Alice เพลงรักที่หลงทาง (season 1)

5.3

เขียนโดย zusuran

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 14.50 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 20.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) Chapter 12 ... ความรักไร้เงื่อนไข

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

“จะบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของชิงุเระให้การกุศลจริงๆเหรอครับท่าน”

ลูกน้องคนสนิทของชินระกำลังยืนรอรับคำสั่งถามขึ้นมาอีกครั้ง

“มีปัญหาเหรอ”

“เปล่าครับ แต่ว่าทำแบบนี้แล้วพวกตระกูลสาขาจะไม่พอใจเอานะครับ”

“หึ นั่นสินะ”

ถึงจะเออออไปอย่างนั้นแต่ชินระก็ยังไม่เปลี่ยนความตั้งใจเดิม พร้อมกับยื่นงานที่เซ็นเรียบร้อยให้ลูกน้อง

เมื่อลูกน้องออกไปหมดทุกคน ชินระจึงได้ผ่อนคลายเอนกายพิงพนักเก้าอี้ภายในห้องทำงานตามลำพัง ไม่สนใจแม้แต่ข่าวใหญ่ที่กำลังฉายอยู่กลางจอทีวีขนาดใหญ่ ลูกน้องเขาจัดการได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วดีจริงๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอกไปได้ลูกหนึ่งเลยทีเดียว

หลายวันมานี้เขาไม่ได้เจอคนหน้าสวยเลย ตั้งแต่เรื่องคืนนั้นซางะก็กลับไปนอนบ้านแม่และดูแลโรงเรียนสอนดนตรีแทนพี่สาวที่เพิ่งคลอดลูก และหลังจากจบคอนเสิร์ตอลิซก็ได้รับวันพักร้อนยาวก่อนจะได้เตรียมออกอัลบั้มใหม่ ชินระกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้งในรอบหลายเดือน หน้าที่เดิมๆและงานเดิมๆที่ให้เขาต้องสะสาง แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือเสียงเพลงที่ยังคลอเบาๆขับกล่อมอยู่ในหัว

ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงมองเพดานโทนดำที่ถูกประดับด้วยโคมไฟราคาแพง แสงของมันสะท้อนเข้ามาในดวงตาวูบไหวไปตามการกรอกกลิ้งของลูกตา

มันทำให้ชินระนึกถึงเรื่องก่อนหน้าที่เขาจะได้สนิทกับซางะขึ้นมา

ปังงงง!!!!

ตุ้บ!

ร่างของลูกน้องทรยศล้มลงกองกับพื้น

“พอใจรึยัง”

ชินระถามหญิงสาวที่ยังกอดประคองชายหนุ่มที่หมดสติ

“อื้ม ขอบใจนะ”

“คนตายแล้วจะพูดได้ยังไง”

“ฮิๆๆๆ นายนี่นะ เฮ้อ….เอาเถอะ อย่างน้อยเขาก็ปลอดภัยแล้ว”

“ฮึ”

ชินระถอนหายใจอย่างขอไปที ก่อนหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทที่ซ่อนตัวอยู่ให้เข้ามาหา

“รีบไปก่อนที่พวกมันจะยกโขยงมาแยกร่างเธอ”

“ฝากเขาด้วยนะ”

“ฉันไม่ปล่อยให้เขาตายง่ายขนาดนั้นหรอก”

“ยังไงก็ช่วยถนอมเขาด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะกลับมาเอาเรื่องนายให้ถึงที่สุดเลย”

“คนตายไปแล้วจะกลับมาได้ยังไง ไปได้แล้ว”

“ขอบใจสำหรับทุกอย่าง ชินระคุง ลาก่อน”

วากานะกอดซางะเอาไว้และประทับบจุมพิตบอกลาชายหนุ่มผู้ไร้สติเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกันนั้นเธอยังได้ซุกซ่อนบางอย่างเอาไว้ในอกเสื้อของชายหนุ่ม แต่ชินระไม่ได้ตาบอดและเขาก็ไม่ได้โง่ที่จะมองมันไม่ออกว่าคืออะไร

“นั่นมันอันตรายนะ”

………….ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยทำให้มันปลอดภัยแล้วก็คืนให้เขาก็แล้วกันนะ”

วากานะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ถอดรองเท้าส้นสูงราคาแพงทิ้งอย่างไม่เห็นค่าก่อนจะเดินไปลงเรือพร้อมกับบอดี้การ์ดตนสนิทที่คอยคุ้มกัน เรือแล่นออกจากฝั่งและหายไปในความมืดไม่เหลือแม้แสงริบหรี่ให้มองหา

ชินระลากศพไร้วิญญาณโยนลงอ่าวก่อนจะหันกลับมามองซางะที่หมดสติพิงอยู่ที่ตู้คอนเทนเนอร์ บาดแผลไม่ถูกจุดสำคัญแต่มันก็สาหัสเอาเรื่อง

“ท่านครับ”

ลูกน้องของคุสะเพิ่งตามมาสมทบ และสภาพที่เห็นก็ไม่มีใครกล้าปริปาก

เศษเสื้อและรองเท้าส้นสูงเปื้อนเลือดที่กระจายอยู่บนพื้นกับร่องรอยและเลือดที่ลากยาวไปจนถึงริมอ่าว บอกชะตากรรมของเจ้าของของมันได้ทันที

“เฮ้อ….ทำไมฉันต้องทำตามที่เธอขอตั้งแต่แรกด้วยนะ”

ของชิ้นเล็กๆที่มีคนอยากได้นักหนา แกว่งไกวอยู่ระดับเดียวกับสายตา ดวงตาสีน้ำตาลอมแดงวูบไหวก่อนจะค่อยๆหรี่ลงพร้อมกับเสียงถอนหายใจแรงๆ

“……..ยายผู้หญิงบ้า”

ชินระถ่ายข้อมูลสำคัญทั้งหมดและลบมันออกจากไดรฟ์ จนเหลือไฟล์สุดท้าย ไฟล์วีดิโอไม่มีชื่อ คงถึงเวลาที่จะต้องคืนให้กับคนที่ควรจะรับมันแล้ว

โรงเรียนสอนดนตรี….

“กลับบ้านดีๆนะครับ”

“ขอบคุณค่ะครู”

“ครูซางามิ มีของฝากมาถึงคุณค่ะ” ครูผู้ช่วยเดินเข้ามาและยื่นซองจดหมายให้ชายหนุ่ม

“อ่า…ขอบคุณครับ”

ซางะรับซองจดหมายและยกมันขึ้นมามองระดับสายตา ข้างในไม่ใช่จดหมายแต่เป็นอย่างอื่น

และพอแกะมันออกมาก็พบว่ามันคือไดรฟ์เก็บข้อมูลชิ้นเล็กๆ พร้อมกับโน้ตที่เขียนชื่อของซางะมาสั้นๆ

“หรือว่าจะเป็นเพลงใหม่ของเซียว”

คิดเอาง่ายๆและเดินกลับเข้าไปในห้องสอนดนตรีซึ่งตอนนี้นักเรียนได้กลับกันไปหมดแล้ว ไดรฟ์เสีบเข้ากับโน้ตบุ๊ค ไฟล์เดียวที่ยังเหลืออยู่มีแค่วิดีโอไม่มีชื่อ และเมื่อกดเปิดเข้าไปดูเท่านั้น ทุกอย่างรอบตัวซางะก็หยุดนิ่ง ดวงตีเทาสั่นระริกสะท้อนภาพของหญิงสาวที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ

[….อืม….แบบนี้คงได้นะ แหะๆ เขินจัง….]

ตึกตักๆๆ…

เสียงหัวใจเต้นแรงพอๆกับเสียงลมหายใจที่เริ่มติดขัด

วากานะ!....เธอกำลังทำอะไร

[สวัสดี ซางามิ]

“เฮือก!!!”

[…..ฮืม…. ถ้าเธอดูอยู่ตอนนี้ ฉันเดาว่าเธอคงจะสบายดี อ่า…ฉันจะพูดอะไรกับเธอดีนะ….ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ ซางามิ ฉันดีใจที่ได้รู้จักกับเธอ และขอโทษด้วยที่ทำร้ายเธอ หวังว่าเธอจะให้อภัยฉันนะ]

“อึก…คุณไม่ได้ทำร้ายผม…”

ซางะพึมพำเสียงสั่น ทั้งที่รู้ว่าเสียงของเขาไม่อาจตอบสนองคนในวิดีโอได้ก็ตามที่ ในขณะที่ภาพบนหน้าจอยังเคลื่อนไหวดำเนินไปเรื่อยๆ

[ฉันขอโทษที่ทำแบบนี้ แต่ว่า…ฉันไม่เสียใจหรอกนะ อย่างน้อยฉันก็ได้รู้จักกับเธอ ฉันชอบเพลงของเธอ ฉันจะรอฟังเพลงของเธอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อย่าตามหาฉัน แล้วก็อย่าโทษตัวเอง ฉันจะมีความสุขและหวังว่าเธอจะมีความสุขเหมือนกัน ร้องเพลงให้ฉันฟังเยอะๆนะ…ฉันรักเธอซางามิ….น้องชายสุดที่รักของฉัน….]

สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะมองเขาเป็นน้องชายไม่เปลี่ยนแปลง วิดีโอจบลงเหลือไว้เพียงหน้าจอโน้ตบุ๊คมืดสนิท ซางะหลับตาลงข่มอารมณ์ที่ประดังเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ฝ่ามือหนายกขึ้นปิดตาสองข้างที่กำลังห้ามเจ้าน้ำใสๆที่ปริ่มออกมา

 

สองขาก้าวยาวๆผ่านผู้คนที่เดินสวนผ่านบางตา อากาศหน้าหน้าหนาวเลวร้ายจนผู้คนไม่อยากออกจากบ้าน แต่ก็สู้ความอบอุ่นในใจตอนนี้ไม่ได้

ซางะเดินด้วยความเร็วที่คงที่และตรงไปหาร่างสูงโดดเด่นที่กำลังยืนพ่นไอหนาวออกจากปาก เขาไม่พูดอะไรและเดินเข้าไปวาดแขนข้างหนึ่งขึ้นโน้มลำคอของอีกฝ่ายเข้ามาสวมกอด

สวบ….

“….กลับมาแล้วเหรอ”

เสียงทุ้มประโยคแรกทักมา แต่ซางะก็ได้แต่ส่งเสียงอือเบาๆและซบหน้าบนไหล่ของชินระ

“….ขอบคุณ”

“………..”

“ฉันขอโทษ”

ขอโทษสำหรับทุกอย่าง และขอบคุณสำหรับทุกอย่าง

“หึ……อะไรล่ะนั่น”

“………..”

ไม่มีเสียงพูดคุยใดๆเล็ดลอดออกมาอีก นอกจากสองร่างที่กอดกันอยู่ท่ามกลางหิมะที่กำลังตกปรอยๆ

…………………………………………………………..

ซางะกำลังฟังนิทาน มันเป็นเรื่องเล่าที่ดึงเขาให้เข้าไปอยู่ในนั้นด้วย ผ่านคำพูดของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องเล่านั้น ทุกๆคำพูดมันสะท้อนถึงความเศร้าออกมาชัดเจน จนซางะชะงักไปหลายครั้ง

“…….ฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาล แล้วก็ได้รู้ว่าแม่กับน้องสาวของฉัน…ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว และยิ่งรู้ว่าแม่เป็นคนให้เลือดฉันเพื่อช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ ฉันก็ยิ่งโกรธพ่อแล้วก็เกลียดตัวเอง ฉันเกิดมาทำไมแล้วทำไมต้องเป็นฉันที่ยังอยู่ ตราบาปที่ฉันฆ่าแม่กับน้องมันไม่มีวันหายไป ฉันเลือกจะวิ่งหนีมัน แต่ไม่ว่าจะหนีไปเท่าไหร่สุดท้ายฉันก็ถูกจับกลับมาที่บ้านหลังนั้น กลายเป็นคนป่วยของแม่นาย แล้วกลายเป็นตัวประหลาดของคุสะ…..”

“…………”

“เรื่องวากานะ ฉัน……”

“พอเถอะ”

ซางะตัดบทไปทันที ถอนหายใจออกช้าๆจนสุดและมองสีหน้านิ่งๆของชินระ

“เรื่องมันผ่านไปแล้ว เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำเถอะ นายควรให้อภัยตัวเองได้สักที….ชินระ”

ซางะยิ้มจาง สองมือประคองใบหน้าคมเอาไว้อย่างมั่นคง ชินระมองเขาด้วยสายตาที่ยังฉายความเศร้า แต่ไม่นานรอยยิ้มเล็กๆก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเย็นชานั้นพร้อมกับมือหนาที่ยกขึ้นมาวางทาบมือของซางะ

บาดแผลไม่เคยหายไปหรอก แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยก็ตอนนี้…..

บุหรี่มวลแรกที่กำลังหมดถูกบี้ลงในแก้วรองรับขี้เถ้า ชินระนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างที่เป็นกระจกใส ก่อนจะหันกลับมามองคนรักที่ยังนอนคว่ำหลับสนิทอยู่บนเตียง

นานแล้วที่เขาไม่ได้ใช้ยากล่อมให้ตัวเองหลับ อาจจะตั้งแต่มีซางะเข้ามาอยู่ข้างๆ ยิ่งนานวันความรู้สึกก็ยิ่งมั่นคง หัวใจเหน็บหนาวที่ต้องเผชิญมันมาเพียงลำพังตลอดยี่สิบปี ตอนนี้มันอบอุ่นจนไม่อยากสูญเสียไปอีกแล้ว

พั่บ!

จดหมายที่เคยได้รับมาเมื่อครั้งก่อน หล่นลงมาจากชั้นวางตรงหัวเตียง มันยับยู่ยี่จนไม่เหลือรูปร่างของจดหมายแล้ว ชินระหยิบมันขึ้นมามองระดับสายตา ก่อนจะถอนหายใจ และจุดไฟเผามันจนกลายเป็นขี้เถ้าลงในแก้วรองก้นบุหรี่

ในเมื่อตอนนี้มีสิ่งสำคัญอยู่ข้างกายแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องไปรื้อฟื้นรักษาสัญญากับใครอีก

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา