หลุมพรางเหล่าตัวร้าย

8.0

เขียนโดย หัวมันซัง

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 01.50 น.

  13 ตอน
  1 วิจารณ์
  16.56K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2564 23.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) ปีศาจที่ดึงดูดฝูงปีศาจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


12.30 น.
"หิวจังหิวจังหิวจัง"

ผมกำลังฟังเสียงตอแหลๆของบับเบิล ที่มาทำหน้าทีสตาฟแท้ๆ แต่ดันแวะมารอผมหน้าห้องเด็กฝึก เพื่อบ่นว่าหิวๆๆๆ เออ ไปกินด้วยก็ได้ ผมกับบับเบิลที่นั่งอีกฝั่งโต๊ะกำลังค่อยๆกินข้าวของตัวเอง ไอ้ท่าทางสดใสเกินเหตุนี้มันอะไรกัน
"นี้ นายมาทำอะไรที่นี้กันแน่"
"ก็มาทำตามแผนการไง"
"เอาจริงดิ"
"จริงสิ คุณจิมมี่ก็เตรียมการไว้ให้เป็นอย่างดีเลยนะ"

 

จิมมี่ หึๆ รายนั้นก็แผนสูง ยังจำได้นะที่แอบทำพาสปอตหาย (จริงๆโยนลงท่อน้ำแบบจงใจ) เพื่อที่จะไปโรงพักที่ไอ้ สต็อป เข้าให้การอยู่ นี้จะรวมตัวเจ้าแผนการกันใช่ปะเนี่ย


"หูววว ไก่หละ"

 

นั้นเล่นของกิน แล้วนี้คงไม่กินแค่ไก่แล้วเทข้าวให้ผมเก็บแบบผู้ติดตามของมันอีกนะ


"ฉันไม่เก็บข้าวให้นายนะ อย่าเททิ้งซะหละ"
"555 ไม่เทหรอกน่าาาาา"
"กินข้าวให้หมดด้วย"
"นี้ ฉันหรือนายที่เป็นฮยองฮะ มาสั่งฉันอยู่ได้"
"แล้วนี้ นายทำอะไรบ้างเนี่ยวันนี้"
"ก็ไม่ได้ทำไรนะ เดินไปเดินมา หยิบนั่นนี้นิดหน่อย"
"ไม่ว่านายจะทำอะไร หวังว่ามันจะไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ" (จ้องแบบขู่ๆ)
"ฉันไม่ทำให้สต็อปของนายเดือดร้อนหรอกน่าาาา"

 

นั่น ไอ้สีหน้าท่าตาเป็นประกายนั้นมันอะไรกัน แต่เพียงพริบตาผมก็ต้องรู้สึกหวิวๆ เมื่อดวงตาของบับเบิล... มองไปข้างหลังผม แววตาเหมือนเจอของเล่นชิ้นใหม่


"เฮ้ๆ นายหนะ เทบิน ทางนี้ๆ มานี้หน่อยดิ"

 

เทบิน เป็นชื่อเด็กฝึกที่เข้าร่วมรายการเดียวกับสต็อปครับ บับเบิลรู้จักเทบินเหรอ? 
ผมหันไปมองเทบินที่ทำหน้างงๆ แต่ก็เดินมา


"สวัสดีครับฮยองบอม" ไอ้นี้ก็ดูเป็นเด็กมีมารยาทจัง ดูซื่อจนน่าเป็นห่วงที่จะให้คุยกับไอ้บับเบิล
"ฉันขอถ่ายรูปด้วยคนสิ ฉันติดตามรายการรอยู่นะ"

 

ชวิ๊งงงงงงง

 

เสียงคมดาบแห่งความตอแหล ผมคิดไปเองรึปล่าว ไอ้บับเบิลกำลังจะทำอะไร

 

"จริงเหรอครับ เขินจัง" ไอ้เด็กนี้ก็เชื่อไปได้ นั่นๆ เขินจนเห็นได้ชัด เป้านิ่งแล้วมั้งเทบิน อย่าหลงกลไอ้ตุ๊กตาปีศาจนี้นะ

"จริงสิ มาๆ"

 

ผมนั่งมองบับเบิลกับเทบินถ่ายรูปกันสองสามรูป ความรู้สึกเหมือนกำลังดูฉากที่ตัวร้ายวางแผนแกล้งนางเอกยังไงยังงั้น

 

"นี้ๆ ถ้าได้เดบิวท์แล้วฉันจะขอถ่ายรูปด้วยอีกทีนะ ได้มะ"
"ได้สิครับ"

 

เฮ้ออออออออออออออออออ จะช่วยมันยังไงดี

 

"ว่าแต่ นายอยากจะเดบิวท์กับใครบ้างหละ คิดว่าใครน่าจะได้เดบิวท์?"

 

หืมมมมมมมมมมมมมม คำถามนี้มันอะไรกัน

 

"อึมมมมมมมมม ... โจ อีซี มินฮยอค ...พี่สต็อป สี่คนนี้เป็นตัวเต็งนะครับ ผมอยู่ทีมอีซีครับ รายการแบ่งเป็น 4 ทีม ทีมละ4คน ทั้งรายการมี 16 ... แต่ทีมพี่สต็อปค่อนข้างหน้าเป็นห่วง กลัวว่าคนรอบข้างจะฉุดพี่สต็อปลง เพราะในทีมไม่มีสายร้องเลยครับ"

 

เทบินไม่รู้ว่าสต็อปมีเสียงที่ทรงพลังครับ แต่รายการที่ต้องร่วมมือในทีมเพื่อให้คนทั้งทีมรอดไอ้สต็อปต้องงัดความสามารถนี้ออกมาแน่

 

"อึม...จริงสินะ สต็อปเป็น เบสฟิลลิ๊งแดนซ์ สุดยอดคาริสม่าเลยหนิ ฉันเป็นสตาฟเห็นคนอื่นๆในทีมก็ไม่น่าจะเก่งเท่าไหร่ แต่มีอยู่คนนึงนะ"

 

หืมมมมมม ไอ้บับเบิลกำลังจะพูดอะไร ไหงข้อมูลแน่นแบบนี้ นี้คงไม่ได้ติวข้องมูลของผู้เข้าแข่งกับคุณจิมมี่มานะ


"คนที่ชื่อ ฮอนมินหนะ เหมือนจะอยู่ในสายเฟชออฟกรุ๊ปนะ แต่ความสามารถและเสียงร้องก็สู้เทบินไม่ได้หรอก คนนั้นคงไม่ทำให้ทีมสต็อปล่มหรอกใช่มะ"

 

เอ๊ ...ผมรู้สึกเหมือนบับเบิลกำลังสร้างความแตกแยก


"ไม่หรอกครับ ถ้าฮอนมินพยายามต้องออกมาดีแน่ๆ"
"จริงเหรอ ยังไงก็ฝากดูหน่อยนะ นอกจากนายฉันก็เชียสต็อปอยู่ด้วยหนะสิ ถ้าเป็นนายคงช่วยดูแลสต็อปและคอยกระตุ้นคนในทีมของสต็อปได้"
"ครับ ผมว่าจริงๆพี่สต็อปควรได้เพื่อนร่วมทีมที่ดีกว่านี้"

 

เอ๊ เหมือนจะเข้าทางไอ้บับเบิลแล้ว ไม่นะๆ หลุมพรางทางอารมณ์แบบนี้ ตกแล้วขึ้นยากนะ เทบินอาจจะมองฮอนมินไม่ดีได้ ผมตัดสินใจเตะขาบับเบิลเบาๆ


"อ๊ะ!! อะไรของนาย เตะฉันทำมัย นายก็คิดแบบฉันไม่ใช่เหรอ?"

 

เฮ้ยยยยยยยย ไอ้บ้านี้

 

"จริงเหรอครับพี่บอม"
"ไม่ใช่นะๆ"

 

จะดึงเอาผมเข้าไปเกี่ยวด้วยแบบนี้ไม่ดีแน่ ไอ้บับเบิลนี้ ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยจริงๆครับ ฮอนมินน่ารัก ถ้าได้เดบิวท์เป็นหน้าตาของวงก็ไม่แปลกหรอกเรื่องธรรมดา แล้วหน้าที่ของคนหน้าตาดีก็ไม่ต้องทำอะไรมากอยู่แล้ว ดีซะอีกที่มีคนน่ารักๆแบบฮอนมินในทีม ทีมจะยิ่งเป็นที่สนใจ 
แล้วผมจะแก้ตัวไงต่อวะเนี่ย

 

"บอมไม่กล้าพูดหรอก ยังไง ฮอนมินก็เป็นเพื่อนร่วมฝึกหนิ แต่บอมกับสต็อปสนิทกันจะตาย ใครๆก็ต้องเป็นห่วงเพื่อนเป็นธรรมดา"

 

นั่นไอ้นี้ก็ช่างหาเหตุผลมาสนับสนุน

 

"จริงสินะ พี่บอมสนิทกับพี่สต็อปหนิ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูให้เอง"

 

นั่นไงไอ้เด็กน้อย เทบินตกหลุมพรางบับเบิลเข้าจังๆ ผมจะช่วยยังไงวะ ผมที่โดนดึงเข้าไปเกี่ยวกับความคิดแย่ๆที่มีต่อฮอนมินยังดิ้นไม่หลุดเอาตัวรอดไม่ได้เลย ร้ายนักนะบับเบิล

 

"อ่าาา ผมจะเอาของกินไปให้พี่สต็อปกับคนในทีมด้วยนะครับ ทีมพี่สต็อปคงเครียดกว่าทีมอื่นๆ ไม่ยอมออกจากห้องฝึกเลย"

 

จริงสิครับ ผมยังไม่เห็นไอ้สต็อปเลย ถึงแม้จะไม่ค่อยมีใครกล้าคุยกับสต็อป แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนเกรียจหรือกลัวมันนะครับ อย่างเทบินนี้ เหมือนจะออกแนวชื่นชมไอ้สต็อปซะมากกว่า ทั้งโดนไอ้สต็อปแย่งขนม แย่งของกิน โดนแกล้งบ้างบางที แต่เหมือนเทบินจะพอใจนะครับ นอกจากผมก็คงมีเทบินนี้แหละที่รู้ว่าไอ้สต็อปชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไร


"พี่บอมมีอะไรจะฝากผมไปบอกพี่สต็อปป่าวครับ"


เอ่อ ไม่มีเหอะ ไม่มีโวย จะให้ฝากไปบอกว่าคิดถึงรึไง ผมส่ายหน้าไป 


"งั้น... ผมไปแล้วนะครับ"
"อ่า ฉันเป็นสตาฟนะ มีไรให้ช่วยบอกฉันนะ"


นั่นไอ้บับเบิล ผมคิดไปเองรึปล่าวว่ามันกำลังจะติดตามเทบิน เหมือนการติดตามผลวิจัย นี้คงเป็นส่วนนึงของแผนมัน มันคิดจะทำอะไรกันแน่

 

หลังจากที่เทบินเดินจากไป ผมจ้องหน้าบับเบิลตาเขม่น
"นี้มันอะไรกัน"
"อะไรเหรอ?" (หน้าใสซื่อ)
"ไม่ต้องมาเฉไฉ" (เน้นเสียงน้อยๆ)
"ฉันก็แค่พูดสิ่งที่คิดหนิ ไม่ดีเหรอ? มีคนคอยดูแลสต็อป"
"ชิ นายมันไม่น่าไว้ใจ"
"อะไรกันเล่า ฉันดูเป็นคนเลวร้ายรึไง" (ท่าทางน้อยใจ)
"มันไม่ได้ผลกับฉัน"
"เอาน่าาาาาา เพื่อทีมของเราเลยนะ"
"แต่นายไม่ควรทำให้เทบินรู้สึกแย่ต่อฮอนมินนะ"
"อะไรกันเล่า จะชอบไม่ชอบ ที่สุดแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับตัวเทบินเองต่างหากเล่า"

 

ชิ เถียงไปก็ไม่ช่วยให้บับเบิลสำนึกรู้ผิดชอบเลยครับ ไอ้บ้านี้ เทบินอายุ17ครับ ถึงจะไม่ใช่เด็กที่ไม่ทันอะไร แต่ดูก็รู้ว่าไม่ทันเลห์เหลี่ยมของบับเบิล ไม่ทันเลยสักนิด


"แล้วนี้ นายไปรู้จักพวกเค้าได้ยังไง ข้อมูลเยอะนะ"
"ก็คุณจิมมี่ไง ฉันเข้าเป็นสตาฟได้คุณจิมมี่ก็เป็นจัดการด้วยแหละ"

 

ชิ ซ่องโจรชัดๆ เหมือนคุณจิมมี่จะเอาจริงเอาจังกับโปรเจคจัดทีมของไบทซะเหลือเกิน

 

"แล้วเรื่องทีมของไบทหละถึงไหนละ"
"ทีมของเราต่างหาก ตอนนี้ก็ตกลงเซ็นร่วมทีมไป4คน รวมฉันกับไบทด้วย ที่เหลือก็สต็อปกับนาย และซอล ยังไงก็คงไม่มีปันหาหรอก แค่เอานายกับสต็อปมาได้ ทุกอย่างก็เสร็จสิ้น"

 

แค่คืนเดียวก็ได้มา3คน ผิดคาด

 

"ว่าแต่ไบทเป็นไงบ้างหละ บาดเจ็บมากรึปล่าว"
"ก็ไม่นะ เหมือนจะกำลังไปตาหาซอลอยู่"
"นี้นาย จริงจังกับทีมของไบทจริงๆเหรอ?"
"อึ้มม ก็แหงสิ นี้ ฉันเป็นสตาฟ แอบได้ยินมาว่ามีการเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายไว้แล้ว มีการแพลนๆวงไว้แล้วด้วย แต่ยังไม่มีชื่อของสต็อป รู้สึกเหมือนทางค่ายนายกำลังจะเขี่ยสต็อปออกจากค่ายด้วยรายการนี้นะ"

 

นั้นคือสิ่งที่คุณจิมมี่เคยบอกครับ ถ้าหากสต็อปตกรอบรายการนี้ทางค่ายจะไม่ต่อสัณญาเด็กฝึกกับสต็อป


"อึมมมมคุณจิมมี่บอกแล้ว"
"แต่ถ้าสต็อปแสดงพลังเสียงหละก็ ต้องมีชื่อสต็อปมาแน่ๆ และทีมที่แพลนไว้จะถูกจัดใหม่ เทบินหนะ ถูกแพลนไว้อยู่นะ ถ้าฉันเดา หากสต็อปถูกเอาชื่อเข้าเทบินจะถูกเอาชื่อออก"
"นายพุดอะไรของนาย"
"ก็ตามที่ได้ยิน ถ้าสต็อปรู้ว่าเป็นแบบนั้น สต็อปคงถอนตัวแน่ๆ แต่ก็นะ มันเป็นการแข่งแบบทีม นอกจจากคุณจิมมี่ก็ยังมีคุณโดฮยอนที่รู้เรื่องพลังเสียงของสต็อป คุณโดฮยอนจงใจจะทำให้สต็อปแสดงความสามารถ เพราะถ้าไม่ทำก็จะส่งผลต่อคนอื่นๆในทีม ฉันจะวางแผนต่อยังไงดีน๊าาาาา ถึงจะได้สต็อปมา"

 


หืมมม เหนื่อยใจนะครับ รอบตัวผมมีแต่คนแบบนี้เต็มไปหมด แต่ก็แปลกนะครับ ผมกลับไม่รู้สึกเกลียจพวกเขาเลย

 

ภาพในโทรศัพของบับเบิลกำลังเล่นไป ผมมองมันด้วยสายตาจับจ้องที่สต็อป เสตปนี้ซ้อมในเด็กฝึกมาเป็นเดือนแล้วครับ ไม่นึกว่าจะเป็นการเต้นในวิดีโออินโทลรายการ สต็อปเด่นมากครับเป็นสายเต้นที่ไม่ได้มีสกิลมาก แต่สต็อปเวลาเต้นมีเสน่ห์มากครับ โคตรจะขุมคาริสม่า เป็นที่ยอมรับ โดยรุ่นพี่ BTS ถึงจะดูแนวทางการเต้นไปทางนั้น แต่ลุคของสต็อปก็ค่อนข้างแรงกว่าหลายเท่า ผมเองก็มีความคิดว่าสต็อปเหมาะกับค่าย YG ที่ไม่ค่อยไมลเรื่องข่าวฉาว


ผมมองดูภาพในวิดีโอด้วยความรู้สึกคิดถึงแปลกๆ เหมือนเริ่มไกลกันกับคนที่สนิทมากๆ ใจหาย

 


0.30 น.

 

ผมนอนไม่หลับ แปลกจริงๆ ผมง่วงนะครับ หรือคืนนี้ห้องมันเงียบไป? แต่คงไม่เป็นไร ผมโดนพักงานไปแบบไม่รู้เหตุผล ตารางงานผมถูกเคลียและแทนที่ด้วยคนอื่น ราวกับว่าคุณจิมมี่ไปทำอะไรกับมัน ....ต้องเป็นแบบนั้นแหละ


"ทำมัยยังไม่นอนเนี่ย รอไร"


เสียงไอ้ตัวกวนใจผมครับ วาปมาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงตรงข้างๆเตียง ผมมองมันด้วยใจหน่วงๆแปลกๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทำหน้ายังไง มันถึงได้ทำหน้าเหมือนพี่ชายตอนเจอเด็กน้อยร้องห้ายแบบนั้น


"รอกรูเหรอ?"


มันถามผมยิ้มๆ ผมลุกขึ้นนั่ง รู้สึก.....เหมือนผมจะอยากกอดมัน


"เป็นอะไรรึปล่าว?"


มันถามผม ในหัวผมเหมือนว่างปล่าว มีเพียงแค่ต้อนนี้ผมพยายามข่มตัวเองไว้ในใจว่าอย่าไปกอดมันนะ

 

ความรู้สึกสับสนพวกนี้มันคืออะไรกัน?


"เหงาเหรอ?"


ไอ้บ้านี้ก็ถามอยู่ได้ ผมส่ายหน้าเบาๆ ไม่อยากขยับตัวมาก หัวผมกำลังสับสนเส้นบางๆนี้ผมอาจจะข้ามไปกอดมัน จริงอยู่ที่ระหว่างเพื่อน หนุ่มเกาหลีกอดได้ทันที แต่ผมกับมันมีความเป็นคนไทยสูง ผมไม่กล้ากอดมันโดยที่ไม่รู็ว่าจริงๆผมรู้สึกอะไร


"โกรธอะไรรึปล่าว?"


ถามอีกแล้วจะไม่ไหวแล้วนะโว้ย ผมตัดสินใจลุกหนีครับ แต่มันยังคงเดินตาม


"เป็นไรวะ?"
"ปล่าว"
"แล้วทำมัยเงียบ มีไรก็บอกดิวะ!!"


เหมือนมันจะเริ่มโมโหครับ ผมกำลังหยิบประติดปะต่อความรู้สึกของตัวเองอยู่คร่าวๆคือ ผมรู้สึกเหงาขึ้นหลังจากมันออกรายการ รู้สึกห่างกับมันจนใจหาย


"กินอะไรรึยัง?"

 

ผมพยายามถามแก้เก้อ แต่มันยังรอคำตอบจากผม ผมไม่รู้จะตอบมันยังไงในเมื่อตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่านี้มันความรู้สึกอะไรกันแน่ ผมเหงาเกินไปรึปล่าว? คิดถึงมันมากไปรึปล่าว?


"ไม่รู้หวะ ไม่รู้จะบอกยังไง กรูไม่ได้โกรธอะรมึงนะเว้ย"
"จริงหงะ"
"อึม..."
"เหงาอะดิ๊ คิดถึงกรูอะดิ"

 

....ผมไม่กล้าปฏิเสธมัน ปากไม่ขยับเลยสักนิดกับท่าทีล้อเล่นของมัน ผมรู้สึกเริ่มหายใจลำบาก


"อึม...คงจะแบบนั้นแหละ เหงา"
"นั่นไง กรูถึงได้แอบออกมาหามึงไง"
"เหรอออออ ไม่ใช่ว่าไม่อยากนอนต่างที่รึไง"
"ก็แหม หมอนข้างที่อื่นไม่อุ่นหนิ"
"เห็นกรูเป็นแค่หมอนข้างรึไง?"
"หรือยากเป็นมากกว่าหมอนข้าง"

 

........ อึ้ง ....อึ้งทำมัยวะกรู ???

 


"เวฟไอ้นี้ให้หน่อยนะ อันนี้ อันนี้ด้วย แกะขนมเทน้ำด้วย ไปอาบน้ำก่อน เดวมานะครับที่รัก"
"ที่รักพ่.....มึ..สิ"

 

ผมยังปากไวกับคำนี้นะครับ 555 ผมมองมันเดินไปอาบน้ำ แปลกจังผมรู้สึกโล่งใจขึ้นตั้งแต่ตอนไหนกัน ...ผมไม่ได้คิดมากไป? ผมไม่ได้รอมัน? แต่พอมันมา พอมันเซ้าซี้ เหมือนสนใจผม ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้น

 

 

หรือผมจะชอบมัน?

 

 

บางที...ผมอาจจะขี้เหงาเกินไป ผมยังคงยืนคิดนั่นนี้ มือก็ค่อยๆจัดเตรียมของกินบนโต๊ะ ก่อนไอ้ตัวกวนใจจะมาแกล้งกอดผมจากข้างหลังอย่างที่เคย ผมรวบรวมพลังในการหันไปมองหน้ามันในระยะใกล้ๆ ใบหน้านั้นยังคงยิ้มให้ผมอยู่เสมอ
ผมจำได้ดีครั้งแรกๆที่เจอกันมันแทบไม่ยิ้มอย่างสดใสแบบนี้ มันคือปีศาจ แต่หลังจากที่ได้อยู่ด้วยกัน หลังจากที่รู้สึกว่ามันทำตามสัญญา

 

ผมคิดเสมอว่า.....

 

ผมทำให้มันมีชีวิตชีวามากขึ้น


ผมคิดมาตลอดว่า....

 

ผมเปลี่ยนมัน


แต่ปล่าวเลย....

 

วันนี้ผมคิดว่ามันต่างหากที่เปลี่ยนผม

 

 

 


ทั้งหมดที่อดทนมาพังหมด ผมห้ามตัวเองไม่ไหว ผมหันไปกอดมันที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ผมเข้าใจตัวเองได้ในทันทีหลังจากปล่อยให้ตัวเองทำตามใจ

 

ผมไม่อยากให้มันได้เดบิวท์กับรายการตอนนี้ ผมอยากให้มันอยู่ข้างผม ผมกอดมันแน่น ไม่อยากรับรู้ว่ามันรู้สึกยังไง เพราะนอกจากตอนที่มันกอดผมก่อน หรือ มันตอนที่เสียใจอยู่ผม ไม่เคยกอดมันก่อน


"มีเรื่องที่บอกกรูไม่ได้อยู่เหรอวะ ...? ไม่เป็นไรนะเว้ย ยังไงมึงก็มีกรูนะครับ กูจะอยู่ข้างมึงเสมอเว้ย สบายใจจะพูดเมื่อไหร่ค่อยพูด"


ผมได้แต่คิดในใจบอกกับมันในใจ ผมไม่รู้หรอกว่าผมชอบมัน หรือผมเหงา ผมอยากมีมัน ไม่อยากให้มันไปไหน แค่รู็สึกว่ามันห่างผมไปผมไม่ชอบแบบนี้เลย


คืนนี้ผมถูกไอ้สต็อปนอนกอดครับ มันบอกว่าจะ 'ปลอบมึงเองๆ' นี้คือหนึ่งในความน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นบนโลกของผมครับ คนที่ผมเจอครั้งแรกก็คือตอนที่มันกำลังฆ่าคน แต่ไอ้คนคนนี้กลับ มีความอบอุ่นอย่างที่ผมไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า อย่าให้มากไปกว่านี้ ถ้าหากว่ามันมากจนเกินไป ผมคงจะเป็นคนที่ผิดหวังซะเองก็ได้

 

"ฝันดีเว้ย"

 

 

 

 

วันต่อๆมา

 

วันนี้ก็เหมือนเดิมครับ ผมเดินเข้าตึกต้อนช้าว  วันนี้เป็นวันถ่ายทำวิดีโอเปิดรายการ FourID รายการที่มีไอ้สต็อปนั่นแหละครับ ตึกยังคงเงียบ ผมมาไวกว่าที่ควร20นาที ก็ดีนะโล่งดี ตอนนี้ในลิฟมีแค่ผมกับ......

 

ใครวะ?

 

ผมมองเด็กหนุ่มตัวเล็ก .. สูงร้อยหกสิบกว่าๆมั้งครับ เขาสวมหมวกสวมแว่นดำ ผมพอจะมองออกแล้วว่าเขาคือ...

 

"จินฮวานใช่ปะครับ ? สวัสดีครับ" ผมทักทายตามมารยาท ถึงจะอายุเท่ากันแต่ผมก็เป็นรุ่นน้องในวงการ เขาไปได้ไกลและดังกว่าผมมากเลยครับตอนนี้ เขาดังสุดๆ เขาคือจินฮวานแห่ง YG ค่ายเดียวกับไบท

"อ่า... สวัสดี นายเห็นฉัน...   ฉันหมายถึงจำฉันได้ด้วยเหรอ?"   

"จำได้สิ นายดังมากเลยหนิ"

"นายคือบอม ใช่ปะ"    เฮ้ยยยยยย รู้จักชื่อผมด้วย

"ใช่แล้ว รู้ได้ไงเนี่ย เหลือเชื่อเลย"  มันเหลือเชื่อจริงๆครับ

"ฉันได้ดูรายการตอนที่นายอยู่ไทยอะ แล้วสต็อปเพื่อนของนาย ..เขาสบายดีไหม?"

"ครับสบายดี คงกำลังแต่ตัวเตรียมถ่ายรายการอยู่"

"อ่อ ..... นายอย่าบอกใครนะว่าเห็นฉันมาที่นี้"

"อ่า... ได้ๆ"

 

จินฮวานดูลับๆล่อนะครับ เขาอยู่ค่าย YG ค่ายเดียวกับไบทแต่ ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าเขามาที่นี้ทำมัย

 

ลิฟเปิดออกที่ชั้น3 ผมกับจินฮวานออกจากลิฟพร้อมกัน แต่เดินแยกไปคลละทาง  น่าสงสัยแฮะ ....

ตามไปดูดีมะ ???   เวลาเหลืออยู่นะ.... จะไปดีไหมนะ? คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?

 

 

หลังจากที่ผมเถียงกับตัวเองมาได้สักพัก ตัวผมก็กำลังซุกอยู่ในม่านแขวนเสื้อผ้า จุดนี้ไม่มีใครเห็นผมแน่นอน ตอนนี้ผมอยู่ในมุมอับลับสายตา ในห้องที่มีข้าวของสำหรับถายทำเต็มไปหมดห้องนี้เป็นห้องหนึ่งที่ร้อมล้านกว้าเป็นวงกลมครับ ใช้แต่งตัวแต่งหน้าแล้วก็เดินเข้าไปถ่ายทำในลานวงกลม แต่ก็มีของวางเต็มไปหมดเลย ทั้งชั้นวางของ แผงเสื้อผ้า อุปกรณ์สื่อต่างๆ จินฮวานเองก็นั่งข้างๆชั้นวางของตรงนั้นก็ไม่น่าจะมีใครสนใจหรือเห็นจินฮวานได้ครับ.... เขามาทำอะไรกันนะ

 

"น้องๆครับ แต่งหน้าแต่งตัวเสร็จแล้ว มารวมตัวกันกลางลานถ่ายเลยนะครับ"

 

เสียงทีมงานพูดบอก ผมเห็นเด็กฝึกค่อยๆเดินกันไปอีกห้องที่เป็นประตูกว้าง ห้องนั้นเป็นลานวงกลมสำหรับถ่ายทำ ห้องโถงวงกลมตรงนี้เชื่อมกับทุกห้องเหมือนเป็นใจกลางที่ถูกห้องอื่นๆอ้อมร้อมไว้ครับ เชื่อมกับห้องแต่งหน้าแต่งตัว เชื่อมกับห้องถ่ายทำ แยกไปอีกก็ห้องน้ำ ห้องประชุมผู้กำกับ และอีกห้องสองห้อง กว้างมากครับ

 

ผมนั่งมองจินฮวานที่กำลังเหม่อมองคนที่เดินผ่านไปมา ตอนนี้เด็กฝึกเริ่มแต่งตัวเสร็จกันหมดแล้วครับ ผมเห็นหลังไอ้สต็อปแวปๆด้วย

 

"มาทำอะไรตรงนี้น๊า"

 

...เสียงนี้มัน .... บับเบิล รู้ได้ไงว่าผมอย่าตรงนี้ผมแอบมิดชิดแล้วนะ เงียบไว้ก่อนดีกว่า

 

"อ่ออออ มาซุ่มดูคนน่าสงสัยอยู่อะดิ จินฮวานหนะ ตั้งแต่ฉันมาเป็นสตาฟก็เห็นหมอนั่นแทบทุกวันเลยหละ จ้องสต็อปของนายเป็นพิเศษเลย เหมือนเขามาสังเกตการสต็อปนะ"

 

เอ๋  จินฮวานมาดูสต็อป ทำมัยกัน?

 

"ไม่ต้องหึงไปหรอกน่า ฉันจะเฝ้าสต็อปของนายให้เอง ฉันหนะเป็นฮยองที่แสนดีและน่ารักนะจะบอกให้"

 

เอิ่มมม.....

 

ผมมองจินฮวานลุกจากที่ซ่อนแล้วเดินไปทาง ระเบียงหน้าต่างที่ส่องลงไปยังห้องถ่ายทำที่อยู่ต่ำกว่าห้องนี้ เหมือนเฝ้าดูใครสักคนในกลุ่มเด็กฝึก ผมลุกจากที่ซ่อนได้แล้ว

 

"นายว่าใครหึงวะไอ้เตี้ย"

"เฮ่ ฉันเป็นฮยองของนายนะ นายกล้าดียังไงมาเรียกฉันว่าไอ้เตี้ย นายต้องเรียกฉันว่าฮยองสิ อยากจมน้ำตายรึไงไอ้เด็กนี้"

"ชิ"  

 

ทำมัยต้องคิดว่าผมจะหึงไอ้สต็อปด้วยวะ จินฮวานน่าสงสัยเลยตามมาดูแค่นั้นเอง

 

"จริงสิ"   เสียงของบับเบิลฟังดูจริงจังขึ้น  "จินฮวานหนะ เป็นผู้ใช้พลังที่เรียกว่าฟินิค อบีลิตี้พิเศษของจินฮวานคือ การพรางตัวตามธรรมชาติหรือสิ่งแวดร้อม จากสายตาคนธรรมดาจินฮวานจะเหมือนล่องหนเลยหละถ้าเขาต้องการ แต่อบีลิตี้นี้จะไม่ค่อยมีผลกับผู้ที่มีพลังอย่างเรา เลยมีแค่ฉันกับนายที่เห็นเขายังไงหละ"

"จินฮวานเป็นผู้มีพลังเหรอ?"

"ใช่"

"แล้วไอ้อบีลิตี้นี้อะไรอะเหมือนในเกมมะ"

"อึ่ม.... ก็เหมือนที่ฉันสามารถสัมผัสถึงการมีอยู่และตำแหน่งของผู้ใช้พลังที่อยู่ใกล้ๆ และยังรู้ความสามารถของผู้ใช้พลังรอบตัวได้ มันเป็นความสามรถแฝงไง นายคิดว่าฉันควบคุมน้ำได้อย่างเดียวรึไง"

"นายทำได้ขนาดนั้นเลยเหรอ"

"ใช่ดิ INเลยต้องการตัวฉันเอามากๆเลยยังไงหละ สต็อปก็เหมือนกัน หมอนั้นมีขุมพลังที่น่าสนใจอยู่ สต็อปเป็นสายโลเกีย ลม และความมืด ทั้งยังใช้แรงดึงดูดได้อีก แถมอบีลิตี้ของสต็อปก็คือ รางสังหรคลื่นสัมผัสจิต"

"เอ๋ ไอ้นั้นมีอบีลิตี้ด้วยเหรอ? แล้วทำมัยฉันไม่มีหละ"

"555 นายก็มีนะแค่ยังไม่รู้ตัว"

"แต่ฉันก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย ไอ้สต็อปเองก็คงไม่รู้"

"จริงสิ หมอนั้นหนะ จะรับรู้ความรู้สึกของคนรอบข้างได้ไวมากๆ แทบจะอ่านใจคนได้เลยหละ แต่ก็นะ บางที สต็อปอาจจะรับรู้ความรู้สึกของนายก็ได้ สต็อปเลยสนิทกับนายและคุยกับนายขนาดนี้"

"หมายความว่าไง"

"ก็ .... บางทีหมอนั้นอาจจะรู้ว่านายชอบหมอนั้นก็ได้"

"ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะ"

"เฮ้อออออ เออๆ แต่สต็อปหนะ มีนิสัยที่ควบคุมยากไม่ฟังใครง่ายๆ ไม่แน่....."

"อะไร?"

"หมอนั่นอาจจะชอบนายก็ได้นะ"

 

 

...........

 

 

 

"เขินเหรอ?"

"เฮ้ยยย เขินอะไรหละ ไม่คุยด้วยแล้ว ฉันจะไปซ้อมแล้ว"

 

ผมเดินออกมาจากบับเบิลพร้อมเสียงบอกไลหลังว่าจะเฝ้าไอ้สต็อปให้เอง

 

เขินห่าอะไรเหล่า .... ....   .....   ..... แบบนี้เขาเรียกว่าเขินรึปล่าวครับ?

ใจเต้นแรง.... ผมชอบมันจริงๆเหรอ?

แล้วถ้าเกิดว่าไอ้สต็อปสัมผัสได้ว่าผม .....รู้สึกดี 

 

....ไม่ๆ คิดตามทำมัยวะเนี่น  ไอ้บับเบิลมันแกล้งผมแน่ๆ

 

ช่างเถอะ ไปซ้อมดีกว่า ผมรู้สึกถึงพลังที่ล้นยังไงบอกไม่ถูกวันนี้ผมคงมีแรงซ้อมเต็มที่แน่ๆ แต่อีกใจยังคงสงสัยในตัวจินฮวาน เขาสนใจอะไรในตัวสต็อป หรือเขาเคยรู้จักมัน จริงๆแล้วเขามาทำอะไรกันแน่

 


Jinhwan-Ikon

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา