Synchronize Chronicle - ซิงโครไนซ์ โครนิเคิ่ล

8.0

เขียนโดย OhTequila

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.12 น.

  6 chapter
  0 วิจารณ์
  8,117 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม พ.ศ. 2560 11.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) บทที่ 1 : " สมบัติ " ตอนสอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


          ที่ลานซ่อมแซม กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังมุงดูวัตถุปริศนาที่ได้มาจากเรือหาสมบัติเมื่อวานโดยมีนายช่างยืนมองอยู่ไม่ไกล คนหนึ่งในกลุ่มนั้นนั่งลงสำรวจถังสีทองนั้นอย่างใกล้ชิด
 
          " นี่ไงลูกพี่ ดูตรงนี้สิ มันมีร่องอยู่ยาวตลอดแนวตั้งแต่บนลงล่างเลย " เขาหันมาบอกกับชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ที่เป็นหัวหน้าคนงาน
          " ไหนขอฉันดูหน่อย " หัวหน้าคนงานนั่งลงใกล้กับถังโลหะ ช่างคนที่ตรวจสอบถังอยู่เมื่อครู่หลีกทางให้เขา เขาตรวจสอบร่องลึกที่ตรวจพบเมื่อครู่ ก่อนเอาใบหูแนบกับผิวโลหะแล้วเคาะข้างถังด้วยเครื่องมือที่ถืออยู่
 
          หลังจากลองตรวจสอบทั้งรูปลักษณ์และลองเคาะฟังเสียงดูแล้วหัวหน้าคนงานก็ลุกขึ้น ยืนกอดอกมองถังโลหะอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จนนายช่างเดินเข้ามาแตะที่ไหล่เขา
 
          " ไงเวสเซล ได้ความว่าไงบ้าง " ฮีเธอร์กล่าวถามหัวหน้าคนงาน
          " เสียงมันฟังดูกลวงๆ แล้วถ้าดูจากร่องนี่แล้ว... " เวสเซลชี้ที่ถังโหะจากยอดจนถึงพื้น " เจ้านี่น่าจะเป็นกล่องหรือหีบที่ไว้ใส่อะไรสักอย่าง "
          " โอ...... " หลายเสียงครางขึ้นอย่างสนอกสนใจ
 
          " สมบัติแน่ๆเลยลูกพี่ หนักขนาดนี้ ในนั้นอาจจะมีทองอยู่ก็ได้ " โทนี่ ช่างหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มกล่าวขึ้นด้วยแววตาเป็นประกาย
          " ฝันหวานไปเรื่อย ข้างในอาจจะเป็นแค่ขยะก็ได้ " วินด์มิล ชายหนุ่มผมหางม้าที่ยืนอยู่ข้างๆกล่าวแย้ง
          " แกก็หาเรื่องขัดคอโทนี่มันได้ตลอดล่ะนะ " แอนธอน ชายสวมแว่นตา ช่างที่มีอาวุโสรองจากเวสเซลเอ่ยขึ้น
          " ก็เจ้านี่น่ะ... "
          " แล้วจะเอายังไงต่อดีครับ? " ก่อนที่วินด์มิลจะได้เถียง โกมุท ชายร่างเล็กซึ่งปกติเป็นคนเงียบๆก็ตัดบทสนทนาด้วยคำถาม
 
          ทุกคนเงียบและหันไปมองฮีเธอร์กันเป็นตาเดียว นายช่างนิ่งคิดครู่ก่อนจะตอบ
          " ลองเปิดดูเลยแล้วกัน ปล่อยไว้ก็ทำอะไรไม่ได้ "
          " งั้นก็เอาตามนี้ เดี๋ยวเอาสิ่วกับค้อนมาเปิดแง้มไว้ก่อนเลย ส่วนนายสองคนไปเอาเครื่องตัดถ่างมาที " เวสเซลสั่งให้ลูกน้องเตรียมเครื่องมือ และให้ชายสองคนที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มช่าง ให้ไปนำเครื่องตัดถ่างมาจากโกดัง
 
 
          เวลาเดียวกันนั้น ไอยร์ที่เพิ่งเดินออกมาจากบริเวณหน้าบ้านพักคนงาน ก็สวนทางกับสองหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังเดินไปโกดังพอดี คนหนึ่งร่างสูงใหญ่บึกบึนผิวสีคล้ำเข้มเหมือนกาแฟ ชื่อว่า ดอน อีกคนชื่อ เจริโก้ ซึ่งล่ำน้อยกว่าและมีผิวสีทองแดง
 
          " อ้าวไอยร์ เห็นนายช่างบอกว่าไม่สบาย ไม่เป็นไรแล้วเหรอ? " เจริโก้เอ่ยถาม
          " อื้ม ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แล้วนี่จะไปไหนกันน่ะ "
          " จะไปที่โกดังน่ะ ลูกพี่ใช้ให้ไปเอาเครื่องมือ " ดอนตอบพลางชี้ไปทางกลุ่มช่างที่อยู่ล้อมรอบถังโลหะสีทองตรงลานซ่อนแซม ไอยร์พยักหน้ารับคำโดยยังมองไปยังทางที่เขาชี้เมื่อครู่
 
         ไอยร์จำได้แค่ว่าเมื่อคืนตอนที่เธอกำลังเดินกลับห้องพักได้คิดจะแวะดูถังโลหะสีทองนั้น แต่ไม่ทันสัมผัสมันก็หมดสติไปเสียก่อน ด้วยความที่ยังสนใจเจ้าถังนั้นอยู่ เธอจึงเดินไปสมทบกับกลุ่มคนที่ลานซ่อมแซมเพื่อดูว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
 

         " บอกไปแล้วนี่ ว่าวันนี้ไม่ต้องทำงานน่ะ " ฮีเธอร์เอ่ยทักโดยมีสีหน้าบึ้งตึงคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างขัดใจด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นไอยร์มาถึง

         " ก็ไม่ได้จะมาทำงานซะหน่อย " ไอยร์กางแขนกว้างให้เขาสังเกตุเห็นชุดลำลอง " อยู่แต่ในห้องก็ไม่มีอะไรทำ ออกมาเดินเล่นข้างนอกดีกว่า "

         " งั้นก็ตามใจเถอะ " เขาถอนใจด้วยระอากับความหัวดื้อของเด็กสาว

         " แล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ? " ไอยร์ถามพร้อมกับชี้ไปยังกลุ่มช่าง

         " เมื่อกี้เวสเซลลองเช็คไอ้เจ้าถังนี่ดู เห็นว่ามันน่าจะเป็นกล่องหรือหีบ ก็เลยจะเปิดดูกันน่ะ "
 
          ไอยร์มองไปยังถังสีทองที่ถูกห้อมล้อมด้วยช่างหลายคน โกมุทกำลังจับสิ่วปักลงบนร่องบนผิวโลหะตรงช่วงกลางถัง วินด์มิลเหวี่ยงค้อนฟาดเข้าที่หัวสิ่วหลายต่อหลายครั้งเป็นจังหวะ จนกระทั่งปลายสิ่วแหวกผิวโลหะให้เกิดช่องว่างเล็กๆ สิ่วยังคงถูกตอกลงไปจนกระทั่งสุดที่มันเสียบคาอยู่กับช่องว่างนั้น
 
 
          ไม่นานนักดอนและเจริโก้ก็กลับมาพร้อมเครื่องมือคล้ายคีมขนาดใหญ่ที่ต่อพ่วงเข้ากับเครื่องยนต์สำหรับเปิดถังโลหะปริศนาที่ตอนนี้ร่องยาวบนถังถูกแง้มเป็นช่องเตรียมเอาไว้แล้วด้วยสิ่ว แต่ยังไม่กว้างพอจะมองเห็นว่าภายในนั้นมีอะไร
 
          " ง้างรอไว้แล้ว ลุยต่อเลยพี่เบิ้ม " วินด์มิลเอ่ยพลางถอยหลีกทางให้ พร้อมกับช่างคนอื่นๆ
 
          ดอนทิ่มส่วนปลายของเครื่องตัดถ่างเข้าไปในช่อง ส่วนเจริโก้ดูแลเครื่องยนต์อยู่ด้านหลัง ทุกคนที่อยู่รอบๆจับตามองมาทางนี้เป็นตาเดียว
 
          " จะเดินเครื่องแล้ว พร้อมนะ " เจริโก้ถามเพื่อความมั่นใจ
          " เออ เอาเลย " ดอนตอบ
 
          เครื่องยนต์ถูกติดขึ้นส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวพร้อมส่งพลังงานไปยังเครื่องมือ ไอน้ำจากเครื่องยนต์ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ขอบฝาซ้ายขวาของถังค่อยๆถูกดันออกด้วยแรงของปลายคีมที่พยายามกางออกจากกัน จนกระทั่งเปิดออกกว้างพอให้แสงจากภายนอกส่องเข้าไปถึงด้านใน ทันทีที่เครื่องยนต์ถูกดับและเครื่องตัดถ่างถูกถอนออกจากฝาถัง ทุกคนที่รออยู่ก็กรูกันเข้ามาเพื่อจะดูสิ่งที่อยู่ภายใน
 
          " ถอยไปๆ มุงกันอย่างงี้มันจะเห็นได้ยังไงล่ะ " เวสเซลไล่พลางปัดคนอื่นๆที่กำลังตื่นเต้นลุกลี้ลุกลนออกไป
 
          คนที่มุงกันอยู่หลีกทางให้เขา เวสเซลมองเข้าไปในช่องที่ถูกเปิดออกแต่ไม่เห็นอะไรในนั้น เขาลองใช้มือผลักขอบด้านในของฝาถังข้างหนึ่ง มันไหลไปตามแรงมืออย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าการใช้เครื่องตัดถ่างเมื่อครู่จะทำให้ระบบล็อคเสียหายไปแล้ว เขาเปิดฝาทั้งสองข้างออกจนสุด แล้วก็เป็นดังเช่นที่เขาเห็นในทีแรก ภายในถังนั้นว่างเปล่า ไม่มีสมบัติหรือแม้แต่ขยะอะไรอยู่ภายในนั้น
 
          "บิดู่วววเอ๊ยยย...." หลายเสียงครางขึ้นมาพร้อมๆกันด้วยความผิดหวัง
 
          " ไม่มีอะไรเลย ยังงี้ก็เปลืองแรงกันเปล่าๆสิเนี่ย " วินด์มิลบ่นด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
          " ตกลงพี่อยากได้ขยะจริงดิ? " โทนี่ถามเชิงเย้าแหย่
          " ไม่ใช่โว้ย " วินด์มิลสวนทันควัน
          " เอาเถอะ ที่จริงก็ไม่น่าคาดหวังอะไรแต่แรกแล้วล่ะ ของได้มาฟรีนี่นะ " เวสเซลกล่าวสรุป " เอายังไงต่อดีครับ " เขาหันไปถามฮีเธอร์
          " อืม...ถ้าทำอะไรไม่ได้แล้ว อย่างงั้นก็เอาไปหลอมเป็นเศษเหล็กแล้วกัน " นายช่างคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ เขาออกคำสั่งให้ทุกคนช่วยกันขนถังโลหะนั้นไปที่โรงหลอม เพื่อจะได้เปลี่ยนมันเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ต่อไป
 
 
          ในขณะที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจช่วยกันขนย้ายถังโลหะอยู่นั้น ในเวลาเดียวกัน ไม่มีใครได้ทันสังเกตุเห็นเรือบรรทุกขนาดเล็กลำหนึ่งลอยลำอยู่ไม่ไกลจากอู่ในลักษณะที่ค่อนข้างผิดวิสัย เรือนั้นลอยลำอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาพอสมควรแล้ว มันคือเรือโจรสลัดที่ถูกส่งมาตามหาเบาะแสของสมบัติ และพวกมันก็ได้พบสมบัตินั้นแล้ว พวกมันเห็นถังสีทองที่ถูกห้อมล้อมด้วยคนงานที่ลานซ่อมแซม รวมทั้งได้เห็นกระบวนการงัดแงะถังนั้นตั้งแต่ต้นจนพวกคนงานพากันขนย้ายถังออกไป เมื่อเห็นดังนั้นโจรสลัดจึงรีบเดินเครื่องหันหัวเรือกลับไปแจ้งสิ่งที่พบเห็นกับหัวหน้าของพวกมันที่กำลังรอฟังข่าวดีอยู่
 
 
          ทันทีที่ทุกคนมาถึงโรงหลอมก็ได้เอาถังสีทองไปตั้งทิ้งไว้ที่มุมหนึ่ง จากนั้น ช่างแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปเตรียมเตาหลอมโลหะ ส่วนหนึ่งไปเตรียมพร้อมที่แท่นควบคุม อีกส่วนขึ้นไปบนพื้นยกระดับเพื่อช่วยสังเกตการณ์เบ้าหลอมจากด้านบน ที่เหลือสองสามคนไปช่วยกันเข็นแม่พิมพ์มารอรับโลหะเหลวที่หลอมค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้ จะคงเหลือเพียงฮีเธอร์และไอยร์เฝ้ามองอยู่จากมุมหนึ่งของโรงหลอมใกล้กับประตูทางเข้า
 
          เมื่อแม่พิมพ์ถูกเข็นมาถึงพร้อมที่หน้าเตาหลอม เวสเซลที่อยู่ด้านบนก็ออกคำสั่งให้โกมุทปรับคันโยกที่แท่นควบคุมเพื่อเทโลหะเหลวลงแม่พิมพ์ เบ้าหลอมค่อยๆเอียงลงตามกลไกที่กำลังทำงาน แต่ทว่าเมื่อมันเอียงจนถึงจุดหนึ่ง ลูกสูบที่ทำหน้าที่ประคองเบ้าหลอมเกิดเสียหายขึ้น แก๊สภายในกระบอกลูกสูบรั่วฟุ้งออกมา เบ้าหลอมที่ก่อนหน้านี้ค่อยๆเอียงลงช้าๆก็ทิ้งตัวลงอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นความโกลาหลในชั่วพริบตา เสียงโวยวายด้วยอารามตกใจดังลั่นไปทั่ว เวสเซลคว้าโซ่ที่รั้งเบ้ากับคานเอาไว้ได้ทันและช่วยกันกับคนอื่นที่ด้านบนดึงรั้งไว้ทันก่อนที่เบ้าจะเทลงไปจนสุด แอนธอนที่อยู่บริเวณแท่นควบคุมรีบเข้าไปหมุนวาล์วเพื่อล็อกเพลาของเบ้าหลอมไว้ไม่ให้มันเทลงมาอีก
 
          แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้โลหะเหลวภายในเบ้าหลอมไหลทะลักออกมาอย่างแรงกว่าที่ควร บางส่วนหกกระฉอกออกมาจากแม่พิมพ์ โทนี่ที่อยู่ใกล้แม่พิมพ์ที่สุดผงะหนีจากโลหะร้อนแต่เกิดเสียหลักล้มลง โลหะเหลวบางส่วนที่หกลงพื้นไหลมาทางเขา ความร้อนของมันทำให้พื้นของโรงหลอมเกิดรอยไหม้เป็นทาง ฮีเธอร์และไอยร์ที่อยู่ใกล้ๆจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปช่วย โชคดีที่เมื่อไอยร์เข้าถึงตัวโทนี่ โลหะเหลวที่กำลังไหลมาทางเขาก่อนหน้านี้ก็เย็นตัวลงและจับตัวแข็งเกาะติดกับพื้นแล้ว
 
          " เป็นอะไรรึเปล่า? " ฮีเธอร์ที่ตามมาถึงในวินาทีต่อมาเอ่ยถามกับโทนี่
          " อ...อื้ม... " เขาตอบสั้นๆ เพราะยังอยู่ในอาการตกใจอยู่จึงทำได้แค่สั่นหน้าเบาๆ
          " ไม่เป็นไรสินะ ดีแล้วๆ " นายช่างตบเบาๆที่บ่าของโทนี่ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืน
 
          ฮีเธอร์เดินไปถามไถ่อาการของช่างคนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนจะไปตรวจดูสภาพของเตาหลอม เขาพบว่าส่วนลูกสูบเสียหายทำให้ไม่สามารถเทเบ้าหลอมลงมาแบบปกติได้ จำเป็นต้องตั้งเบ้าหลอมโดยล็อกเพลาเอาไว้และให้ความร้อนเตาต่อไปทั้งอย่างนั้น เพราะถ้าปล่อยให้โลหะในเบ้าเย็นตัวลงจะทำให้ทั้งเบ้าและเตาหลอมเกิดเสียหายทั้งหมดได้ การจะซ่อมเตาหลอมทั้งที่ยังติดเตาอยู่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษและช่างที่ชำนาญเฉพาะทางฉะนั้นการซ่อมแซมจึงยังไม่สามารถทำได้ทันที
 
          " ทั้งต้องตั้งเตาข้ามคืน ทั้งต้องตามช่างข้างนอกมาซ่อมอีก งานนี้ท่าจะเสียหลายตังค์อยู่นะเนี่ย " ฮีเธอร์ถอนใจ
          " แค่ไม่มีใครบาดเจ็บก็ดีแล้วค่ะ อย่าคิดมากเลย " ไอยร์ที่เดินเข้าไปสมทบกล่าวกับนายช่าง
          " นั่นน่ะสินะ " เขาถอนใจเบาๆก่อนหันมายิ้ม
 
          หลังจากจัดการกับเตาหลอมและเก็บกวาดความเสียหายต่างๆเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานอื่นๆของตน ส่วนไอยร์ปลีกตัวไปใช้วันหยุดพักผ่อนหย่อนใจให้เต็มที่จนถึงเวลาค่ำ
 
------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา