ทาสรักซาตาน

8.3

เขียนโดย zusuran

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.

  15 ตอน
  2 วิจารณ์
  11.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ลูกหนี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ร่างบางนอนนิ่งอยู่บนเตียงของราชาหายใจสม่ำเสมอ และมีเอลเดอร์คอยดูอาการอยู่ข้างๆ
"มนุษย์น้อยคนนี้ท่านไปหิ้วมาจากไหน ท่านพี่"
เสียงใสๆของหญิงสาวร่างเพรียวบางท่าทางสูงส่งที่เอายาเข้ามาให้ถามพี่ชายตน
"ที่หมู่บ้าน"
"มิติแห่งนี้ไม่ใช่ที่ของมนุษย์ ท่านพาเขาข้ามมิติมาส่งเดชแบบนี้มันเสี่ยงต่อการเปิดเผยตัวตนของเผ่าพันธุ์ซาตานของเรานะ"
"ไม่หรอก เพียวเป็นคนดีนะ จอยส์ลีน"
"หืม นึกชมของเล่นตัวเองเป็นด้วยเหรอ"
องค์หญิงจอยส์ลีนแขวะพี่ชาย เอลเดอร์ถึงกับชะงัก
นั่นสินะ เขาจะให้ฐานะอะไรกับเพียวดี
“ข้าว่ารีบพาเขาไปส่งที่บ้านเถอะ ไม่เช่นนั้นแล้วกลิ่นคาวเลือดของเขาจะทำให้ซาตานคลั่งเอาได้นะ ท่านเล่นกับเด็กน้อยผู้นี้เสียจน….”
“รู้แล้วๆ เจ้าเองก็รีบออกไปซะสิ ”
เพียวรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งก็รู้ว่านอนอยู่บนเตียงในห้องตัวเอง ความเจ็บระบมยังเหลืออยู่ทำให้มั่นใจว่าไม่ใช่ความฝัน
เอลเดอร์....
เจ้าชายบ้านั่น! ทำให้เพียวอับอายแถมยังป่วยหนักนอนซม ดีนะที่พาเพียวมาส่งที่บ้าน
ตามสัญญา น้ำ.....จริงสิ! น้ำ
เพียวลุกขึ้น ถึงจะปวดตามร่างกายอยู่บ้างแต่ก็ยังทนไหวพยายามเดินออกไปข้างนอก
ซ่า…….
แม่น้ำที่เคยแห้งตอนนี้เริ่มมีน้ำไหลเข้ามาแล้ว มาจากต้นน้ำบนเขา
"น้ำตกหลังบ้านมีน้ำแล้วนะเพียว หลานทำได้แล้ว"
ย่าพูดด้วยใบหน้ายิ้มๆ แต่ก็ตามที่เอลเดอร์บอกไว้ ทุกคนจะค่อยๆหายป่วย
ตอนนี้มีน้ำมาเลี้ยงหมู่บ้านแล้ว แลกมาด้วยร่างกายของเพียว
“ผมจะออกไปเดินเล่นหน่อยนะครับย่า”
“อย่าไปไกลล่ะ”
“ครับ”
อยากสำรวจว่าคนในหมู่บ้านหายป่วยบ้างแล้วรึยังก็เท่านั้น
“เพียว!!!”
เสียงเล็กๆดังขึ้นจากด้านหลัง เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเพียวหน้าตาตื่นก่อนจะกระโดดพรวดเข้ามากอดเพียวอย่างเคยชิน
“เดียร์ หายป่วยแล้วเหรอ ดีจังเลยนะ”
คนแรกที่เพียวได้เห็นคือเดียร์ เพื่อนสาวที่เพียวสนิทมาตั้งแต่เด็ก นี่คือผลตอบแทนของเอลเดอร์สินะ
“แฮ่กๆๆๆ รู้ไหม คนในหมู่บ้านเราหายป่วยไปหลายคนแล้วล่ะ แถมพวกเรายังได้มีน้ำสะอาดไว้ดื่มกิน ต้องขอบคุณเพียวมากเลยนะที่อุตส่าห์ลำบากไปหาตาน้ำบนเขา”
“อืม….ดีแล้วล่ะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
“หืม…เพียวไม่สบายเหรอ”
“อา นิดหน่อยน่ะ”
“เอาอย่างนี้สิ ไปบ้านเราไหมเพียว พ่ออยากเจอเพียวมากเลยนะ”
“จะดีเหรอ”
“ดีสิ พวกเรารักเพียวนะ เพียวทำเพื่อทุกคนขนาดนี้แล้วถึงใครจะไม่ห่วงแต่เรากับพ่อเป็นห่วงเพียวนะ”
เดียร์พูดแบบเชิดๆตวัดสายตาสีประหลาดของตัวเองใส่คนที่เดินผ่านที่ส่งสายตาชิงชังมาให้เพียว ผลก็คือ คนพวกนั้นก้มหน้างุดๆจากไปอย่างรวดเร็ว
“ฮึ เจ้าพวกไม่รู้จักบุญคุณ”
“ช่างเถอะเดียร์ อย่าไปว่าพวกเขาเลย”
ก็คงจะมีแค่ครอบครัวของเดียร์ล่ะมั้งที่คิดแบบนั้น เพราะคนทั้งหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบเพียวกันทั้งนั้น เพราะอะไรก็ไม่รู้หรอก แต่ว่าชินแล้วล่ะ
ที่บ้านของเดียร์ยังเหมือนเดิม ลุงเดย์พ่อของเดียร์เป็นอีกคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคระบาดเหมือนชาวบ้าน เขายังแข็งแรงและผ่าฟืนเก็บไว้เต็มโกดังไม่ขาดตกบกพร่อง
“ว่าไงเพียว ไม่ได้เจอกันนานนะ”
“สวัสดีครับ ลุงเดย์ ให้ผมช่วยไหมครับ”
“ไม่ต้องๆ เดียร์ พาเพียวขึ้นไปพักผ่อนบนบ้านก่อนเถอะลูก”
“จ้าพ่อ”
หลังจากที่ลุงเดย์ผ่าฟืนเสร็จก็ขึ้นมาทานอาหารที่เดียร์เตรียมไว้รอบนบ้านพร้อมๆกับเพียว
“ว่าแต่ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง เรียนยากไหม เพียว”
“ไม่ยากเท่าไหร่ครับ”
“ดีแล้วล่ะ ลุงอยากให้เพียวเรียนจบไวๆ”
“พ่อก็ เรียนหมอไม่ใช่ง่ายๆนะจ๊ะ”
“แล้วเราล่ะแม่ตัวดี ชอบก็ไม่ได้ชอบ แต่ยังดันทุรังเรียนเหมือนเพียวเขา คงไม่ใช่ไปกวนเพียวจนไม่ได้อ่านหนังสือหรอกนะ”
“พ่ออ่ะ!”
“ฮะๆๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะ ใช่ มีเพียงเสียงหัวเราะของเดียร์ที่ทำให้เพียวหายเหงา
อาการปวดเมื่อยตามร่างกายจางหายไปบ้างเมื่อได้ลงแช่น้ำในลำธาร สถานที่ๆเพียวลงแช่น้ำอยู่ไกลจากหมู่บ้านและเป็นสายน้ำเล็กๆที่แยกจากสายหลักมาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่นี่ไม่มีใครเข้ามาได้นอกจากเพียวที่รู้จักทางดี
“ว้าว ดูท่าทางจะสบายดีแล้วนี่นา”
เฮือก!!!
เพียวสะดุ้งสุดตัว รู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง เสียงนี้เด็กหนุ่มไม่มีทางลืมได้ ร่างกายสั่นสะท้านตอบรับเสียงที่ได้ยิน สายตาหวานมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่เห็นสิ่งใดผิดปกติ
“ท่าทางจะหูฝาดไปจริงๆ”
เพียวพูดกับตัวเอง ก่อนจะคลานขึ้นไปบนฝั่งคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่ แต่ทว่า
หมับ!
“อย่าเพิ่งไปสิ อยู่เล่นน้ำกับข้าก่อนเป็นยังไง เพียว”
เฮือก!!!!
“อะๆๆ เอลเดอร์”
ทำไมถึงใกล้ขนาดนี้ ทั้งที่เมื่อกี้ไม่มีใครอยู่ที่นี่แท้ๆ ร่างสูงผู้มาใหม่ซ้อนทับด้านหลังร่างบางที่ยังเปลือยเปล่า มือแกร่งสองข้างกอดรัดลูบไล้ไปบนผิวเนียนนุ่มที่ยังเปียกชื้นและเย็นฉ่ำ
“ปะ ปล่อยผมนะ”
“หืม เจ้ามีสิทธิ์มาสั่งข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตอนนี้เจ้ายังใช้หนี้ข้าไม่หมดด้วยซ้ำ”
แผล่บ…
“อึก!”
ลิ้นชื้นตวัดเลียใบหูของร่างเล็กอย่างกลั่นแกล้ง ก่อนจะไล่ลงมาจุมพิตที่หัวไหล่ ซุกไซร้เข้าไปที่ซอกคอและฝังเขี้ยวแหลมคมของซาตานลงในเนื้อนุ่ม
กึด!
“ฮึก! อะ! ฮื้ออออออ!!!”
เพียวกำลังจะอ้าปากร้องด้วยความเจ็บ แต่มือหนาของร่างสูงก็ปิดปากเขาเอาไว้เสียทันเวลา ความรู้สึกเย็นยะเยือกลงไปถึงแกนกระดูกบวกกับความวาบหวามที่รุมเร้าทั่วร่างกายทำให้ร่างบางแทบจะหมดแรงยืนต่อ ทรุดฮวบลงในอ้อมกอดของคนข้างหลัง
เอลเดอร์ดื่มด่ำโลหิตแสนหวานจากเด็กหนุ่มอึกแล้วอึกเล่า น่าแปลกที่กำลังวังชาของเขามาเหมือนเดิมแถมยังมีบางอย่างไหลเวียนเข้ามาทำให้กระปรี้กระเปร่าราวกับได้ยาชั้นดี
“เลือดของเจ้าหอมหวานดีแท้ แบบนี้สิถึงคุ้มค่า”
“แฮ่กๆๆ”
เพียวอ่อนแรงหน้ามืดตาปรือแทบปิด แต่ก็ยังแข็งใจเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของบุรุษร่างสูงจอมฉวยโอกาส
“สีหน้าดีนี่”
เอลเดอร์ฉกฉวยริมฝีปากบางสีสดนั้นอย่างพอใจ ตอนนี้เพียวไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนอะไรได้ มีเพียงเสียงครางแผ่วๆที่มันดันกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของซาตานหนุ่มได้อย่างดี นิ้วเรียวยาวยกขึ้นกรีดอากาศเบื้องหน้ากลายเป็นช่องประตูที่ทะลุเข้าไปในดินแดนอีกฝั่ง เอลเดอร์ช้อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นอุ้มทั้งที่ยังประกบจูบอย่างดูดดื่มและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาพาเพียวเดินเข้าประตูทะลุสู่อีกด้านซึ่งนั่นก็คือห้องนอนของเขา
แผ่นหลังบางสัมผัสกับที่นอนเย็นๆทำให้เพียวเริ่มรู้สึกตัว แต่ทันทีทันใดร่างสูงของซาตานหนุ่มก็ตามลงมาทาบทับเอาไว้จนไม่มีโอกาสได้ขยับเขยื้อนไปไหน
“พะ พอแล้ว อื้อ!!!!”
ปากบางพะงาบๆถูกประกบปิดลงไปอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ทวีความรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า จนร่างบางบิดเร่าเพราะความเสียว ลืมไปแม้กระทั่งความปวดเมื่อยจากครั้งก่อน กลิ่นคาวเลือดในปากคลุ้งขึ้นจมูกจนเด็กหนุ่มแทบสำลัก
“ยะ หยุดนะ! คุณจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ!”
“หืม ทำไมกันล่ะ”
“คุณบังคับผมมากไปแล้วนะ คราวก่อนก็ได้ผมไปแล้วไม่ใช่รึไง แถมเมื่อกี้คุณยังดูดเลือดผมด้วย!”
“อ้อ นั่นสินะ ข้าทำเกินไปงั้นรึ”
“พาผมไปส่งบ้านเดี๋ยวนี้เลย”
เพียงชักสีหน้าไม่พอใจ แต่กับเอลเดอร์มันกลับเป็นเพียงใบหน้าป่องๆของเด็กน่ารักมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
“ข้าจะส่งเจ้ากลับไปก็ต่อเมื่อข้าได้สิ่งที่ข้าต้องการเสียก่อน เพียว อย่าลืมสิว่าเจ้ายังเป็นลูกหนี้ของข้าอยู่นะ และอีกอย่าง เจ้าคิดผิดแล้วล่ะเด็กน้อย”
“อะไรครับ”
“คิดผิดที่ว่าข้าจะช่วยชาวบ้านทั้งหมดเพียงเพราะเจ้ายอมอ้าขาให้ข้าเพียงหนเดียวน่ะสิ”
“ว่าไงนะ”
“หึๆๆ จะบอกให้นะเด็กน้อย ยาที่ข้าให้พวกมันกิน ใช่ว่าข้าจะให้พวกมันทุกคน ใช่…ยังมีชาวบ้านอีกมากที่ยังป่วย และพวกมันก็จะตายหากไม่ได้ยาจากโอเอซิสท์”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่า หากเจ้าต้องการช่วยเหลือพวกมัน เจ้าก็ต้องเอายาจากข้าไปแจกจ่ายเอาเองไงล่ะ และการที่เจ้าจะได้ยาจากข้า เจ้าก็ต้องทำให้ข้าพอใจซะก่อน”
“ไหนเราตกลงกันไว้แล้วว่าแค่เวลาที่คุณต้องการน่ะ! นี่มันบังคับขู่เข็ญกันชัดๆเลย!”
“ฮะๆๆ ยังไงก็ช่าง กฎเกณฑ์นี้ข้าเป็นคนตั้ง ข้ามีสิทธิ์จะเปลี่ยนให้เป็นยังไงก็ย่อมได้”
“คุณนี่มัน”
“อยากได้มันไหมล่ะ”
เอลเดอร์ยกถุงยาขึ้นมาแกว่งไปมาต่อหน้าเพียว
“นี่เป็นยาที่จะช่วยพวกมันได้สิบคน และข้อแลกเปลี่ยนคือคืนนี้เจ้าต้องตามใจข้า”
“ชิ!”
“ว่าไงล่ะ จะปฏิเสธก็ได้นะ”
“ฮึ ยังไงผมก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้วนี่”
เพียวกระฟัดกระเฟียดหันหน้าหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของร่างสูง
“หึๆๆ แบบนี้สิ เด็กดีของข้า”
“ผมไม่ใช่ของคุณ!”
“ใช่สิ เจ้าคือ ลูกหนี้ของข้ายังไงเล่า”
และการใช้หนี้ก็เริ่มต้นขึ้น ทั้งเจ็บปวดและหอมหวานปนทรมาน ในอาณาจักรที่ใครก็ไม่อาจย่างกรายเข้ามาได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา