมฟูฟ่อง

 

      “โอ๊ยยยยยย  ปล่อยผมมมมม มันเจ็บนะครับ!” ผมโอดครวญร้องออกมา หากแต่รพีหัวเราะร่าอย่างชอบใจ

 

      “หมั่นเขี้ยวอะ! นี่แหนะๆ!” รพีไม่ปล่อย หนำซ้ำเขายังเล่นหนักว่าเดิม

 

     ‘นี่คุณ! สนุกมากมั้ย? เอากลับไปเล่นที่บ้านเลยมั้ยล่ะ?! Lผมทำได้แค่เพียงพูดประโยคนี้ในใจ

     

 

       “…” นั่งเงียบต่อไปและปล่อยให้เขาเล่นศีรษะอย่างสนุกสนาน...

 

      บ้าจริง!

      ..

      ..

      ..

      รพีและแสนรักไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำที่ดูสนิทสนมของพวกเขาทั้งสอง ปลุกความอิจฉาริษยาของคนคนหนึ่ง

 

      ให้ตื่นขึ้น...อีกครั้ง

 

       D A I P S.

//เหมือนจะจบสวยนะ แต่สุดท้ายก็ทิ้งปมดราม่าไว้อยู่ดี นังคงเขียนผีบว้าาาาาาา55555 ตอนนี้เป็นตอน ของรพีกับแสนรักจ้า ทั้งตอนนำเรื่องโดยสองตัวละครนี้เป็นส่วนใหญ่ มีความมุ้งมิ้งและหักมุมตอนท้าย เอ๊ะๆ ไหนใครอยากให้พวกเขาจูบกัน? ว๊ายยยย คนทะลึ่งงงงง เขาไม่จูบกันหรอกย่ะ555555 ตอนนี้เป็นตอนที่เครียดน้อยสุดเลยก็ว่าได้ (หรือเปล่า) ฝากไลค์ เม้น และติดตามด้วยน้า เม้นให้เค้าหน่อยดิ บึ้มๆเลยนะ อ้อ สำหรับใครที่ยังไม่ได้เข้าไปกดไลค์แฟนเพจเฟซบุ้คของได ฝากเข้าไปกดด้วยน้า เพื่อติดตามข่าวสาร เวลาอัพนิยายจะได้เห็นแล้วเข้าไปอ่านกันได้บึ้มๆเลยค่า เค้าต้องไปแล้ว ซียูเจอกันตอนหน้าน้า

ปล. เม้นด้วยนะเว้ย นี่สั่งละ5555 ฉุนเฉียววววววว

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา