ทาสรักซาตาน

8.3

เขียนโดย zusuran

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.

  15 ตอน
  2 วิจารณ์
  11.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) รังเกียจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
   
นับเป็นเวลาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่เอลเดอร์ได้พบกับเพียวในสภาพที่ไร้ความทรงจำเกี่ยวกับเขาโดยสิ้นเชิง
ทุกวันเอลเดอร์เฝ้ามองเพียงเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์
ภาพรอยยิ้มไร้เดียงสานั่นควรจะเป็นเขาก็ได้รับ ไม่ใช่ใครอื่น
มันทำให้เอลเดอร์เจ็บปวด จนเก็บสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่
และคนที่คอยมองดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงมีหรือจะรับรู้ไม่ได้
นัยน์ตาสีแดงสดจดจ้องร่างสูงที่มักจะปลีกตัวอยู่ลำพังนั้นวันแล้ววันเล่า พร้อมกับความคิดที่เริ่มจะก่อตัวขึ้นทีละน้อย
ทั้งหมดเป็นเพราะยายเด็กน้อยเรียวโอไนน์คนนั้น ถึงจะรู้ดีว่าหน้าที่ของผู้พิทักษ์คือการปกปักษ์ผู้เป็นนายอันเป็นที่รัก แต่จอยส์ลีนไม่สามารถมองเห็นพี่ชายตัวเองทรมานแบบนี้ต่อไปได้อีกนานนัก
เห็นที่ต้องคุยกับยายเด็กน้อยนั่นสักหน่อยแล้วสิ....
มหาลัย…
ตึกๆๆๆ
ร่างเล็กๆกำลังหอบสารพัดขนมหวานไว้เต็มรักพร้อมๆกับสาวเท้าไปตามจังหวะสม่ำเสมอ วันนี้เป็นวันสงบสุขอีกวันที่ไม่มีปีศาจหรือซาตานตนไหนมาก่อกวน อะไรมันจะดีไปกว่านี้
แต่ว่า…..
“หืม….ท่าทางอารมณ์ดีจังนะ”
เฮือก!
เสียงกระซิบเย็นยะเยือกเป่าผ่านข้างหูเด็กสาวไปโดยที่จับพลังใดๆไม่ได้
พรึ่บ!
เดียร์พลิกตัวกลับ ทิ้งทุกอย่างออกจากอ้อมแขนพร้อมกางกรงเล็บออกมาเตรียมคร่าศัตรู แต่ทว่า สิ่งที่มาเยือนนั้นกลับไวกว่าและจับร่างเล็กๆของเธอกดแนบผนังในทางเดินมหาลัยได้อย่างง่ายดาย
พรึ่บ!
ตึง!!!
“อึก!
“ว่าไงท่านหญิงน้อย พอจะมีเวลากลับไปเยี่ยมบ้านกับข้าหน่อยไหม หืม”
“ธิดาโลกันตร์!...อุ๊บ!!! อื้อ!!!!!!!”
มือเรียวยาวปิดปากเดียร์ไม่ให้ส่งเสียงร้อง ผ้าคลุมที่มีชีวิตพันธนาการร่างเด็กสาวเอาไว้จนไร้ทางต่อต้าน ก่อนประตูมิติจะเปิดออกและกลืนร่างของเดียร์เข้าไปพร้อมกับเจ้าหญิงที่เรียกมันออกมา
…………..
“เดียร์…”
เพียวเดินมาตามทางเพื่อตามหาเพื่อนสาว แต่ก็พบเพียงห่อขนมหวานที่หล่นกระจัดกระจาย
ตึก!
“เดียร์!..”
ในใจของเพียวหล่นวูบลงถึงตาตุ่ม สาวเท้าเป็นจังหวะช้าเร็วมองซ้ายหันขวาเพื่อหาตัวเพื่อนสาว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบแม้แต่เงา ไม่ว่าจะถามใครหรือไปหาที่ห้องเรียน ก็ไม่เจอ
“หรือว่าจะเข้าห้องผ่าตัด…..ไม่มั้ง”
ถึงจะจัดว่าเป็นอัจฉริยะ ก็ไม่มีอาจารย์คนไหนอนุญาตให้เด็กอายุไม่ถึงสิบแปดเข้าไปดูการผ่าตัดได้หรอก อย่างน้อยก็ตอนนี้
แล้วเดียร์ไปไหนล่ะ
เพียวเดินตามหาจนทั่วตึก และเพิ่งจะมารู้สึกว่ารอบตัวเริ่มมืดลง
“แปลกจัง ฝนจะตกเหรอ”
เด็กหนุ่มเดินไปใกล้หน้าต่างก่อนจะชะเง้อมองออกไปด้านนอก ฟ้าก็ไม่ได้ครึ้มฝนอะไร แต่รู้สึกว่ารอบตัวของเขาตอนนี้มันมืดผิดปกติ
“ฮิๆๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะแหลมเล็กดังเคล้ากับบรรยากาศอึมครึม และเหมือนกับว่ามันกำลังวนรอบตัวเพียวจนจับทิศทางไม่ถูก
เด็กหนุ่มหันซ้ายทีขวาที บรรยากาศเย็นยะเยือกลามเลียเข้ามาจนขนลุก
หมับ!
“เฮือก!”
ไหล่สองข้างถูกกดลงแรงๆก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้สติกลับมาพร้อมกันนั้น บรรยากาศอึมครึมเย็นยะเยือกเมื่อครู่ก็หายไป
เพียวหันหน้ากลับมามองเจ้าของแรงกดหนักๆบนไหล่ของเขาและได้พบกับใบหน้าคมคายที่เหมือนจะคุ้นเคย
“คุณ…!”
“มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว”
เอลเดอร์ในร่างของมนุษย์ เป็นหนุ่มรูปหล่อนสวมสูทสุดเนี้ยบ ทุกระเบียดนิ้วเรียกได้ว่าไร้ที่ติ
เมื่อครู่หากว่าเขามาไม่ทันเพียวก็คงจะตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
ในใจนึกระอากับจอยส์ลีนเหลือเกิน ไม่คิดว่าน้องสาวของเขาจะเล่นลักพาตัวผู้พิทักษ์ของเพียวไปดื้อๆแบบนี้
“แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ”
เพียวหันตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเอลเดอร์ก่อนจะถอยห่างก้าวหนึ่งเพื่อให้มองใบหน้าของร่างสูงได้เท่าเทียม มันคงเป็นมารยาทของมนุษย์แต่สำหรับเอลเดอร์มันให้ความรู้สึกห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก เขาต้องการกอดร่างเล็กตรงหน้า ต้องการกัด ต้องการจูบ บดขยี้ร่างตรงหน้าเสียเหลือเกิน
“คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
เพียวเอียงคอสงสัยมองร่างสูงตรงหน้าที่ยังจ้องมองมาที่ตัวเองไม่วางตา
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนครับ”
เพียวหันหลังจะเดินจากไป แต่เอลเดอร์ก็คว้าร่างร่างเล็กมากอดเอาไว้เสียก่อน
พรึ่บ!!!
 
 
“อะ! คุณ…..”
“ข้าคิดถึงเจ้า…..”
“เอ๊ะ?”
เอลเดอร์ไม่อยากอดทนอีกต่อไป ปลายจมูกคลอเคลียต้นคอระหงที่มีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัวนั้นไปมา กระตุ้นให้ไหล่เล็กๆนั้นห่อตัวขึ้นมาทันที
“หยุดนะครับ นี่คุณจะทำอะไร”
เพียวขืนตัวออกจากอ้อมกอดนั้นสุดแรงที่มี ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางต้านแรงของคนที่ตัวใหญ่กว่าได้ง่ายดายนัก
ยิ่งร่างเล็กพยายามผลักไสและขืนตัวออกจากเขามาเท่าไหร่ เอลเดอร์ยิ่งรัดอ้อมกอดนั้นแน่นเพื่อจะเอาชนะ เขากอดเพียว และสูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างเล็กเข้าปอดเฮือกแล้วเฮือกเล่า
ปึก!
เข่าเล็กๆกระทุ้งเข้าที่หน้าท้องเอลเดอร์โดยไม่ทันตั้งตัวจวงแขนชายหนุ่มเริ่มคลายเปิดโอกาสให้ร่างเล็กผละออกไปได้สำเร็จ
“อย่ามาทำแบบนี้กับผมนะ”
เสียงนั้นเด็ดขาดและเย็นชาอย่างที่เอลเดอร์ไม่เคยได้ยินมาก่อน สีหน้าท่าทางตัดขาดจากเขาชัดเจน เหมือนกับว่าตอนนี้ระหว่างเขากับคนตัวเล็กมีกำแพงขวางอยู่
“…..ขอโทษที”
ไม่มีอะไรจะพูดออกมาอีกระหว่างเขากับเพียว และไม่นานเพียวก็วิ่งหนีไป ทิ้งไว้เพียงคาวมเงียบกับซากของปีศาจที่เขาได้สังหารก่อนหน้านั้น
เอลเดอร์กลับมายังปราสาท และความซ่องซึมก็หายไปในพริบตาเมื่อได้พบกับแขกผู้มาเยือน
“ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่านตลอดนานเท่านาน ราชาเอลเดอร์”
ร่างกำยำสีแทนเปลือยท่อนบน หากแต่ท่อนนั้นคือขาอันแข็งแกร่งที่ปกคลุมด้วยขนสีเงิน ด้านหลังของร่างนั้นคือพวงหางจิ้งจอกที่สวยงามและน่าเกรงขาม
“ท่านคืออาร์เดย์สินะ”
“ไม่ผิด”
อาร์เดย์ เผ่าพันธุ์เรียวโอไนน์ผู้พิทักษ์ราชาองค์ก่อน และเอลเดอร์ก็รู้ดีว่าเขามาที่นี่ทำไม แต่ในเมื่อได้เจอกับตัวแล้ว เอลเดอร์ก็ไม่คิดจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือ
“ข้ารุ้ว่าท่านมาที่นี่เพราะอะไร และถือเป็นการแลกเปลี่ยน ข้ามีคำถามจะถามท่าน”
“เชิญว่ามาได้”
“เพียว คือใคร”
คำถามของเอลเดอร์ดูจะง่ายแต่กลับทำให้ทุกอย่างเงียบลงจนกลายเป็นความอึดอัด
อาร์เดย์มีสีหน้าแข็งกร้าวเหมือนจะโกรธแค้นเขา แต่สุดท้ายผู้พิทักษ์สุดแกร่งก็ยอมที่จะตอบคำถามแต่โดยดี
“ชื่อของเด็กคนนั้นคือ วันเดอร์เรอร์ สายเลือดของเจเซียส ราชาองค์ก่อน”
ดวงดาวจากแดนไกลที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ในมือได้ ทว่าตอนนี้
 “ข้าไม่รู้และไม่คิดจะถามไถ่ท่านว่าท่านกับวันเดอเรอร์มีความสัมพันธ์กันแบบไหนตั้งแต่เมื่อไหร่และไม่สนใจว่าพวกซาตานจะทำสงครามหรือแย่งชิงบัลลังก์กันหรือไม่ จะต้องล้มตายหรือสูญสลายกันไปเท่าไหร่ หน้าที่ของข้าคือคุ้มครองเด็กคนนั้น เลเดียร์เป็นลูกสาวของข้า และนางก็ถูกเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์ของวันเดอเรอร์ต่อจากข้า เพราะฉะนั้น ชีวิตของเลเดียร์มีไว้เพื่อปกป้องวันเดอเรอร์เท่านั้น”
อาร์เดย์จ้องมองเอลเดอร์โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวใดๆ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะเผ่าพันธุ์เรียวโอไนน์ไม่เคยก้มหัวให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่พวกเขานับถือให้เป็นนายเพียงหนึ่งเดียว
เอลเดอร์ไม่มีอะไรจะพูดอีก ก่อนที่ปลายนิ้วจะกรีดกรายสร้างประตูกลางอากาศและเปิดมัน ร่างของเด็กสาวถูกมัดไพล่หลัง ปิดปากปิดตาด้วยผ้าสีดำ พูดไม่ได้ มองไม่เห็น ถูกธิดาโลกันต์หิ้วเดินออกมาจากประตูราวกับตุ๊กตายัดนุ่น
“ทำข้าเสียเวลาจริงๆเล้ย ท่านพี่”
“ปล่อยนางซะ จอยส์ลีน”
“ก็ได้ๆๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้ลิ้มรสชาติของจิ้งจอกน้อย ชิ!”
จอยส์ลีนแก้มัดให้เดียร์ก่อนจะผลักเด็กสาวเข้าไปหาพ่อที่ยืนรอรับอยู่
“พ่อจ๋า!”
“เดียร์ ไม่เป็นไรนะ”
“พ่อ ยายป้านี่รังแกหนู”
ได้ทีก็ฟ้องเสียเลย แต่สรรพนามที่เรียกออกมานั้นทำเอาธิดาโลกันตร์ถึงกับเดือดผมตั้ง
“เจ้าว่าใครป้า นางหมาน้อยปากเสีย!”
“ว่าหล่อนน่ะสิ ยายป้า!”
“กรี๊ดดดดดดดด!!!! ข้าจะกินเจ้าไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูกเลย ยายลูกหมาเอ๊ย”
“อะแฮ่ม! นางเป็นลูกข้าแล้วก็มีสายเลือดของธิดาโลกันตร์รุ่นก่อนอยู่ในตัวครึ่งหนึ่ง”
อาร์เดย์ถึงกับออกหน้ารับแทนทันทีที่จอยส์ลีนแยกเขี้ยวใส่ ลูกหมาเหรอ ถ้าอย่างนั้นเขาก็คือพ่อหมาแบบตรงๆไม่มีอ้อมค้อม
“เห็นแก่สายเลือดของบรรพชนข้าหรอกนะ”
พรึ่บ!!!
จอยส์ลีนสะบัดผ้าคลุมหมุนตัวเดินจากไปอย่างหัวเสีย
“พ่อขา หนูอยากกลับไปหาเพียวแล้ว”
“ไปกันเถอะ”
“ข้ายังไม่อนุญาตให้ไป”
เอลเดอร์รั้งห้ามด้วยท่าทีที่เหนือกว่า แต่แล้วเขาก็ได้รับการตอบสนองด้วยการพุ่งหลาวเข้ามาของเลเดียร์ หางทั้งเก้าปรากฏออกมาและกลายเป็นเคียวบินฉวัดเฉวียนเตรียมที่จะเชือดเฉือนทุกอย่าง
พรึ่บ!
“เลเดียร์ หยุด!”
การเคลื่อนไหวของเลเดียร์ แม้แต่อาร์เดย์ก็ยังรั้งเอาไว้ไม่ทัน
“ครืออออ!!! ข้าจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆ จะทำให้เจ้าหายไปจากชีวิตเขาตลอดกาลซะ!”
เอลเดอร์วาดกรงเล็บออกมาต้านเคียวที่พุ่งเข้าหาหัวใจของเขา แต่เขากลับคิดตื้นเกินไป เมื่อหางของจิ้งจอกนั้นมีถึงเก้าหาง
ฟึ่บ!
พลังของลูกครึ่งเรียวโอไนน์และธิดาโลกันตร์ จะแข็งแกร่งและโหดร้ายกว่าสายเลือดที่ทั่วไปมากมายหลายขุม แม้แต่เอลเดอร์ก็ไม่อาจจะต้านไหว
โครม!!!!
เพล้ง!!!
 
 
ห้องโถงในปราสาทที่เคยหรูหรา กลายเป็นสนามรบขนากย่อมไปในพริบตา ร่างของเลเดียร์กลายเป็นหญิงสาวครึ่งจิ้งจอกและกระโดดขึ้นไปบนขื่อก่อนจะกระซวกหางที่แปรเปลี่ยนเป็นเคียวลงมาหาร่างของเอลเดอร์ตรงๆ
เอลเดอร์หมุนตัวหลบได้ หนึ่ง และสอง แต่ยังเหลืออีกเจ็ดและมันก็เพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ตุ้บ!
“อึก!!!”
“เลเดียร์ พ่อบอกให้หยุด!”
“มันทำให้เพียวเจ็บปวด ข้าจะฆ่ามันซะ!”
เอลเดอร์ถูกกระแทกจนติดผนังแต่ก็ว่องไวพอที่จะหลบปลายหางคมกริบที่พุ่งเข้ามาปักทะลุกำแพงแทนตัวเขา
ร้ายกาจจริงๆ…..
ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป มีหวังปราสาทได้พลังทลายลงเป็นหน้ากลองแน่
“อย่ารังแกคนแก่นักซี่ ทูนหัว”
พรึ่บ!
ปึก!
โครม!!!
เสียงทุ้มหวานดังแทรกเข้ามาท่ามกลางพายุก่อนที่สันมือหนาจะทุบลงกลางท้ายทอยของเลเดียร์จนหญิงสาวกึ่งจิ้งจอกสลบและร่วงหล่นลงกลางห้องโถง
เอลเดอร์ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง ปัดฝุ่นออกจากชุดแบบส่งๆ ก่อนจะมองไปยังร่องรอยของความพินาศที่อยู่ตรงหน้า
“เล่นกันแรงไปหน่อยจริงด้วยแฮะ”
“ใช่ เล่นแรงจริงๆ”
เสียงทุ้มดังออกมาจากม่านกลุ่มควันสีจาง และเมื่อกลุ่มควันถูกพัดหายไปก็ปรากฏร่างสูงโปร่งที่ยังอุ้มร่างของเด็กสาวเอาไว้
“ลูฟ”
“ไม่ได้มาที่นี่เสียนาน ไม่คิดว่าต้องมาเป็นกรรมการห้ามศึกให้ท่านเสียนี่ ท่านพี่”
เลเดียร์กลับสู่ร่างของเด็กสาวตามเดิม และสลบอยู่ในอ้อมแขนของลูฟ
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา