Call us The L.o.u.d.
9.8
เขียนโดย พาวจาพัจส์
วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.44 น.
14 chapter 0
5 วิจารณ์
16.28K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2562 22.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) " Limbo "
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ในตึกนักเรียนตรงทางเดินเหล่านักเรียนทำสีหน้าหวาดกลัวตามเคยแล้วอุปทาน
หมู่ตามๆกันอย่างน่าอัศจรรย์เป็นประโยคสั้นๆได้ใจความ
"ไอ้นั้นมันตัวอะไรว่ะ" นักเรียนหญิงบางคนแถวนี้ถึงกับขาสั่นจนสลบไปหลังจากหันไป
มองสิ่งนั้นอย่างตกใจ
"ปีศาจไง! อย่าไปมองมันนะ" ขณะที่คนๆนั้นพูดคนอื่นก็เริ่มหนีกันแล้ว
"ทำไมทางเดินถึงมีแต่มนุษย์" สีหน้าบ่งบอกถึงความเบื่อน่าย และไม่พอใจถึงหน้าตา
ของเขาจะดูยากสักหน่อย
"ตึกนี้เป็นของพวกมนุษย์ครับ"
"แล้วตึกของข้าอยู่ไหนล่ะ"
"ถ้าตึกของปีศาจอยู่ทางนั้นครับ แต่โดยปกติ จะไม่มีปีศาจเดินผ่านตึกนี้ที่มันเป็นของ
มนุษย์หรอกครับ" ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มพูดกับ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เหมือนผีดิบนั้น เขารู้สึกเหมือนไม่ได้
พูดกับเด็กหรือคนที่อายุน้อยกว่าแต่อย่างใด ถึงแม้ผีดิบนั้นจะตัวเล็กเท่าเด็กประถมก็ตาม
ผมอาจรู้สึกไปเองรึเปล่านะ เสียงของกลุ่มฝีเท้าเริ่มเข้าใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อยๆ แล้วหยุดลง
"หยุดนะ... ตึกนี้พวกแกไม่รู้เลยเหรอว่า ปีศาจห้ามเดินผ่าน หรืออยากให้พวกเราสอน
กฎระเบียบของที่นี่ให้ล่ะ"
"อึ๋ย"
"หา?"
"ประธานนักเรียนของพวกมนุษย์ 3 ภาคี คู่อริ ของประธานนักเรียนปีศาจ" ด้านหน้าของ
พวกเขามีประธานอยู่สามคน ดูจากการยืนเรียงกัน และท่าทางมันบ่งบอกว่าใครคือหัวหน้า
"อืม ซ้ายสุด... โลลิ อืมตรงกลางประธาน ขวา คงเป็นลูกสมุน" เจ้าผีดิบเอ่ยขึ้น
"ประธาน นักเรียนโอ้ เป็นอย่างนี้นี่เองแล้ว 3 ภาคี คืออะไร... " พร้อมพูดพึมพำว่า
พวกมนุษย์ก็น่ารักดีนะ พวกเขาทั้งสามสวมสูทสีเข้ม มีปลอกแขนซ้าย แต่คนที่เป็เด็ก(โลลิ)
น่ารักพันผ้าพันคอสีสดใสสวยงาม ส่วนคนขวาสุดที่เหมือนลูกสมุนแผ่รังสีอย่างน่าขนลุก
"ประธานแต่ละคน จะมีลูกสมุนและแฟนคลับเยอะมากๆ นั้นเปป็นสาเหตุที่ ประธาน
แต่ละคนเลยมีภาคีเป็นของตัวเองแบ่งเป็น 3 ภาคีหลักๆ" จู่ๆก็มีเสียงไอขัดจังหวะ
"ฉันไม่รู้นะว่า คุยอะไรกันอยู่แต่ฉันจะให้พวกแกเลือกเดิน กลับไปก่อนที่พวกเราจะใช้
มาตราการเด็ดขาดจัดการพวกแก เลือกมาสิ" โลลิมองมาที่หน้าผีดิบแล้วทำสีหน้าตกใจ
"ว้าย! ว้าย! น่ารักจัง >0< เกิดมาไม่เคยเห็นตัวอะไรน่าเกลียดน่าเกลียดน่ากลัวอะไร
ขนาดนี้มาก่อน"
"น่ารัก... น่าเกลียด... น่ากลัว... " เจ้าผีดิบพูดพึมพำอย่างเศร้าหมอง
"อยากได้ๆ จะเอาง่า!! >W<" ทำท่าทางกระวนกระวายกระโจนเข้าหาผีดิบ
"ผู้ช่วย! อย่าไปนะ" ลูกสมุน คว้าตัวโลลิไว้
"คุณ ฟาฟาล่าครับ สองตัวนี้เหละครับ! ที่ทำร้ายคนของเรา ที่ศูนย์อาหาร"
"งั้นเหรอ เสียใจด้วยจริงๆ ที่พวกแกทั้งสองคงจะไม่ได้เดินจากไปเฉยๆแล้ว ในเมื่อ
พวกแกทำร้ายคนของเรา พวกเราก็ไม่สามารถจะยืนให้มันผ่านไปเฉยๆได้ เพราะฉะนั้น พวก
เราจะลงทัณฑ์พวกแกอย่างสาสม" เธอสะบัดมือมาข้างหน้าเหมือนจะปล่อยพลังใส่
"เวทย์ระดับ 1 เป็นเวทย์ที่ไม่รุ่นแรงมากนัก แล้วยังสามารถใช้ได้โดยไม่ผิดกฎ"
"อ่ะ?"
"ไม่อยู่แล้วครับ"
"เอ๋?!"
"ทางนั้นค่ะ!"
"ไม่ยอมให้หนีไปได้หรอก" เธอหันไปมองด้านหลัง ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความ
ตกใจจากสิ่งที่เห็น มีผู้ชายตัวสูงใหญ่มีเขาอยู่บนหัวทั้งสองข้าง ใส่หมวกสีแดงหิ้วทั้งสองไปด้วย
ความเร็วปานลมปราน
"ไวมาก!"
" ไปจับพวกมันมาลงทัณฑ์ให้ได้!! " จู่ๆ ก็เสียงริงโทนโทรศัพท์น่ารักๆ ดังขึ้น
"นายคิดว่าเสียงนั้นน่ารักไหม "
"ใช่ครับ ผมคิดแบบนั้น " ประธานนักเรียน กระโจนลงไปนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ตรงกำแพง
"ค่ะ... มาเรีย ฟาฟาล่าค่ะ... อาจารย์ใหญ่!! " ฉันต้องไม่ให้อาจารย์ใหญ่ รู้เรื่องนี้ไม่ได้
เด็ดขาดที่เราพลาด
"เธอคุยกับใครกันน่า? "
"ทำท่าทางอย่างนั้น ผมว่าต้องเป็นอาจารย์ใหญ่ล่ะครับ"
'มาเรีย!' เสียงตะโกนดังมาจากโทรศัพท์
"ค่ะ!!"
'เป็นอะไร รึเปล่า'
"เปล่าค่ะ"
'ฉันมีภารกิจให้เธอทำมันสำคัญมากเลย เธอคิดว่าอยากรับงานใหญ่ได้ไหม'
"ได้ค่ะ! ฉันสามารถทำงานใหญ่ได้ค่ะ "
'เยื่ยมมาก มาเจอกันที่ออฟฟิตฉันเดียวนี้ ฉันเลือกเธอเพราะ เธอไม่เคยทำงานพลาด
เลยสักครั้ง'
"อั่ก "
โถ่งทางเดินของตึกเหล่าปีศาจ ชายมีเขาที่หิ้วทั้งสองกำลังวิ่งอยู่
"ปล่อยฉันลงเถอะ! ฉันเริ่มรู้สึกเวียนหัวแล้ว"
"........."
"ว้าว! XD ข้าไม่เคยถูกอุ้มอย่างนี้มานานมากแล้ว! " เจ้าผีดิบกำลังสนุกสนาน
"..."
แต่จังหวะนั้นเอง สีหน้าของชายที่หิ้วพวกเขาอยู่นั้น จากดูเมินเฉยสีกลับมาเป็นธรรมชาติ
แล้วก็สดุดล้ม ทำให้ทั้งสามลอยตัวกลางอากาศด้วยความเร็วสูง
"เว้อ! "
"หะ? " เจ้าผีดิบใช้พลังบางอย่างทำให้พวกเขาทั้งสามลอยตัวแล้วกลับมายืนได้อย่าง
ปกติ
"เมื่อกี้มันอะไรกัน"
".."
"เฮ้อ เกือบไปแล้วนะพวกนาย อยู่ดีๆ ก็เดินไปที่ตึกของพวกมนุษย์แบบนั้น ก็ต้องโดน
ลงทัณฑ์แน่ๆ" เสียงของเขาบ่งบอกได้เลยว่า เขาเป็นคนสุภาพกว่าที่เห็น เขาสวมเสื้อกันหนาว
ขนเกะขนาดใหญ่คลุมตัวไว้ สีขาวโพน ช่างขันกับหมวกสีแดงบนหัวสะเหลือเกิน
"ขอบคุณครับที่ช่วยเอาไว้" เด็กหนุ่มคำนับแล้วคำนับอีก
"ไม่เป็นไร ทีหลังระวังด้วยล่ะ"
"ว่าแต่ เจ้าก็เป็นปีศาจสินะ เจ้าชื่ออะไรล่ะข้าจะได้จำไว้เพื่อข้าต้องการใช้ประโยชน์จาก
เจ้า"
"บากอส " ใช้ประโยชน์?
"ส่วนผมชื่อ อิจฉิ มิโอ คาปิโคเนล ครับ "
"อะ... อ่าวแย่จริง... ข้ากะจะถามชื่อเจ้าอยู่พอดี หลังจากที่ได้เห็นประโยชน์ของเจ้าที่
ช่วยนำทางให้ข้า "
"ฮะ ฮะ งั้นเหรอครับ " ใช้ประโยชน์! "ว่าแต่ยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย"
"ชื่อ!!" เจ้าผีดิบน้อยทำท่าครุ่นคดิดอย่างหนัก สักพักมันก็ทำท่านึกออก
" limbo ข้าชื่อ LIMBO! " หลังจากพูดจบ ก็มีเสียงประกาศดังขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ เพราะเสียงที่พูดเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยที่ฟังดูแล้วไม่เข้าใจเอาสะเลย ประกาศไป
สักพักหนึ่งแล้วก็หยุดลง
"คุณ limbo? "
"เขาไปแล้ว พึงเดินไปไม่นานนี้เอง"
" ! "
บทส่ง
ท้าย
จุดประสงค์หลักๆ ของข้าที่มายังที่แห่งนี้เพื่อการแข่งขันที่มีกุญแจเข้าสู่บัลลังมังกรแต่ข้า
มีปัญหาหนึ่ง ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรด้วยตัวเอง และในตอนนี้กะโหลก
ข้างซ้ายที่กลวงโบ๋ของข้า มันทำให้ข้าลืมบ้างอย่างไป หรืออาจค่อยๆลืมบ้างอย่างไปที่ละนิด
หากจะกล่าวจากความจริงในตอนนี้แล้วข้าจะจำตัวเองไม่ค่อยได้แล้ว แต่สิ่งที่ควรจะทำนั้นกลับจำ
ได้ดี ข้าต้องการที่จะครอบครองทุกสิ่งในโลกแห่งนี้ ด้วยความอาคาดแค้นในตัวข้า
"หึๆ" มันช่างฟังดูตลก แต่ทว่าข้าต้องทำสิ่งแรกคือการท่วงบัลลังมังกรทว่าการแย่งชิงนั้น
มิอาจทำได้ด้วยตัวคนเดียวได้ คนของข้าต้องดูแลบัลลังแรกของข้าซึ่งนั้นก็คือบ้าน ข้ามิอาจดึง
ตัวพวกเขามาช่วยได้ เพราะมิอาจเสียบัลลังหลักของข้าได้ ข้าจึงต้องหาข้ารับใช้ที่สื่อสัตย์
รอยยิ้ม...
มันเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว limbo ค่อยๆเปิดประตูด้วยรอยยิ้มที่น่าหวาดกลัว
เสียงดังขึ้นมาจากข้างในประตู
"แต่หนูรับไม่ได้! หรอกค่ะ" แอด... เสียงประตูเปิดดังขึ้นเรื่อยๆและกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เช่นกัน คน 2 คนกำลังยืนคุยกับคนตรงกลางด้วยบรรยากาศเคร่งเครียด
"หือ! น่าสนุกจังมีคนนินทาข้าอยู่สินะ... ข้าเกลียด การนินทาลับหลังเป็นที่สุด!"
เสียงของ limbo ที่น่าขนลุกเปล่งออกมาดัง ทำให้บรรยากาศปกคลุมไปด้วยความมืด
หมู่ตามๆกันอย่างน่าอัศจรรย์เป็นประโยคสั้นๆได้ใจความ
"ไอ้นั้นมันตัวอะไรว่ะ" นักเรียนหญิงบางคนแถวนี้ถึงกับขาสั่นจนสลบไปหลังจากหันไป
มองสิ่งนั้นอย่างตกใจ
"ปีศาจไง! อย่าไปมองมันนะ" ขณะที่คนๆนั้นพูดคนอื่นก็เริ่มหนีกันแล้ว
"ทำไมทางเดินถึงมีแต่มนุษย์" สีหน้าบ่งบอกถึงความเบื่อน่าย และไม่พอใจถึงหน้าตา
ของเขาจะดูยากสักหน่อย
"ตึกนี้เป็นของพวกมนุษย์ครับ"
"แล้วตึกของข้าอยู่ไหนล่ะ"
"ถ้าตึกของปีศาจอยู่ทางนั้นครับ แต่โดยปกติ จะไม่มีปีศาจเดินผ่านตึกนี้ที่มันเป็นของ
มนุษย์หรอกครับ" ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มพูดกับ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่เหมือนผีดิบนั้น เขารู้สึกเหมือนไม่ได้
พูดกับเด็กหรือคนที่อายุน้อยกว่าแต่อย่างใด ถึงแม้ผีดิบนั้นจะตัวเล็กเท่าเด็กประถมก็ตาม
ผมอาจรู้สึกไปเองรึเปล่านะ เสียงของกลุ่มฝีเท้าเริ่มเข้าใกล้พวกเขาเข้ามาเรื่อยๆ แล้วหยุดลง
"หยุดนะ... ตึกนี้พวกแกไม่รู้เลยเหรอว่า ปีศาจห้ามเดินผ่าน หรืออยากให้พวกเราสอน
กฎระเบียบของที่นี่ให้ล่ะ"
"อึ๋ย"
"หา?"
"ประธานนักเรียนของพวกมนุษย์ 3 ภาคี คู่อริ ของประธานนักเรียนปีศาจ" ด้านหน้าของ
พวกเขามีประธานอยู่สามคน ดูจากการยืนเรียงกัน และท่าทางมันบ่งบอกว่าใครคือหัวหน้า
"อืม ซ้ายสุด... โลลิ อืมตรงกลางประธาน ขวา คงเป็นลูกสมุน" เจ้าผีดิบเอ่ยขึ้น
"ประธาน นักเรียนโอ้ เป็นอย่างนี้นี่เองแล้ว 3 ภาคี คืออะไร... " พร้อมพูดพึมพำว่า
พวกมนุษย์ก็น่ารักดีนะ พวกเขาทั้งสามสวมสูทสีเข้ม มีปลอกแขนซ้าย แต่คนที่เป็เด็ก(โลลิ)
น่ารักพันผ้าพันคอสีสดใสสวยงาม ส่วนคนขวาสุดที่เหมือนลูกสมุนแผ่รังสีอย่างน่าขนลุก
"ประธานแต่ละคน จะมีลูกสมุนและแฟนคลับเยอะมากๆ นั้นเปป็นสาเหตุที่ ประธาน
แต่ละคนเลยมีภาคีเป็นของตัวเองแบ่งเป็น 3 ภาคีหลักๆ" จู่ๆก็มีเสียงไอขัดจังหวะ
"ฉันไม่รู้นะว่า คุยอะไรกันอยู่แต่ฉันจะให้พวกแกเลือกเดิน กลับไปก่อนที่พวกเราจะใช้
มาตราการเด็ดขาดจัดการพวกแก เลือกมาสิ" โลลิมองมาที่หน้าผีดิบแล้วทำสีหน้าตกใจ
"ว้าย! ว้าย! น่ารักจัง >0< เกิดมาไม่เคยเห็นตัวอะไรน่าเกลียดน่าเกลียดน่ากลัวอะไร
ขนาดนี้มาก่อน"
"น่ารัก... น่าเกลียด... น่ากลัว... " เจ้าผีดิบพูดพึมพำอย่างเศร้าหมอง
"อยากได้ๆ จะเอาง่า!! >W<" ทำท่าทางกระวนกระวายกระโจนเข้าหาผีดิบ
"ผู้ช่วย! อย่าไปนะ" ลูกสมุน คว้าตัวโลลิไว้
"คุณ ฟาฟาล่าครับ สองตัวนี้เหละครับ! ที่ทำร้ายคนของเรา ที่ศูนย์อาหาร"
"งั้นเหรอ เสียใจด้วยจริงๆ ที่พวกแกทั้งสองคงจะไม่ได้เดินจากไปเฉยๆแล้ว ในเมื่อ
พวกแกทำร้ายคนของเรา พวกเราก็ไม่สามารถจะยืนให้มันผ่านไปเฉยๆได้ เพราะฉะนั้น พวก
เราจะลงทัณฑ์พวกแกอย่างสาสม" เธอสะบัดมือมาข้างหน้าเหมือนจะปล่อยพลังใส่
"เวทย์ระดับ 1 เป็นเวทย์ที่ไม่รุ่นแรงมากนัก แล้วยังสามารถใช้ได้โดยไม่ผิดกฎ"
"อ่ะ?"
"ไม่อยู่แล้วครับ"
"เอ๋?!"
"ทางนั้นค่ะ!"
"ไม่ยอมให้หนีไปได้หรอก" เธอหันไปมองด้านหลัง ตาของเธอเบิกกว้างด้วยความ
ตกใจจากสิ่งที่เห็น มีผู้ชายตัวสูงใหญ่มีเขาอยู่บนหัวทั้งสองข้าง ใส่หมวกสีแดงหิ้วทั้งสองไปด้วย
ความเร็วปานลมปราน
"ไวมาก!"
" ไปจับพวกมันมาลงทัณฑ์ให้ได้!! " จู่ๆ ก็เสียงริงโทนโทรศัพท์น่ารักๆ ดังขึ้น
"นายคิดว่าเสียงนั้นน่ารักไหม "
"ใช่ครับ ผมคิดแบบนั้น " ประธานนักเรียน กระโจนลงไปนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ตรงกำแพง
"ค่ะ... มาเรีย ฟาฟาล่าค่ะ... อาจารย์ใหญ่!! " ฉันต้องไม่ให้อาจารย์ใหญ่ รู้เรื่องนี้ไม่ได้
เด็ดขาดที่เราพลาด
"เธอคุยกับใครกันน่า? "
"ทำท่าทางอย่างนั้น ผมว่าต้องเป็นอาจารย์ใหญ่ล่ะครับ"
'มาเรีย!' เสียงตะโกนดังมาจากโทรศัพท์
"ค่ะ!!"
'เป็นอะไร รึเปล่า'
"เปล่าค่ะ"
'ฉันมีภารกิจให้เธอทำมันสำคัญมากเลย เธอคิดว่าอยากรับงานใหญ่ได้ไหม'
"ได้ค่ะ! ฉันสามารถทำงานใหญ่ได้ค่ะ "
'เยื่ยมมาก มาเจอกันที่ออฟฟิตฉันเดียวนี้ ฉันเลือกเธอเพราะ เธอไม่เคยทำงานพลาด
เลยสักครั้ง'
"อั่ก "
โถ่งทางเดินของตึกเหล่าปีศาจ ชายมีเขาที่หิ้วทั้งสองกำลังวิ่งอยู่
"ปล่อยฉันลงเถอะ! ฉันเริ่มรู้สึกเวียนหัวแล้ว"
"........."
"ว้าว! XD ข้าไม่เคยถูกอุ้มอย่างนี้มานานมากแล้ว! " เจ้าผีดิบกำลังสนุกสนาน
"..."
แต่จังหวะนั้นเอง สีหน้าของชายที่หิ้วพวกเขาอยู่นั้น จากดูเมินเฉยสีกลับมาเป็นธรรมชาติ
แล้วก็สดุดล้ม ทำให้ทั้งสามลอยตัวกลางอากาศด้วยความเร็วสูง
"เว้อ! "
"หะ? " เจ้าผีดิบใช้พลังบางอย่างทำให้พวกเขาทั้งสามลอยตัวแล้วกลับมายืนได้อย่าง
ปกติ
"เมื่อกี้มันอะไรกัน"
".."
"เฮ้อ เกือบไปแล้วนะพวกนาย อยู่ดีๆ ก็เดินไปที่ตึกของพวกมนุษย์แบบนั้น ก็ต้องโดน
ลงทัณฑ์แน่ๆ" เสียงของเขาบ่งบอกได้เลยว่า เขาเป็นคนสุภาพกว่าที่เห็น เขาสวมเสื้อกันหนาว
ขนเกะขนาดใหญ่คลุมตัวไว้ สีขาวโพน ช่างขันกับหมวกสีแดงบนหัวสะเหลือเกิน
"ขอบคุณครับที่ช่วยเอาไว้" เด็กหนุ่มคำนับแล้วคำนับอีก
"ไม่เป็นไร ทีหลังระวังด้วยล่ะ"
"ว่าแต่ เจ้าก็เป็นปีศาจสินะ เจ้าชื่ออะไรล่ะข้าจะได้จำไว้เพื่อข้าต้องการใช้ประโยชน์จาก
เจ้า"
"บากอส " ใช้ประโยชน์?
"ส่วนผมชื่อ อิจฉิ มิโอ คาปิโคเนล ครับ "
"อะ... อ่าวแย่จริง... ข้ากะจะถามชื่อเจ้าอยู่พอดี หลังจากที่ได้เห็นประโยชน์ของเจ้าที่
ช่วยนำทางให้ข้า "
"ฮะ ฮะ งั้นเหรอครับ " ใช้ประโยชน์! "ว่าแต่ยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย"
"ชื่อ!!" เจ้าผีดิบน้อยทำท่าครุ่นคดิดอย่างหนัก สักพักมันก็ทำท่านึกออก
" limbo ข้าชื่อ LIMBO! " หลังจากพูดจบ ก็มีเสียงประกาศดังขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ เพราะเสียงที่พูดเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยที่ฟังดูแล้วไม่เข้าใจเอาสะเลย ประกาศไป
สักพักหนึ่งแล้วก็หยุดลง
"คุณ limbo? "
"เขาไปแล้ว พึงเดินไปไม่นานนี้เอง"
" ! "
บทส่ง
ท้าย
จุดประสงค์หลักๆ ของข้าที่มายังที่แห่งนี้เพื่อการแข่งขันที่มีกุญแจเข้าสู่บัลลังมังกรแต่ข้า
มีปัญหาหนึ่ง ข้าไม่มีเวลามากพอที่จะอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรด้วยตัวเอง และในตอนนี้กะโหลก
ข้างซ้ายที่กลวงโบ๋ของข้า มันทำให้ข้าลืมบ้างอย่างไป หรืออาจค่อยๆลืมบ้างอย่างไปที่ละนิด
หากจะกล่าวจากความจริงในตอนนี้แล้วข้าจะจำตัวเองไม่ค่อยได้แล้ว แต่สิ่งที่ควรจะทำนั้นกลับจำ
ได้ดี ข้าต้องการที่จะครอบครองทุกสิ่งในโลกแห่งนี้ ด้วยความอาคาดแค้นในตัวข้า
"หึๆ" มันช่างฟังดูตลก แต่ทว่าข้าต้องทำสิ่งแรกคือการท่วงบัลลังมังกรทว่าการแย่งชิงนั้น
มิอาจทำได้ด้วยตัวคนเดียวได้ คนของข้าต้องดูแลบัลลังแรกของข้าซึ่งนั้นก็คือบ้าน ข้ามิอาจดึง
ตัวพวกเขามาช่วยได้ เพราะมิอาจเสียบัลลังหลักของข้าได้ ข้าจึงต้องหาข้ารับใช้ที่สื่อสัตย์
รอยยิ้ม...
มันเริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว limbo ค่อยๆเปิดประตูด้วยรอยยิ้มที่น่าหวาดกลัว
เสียงดังขึ้นมาจากข้างในประตู
"แต่หนูรับไม่ได้! หรอกค่ะ" แอด... เสียงประตูเปิดดังขึ้นเรื่อยๆและกว้างขึ้นเรื่อยๆ
เช่นกัน คน 2 คนกำลังยืนคุยกับคนตรงกลางด้วยบรรยากาศเคร่งเครียด
"หือ! น่าสนุกจังมีคนนินทาข้าอยู่สินะ... ข้าเกลียด การนินทาลับหลังเป็นที่สุด!"
เสียงของ limbo ที่น่าขนลุกเปล่งออกมาดัง ทำให้บรรยากาศปกคลุมไปด้วยความมืด
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ