บุตรผู้ซื่อสัตย์

-

เขียนโดย jobbychicken2310

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.15 น.

  16 ตอน
  0 วิจารณ์
  17.42K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 04.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ภรรยาและบุตรของกุ๊กไก่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          วันหนึ่งอับดุลได้รับข้อความจากกุ๊กไก่ว่าภรรยาของตนได้ให้กำเนิดบุตรแก่ตนแล้ว อับดุลดีใจมากจึงบอกมิเชลว่า "เธอได้เลี้ยงหลานแล้วนะ" มิเชลพูดอย่างตกใจว่า "หลานใคร!" อับดุลจึงพูดว่า "พี่กุ๊กไก่มีลูกแล้วนะ" มิเชลพูดว่า "แสดงความดีใจด้วยค่ะ หนูได้เลี้ยงหลานจริงๆด้วยค่ะ ถ้าพ่อพูดว่าเป็นลูกของพี่กุ๊กไก่ตั้งแต่แรกก็จบ พ่อ หนูอยากรู้ว่าที่มาเลเซียต่างจากประเทศไทยมากแค่ไหน" อับดุลตอบว่า "ถ้าลูกอยากรู้ พ่อจะจองตั๋วเครื่องบินให้นะ ถึงยังไงประเทศไทยก็มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่าประเทศไหนๆตั้งเยอะ ขนาดว่าพม่าซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่เธอนั้นเฟื่องฟูมาก่อนก็ยังต้องมาอับจนเลย ตอนนี้เราอยู่ในดินที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม ประชาชนลำบากยากแค้นอย่างไร พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือให้รอดพ้นทุกข์ภัย อยู่ประเทศไทยน่ะดีแล้ว ไว้วันไหนพ่อว่างๆจะพาเธอไปเยี่ยมพี่ที่มาเลเซียเอง" มิเชลจึงยิ้มแป้น จากนั้นก็พูดว่า "จริงของพ่อนะ ไม่มีที่ไหนอุดมสมบูรณ์เท่าประเทศไทยแล้วค่ะ หนูอยากไปห้างในตัวเมือง ส่วนมากพี่เหมยฟางเขาขายไก่สวยงามทางออนไลน์ นานๆทีจะมีลูกค้าเข้ามาที่บ้าน ถ้าลูกค้ามาที่บ้านหนูก็ต้องคอยห้ามไก่กับเป็ดทั้ง 4 ตัว พอเห็นคนแปลกหน้ามันก็จิกกัดอย่างไม่ปราณี วันนี้หนูขอไปเดินห้างก็แล้วกัน จะได้ซื้อของมาให้พี่ดราก้อนกับภรรยาได้ทำอาหารรับประทานกันค่ะ" อับดุลพูดว่า "เธอลองไปขอพี่เหมยฟางนะ ถ้าพี่เขาอนุญาตเธอค่อยไป" มิเชลจึงลงไปหาเหมยฟางแล้วขออนุญาตไปห้างสรรพสินค้าในจังหวัดเชียงใหม่ เหมยฟางก็อนุญาต ดราก้อนทำหน้าที่พาเด็กทั้ง 5 ไปส่งที่โรงเรียน เด็กประถม 3 คน คือ ม่านแก้ว ยูกิและแก้วพิมพา ส่วนเด็กอนุบาลอีก 2 คน คือ ทินกรกับปอยฟ้า ดราก้อนกลับถึงบ้าน ซึ่งพอดีกับที่มิเชลไปห้างสรรพสินค้า ดราก้อนจึงสนทนากับมิยาชิว่า "น้องสาวคนนี้ของผมเป็นคนที่เอาแต่ใจ คุณอย่าถือสาเลยนะครับ เธอจะงอนง่าย แต่รักทุกคนในครอบครัว คุณว่าแปลกไหมล่ะครับ" มิยาชิพูดว่า "ฉันว่าน้องสาวของคุณคนนี้ก็แปลกๆนะ ชอบทำหน้าบึ้งตึง จริงของคุณที่เธอรักครอบครัว วันไหนลูกค้ามาที่บ้าน เธอก็ดูแลลูกค้าป็นอย่างดี ผิดกับเหมยฟางนะ เธอเป็นคนที่เรียบร้อยและใจดีกว่า วันนี้เธอคงอยากไปห้างจริงๆค่ะ ฉันไม่ถือหรอกค่ะ น้องสะไภ้คุณน่ากลัวกว่ามิเชลตั้งเยอะ วันนั้นเธอ 2 คนเข้ามาแล้วจาอย่างไม่สบอารมณ์กับฉัน ถ้าน้องชายคุณเข้ามาไม่ทัน ฉันคงโดนน้องสพไภ้คุณตบแล้วค่ะ" ดราก้อนพูดว่า "น้องสะไภ้ 2 คนนี้เขานิสัยเหมือนแม่ผมเลยครับ ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านดุมาก กุ๊กไก่กับภารตะถูกฟาดก้นด้วยไม้เรียวทุกวัน คุณถามน้องผมได้เลยครับ แต่ท่านรักผมกับสุริยันและเหมยฟางมาก มิเชลคงติดนิสัยมาจากคุณน้าเมี๊ยะพยามาแน่ๆ ภารตะนี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับแม่ท่านก็ว่าได้ แต่ตอนนี้เขากลับตัวเป็นคนดีแล้วครับ คงเป็นกรรมของภารตะที่ได้ภรรยาที่มีนิสัยเหมือนแม่ผมเลย" มิชิโอะมาหาดราก้อนแล้วถามว่า "คุยเรื่องอะไรกันหรือ" ดราก้อนตอบว่า "ผมคุยกับภรรยาเรื่องน้องสะไภ้กับน้องร่วมท้องครับ ผมกับมิยาชิรักพ่อนะครับ" มิชิโอะพูดว่า "พ่อก็รักลูกทั้ง 2 เช่นกันนะ พ่อเข้าใจนะที่พูดถึงน้องๆ จริงของลูกทั้ง 2 น้องสะไภ้ 2 คนนี้นิสัยเหมือนจันทราจริงๆ ดุยังกับอะไรดี ดูแล้วก็น่าขบขันดี ฝ่ายชายก็กลัวเมีย ฝ่ายหญิงก็ดุผัว ดีแล้วที่ลูกทั้ง 2 ไม่เป็นแบบนั้น พ่อคงได้อยู่กับยูกิแค่เสาร์-อาทิตย์ล่ะนะ" ดราก้อนพูดว่า "พ่อมานอนห้องเดียวกับผมนะ พ่อจะได้คุยกับยูกิทุกวันเลยครับ" มิเชลกลับมาจากห้างพร้อมกับตำราในการทำอาหารและวัตถุดิบต่างๆ ดราก้อนจึงขอบคุณน้องสาว อัยดุลเห็นลูกสาวแล้วจึงพูดว่า "ซื้ออะไรมาเยอะขนาดนี้ ไม่โกยของในห้างมาเลยล่ะ" มิเชลจึงพูดว่า "หนูอุตส่าห์ไปซื้อมาเพื่อให้พี่ดราก้อนกับพี่มิยาชิได้ทำอาหาร พ้อพูดแบบนี้หนูไม่ไปห้างแล้วนะ งอน! " ดราก้อนจึงเตือนน้องสาวว่า "อย่าพูดจาแบบนี้กับผู้ใหญ่ เดี๋ยวจะไม่มีความเตริญเข้ามาในชีวิตนะ วางของเสร็จแล้วมาขอโทษคุณพ่อด้วยนะ ไหนบอกว่าจะเปลี่ยนนิสัย จริงๆแล้วพี่ก็ไม่อยากดุเธอหรอกนะ แต่เธอทำแบบนี้ก็ไม่ถูก หรือว่ามิเชลจะต้องโดนฟาดด้วยไม้เรียวก่อน ถึงจะเลิกนิสัยแบบนี้" สายเงินได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจึงชวนสามีออกมาดู มิเชลจึงไปวางของ พอเดินกลับมาจึงถูกสายเงินตบหน้า 1 ที มิเชลจึงพูดว่า "พี่มาตบหนูทำไม" สายเงินจึงพูดว่า "พี่ไม่อยากให้พี่ดราก้อนต้องลงโทษเธอด้วยตัวเอง พี่เลยตบเพื่อสอนให้รู้ว่าทำแบบนี้กับผู้ใหญ่มันไม่ถูกต้อง คิดซะว่าการถูกตบนั้นจะทำให้เธอเปลี่ยนนิสัย" มิเชลจึงเข้าไปกราบแทบเท้าบิดาแล้วขอโทษในความผิด ภาตะจึงพูดกับสายเงินว่า "คุณใจเย็นหน่อยนะ น้องสาวผมก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่ค่อยยอมใคร แต่มันกลัวแม่ผมมาก เพราะท่านดุมาก ผมแทบจะทะเลาะกับท่านได้อยู่แล้ว ผมยังไม่กล้าตบมันเลย ก็ดี มันจะได้รู้บ้างว่าอะไรเป็นอะไร ถ้ามันยังนิสัยไม่ดีขึ้น ผมจะขอคุณอับดุลว่าจะพามิเชลไปอยู่ที่วัดเพื่อดัดนิสัยให้ดีขึ้น" มิเชลพูดว่า "พี่ภารตะอย่าพาหนูไปอยู่วัดเลยค่ะ หนูสัญญาค่ะว่าจะเปลี่ยนนิสัย ถ้าหนูยังไม่ดีขึ้น พี่พาหนูไปอยู่วัดได้เลยค่ะ" สายเงินจึงพูดว่า "แน่ใจนะว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ถ้าทำพี่จะเอาไม้เรียวฟาดเธอให้เลือดซิบเลย อย่าคิดนะว่าทุกคนต้องยอมให้เธอเสมอ" มิเชลเกิดความกลัวจึงไม่กล้าสบตาใครๆเลย ดราก้อนจึงพูดว่า "ไม่ต้องกลัวนะ พี่ภารตะกับพี่สายเงินเขาหวังดีกับเธอ อย่ากลัวเลย พี่ไม่ทำอะไรเธอหรอกนะ ไปจัดของที่ห้องครัวต่อเถิดนะ" มิเชลจึงไปจัดของที่ห้องครัวจนเสร็จ ภารตะจึงพาภรรยาไปยังห้องนอนของสุริยัน เชียงทองจึงถามน้องสาวว่า "เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงดูเครียดจังเลย" สายเงินตอบว่า "ก็มิเชลน่ะสิ คุณอับแค่พูดเฉยๆ มันถึงกับงอนแล้วก็เดินเชิดไปห้องครัวเลย พอมันเดินมาหนูเลยตบหน้าให้ 1 ที โทษฐานที่ก้าวร้าวใส่ผู้ใหญ่ พ่อมันแท้ๆยังก้าวร้าวได้ พี่ลองคิดดูสิ ตอนที่พวกเราอยู่ที่เชียงราย พ่อกับแม่ดุพวกเรายังกับอะไรดี ถ้าวันไหนพวกเราดื้อ ท่านก็เอาไม้เรียวฟาดเรา 2 คนเสียด้วยซ้ำ" ภารตะจึงพูดว่า "ใจเย็นๆครับ คุณหายโกรธน้องสาวผมเถิดครับ แค่นี้มันกลัวราวกับวัวกลัวเสือเลย" สายเงินพูดกลับว่า "คุณบอกว่าฉันเป็นเสือหรือ ดีเลย คุณจะได้โดนฉันตบต่อหน้าพี่ชายคุณ หรือว่าอยากชิมรสของไม้เรียว หรือว่าอยากโดนถีบ" ภารตะเกิดกลัวเมียจึงพูดว่า "ผมขอโทษ คุณอย่าทำร้ายผมเลย ผมเข้าใจนะว่าคุณกับพี่สาวเคยโดนลงโทษ ผมผิดเองที่ไม่อบรมน้องสาวผม ผมไม่แปลกใจเลยที่น้องสาวผมถึงกลัวคุณ ใจเย็นเถิดครับ" สายเงินจึงสงบอารมณ์ สุริยันจึงพูดว่า "ตอนนี้มิเชลเป็นอย่างไรบ้าง พี่ขอไปดูหน่อย" สุริยันจึงพาภรรยาออกไปดูอาการน้องสาว มิเชลนั้นก็ร้องไห้ขึ้นมาในขณะที่กำลังจัดของ สุริยันจึงพูดว่า "ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ ใครทำอะไรเธอหรือ" มิเชลตอบว่า "วันนี้หนูโดนดุ ทั้งพี่ดราก้อนและพี่สายเงิน พี่สายเงินตบหนูแล้วพูดว่า ถ้าทำอีกจะโดนเฆี่ยนด้วยไม้เรียว" สุริยันจึงพูดว่า "ทำใจดีๆนะ คราวหลังอย่าทำอีกนะ จะได้ไม่โดนดุ" เชียงทองพูดว่า "ไปล้างหน้าเถิด หมดสวยเลย คราวหลังอย่าทำอีกนะ อาบน้ำด้วยเลยยิ่งดี" จัดของเสร็จจึงไปอาบน้ำ ดราก้อนไปรักเด็กทั้ง 5 ที่โรงเรียน มิยาชิจึงทำอาหาร ประกอบด้วย ผัดกะเพรา ส้มตำ น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว แกงส้ม แกงมัสมั่นและสลัดผัก ทุกคนจึงรับประทานอาหาร มิเชลนั้นหลับปุ๋ยอยู่ในห้องของอับดุล จากนั้นทุกคนจึงไปล้างจานแล้วแยกย้ายไปอาบน้ำ แต่งตัว สวดมนต์เสร็จจึงแยกย้ายเข้าห้องนอนของตนเอง ภารตะเกิดอยากแซวเมียจึงพูดว่า "คุณน่ะเป็นคนที่น่ารักนะ วันนี้คุณเป็นอะไรถึงได้ตบน้องสาวผมได้ลงคอ" สายเงินพูดว่า "นิสัยคุณก็เหมือนพ่อคุณไม่มีผิด ทั้งหัวอ่อนและกลัวเมีย ปอยฟ้าอย่าฟังพ่อเขานะลูก" ภารตะพูดว่า "ถึงผมจะหัวอ่อนก็ตาม แต่ผมก็รักลูกนะ คุณอย่ากีดกันลูกสิ คุณก็นิสัยเหมือนแม่ผมไม่มีผิดเลย แต่แม่ผมท่านหายโกรธเร็วกว่าคุณ นอนเถิดครับ" ทั้ง 2 จึงนอนหลับในที่สุด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา