School ฆาตกรรมสยองหลอนจนรัก!!
7.0
เขียนโดย พื้นทราย
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 02.16 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
4,863 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 มกราคม พ.ศ. 2560 18.59 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหญิงสาวมัธยมปลาย ผมยาวตรงสีดำรูปร่างผอมโซ กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง ชุดนักเรียน ม.ปลาย สีขาว
สะอาดกลับเลอะไปด้วยสีเทาของฝุ่นและสีแดงสดของเลือด ผิวสีขาวอมชมพูกลับกลายเป็นสีเหลืองซีดเนื่องจากเสียเลือด
ที่แขนขวาเป็นจำนวนมากต้นตอของเลือดนั้นคือบาดแผลที่ถูกกรีดลึกและยาวตั้งแต่ข้อศอกจนถึงข้อมือนอกจากนั้น
ผิวหนังบริเวณแผลบางส่วนได้ถูก ถลกออกมาเกือบครึ่ง แขนเผยให้เห็นขั้นเนื้อและไขมันที่ไหลออกมาปนกับเลือดอย่างน่า
สะอิดสะเอียน “ช่วยด้วย!!!” หญิงสาวร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ร่างกายที่สั่นเทาของเธอกับลังฝืนคลานออกจาก
อาคารเรียนร้าง อาคารที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด.............
***อย่าเพิ่งคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวสยองขวัญนะจ๊ะ เพราะนี่คือนิยายรัก ที่มีความสยองเป็นท๊อปปิ้ง
เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะจ๊ะ***
สองเดือนก่อน
“ใกล้จะถึงรึยังคะ คุณน้า” ฉันถามคุณน้าด้วยความร้อนรน
“ยังเลยจะ แต่อีกซักพักก็คงถึงแล้ว” คุณน้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ให้ตายสิ นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมพวกคุณอาและคุณน้าดูใจเย็นกันนัก ทั้งๆที่กำลังจะไปงานศพลูกสาวตัวเองที่โดน
ฆาตกรรมแท้ๆ สาบานได้ ว่าตั้งแต่ฉันมาถึงบ้านพวกเค้าที่กรุงเทพฉันยังไม่เห็นอาการเศร้าโศก หรือ น้ำตาซักหยดจาก
พวกเค้า พวกเค้ารัก รถเมล์ ลูกสาวของพวกเค้าบ้างรึเปล่า ถึงฉันจะเป็นแค่เพื่อนสนิดสมัยประถมที่จะมาเจอกันแค่ช่วงปิด
เทอมก็ตามและฉันก็ไม่ได้เจอเธอมาสี่ปีแล้วแต่เราก็ยังติดต่อทางโทรศัพท์ตลอด ฉันยังดูเศร้าและกระตือรือร้นกว่าพวกเค้า
ซะอีก เท่าที่พอรู้มา เมล์ เป็นเด็กเรียนดีและเรียบร้อย เธอมักใช้เวลาว่าง
ทั้งหมดกับการเขียนข่าวเกี่ยวกับโรงเรียนทางอินเตอร์เน็ต เธอคือนักข่าวประจำโรงเรียน ไม่ว่าใครจะเข้ามาใหม่หรือว่าใคร
เป็นแฟนใครเธอจะเป็นคนปล่อยข่าวพวกนั้นโดยใช้ข้อมูลที่พวกสภานักเรียนหาให้ แต่เธอก็มีความสุขที่ได้เขียนข่าวแบบนี้
เพราะเธอแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งที่ฮอตมากๆ และการเขียนข่าวจะทำให้เธอรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเค้าก่อนใคร แต่ฉันก็ไม่รู้
หรอกนะว่าเป็นใครเพราะถามทีไร เธอก็เปลี่ยนเรื่องคุยทุกที เมล์ เป็นผู้หญิงที่เก็บตัวและเรียบร้อยมากๆเธอจึงไม่ค่อยมี
เพื่อนมากนักและฉันก็เป็นเพื่อนสนิดเพียงคนเดียวของเธอ แต่จะว่าไปเธอเองก็เป็นเพื่อนสนิดคนเดียวของฉันเหมือนกัน
เพราะว่าฉันเองเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงและชอบเก็บตัวไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย คงเป็นเพราะฉันและเมล์ นิสัยคล้ายกัน
ละมั่ง ? พวกเราเลยสนิดกันและที่บังเอิญสุดๆ ก็คือเรามีหน้าตาคล้ายกันและมีชื่อจริงว่า เกวลิน เหมือนกันด้วย ต่างกันก็
ตรงที่ชื่อเล่นเพราะฉันชื่อเล่นว่า เกล ก็มาจาก เกวลิน นั้นแหละ มาเข้าเรื่องการตายของเมล์ดีกว่าฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิด
อะไรขึ้นกับเมล์กันแน่ คุณน้าบอกว่า เมล์ เสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมากและที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็คือเครื่องในของ เมล์
หายไปทั้งหมด!! นี่ถ้าซีอุย ยังไม่ตายฉันต้องคิดว่า เมล์ โดนซีอุยกินแน่ๆ หรือไม่ก็พวกผีปอบอะไรทำนองนั้น แต่ว่าหน้า
ท้องของเมล์กับโดนกรีดออกและเย็บใหม่อย่างมืออาชีพ แต่ว่าฆาตกรมันจะเสียเวลามานั้งเย็บทำไมกันนะ? นอกจากนั้น
เมล์ก็ไม่ได้ถูกข่มขืนด้วย จะมีก็แค่รอยทุบตีเล็กน้อย ใครกันนะคือฆาตกรแล้วทำไมคุณลุงกับคุณป้าดูไม่เสียใจเลยล่ะ ?
โถ่เอ้ย!!! ฉันอยากบ้าตายนี่มันเรื่องอะไรกันนะ ฉันกำลังนั้งรถแท็คซี่ไปที่วัดเพื่อไปงานศพ เมล์ ฉันร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้
ไหล ถ้าตอนนี้มีใครถามว่าฉันคิดว่าตัวเองหน้าเหมือนสัตว์อะไร ฉันจะตอบไปว่า ปลาทอง!!
ฉันและคุณแม่คุณพ่อของเมล์นั่งรถมาด้วยความเงียบสนิด ฉันเองก็แอบมองหน้าคุณแม่และคุณพ่อของเมล์เป็น
ระยะด้วยความสงสัย รถแท็คซี่ได้ผ่านโรงเรียนมัธยม เคน (นามสมมุติ) โรงเรียนของเมล์และเป็นที่ที่พบศพเมล์ ฉันจ้อง
โรงเรียนนั้นแบบไม่กระพริบตา ‘โรงเรียนชื่อดังและใหญ่โตแบบนี้ทำไมไม่เป็นข่าวกันนะ’ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วตลอด
พิธีสวดศพ ฉันมองรูปเมล์และพยามตอบคำถามที่ค้างคาใจตัวเอง เรื่องความเศร้าที่ไม่มีในแววตาของคนเป็นพ่อเป็นแม่
มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเค้าจะเฉยได้ขนาดนี้แถมบางทีก็ยังยิ้มแบบสดใส คืนนี้ฉันพักในบ้านของเมล์และนอนในห้อง
ของเมล์ ฉันพยายามลื้อค้นห้องของเมล์ เพื่อหาไดอารี่ หรือ เบาะแส แต่มันก็ไม่มีอะไรเลย ที่พอจะเชื่อมโยงได้
ทำไมล่ะ เมล์ ทำไมไม่หัดเขียนไดอารี่บ้าง เฮ้อ พ่อแม่เธอก็ดูใจเย็นเหลือเกิน ไม่รู้ว่ากินน้ำจับเลี้ยงที่ชื่อว่า เย็นเย็น
มาร้อยขวดหรือไง ฉันจะต้องทำยังไงดีนะเมล์ หรือว่าฉันจะดูที่เกิดเหตุดี ใช่ อาคารเรียน ไม้ โรงเรียนมัธยม เคน นี่ก็แค่ สอง
ทุ่มเอง (แค่?) เอาล่ะ ไปขออนุญาตคุณน้าคุณอาดีกว่า ฉันเปิดประตูห้องนอนสีชมพูบ้านใหญ่อย่างร้อนรน เอ๊ะ? ทำไม่ปิด
ไฟทั้งบ้านเลยล่ะ นอนเร็วจัง........
ฉัน ปั่นจักรยานตามทางไปเรื่อยๆ ตามป้ายบอกทาง ‘คนร้ายเอาเครื่องในศพไปทำอะไรกันนะ?’ ฉันคิดเรื่องนี้ไป
เรื่อยๆตลอดทาง ด้วยความที่ฉันเป็นคนขี้สงสัยและมัวแต่พยามหาความจริงทำให้ฉันลืมคิดถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป กว่า
จะรู้ตัวฉันก็มาถึงโรงเรียน มัธยม เคน ซะแล้ว ด้านหน้าโรงเรียนมียามเฝ้าอยู่ฉันจึงเลือกที่จะลองไปดูประตูประตูหลัง
โรงเรียนน่าแปลกที่หลังโรงเรียนไม่มียามเฝ้าอยู่เลย ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในโรงเรียนไม่กี่ก้าวฉันก็พบอาคารเรียนไม้ร้าง ที่ที่
พบศพของเมล์เพื่อนสนิดของฉัน
“อุ๊บ!!”
ฉันรีบเอามือปิดจมูกเพราะกลิ่นเหม็นเน่า แหวะศพก็อยู่ที่วัดและทำยังเหม็นอยู่ล่ะ จะว่าไปที่อาคารนี้ก็น่ากลัว
เหมือนกันนะเนี่ยอย่างกับบ้านผีสิง เอ๊ะ ผีหรอ เฮ้ย!! ที่นี่จะมีผีมั้ยเนี่ยตายล่ะลืมคิดเรื่องนี้เลย ยัยเมล์ตายโหงซะด้วย ฉัน
ว่าฉันควรจะกลับดีกว่านี่ก็มืดมากและไฟฉายก็ไม่ได้เอามาฉันไม่ได้กลัวนะ แค่....อุปกรณ์ไม่พร้อมน่ะ
“เมี้ยว!!!” แมวที่ไหนก็ไม่รู้มากระโดดใส่ฉัน!!!
“กรี๊ด!!!!”
ตกใจหมดเลย นี่มันลางบอกเหตุร้ายชัดๆ อย่าบอกนะผี ผีอะไรล่ะ ผีปอบ ผีกระสือหรือว่าซีอุย เวอร์ชั่น 2015 ไม่นะ!!!
ฉันวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ด้วยความที่เวลานี้ไม่มีแสงสว่างเลยนอกจากแสงที่ส่องมาจากถนนเล็กน้อย กว่าฉันจะรู้ตัว
ฉันก็วิ่งเข้ามาในที่พักบันไดชั้นสองของอาคารเรียนไม้ร้าง ซะแล้ว ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นอะไรเลยทำไงดี เผลอวิ่งเข้ามาในนี้
ซะได้อย่างนี้ก็แย่ล่ะซิ ฉันมองไม่เห็นทางเลย จะว่าไปยังไงนี่ก็คืออาคารเรียนถ้าเดินขึ้นไปต้องเจอสวิชไฟแน่ๆ
“เอี้ยด...”
ทำไมมันดังขนาดนี้นะ ฉันก็ไม่ได้เดินแรงเลยนะ โถ่เอ้ย จะลืมตาหรือหลับตาความรู้สึกไม่ต่างกันเลย
“เอี้ยด ๆๆๆ”
เสียงคนเดินมีคนมา !!! ใครล่ะผีปอบ ซีอุยหรือว่าฆาตกร!!! ทางก็มืดมากทำไงดีเดินไปก็มีแต่จะล้มให้เสียเวลา ถ้าอย่าง
งั้น....คลานสี่ขาแบบน้องหมาขึ้นบันไดไปเลยแล้วกัน ลุย!!! ฉันคลานไปโดยไม่สนใจเสียงดังเอียดๆ ของบันไดและไม่
สนใจเสียงเดินกึ่งวิ่งที่กำลัง ใกล้เข้ามาตอนนี้แขนขาของฉันมันสั่นและชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสียงวิ่งตามาเปลี่ยนเป็นเดินอย่าง
ใจเย็นถ้าเดาไม่ผิดอะไรซักอย่างที่ตามฉันมา ตอนนี้มันได้อยู่ข้างหลังฉันแล้ว แสงสว่างจากไฟฉายของอะไรบางอย่างที่
ตามฉันมาได้ส่องขึ้นบนเพดาน ตรงหน้าฉัน วินาทีนั้นฉันก็ได้พบกับ……..
ศพ ของชายคนหนึ่งใส่ชุดเหมือน รปภ. ที่อยู่หน้าโรงเรียน แขวนคออยู่บนขื่อของอาคารเรียน มีบันไดเหล็กแบบ
พับอยู่ใกล้ๆ ดวงตาของชายคนนั้นเหลือกโตและตาขาวเป็นสีแดงกล่ำ ดูเหมือนกำลังมองมาทางฉัน ลิ้นของเค้าห้อยยาว
ออกมาเกือบถึงหน้าอก ผิวของเค้าซีดเหมือนกับไม่มีเลือดในร่างกาย ปลายนิ้วทุกนิ้วของเค้าช้ำและชุ่มไปด้วยเลือด คาด
ว่า ขณะผูกคอชายคนนี้เจ็บปวดมากจึงพยายามเอานี้สอดเข้าไปในเชือกที่กำลังรัดคอแน่นเพื่อหายใจ
“กรี๊ด!!!!!” ผีหลอกที่แท้ยามที่เราเห็นหน้าโรงเรียนก็เป็นผีนี่เอง
“ควับ!!” มีมือ ของคนที่ตามฉันมาจับอยู่ที่ไหล่ของฉัน
“กรี๊ด!!!! ช่วยด้วย ผีหลอก อย่านะ อย่าฆ่าฉัน”
“ไม่ใช่ครับผมเป็นคน”
เสียงผู้ชาย!!! ยามเมื่อกี้หรือว่า ซีอุย ฉันรู้ความลับมันแล้วตายแน่ๆ เลย ชายคนนั้นพยุงฉันลุกขึ้นยืน เค้าใช้มือจับไหล่ทั้ง
สองข้างของฉันและหมุนตัวฉันให้หันหน้าไปทางเค้าหลังจากนั้นเค้าก็ปล่อยมือข้างขวาออกจากไหล่ซ้ายฉันแล้วฉายไฟมา
ที่หน้าของฉันที่กำลังตกใจสุดขีด ที่มีน้ำตาคลอเบ้าและมีน้ำมูกไหลเล็กน้อย
ชั่วพริบตาแสงไปจากไฟฉายกระบอกเล็กๆ ก็ส่องเข้ามาที่หน้าของฉันมันแสบตาซะจนฉันต้องหรี่ตามอง แสง
สว่างนั้นก็กระทบบนไปหน้าของชายตรงหน้าฉันเช่นกันถึงแม้น้อยกว่าฉันก็ตาม เชื่อมั้ย ? วินาทีนั้นฉันพูดไม่ออก
แล้วก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงด้วย นี่หรอซีอุย ? เวอร์ชั่น 2015 ใบหน้าขาวเนียนเป็นรูปตัววี สายตา อบอุ่นที่ฉันรู้สึกว่าตอนนี้
ฉันปลอดภัยแล้ว จมูกที่โด่งแบบธรรมชาติ และริมผีปากเรียวเล็ก มันสรุปออกมาสั้นๆว่าชายตรงหน้าช่างมีใบหน้าที่หล่อ
จริงๆ เหมือน เทวดา เทวดา ในนรกอันเหม็นเน่านี้ บรรยากาศคงจะดีกว่านี้ ถ้า....ไม่มีกลิ่นศพเน่านี้!!!
จะอ้วกอยู่แล้ว
นะ!!
แต่บรรยากาศความ ฟินนาเร่ ก็เพิ่มทวีคูณเมื่อ ซีอุยรูปงามได้สวมกอดฉันกลิ่นน้ำหอมบางๆได้ออกมาจากตัวเค้ามันทำให้
กลิ่นเหม็นเน่าหายไป กลิ่นนี้ทำฉันใจเต้น กลิ่นน้ำหอมที่ดมก็รู้ว่าแบรนแนม เค้าช่างเป็นซีอุยที่มีรสนิยมดีจริงๆ วินาทีนี้ฉัน
ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ฉันจะขอยอมโดน กัด แทะ กินหรือจะฆ่าก็เชิญ ฉันจะขอยอมตายแบบ ฟินนาเร่ ฉันจะยอมพลีชีพ
ให้กับความหื่นและตันหาที่อยู่ในหัวใจ -.,-
สะอาดกลับเลอะไปด้วยสีเทาของฝุ่นและสีแดงสดของเลือด ผิวสีขาวอมชมพูกลับกลายเป็นสีเหลืองซีดเนื่องจากเสียเลือด
ที่แขนขวาเป็นจำนวนมากต้นตอของเลือดนั้นคือบาดแผลที่ถูกกรีดลึกและยาวตั้งแต่ข้อศอกจนถึงข้อมือนอกจากนั้น
ผิวหนังบริเวณแผลบางส่วนได้ถูก ถลกออกมาเกือบครึ่ง แขนเผยให้เห็นขั้นเนื้อและไขมันที่ไหลออกมาปนกับเลือดอย่างน่า
สะอิดสะเอียน “ช่วยด้วย!!!” หญิงสาวร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ร่างกายที่สั่นเทาของเธอกับลังฝืนคลานออกจาก
อาคารเรียนร้าง อาคารที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด.............
***อย่าเพิ่งคิดว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวสยองขวัญนะจ๊ะ เพราะนี่คือนิยายรัก ที่มีความสยองเป็นท๊อปปิ้ง
เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะจ๊ะ***
สองเดือนก่อน
“ใกล้จะถึงรึยังคะ คุณน้า” ฉันถามคุณน้าด้วยความร้อนรน
“ยังเลยจะ แต่อีกซักพักก็คงถึงแล้ว” คุณน้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ให้ตายสิ นี่มันเกิดอะไรขึ้นทำไมพวกคุณอาและคุณน้าดูใจเย็นกันนัก ทั้งๆที่กำลังจะไปงานศพลูกสาวตัวเองที่โดน
ฆาตกรรมแท้ๆ สาบานได้ ว่าตั้งแต่ฉันมาถึงบ้านพวกเค้าที่กรุงเทพฉันยังไม่เห็นอาการเศร้าโศก หรือ น้ำตาซักหยดจาก
พวกเค้า พวกเค้ารัก รถเมล์ ลูกสาวของพวกเค้าบ้างรึเปล่า ถึงฉันจะเป็นแค่เพื่อนสนิดสมัยประถมที่จะมาเจอกันแค่ช่วงปิด
เทอมก็ตามและฉันก็ไม่ได้เจอเธอมาสี่ปีแล้วแต่เราก็ยังติดต่อทางโทรศัพท์ตลอด ฉันยังดูเศร้าและกระตือรือร้นกว่าพวกเค้า
ซะอีก เท่าที่พอรู้มา เมล์ เป็นเด็กเรียนดีและเรียบร้อย เธอมักใช้เวลาว่าง
ทั้งหมดกับการเขียนข่าวเกี่ยวกับโรงเรียนทางอินเตอร์เน็ต เธอคือนักข่าวประจำโรงเรียน ไม่ว่าใครจะเข้ามาใหม่หรือว่าใคร
เป็นแฟนใครเธอจะเป็นคนปล่อยข่าวพวกนั้นโดยใช้ข้อมูลที่พวกสภานักเรียนหาให้ แต่เธอก็มีความสุขที่ได้เขียนข่าวแบบนี้
เพราะเธอแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งที่ฮอตมากๆ และการเขียนข่าวจะทำให้เธอรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเค้าก่อนใคร แต่ฉันก็ไม่รู้
หรอกนะว่าเป็นใครเพราะถามทีไร เธอก็เปลี่ยนเรื่องคุยทุกที เมล์ เป็นผู้หญิงที่เก็บตัวและเรียบร้อยมากๆเธอจึงไม่ค่อยมี
เพื่อนมากนักและฉันก็เป็นเพื่อนสนิดเพียงคนเดียวของเธอ แต่จะว่าไปเธอเองก็เป็นเพื่อนสนิดคนเดียวของฉันเหมือนกัน
เพราะว่าฉันเองเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงและชอบเก็บตัวไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย คงเป็นเพราะฉันและเมล์ นิสัยคล้ายกัน
ละมั่ง ? พวกเราเลยสนิดกันและที่บังเอิญสุดๆ ก็คือเรามีหน้าตาคล้ายกันและมีชื่อจริงว่า เกวลิน เหมือนกันด้วย ต่างกันก็
ตรงที่ชื่อเล่นเพราะฉันชื่อเล่นว่า เกล ก็มาจาก เกวลิน นั้นแหละ มาเข้าเรื่องการตายของเมล์ดีกว่าฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าเกิด
อะไรขึ้นกับเมล์กันแน่ คุณน้าบอกว่า เมล์ เสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมากและที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็คือเครื่องในของ เมล์
หายไปทั้งหมด!! นี่ถ้าซีอุย ยังไม่ตายฉันต้องคิดว่า เมล์ โดนซีอุยกินแน่ๆ หรือไม่ก็พวกผีปอบอะไรทำนองนั้น แต่ว่าหน้า
ท้องของเมล์กับโดนกรีดออกและเย็บใหม่อย่างมืออาชีพ แต่ว่าฆาตกรมันจะเสียเวลามานั้งเย็บทำไมกันนะ? นอกจากนั้น
เมล์ก็ไม่ได้ถูกข่มขืนด้วย จะมีก็แค่รอยทุบตีเล็กน้อย ใครกันนะคือฆาตกรแล้วทำไมคุณลุงกับคุณป้าดูไม่เสียใจเลยล่ะ ?
โถ่เอ้ย!!! ฉันอยากบ้าตายนี่มันเรื่องอะไรกันนะ ฉันกำลังนั้งรถแท็คซี่ไปที่วัดเพื่อไปงานศพ เมล์ ฉันร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้
ไหล ถ้าตอนนี้มีใครถามว่าฉันคิดว่าตัวเองหน้าเหมือนสัตว์อะไร ฉันจะตอบไปว่า ปลาทอง!!
ฉันและคุณแม่คุณพ่อของเมล์นั่งรถมาด้วยความเงียบสนิด ฉันเองก็แอบมองหน้าคุณแม่และคุณพ่อของเมล์เป็น
ระยะด้วยความสงสัย รถแท็คซี่ได้ผ่านโรงเรียนมัธยม เคน (นามสมมุติ) โรงเรียนของเมล์และเป็นที่ที่พบศพเมล์ ฉันจ้อง
โรงเรียนนั้นแบบไม่กระพริบตา ‘โรงเรียนชื่อดังและใหญ่โตแบบนี้ทำไมไม่เป็นข่าวกันนะ’ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วตลอด
พิธีสวดศพ ฉันมองรูปเมล์และพยามตอบคำถามที่ค้างคาใจตัวเอง เรื่องความเศร้าที่ไม่มีในแววตาของคนเป็นพ่อเป็นแม่
มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเค้าจะเฉยได้ขนาดนี้แถมบางทีก็ยังยิ้มแบบสดใส คืนนี้ฉันพักในบ้านของเมล์และนอนในห้อง
ของเมล์ ฉันพยายามลื้อค้นห้องของเมล์ เพื่อหาไดอารี่ หรือ เบาะแส แต่มันก็ไม่มีอะไรเลย ที่พอจะเชื่อมโยงได้
ทำไมล่ะ เมล์ ทำไมไม่หัดเขียนไดอารี่บ้าง เฮ้อ พ่อแม่เธอก็ดูใจเย็นเหลือเกิน ไม่รู้ว่ากินน้ำจับเลี้ยงที่ชื่อว่า เย็นเย็น
มาร้อยขวดหรือไง ฉันจะต้องทำยังไงดีนะเมล์ หรือว่าฉันจะดูที่เกิดเหตุดี ใช่ อาคารเรียน ไม้ โรงเรียนมัธยม เคน นี่ก็แค่ สอง
ทุ่มเอง (แค่?) เอาล่ะ ไปขออนุญาตคุณน้าคุณอาดีกว่า ฉันเปิดประตูห้องนอนสีชมพูบ้านใหญ่อย่างร้อนรน เอ๊ะ? ทำไม่ปิด
ไฟทั้งบ้านเลยล่ะ นอนเร็วจัง........
ฉัน ปั่นจักรยานตามทางไปเรื่อยๆ ตามป้ายบอกทาง ‘คนร้ายเอาเครื่องในศพไปทำอะไรกันนะ?’ ฉันคิดเรื่องนี้ไป
เรื่อยๆตลอดทาง ด้วยความที่ฉันเป็นคนขี้สงสัยและมัวแต่พยามหาความจริงทำให้ฉันลืมคิดถึงเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไป กว่า
จะรู้ตัวฉันก็มาถึงโรงเรียน มัธยม เคน ซะแล้ว ด้านหน้าโรงเรียนมียามเฝ้าอยู่ฉันจึงเลือกที่จะลองไปดูประตูประตูหลัง
โรงเรียนน่าแปลกที่หลังโรงเรียนไม่มียามเฝ้าอยู่เลย ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในโรงเรียนไม่กี่ก้าวฉันก็พบอาคารเรียนไม้ร้าง ที่ที่
พบศพของเมล์เพื่อนสนิดของฉัน
“อุ๊บ!!”
ฉันรีบเอามือปิดจมูกเพราะกลิ่นเหม็นเน่า แหวะศพก็อยู่ที่วัดและทำยังเหม็นอยู่ล่ะ จะว่าไปที่อาคารนี้ก็น่ากลัว
เหมือนกันนะเนี่ยอย่างกับบ้านผีสิง เอ๊ะ ผีหรอ เฮ้ย!! ที่นี่จะมีผีมั้ยเนี่ยตายล่ะลืมคิดเรื่องนี้เลย ยัยเมล์ตายโหงซะด้วย ฉัน
ว่าฉันควรจะกลับดีกว่านี่ก็มืดมากและไฟฉายก็ไม่ได้เอามาฉันไม่ได้กลัวนะ แค่....อุปกรณ์ไม่พร้อมน่ะ
“เมี้ยว!!!” แมวที่ไหนก็ไม่รู้มากระโดดใส่ฉัน!!!
“กรี๊ด!!!!”
ตกใจหมดเลย นี่มันลางบอกเหตุร้ายชัดๆ อย่าบอกนะผี ผีอะไรล่ะ ผีปอบ ผีกระสือหรือว่าซีอุย เวอร์ชั่น 2015 ไม่นะ!!!
ฉันวิ่งแบบไม่คิดชีวิต ด้วยความที่เวลานี้ไม่มีแสงสว่างเลยนอกจากแสงที่ส่องมาจากถนนเล็กน้อย กว่าฉันจะรู้ตัว
ฉันก็วิ่งเข้ามาในที่พักบันไดชั้นสองของอาคารเรียนไม้ร้าง ซะแล้ว ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นอะไรเลยทำไงดี เผลอวิ่งเข้ามาในนี้
ซะได้อย่างนี้ก็แย่ล่ะซิ ฉันมองไม่เห็นทางเลย จะว่าไปยังไงนี่ก็คืออาคารเรียนถ้าเดินขึ้นไปต้องเจอสวิชไฟแน่ๆ
“เอี้ยด...”
ทำไมมันดังขนาดนี้นะ ฉันก็ไม่ได้เดินแรงเลยนะ โถ่เอ้ย จะลืมตาหรือหลับตาความรู้สึกไม่ต่างกันเลย
“เอี้ยด ๆๆๆ”
เสียงคนเดินมีคนมา !!! ใครล่ะผีปอบ ซีอุยหรือว่าฆาตกร!!! ทางก็มืดมากทำไงดีเดินไปก็มีแต่จะล้มให้เสียเวลา ถ้าอย่าง
งั้น....คลานสี่ขาแบบน้องหมาขึ้นบันไดไปเลยแล้วกัน ลุย!!! ฉันคลานไปโดยไม่สนใจเสียงดังเอียดๆ ของบันไดและไม่
สนใจเสียงเดินกึ่งวิ่งที่กำลัง ใกล้เข้ามาตอนนี้แขนขาของฉันมันสั่นและชุ่มไปด้วยเหงื่อ เสียงวิ่งตามาเปลี่ยนเป็นเดินอย่าง
ใจเย็นถ้าเดาไม่ผิดอะไรซักอย่างที่ตามฉันมา ตอนนี้มันได้อยู่ข้างหลังฉันแล้ว แสงสว่างจากไฟฉายของอะไรบางอย่างที่
ตามฉันมาได้ส่องขึ้นบนเพดาน ตรงหน้าฉัน วินาทีนั้นฉันก็ได้พบกับ……..
ศพ ของชายคนหนึ่งใส่ชุดเหมือน รปภ. ที่อยู่หน้าโรงเรียน แขวนคออยู่บนขื่อของอาคารเรียน มีบันไดเหล็กแบบ
พับอยู่ใกล้ๆ ดวงตาของชายคนนั้นเหลือกโตและตาขาวเป็นสีแดงกล่ำ ดูเหมือนกำลังมองมาทางฉัน ลิ้นของเค้าห้อยยาว
ออกมาเกือบถึงหน้าอก ผิวของเค้าซีดเหมือนกับไม่มีเลือดในร่างกาย ปลายนิ้วทุกนิ้วของเค้าช้ำและชุ่มไปด้วยเลือด คาด
ว่า ขณะผูกคอชายคนนี้เจ็บปวดมากจึงพยายามเอานี้สอดเข้าไปในเชือกที่กำลังรัดคอแน่นเพื่อหายใจ
“กรี๊ด!!!!!” ผีหลอกที่แท้ยามที่เราเห็นหน้าโรงเรียนก็เป็นผีนี่เอง
“ควับ!!” มีมือ ของคนที่ตามฉันมาจับอยู่ที่ไหล่ของฉัน
“กรี๊ด!!!! ช่วยด้วย ผีหลอก อย่านะ อย่าฆ่าฉัน”
“ไม่ใช่ครับผมเป็นคน”
เสียงผู้ชาย!!! ยามเมื่อกี้หรือว่า ซีอุย ฉันรู้ความลับมันแล้วตายแน่ๆ เลย ชายคนนั้นพยุงฉันลุกขึ้นยืน เค้าใช้มือจับไหล่ทั้ง
สองข้างของฉันและหมุนตัวฉันให้หันหน้าไปทางเค้าหลังจากนั้นเค้าก็ปล่อยมือข้างขวาออกจากไหล่ซ้ายฉันแล้วฉายไฟมา
ที่หน้าของฉันที่กำลังตกใจสุดขีด ที่มีน้ำตาคลอเบ้าและมีน้ำมูกไหลเล็กน้อย
ชั่วพริบตาแสงไปจากไฟฉายกระบอกเล็กๆ ก็ส่องเข้ามาที่หน้าของฉันมันแสบตาซะจนฉันต้องหรี่ตามอง แสง
สว่างนั้นก็กระทบบนไปหน้าของชายตรงหน้าฉันเช่นกันถึงแม้น้อยกว่าฉันก็ตาม เชื่อมั้ย ? วินาทีนั้นฉันพูดไม่ออก
แล้วก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงด้วย นี่หรอซีอุย ? เวอร์ชั่น 2015 ใบหน้าขาวเนียนเป็นรูปตัววี สายตา อบอุ่นที่ฉันรู้สึกว่าตอนนี้
ฉันปลอดภัยแล้ว จมูกที่โด่งแบบธรรมชาติ และริมผีปากเรียวเล็ก มันสรุปออกมาสั้นๆว่าชายตรงหน้าช่างมีใบหน้าที่หล่อ
จริงๆ เหมือน เทวดา เทวดา ในนรกอันเหม็นเน่านี้ บรรยากาศคงจะดีกว่านี้ ถ้า....ไม่มีกลิ่นศพเน่านี้!!!
จะอ้วกอยู่แล้ว
นะ!!
แต่บรรยากาศความ ฟินนาเร่ ก็เพิ่มทวีคูณเมื่อ ซีอุยรูปงามได้สวมกอดฉันกลิ่นน้ำหอมบางๆได้ออกมาจากตัวเค้ามันทำให้
กลิ่นเหม็นเน่าหายไป กลิ่นนี้ทำฉันใจเต้น กลิ่นน้ำหอมที่ดมก็รู้ว่าแบรนแนม เค้าช่างเป็นซีอุยที่มีรสนิยมดีจริงๆ วินาทีนี้ฉัน
ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว ฉันจะขอยอมโดน กัด แทะ กินหรือจะฆ่าก็เชิญ ฉันจะขอยอมตายแบบ ฟินนาเร่ ฉันจะยอมพลีชีพ
ให้กับความหื่นและตันหาที่อยู่ในหัวใจ -.,-
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ