Frangipanni(ลั่นทม)
8.0
เขียนโดย saposaki
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.25 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
6,733 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 19.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เริ่ม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกชนันท์เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นอีกคนยังอยู่ในห้องของเธอ แต่เธอทำเป็นไม่สนใจ ก่อนจะเดินไปนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือที่เตียง
“มันดึกแล้วนะคะ พี่นัสไปพักดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้” ชญานิษญ์พูดขึ้นมาเพราะกลัวพี่สาวของตัวเองจะเพลียเพราะเห็นว่าวันนี้ก็ยุ่งมาทั้งวัน
“เออ…พี่ว่า”
“คุณชญานิษญ์ ถ้าอาบน้ำเรียบร้อยแล้วรบกวนปิดไฟให้ด้วยนะคะตอนนี้ฉันง่วงมากแล้วขอนอนก่อน ฝันดีค่ะ” อยู่ๆกชนันท์ก็พูดขึ้นมาพร้อมกับล้มตัวลงนอน แต่ตอนที่อีกคนบอกฝันดีถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองสะใภ้ของบ้านคิดว่าอีกคนกำลังบอกเธออยู่ ประโยคที่เธอได้ยินทุกคืนก่อนนอนก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงาน สะใภ้ของบ้านได้แต่บอกฝันดีกับอีกคนในใจ
“งั้นพี่ไม่กวนแล้วดีกว่า พี่ขอตัวไปนอนก่อน”
“ค่ะ” ชญานิษญ์เดินไปส่งพี่สาวที่หน้าประตูก่อนจะปิดประตูลงแล้วเดินกลับมา แต่ต้องแปลกใจที่คนบอกว่าง่วงกับลุกขึ้นมานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือต่อ
“ไม่นอนแล้วเหรอคะ” ชญานิษญ์ถามออกไปด้วยความส่งสัย
“ยังปรับเวลาไม่ได้น่ะ คงต้องใช้เวลาสักพักขอโทษด้วยถ้ามันทำให้คุณชญานิษญ์ต้องลำบาก”
“ไม่หรอกค่ะเพราะฉันเป็นแค่ผู้อาศัย อีกอย่างห้องนี้เป็นห้องของคุณกชนันท์ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษถ้าทำอะไรให้คุณกชนันท์ลำบาก” กชนันท์ได้แต่ส่งยิ้มให้โดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
สายของวันใหม่อีกคนที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาเพราะเพิ่งจะได้นอนไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง การปรับตัวให้เข้ากับเวลาของบ้านเกิดคงจะต้องใช้เวลาอีกสักสองสามวันเพราะไม่ได้กลับมานาน กชนันท์ลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดที่ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างส่องลงมากระทบกับหน้าของเธอพอดี
“ตื่นสายจนได้ สงสัยต้องหาคนมาช่วยปลุกแต่วันนี้คงต้องรีบแล้ว”
“ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้เรามีนัดไปเที่ยวกันสายแล้วถ้าไม่ตื่นพี่ไม่รอนะ” กชนันท์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาถึงแม้เมื่อคืนเธอจะไม่ได้นอนกอดอีกคนแต่เช้านี้ถือว่าเป็นเช้าที่เธอรอคอยมาตลอดทั้งสัปดาห์เพราะอีกคนจะพาเธอออกไปเที่ยวตามประสาคนรักทั่วๆไป
“คิดถึงจัง เหนื่อยไหมคะแถมกลับมาแล้วยังต้องมาหานันท์อีก”
“ไม่เหนื่อยค่ะ ไปค่ะลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวจะสายมากไปกว่านี้” อีกคนรีบดึงข้อมือของกชนันท์ให้ลุกขึ้นมา
“ถ้ามีพี่มาปลุกแบบนี้ทุกวัน นันท์คงไปเรียนทันทุกวันแน่”
“ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าแอบนอนต่อเวลาที่พี่โทรมาปลุก” กชนันท์รีบเอามือปิดปากทันทีก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป มนัสวีได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา
กชนันท์เดินลงมาด้านล่างก่อนจะเข้าไปหาอะไรทานในครัวเพราะในเวลานี้ทุกคนคงทานข้าวเช้ากันไปหมดแล้ว กชนันท์ลองเปิดหม้อที่วางอยู่บนเตาดูว่ามีอะไรให้เธอทานบ้าง สิ่งที่เธอเห็นคือข้าวต้มกุ้งตัวใหญ่ที่เธอชอบ
“คุณแม่รู้ใจเราจริงๆ ทานดีกว่า” กชนันท์ตักข้าวต้มทานอยู่ในครัวก่อนที่จะเดินออกไปด้านนอก เธอเห็นคุณแม่ของเธอกำลังจัดแจกันอยู่กับพี่สะใภ้ของเธอ
“คุณแม่ ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้าวต้ม อร่อยมากเลยค่ะ” กชนันท์พูดออกมากแต่คนฟังกับทำหน้างงเพราะอาหารเช้าที่จัดขึ้นโต๊ะเมื่อเช้าไม่ใช่ข้าวต้มแล้วลูกสาวคนเล็กของเธอไปทานข้าวต้มที่ไหนมา
“ไปทานที่ไหนมาเรา”
“ก็ในครัวไงคะ นันท์เห็นก็เลยตักมาทาน นันท์คิดว่าคุณแม่ทำไว้ให้” กชนันท์เริ่มสงสัยเธอจึงเหลือบตาไปมองอีกคน พี่สะใภ้ของเธอกำลังนั่งยิ้มอยู่ กชนันท์รู้ทันทีว่าใครที่เป็นคนเตรียมข้าวต้มไว้ในครัว เพราะตอนที่เธอตักมาทานอุณหภูมิของข้าวต้มกำลังพอดีไม่ร้อนจนเกินไป ถ้าไม่ใช่คุณแม่ของเธอก็คงมีแต่ผู้หญิงอีกคนเท่านั้นที่จะใส่ใจเธอได้ขนาดนี้
“คุณแม่คะ ให้คนไปส่งนันท์หน่อย นันท์อยากไปดูคุณชญานิษญ์ทำงานค่ะ” คำพูดของลูกสาวคนเล็กทำให้คุณนายของไร่แปลกใจไม่น้อยถึงแม้จะต้องการแบบนี้แต่เพราะรู้จักนิสัยของลูกสาวคนเล็กดีเลยทำให้คุณนายของไร่ต้องแปลกใจ
“เอาสิ เดี๋ยวแม่ให้คนพาไป”
“นัสพาคุณกชนันท์ไปเองดีกว่าค่ะคุณแม่ จะได้ไม่ต้องไปตามคนอื่น” สะใภ้ของบ้านเอ่ยอาสาขึ้นมาแต่กลับโดนอีกคนปฏิเสธ
“อย่าดีกว่าค่ะ พี่ธีจะมาว่าฉันได้ ว่าไปใช้ภรรยาของเค้า ฉันไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ ฉันเดินไปเองก็ได้ขอตัวก่อน เชิญพี่สะใภ้จัดดอกไม้กับคุณแม่ต่อเลยค่ะ” คำพูดที่ดูห่างเหินของกชนันท์กำลังทำให้อีกคนเจ็บที่หัวใจ
กชนันท์เดิมไปตามทางที่จะไปไร่องุ่นของเธอโดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆในการกันแดดเลยเพราะไม่คิดว่าระยะทางจะไกลและร้อนขนาดนี้ กชนันท์เดินไปเช็ดเหงื่อไป
“คุณหนูครับ คุณหนู มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ” กชนันท์เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ลุงบุญ พอดีฉันจะไปหาคุณชญานิษญ์แต่ไม่คิดว่าทางมันจะไกลขนาดนี้เลยนั่งพักก่อน” กชนันท์ลุกขึ้นยืนหลังจากที่นั่งพักอยู่ระหว่างทางเดิน
“คุณหนูครับ ลุงว่าไปกับลุงดีกว่าขึ้นรถมาเลยครับ” ลุงบุญเดินนำลูกสาวคนเล็กของเจ้าของไร่ไปยังรถที่จอดอยู่ กชนันท์รีบเดินตามไป “คราวหลังต้องขับรถมาเองแล้วสิเรา” กชนันท์คิดในใจ ระยะทางจากจุดที่กชนันท์นั่งพักไม่ได้ไกลจากจุดที่อีกคนอยู่เลยแต่ถ้าให้เดินต่อกชนันท์คิดว่าเธอคงจะต้องเป็นลมแน่ เลยเลือกที่จะนั่งพัก
“ขอบคุณค่ะ ลุงบุญ” กชนันท์เอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินออกไปหาอีกคนที่กำลังยืนคุยกับคนงานอยู่ กชนันท์เดินไปสะกิดหลังของอีกคนเบาๆ
“อ้าว….คุณชญานันท์มาได้ไงค่ะเนี่ย แล้วทำไมเสื้อผ้าถึงได้เลอะแบบนี้” ชญานิษญ์เอ่ยถามขึ้นมาเพราะตอนนี้เสื้อผ้าของอีกคนเต็มไปด้วยฝุ่นแถมหน้ายังแดงอีกด้วย
“ฉันเดินมาน่ะ ไม่คิดว่ามันจะไกลขนาดนี้รู้แบบนี้ขับรถมาดีกว่า” กชนันท์ยิ้มให้อีกคนแต่อีกคนยังไม่ทันได้ตอบอะไร พี่ชายที่แสนดีของกชนันท์ก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“ไม่น่าเชื่อว่าน้องสาวสุดที่รักของพี่จะมาทำงานในไร่ของตัวเอง สงสัยปีนี้ไร่เราต้องได้กำไรดีแน่ๆเพราะคุณหนูคนเล็กยอมออกมาทำงานเองแบบนี้”
“ถ้าพี่ยอมให้มีคนสวยๆแบบนี้มาสอนงาน นันท์คงไม่ปฏิเสธ” พี่ชายที่แสนดีมองหน้าน้องสาวของตัวเองสลับกับน้องสาวของภรรยาตัวเอง
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา น้องสาวอยากได้อะไรพี่ชายคนนี้พร้อมจะจัดให้อยู่แล้ว” กชนันท์ส่งยิ้มให้พี่ชาย “ไม่ใช่ทุกอย่างหรอกค่ะที่พี่จะให้นันท์ได้” กชนันท์คิดในใจ
“งั้นพี่ไม่กวนแล้ว นิษญ์พี่ฝากน้องสาวพี่ด้วยนะ พี่ขอตัวไปดูแปลงโน้นก่อน” ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้น้องสาวสุดที่รักได้อยู่กับอีกคน
“เช็ดหน้าก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณกชนันท์ไปดูการเก็บองุ่น” กชนันท์รับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าของตัวเองก่อนจะเดินตามอีกคนไป
“อยากลองตัดดูไหมคะ” ชญานิษญ์ถามอีกคนขึ้นมา
“ฉันทำได้เหรอ” กชนันท์ทำหน้าตาตกใจก่อนจะรับกรรไกรไปลองตัดพวงองุ่นดู
“ทานได้เลยไหม” กชนันท์ถามอีกคน ส่วนอีกคนรีบพยักหน้ารับทันที แต่พอกชนันท์ทานเธอยิ้มออกมาทันทีกับรสชาติที่ได้รับ
“อร่อยใช่ไหม” กชนันท์พยักหน้ารับทันที
“งั้นพวงนี้ขอนะ อย่าเอาไปบอกพี่ชายฉันล่ะ ฉันจะโดนว่าเอา” ทั้งสองคนขำออกมาก่อนที่ชญานิษญ์จะพาอีกคนเดินดูไร่องุ่นต่อ กชนันท์เดินตามหลังอีกคนพร้อมกับยิ้มออกมาผู้หญิงคนนี้สวยในข้อนี้เธอไม่สามารถเถียงได้ แต่เรื่องนิสัยคงต้องดูกันไปก่อน
“ทำไมถึงได้มาทำงานในไร่ อย่างคุณน่าจะทำงานในเมืองมากกว่า จะมาตากแดดตากลมแบบนี้ทำไม” กชนันท์พูดขึ้นมา
“ฉันจบเกษตรค่ะ ฉันชอบงานแบบนี้มากกว่างานในเมือง อีกอย่างถึงแดดจะร้อนลมจะแรงแต่สังคมรอบข้างไม่แรงเหมือนคนในเมืองทุกคนที่นี่จริงใจ” คนตอบได้แต่ตอบไปยิ้มไป
“แต่ฉันคิดว่าคงไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จริงใจอย่างน้อยก็มีอยู่หนึ่งคนที่ฉันรู้จัก แต่ช่างเถอะอย่าสนใจเลยนี้จะเที่ยงแล้วปกติไปทานข้าวที่ไหนหรือกลับไปทานที่บ้าน” กชนันท์ถามขึ้นมาถึงแม้เธอจะทานข้าวต้มมาแต่ระหว่างทางที่เดินมาที่นี่สงสัยข้าวต้มที่ทานเข้าไปจะย่อยไปหมดแล้ว
“ปกติจะทานกับคนงานในไร่นี้แหละค่ะ ถ้าคุณกชนันท์ไม่รังเกียจเชิญทานด้วยกันค่ะ”
“ตกลงค่ะ” ชญานิษญ์แปลกใจไม่คิดว่าอีกคนจะตอบตกลงง่ายขนาดนี้ ชญานิษญ์เดินนำอีกคนไปยังกลุ่มคนงานที่กำลังจะเตรียมตัวทานข้าวกันอยู่
“อ้าวคุณนิษญ์เชิญเลยค่ะ เรากำลังจะทานข้าวกันพอดี อุ้ย คุณหนู เออ….เชิญนั่งค่ะ”
“ทำไมต้องตกใจกันขนาดนั้น ฉันไม่กัดหรอก แต่วันนี้คงต้องขอฝากท้องด้วยนะ” กชนันท์ยิ้มให้กับคนงานที่กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะคุณหนูคนเล็กที่ทุกคนรู้จักไม่ใช่คนแบบนี้ ทั้งสองคนนั่งลงไปข้างๆกันก่อนจะเริ่มลงมือทาน
“แน่ใจนะคะว่าทานได้ ถ้าทานไม่ได้ ฉันจะให้คนไปส่งที่บ้านค่ะ”
“ได้สิ คุณทานได้ฉันก็ต้องทานได้” กชนันท์พูดออกไปแต่ใจก็แอบหวั่นอยู่เหมือนกันเพราะหน้าตาอาหารแต่ละอย่างมันดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย แต่ในเมื่อคนอื่นทานกันได้เธอก็ต้องทานได้เหมือนกัน กชนันท์ลองตักอะไรสักอย่างขึ้นมาซึ่งเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่กชนันท์คิดเอาเองว่านั้นคือผัดผักอะไรซักอย่างเพราะมันมีเห็ดมีผักสีเขียวๆซึ่งเธอไม่รู้จักชื่อแล้วก็มีแบบเป็นเม็ดๆอะไรสักอย่าง
“ทานไปเถอะน่า คงไม่มีอะไรที่ทานไม่ได้หรอก” กชนันท์บอกตัวเองก่อนจะตักเข้าปากไป
“อร่อยไหมคะ” ชญานิษญ์ถามอีกคนขึ้นมา กชนันท์พยักหน้ารับทั้งสองคนยังทานข้าวต่อแต่กชนันท์รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติเพราะเริ่มคันตามเนื้อตามตัวแต่ยังคงทานต่อเพราะคิดว่าคงเป็นเพราะอาการร้อนเลยทำให้รู้สึกแบบนี้ กชนันท์เริ่มหายใจแรงจนจานข้าวตกจากมือ ทุกคนต่างตกใจโดยเฉพาะชญานิษญ์
“คุณกชนันท์คุณเป็นอะไร” อีกคนรีบถาขึ้นมาทันที
“ในอาหารมีถั่วลิสงใช่ไหม” คนงานพยักหน้ารับ กชนันท์หอบหายใจแรงขึ้น ตามเนื้อตัวเริ่มมีผื่นแดงขึ้นมา
“พาฉันกลับบ้าน เดี๋ยวนี้ เร็ว” ชญานิษญ์รีบพาอีกคนไปที่รถทันทีโดยการช่วยเหลือของคนงานเพราะตอนนี้อีกคนอาการดูไม่ดีเลย
“ใจเย็นๆนะคะคุณกชนันท์อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ” ชญานิษญ์รีบขับรถมายังบ้านหลังใหญ่ทันที ก่อนจะรีบพยุงอีกคนเข้าไปในตัวบ้าน ทันทีที่เข้ามาในตัวบ้านคุณนายของไร่กับสะใภ้ของบ้านตกใจมากที่เห็นชญานิษญ์ถูกคนงานพยุงเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นลูก ไปทำอะไรกันมา” คุณนายของไร่รีบเข้าไปถามแต่ผู้หญิงอีกคนพอเห็นผื่นแดงที่ขึ้นมาตามตัวของกชนันท์ก็รู้ทันทีว่ากชนันท์เป็นอะไร
“พาคุณกชนันท์ขึ้นไปบนห้องก่อนเร็ว” สะใภ้ของบ้านสั่งขึ้นมา พอพาอีกคนมาถึงห้องเธอรีบถามคนที่นอนอยู่บนเตียงทันที
“เก็บยาไว้ไหน”
“ในกระเป๋า” อีกคนตอบออกมาก่อนจะหอบหายใจอีกครั้ง สะใภ้ของบ้านรีบไปหายาในกระเป๋าตามที่อีกคนบอกทันที ตอนนี้เธอเป็นห่วงอีกคนมากจนไม่ได้สนใจเลยว่ามีคนสงสัยในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
“ทานยาค่ะ รู้ว่าตัวเองแพ้แล้วจะทานเข้าไปทำไม ถ้าเกิดเป็นอะไรไปมากกว่านี้จะทำยังไงทำไมถึงไม่ระวังตัว” สะใภ้ของบ้านพูดออกมาอย่างลืมตัวอีกครั้ง
“ไปทานถั่วมาใช่ไหมลูก ให้ตายสิดีนะที่หายาเจอ” คุณนายของไร่พูดขึ้นมาส่วนอีกคนกำลังสงสัยอยู่ว่าพี่สาวของตัวเองรู้ได้ยังไงว่าคุณกชนันท์แพ้ถั่วแต่ต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อนเพราะคนที่นอนหอบอยู่บนเตียงน่าเป็นห่วงกว่า
“เอาล่ะทานยาไปแล้ว อาการคงจะดีขึ้น ทุกคนกลับไปทำงานได้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” คุณนายของไร่เอ่ยขึ้นมาเธอไม่ได้โทษใครเพราะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ คุณนายของไร่ลูบศีรษะของลูกสาวคนเล็กที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงเบาๆ
“นิษญ์ พาคุณกชนันท์ไปทานอะไรที่ไหนมา ทำไมถึงไม่พามาทานข้าวที่บ้าน ถ้าคุณกชนันท์เป็นอะไรไปมากกว่านี้เราจะทำยังไง จำไว้นะห้ามพาคุณกชนันท์ไปทานอะไรแปลกๆอีก” สะใภ้ของบ้านหันไปว่าน้องสาวของตัวเอง
“นิษญ์ขอโทษค่ะ พี่นัส ขอโทษค่ะคุณป้า นิษญ์ไม่ทราบจริงๆว่าคุณกชนันท์แพ้ถั่วคราวหน้านิษญ์จะไม่พาคุณกชนันท์ไปทานข้าวกับคนงานอีกแล้วค่ะ” พี่สาวหันมามองหน้าน้องสาวทันที
“คิดได้ยังไงให้คุณกชนันท์ไปทานข้าวกับคนงาน คุณกชนันท์ไม่เคยทานอาหารพวกนั้นจำไว้นะห้ามพาคุณกชนันท์ไปทานข้าวกับคนงานอีกเด็ดขาด” ชญานิษญ์มองหน้าพี่สาวด้วยความสงสัยเพราะดูเหมือนพี่สาวของเธอกำลังโมโหเธออยู่
“อย่าว่าคุณชญานิษญ์เลย ฉันเป็นคนขอให้คุณชญานิษญ์พาไปทานกับคนงานเอง ถ้าจะมีคนผิดคงเป็นฉันคนเดียวที่รู้ว่าอาหารมันไม่น่าไว้ใจแต่ยังจะทานมันเข้าไปอีก” คนที่นอนอยู่บนเตียงพยายามดันตัวเองขึ้นมานั่ง
“คุณแม่คะ นันท์ร้อน”
“นิษญ์ไปเตียมอุปกรณ์ให้ป้าหน่อย ป้าจะเช็ดตัวให้ยัยนันท์” ชญานิษญ์รับคำก่อนจะรีบเดินออกไป รอไม่นานชญานิษญ์กลับเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์
“นัสทำให้เองดีกว่าค่ะคุณแม่” กชนันท์รับอุปกรณ์มาถือไว้ก่อนจะเดินไปยังเตียงทันทีโดยไม่ได้รอให้ใครตอบอะไรทั้งนั้น ส่วนคนที่อยู่บนเตียงอยากที่จะปฏิเสธแต่คงไม่ทันเพราะคุณแม่ของเธอพูดออกมาเสียก่อน
“นอนดีๆลูก เดี๋ยวให้นัสเช็ดตัวให้ นัสแม่รบกวนด้วยนะ” สะใภ้ของบ้านรีบรับปากทันทีเพราะนี้คือสิ่งที่เธอต้องการอยู่แล้ว
“หนูนิษญ์กลับไปทำงานเถอะทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงทานยาไปแล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้น ไม่ต้องโทษด้วยเองเรื่องนี้หรอกเพราะยัยนันท์เป็นแบบนี้ประจำ” คุณนายของไร่พูดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องพร้อมกับผู้หญิงอีกคนโดยไม่รู้เลยว่าได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงอีกคนได้ใกล้ชิดกับลูกสาวของตัวเอง
“มันดึกแล้วนะคะ พี่นัสไปพักดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้” ชญานิษญ์พูดขึ้นมาเพราะกลัวพี่สาวของตัวเองจะเพลียเพราะเห็นว่าวันนี้ก็ยุ่งมาทั้งวัน
“เออ…พี่ว่า”
“คุณชญานิษญ์ ถ้าอาบน้ำเรียบร้อยแล้วรบกวนปิดไฟให้ด้วยนะคะตอนนี้ฉันง่วงมากแล้วขอนอนก่อน ฝันดีค่ะ” อยู่ๆกชนันท์ก็พูดขึ้นมาพร้อมกับล้มตัวลงนอน แต่ตอนที่อีกคนบอกฝันดีถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองสะใภ้ของบ้านคิดว่าอีกคนกำลังบอกเธออยู่ ประโยคที่เธอได้ยินทุกคืนก่อนนอนก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงาน สะใภ้ของบ้านได้แต่บอกฝันดีกับอีกคนในใจ
“งั้นพี่ไม่กวนแล้วดีกว่า พี่ขอตัวไปนอนก่อน”
“ค่ะ” ชญานิษญ์เดินไปส่งพี่สาวที่หน้าประตูก่อนจะปิดประตูลงแล้วเดินกลับมา แต่ต้องแปลกใจที่คนบอกว่าง่วงกับลุกขึ้นมานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือต่อ
“ไม่นอนแล้วเหรอคะ” ชญานิษญ์ถามออกไปด้วยความส่งสัย
“ยังปรับเวลาไม่ได้น่ะ คงต้องใช้เวลาสักพักขอโทษด้วยถ้ามันทำให้คุณชญานิษญ์ต้องลำบาก”
“ไม่หรอกค่ะเพราะฉันเป็นแค่ผู้อาศัย อีกอย่างห้องนี้เป็นห้องของคุณกชนันท์ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษถ้าทำอะไรให้คุณกชนันท์ลำบาก” กชนันท์ได้แต่ส่งยิ้มให้โดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
สายของวันใหม่อีกคนที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาเพราะเพิ่งจะได้นอนไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เอง การปรับตัวให้เข้ากับเวลาของบ้านเกิดคงจะต้องใช้เวลาอีกสักสองสามวันเพราะไม่ได้กลับมานาน กชนันท์ลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดที่ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างส่องลงมากระทบกับหน้าของเธอพอดี
“ตื่นสายจนได้ สงสัยต้องหาคนมาช่วยปลุกแต่วันนี้คงต้องรีบแล้ว”
“ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้เรามีนัดไปเที่ยวกันสายแล้วถ้าไม่ตื่นพี่ไม่รอนะ” กชนันท์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาถึงแม้เมื่อคืนเธอจะไม่ได้นอนกอดอีกคนแต่เช้านี้ถือว่าเป็นเช้าที่เธอรอคอยมาตลอดทั้งสัปดาห์เพราะอีกคนจะพาเธอออกไปเที่ยวตามประสาคนรักทั่วๆไป
“คิดถึงจัง เหนื่อยไหมคะแถมกลับมาแล้วยังต้องมาหานันท์อีก”
“ไม่เหนื่อยค่ะ ไปค่ะลุกขึ้นไปอาบน้ำเดี๋ยวจะสายมากไปกว่านี้” อีกคนรีบดึงข้อมือของกชนันท์ให้ลุกขึ้นมา
“ถ้ามีพี่มาปลุกแบบนี้ทุกวัน นันท์คงไปเรียนทันทุกวันแน่”
“ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าแอบนอนต่อเวลาที่พี่โทรมาปลุก” กชนันท์รีบเอามือปิดปากทันทีก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป มนัสวีได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา
กชนันท์เดินลงมาด้านล่างก่อนจะเข้าไปหาอะไรทานในครัวเพราะในเวลานี้ทุกคนคงทานข้าวเช้ากันไปหมดแล้ว กชนันท์ลองเปิดหม้อที่วางอยู่บนเตาดูว่ามีอะไรให้เธอทานบ้าง สิ่งที่เธอเห็นคือข้าวต้มกุ้งตัวใหญ่ที่เธอชอบ
“คุณแม่รู้ใจเราจริงๆ ทานดีกว่า” กชนันท์ตักข้าวต้มทานอยู่ในครัวก่อนที่จะเดินออกไปด้านนอก เธอเห็นคุณแม่ของเธอกำลังจัดแจกันอยู่กับพี่สะใภ้ของเธอ
“คุณแม่ ขอบคุณมากนะคะสำหรับข้าวต้ม อร่อยมากเลยค่ะ” กชนันท์พูดออกมากแต่คนฟังกับทำหน้างงเพราะอาหารเช้าที่จัดขึ้นโต๊ะเมื่อเช้าไม่ใช่ข้าวต้มแล้วลูกสาวคนเล็กของเธอไปทานข้าวต้มที่ไหนมา
“ไปทานที่ไหนมาเรา”
“ก็ในครัวไงคะ นันท์เห็นก็เลยตักมาทาน นันท์คิดว่าคุณแม่ทำไว้ให้” กชนันท์เริ่มสงสัยเธอจึงเหลือบตาไปมองอีกคน พี่สะใภ้ของเธอกำลังนั่งยิ้มอยู่ กชนันท์รู้ทันทีว่าใครที่เป็นคนเตรียมข้าวต้มไว้ในครัว เพราะตอนที่เธอตักมาทานอุณหภูมิของข้าวต้มกำลังพอดีไม่ร้อนจนเกินไป ถ้าไม่ใช่คุณแม่ของเธอก็คงมีแต่ผู้หญิงอีกคนเท่านั้นที่จะใส่ใจเธอได้ขนาดนี้
“คุณแม่คะ ให้คนไปส่งนันท์หน่อย นันท์อยากไปดูคุณชญานิษญ์ทำงานค่ะ” คำพูดของลูกสาวคนเล็กทำให้คุณนายของไร่แปลกใจไม่น้อยถึงแม้จะต้องการแบบนี้แต่เพราะรู้จักนิสัยของลูกสาวคนเล็กดีเลยทำให้คุณนายของไร่ต้องแปลกใจ
“เอาสิ เดี๋ยวแม่ให้คนพาไป”
“นัสพาคุณกชนันท์ไปเองดีกว่าค่ะคุณแม่ จะได้ไม่ต้องไปตามคนอื่น” สะใภ้ของบ้านเอ่ยอาสาขึ้นมาแต่กลับโดนอีกคนปฏิเสธ
“อย่าดีกว่าค่ะ พี่ธีจะมาว่าฉันได้ ว่าไปใช้ภรรยาของเค้า ฉันไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ ฉันเดินไปเองก็ได้ขอตัวก่อน เชิญพี่สะใภ้จัดดอกไม้กับคุณแม่ต่อเลยค่ะ” คำพูดที่ดูห่างเหินของกชนันท์กำลังทำให้อีกคนเจ็บที่หัวใจ
กชนันท์เดิมไปตามทางที่จะไปไร่องุ่นของเธอโดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆในการกันแดดเลยเพราะไม่คิดว่าระยะทางจะไกลและร้อนขนาดนี้ กชนันท์เดินไปเช็ดเหงื่อไป
“คุณหนูครับ คุณหนู มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ” กชนันท์เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ลุงบุญ พอดีฉันจะไปหาคุณชญานิษญ์แต่ไม่คิดว่าทางมันจะไกลขนาดนี้เลยนั่งพักก่อน” กชนันท์ลุกขึ้นยืนหลังจากที่นั่งพักอยู่ระหว่างทางเดิน
“คุณหนูครับ ลุงว่าไปกับลุงดีกว่าขึ้นรถมาเลยครับ” ลุงบุญเดินนำลูกสาวคนเล็กของเจ้าของไร่ไปยังรถที่จอดอยู่ กชนันท์รีบเดินตามไป “คราวหลังต้องขับรถมาเองแล้วสิเรา” กชนันท์คิดในใจ ระยะทางจากจุดที่กชนันท์นั่งพักไม่ได้ไกลจากจุดที่อีกคนอยู่เลยแต่ถ้าให้เดินต่อกชนันท์คิดว่าเธอคงจะต้องเป็นลมแน่ เลยเลือกที่จะนั่งพัก
“ขอบคุณค่ะ ลุงบุญ” กชนันท์เอ่ยขอบคุณก่อนจะเดินออกไปหาอีกคนที่กำลังยืนคุยกับคนงานอยู่ กชนันท์เดินไปสะกิดหลังของอีกคนเบาๆ
“อ้าว….คุณชญานันท์มาได้ไงค่ะเนี่ย แล้วทำไมเสื้อผ้าถึงได้เลอะแบบนี้” ชญานิษญ์เอ่ยถามขึ้นมาเพราะตอนนี้เสื้อผ้าของอีกคนเต็มไปด้วยฝุ่นแถมหน้ายังแดงอีกด้วย
“ฉันเดินมาน่ะ ไม่คิดว่ามันจะไกลขนาดนี้รู้แบบนี้ขับรถมาดีกว่า” กชนันท์ยิ้มให้อีกคนแต่อีกคนยังไม่ทันได้ตอบอะไร พี่ชายที่แสนดีของกชนันท์ก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“ไม่น่าเชื่อว่าน้องสาวสุดที่รักของพี่จะมาทำงานในไร่ของตัวเอง สงสัยปีนี้ไร่เราต้องได้กำไรดีแน่ๆเพราะคุณหนูคนเล็กยอมออกมาทำงานเองแบบนี้”
“ถ้าพี่ยอมให้มีคนสวยๆแบบนี้มาสอนงาน นันท์คงไม่ปฏิเสธ” พี่ชายที่แสนดีมองหน้าน้องสาวของตัวเองสลับกับน้องสาวของภรรยาตัวเอง
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา น้องสาวอยากได้อะไรพี่ชายคนนี้พร้อมจะจัดให้อยู่แล้ว” กชนันท์ส่งยิ้มให้พี่ชาย “ไม่ใช่ทุกอย่างหรอกค่ะที่พี่จะให้นันท์ได้” กชนันท์คิดในใจ
“งั้นพี่ไม่กวนแล้ว นิษญ์พี่ฝากน้องสาวพี่ด้วยนะ พี่ขอตัวไปดูแปลงโน้นก่อน” ชายหนุ่มพูดก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้น้องสาวสุดที่รักได้อยู่กับอีกคน
“เช็ดหน้าก่อนค่ะ เดี๋ยวฉันจะพาคุณกชนันท์ไปดูการเก็บองุ่น” กชนันท์รับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าของตัวเองก่อนจะเดินตามอีกคนไป
“อยากลองตัดดูไหมคะ” ชญานิษญ์ถามอีกคนขึ้นมา
“ฉันทำได้เหรอ” กชนันท์ทำหน้าตาตกใจก่อนจะรับกรรไกรไปลองตัดพวงองุ่นดู
“ทานได้เลยไหม” กชนันท์ถามอีกคน ส่วนอีกคนรีบพยักหน้ารับทันที แต่พอกชนันท์ทานเธอยิ้มออกมาทันทีกับรสชาติที่ได้รับ
“อร่อยใช่ไหม” กชนันท์พยักหน้ารับทันที
“งั้นพวงนี้ขอนะ อย่าเอาไปบอกพี่ชายฉันล่ะ ฉันจะโดนว่าเอา” ทั้งสองคนขำออกมาก่อนที่ชญานิษญ์จะพาอีกคนเดินดูไร่องุ่นต่อ กชนันท์เดินตามหลังอีกคนพร้อมกับยิ้มออกมาผู้หญิงคนนี้สวยในข้อนี้เธอไม่สามารถเถียงได้ แต่เรื่องนิสัยคงต้องดูกันไปก่อน
“ทำไมถึงได้มาทำงานในไร่ อย่างคุณน่าจะทำงานในเมืองมากกว่า จะมาตากแดดตากลมแบบนี้ทำไม” กชนันท์พูดขึ้นมา
“ฉันจบเกษตรค่ะ ฉันชอบงานแบบนี้มากกว่างานในเมือง อีกอย่างถึงแดดจะร้อนลมจะแรงแต่สังคมรอบข้างไม่แรงเหมือนคนในเมืองทุกคนที่นี่จริงใจ” คนตอบได้แต่ตอบไปยิ้มไป
“แต่ฉันคิดว่าคงไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จริงใจอย่างน้อยก็มีอยู่หนึ่งคนที่ฉันรู้จัก แต่ช่างเถอะอย่าสนใจเลยนี้จะเที่ยงแล้วปกติไปทานข้าวที่ไหนหรือกลับไปทานที่บ้าน” กชนันท์ถามขึ้นมาถึงแม้เธอจะทานข้าวต้มมาแต่ระหว่างทางที่เดินมาที่นี่สงสัยข้าวต้มที่ทานเข้าไปจะย่อยไปหมดแล้ว
“ปกติจะทานกับคนงานในไร่นี้แหละค่ะ ถ้าคุณกชนันท์ไม่รังเกียจเชิญทานด้วยกันค่ะ”
“ตกลงค่ะ” ชญานิษญ์แปลกใจไม่คิดว่าอีกคนจะตอบตกลงง่ายขนาดนี้ ชญานิษญ์เดินนำอีกคนไปยังกลุ่มคนงานที่กำลังจะเตรียมตัวทานข้าวกันอยู่
“อ้าวคุณนิษญ์เชิญเลยค่ะ เรากำลังจะทานข้าวกันพอดี อุ้ย คุณหนู เออ….เชิญนั่งค่ะ”
“ทำไมต้องตกใจกันขนาดนั้น ฉันไม่กัดหรอก แต่วันนี้คงต้องขอฝากท้องด้วยนะ” กชนันท์ยิ้มให้กับคนงานที่กำลังนั่งล้อมวงกันอยู่ซึ่งมันเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะคุณหนูคนเล็กที่ทุกคนรู้จักไม่ใช่คนแบบนี้ ทั้งสองคนนั่งลงไปข้างๆกันก่อนจะเริ่มลงมือทาน
“แน่ใจนะคะว่าทานได้ ถ้าทานไม่ได้ ฉันจะให้คนไปส่งที่บ้านค่ะ”
“ได้สิ คุณทานได้ฉันก็ต้องทานได้” กชนันท์พูดออกไปแต่ใจก็แอบหวั่นอยู่เหมือนกันเพราะหน้าตาอาหารแต่ละอย่างมันดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย แต่ในเมื่อคนอื่นทานกันได้เธอก็ต้องทานได้เหมือนกัน กชนันท์ลองตักอะไรสักอย่างขึ้นมาซึ่งเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่กชนันท์คิดเอาเองว่านั้นคือผัดผักอะไรซักอย่างเพราะมันมีเห็ดมีผักสีเขียวๆซึ่งเธอไม่รู้จักชื่อแล้วก็มีแบบเป็นเม็ดๆอะไรสักอย่าง
“ทานไปเถอะน่า คงไม่มีอะไรที่ทานไม่ได้หรอก” กชนันท์บอกตัวเองก่อนจะตักเข้าปากไป
“อร่อยไหมคะ” ชญานิษญ์ถามอีกคนขึ้นมา กชนันท์พยักหน้ารับทั้งสองคนยังทานข้าวต่อแต่กชนันท์รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติเพราะเริ่มคันตามเนื้อตามตัวแต่ยังคงทานต่อเพราะคิดว่าคงเป็นเพราะอาการร้อนเลยทำให้รู้สึกแบบนี้ กชนันท์เริ่มหายใจแรงจนจานข้าวตกจากมือ ทุกคนต่างตกใจโดยเฉพาะชญานิษญ์
“คุณกชนันท์คุณเป็นอะไร” อีกคนรีบถาขึ้นมาทันที
“ในอาหารมีถั่วลิสงใช่ไหม” คนงานพยักหน้ารับ กชนันท์หอบหายใจแรงขึ้น ตามเนื้อตัวเริ่มมีผื่นแดงขึ้นมา
“พาฉันกลับบ้าน เดี๋ยวนี้ เร็ว” ชญานิษญ์รีบพาอีกคนไปที่รถทันทีโดยการช่วยเหลือของคนงานเพราะตอนนี้อีกคนอาการดูไม่ดีเลย
“ใจเย็นๆนะคะคุณกชนันท์อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ” ชญานิษญ์รีบขับรถมายังบ้านหลังใหญ่ทันที ก่อนจะรีบพยุงอีกคนเข้าไปในตัวบ้าน ทันทีที่เข้ามาในตัวบ้านคุณนายของไร่กับสะใภ้ของบ้านตกใจมากที่เห็นชญานิษญ์ถูกคนงานพยุงเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นลูก ไปทำอะไรกันมา” คุณนายของไร่รีบเข้าไปถามแต่ผู้หญิงอีกคนพอเห็นผื่นแดงที่ขึ้นมาตามตัวของกชนันท์ก็รู้ทันทีว่ากชนันท์เป็นอะไร
“พาคุณกชนันท์ขึ้นไปบนห้องก่อนเร็ว” สะใภ้ของบ้านสั่งขึ้นมา พอพาอีกคนมาถึงห้องเธอรีบถามคนที่นอนอยู่บนเตียงทันที
“เก็บยาไว้ไหน”
“ในกระเป๋า” อีกคนตอบออกมาก่อนจะหอบหายใจอีกครั้ง สะใภ้ของบ้านรีบไปหายาในกระเป๋าตามที่อีกคนบอกทันที ตอนนี้เธอเป็นห่วงอีกคนมากจนไม่ได้สนใจเลยว่ามีคนสงสัยในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
“ทานยาค่ะ รู้ว่าตัวเองแพ้แล้วจะทานเข้าไปทำไม ถ้าเกิดเป็นอะไรไปมากกว่านี้จะทำยังไงทำไมถึงไม่ระวังตัว” สะใภ้ของบ้านพูดออกมาอย่างลืมตัวอีกครั้ง
“ไปทานถั่วมาใช่ไหมลูก ให้ตายสิดีนะที่หายาเจอ” คุณนายของไร่พูดขึ้นมาส่วนอีกคนกำลังสงสัยอยู่ว่าพี่สาวของตัวเองรู้ได้ยังไงว่าคุณกชนันท์แพ้ถั่วแต่ต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อนเพราะคนที่นอนหอบอยู่บนเตียงน่าเป็นห่วงกว่า
“เอาล่ะทานยาไปแล้ว อาการคงจะดีขึ้น ทุกคนกลับไปทำงานได้ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” คุณนายของไร่เอ่ยขึ้นมาเธอไม่ได้โทษใครเพราะมีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ คุณนายของไร่ลูบศีรษะของลูกสาวคนเล็กที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงเบาๆ
“นิษญ์ พาคุณกชนันท์ไปทานอะไรที่ไหนมา ทำไมถึงไม่พามาทานข้าวที่บ้าน ถ้าคุณกชนันท์เป็นอะไรไปมากกว่านี้เราจะทำยังไง จำไว้นะห้ามพาคุณกชนันท์ไปทานอะไรแปลกๆอีก” สะใภ้ของบ้านหันไปว่าน้องสาวของตัวเอง
“นิษญ์ขอโทษค่ะ พี่นัส ขอโทษค่ะคุณป้า นิษญ์ไม่ทราบจริงๆว่าคุณกชนันท์แพ้ถั่วคราวหน้านิษญ์จะไม่พาคุณกชนันท์ไปทานข้าวกับคนงานอีกแล้วค่ะ” พี่สาวหันมามองหน้าน้องสาวทันที
“คิดได้ยังไงให้คุณกชนันท์ไปทานข้าวกับคนงาน คุณกชนันท์ไม่เคยทานอาหารพวกนั้นจำไว้นะห้ามพาคุณกชนันท์ไปทานข้าวกับคนงานอีกเด็ดขาด” ชญานิษญ์มองหน้าพี่สาวด้วยความสงสัยเพราะดูเหมือนพี่สาวของเธอกำลังโมโหเธออยู่
“อย่าว่าคุณชญานิษญ์เลย ฉันเป็นคนขอให้คุณชญานิษญ์พาไปทานกับคนงานเอง ถ้าจะมีคนผิดคงเป็นฉันคนเดียวที่รู้ว่าอาหารมันไม่น่าไว้ใจแต่ยังจะทานมันเข้าไปอีก” คนที่นอนอยู่บนเตียงพยายามดันตัวเองขึ้นมานั่ง
“คุณแม่คะ นันท์ร้อน”
“นิษญ์ไปเตียมอุปกรณ์ให้ป้าหน่อย ป้าจะเช็ดตัวให้ยัยนันท์” ชญานิษญ์รับคำก่อนจะรีบเดินออกไป รอไม่นานชญานิษญ์กลับเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์
“นัสทำให้เองดีกว่าค่ะคุณแม่” กชนันท์รับอุปกรณ์มาถือไว้ก่อนจะเดินไปยังเตียงทันทีโดยไม่ได้รอให้ใครตอบอะไรทั้งนั้น ส่วนคนที่อยู่บนเตียงอยากที่จะปฏิเสธแต่คงไม่ทันเพราะคุณแม่ของเธอพูดออกมาเสียก่อน
“นอนดีๆลูก เดี๋ยวให้นัสเช็ดตัวให้ นัสแม่รบกวนด้วยนะ” สะใภ้ของบ้านรีบรับปากทันทีเพราะนี้คือสิ่งที่เธอต้องการอยู่แล้ว
“หนูนิษญ์กลับไปทำงานเถอะทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงทานยาไปแล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้น ไม่ต้องโทษด้วยเองเรื่องนี้หรอกเพราะยัยนันท์เป็นแบบนี้ประจำ” คุณนายของไร่พูดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไปจากห้องพร้อมกับผู้หญิงอีกคนโดยไม่รู้เลยว่าได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงอีกคนได้ใกล้ชิดกับลูกสาวของตัวเอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ