ทาสรักซาตาน

8.3

เขียนโดย zusuran

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.

  15 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ขย่มรักเบาๆ (NC)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“ไม่ลืมของใช่ไหม”
“ไม่ลืมจ้า พ่อ”
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันรถ ดูแลตัวเอง ดูแลเพียวดีๆด้วย เข้าใจไหม”
“จ้า”
ลุงเดย์สั่งเดียร์เป็นการใหญ่ เพียวที่ยืนอยู่ด้วยอดอมยิ้มเสียไม่ได้ แทนที่ลุงเดย์จะห่วงลูกสาวแต่กลับฝากฝังให้ลูกสาวดูแลผู้ชายอย่างเพียวเนี่ย
แล้วลุงเดย์ก็ดึงเพียวเข้าไปกอดพร้อมกับเดียร์ ก่อนจะส่งขึ้นรถบัสที่มีแค่คันเดียวออกไปจากหมู่บ้าน
เพียวกับเดียร์นั่งรถที่วิ่งไปตามทางดินลูกรัง สองข้างทางเป็นทุ่งนาที่กำลังออกรวง เพราะได้น้ำจากเอลเดอร์ ชาวบ้านจึงเริ่มทำการเกษตรได้ เพียวมองกลับไปที่ชายป่าริมเขา บ้านของเพียว มองเห็นน้ำตกอยู่ไกลๆ ย่าอายุมากเกินกว่าจะมาส่งได้ ท่านจึงอยู่ที่บ้านและลุงเดย์ก็รับปากว่าจะดูแลย่าให้เป็นอย่างดี เพียวสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะหันมามองเดียร์และยิ้มให้กันตามประสาเด็กแรกรุ่นไร้เดียงสา
ดีแล้ว เขาทำดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยชาวบ้านที่เพียวรักก็หายจากโรคระบาดและกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ ถึงแม้ว่าที่นี่จะห่างไกลความเจริญหลายร้อยกิโล หลบลี้อยู่ในป่าเขาไม่ต่างจากเมืองลับแล แต่ทุกคนที่นี่ก็ไม่คิดจะจากไปไหน
เพียวหลับตาผ่อนลมหายใจลงช้าๆ กว่ารถจะไปถึงในเมืองก็อีกหลายชั่วโมง พักสายตาเสียหน่อยก็คงไม่เสียหาย เดียร์หลับไปแล้วแถมเจ้าตัวยังอาศัยไหล่ของเพียวต่างหมอนไปโดยปริยาย เพียวเอียงศีรษะซบลงบนหัวทุยๆของเด็กสาวอีกทีก่อนจะหลับตาลงเหมือนกัน รถบัสโคลงเคลงเมื่อวิ่งข้ามสะพานไม้เก่าๆ แต่ทุกคนก็ชินชากันมันเสียแล้ว
“ฮื้อออออ!!!!! ในที่สุดก็ถึงซะที”
เดียร์บิดขี้เกียจเต็มความสูง ท่าทางยุกยิกดุ๊กดิ๊กของเธอเรียกสายตาเอ็นดูจากคนรอบข้างได้ไม่ยาก แถมอานิสงของความเอ็นดูนั้นยังส่งมาถึงเพียวอีกด้วย เพราะความสนิทสนมจนคนอื่นเข้ามาแทรกได้ยาก หลายคนจึงคิดว่าเขาทั้งคู่เป็นแฟนกันไปแล้ว แต่มันก็ไม่สำคัญสำหรับเพียวเลย หรือแม้แต่เดียร์เองก็ไม่เห็นว่าเธอจะเดือดร้อนกับสายตาเหล่านั้นตรงไหนและยังทำตัวร่าเริงเกาะแกะเพียวเหมือนเดิม เพราะความอัจฉริยะทำให้เพียวได้เรียนมหาลัยก่อนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ยังดีที่เดียร์ได้มาด้วยกัน ไม่อย่างนั้นเพียวก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง สำหรับเด็กบ้านนอกอายุสิบหก
“เพียว เป็นแฟนกับเดียร์รึเปล่า”
รุ่นพี่คณะแพทย์ถามเพียวตรงๆ นี่ไม่ใช่คนแรกและคงไม่ใช่คนสุดท้าย
“ไม่ครับ เราเป็นเพื่อนกัน”
“ถ้าอย่างนั้น….พี่ก็มีโอกาสสินะ”
รุ่นพี่เดินเข้ามาใกล้ชิดตัวเพียว
“คบกับพี่ได้ไหม เพียว”
“ครับ?”
“พี่ชอบเรานะ คบกับพี่ได้ไหม”
เพียวยิ้มแห้งๆก่อนจะปฏิเสธออกไปอย่างนิ่มนวล
“ขอโทษครับ ผม…..ไม่สะดวกน่ะ”
“ไม่คิดดูก่อนเหรอ ถึงยังไงเราก็ยังมีเวลาอีกหลายปี”
“อย่าเสียเวลากับผมเลยครับ”
จะบอกไปดีไหมนะว่าเพียวเองก็มีคนรักอยู่แล้ว แถมคนรักของเขาเป็นถึงราชาซาตานซะด้วย
นี่เป็นคนที่เท่าไหร่แล้วนะที่เข้ามาสารภาพกับเพียวตรงๆแบบนี้ นี่ไม่นับรวมคนที่แอบสะกดรอยตามอีกนะ
“เพิ่งจะรู้ว่าเนื้อหอมขนาดนี้”
ตึก!!!
เสียงทุ้มที่ฟังทีไรก็ทำให้เพียวใจเต้นตลอด และตอนนี้มันก็ใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมเป่ารดข้างหู
“เอลเดอร์!”
เพียวหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับร่างสูงที่เข้ามาประชิดจนไม่เหลือที่ว่าง และทันทีที่หันตัวกลับวงแขนแกร่งก็คว้าเอวของเพียวเข้าไปกระชับกอดไว้แนบชิดยิ่งกว่าเดิม
ฟึ่บ!
“อะ!”
“หึ! เห็นคาตาแบบนี้ข้าต้องลงโทษเจ้ายังไงดีนะ”
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย ว่าแต่คุณเถอะ ทำไมแต่งตัวแบบนี้”
เอลเดอร์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในลุคเจ้าชายผมยาวสลวยสวมผ้าคลุมลุ่มล่ามเหมือนอย่างที่เพียวชินตา แต่ได้สวมสูทสุดเนี้ยบพร้อมกับผมซอยสั้นเสยไปด้านหลังเข้ารูปหน้า ดูภูมิฐานเหมือนผู้บริหารใหญ่ ผิวขาวซีดก็กลับมีเลือดฝาดสุขภาพดี ทุกอย่างดูเหมือนมนุษย์ และเป็นมนุษย์ที่มีเสน่ห์เสียด้วย
“ทำไม ตกใจเลยรึไง”
“ปะ ปล่อยผมก่อนเถอะ ที่นี่มหาลัยนะ”
“งั้นเหรอ”
ฉับพลันบรรยากาศรอบตัวเพียวก็บิดเบี้ยวก่อนที่จะเปลี่ยนจากทางเดินในตึกมาอยู่ในห้องที่ถูกปิดไว้มิดชิด ไอเย็นๆลามเลียไปทั้งห้อง มีอุปกรณ์การทดลองตั้งเรียงรายเอาไว้เต็มโต๊ะ
“คุณพาผมมาที่นี่ทำไม ที่นี่ห้องวิจัยนะ”
“ก็เจ้าไม่ชอบให้ใครเห็นไม่ใช่เหรอ”
“แต่นี่มันเวลาเรียนนะ เดี๋ยวก็ต้องมีคนเข้ามาใช้ห้องแล้ว อ๊ะ!!!!....”
เพียวพูดไม่ทันขาดคำเสียงก็ถูกกลืนกลับเข้าไปในลำคอ เมื่อสัมผัสเย็นยะเยือกและเจ็บจี๊ดได้โจมตีเข้าที่คอระหง เอลเดอร์ฝังเขี้ยวลงไปและดูดดื่มโลหิตจากกายเด็กหนุ่มหลายอึก ก่อนจะถอนเขี้ยวออกและละเลียดลิ้นปิดปากแผลให้
เพราะเสียเลือดไปกะทันหันทำให้เพียวหน้ามืด อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูงตรงหน้าอย่างจำยอม
“ขอโทษที แต่ข้าห้ามใจไม่ไหวจริงๆ”
“คนขี้โกง”
“ถือว่าเป็นการลงโทษที่เจ้าไปคุยกับคนอื่นก็แล้วกัน”
“ฮึ”
“อย่าโกรธข้าเลยนะ เด็กดี ข้าหวงเจ้ามากนะรู้ตัวรึเปล่า”
เพียวเงยหน้าขึ้นรับริมฝีปากอุกอาจที่เข้ามาและตอบรับการรุกรานอย่างเต็มใจ สองแขนเกี่ยวกระหวัดคอของร่างตรงหน้าเอาไว้ในขณะที่ลิ้นยังเกี้ยวพากันอย่างออกรสอยู่ในโพรงปาก เอลเดอร์นั่งลงบนโซฟาและให้ร่างเล็กนั่งทับเจ้าความคับแน่นที่กำลังดุนดันผ่านเป้ากางเกงแบรนด์หรู สองมือขยำแก้มก้นเหมาะมือนั้นผ้าเนื้อผ้ากระตุ้นให้เจ้าของร่างเล็กด้านบนเกิดกระสัน
“อ๊ะ!”
“เจ้าทำเองสิ”
เพียวหน้าร้อนฉ่าเหมือนกำลังเอาหน้าไปอังไอน้ำจากหม้อน้ำที่เดือดได้ที่ ถึงจะมีเสื้อผ้าขั้นกลางเอาไว้แต่เพียวก็สัมผัสได้ถึงคับตึงจากเจ้าสิ่งที่เพียวนั่งทับอยู่ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ร่างกายเริ่มสั่นทุกอากัปกิริยาที่กระทำด้วยตัวเอง
มันเป็นครั้งแรกที่ต้องทำอะไรแบบนี้ และเพราะเป็นครั้งแรกเพียวจึงเก้ๆกังๆที่จะรับเอาเจ้าความปรารถนาที่ใหญ่เกินมาตรฐานนั้นเข้าไป เด็กหนุ่มโหย่งตัวคุกเข่าคร่อมร่างสูงที่นั่งประคองเอวของเขาเอาไว้ ปลายป้านของร่างสูงสัมผัสเกลี่ยน้อยๆกับช่องทางสีกุหลาบด้านหลัง แค่นั้นก็ทำให้เด็กหนุ่มเสียวกระสันไปไม่น้อย และเหมือนความอดทนของเอลเดอร์จะมีจำกัด มือหนากระชับเอวบางเอาไว้มั่นก่อนจะกดร่างบางลงนั่งทับเจ้าความปรารถหนาที่รองรับอยู่เบื้องล่างทีเดียวมิดลำ
สวบ!
 
 
“อ๊า!!!!!”
ร่างของเพียวเกร็งแน่น สั่นสะท้าน ช่องทางที่คับแน่นบีบรัดความใหญ่โตจนคนเบื้องล่างต้องนิ่วหน้าเหงื่อตก
เอลเดอร์ยกร่างบางขึ้นจนเจ้าท่อนเอ็นใหญ่ของตนหลุดออกมาจากช่องทางรักคับแน่นนั้นก่อนที่จะสวนมันกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งด้วยความแรงกว่าครั้งแรก
ฟึ่บ!
“อ๊า!!!!”
เพียวถูกกระทำซ้ำๆหลายครั้ง แหงนหน้าแอ่นตัวเกร็งไปด้านหลัง มือไม้อ่อนระทวยไม่ต่างจากตุ๊กตายัดนุ่นหลวมๆ เสียงกระแทกหยาบโยนดังพอๆกับร้องครางของเด็กหนุ่มฟังดูเสนาะหูแปลกๆ
“ผ่อนคลายนะเด็กดี”
เอลเดอร์รวบร่างเล็กเข้ามาอดแนบอก ประกบจูบเรียวปากที่อ้าเผยอนั้นอย่างหิวกระหาย
“อื้ม!!! อื้อ!....อะ เอลเดอร์ ผมเจ็บ!”
“ผ่อนคลายเข้าไว้เดี๋ยวก็ชิน”
เพียวกอดคอร่างสูงเอาไว้แน่น จากความเจ็บจนจุกได้กลายมาเป็นความเสียวซ่านถึงใจ ร่างกายที่เกร็งแน่นเริ่มคุ้นชินกับความปรารถนาอันใหญ่โตที่รุกเข้ามาในกาย เพียวประกบจูบแลกน้ำลายกับร่างสูงอย่างออกรส ในขณะที่ร่างกายท่อนล่างได้โหย่งตัวขึ้นลงขย่มและหมุนควงให้ช่องทางรักหยอกล้อเจ้าความคับแน่นนั้นเป็นจังหวะช้าเร็ว สร้างความเสียวกระสันให้กับคนเบื้องล่างได้อย่างดี
“อา…..เจ้านี่มันสุดยอดจริงๆ”
เอลเดอร์เริ่มสวนกลับไปรุนแรงและเน้นย้ำจนแตะถึงจุดกระสันด้านในของร่างเล็ก เสียงครางระงมถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากเหลือไว้เพียงเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ ยิ่งใกล้ถึงจุดสุดยอดต่างฝ่ายก็ต่างเร่งจังหวะสวนกลับกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
พั่บๆๆๆ…..
เสียงเนื้อกระทบเนื้อพร้อมกับน้ำหล่อลื่นที่ล้นปริ่มออกมาดังเฉอะแฉะน่าอาย แต่ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของคนทั้งคู่ที่กำลังบรรเลงบทรักแสนเร่าร้อนแบบไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุดก็ถึงฝั่งพร้อมกันทั้งคู่
ร่างของเพียวกระตุกแรงๆก่อนจะฉีดพ่นความอึดอัดออกมาจนเต็มหน้าท้องของเอลเดอร์ ในขณะที่เอลเดอร์ก็ปลดปล่อยความปรารถนาอันล้นปรี่เข้าสู่ช่องทางสวรรค์คับแน่นนั้นอย่างสุขสม
เพียวหมดแรงซบลงบนอกแกร่ง ในขณะที่ช่องทางด้านหลังยังขมิบรัวๆกลืนกินความคับแน่นที่เริ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
“แฮ่กๆๆ…..”
“เด็กดีของข้า”
“พอเถอะ…แฮ่กๆๆๆ”
เอลเดอร์จูบประทับลงขมับร่างเล็กเน้นๆ พร้อมกับห่มกอดกระชับร่างอ่อนปวกเปียกนั้นแนบกาย ก่อนที่ปลายนิ้วจะยกขึ้นกรีดอากาศตรงหน้า ปรากฏประตูมิติขึ้นมา
“ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่พอ เด็กน้อย”
เอลเดอร์ลุกขึ้นอุ้มร่างเล็กที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ในท่าลูกลิงเดินหายเข้าไปในประตูมิติ แต่ละก้าวที่เดินเจ้าความคับแน่นที่สอดใส่ในช่องทางรักนั้นก็เล่นงานเพียวให้เสียวกระสันร้องครางยั่วยวนอยู่ข้างหูเอลเดอร์จนแทบคลั่ง อีกฟากหนึ่งของประตูคือห้องนอนในหอพักของเพียว ร่างเล็กถูกวางให้นอนราบบนเตียงพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ทาบทับตามลงมา ก่อนที่บทเพลงรักบทใหม่จะเริ่มต้นอีกครั้ง และอีกครั้งในห้องนอนเล็กๆ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา