Synchronize Chronicle - ซิงโครไนซ์ โครนิเคิ่ล

8.0

เขียนโดย OhTequila

วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.12 น.

  6 chapter
  0 วิจารณ์
  7,956 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 มกราคม พ.ศ. 2560 11.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) บทที่ 1 : " สมบัติ " ตอนสาม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

         กลางดึกคืนนั้น ไอยร์ที่นอนอยู่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เธอลืมตาตื่นขึ้นและมองสอดส่ายสายตาไปรอบๆห้อง พบเพียงแต่ความมืดและความเงียบสงบ เมื่อไม่เห็นความผิดปกติใดๆ ไอยร์จึงข่มตาลงอีกครั้งเพื่อจะตั้งใจจะนอนหลับต่อ แต่เมื่อหลับตาลงได้เพียงครู่หนึ่ง โสตประสาทของเธอก็สัมผัสได้ถึงเสียงบางอย่าง เป็นเสียงตึงตังคล้ายของแข็งกระทบกระแทกกันดังอยู่ไกลๆ เธอฟังเสียงนั้นอย่างตั้งใจ เสียงปะทะเมื่อครู่เงียบลงไปแล้ว คราวนี้มีเสียงหนึ่งเพิ่มเข้ามา เป็นเสียงฝีเท้าของคนหรือสองคนปะทะกับพื้นเป็นจังหวะและกำลังมุ่งหน้าเข้ามาทางห้องของเธอใกล้ขึ้นเรื่อยๆ



         การที่มีใครมาเดินเพ่นพ่านข้างนอกในเวลานี้อาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก พวกช่างคนอื่นอาจจะลุกมาเข้าห้องน้ำก็ได้ แต่สังหรณ์บางอย่างของไอยร์บอกเธอว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติ แม้จะไม่เข้าใจตัวเองมากนักแต่ไอยร์รีบลุกขึ้นจากเตียงไปยืนแอบอยู่ที่ด้านข้างประตูด้วยคิดว่าหากมีใครเปิดประตูเข้ามาในห้องก็จะยังไม่เห็นเธอในทันทีเพราะได้บานประตูช่วยบังเธอเอาไว้ แล้วยังคว้าประแจจากกล่องเครื่องมือที่วางอยู่ใกล้ๆนั้นขึ้นมาถือติดมือไว้ด้วย



         เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยจนมาหยุดลงที่หน้าห้องไอยร์ยังคงนิ่งเงียบรอดูความเคลื่อนไหวอยู่ภายในความมืดด้านหลังบานประตู ฝ่ามือของเธอเย็นเยียบไปด้วยเหงื่อจากความตื่นเต้น ลูกบิดประตูถูกบิดจากด้านนอก ประตูถูกเปิดเข้ามา  แสงสว่างสีเหลืองนวลสาดฉายเข้ามาภายห้อง ตามด้วยชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องในมือข้างหนึ่งของเขาถือตะเกียงไฟฟ้าซึ่งเป็นที่มาของแสงนั้น อีกมือหนึ่งถือปืนพกไว้ด้วยท่าทางระมัดระวัง เขาหยุดยืนฉายไฟสาดเข้าไปที่ด้านในของห้อง ก่อนที่จะพยักเพยิดส่งสัญญาณให้ชายแปลกหน้าอีกคนที่เดินตามมาให้เข้าไปสำรวจภายใน ชายอีกคนหนึ่งในมือถือปืนเล็กยาวแทรกตัวเดินแซงเข้าไปสำรวจที่เตียง เขาถลกผ้าห่มขึ้นแต่ไม่พบอะไร เมื่อลองก้มดูที่ใต้เตียงก็พบเพียงแต่ข้าวของทั่วไป

 

         ไอยร์อยู่ในอาการสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าชายสองคนนี้เปป็นใครมาจากไหน และมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ แต่การที่ใครก็ตามมาบุกรุกรื้อค้นห้องของคนอื่นในยามวิกาลเช่นนี้ ย่อมไม่ได้มาด้วยเจตนาดีเป็นแน่ หยดเหงื่อผุดขึ้นบนหน้าผากของไอยร์ด้วยความวิตก เธอพยายามบังคับร่างกายไม่ให้สั่นหรือส่งเสียงใดๆ เธอกระชับประแจในมือแน่นและจับจ้องไปยังร่างของคนทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้าอย่างหวาดหวั่น

 

         " ไม่เจอเลย สงสัยหนีไปแล้วล่ะมั้ง " เขาพูดพลางเงยหน้าขึ้นจากใต้เตียง

         " แกลองดูในตู้นั่นรึยัง? " ชายคนที่ถือไฟฉายถามพร้อมชี้ไปยังตู้เสื้อผ้าด้วยมือข้างที่ถือปืน

         " เออว่ะ ไม่ทันสังเกตุ " ชายถือปืนยาวเหลียวไปทางที่พรรคพวกชี้ แล้วเอื้มมือไปที่มือจับเพื่อจะเปิดตู้



' บึ้ก ' ยังไม่ทันที่ประตูตู้จะถูกเปิดออก ประแจในมือของไอยร์ก็ฟาดเข้าที่ด้านหลังของชายแปลกหน้าคนที่อยู่ใกล้อย่างแรง เขาล้มลงหมดสติในทันที ตะเกียงที่ถือหลุดจากมือตกลงพื้น ทำให้แสงในห้องวูบไหวอย่างสับสน

 

         ชายแปลกหน้าอีกสะดุ้งตกใจเพราะเสียงและแสงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหลัง เขาหันกลับมาแล้วพบพรรคพวกของเขาล้มนอนหมดสติอยู่กับพื้นและเด็กสาวคนหนึ่งที่ถือประแจอยู่ในมือยืนอยู่ใกล้ๆกัน ทั้งผู้บุกรุกและไอยร์ยังไม่มีใครเคลื่อนไหวทำอะไรต่างจดๆจ้องๆกันอยู่ครู่หนึ่งเพื่อดูท่าทีอีกฝ่าย เป็นไอยร์ที่ตัดสินใจเคลื่อนไหวก่อน เธอพุ่งเข้าประชิดตัวชายแปลกหน้าและฟาดประแจใส่เขาอย่างที่ทำกับคนก่อนหน้านี้ ผู้บุกรุกยกปืนเล็กยาวในมือขึ้นมาป้องกันตัวได้ทัน ประแจที่ฟาดมาจึงปะทะเข้ากับตัวปืนอย่างจัง ถึงจะป้องกันไม่ให้ประแจฟาดถูกตัวได้แต่แรงปะทะก็มากจนทำให้เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และทำให้เขาเสียหลักเซถอยหลังไปกระแทกกับผนังด้านหลัง

 

         เมื่อการโจมตีไม่เป็นผล ไอยร์จึงตัดสินใจหนีออกมาจากห้องของตัวเอง ด้านผู้บุกรุกเมื่อตั้งตัวได้จึงตั้งใจจะยิงปืนไล่หลังเด็กสาว แต่เมื่อเขายกปืนขึ้นประทับบ่าแล้วเหนี่ยวไกกลับไม่สามารถลั่นกระสุนออกไปได้ มีเพียงแค่เสียงกรอกแกรกและแก๊สที่รั่วไหลออกมาจากลำกล้องปืนที่แตกหักเสียหายเท่านั้น ไอยร์ออกวิ่งอย่างร้อนรนไปตามระเบียงทางเดินที่มืดสนิทโดยมุ่งไปยังทางออกสู่ภายนอกอาคาร เธอพบว่าบานประตูของห้องอื่นๆในที่พักคนงานต่างก็ถูกเปิดออกเผยให้เห็นความมืดภายในทั้งหมดทุกห้องที่ผ่านมาระหว่างทาง ไอยร์วิ่งมาจนหยุดที่ทางแยกก่อนถึงทางออก เธอก็พบกับชายแปลกหน้าอีกหลายคนเข้ามาประกบทั้งซ้ายขวาพร้อมด้วยอาวุธครบมือ เธอจึงต้องจำใจยกมือยอมจำนนด้วยเห็นว่าอีกฝ่ายมีจำนวนเยอะเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้

 

------

 

         ไอยร์ถูกพาตัวไปยังลานบริเวณท่าเทียบเรือที่ในขณะนี้สว่างไสวด้วยแสงตะเกียงทั้งจากของอู่ที่ติดตั้งไว้และจากของกลุ่มผู้บุกรุกอีกนับสิบคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ที่นั่นเธอพบกับฮีเธอร์และช่างคนอื่นๆถูกจัดให้นั่งรวมกลุ่มกันอยู่โดยไม่ได้ถูกจับมัดหรือพันธนาการใดๆอยู่ในบริเวณหนึ่ง หลายคนมีบาดแผลและรอยฟกช้ำที่เกิดจากการต่อสู้อยู่ตามร่างกาย และมีกลุ่มคนติดอาวุธกว่าสิบคนคอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบ ใกล้กันนั้นถังสีทองที่พวกช่างช่วยกันงัดเมื่อเช้านี้ก็ถูกยกจากโรงหลอมมาตั้งไว้ที่นี่ด้วย ไอยร์ถูกผลักให้นั่งลงรวมกับคนอื่นๆ เธอเขยิบเข้าไปนั่งใกล้กับฮีเธอร์เพื่อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

         " นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย? " ไอยร์กระซิบถาม

         " ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน " ฮีเธอร์ตอบพลางเหลือบมองไปพวกที่ยืนล้อมอยู่ " รู้แค่ว่า อยู่ดีๆพวกนี้ก็บุกเข้ามา แล้วพาพวกเรามารวมกันไว้ที่นี่เนี่ยแหละ " เขาตอบเสียงเครียดๆเพราะตัวเองก็รู้เท่าที่ไอยร์รู้

 

         สักพักหนึ่ง เวสเซลก็ถูกลากตัวมาเป็นคนสุดท้ายด้วยลักษณะที่ยับเยินไม่ต่างจากคนอื่นๆแถมด้วยแผลแตกที่เหนือคิ้วซ้ายซึ่งทำให้มีรอยเลือดไหลซึมเป็นทางยาวถึงปลายคาง

 

         " อาเวสเซล! เป็นอะไรรึเปล่า? " ไอยร์ออกปากถามด้วยความเป็นห่วง

         " ไม่เป็นไรมากหรอก แค่หัวแตกน่ะ " เวสเซลตอบพลางเช็ดเลือดออกจากใบหน้าด้วยแขนเสื้อ ก่อนจะนั่งลง

 

         เวสเซลมองไปที่ท่ามีเรือบรรทุกขนาดใหญ่ลำหนึ่งและเรือแจวลำเล็กหลายลำจอดเทียบอยู่ ไกลออกไปไม่เกินระยะแสงไฟก็มีเรือบรรทุกที่ลำเล็กกว่าลอยลำอยู่อีกสี่ลำ และเมื่อดูประกอบกับลักษณะและพฤติกรรมของกลุ่มผู้บุกรุกแล้ว จากประสบการณ์ที่เขาเคยทำงานเป็นนักงมอยู่หลายปี เวสเซลเคยได้พบเจอกับโจรสลัดอยู่หลายต่อหลายครั้ง เขาจึงสันนิษฐานว่าบรรดาผู้บุกรุกก็คงเป็นพวกโจรสลัดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาไม่สามารถเดาเจตนาของพวกโจรสลัดเหล่านี้ได้ว่าต้องการอะไร ไม่ใช่เรื่องปกติที่โจรพวกนี้จะเข้าปล้นอู่ซ่อมเรือที่ไม่น่าจะมีทรัพย์สินมีค่าอะไร เขาจึงไม่ได้พูดอะไร ยังคงปิดปากเงียบดังเช่นคนอื่นเพื่อรอดูท่าทีไปก่อน ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอยู่พักหนึ่งจนกระทั่งมีเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น

 

          " สวัสดีทุกท่าน ขออภัยที่ต้องมารบกวนเวลานอน " ชายรูปร่างสันทัดคนหนึ่งแทรกตัวผ่านกลุ่มโจรสลัดเข้ามาหากลุ่มช่างที่อยู่ในวงล้อม เขามีลักษณะท่าทางที่แปลกไปจากพวกโจรคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด เสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน เส้นผมที่ถูกจัดให้ชี้ตั้ง และโดยเฉพาะแว่นตาแปลกประหลาดที่มีหลายเลนส์อย่างที่เขาสวมอยู่ ยิ่งทำให้เขาดูแปลกประหลาดขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

         " ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อน ตัวกระผมนี้มีชื่อว่า' ดรักซ์ม่า ' จะเรียกว่าเป็นหัวหน้าของเจ้าพวกนี้ก็ได้ " เขาแนะนำตัวเองพลางผายมือไปทางกลุ่มโจรรอบๆ " ทุกคนคงจะสงสัยกันล่ะสิ ว่าพวกเรามากันที่นี่ด้วยธุระอะไร? " ดรักซ์ม่าทิ้งคำถามไว้ในความเงียบแล้วค่อยเดินไปหยุดยังข้างๆถังโลหะสีทอง สายตาของทุกคนในบริเวณนี้ทั้งพวกไอยร์และสมุนโจรรอบๆต่างมองมาที่เขา

 

         " ไม่มีใครตอบ.. น่าเบื่อจริง ถ้าอย่างนั้นเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า " ดรักซ์ม่าเดินวนรอบกลุ่มช่างก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ที่ข้างถังโลหะสีทอง " พวกฉันน่ะนะกำลังตามหาของชิ้นนึงอยู่ เฝ้าตามหาไปทั่วทั้งทะเลสาบนี้เลยแหละ.. " ดรักซ์ม่าวาดมือไปยังท้องน้ำเบื้องหลัง " แล้วเมื่อหลายวันก่อน ในที่สุด ในที่สุด หลังจากที่ตามหามานานก็หาเจอจนได้ ว้าว! " เขาแสดงท่าทางดีอกดีใจเกินจริง บรรดาช่างต่างมีท่าทีงุนงงสับสน

         " น่าเสียดายที่มันหนักมากก็เลยยกมันขึ้นมาจากน้ำไม่ได้ ก็เลยต้องปล่อยมันไว้อย่างนั้นก่อน " ดรักซ์ม่าทำท่าทางถอนใจอย่างที่เห็นก็รู้ว่าเสแสร้ง " ฉันกะว่าจะกลับไปเก็บมันทีหลัง เมื่อเช้านี้ก็เลยเอาเรือที่มีรอกยกกลับไปตรงจุดที่เจอของ แต่ว่า!!.... " เขาทิ้งจังหวะเพื่อรอดูท่าทีของทุกๆคน

 

         " ของนั่นมันหายไป! ใช่ หายไปจากก้นทะเลสาบนั่นแหละ ทำยังไงดีล่ะ? ไอ้ฉันก็ร้อนใจ ก็เลยส่งพวกลูกน้องให้ออกไปตามหา แล้วทายซิว่าเป็นยังไงต่อ? " ดรักซ์ม่านิ่งรอคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้ " โอเค ไม่มีใครตอบ งั้นเฉลยเลยก็ได้ หลังจากที่ฉันส่งพวกมันไปตามหาของ ลูกน้องคนเก่งของฉันก็บังเอิญมาเจอของที่บังเอิญหน้าตาเหมือนกับของที่พวกฉันตามหาเด๊ะๆเข้าที่นี่พอดิบพอดี บังเอิญดีจัง " เขาใช้ฝ่ามือตบเข้าที่ด้านบนของถังสองสามที บรรดาคนของอู่ที่ตามเรื่องไม่ทันต่างก็ทำหน้างุนงง ส่วนบางคนที่ตามทันก็เหงื่อตกใบหน้าซีดเผือดเพราะเริ่มเดาเรื่องออกว่ามันเป็นมายังไง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

         " แล้วนอกจากนี้นะ ยังบังเอิญได้เห็นตอนที่พวกคุณๆกำลังเปิดไอ้เจ้าถังนี่ซะด้วย " ดรักซ์ม่าก้มลงไปเลื่อนฝาของถังให้เปิดออกเผยให้เห็นความว่างเปล่าภายใน จากนั้นจึงเหยียดตัวขึ้นมายืนตรง " คงพอจะเข้าใจแล้วนะว่าธุระของพวกฉันคืออะไร ฉันมาตามหาของ ไม่ใช่แค่ถังนี่แต่รวมถึงของที่มันควรจะอยู่ในนี้ แต่นี่ มันกลับว่างเปล่า... "

 

    " ในนั้นมันไม่มีอะไรซักหน่อย มันว่างอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว! " ดอนลุกยืนขึ้นเถียงโดยที่เพื่อนคนอื่นห้ามไม่ทัน ทำให้สมุนโจรคนหนึ่งด้านหลังดรักซ์ม่ายกปืนขึ้นชี้ปลายกระบอกมาทางเขา แต่ดรักซ์ม่ายกมือห้ามเอาไว้ก่อน พวกช่างคนอื่นจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ทันใดนั้นดรักซ์ม่ากลับหยิบปืนจากมือลูกน้องของเขามาถือไว้

 

' ฟุ่บ '

 

         เสียงแก๊สถูกพ่นออกจากปลายกระบอกปืนในมือดรักซ์ม่า พร้อมกับกระสุนหมุดเล่มยาวพุ่งเสียบเข้าที่หน้าท้องของดอน เขาทรุดลงนั่งคุกเข่าในทันที มือทั้งสองกุมอยู่ที่หน้าท้องถูกย้อมด้วยสีแดงจากเลือดไหลซึมจากปากแผลที่แท่งโลหะปักคาอยู่

 

    "ดอน! " หลายเสียงร้องขึ้นอย่างตื่นตระหนก ทั้งไอยร์และเหล่าช่างพุ่งเข้าไปประคองรับตัวดอนที่บาดเจ็บ

 

         " ไม่ควรเลยน้า.. ไม่มีใครสั่งสอนแกรึยังไงว่าอย่าพูดแทรกเวลาที่คนอื่นเขายังพูดไม่จบน่ะ ฮึ!? " ดรักซ์ม่ากล่าวตำหนิอย่างไม่มีท่าทีหวั่นไหวใดๆทั้งที่เพิ่งยิงคนไปหมาดๆ " เอาล่ะ มาต่อกันดีกว่า " เขาส่งปืนคืนให้ลูกน้องก่อนจะวางมือไว้บนถังโลหะแล้วพูดต่อ

         " ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าของในนี้มันหายไปไหนหรือใครเอาไปซ่อนไว้ที่ไหน เอาเป็นว่าฉันต้องการของๆฉันคืน " ดรักซ์ม่าระบุเจตนาของเขาอย่างชัดเจนพร้อมรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม กลุ่มช่างแทบทุกคนมองกลับไปยังดรักซ์ม่าด้วยสายตาที่แตกต่างกัน ทั้งหวาดวิตก โกรธ หรือแม้แต่งุนงงสงสัย

 

         " เดี๋ยวเอาพวกนี้ไปขังไว้ก่อน ให้เวลาพวกมันได้คิดกันซักหน่อย " ดรักซ์ม่าออกคำสั่งกับลูกน้อง " แต่ว่านะ คงต้องรีบตัดสินใจกันหน่อยล่ะ นายคนนั้นน่ะ ชื่อดอนใช่มั๊ย ฉันว่าเขาคงทนได้ไม่นานนักหรอก " เขาก้มตัวลงมาพูดกับกลุ่มช่างที่กำลังช่วยกันดูแลดอน พร้อมรอยยิ้มเยาะแฝงท่าทีดูแคลน

 

------

 

         คนของอู่ทั้งเก้าคนรวมทั้งไอยร์ ถูกพาตัวมาขังไว้ในโกงดังเก็บของโรงหนึ่งของอู่ โดยมีคนของกลุ่มโจรสลัดคอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบ ดอนที่ได้รับบาดเจ็บหนักนอนพักอยู่ที่มุมหนึ่งของโกดังโดยมีไอยร์และโกมุทคอยพยาบาลอยู่ใกล้ๆ นอกจากนี้คนอื่นๆต่างกระจัดกระจายกันอยู่ทั่วไป บ้างเดินไปมา บ้างยืน บ้างนั่ง แต่ทุกคนล้วนอยู่ในอาการลำบากใจ

 

         " ดอนเป็นยังไงมั่ง? " ฮีเธอร์เดินเข้ามาเพื่อถามไถ่อาการของดอน

         " เลือดหยุดไหลแล้วครับ แต่คงต้องปล่อยหมุดนี่เอาไว้ก่อน ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าดึงออกมา ดอนอาจจะเสียเลือดจนตายเลยก็ได้ " โกมุทตอบ

         " อาการหนักไม่น้อยเลยนะเนี่ย " ฮีเธอร์มีสีหน้าหนักใจ

         " ไม่เอาน่าลุง อย่าทำหน้ากลุ้มอย่างนั้นสิ ฉันยังสบายดีอยู่หรอกน่า แผลแค่นี้เอง ไกลหัวใจ " ดอนยังคงแสดงท่าทางเข้มแข็งไม่ยี่หระ แม้ว่าใบหน้าและริมฝีปากจะดูซีดเซียว

         " เป็นคนเจ็บก็นอนเฉยๆเถอะ เดี๋ยวก็หน้ามืดหรอก " ไอยร์ปรามให้ดอนสงบลง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดขืน

 

         " แล้วเราจะเอายังไงกันต่อดี? " เจริโก้ที่มีสีหน้าวิตกกังวลเอ่ยถามจากมุมหนึ่งของห้อง

         " พวกมันบอกว่าต้องการของ แต่เราทุกคนก็เห็นนี่ ว่าเราไม่มีอะไรจะให้มัน ในถังนั้นมันว่างเปล่า " แอนธอน อธิบายสถานการณ์ไปเท่าที่รู้

         " งั้นก็บอกไปตามตรงเลยสิ " โทนี่เสนอ

         " พูดไปมันก็ไม่ฟังหรอก ดูที่มันทำกับดอนสิ ขืนพูดไปอย่างงั้นมีหวังมันฆ่าเราทิ้งหมดแน่ " วินด์มิลกล่าวแย้งพลางเหลือบมองไปที่ดอน ทุกคนต่างพากันมองไปที่ดอนตามเขา ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอยู่พักหนึ่ง

 

         " นั่นสินะ แถมพวกเรายังเห็นหน้าตาพวกมันแล้วด้วย ต่อให้ไม่พูดอะไรมันก็คงไม่ปล่อยให้เรารอดไปได้หรอก " เป็นเวสเซลที่นั่งก้มหน้าใช้ความคิดกล่าวทำลายความเงียบ " ถ้าอย่างนั้นก็เหลือทางเดียว เราต้องหนี " เขาเงยหน้าขึ้นพูดด้วยเสียงพูดที่ไม่ดังนักเพราะเกรงว่าพวกโจรสลัดที่คุมอยู่ด้านนอกจะได้ยินเข้า

         " จะหนีกันอีท่าไหนล่ะลูกพี่ เราจะไปขึ้นเรือกันยังไง พวกมันอยู่กันเต็มท่าเรือเลยนะ " วินด์มิลถามกลับด้วยเสียงกระซิบ เวสเซลและทุกคนนิ่งคิดกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วไอยร์ก็เสนอความเห็นขึ้นมา

         " แล้วถ้าเราไปทางอู่เรือเก่าล่ะ ที่นั่นก็มีเรืออยู่นี่ " เธอพูดถึงโรงซ่อมเรือเก่าทางด้านท้ายของอู่ ที่ตอนนี้ใช้เป็นที่สำหรับจอดเรือหาสมบัติลำเก่าสมัยที่พ่อของเธอและเวสเซลเคยทำงานเป็นนักงมเมื่อหลายปีก่อน

         " อ๊า! จริงด้วยสิ เรือเก่านั่นก็ใช้ได้นี่นา " เจริโก้ตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง ถึงแม้เรือนั้นจะเก่าเก็บแต่มันก็ยังใช้งานได้อยู่ ซึ่งบางครั้งก็เอาออกมาใช้ทำงานเล็กๆน้อยๆบ้าง ทั้งยังเพิ่งซ่อมบำรุงไปเมื่อเดือนก่อนอีกด้วย สีหน้าท่าทางของคนอื่นๆก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

         " แล้วเราจะฝ่าพวกนั้นไปได้ยังไง กว่าจะไปถึงตรงนั้นได้จะไม่โดนยิงตายกันหมดเหรอ? " แอนธอนแย้งขึ้นมาเพราะเห็นว่ายังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะรอดจากคมกระสุนไปจนถึงอู่เก่าได้ สีหน้าของทุกคนกลับมาสลดลงอีกครั้ง

         " ..ไม่นะ " เวสเซลแย้งกลับ " ฉันพอจะคิดแผนได้แล้ว ถ้าเอาอย่างที่ไอยร์ว่า มันก็พอจะมีทางอยู่ แต่ก็ต้องเสี่ยงกันหน่อย " แม้จะยังมีท่าทีวิตกกังวลอยู่ แต่เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงและแววตามีความหวัง ทุกคนในห้องต่างมองมาที่เขาเป็นตาเดียว

         " ไหนลองเล่าแผนที่ว่านั่นมาซิ " ฮีเธอร์ที่เงียบฟังอยู่นานก็เอ่ยปากขึ้น

 

------

 

         เมื่อทุกคนพูดคุยตระเตรียมแผนการกันเสร็จเรียบร้อย ฮีเธอร์ก็ได้บอกกับสมุนโจรสลัดที่เฝ้าอยู่ด้านนอกให้ไปตามหัวหน้าของพวกมันมาเพื่อที่จะเจรจาต่อรองกัน ครู่หนึ่งพวกมันก็พาตัวดรักซ์ม่ามายังโกดังที่คุมขัง ดรักซ์ม่าเปิดประตูและเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทีสบายๆ

 

         " เห็นว่าพูดคุยกันเรียบร้อยแล้วสินะ ว่ายังไงกันล่ะ หืม? " ดรักซ์ม่าเอ่ยถาม

         " เราตกลงกันได้แล้ว เราจะยกของที่ว่านั่นให้พวกนาย แต่ว่ามีเงื่อนไขนิดหน่อย " " ฮีเธอร์ลุกขึ้นยืนตอบ

         " อื้ม... น่าสนใจ เงื่อนไขอะไรล่ะ ไหนว่ามาซิ " หัวหน้าโจรสลัดพยักหน้ารับคำเพราะอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายที่อยู่ในสถานะไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือจะมีข้อเสนออะไรมาต่อรองกับเขา

         " ฉันอยากจะมั่นใจว่าพวกนายจะไม่ทำอันตรายคนของเราคนไหนอีก " ฮีเธอร์เหลียวไปที่ดอนครั้งหนึ่งก่อนจะกวาดสายตาไปยังทุกคนรอบๆห้องแล้วจึงกลับมาสนทนากับดรักซ์ม่าต่อ " เพื่อที่ทุกคนจะได้อยู่ในสายตา ระหว่างที่ฉันพานายไปเอาของ ต้องให้พวกเขาไปด้วยกันทุกคนด้วย " เขายื่นข้อเสนอด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเด็ดขาด " พอพวกนายได้ของที่ต้องการแล้ว ต้องปล่อยพวกเรา และไปจากที่นี่ทันที เงื่อนไขก็มีเท่านี้ "

         " โธ่เอ๊ย นึกว่าจะขออะไรมากมายซะอีก ได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา " ดรักซ์ม่าตอบรับข้อเสนออย่างเต็มใจด้วยท่าทียิ้มแย้ม แต่แท้ที่จริงแล้วในใจเขาก็นึกสงสัยในเงื่อนไขที่ดูมีนัยยะแฝงอะไรบางอย่างของนายช่างอยู่ ถึงแม้เขาจะยังเคลือบแคลงใจแต่ความนึกสนุกอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะมีลูกเล่นอะไรนั้นมีมากกว่า จึงจงใจแสร้งทำเป็นไม่สงสัยและเดินตามเกมของอีกฝ่ายไปก่อน " ไปเอาของกันเลยเถอะ จะได้จบธุระของเรากันเสียที " เขาบอกก่อนจะหันหลังกลับเดินออกจากห้องพลางกวักมือเรียกพวกช่างให้ตามออกไปกับเขาด้วย



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา