เล่ห์ทรายร่ายรัก
เขียนโดย เข็มมุก
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 18.36 น.
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 19.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) รอยแค้นใจใน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอุทยานหลวงในเขตพระราชวังอัลอิบบินจามานของอัลฮับบรา ร่างเล็กของเด็กหญิงวัยหกขวบวิ่งเข้าไปหาพี่ชายที่นั่งอยู่บนโขดหินใกล้กับบ่อน้ำพุใหญ่กลางสวนพันธุ์ไม้งามตระการตา เด็กหนุ่มร่างสูงแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียนเตรียมทหารเต็มยศของโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิต์อันโด่งดังของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าบรรดาเหล่าราชวงศ์ทั่วโลกต่างก็ส่งบรรดาเชื้อสายของตนไปเรียนวิชาการทหารจากที่นั่น การิมแต่งกายเช่นนี้ก็เพื่อต้องการไว้ทุกข์ให้กับมารดาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถคว่ำ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ใช้เวลากับมารดาของตนมากนัก หากแต่การิมเองทราบสาเหตุที่แท้จริงนั้นดีว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากการจัดฉากอย่างจงใจของเสด็จป้าที่ทรงเกลียดชังมารดาของเขาหนักหนา เพียงเพราะท่านเป็นหญิงนอกศาสนา จึงไม่คู่ควรที่จะเป็นสมาชิกของราชวงศ์ที่มีสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของพระนาง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเสด็จปู่ฮิบบินลาและชีคซาอิดท่านพ่อของการิม
“เจ้าพี่การิมเพคะ...ทำไมเจ้าพี่มานั่งอยู่ตรงนี้ไม่เข้าไปข้างใน ป่านนี้ท่านพ่อคงตามหาเจ้าพี่แย่แล้ว” เสียงใสเจื้อยแจ้วเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา
ราชนิกุลหนุ่มในฐานะพี่ชายหันกลับมาสบสายตากับดวงตาใสสีน้ำทะเล ซึ่งถอดแบบมาจากพระมารดาผู้ล่วงลับ ดวงตากลมโตใสแป๋ว ช่างไร้แววความโศกเศร้าใดๆ มีเพียงความอยากรู้อยากเห็นแบบเด็กๆ เพราะร่างเล็กตรงหน้ายังไม่เข้าใจความหมายของการสูญเสียคนที่ตนรักไป
“เดี๋ยวพี่จะตามเข้าไป น้องหญิงเข้าไปหาท่านพ่อก่อนเถอะนะ...” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบอย่างพยายามสกัดกั้นก้อนสะอื้นที่วิ่งขึ้นมาในอก
“แล้วทำไม...เจ้าพี่ร้องไห้ล่ะเพคะ?” คำถามอันไร้เดียงสาของเด็กหญิงตัวน้อยและมืออันบอบบางที่เอื้อมมาแต่ใบหน้าคราม ทำให้กำแพงน้ำแข็งของพี่ชายคนเก่งที่สร้างเอาไว้พังทลาย หยาดน้ำใสๆจึงไหลออกมาจากดวงตาสีทองเป็นประกายอย่างไม่ขาดสาย
“โซเนีย...ต่อไปนี้ครอบครัวเราจะมีแต่ท่านพ่อ พี่ แล้วก็น้องโซเนียเท่านั้นแล้วนะ” เสียงทุ้มพยายามเอ่ยออกมาอย่างยากเย็น
“แล้วท่านแม่ล่ะเพคะเจ้าพี่...” เสียงเล็กเอ่ยถามด้วยดวงตาใสแวววาว
“ท่านไปอยู่บนสรวงสวรรค์...ในดินแดนแห่งพระเป็นเจ้า โซเนียก็ต้องสวดมนต์ให้ท่านทุกวันนะ แล้วท่านจะอยู่กับโซเนียตลอดไป” การิมเอ่ยและยกมือขึ้นลูบศีรษะของน้องสาวตัวเล็กอย่างแสนรัก
“เพคะ...โซเนียจะสวดมนต์ ขอพรให้ท่านแม่ ท่านพ่อ แล้วก็เจ้าพี่การิมทุกวันเลย โซเนียสัญญาเพคะ” เสียงใสตอบรับอย่างมาดมั่นด้วยดวงตาเป็นประกายสมวัย พร้อมกับโอบมือเล็กบอบบางทั้งสองข้างของตนไว้ที่เอวสอบของพี่ชายที่รักอย่างแน่นเหนียว ราวกับจะหาที่พักพิงอันมั่นคงและอบอุ่นสำหรับชีวิตของตนจากนี้และตลอดไป
พี่จะปกป้องเจ้าด้วยชีวิต จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายน้องสาวของพี่เป็นอันขาด ร่างสูงปฏิญาณก้องอยู่ในใจและโอบกอดเด็กหญิงร่างน้อยเอาไว้อย่างหวงแหนและห่วงใย
12 ปีต่อมา...ลอนดอน
“พี่การิมคะ...โซเนียสอบเข้า Universita di Pisa ที่อิตาลีได้ พี่ชายให้โซเนียไปเรียนที่นั่นนะคะ...” น้ำเสียงหวานใสออดอ้อนพี่ชายตัวโต เพราะรู้ว่าพี่ชายคนนี้ไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้งหลังจากที่เสียมารดาไป อีกทั้งยังมักจะไม่ใช้ราชาศัพท์ในการพูดคุยกันเสมอ หากอยู่ในที่ส่วนตัวและไกลจากสายตาของคนในราชวงศ์
“ทำไมเราถึงเลือกมหาวิทยาลัยเสียไกลซะขนาดนั้น?” การิมเอ่ยถามโซเนียเสียงเข้ม ทั้งๆที่เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะทำงานของตนด้วยซ้ำ
“ก็แหม...ถ้าโซเนียเลือกใกล้ๆแถวนี้ เดี๋ยวก็ไม่รู้จักโตสักที...ต้องคอยให้พี่การิมช่วยอยู่ตลอดสิคะ” เสียงหวานเถียงพร้อมกับเป่าลมในปากจนแก้มเนียนอมชมพูทั้งสองข้างพองราวกับลูกโป่งสีสดใสในสวนสนุก
“ถ้าพี่ปล่อยให้เราไปอยู่อิตาลี แล้วใครจะไปดูแลเราล่ะ...” การิมถามพร้อมกับเงยหน้าครามขึ้นมาจ้องมองใบหน้างามที่สวยใสตรงหน้าอย่างสงสัย
“แหม...ที่อิตาลีก็มีบริษัทในเครือของอัลฮับบราอยู่ เวลาที่พี่การิมไปตรวจงานก็แวะไปหาโซเนียได้หนิคะ...นะๆๆๆ โซเนียสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี แล้วก็จะโทรหาพี่การิมรายงานตัวกับพี่ทุกวันเลย...นะคะ...” โซเนียเดินเข้าไปกอดแขนแกร่งอย่างออดอ้อนและหอมแก้มของพี่ชายทั้งสองข้างไปมาอย่างแสนรัก แถมยังทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารอีกต่างหาก
“เอางั้นก็ได้...แต่เราต้องโทรหาพี่ทุกวันตามที่สัญญานะ ตกลงไหม?” การิมยอมตอบตกลงกับคำขอแบบออดอ้อนของน้องสาวที่เขามักจะแพ้เสมอ แต่ก็ไม่วายกำชับด้วยน้ำเสียงเข้มดุตามสไตล์ของตน
“ได้เลยคร่า...ท่านชีค”
ร่างบางรับปากตกลงอย่างดีใจ และก้มใบหน้างามลงซบบนแผ่นอกกว้างที่อบอุ่นเสมอของพี่ชายคนเดียวที่เปรียบเสมือนบิดาคนที่สองของตน
หากแต่คำสัญญาของท่านหญิงโซเนียนั่นเป็นไปตามความต้องการของการิมได้เพียงปีกว่าๆ พักหลังกลายเป็นสองสามครั้งต่ออาทิตย์โดยให้เหตุผลกับพี่ชายว่ายุ่งอยู่กับกิจกรรมของมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความเชื่อใจในตัวของน้องสาว ชีคหนุ่มจึงไม่ซักไซ้ ถ้าหากไม่มีภาพพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ซุบซิบวงการไฮโซของอิตาลี ภาพที่ปรากฏหราอยู่บนปกของหนังสือคือ น้องสาวสุดที่รักของเขากำลังโอบกอดอยู่กับอเล็ก เดเยอร์ ทายาทหนุ่มของบริษัทส่งออกและนำเข้าเครื่องจักรกลอุตสาหกรรมรายใหญ่ของยุโรป ซึ่งเดเยอร์ก็เป็นตระกูลเก่าแก่ตระกูลหนึ่งของอิตาลีที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง หากแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของการิมเปลี่ยนแปลง ชีคหนุ่มจึงต้องเดินทางมาหาน้องหญิงของตนที่โรมด้วยตัวเอง เพราะได้รับคำสั่งโดยตรงมาจากเสด็จปู่และท่านพ่อของเขา
“เราทำแบบนี้ถือว่าหมิ่นเกียรติแห่งราชวงศ์อัลฮับบรามากเลยนะโซเนีย! โดยเฉพาะดูหมิ่นความไว้ใจจากพี่ในตัวของเธอด้วย!” เสียงเข้มเอ่ยเครียดเมื่อเจอหน้าของน้องสาว ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนจากสาวน้อยสวยใส ไร้เดียงสา กลายเป็นหญิงสาวเต็มตัวแถมยังเซ็กซี่อย่างร้ายกาจแบบสาวตะวันตกไม่เหลือเค้าโครงสาวหวานคนเดิมไปเสียแล้ว
“น้องไม่เห็นว่าน้องจะทำสิ่งใดผิดต่อราชวงศ์สักนิด พี่การิมเองก็เคยบอกน้องว่า...พวกเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์มากมายไปกว่าการเป็นพระราชนัดดาในท่านชีคแห่งอัลฮับบราเพียงเท่านั้น” เสียงหวานเอ่ยเถียงการิมราบเรียบและไว้ตัวอยู่ในที
“แต่ยังไงเราก็คือ ชีคกาโซเนีย อัลมีนา อัลฮาบา เคิร์ต เจ้าหญิงของอัลฮับบรา! เราไม่ควรจะประพฤติตัวแบบนั้นต่อหน้าสาธารณชน!” การิมเรียกโซเนียโดยใช้นามเต็มยศ และดุดันด้วยน้ำเสียงเข้มที่ไม่ค่อยจะได้ยินบ่อยหนัก ทำให้ร่างบางเริ่มรู้ตัวรีบก้มมอบลงกับพื้นนุ่มที่บุพรมเปอเซียร์อย่างดีในอพาทเมนท์หรูของตน
“เจ้าพี่การิม...โปรดอย่ากริ้วน้องเลย น้องผิดไปแล้ว...” ร่างบางตรงหน้าสั่นสะท้านไปทั้งกาย เพราะแววตาและน้ำเสียงของร่างสูงได้เรียกสติ ความเกรงใจ ในพี่ชายของเธอคนนี้กลับมา
“พี่จะไม่ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้ชายคนนี้อีก แต่พี่ต้องการให้เธอเลิกคบกับผู้ชายคนนี้ซะ! ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป!” ชีคหนุ่มเอ่ยเตือน เพราะตัวเขาเองก็บังเอิญได้ไปรู้จักคบหากับเอลิซ่า เดเยอร์ ทายาทสาวของตระกูลนี้เช่นกัน และรู้ดีว่าชื่อเสียงของอเล็กขึ้นชื่อแค่ไหนในเรื่องการเป็นเสือผู้หญิงตัวยง จึงไม่อยากให้น้องสาวของตนต้องตกอยู่ในสภาพแบบผู้หญิงคนอื่นๆที่ผ่านมาของผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้น
“เพคะ...น้องสัญญาว่าจะเลิกคบกับอเล็กตามที่เจ้าพี่ต้องการ” เสียงหวานเอ่ยสัญญา ทำให้ร่างสูงตรงเข้ามาพยุงร่างบางของโซเนียให้ลุกขึ้นและโอบกอดไว้อย่างแสนรัก
“พี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำน้องสาวของพี่ต้องเสียใจ” ราชนิกุลหนุ่มเอ่ยพึมพัมเบาๆอยู่กับกลุ่มผมยาวสลวยของน้องสาวราวกับจะย้ำถึงสัญญาของตัวเองที่เคยเอ่ยไว้เมื่อหลายปีก่อน
แต่หนึ่งสัปดาห์ต่อมาก็เหมือนกับมีสายฟ้าผ่าลงมากลางใจ เมื่อชีคการิมได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจของอิตาลี ว่า...ท่านหญิงโซเนีย น้องสาวของเขาฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอของตนเองในอพาทเมนท์ของเธอ ร่างสูงถึงกับสั่นไปทั้งตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และทรุดกายนั่งลงกับเก้าอี้หนังหรูหราในห้องทำงานของตน เหมือนกับแข้งขาไม่มีแรงขึ้นมาอย่างกะทันหัน เพราะไม่เคยคาดคิดว่าน้องสาวที่แสนจะสดใสราวกับดอกไม้แรกแย้มจะตัดสินใจด่วนลาโลกไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้
เมื่อการิมเดินทางไปรับร่างไร้วิญญาณของโซเนียที่โรงพยาบาล ก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อผลชันสูตรทางการแพทย์รายงานว่าโซเนียตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้ว ซึ่งตัวเขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าใครเป็นพ่อของเด็ก และในบรรดาข้าวของมากมายที่ชีคหนุ่มสั่งให้คนไปเก็บมาจากอพาทเมนท์ของน้องสาว ได้มีจดหมายฉบับหนึ่งจ่าหน้าซองถึงชีคการิม หากแต่ไม่ทันได้ส่งถึงมือของเขา เนื้อความในจดหมายนั้นโซเนียได้กล่าวขอโทษต่อทุกๆคน โดยเฉพาะความรู้สึกผิดที่มีกับการิมผู้เป็นพี่ชาย และสิ่งที่ทำให้เธอไม่อาจทนมีชีวิตได้อีกต่อไปคือ...เธอได้ตั้งครรภ์โดยไร้การแต่งงาน ทำให้เสื่อมเสียแก่ราชวงศ์จึงเลือกจบชีวิตของตนในที่สุด
“พี่การิม...โซเนียขอโทษ...” ร่างเงาบางๆของท่านหญิงโซเนียยืนอยู่ท่ามกลางหมอกควันช่างเลือนรางนัก ริมฝีปากบางเอ่ยขอโทษชีคหนุ่มด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“โซเนีย...โซเนีย!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกน้องสาวของเขาในความฝันอันแสนเลือนลางที่กำลังจะจางหายไป
“โซเนีย...ขอโทษ...”
“โซเนีย!!...” การิมสะดุ้งสุดตัวตื่นขึ้นท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน น้ำเสียงเข้มตะโกนเรียกชื่อของน้องสาวก้องไปทั่วห้องนอนกว้างของตน ทำให้ราชิดองครักษ์หนุ่มรีบวิ่งเข้ามาด้วยเป็นห่วงความปลอดภัยของชีคการิมผู้เป็นนาย
“ท่านการิม...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ราชิดเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงกว้างสีขาวสะอาดขนาดคิงไซน์ในห้องพักส่วนตัวของชีคหนุ่ม และกำลังยกฝ่ามือแกร่งขึ้นมากุมใบหน้าครามของตนเอาไว้
“ไม่มีอะไรหรอกราชิด เจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ นี่มันก็ตี2กว่าแล้ว ไม่ต้องมาเฝ้าเราตลอดเวลาขนาดนั้นก็ได้” เสียงเข้มเอ่ยห้วนฟังดูคล้ายกับรำคาญใจ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ได้ยินอยู่เสมอแบบราชิด องครักษ์หนุ่มจึงโค้งทำความเคารพ แล้วก้าวเดินออกจากห้องนอนของผู้เป็นนายไป เมื่อเห็นว่าร่างสูงของราชิดเดินออกไปพ้นสายตา การิมก็ตวัดผ้าห่มผืนนิ่มที่บุด้วยขนห่านอย่างดีออกจากตัว เผยให้เห็นรูปร่างสมส่วนอย่างคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แนวกล้ามเนื้องามแน่นขนัดไปจนถึงเอวสอบรับกับช่วงขาเพรียว ไรขนสีน้ำตาลอ่อนที่ไล่ระดับจากกลางแผงออกงามจนหายไปในขอบกางเกงบ๊อกเซอร์สีเข้ม ก้าวลงจากเตียงนุ่มเดินเข้าไปยังในห้องน้ำกว้าง
มือแกร่งเอื้อมไปสัมผัสสวิตก๊อกน้ำอันทันสมัยในห้องน้ำกว้าง ซึ่งตกแต่งในสไตล์เรียบหรูแสนจะดูดีมีระดับตามความต้องการของเจ้าของห้อง ดวงตาสีทองเป็นประกายจ้องลึกเข้าไปในใบหน้าครามของตน ซึ่งในตอนนี้ดูหมองคล้ำลงไปอย่างเห็นได้ชัด เพราะความฝันที่ไม่เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ที่เขาสูญเสียน้องสาวไปย้อนกลับมาอีกครั้ง ไวเท่าความคิดกำปั้นหนักๆของการิมก็ชกเข้ากับบานกระจกกว้างตรงหน้าเข้าอย่างจัง
“เพล้ง!”
หยาดเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นทาง หาได้ทำให้ชีคหนุ่มสนใจเท่ากับความรู้สึกเคียดแค้นที่มีอยู่ในใจของตน หากการที่คืนนี้เขาฝันเห็นน้องสาวเป็นการเตือนสติ ตอกย้ำถึงความเกลียดชังของเขามีต่อตระกูลเดเยอร์แล้วล่ะก็ การิมจะขอขัดคำสั่งไม่ทำตามความต้องการของเสด็จปู่สักครั้ง จะขอปฏิเสธเรื่องที่ตนต้องแต่งงานกับหญิงสาวจากตระกูลนี้เพราะความรู้สึกเกลียดนั้นมันยังกรุ่นอยู่ในใจไม่จางหาย
**************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ