The God เทพีแห่งความหวัง(Hope)
6.3
เขียนโดย WindyWizzard
วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.54 น.
5 chapter
0 วิจารณ์
7,252 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2560 19.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ช่วยสำเร็จ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความเดิมตอนที่แล้ว....ในขณะที่มาโมรุกำลังจะเสียหลักก็มีบุคลลปริศนาซึ่งเป็นพี่ชายของมาโมรุ...
หรือก็คือ'คาซึกิ'ที่ได้มาช่วยไว้และได้ถามถึงความเชื่อของคิโยโกะเมื่อได้รับคำตอบจึงอาสาเข้าไปช่วยมาซุมิที่ติดอยู่ข้างในโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคนอื่นแต่ในตอนนั้นเองก็มีชายโพกผ้าสีดำที่คิดจะลักพาตัวคิโยโกะไปมาโมรุซึ่งคิดจะช่วยคิโยโกะจึงกลับกลายเป็นอีกนิสัยอีกด้านหนึ่งที่น่ากลัวและในระหว่างนั้นคาซึกิที่พาตัวมาซุมิออกมาก็เจอกับเรื่องใหญ่ที่เพดานด้านบนกำลังหล่นทับลงมาเรื่อยจนใกล้จะถึงจุดที่เขายืน...พวกเขาจะเป็นยังไงติดตามอ่านได้เลยค่ะ
"มาโมรุ....?"คิโยโกะเอ่ยเรียกชื่อมาโมรุที่ยืนเปื้อนเลือดอยู่ด้วยความสั่นกลัว..มาโมรุหันมาตามเสียงเรียกด้วยสีหน้าปกติเพียงแค่มีเลือดติดหน้าเขาอยู่จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาใกล้คิโยโกะก่อนจะนั่งลงตรงหน้าแล้วถามคิโยโกะว่า"บาดเจ็บรึเปล่า?"คิโยโกะส่ายหัวแต่ในดวงตายังแฝงไปด้วยความหวาดกลัว"เธอ...กลัวสินะ?"มาโมรุพูดพร้อมก้มหน้าลงแล้วยิ้มอ่อนๆแต่คิโยโกะสังเกตว่ารอยยิ้มนั้นไม่ได้ยิ้มเพราะความสุขแต่ยิ้มเพราะเศร้า...ในระหว่างที่คิโยโกะกำลังจะอ้าปากพูด..ก็ได้ยินเสียงระเบิดที่ดังจนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองหลังคาโบสถ์เริ่มถล่มลงมาด้านล่าง"พี่คะ..."คิโยโกะพูดเบาๆในขณะเดียวกับที่มาโมรุพูดงึมงำว่า"เมื่อไรเจ้าพวกทหารจะมา..เรื่องใหญ่ขนาดนี้น่าจะมากันได้แล้วนิ"หลังคาเริ่มถล่มลงถล่มลงเรื่อยๆ..จนกระทั่ง..เพล้ง!!!!เสียงกระจกจากชั้นสองได้แตกขึ้นปรากฎร่างของคาซึกิที่กำลังโดดลงมาพร้อมกับร่างของมาซุมิ..เสียงเท้าที่ลงมากับพื้นหญ้าบวกกับเสียงหอบของคาซึกิ"พี่ครับ!!"มาโมรุวิ่งไปหาคาซึกิด้วยความเป็นห่วง..แล้วถามอีกว่า....."เป็นอย่างไงบ้าง?"คาซึกิตอบว่า"ฉันไม่ค่อยหรอกแต่..ผู้หญิงคนนี้ยังหายใจอยู่ต้องรีบพาไปรักรักษา""พี่คะ!!"
คิโยโกะรีบวิ่งเข้าไปหามาซุมิที่หมดสติอยู่ด้วยความดีใจและในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงคนบางคนเรียกมาโมรุ"โฮ่ย!มาโมรุ!!"เป็นชายผมสีแดงที่ใส่ชุดเกราะพร้อมกลับกลุ่มอัศวินกลุ่มหนึ่ง"นี่นายไปทำอะไรมาทำไมมาช้านักล่ะอาซึชิ"มาโมรุถามด้วยน้ำเสียงโมโหนิดๆ"แหม แหม ไม่ได้ช้าซะหน่อย"
"นี่หรอที่เรียกว่าไม่ช้าโบสถ์ไหม้เป็นจุนแล้วนะเฟ้ย!ถ้าไม่เรียกว่าช้าจะให้เรียกว่าอะไรน่ะหา!!-[]-*"
มาโมรุตะโกนบอกอาซึชิด้วยความโมโหสุดๆ"เอาน่าอาซึชิตอนนี้ห่วงเรื่องคนบาดเจ็บกับดับไฟก่อนเถอะนะ"อาซึชิพยายามบอกให้มาโมรุสงบอารมณ์จากนั้นก็มีหญิงสาวผมสีน้ำตาลวิ่งมาหาคาซึกิแล้วถามคาซึกิด้วยความเป็นห่วงว่า"คาซึกิคุงเป็นอะไรมากไหมบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"'อา..ก้มีแค่แผลไฟลวกนิดหน่อยแต่ผู้หญิงคนนี้ต้องพาไปรักษาด่วนเลยเลยล่ะ..."หญิงสาวผมสีน้ำตาลจับตัวมาซุมิเพื่อดูอาการก่อนจะพูดว่า"อืม...อาการหนักมากเลยต้องรีบรักษา..นี่ใครก็ได้ช่วยพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปในวังที"หญิงสาวผมสีน้ำตาลหันไปบอกทหารที่ยืนอยู่ด้านบนแต่คาซึกิกลับพูดขัดก่อนว่า"ไม่เป็นไรหรอกอะซึโกะฉันอุ้มไปเองก็ได้""แต่ว่า..""เถอะน่าฉันอุ้มไปได้จริงๆ"..คาซึกิพูดกับอะสึโกะก่อนจะหันไปหามาโมรุแล้วบอกว่า"นายเองก็เหมือนกันกลับไปพักผ่อนได้แล้วออถ้าจะพาเด็กคนนั้่นไปด้วยล่ะก็จะดีมากเลย.."มาโมรุเงียบไปซักพักก่อนจะตอบว่า"เข้าใจแล้วครับ.."ก่อนจะหันไปมองคิโยโกะ..คิโยโกะที่รู้ตัวจึงรีบตอบไปว่า"อา..ไม่ต้องพาฉันไปก้ได้ฉันหาที่อยู่เองได้นา..นะ"มาโมรุเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะอุ้มคิโยโกะขึ้นมาโดยไม่พูดอะไร"อ๊ะ!ปล่อยฉันลงนะ-[]-"...คิโยโกะที่พยายามดิ้นหลุดแต่มาโมรุก็ไม่ปล่อยแล้วหันไปพูดด้วยสายตาเย็นชาว่า"อยู่นิ่งๆ"...คิโยโกะชะงักไปซักพักก่อนจะเงียบอย่างโดยดี...หลังจากนั้นพวกเหล่าทหารกับชาวบ้านก็ช่วยกันดับไฟและสำรวจว่ามีศพรึเปล่าผลของการสำรวจคือศพที่อยู่ในนี้ไม่มีเลยบางทีอาจจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วก็ได้..ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งสองก็ได้เข้ามารักษาตัวในวังและอาศัยอยู่ในวังในฐานะอะไรก็ไม่ทราบเพราะว่าคาซึกิบอกกับทุกคนว่ารอให้สองคนนั้นหายดีอย่างแน่ชัดก่อนจึงจะค่อยว่ากัน....จนเวลาผ่านไปหลายวัน"มีเรื่องอะไรเหรอท่านพี่ถึงได้เรียกผมมา"มาโมรุที่ถูกคาซึกิเรียกให้เข้ามาคุยในเรื่องบางอย่าง"ฉันมีเรื่องจะถามหน่อยนะ..นั่งก่อนสิ"เมื่อได้ยินดังนั้นมาโมรุจึงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าแล้วเห็นว่ามีถ้วยน้ำชาที่เตรียมพร้อมให้เขาวางอยู่บนโต๊ะเขาจึงยกขึ้นมาจิบในระหว่างที่รอถามคำถาม.."เด็กผู้ที่ชื่อคิโยโกะน่ะแฟนของนายเหรอ?"...พรวด!!!มาโมรุได้ยินจึงสำลักน้ำชาออกมาแล้ววางถ้วยชาอย่างแรง"แค่ก แค่ก ท่านพี่คิดยังงั้นได้ผมไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ!!"คาซึกิพูดพร้อมหน้าตาที่ดูประหลดใจว่า"อ่าวก็เห็นนายพูดว่าเห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอมันดูเหมือนเป็นประโยคที่พูดกับคนที่ดูสนิทนี่นาo_o?"มาโมรุได้ยินดังนั้นจึงรีบขัดว่า"นั้นเพราะว่าเธอคิดว่าผมเป็นคนชอบใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงต่างหากล่ะ""ฮะ ฮะ งั้นเหรอที่ฉันช่วยเด็กคนนั้นก็เพราะว่าฉันนึกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนนายซะอีก""ให้ตายเถอะท่านพี่นี่นะ"คาซึกิหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า"เอาล่ะเราไปดูอาการของพวกเธอกันเถอะ"To be continued
หรือก็คือ'คาซึกิ'ที่ได้มาช่วยไว้และได้ถามถึงความเชื่อของคิโยโกะเมื่อได้รับคำตอบจึงอาสาเข้าไปช่วยมาซุมิที่ติดอยู่ข้างในโดยไม่สนใจเสียงเรียกของคนอื่นแต่ในตอนนั้นเองก็มีชายโพกผ้าสีดำที่คิดจะลักพาตัวคิโยโกะไปมาโมรุซึ่งคิดจะช่วยคิโยโกะจึงกลับกลายเป็นอีกนิสัยอีกด้านหนึ่งที่น่ากลัวและในระหว่างนั้นคาซึกิที่พาตัวมาซุมิออกมาก็เจอกับเรื่องใหญ่ที่เพดานด้านบนกำลังหล่นทับลงมาเรื่อยจนใกล้จะถึงจุดที่เขายืน...พวกเขาจะเป็นยังไงติดตามอ่านได้เลยค่ะ
"มาโมรุ....?"คิโยโกะเอ่ยเรียกชื่อมาโมรุที่ยืนเปื้อนเลือดอยู่ด้วยความสั่นกลัว..มาโมรุหันมาตามเสียงเรียกด้วยสีหน้าปกติเพียงแค่มีเลือดติดหน้าเขาอยู่จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาใกล้คิโยโกะก่อนจะนั่งลงตรงหน้าแล้วถามคิโยโกะว่า"บาดเจ็บรึเปล่า?"คิโยโกะส่ายหัวแต่ในดวงตายังแฝงไปด้วยความหวาดกลัว"เธอ...กลัวสินะ?"มาโมรุพูดพร้อมก้มหน้าลงแล้วยิ้มอ่อนๆแต่คิโยโกะสังเกตว่ารอยยิ้มนั้นไม่ได้ยิ้มเพราะความสุขแต่ยิ้มเพราะเศร้า...ในระหว่างที่คิโยโกะกำลังจะอ้าปากพูด..ก็ได้ยินเสียงระเบิดที่ดังจนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองหลังคาโบสถ์เริ่มถล่มลงมาด้านล่าง"พี่คะ..."คิโยโกะพูดเบาๆในขณะเดียวกับที่มาโมรุพูดงึมงำว่า"เมื่อไรเจ้าพวกทหารจะมา..เรื่องใหญ่ขนาดนี้น่าจะมากันได้แล้วนิ"หลังคาเริ่มถล่มลงถล่มลงเรื่อยๆ..จนกระทั่ง..เพล้ง!!!!เสียงกระจกจากชั้นสองได้แตกขึ้นปรากฎร่างของคาซึกิที่กำลังโดดลงมาพร้อมกับร่างของมาซุมิ..เสียงเท้าที่ลงมากับพื้นหญ้าบวกกับเสียงหอบของคาซึกิ"พี่ครับ!!"มาโมรุวิ่งไปหาคาซึกิด้วยความเป็นห่วง..แล้วถามอีกว่า....."เป็นอย่างไงบ้าง?"คาซึกิตอบว่า"ฉันไม่ค่อยหรอกแต่..ผู้หญิงคนนี้ยังหายใจอยู่ต้องรีบพาไปรักรักษา""พี่คะ!!"
คิโยโกะรีบวิ่งเข้าไปหามาซุมิที่หมดสติอยู่ด้วยความดีใจและในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงคนบางคนเรียกมาโมรุ"โฮ่ย!มาโมรุ!!"เป็นชายผมสีแดงที่ใส่ชุดเกราะพร้อมกลับกลุ่มอัศวินกลุ่มหนึ่ง"นี่นายไปทำอะไรมาทำไมมาช้านักล่ะอาซึชิ"มาโมรุถามด้วยน้ำเสียงโมโหนิดๆ"แหม แหม ไม่ได้ช้าซะหน่อย"
"นี่หรอที่เรียกว่าไม่ช้าโบสถ์ไหม้เป็นจุนแล้วนะเฟ้ย!ถ้าไม่เรียกว่าช้าจะให้เรียกว่าอะไรน่ะหา!!-[]-*"
มาโมรุตะโกนบอกอาซึชิด้วยความโมโหสุดๆ"เอาน่าอาซึชิตอนนี้ห่วงเรื่องคนบาดเจ็บกับดับไฟก่อนเถอะนะ"อาซึชิพยายามบอกให้มาโมรุสงบอารมณ์จากนั้นก็มีหญิงสาวผมสีน้ำตาลวิ่งมาหาคาซึกิแล้วถามคาซึกิด้วยความเป็นห่วงว่า"คาซึกิคุงเป็นอะไรมากไหมบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"'อา..ก้มีแค่แผลไฟลวกนิดหน่อยแต่ผู้หญิงคนนี้ต้องพาไปรักษาด่วนเลยเลยล่ะ..."หญิงสาวผมสีน้ำตาลจับตัวมาซุมิเพื่อดูอาการก่อนจะพูดว่า"อืม...อาการหนักมากเลยต้องรีบรักษา..นี่ใครก็ได้ช่วยพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปในวังที"หญิงสาวผมสีน้ำตาลหันไปบอกทหารที่ยืนอยู่ด้านบนแต่คาซึกิกลับพูดขัดก่อนว่า"ไม่เป็นไรหรอกอะซึโกะฉันอุ้มไปเองก็ได้""แต่ว่า..""เถอะน่าฉันอุ้มไปได้จริงๆ"..คาซึกิพูดกับอะสึโกะก่อนจะหันไปหามาโมรุแล้วบอกว่า"นายเองก็เหมือนกันกลับไปพักผ่อนได้แล้วออถ้าจะพาเด็กคนนั้่นไปด้วยล่ะก็จะดีมากเลย.."มาโมรุเงียบไปซักพักก่อนจะตอบว่า"เข้าใจแล้วครับ.."ก่อนจะหันไปมองคิโยโกะ..คิโยโกะที่รู้ตัวจึงรีบตอบไปว่า"อา..ไม่ต้องพาฉันไปก้ได้ฉันหาที่อยู่เองได้นา..นะ"มาโมรุเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะอุ้มคิโยโกะขึ้นมาโดยไม่พูดอะไร"อ๊ะ!ปล่อยฉันลงนะ-[]-"...คิโยโกะที่พยายามดิ้นหลุดแต่มาโมรุก็ไม่ปล่อยแล้วหันไปพูดด้วยสายตาเย็นชาว่า"อยู่นิ่งๆ"...คิโยโกะชะงักไปซักพักก่อนจะเงียบอย่างโดยดี...หลังจากนั้นพวกเหล่าทหารกับชาวบ้านก็ช่วยกันดับไฟและสำรวจว่ามีศพรึเปล่าผลของการสำรวจคือศพที่อยู่ในนี้ไม่มีเลยบางทีอาจจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วก็ได้..ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งสองก็ได้เข้ามารักษาตัวในวังและอาศัยอยู่ในวังในฐานะอะไรก็ไม่ทราบเพราะว่าคาซึกิบอกกับทุกคนว่ารอให้สองคนนั้นหายดีอย่างแน่ชัดก่อนจึงจะค่อยว่ากัน....จนเวลาผ่านไปหลายวัน"มีเรื่องอะไรเหรอท่านพี่ถึงได้เรียกผมมา"มาโมรุที่ถูกคาซึกิเรียกให้เข้ามาคุยในเรื่องบางอย่าง"ฉันมีเรื่องจะถามหน่อยนะ..นั่งก่อนสิ"เมื่อได้ยินดังนั้นมาโมรุจึงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าแล้วเห็นว่ามีถ้วยน้ำชาที่เตรียมพร้อมให้เขาวางอยู่บนโต๊ะเขาจึงยกขึ้นมาจิบในระหว่างที่รอถามคำถาม.."เด็กผู้ที่ชื่อคิโยโกะน่ะแฟนของนายเหรอ?"...พรวด!!!มาโมรุได้ยินจึงสำลักน้ำชาออกมาแล้ววางถ้วยชาอย่างแรง"แค่ก แค่ก ท่านพี่คิดยังงั้นได้ผมไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ!!"คาซึกิพูดพร้อมหน้าตาที่ดูประหลดใจว่า"อ่าวก็เห็นนายพูดว่าเห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอมันดูเหมือนเป็นประโยคที่พูดกับคนที่ดูสนิทนี่นาo_o?"มาโมรุได้ยินดังนั้นจึงรีบขัดว่า"นั้นเพราะว่าเธอคิดว่าผมเป็นคนชอบใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงต่างหากล่ะ""ฮะ ฮะ งั้นเหรอที่ฉันช่วยเด็กคนนั้นก็เพราะว่าฉันนึกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนนายซะอีก""ให้ตายเถอะท่านพี่นี่นะ"คาซึกิหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า"เอาล่ะเราไปดูอาการของพวกเธอกันเถอะ"To be continued
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ