เล่ห์ทรายร่ายรัก
8.0
เขียนโดย เข็มมุก
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 18.36 น.
7 ตอน
1 วิจารณ์
8,999 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 19.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) เงื่อนไข
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ฉันเรียกทุกคนมาวันนี้ คงทำให้พวกเธอแปลกใจไม่น้อย” เสียงของสเตฟานประมุขของบ้านเดเยอร์เอ่ยขึ้น เมื่อทุกคนเข้ามารวมตัวกันในห้องทำงานหรูส่วนตัวภายในคฤหาสน์ตระกูลเดเยอร์หลังงามแห่งนี้
“คุณพ่อมีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับพวกเราทุกคนก็พูดเถอะครับ เพราะทุกคนในตระกูลเดเยอร์อยู่ที่นี่หมดแล้ว”ฟรานซิสโก้เอ่ยเรียบๆ แต่ทำให้เอลิซ่าและโซเฟียสองแม่ลูกนึกหมั่นไส้เขาขึ้นมาติดหมัด
ส่วนนาญ่าและมุจรินทร์ไม่อยากยุ่งเกี่ยวมากนัก จึงนั่งฟังเงียบๆเพียงแต่ในใจตระหนักดีว่า...คุณปู่คงมีเรื่องสำคัญ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นคงไม่ถึงกับให้ฟรานซิสโก้ไปรับแม่ของเธอจากเมืองไทยมาที่นี่ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่รู้ว่าถ้ามุจรินทร์มาที่นี่โซเฟียคงโวยวายไม่เลิกเป็นแน่
“สถานการณ์การเงินในการลงทุนของเราตอนนี้ถึงขั้นวิกฤต เนื่องจากถูกยักยอกและฉ้อโกงโดยหุ้นส่วนที่เราไว้ใจ ดังนั้นเพื่อไม่ให้บริษัทในเครือดีวายซีทั้งหมดต้องขาดทุนและล้มละลาย ฉันจึงได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าของฉัน คือท่านชีคแห่งอัลฮับบรา โดยให้ท่านฮิบบินลาเข้ามาร่วมลงทุนและพยุงหนี้ของบริษัทเราเอาไว้ทั้งหมด”
“หมายความว่ายังไงคะคุณพ่อ? ครอบครัวเราจะล้มละลายเหรอคะ?” โซเฟียโวยวายเสียใหญ่โต
“ยังหรอกโซเฟีย ฉันบอกแล้วไงว่าเราจัดการได้ เพียงแต่ว่า...”
“เขามีเงื่อนไขอะไรหรือคะคุณพ่อ? หรือว่าเราต้องยกกิจการทั้งหมดของเราให้เขาไป แบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาเข้ามาเทคโอเวอร์ทั้งหมดเลยซิคะ” โซเฟียเอ่ยสอดแทรกขึ้นมาทันทีอย่างไม่ยอมฟังสเตฟานพูดจนจบด้วยซ้ำ
“มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกโซเฟีย” สเตฟานหันไปมองโซเฟียด้วยสายตาตำหนิ
“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อทำไมไม่บอกรินทร์เลยคะ รินทร์จะได้ย้ายฐานการลงทุนที่เมืองไทย มาช่วยพยุงทางนี้ไว้ก่อนเพราะตอนนี้ทางโน้นยังไม่น่าลงทุน เราก็น่าจะมีเม็ดเงินมาหมุนได้อย่างไม่ขาดมือ” มุจรินทร์เสนอด้วยความจริงใจ
“ขอบใจนะ แต่พ่อทำข้อตกลงกับเค้าไว้แล้ว และก็ไม่อยากทำให้เราต้องลำบากด้วย”
“ไม่หรอกคะ ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ”
คำตอบของมุจรินทร์ ทำให้โซเฟียแบะปากอย่างหมั่นไส้กับท่าทางอ่อนน้อมและดูเป็นห่วงเป็นใยสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทของพ่อสามีเธอนัก
“เพราะคุณพ่อเห็นแล้วไง ว่ายังไงเธอก็คงช่วยไม่ได้ ถึงไม่ได้บอกเธอตั้งแต่แรกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ” โซเฟียหันไปพูดอย่างเยาะหยัน
“โซเฟีย!!หยุดสักทีเถอะ ฉันไม่ได้เชิญเธอให้มาพูดทับถมคนอื่นเขานะ” นายใหญ่บ้านเดเยอร์เอ่ยอย่างเหลือทน ทำให้โซเฟียถึงกับนั่งหน้างอไปเลย
“เมื่อกี้คุณพ่อบอกว่า...ทางท่านชีคทรงมีเงื่อนไข แล้วเงื่อนไขที่ว่า...คืออะไรเหรอครับ?” ฟรานซิสโก้ถามเมื่อเห็นว่าโซเฟียเงียบเสียงของเธอลงแล้ว
“ท่านชีคทรงยอมช่วยเหลือและสนับสนุนบริษัทเราเป็นเงินกว่าห้าสิบล้านดอลลาร์ แต่ท่านมีเพียงเงื่อนไขเดียวที่ต้องการจากพวกเรา......” ท้ายเสียงของประมุขบ้านเดเยอร์เงียบไป ทำให้ทุกคนมองอย่างเป็นห่วง สเตฟานก็เหลือบสายตาหันไปมองหลานสาวทั้งสองคนเพียงครู่แล้วจึงเอ่ยออกมา
“ถึงแม้เขาไม่ต้องการสัญญาทางธุรกิจ แต่เขาต้องการพันธสัญญาจากคน”
“หมายความว่ายังไงครับพ่อ?”
“ฉันต้องยกหลานสาวคนใดคนหนึ่งของฉัน ให้แต่งงานกับชีคการิมพระนัดดาของท่านชีคฮิบบินลาแห่งอัลฮับบรานะสิ” เสียงสเตฟานเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อได้ยินดังนั้นมุจรินทร์ถึงกับผวากอดลูกสาวคนเดียวของตนเอาไว้ในอ้อมกอด ผิดกับโซเฟียที่ยิ้มแย้มแล้วกล่าวออกมาอย่างดีใจ
“ก็ดีสิคะคุณพ่อ อัลฮับบราเป็นประเทศที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของโลก เพราะมีทั้งเหมืองเพชรและก็บ่อน้ำมันเยอะแยะไปหมด อย่างนี้ครอบครัวเราก็มีแต่จะร่ำรวยขึ้นต่างหาก” โซเฟียสนับสนุนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า...เธอเป็นพวกที่เห็นแก่สิ่งของนอกกายมากแค่ไหน
“เอาเป็นว่า...ฉันแค่บอกให้หลานสาวทั้งสองคนของฉันเตรียมตัวก็แล้วกัน เพราะไม่ว่าทางโน้นเขาจะเลือกใคร? การแต่งงานครั้งนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือบ่ายเบี่ยงใดๆทั้งสิ้น เอาล่ะออกไปกันได้แล้วฉันต้องการจะพักผ่อน” เสียงประมุขตระกูลเดเยอร์เอ่ยอย่างจริงจังแบบไม่ค่อยได้ยินบ่อยเท่าไรนัก
เมื่อออกมาจากห้องทำงานของประมุขบ้านเดเยอร์ เอลิซ่าก็แกล้งพูดขึ้นเสียงดัง เพื่อหวังจะให้นาญ่าและแม่ของเธอเจ็บใจเล่นๆเท่านั้นเอง
“แหม...แม่คะ! การิมเนี่ย...เขาเข้าใจเล่นจังเลย อยากจะช่วยเหลือครอบครัวเรา แต่กลับอ้างเงื่อนไขแต่งงานมาบังหน้า เขาก็น่าจะรู้นะคะ...ว่ายังไงลิซเต็มใจแต่งกับเขาอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องอ้อมค้อมให้ยุ่งยากเลย”
“นั่นนะสิ การิมเขาน่ารักออก แม่ช๊อบ...ชอบเขา ดีแล้วล่ะลูก อย่างนี้ลูกของแม่ก็เป็นว่าที่พระชายานะสิ ดีจังเลยนะฮิๆ” เสียงของสองแม่ลูกต่อกระซิกกันทำให้ฟรานซิสโก้เอ่ยอย่างทนไม่ไหว
“ยังไงก็เป็นเงื่อนไขที่ไม่น่ายอมรับอยู่ดี เพราะแบบนั้นก็เท่ากับเราขายลูกสาวให้เขานะ”
“ช่างประไร! ลูกเรากับเขาก็รักกัน อาจจะมีเงื่อนไขอยู่บ้างแล้วทำไมคุณต้องสน” โซเฟียหันไปลอยหน้าลอยตาถามสามี ฟรานซิสโก้ทนไม่ไหวจึงรีบเดินหนีไปพร้อมกับดึงมือของมุจรินทร์และนาญ่าให้เดินตามเขาไปด้วย โดยมีสายตาของโซเฟียมองตามอย่างชิงชัง
************************
“คุณพ่อมีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับพวกเราทุกคนก็พูดเถอะครับ เพราะทุกคนในตระกูลเดเยอร์อยู่ที่นี่หมดแล้ว”ฟรานซิสโก้เอ่ยเรียบๆ แต่ทำให้เอลิซ่าและโซเฟียสองแม่ลูกนึกหมั่นไส้เขาขึ้นมาติดหมัด
ส่วนนาญ่าและมุจรินทร์ไม่อยากยุ่งเกี่ยวมากนัก จึงนั่งฟังเงียบๆเพียงแต่ในใจตระหนักดีว่า...คุณปู่คงมีเรื่องสำคัญ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้นคงไม่ถึงกับให้ฟรานซิสโก้ไปรับแม่ของเธอจากเมืองไทยมาที่นี่ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่รู้ว่าถ้ามุจรินทร์มาที่นี่โซเฟียคงโวยวายไม่เลิกเป็นแน่
“สถานการณ์การเงินในการลงทุนของเราตอนนี้ถึงขั้นวิกฤต เนื่องจากถูกยักยอกและฉ้อโกงโดยหุ้นส่วนที่เราไว้ใจ ดังนั้นเพื่อไม่ให้บริษัทในเครือดีวายซีทั้งหมดต้องขาดทุนและล้มละลาย ฉันจึงได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าของฉัน คือท่านชีคแห่งอัลฮับบรา โดยให้ท่านฮิบบินลาเข้ามาร่วมลงทุนและพยุงหนี้ของบริษัทเราเอาไว้ทั้งหมด”
“หมายความว่ายังไงคะคุณพ่อ? ครอบครัวเราจะล้มละลายเหรอคะ?” โซเฟียโวยวายเสียใหญ่โต
“ยังหรอกโซเฟีย ฉันบอกแล้วไงว่าเราจัดการได้ เพียงแต่ว่า...”
“เขามีเงื่อนไขอะไรหรือคะคุณพ่อ? หรือว่าเราต้องยกกิจการทั้งหมดของเราให้เขาไป แบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาเข้ามาเทคโอเวอร์ทั้งหมดเลยซิคะ” โซเฟียเอ่ยสอดแทรกขึ้นมาทันทีอย่างไม่ยอมฟังสเตฟานพูดจนจบด้วยซ้ำ
“มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกโซเฟีย” สเตฟานหันไปมองโซเฟียด้วยสายตาตำหนิ
“ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อทำไมไม่บอกรินทร์เลยคะ รินทร์จะได้ย้ายฐานการลงทุนที่เมืองไทย มาช่วยพยุงทางนี้ไว้ก่อนเพราะตอนนี้ทางโน้นยังไม่น่าลงทุน เราก็น่าจะมีเม็ดเงินมาหมุนได้อย่างไม่ขาดมือ” มุจรินทร์เสนอด้วยความจริงใจ
“ขอบใจนะ แต่พ่อทำข้อตกลงกับเค้าไว้แล้ว และก็ไม่อยากทำให้เราต้องลำบากด้วย”
“ไม่หรอกคะ ยังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ”
คำตอบของมุจรินทร์ ทำให้โซเฟียแบะปากอย่างหมั่นไส้กับท่าทางอ่อนน้อมและดูเป็นห่วงเป็นใยสถานการณ์ทางการเงินของบริษัทของพ่อสามีเธอนัก
“เพราะคุณพ่อเห็นแล้วไง ว่ายังไงเธอก็คงช่วยไม่ได้ ถึงไม่ได้บอกเธอตั้งแต่แรกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ” โซเฟียหันไปพูดอย่างเยาะหยัน
“โซเฟีย!!หยุดสักทีเถอะ ฉันไม่ได้เชิญเธอให้มาพูดทับถมคนอื่นเขานะ” นายใหญ่บ้านเดเยอร์เอ่ยอย่างเหลือทน ทำให้โซเฟียถึงกับนั่งหน้างอไปเลย
“เมื่อกี้คุณพ่อบอกว่า...ทางท่านชีคทรงมีเงื่อนไข แล้วเงื่อนไขที่ว่า...คืออะไรเหรอครับ?” ฟรานซิสโก้ถามเมื่อเห็นว่าโซเฟียเงียบเสียงของเธอลงแล้ว
“ท่านชีคทรงยอมช่วยเหลือและสนับสนุนบริษัทเราเป็นเงินกว่าห้าสิบล้านดอลลาร์ แต่ท่านมีเพียงเงื่อนไขเดียวที่ต้องการจากพวกเรา......” ท้ายเสียงของประมุขบ้านเดเยอร์เงียบไป ทำให้ทุกคนมองอย่างเป็นห่วง สเตฟานก็เหลือบสายตาหันไปมองหลานสาวทั้งสองคนเพียงครู่แล้วจึงเอ่ยออกมา
“ถึงแม้เขาไม่ต้องการสัญญาทางธุรกิจ แต่เขาต้องการพันธสัญญาจากคน”
“หมายความว่ายังไงครับพ่อ?”
“ฉันต้องยกหลานสาวคนใดคนหนึ่งของฉัน ให้แต่งงานกับชีคการิมพระนัดดาของท่านชีคฮิบบินลาแห่งอัลฮับบรานะสิ” เสียงสเตฟานเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อได้ยินดังนั้นมุจรินทร์ถึงกับผวากอดลูกสาวคนเดียวของตนเอาไว้ในอ้อมกอด ผิดกับโซเฟียที่ยิ้มแย้มแล้วกล่าวออกมาอย่างดีใจ
“ก็ดีสิคะคุณพ่อ อัลฮับบราเป็นประเทศที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของโลก เพราะมีทั้งเหมืองเพชรและก็บ่อน้ำมันเยอะแยะไปหมด อย่างนี้ครอบครัวเราก็มีแต่จะร่ำรวยขึ้นต่างหาก” โซเฟียสนับสนุนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่า...เธอเป็นพวกที่เห็นแก่สิ่งของนอกกายมากแค่ไหน
“เอาเป็นว่า...ฉันแค่บอกให้หลานสาวทั้งสองคนของฉันเตรียมตัวก็แล้วกัน เพราะไม่ว่าทางโน้นเขาจะเลือกใคร? การแต่งงานครั้งนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือบ่ายเบี่ยงใดๆทั้งสิ้น เอาล่ะออกไปกันได้แล้วฉันต้องการจะพักผ่อน” เสียงประมุขตระกูลเดเยอร์เอ่ยอย่างจริงจังแบบไม่ค่อยได้ยินบ่อยเท่าไรนัก
เมื่อออกมาจากห้องทำงานของประมุขบ้านเดเยอร์ เอลิซ่าก็แกล้งพูดขึ้นเสียงดัง เพื่อหวังจะให้นาญ่าและแม่ของเธอเจ็บใจเล่นๆเท่านั้นเอง
“แหม...แม่คะ! การิมเนี่ย...เขาเข้าใจเล่นจังเลย อยากจะช่วยเหลือครอบครัวเรา แต่กลับอ้างเงื่อนไขแต่งงานมาบังหน้า เขาก็น่าจะรู้นะคะ...ว่ายังไงลิซเต็มใจแต่งกับเขาอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องอ้อมค้อมให้ยุ่งยากเลย”
“นั่นนะสิ การิมเขาน่ารักออก แม่ช๊อบ...ชอบเขา ดีแล้วล่ะลูก อย่างนี้ลูกของแม่ก็เป็นว่าที่พระชายานะสิ ดีจังเลยนะฮิๆ” เสียงของสองแม่ลูกต่อกระซิกกันทำให้ฟรานซิสโก้เอ่ยอย่างทนไม่ไหว
“ยังไงก็เป็นเงื่อนไขที่ไม่น่ายอมรับอยู่ดี เพราะแบบนั้นก็เท่ากับเราขายลูกสาวให้เขานะ”
“ช่างประไร! ลูกเรากับเขาก็รักกัน อาจจะมีเงื่อนไขอยู่บ้างแล้วทำไมคุณต้องสน” โซเฟียหันไปลอยหน้าลอยตาถามสามี ฟรานซิสโก้ทนไม่ไหวจึงรีบเดินหนีไปพร้อมกับดึงมือของมุจรินทร์และนาญ่าให้เดินตามเขาไปด้วย โดยมีสายตาของโซเฟียมองตามอย่างชิงชัง
************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ