บุตรผู้ซื่อสัตย์
เขียนโดย jobbychicken2310
วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.15 น.
แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 04.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) เที่ยวกรุงเทพ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความวันหนึ่งซางหม่องอยากไปกรุงเทพ จึงชวนดราก้อนกับมิยาชิและชเวศิยาไปด้วย จากนั้นบุคคลทั้ง 4 ก็เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร อับดุลทำหน้าที่รับส่งเด็กทั้ง 3 ซึ่งเป็นลูกของซางหม่อง ดราก้อนและเหมยฟาง ในระหว่างที่ดราก้อนไปเดินอยู่แถวอโศกก็บังเอิญพบกับมิชิโอะผู้เป็นบิดา ดราก้อนจึงทักขึ้นว่า "คุณพ่อสบายดีไหมครับ" มิชิโอะจึงตอบว่า "พ่อก็สบายดี แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรือ" ดราก้อนจึงตอบว่า "เธอเป็นภรรยาของผมครับ เป็นชาวญี่ปุ่นครับ" มิยาชิจึงสวัสดีมิชิโอะ มิชิโอะจึงพูดว่า "ทำไมคุณถึงมาอยู่กับลูกชายของผมได้ล่ะครับ เธอเรียบร้อยมาก เท่าที่ฉันเคยเห็นผู้หญิงมานะ" มิยาชิพูดว่า "สวัสดีค่ะคุณพ่อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" ดราก้อนจึงพูดว่า "พ่อไปอยู่กับผมที่เชียงใหม่นะครับ" มิชิโอะตอบว่า "ได้สิ แม่เคยสั่งเอาไว้ว่าถ้าเจอลูกที่ไหน ก็ให้ลูกพาพ่อมาอยู่กับลูกที่บ้านอย่างไรล่ะ จำที่แม่สั่งเอาไว้ไม่ได้แล้วหรือ" ดราก้อนพูดว่า "จำได้สิครับ ตอนนี้แม่เสียชีวิตแล้วครับ พ่อจะได้มากราบแม่ที่เชียงใหม่พอดีเลย เราไปเจอคุณน้าซางหม่องกับคุณน้าชเวศิยากันเถิดครับ" ซางหม่องจึงพูดว่า "ที่เราเดินอยู่นี่คือสีลมนะ พี่จันทราเคยพาผมกับน้องสาวมาเช่าคอนโดแถวนี้ เพราะว่าพวกผม 3 คนพี่น้องพูดภาษาไทยไม่เป็น จึงต้องมาเรียนภาษาไทยที่ติวเตอร์แถวรัชดาภิเษก ผมเป็นคนพม่านะ แล้วคุณล่ะ" ชเวศิยาจึงพูดว่า "ดิฉันเป็นคนพม่าเช่นเดียวกับคุณแหละ ดิฉันมาจากมัณฑะเลย์ค่ะ ใกล้ MRT ใช่ไหมล่ะ พี่จันทราจึงพาพวกคุณ 2 พี่น้องมาเช่าคอนโดแถวนี้ เพื่อโดยสาร MRT ไปยังติวเตอร์แถวรัชดาภิเษก" ดราก้อนกับมิยาชิพร้อมด้วยบิดาก็มาถึงสีลม ซึ่งซางหม่องกับชเวศิยาคอยอยู่ ซางหม่องจึงพูดว่า "เรากลับบ้านกันเถิด" สิ้นคำ จึงพากันโดยสารรถไฟฟ้าไปยังสถานีหมอชิต จากนั้นจึงต่อรถตู้มายังเชียงใหม่ ถึงบ้านแล้วจึงเข้านั่งประจำโต๊ะอาหาร ซึ่งสุริยันกับภารตะและภรรยา 2 พี่น้องเป็นคนช่วยกันเตรียมอาหารมื้อนั้น ประกอบด้วย ข้าวหุงน้ำใบเตย แกงฮังเล น้ำพริกอ่อง แกงมัสมั่นไก่ สลัดผักและส้มตำ ในระหว่างที่รับประทานอาหาร ซางหม่องจึงพูดกับมิชิโอะว่า "พี่เป็นอย่างไรบ้าง ผมไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพเลย พี่มาเจอหลานผมได้อย่างไร" มิชิโอะตอบว่า "พี่ก็สบายดี ลูกชายผมมาเดินแถวอโศกแล้วเขาเจอกับผม จันทราเคยสั่งไว้ว่าถ้าลูกเจอพ่อที่ไหนก็ให้พาพ่อกลับมาที่บ้าน พี่ก็ไม่คิดว่าจะได้เจอลูกหรอกนะ บังเอิญว่าลูกมาเดินแถวนั้น ผมโชคดีมากที่ได้กลับมาบ้านหลังนี้ แต่โชคร้ายที่ต้องสูญเสียภรรยา" ซางหม่องจึงพูดว่า "ผมว่าพี่โชคดีมากกว่านะที่ได้เจอลูกและได้กลับมาบ้านหลังนี้ พี่จันทราเสียชีวิตแล้วก็จริง แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ดีใจก็คือการที่ได้อยู่กับลูก เชื่อผมเถิดครับ" รับประทานอาหารเสร็จจึงแยกย้ายไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วก็พากันเดินไปยังห้องพระเพื่อสวดมนต์ ในขณะที่สวดมนต์นั้น จันทราได้ปรากฏกาย สวดมนต์เสร็จ จันทราจึงพูดกับสุริยันและภารตะว่า "แม่ดีใจด้วยนะที่พวกเธอมีลูกแล้ว แม่เข้าใจนะที่พวกเธอง้อกันไปงอนกันมากับเชียงทองและสายเงิน ตอนที่แม่กับพ่อยังไม่แก่ตัวก็มีเรื่องแบบนี้แหละ ลูกต้องเข้าใจผู้หญิงด้วยนะ" ภรรยาของชายทั้ง 2 จึงกราบจันทราผู้เป็นแม่สามีแล้วพูดว่า "เมื่อวานเขาทำให้หนูโกรธจริงๆ ไม่อย่างนั้นหนูคงไม่ลงไปซบเจ้าดองกี้กับเจ้าดอกหมากหรอกค่ะ พวกมันยังดีกว่าสามีของหนูอีก เห็นคนร้องไห้มันก็ยังสะกิด" จันทราจึงพูดกับลูกสะไภ้ทั้ง 2 ว่า "แม่เข้าใจนะที่พวกเธอโกรธเขามาก สัตว์มันจะดีกว่าสามีและลูกหนูหรือ ทำตัวเป็นซินเดอเรลล่าไปได้ แม่ขอให้พวกเธอคืนดีกับเขาเถิดนะ" พูดจบ จันทราก็หายตัวไป ทุกคนก็แยกย้ายเข้าห้องนอนของตนเอง สุริยันจึงพูดกับภรรยาของตนว่า "เมื่อไหร่คุณจะเลิกโกรธผมเสียที ผมไม่เข้าใจ" เชียงทองพูดว่า "ดิฉันหายโกรธคุณแล้วค่ะ แค่เล่าให้คุณแม่ฟังเฉยๆ" สุริยันพูดว่า "จริงๆแล้วคุณเป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่ง ภายใต้ความโกรธของคุณนั้นยังมีความน่ารักแฝงอยู่ คุณเหมือนแม่ผมเลย ดุดัน เจ้าระเบียบ แต่ก็มีความน่ารักความเมตตา" เชียงทองพูดว่า "คุณน่ะเป็นคนปากหวาน นิสัยเหมือนพ่อคุณไม่มีผิด ฉันรักเธอนะ นอนเถิด" ต่อมาเป็นการสนทนาของภารตะกับภรรยาของตนว่า "ผมเข้าใจนะที่คุณโกรธผม จริงๆแล้วคุณเป็นคนน่ารัก สงสัยลูกคงจะน่ารักเหมือนคุณแน่ๆเลย เชื่อผมไหมล่ะ" สายเงินพูดว่า "คุณน่ะเป็นคนปากหวาน ไม่ต้องมาพูดหรอก เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย นอนเถิดนะ" ทุกคนก็เข้านอนอย่างมีความสุข
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ