เล่ห์ทรายร่ายรัก

8.0

เขียนโดย เข็มมุก

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 18.36 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,001 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 19.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ปะทะ(ฝี)ปาก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ร่างบางในชุดลำลอง กางเกงยีนส์เข้ารูปกับเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งที่ชอบใส่ประจำกับรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ทำให้ท่าทางของนาญ่าดูทะมัดทะแมงและคล่องตัว หญิงสาวเดินก้าวยาวๆ ไปตามทางเดินหินอ่อนประณีตของพระราชวังจนสุดทางเดิน ดวงตาสีเขียวมรกตก็เหลือบไปพบกับสวนดอกไม้ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงามตาด้วยศาลาหินอ่อนสไตล์อาราเบียน บ่อน้ำพุขนาดใหญ่ถูกขุดและตั้งไว้อยู่กลางสวนสวยก็ประดับด้วยหินอ่อนชั้นดีเช่นกัน ทำให้บรรยากาศยามเช้าของที่นี่ดูไม่น่าเบื่อไปซะทีเดียวในความคิดของนาญ่า

นาญ่าก้าวเท้าเดินทอดน่องอย่างสบายอารมณ์เรื่อยๆ จนมาหยุดและทรุดตัวลงนั่งที่ริมบ่อน้ำพุ แล้วหย่อนฝ่ามือบางลงไปกวักน้ำเล่นไปมาเบาๆ บรรดาปลาสวยงามนานาชนิดก็เวียนว่ายวนเข้ามาชนกับมือบางอย่างสนุกสนาน ริมฝีปากบางสีชมพูหวานแย้มยิ้มออกมาอย่างน่ารัก โดยมีสายตาคมของชีคการิมเฝ้ามองอยู่ก่อนแล้วตั้งแต่ที่เธอก้าวเดินเข้ามาในสวนแห่งนี้

“ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่...” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างสูงของการิมเดินเข้ามาในชุดคลุมยาวสีขาวสไตล์อาหรับพื้นเมือง ซึ่งดูรับกับใบหน้าเข้มและดวงตาสีทองเป็นประกายของเขา ดึงดูดสายตาของนาญ่าให้เผลอจ้องมองตามร่างสูงอย่างไม่รู้ตัว

“ขอโทษค่ะ ดิฉันไม่ทราบว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้ามเลยเดินเข้ามา” ริมฝีปากบางเอ่ยเสียงหวานใส พร้อมกับตั้งท่าหันหลังกลับและจะเดินออกไป แต่การิมก็เรียกเธอเอาไว้เสียก่อน

“เดี๋ยว! ที่นี่ไม่ใช่เขตหวงห้ามหรอกนะ...ครอบครัวของคุณเป็นแขกพิเศษของท่านปู่ ย่อมสามารถเดินชมได้ทั่วทุกที่อยู่แล้ว” เสียงทุ้มกล่าวเรียบๆด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมตามปกติของตน

“ขอบคุณค่ะ” เสียงใสตอบพร้อมกับก้าวเท้าอย่างเอื่อยเฉื่อยเพื่อเดินชมสวนไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อน

ชีคหนุ่มก้าวเดินตามหญิงสาวมาอย่างช้าๆ และความสงสัยบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ทำให้การิมเอ่ยถามร่างบางถึงสิ่งที่คิดไว้ในใจของตนออกมา

“คุณเป็นน้องสาวของเอลิซ่า แต่ทำไม?...ผมถึงไม่เคยเห็นคุณที่บ้านของคุณฟรานซิสโก้เลย” คำถามของการิมทำให้ร่างบางเกิดอาการคอแข็งและเชิดหน้าขึ้น หันกลับมามองทางร่างสูงแทบจะทันที

“ถึงฉันจะเป็นลูกสาวของคุณฟรานซิสโก้ แต่ฉันไม่ใช่น้องสาวของเอลิซ่า และฉันไม่เคยคิดที่จะไปบ้านหลังนั้นอยู่แล้ว คุณย่อมไม่เคยเจอฉันที่บ้านของแฟนคุณอย่างแน่นอน...” น้ำเสียงใสที่เอ่ยตอบอาจฟังดูราบเรียบ หากแต่คนฟังรู้ดีว่าแฝงด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“คุณคงเข้าใจผิด ผมกับเอลิซ่า เราไม่ใช่คู่รักกัน เราเป็นเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น” การิมตอบและจ้องลึกลงไปในดวงตาสีเขียวมรกตคู่สวยของเธอ

ดวงตาสีมรกตของร่างเล็กตรงหน้า เมื่อต้องเข้ากับแสงแดดอ่อนๆในยามเช้า ช่างดูเป็นประกายลึกล้ำสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ จนการิมเผลอยื่นฝ่ามือของตนออกไปแตะที่ใบหน้าบางและโอบประคองไว้ในอุ้งมือหนาของเขา

“น่าสงสารเอลิซ่าจังเลยนะคะ ทั้งๆที่คุณกับเธอกอดกันกลมแถมยังจูบกันแนบสนิทต่อหน้าผู้ใหญ่ซะขนาดนั้น! แต่คุณกลับบอกว่า...พวกคุณไม่ได้เป็นคู่รักกัน...” ร่างบางเอ่ยแล้วยิ้มอย่างเหยียดๆ พร้อมกับปัดฝ่ามือหนาที่ประคองใบหน้าเธอออกอย่างแรง

“แล้วการที่คุณแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิง คุณอาจจะถือว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับฉัน!...ฉันถือว่าคุณไม่ให้เกียรติอย่างมาก อีกอย่าง...คุณอย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะเหมือนกับเอลิซ่าไปเสียหมด!” ร่างบางกล่าวอย่างถือดีพร้อมกับเชิดคางมนใส่ชีคหนุ่มด้วย

กิริยาท่าทางอวดดีของนาญ่า ทำให้ชีคหนุ่มถึงกับอารมณ์เสียขึ้นมาทันควัน การิมจึงเอื้อมมือแกร่งของตนมาจับท่อนแขนบางทั้งสองข้าง และออกแรงบีบรั้งบังคับให้หญิงสาวหันหน้ามามองทางเขา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่แข็งกร้าวอวดดีไม่แพ้กัน

“ผู้หญิงทุกคนก็ล้วนแต่รักความสบาย ชอบใช้สเน่ห์และความสวยงามที่ตนมียั่วยวน เพื่อให้ได้สามีเป็นผู้ชายร่ำรวยเหมือนกันทุกคน ไม่เว้นแม้แต่แม่ของคุณ!...ท่านก็เคยทำอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ?!” ด้วยความโมโหทำให้ชีคหนุ่มหลุดคำพูดดูถูกมารดาของเจ้าของดวงตาสีมรกตคู่งามตามที่ตนได้รู้ประวัติเพียงด้านเดียวมาจากเอลิซ่าโดยไม่ตั้งใจ

เมื่อได้ยินคำพูดดูถูกมารดาของตน ทำให้นาญ่าสุดจะอดทนไหว จึงสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมของร่างสูง และสะบัดมือบางของเธอออกไปอย่างรวดเร็ว

“เพี๊ยะ!!” เสียงฝ่ามือบางกระทบกับใบหน้าครามเข้าอย่างจัง

“คุณไม่เคยรู้เรื่องของแม่ฉัน! ไม่เคยรู้จักท่าน! คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดถึงท่านแบบนี้!” หญิงสาวจงใจเอ่ยอย่างเน้นชัดทุกคำ เพื่อให้

ร่างสูงตรงหน้าได้ยินอย่างชัดเจน จนทำให้ดวงตาสีเขียวใสของตนวาวโรธเป็นประกายด้วยอารมณ์โกรธอย่างที่สุด

“เธอ! เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ!?” ดวงตาสีทองของการิมเป็นประกายวาวโกรธกรุ่นกับการกระทำที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำมาก่อนของหญิงสาว

“ใช่!...คุณไม่เคยรู้จักแม่ของฉัน!หรือแม้แต่ตัวฉันเอง เพราะฉะนั้นต่อให้มากกว่านี้ฉันก็กล้า!” คนตัวเล็กเอ่ยพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นมองคนตัวโตกว่าด้วยแววตาที่แสนจะท้าทาย

“เกิดอะไรขึ้นคะการิม!!” เสียงแหลมแสบโสตประสาทหูของเอลิซ่าดังขึ้นแทรก ก่อนการปะทะคารมครั้งนี้จะเลยเถิดไปไกล

นาญ่าหันไปมองต้นเสียงด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรนัก เมื่อเห็นว่าเป็นใคร...หญิงสาวจึงสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของร่างสูง แล้วรีบเดินเลี่ยงหนีไปอีกฟากของสวนดอกไม้แสนสวยโดยเร็ว เพราะถ้าหากเธอยังยืนอยู่ตรงนี้เรื่องราวคงลุกลามไปกันใหญ่เพราะความขี้โวยวายเรื่องมากของเอลิซ่านั่นเอง

“การิมขา...คุณเป็นอะไรมากไหมคะ?”

“ไม่!...ผมไม่เป็นอะไร” การิมเอ่ยเสียงห้วนและยกมือครามขึ้นมาลูบใบหน้าตนข้างที่ถูกหญิงสาวประทับฝากร่องรอยเอาไว้อย่างเบามือ

“เกิดอะไรขึ้นคะ! ทำไมแม่นั่นถึงได้ตบหน้าคุณแบบนี้!...” เอลิซ่าถามอย่างห่วงใย แต่ปนด้วยน้ำเสียงที่แสนเกลียดชังคนที่ถูกอ้างถึง

“แค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อยเท่านั้นล่ะลิซ...” ใบหน้าเข้มเอ่ยตอบเสียงเรียบ

“นิดหน่อยเหรอคะ? แต่มันตบหน้าคุณนะการิม...” ริมฝีปากที่ฉาบไว้ด้วยลิปสติกสีแดงสว่าง เอ่ยเจื้อยแจ้วอย่างไม่พอใจกับสิ่งที่ตนเห็น

“เดี๋ยวผมจัดการเองน่า...ลิซ” การิมเอ่ยห้วนๆอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญเสียงแหลมๆที่แสนจะรบกวนโสตประสาทของเอลิซ่า

“ลิซไม่ยอมนะคะ! คุณเป็นถึงชีค...เป็นเจ้าชาย แม่นั่นจะมาทำอย่างนี้กับคุณไม่ได้! ลิชจะไปฟ้องเสด็จปู่ของคุณ!” เอลิซ่าเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ พร้อมกับกระทืบเท้าที่สวมส้นสูงหนังอย่างดีราคาแพงริบทั้งสองข้างแรงๆ ตั้งท่าจะเดินไปทางห้องทรงสำราญที่อยู่ไม่ไกลนักของท่านชีคฮิบบินราปู่ของเขา

“อย่าทำให้มันต้องเป็นเรื่องใหญ่โตเลยลิซ เราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า แล้ว...ผมจะพาคุณไปดูเพชรที่ห้างของเรากัน” ชีคการิมรีบดึงข้อมือบางเอาไว้แล้วเอ่ยเปลี่ยนเรื่องไปหาสิ่งที่เอลิซ่าสนใจมากกว่า

“จริงๆเหรอคะ! คุณจะพาลิซไปห้างเพชรเหรอ?” คิ้วเรียวบนใบหน้างามของร่างบางตรงหน้าที่ถูกตบแต่งอย่างดีเลิกขึ้นสูงแสดงอาการตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

“ครับ...แล้วถ้าคุณถูกใจงานชิ้นไหนในร้าน ผมยินดี...ที่จะยกให้คุณคนเดียว” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบอย่างไม่ได้คิดอะไรมากมายกับของนอกกายพวกนั้น

“อืม...ก็ได้ค่ะ” เอลิซ่าชั่งใจเพียงนิดเดียวก็เอ่ยรับคำ แล้วก้าวเดินตามชีคหนุ่มไปที่ห้องอาหารหรูทางด้านปีกซ้ายของพระราชวังแต่โดยดี

ผู้หญิงอะไร...ตัวก็เล็กนิดเดียว แต่มือหนักใช่ย่อย คอยดูเถอะ! ฉันต้องหาทางเอาคืนจากเธอให้ได้ การิมนึกคาดโทษคนที่บังอาจตบหน้าของเขาไว้ในใจอย่างหมายมั่น

“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้นาญ่าเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านอยู่ เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงอดถามเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทอย่างเสียไม่ได้

“มีอะไรเหรอ?เอลิซ่า!...”

หากแต่หญิงสาวไม่ตอบ กลับถือวิสาสะผลักประตูห้องนอนเข้าไปนั่งอยู่บนเตียงนุ่มของเธอ แล้วยกข้อมือบางขึ้นอวดสร้อยข้อมือทองคำขาวที่มีเพชรน้ำงามประดับอยู่บนสายสร้อยเส้นนั้นไม่น้อยกว่าห้ากะรัตรวมกัน

“เป็นไง!!สร้อยข้อมือเส้นนี้ สวยใช่ไหมล่ะ...รู้ไหม? การิมเขาเป็นคนเลือกให้ฉันเองกับมือเชียวนะ!” เอลิซ่ายื่นข้อมือของเธอให้หญิงสาวดู แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากคนตรงหน้า แถมนาญ่ายังเดินหนีไปทรุดกายนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่ตั้งอยู่ปลายเตียงเสียอีก

เมื่อเห็นว่านาญ่ายังคงนั่งนิ่งเฉย เอลิซ่าจึงตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่เธอสงสัยขึ้นมาทันที

“นาญ่า!! เมื่อเช้าเธอทำอะไรการิมของฉัน!” น้ำเสียงแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของชีคหนุ่มของเอลิซ่า ทำให้หญิงสาวยกคิ้วโก่งขึ้นเล็กน้อย และเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้ นาญ่าจึงย้อนถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ไม่แตกต่างกัน

“การิมของเธอเหรอ? หึ! เธออย่ารู้เลย”

“เธอคงไม่ได้กำลังให้ท่าการิมของฉันหรอกนะนาญ่า” เอลิซ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เพราะเธอนั้นคิดดูถูกหญิงสาวตรงหน้าอยู่ในใจของเธอตลอดเวลาอยู่แล้ว

“ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเที่ยววิ่งตามไล่จับผู้ชายของเธอหรอกนะ...เอลิซ่า!” เสียงใสเอ่ยอย่างนึกขันกับความคิดของพี่สาวต่างแม่ตรงหน้าตน

“มันว่ากันไม่ได้หรอกนะ...ในเมื่อแม่ของเธอก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ถึงได้แต่งงานกับคุณพ่อ ตัวเธอเอง...ก็คงไม่ต่างอะไรจากแม่หรอก” ดวงตาคมเรียวของเอลิซ่าจับจ้องอยู่ที่ใบหน้างาม พร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดก็เอ่ยดูถูกนาญ่าที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาหนังสุดหรูตรงหน้าเธอ

“เอลิซ่า!! ให้มันน้อยๆหน่อยนะ ถ้าจะพูดกันจริงๆล่ะก็...แม่ของเธอต่างหากที่ไล่ตามจับคุณฟรานซิสโก้ เพราะไอ้ตอนที่เธอเกิดเนี่ย...มันก็หลังจากแม่ของฉันแต่งงานกับคุณฟรานซิสโก้ตั้งเป็นปี ถ้าลองนับอายุครรภ์ตอนที่เธอเกิดจริงๆ ก็ก่อนฉันไม่กี่เดือน ไม่รู้ว่าเอาลูกคนอื่นมาสมอ้างหรือเปล่า? แต่ที่จริงมันก็คุ้มดีนะ...สำหรับแม่ม่ายลูกติดอย่างแม่ของเธอ อุตส่าห์ตามตื้อจนคุณฟรานซิสโก้ใจอ่อนยอมนอนด้วยแล้วก็มีเธอออกมา และแถมยังจดทะเบียนยอมรับเธอกับพี่ชายให้ได้ใช้นามสกุลเดเยอร์ แล้วยังพ่วงคฤหาสน์หลังงามเนื้อที่ร้อยกว่าไร่ภายในไร่องุ่นของตระกูลเดเยอร์ไปอีก เพื่อแลกกับการเลิกรังควาญเมียหลวงอย่างแม่ของฉัน อย่าให้ต้องรื้อฟื้นเลยนะเอลิซ่า...มันจะทำให้เธอเสียหน้าเปล่าๆ”

ร่างระหงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของเธอ แล้วเอ่ยถึงเรื่องของผู้ใหญ่ที่ผ่านพ้นมาแล้ว ทั้งๆที่นาญ่าไม่อยากจะพูดถึงมันนัก...ถ้าหากอีกฝ่ายไม่เริ่มมันขึ้นมาเสียก่อน

“แก! นังนาญ่า แกมันก็ลูกชู้เหมือนกันนั่นแหละ แม่ของแก! ก็ตั้งท้องแกตอนที่หนีคุณพ่อไป ใครจะรับรองได้ว่าแกเป็นลูกแท้ๆของคุณพ่อ...เชอะ!” เอลิซ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ดูเหมือนจะเหนือกว่าหญิงสาวเสียเต็มประดา

“ไม่ต้องห่วงฉันเรื่องนี้หรอกนะเอลิซ่า ตัวฉันเองก็ไม่เคยคิดว่าฉันจะเป็นลูกสาวของคุณฟรานซิสโก้หรอก แต่ตัวคุณฟรานซิสโก้เองต่างหาก เขากลัวว่าฉันจะไม่เชื่อว่าฉันเป็นลูกของเขาและไม่ยอมรับว่าเขาเป็นพ่อ อยากรู้อะไรเด็ดๆไหมล่ะ? คุณฟรานซิสโก้ลงทุนอ้อนวอนขอให้ฉันไปตรวจดีเอนเอ เพื่อยืนยันว่าเขาเป็นพ่อของฉันจริงๆเชียวนะ ฉันถึงได้ยอมไปเรียนต่อที่อิตาลี ไม่อย่างนั้น!...ต่อให้เขาคุกเข่าอยู่หน้าบ้านฉันเป็นเดือน ฉันก็ไม่สนใจหรอก!” นาญ่าอธิบายขณะยกแขนกลมกลึงของตน ขึ้นมาไขว้กันไว้ใต้ทรวงอกคู่งามที่สะท้อนขึ้นลงอย่างสะใจ เมื่อเห็นสีหน้าตกใจสุดขีดของเอลิซ่า

“ฉันไม่เชื่อแกหรอก! คุณพ่อไม่มีทางทำแบบนั้นแน่...!!”

“ก็ตามใจนะ ฉันไม่บังคับให้เธอเชื่อฉันอยู่แล้ว” นาญ่าตอบพร้อมกับยักไหล่บางขึ้นเล็กน้อยอย่างที่ชอบทำเสมอ เมื่อต้องการจะแสดงออกให้ใครๆรู้ว่าเธอไม่สนใจ

“แล้วเธอจะเอายังไงเรื่องการิมของฉัน!” เอลิซ่าหาทางเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นว่าเธอคงจะเถียงนาญ่าไม่ชนะแน่สำหรับเรื่องที่แม่ของเธอทำไว้กับแม่ของหญิงสาว

เมื่อเห็นว่าเอลิซ่ายอมลงให้เธอสักครั้งเพราะสนใจในเรื่องของผู้ชายคนนั้นมากกว่า นาญ่าจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะใส่ใจเอามาเป็นอารมณ์นักกับพฤติกรรมของพี่สาวต่างแม่ของเธอ

“เอาเป็นว่า...เอาเวลาของเธอไปตามจับเขาไว้ให้แน่นๆ เหมือนที่เคยทำมาแบบตอนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยก็แล้วกันนะ ถ้าเกิดเธอมีคู่แข่งขึ้นมา...ฉันกลัวว่าเธออาจจะตกกระป๋องไปก่อนจะได้ขึ้นวออย่างที่เธอต้องการ”

“เธอหมายความว่าอะไร? แสดงว่าเธอรู้อะไรมาใช่ไหมนาญ่า!” เสียงแหลมของเอลิซ่าแผดดังขึ้นอย่างไม่รักษามารยาทตามแบบการถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจของเธอ

“อ่าว...ก็ชีคการิมเขาเป็นแฟนเธอไม่ใช่เหรอ? เธอก็ไปถามกันเอาเองสิ! ส่วนตอนนี้...เธอก็ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว!ฉันจะนอน...” หญิงสาวเอ่ยปากไล่พร้อมกับดันหลังเอลิซ่าให้ออกไปจากห้องนอนของเธอ แล้วปล่อยทิ้งให้เอลิซ่ายืนเต้นเร่าๆอยู่หน้าประตูห้องนอนอย่างขัดใจที่ทำให้นาญ่าอิจฉาเธอไม่ได้นั้นเอง

“เวลาหนึ่งสัปดาห์มันช่างรวดเร็วจริงๆ เสียดายนะครับที่ยังพาคุณกับครอบครัวเที่ยวได้ไม่ทั่วอัลฮับบราเลย คราวหน้า...หวังว่าคงมีโอกาสได้เชิญพวกคุณมาเที่ยวที่นี่อีกนะครับ” เสียงทุ้มของการิมเอ่ยอย่างเสียดาย ขณะที่ยืนรอส่งครอบครัวเดเยอร์ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของราชวงศ์อัลฮับบราเพื่อกลับสู่อิตาลี

“ครับ...พวกผมหวังว่าคงมีโอกาสได้มาที่นี่อีกครั้งแน่นอน” สเตฟานเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปประสานกับมือแกร่งอย่างมีความหมาย

“ครับ” การิมยิ้มอย่างจริงใจ

เมื่อเห็นว่าชีคหนุ่มเอ่ยลาคุณปู่ของเธอเรียบร้อยแล้ว เอลิซ่าจึงวิ่งเข้าไปกอดกระแซะร่างสูงของการิมอย่างใกล้ชิด โดยใช้หน้าอกของเธอทั้งเบียดทั้งเสียดสีอย่างจงใจ

“การิมขา...คุณอย่าลืมแวะไปหาลิซที่บ้านนะคะ คุณแม่คงดีใจที่คุณไปหาท่าน” เอลิซ่าออดอ้อนพร้อมกับเกาะแขนแกร่งไม่ยอมปล่อย

กิริยาท่าทางอันเปิดเผยของเอลิซ่า ทำให้ร่างสูงยิ้มและเอ่ยตอบรับอย่างสุภาพ “ครับ...แล้วผมจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณป้าโซเฟียที่โรม”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงต้องกลับกันแล้ว ลาก่อนครับ” เดเยอร์ผู้พ่อเอ่ยลาแล้วเดินขึ้นเครื่องบินไป

การิมมองตามเอลิซ่าและอเล็กพี่ชายของเธอด้วยสายตาคมที่นิ่งสนิทจนบอกไม่ถูกว่าเขาคิดอะไรอยู่ หากแต่ไม่ลืมเหลือบไปมองร่างบางอีกคนที่เดินตามหลังปู่ของเธอไปอย่างใช้ความคิด และเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขา ริมฝีปากเข้มจึงขยับเบาๆ

“หึ! ตระกูลเดเยอร์” ชีคหนุ่มพึมพำออกมาขณะนั่งอยู่ในรถและมองตามเครื่องบินส่วนตัวของท่านปู่ ซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อส่งคนตระกูลนี้บินขึ้นไปบนท้องนภาไกล...จนสุดสายตา

...........................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา